"ไอ้แก่โรคจิต แกต้องคิดให้ดี ถ้าวันนี้แกฆ่าฉันจริงๆ พระราชวังหมิงเยว่จะต้องสูญเสียผู้อาวุโสไปหนึ่งคน ปรมาจารย์พระราชวังจะต้องสืบสวนจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน ตระกูลเฟิงของแกสามารถต้านทานความโกรธแค้นของพระราชวังหมิงเยว่ได้หรือเปล่า? อย่าตัดอนาคตของตระกูลเฟิงทั้งหมดเพียงเพราะแรงกระตุ้นชั่ววูบ" ไป๋จิงติงขู่"เธอเป็นสมาชิกของพระราชวังหมิงเยว่ ฉันจะไม่ฆ่าเธอ แต่สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลไป๋จะต้องตาย! ตราบใดที่เธอไม่ตาย พระราชวังหมิงเยว่จะไม่ดำเนินการใดๆ ต่อตระกูลเฟิงของฉัน" ตาแก่เฟิงกล่าวด้วยฟันที่กัดแน่น"ถ้าแกยังให้ฉันมีชีวิตอยู่ และเมื่อฉันมีพละกำลังเพียงพอ ฉันจะทำลายตระกูลเฟิงของแกและแก้แค้น ฉันยังเด็กและมีเวลาอีกมากมาย ถ้าทุกอย่างเป็นเช่นนี้ ครอบครัวของพวกเราทั้งสองก็จะไม่มีจุดจบที่ดี ทำไมแกไม่ปล่อยพวกเราไปตอนนี้ และจากนี้ไป ทุกคนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก?" ไป๋จิงติงแนะนำอย่างรวดเร็วเธอกลัวจริงๆ ว่าตาแก่เฟิงจะลงมือโดยหุนหันพลันแล่นและฆ่าทุกคนในตระกูลไป๋ในกรณีนั้น แม้ว่าจะแก้แค้นในอนาคต จะมีประโยชน์อะไร?ตระกูลไป๋จะไม่รอดเช่นกันในท้ายที่สุด ทั้งสองตระกูลจะต้องประสบกับความเสียหายตาแก่เฟิ
"แกเป็นท่านผู้เฒ่าของตระกูลเฟิง ดังนั้นทุกสิ่งที่ตระกูลเฟิงทำคือการตัดสินใจของแก?" หลินตงถามอีกครั้ง!"ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร? ตระกูลเฟิงของฉันล่วงเกินคุณได้ยังไงร? ได้โปรดพูดออกมา หากเป็นความผิดของตระกูลเฟิงของเรา เราจะขอให้พวกเขาขอโทษอย่างแน่นอน" ตาแก่เฟิงกล่าวอย่างสุภาพหากคนธรรมดากล้าพูดกับเขาแบบนี้ตาแก่เฟิงคงไม่สุภาพขนาดนั้นอย่างแน่นอน บางทีเขาอาจจะเป็นฝ่ายลงมือและทำให้อีกฝ่ายพิการก่อนก็ได้แต่เขาไม่สามารถมองคนสวมหน้ากากที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันนี้ออกนอกจากนี้ การลงมืออย่างเงียบงันเช่นนี้ตาแก่เฟิงก็ยังต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังท้ายที่สุดแล้ว ทางช้างเผือกนั้นใหญ่และกว้างเกินไปมีดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่นับไม่ถ้วน มีผู้คนอยู่เต็มไปหมด นอกจากพวกเขาเขาไม่เชื่อว่าความแข็งแกร่งระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลช่วงกลางขั้นสูงสุดของเขาจะอยู่ยงคงกระพัน"ดี! เมื่อแกพูดแบบนั้น ฉันจะไม่ยุ่งวุ่นวายอีกต่อไป แกไม่ต้องกังวลว่าฉันจะเป็นใคร! อย่างไรก็ตาม ฉันฆ่าเฟิงซิงเจี้ยน เขาพาตัวนายน้อยของตระกูลเฟิงของแกไปและวางแผนที่จะประทับตราทาสบนดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีช
นี่มันเกิดบ้าอะไรกันแน่?เมื่อกี้ เขารู้สึกชัดเจนว่าไม่มีพลังต่อดาบเล่มนี้ และคิดว่าตัวเองคงจะตายแล้วแต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้รับอันตรายใดๆหรือเป็นแค่กลอุบาย พื่อทำให้กลัวเท่านั้นหัวใจของตาแก่เฟิงผ่อนคลายลงทุกคนที่นั่น รวมถึงสองยักษ์ใหญ่ของตระกูลไป๋ หันความสนใจไปที่ตาแก่เฟิงพวกเขาเห็นทุกสิ่งที่หลินตง เพิ่งมือลงทำแต่เฟิงเหล่ากุ้ยไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ อย่างที่พวกเขาจินตนาการไว้ กลับกันเขายังปกติดีนี่มันแค่คุยโม้ แต่ทำไม่ได้จริงพอทุกคนเริ่มสับสน"ตึง!!!"มีเสียงดังขึ้นทุกคนหันตามเสียงและมองไปรอบๆนี่....???ทุกคนจ้องมองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง ทุกคนตะลึงกันหมดพวกเขาเห็นว่าดาวเคราะห์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของตาแก่เฟิง ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และตอนนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางแต่ละด้านด้วยพื้นผิวที่ถูกตัดอย่างเรียบร้อยและสม่ำเสมอ ราวกับว่ามันถูกผ่าเปิดออกด้วยของมีคมบางอย่างของมีคม???จากนั้น ฝูงชนก็หันกลับมามองหลินตงอีกครั้ง หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นคือ มองไปตรงดาบยาวสีแดงในมือของเขาคงไม่ใช่ขอวงมีคมหรอกนะ?เป็นไปได้ไหมว่าการฟันอย่างไม่ตั้งใจของชายสวมหน้ากากคนนี้ก่อนห
ไป๋จิงติงจ้องมองหลินตงไม่ไกลนักเธอมีสีหน้าตกใจเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของตาแก่เฟิงขั้นสูงสุดในช่วงกลางของปรมาจารย์มหาจักรวาลแต่เขาไม่สามารถต้านทานดาบธรรมดาของชายคนนี้ได้เลยหรือ?และพลังของดาบเล่มนี้ก็น่ากลัวเกินไปเช่นกันไม่ใช่หรือ?ไป๋จิงติงรู้สึกว่าในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่เธอรู้จัก มีเพียงเจ้ากรมวังเท่านั้นที่อาจมีพลังที่จะต่อสู้กับบุคคลนี้แม้แต่รองเจ้ากรมวังทั้งสองคนของพระราชวังหมิงเยว่ ก็ยังไม่สามารถทำได้คนแบบนี้จะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?และตามความตั้งใจของเขา เป็นเพียงเพราะตระกูลเฟิงต้องการประทับตราทาสบนดาวเคราะห์พื้นเมือง ที่เขาบังเอิญพบเจอพละกำลังที่น่าเหลือเชื่อความยุติธรรมนั้นล้นหลามคนแบบนี้หายากจริงๆเมื่อกลับไปที่พระราชวังหมิงเยว่ เธอจะไม่ลืมถามเจ้ากรมวังว่า รู้จักคนๆ นี้หรือไม่การสวมหน้ากากสีเงินและถือดาบยาวสีแดงนั้นควรจะจดจำได้ง่ายท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงไม่กี่คนในกาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมดที่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของปรมาจารย์มหาจักรวาลได้ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากรูปร่างของเขาแล้ว เขาไม่น่าจะแก่เกินไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่ชายชรา ไม่ใช่แค่วัยกลางคนห
ตระกูลเฟิงต้องพินาศเป็นแน่หลินตงมองไปที่ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งกำลังถูกแบ่งครึ่งและแยกออกจากกันไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ซึ่งหลินตงสัมผัสได้ล่วงหน้าด้วยพลังจิตวิญญาณของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าทำเช่นนี้หลินตงยังคงพึงพอใจกับพลังของดาบเล่มนี้มากการผสมผสานระหว่างดาบกำราบมาร และทักษะการต่อสู้ชั้นยอด วิชาดาบกำราบมาร น่าประทับใจจริงๆกุญแจสำคัญคือเขาไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งแม้แต่น้อย เขาแค่ใช้ดาบอย่างสบายๆ โดยต้องการลองพลังของการผสานดาบกำราบมารกับวิชาดาบกำราบมารไม่คาดคิดว่ามันจะสร้างพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นนี้เมื่อท่านผู้เฒ่าตระกูลฟิงตายไป สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือสมาชิกหลักของตระกูลลมเท่านั้นหลินตงหันไปมองยานรบประจัญบานกาแล็กซีของตระกูลเฟิงเพียงแวบเดียว สมาชิกหลักของตระกูลเฟิงก็หวาดกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้นหลินตงเป็นเพียงตัวแทนของความตายในสายตาของพวกเขา"เนื่องจากตระกูลเฟิงของแกปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนมดและสามารถเหยียบย่ำพวกเขาจนตายได้ตามต้องการ ฉันจะปฏิบัติต่อแกเหมือนมดและเหยียบย่ำพวกแกจนตายได้ตามต้องการได้ใช่ไหม?"หลังจากหลินตงถามคำถามนี้เสร
หลังจากจัดการกับตระกูลเฟิงจนเสร็จสิ้นแล้ว จิตใจของหลินตงก็ผ่อนคลายลงมากในที่สุดก็ได้ล้างแค้นครั้งใหญ่ ให้กับหลินตงอีกคนกับโลกในอีกมิติเวลาได้ ถือได้ว่าเป็นชดชเยให้ตัวเขาในวัยชราต้องรู้ว่า หลินตงและโลกในอีกมิติเวลานั้น ถูกประทับตราทาสโดยตระกูลเฟิงได้สำเร็จ และไม่สามารถพลิกสถานกดารณ์ได้อีกหลายชั่วอายุคนพลังจากการประทับตราทาสนั้นได้ผลักดันให้เฟิงรั่วก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ไม่อาจจินตนาการได้ ทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครทัดเทียมในกาแล็กซีแม้จะผ่านมาหลายพันปีแล้ว เขาก็ยังได้รับตำแหน่งเจ้าแห่งกาแล็กซี ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่น่าเสียดายที่ในมิติเวลานี้ เฟิงรั่วได้ลงไปคุยกับรากมะม่วงตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วตอนนี้ตระกูลเฟิงก็ถูกทำลายล้างไปแล้วเช่นกันท่านผู้เฒ่าและสมาชิกหลักของตระกูลเฟิงตายเกือบหมดแล้ว และคนที่เหลือไม่สามารถก่อปัญหาใดๆ ได้นอกจากนี้ ตระกูลไป๋จะไม่เก็บพวกเขาไว้มหาอำนาจเข้าใจหลักการของการกำจัดรากเหง้าดีกว่าใครๆหลินตงไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้อีกต่อไปเขากลับไปที่ยานรบแปดเหลี่ยมอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาเข้ามา เย่ชิงหวู่ก็ทักทายเขาและตะ
เขาไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้ถึงระดับปัจจุบันเท่านั้น แต่เขายังได้รับดาบกำราบมารอันทรงพลังด้วยตระกูลเฟิงถูกทำลาย และตอนนี้พวกเขาทั้งสองก็ไร้ประโยชน์แล้วเดิมที หลินตงไม่ใช่คนกระหายเลือดแต่เขาไม่สามารถปล่อยพวกเขาไปได้เลยเพราะพวกเขารู้ตำแหน่งที่แน่นอนของโลกหลินตงจะไม่ยอมให้มีภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นเช่นนี้เกิดขึ้น แม้แต่น้อยเฟิงจิ่วจงลุกขึ้นยืนทันทีและจ้องมองหลินตงเมื่อเขาเห็นหลินตงและเย่ชิงหวู่มาถึง โดยกล่าวว่า "หลินตง แกต้องการอะไรกันแน่ มีอะไรก็บอกมา แกควรปล่อยพวกเราไปโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นตระกูลเฟิงของฉันจะไม่ปล่อยแกไป""ตระกูลเฟิงล่มสลายไปแล้ว และฉันมาที่นี่เพื่อส่งแกไป ไม่นานแกก็จะได้พบกับคนที่แกรัก" หลินตงกล่าวอย่างไร้อารมณ์"เป็นไปไม่ได้! ตระกูลเฟิงของฉันมีท่านผู้เฒ่าระดับยักษ์ใหญ่ มันจะล่มสลายไปได้ยังไง?" เฟิงจิ่วจงเถียงกลับเสียงดัง"หลินตง แกกำลังพูดไร้สาระ! เราไม่เชื่อแก ปล่อยเราไป ไม่อย่างนั้นแกจะต้องตายศพไม่สวย และโลกจะถูกทำลาย ชาวโลกทุกคนจะถูกแกฆ่า แกจะเป็นคนบาปของโลก เป็นคนทรยศ....."ก่อนที่เฟิงจื่อเยว่จะพูดจบ สายตาอันเย็นชาของหลินตงก็จ้องไปที่เธอ ท
อาณาเขตจักรพรรดิดาวมหึมานี่คือพื้นที่อยู่อาศัยตระกูลอันดับสองแห่งแปดตระกูลใหญ่ในอาคารห่างไกลที่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยหลักของตระกูลโหลวบนดาว นายน้อยสามโหลวกำลังนอนเงียบๆ อยู่ข้างในหลังจากกลับมาที่ตระกูล ร่างกายที่พิการของเขาทำให้เขาไร้การฝึกฝน เขาจึงถูกจัดให้อยู่ที่นี่และสามารถหาคนรับใช้เพียงไม่กี่คนมาคอยรับใช้เขาเท่านั้นนี่เป็นความแตกต่างอย่างมากจากการปฏิบัติต่อนายน้อยสามโหลวก่อนหน้านี้มหาอำนาจบางแห่งมักจะเป็นเช่นนี้เมื่อมีค่า ให้เลื่อนตำแหน่งคุณไปยังตำแหน่งที่สูงกว่าเมื่อไร้ค่า พวกเขาจะโยนคุณเข้าไปในเงามืดโดยไม่ลังเลนายน้อยสามโหลวเคยเป็นหนึ่งในสามทายาทอันดับต้น ๆ ของตระกูลโหลว และเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในตำแหน่งผู้นำตระกูล ด้วยการสนับสนุนจากสมาชิกหลักของตระกูลมากมาย เขาได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในทุกสิ่งอย่างเป็นธรรมชาติตอนนี้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว เขาจึงสูญเสียคุณค่าของตัวเองและไม่ได้รับความสนใจจากตระกูลอีกต่อไปโยนเขาไปที่ไหนก็ได้ที่เขาต้องการ เขาจะไม่รู้สึกกังวลกับสิ่งที่เห็น และปล่อยให้เขาจัดการเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม้แต่สมาชิกหลักของครอบครัวที่สนับสน
หลินตงใช้ศาสตราเทพมายาโจมตีเพียงครั้งเดียว จนทำให้มังกรเก้าหัวได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซ้ำยังทำให้พวกเขาเสียหน้าหนักมากในอสูรกาแล็กซี“หลินตง! แกดูถูกกันเกินไปแล้ว!!! ที่นี่คืออสูรกาแล็กซี ไม่ใช่กาแล็กซี่ทางช้างเผือก แกอยากจะจุดชนวนสงครามหรือไง?” หยวนหมิงจ้องเขม็งไปยังหลินตงที่ยืนอยู่ไกล พูดพร้อมกัดฟันด้วยความโกรธหลินตงเหวี่ยงดาบกำราบมารในมือเป็นวง และเก็บเข้าฝักไป เขาหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นตอบกลับด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า "หยวนหมิง! แกเลิกขู่ได้แล้ว! คิดว่าตัวเองเป็นแทนอสูรกาแล็กซีทั้งหมดเหรอ! แล้วที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง ส่วนผลที่ตามมา ไม่ใช่ความผิดของฉัน แต่เป็นพวกแกต่างหาก ที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง"“แก…”หยวนหมิงถึงจุกจนพูดไม่ออก เมื่อโดนหลินตงตอกกลับจากนั้นหันไปยังความว่างเปล่า ตะโกนดังเสียงหนักแน่นว่า "ทุกท่าน! หลินตง ไอ้คนนอกผู้นี้ ได้กระทำการอุกอาจในอสูรกาแล็กซีของฉัน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้มังกรเก้าหัวของฉันตายเจ็บนับไม่ถ้วน เพื่อชำระแค้นให้แก่พี่น้องของฉัน และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของอสูรกาแล็กซีแห่งนี้ ฉันหยวนหมิง ขอวิงวอนต่อทุกท่าน ได้โปรดร่วมม
น่าเหลือเชื่อจริงๆแม้แต่สองเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งในอสูรกาแล็กซี ที่ได้ครอบครองศาสตราเทพมายา ก็ยังตกตะลึงในขณะนี้ศาสตราเทพมายาในมือของพวกเขา ยังไม่ถึงกับทรงพลังขนาดที่จะก้าวข้ามสองระดับ และช่วยเหลือให้ผู้ใช้เอาชนะได้มากสุดก็แค่ข้ามระดับหนึ่งเท่านั้นศาสตราเทพมายาในมือหลินตง เห็นชัดเจนว่าเหนือกว่าของพวกเขามากผู้ชมจำนวนมากต่างเผยท่าทางแสดงออกถึงความโลภหยวนเซิงมองลำแสงจากดาบสีแดงที่ทำลายการโจมตีเต็มกำลังของเขา และพุ่งมาหาเขาอีกเขาก็รู้สึกงงงวยเหมือนกันครั้งก่อนที่ถูกหลินตงฟันหัวขาด เดิมทีคิดว่าเป็นเพราะเขาตอบกลับอย่างเร่งรีบ จึงไม่มีเวลารวบรวมพลังครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน จึงเรียกรวมพลังมังกรเก้าหัวพร้อมกัน เพื่อตอบโต้ด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง และแก้แค้นการฟันครั้งก่อนไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมนี่ทำให้เขารู้สึกยอมรับไม่ได้ชั่วขณะลำแสงจากดาบสีแดงที่หลินตงฟาดออกมา หลังจากทำลายลูกบอลพลังงานขนาดยักษ์ของหยวนเซิงแล้ว ก็ได้ใช้พลังเกือบหมด จึงทำให้ความเร็วไม่เหมือนตอนเริ่มต้นแต่ก็ยังสามารถไปถึงหยวนเซิงในชั่วพริบตาในขณะที่ลำแสงจากดาบสีแดงเตรียมที่จะฟันกายาทอ
หยวนเซิงกับหยวนหมิงต่างก็เห็นศาสตราเทพมายาในมือของหลินตงเหมือนกันความปรารถนาที่ต้องการครอบครองอย่างรุนแรงวูบผ่านในสายตาของพวกเขาก่อนจะหายไปพวกเขาก็อยากได้เช่นกันแต่ทั้งสองคนรู้ดีจากสถานการณ์ตอนนี้มังกรเก้าหัวไม่มีโอกาสเลยแต่การที่หลินตงใช้ศาสตราเทพมายานั้น กลับเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาในสายตาของทั้งสองคนต่างก็เผยออกถึงความดีใจยอดเยี่ยมไปเลย ถือว่าสวรรค์เข้าข้างจริงๆตอนนี้หลินตงเอาศาสตราเทพมายาออกมา คือการรนหาที่ตายด้วยตัวเองหยวนหมิงกำลังคิดในใจ ว่าจะพูดอย่างไรเพื่อให้ทุกคนยอมร่วมมือกันจัดการกับหลินตงตอนนี้โอกาสมาถึงแล้วหลินตงถือศาสตราเทพมายาอยู่ในมือ ลองถามดูว่าในอสูรกาแล็กซี มีใครไม่อยากครอบครองบ้าง?ไม่ว่าจะเป็นใครในอาณาจักรนิรันดรที่ได้ครอบครองมัน ก็สามารถท้าทายผู้ที่เหนือกว่าได้ไม่มีใครที่สามารถปฏิเสธการล่อลวงแบบนี้ได้ตอนนี้ถ้าเขาเรียกออกไปรับประกันว่าจะมีหลายคนที่ออกมาจัดการกับหลินตงแค่จัดการหลินตงได้ศาสตราเทพมายาในมือของเขา คือเจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งแบบนั้น ทุกคนก็มีโอกาสที่จะได้ครอบครองหลินตงยังไม่รู้ว่า ดาบกำราบมารในมือของเขากำลังดึงดูดสายตาจา
เจ้าหลินตงโชคดีมากจนเกินไปแล้วแม้แต่เฉินจิงจื่อหานในตอนนี้เอง ก็ยังรู้สึกอิจฉาเดิมทีเขากังวลว่า หลินตงคงไม่ใช่คู่มือของหยวนเซิงที่อยู่ในระดับเซียนเดินดินตอนปลายดูเหมือนว่าเขาคิดมากเกินไปมีศาสตราเทพมายาอยู่ในมือหลินตงสามารถท้าทายตัวต้นระดับที่เหนือกว่าของตัวเองได้จริง ๆไม่แปลกใจที่เขาจะมั่นใจขนาดนั้นเมื่อครู่นี้เจ้าเด็กคนนี้ซ่อนความลับเอาไว้ไม่น้อยเลยสมกับที่เป็นชายที่แม้แต่วิชาดวงตาจักรวาล ยังไม่สามารถมองทะลุได้ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องพาหลินตงเข้าร่วมสำนักดาวสวรรค์ให้ได้การพาคนที่ดวงชะตาพิเศษมาก เช่นหลินตงมาเข้าร่วมกับสำนักดาวสวรรค์ ก็นับว่าเป็นการทำคุณงามความดีอย่างใหญ่หลวงให้กับสำนักดาวสวรรค์ถึงตอนนั้นพ่อของเขาจะต้องให้รางวัลเขาอีกครั้งแน่นอนเฉินจิงจื่อหานมองไปที่หลินตงด้วยสายตา ที่เรียกว่าตื้นเต้นโชคดีที่ตอนนี้หลินตงกำลังยุ่งกับการรับมือท่าไม้ตายของหยวนเซิงอยู่ ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาเห็นสายตาของเฉินจิงจื่อหานแล้ว คงจะเข้าใจผิดไปแล้วในคฤหาสน์หรูหราบนหลังของเต่ายักษ์ห้องหนึ่งที่แทบจะกลายเป็นทะเลสีแดงไป๋หลี่เหยียนหงเองก็เฝ้าสังเกตการต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื
"ปัง!!!"เสียงปังดังขึ้นหมัดเทพแห่งความว่างเปล่าของหลินตง อัดเข้าไปกระแทกเข้าเต็มกลางอกของหยวนเซิงอย่างจังๆแต่ในจังหวะที่หยวนเซิงถูกหมัดซัดเข้าเต็มๆ ก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วฟาดหางด้านหลังใส่หลินตงอย่างเต็มกำลัง"พลั๊ก!!!"ทั้งสองต่างก็รับการโจมตีเต็มกำลังจากฝ่ายตรงข้าม แล้วกระเด็นถอยร่นไปด้านหลังคนละทิศทุกที่ที่พลังกวาดผ่าน ทำให้ทะเลปั่นป่วน ภูผาสะเทือน ดวงดาวแตกสลายหายไปในพริบตามังกรเก้าหัวมีชื่อเสียงด้านพลังป้องกัน ร่างกายแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าส่วนร่างกายของหลินตง หลังจากผ่านการหลอมขัดโดยระบบอย่างเข้มข้น ก็ไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อยถ้าวัดกันด้วยร่างกาย ทั้งสองก็เรียกได้ว่าสูสีไม่มีใครยอมใครแต่ถึงอย่างไรหลินตงก็ยังอยู่แค่ระดับเซียนเดินดินตอนต้น ขณะที่หยวนเซิงนั้นอยู่ตอนปลายแล้ว ห่างกันถึงสองขั้นย่อยนอกจากนี้ หยวนเซิงมีชีวิตอยู่มาเกือบหมื่นปี มีประสบการณ์การต่อสู้เหนือกว่าหลินตงอย่างมากเพราะฉะนั้น ตั้งแต่เริ่มแรก หลินตงก็เป็นฝ่ายตั้งรับ ถูกหยวนเซิงเป็นฝ่ายรุกใส่อย่างต่อเนื่องแต่เป้าหมายของหลินตงในตอนนี้ คือการสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้เพื่อไม่ให้เมื่อเข้าสู่อาณาจักรดว
ในขณะนั้น เฉินจิงจื่อหานก็พุ่งเข้ามาและต่อยหมัดหนักเข้าที่ศีรษะของหยวนเซิงที่กำลังรวบรวมพลัง"ปัง!!!"ลูกบอลพลังงานเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งและยิงเข้าไปในความว่างเปล่าขณะที่เฉินจิงจื่อหานกำลังเตรียมช่วยหลินตงยกการปิดล้อม หยวนหมิงก็มาถึงด้วยเช่นกันเข้าไปพัวพันกับเฉินจิงจื่อหานในทันทีหลินตงพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการพันธนาการของหยวนเซิงที่จริงแล้ว แม้จะไม่มีเฉินจิงจื่อหานช่วยเหลือ หลินตงยังคงมีทางที่จะหลบหนีพลังจิตวิญญาณของเขายังไม่ได้ใช้!ร่างสีทองขนาดใหญ่สี่ร่างต่อสู้กันในความว่างเปล่าทุกคนใช้วิธีการดั้งเดิมที่สุด การต่อสู้ระยะประชิดหยวนเซิงกับหยวนหมิงจะรวบรวมลูกบอลพลังงานทันทีเ พื่อโจมตีหลินตงกับเฉินจิงจื่อหานเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสอย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกโจมตีทุกครั้งในการต่อสู้ระยะประชิด การใช้การโจมตีระยะไกลแบบนั้นไม่มีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตาม ลูกบอลพลังงานลูกหนึ่งกำลังโจมตีตำแหน่งของเต่ายักษ์มันสามารถทำให้หวงฝู่ซีเยว่และคนอื่นๆ ที่กำลังดูการต่อสู้ด้วยความกังวลตกใจได้พวกเธอทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่ลูกบอลแสงขนาดใหญ่เข้ามาใกล้ทันทีที่พวกเขาคิดว่า
หลินตงและเฉินจิงจื่อหานกำลังลูบไม้ลูบมือ พร้อมที่จะลงมือ!หยวนหมิงขมวดคิ้ว“เราจะปล่อยให้คนจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกทำอะไรก็ได้ที่ต้องการในอสูรกาแล็กซีของเราจริงๆ เหรอ?” หยวนหมิงตะโกนเสียงดังถามฝูงชน“หยวนหมิง! เนื่องจากหลินตงมาหาแก งั้นก็สู้กับเขาสิ! เขาพาคนมาแค่สองคน ไม่ได้รุมแกด้วยจำนวนเลยสักนิด นอกจากนี้ หลินตงเพิ่งเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร แกยังคาดหวังอะไรจากพวกเราอีก? แกกำลังจะบอกว่ามังกรเก้าหัวของแกไม่สามารถรับมือกับความท้าทายเช่นนี้ได้เลยเหรอ?” เสียงทุ้มทรงพลังตอบเมื่อได้ยินเสียงนี้หยวนหมิงปิดปากเห็นได้ชัดว่าตัวตนของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกระแวดระวังมากขณะนั้นเอง!!!"บึ้ม...บึ้ม...."เสียงดังสองครั้งปรากฏขึ้นติดต่อกันหลินตงและเฉินจิงจื่อหานได้แสดงกายาทองคำนิรันดร์ของพวกเขาสองร่างสีทองขนาดใหญ่ยืนอยู่ในความว่างเปล่า ราวกับยักษ์ใหญ่ที่สูงตระหง่านหากมองอย่างละเอียด ก็จะเห็นร่างยักษ์สีทองที่หลินตงแสดงนั้น มีขนาดเล็กกว่าของเฉินจิงจื่อหานเล็กน้อยขนาดของกายาทองคำอมตะนั้นไม่เท่ากัน มันจะเปลี่ยนไปตามความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นยิ่งความแข็งแกร่งแข็งแกร่งขึ้น กายาทองคำอมตะก็
ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของมังกรเก้าหัวเองทำไมพวกเขาต้องลุยน้ำโคลนนี้ด้วย?หยวนหมิงยังคงพูดอยู่ตามลำพังเขาคิดว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ทุกคนต่อสู้กับหลินตงร่วมกันหากไม่มีสิ่งที่ไท่ซานพูดเมื่อกี้นี้ อาจมีใครบางคนออกมาพูดจริงๆในขณะนี้ หลินตงหมดความอดทนจนถึงตอนนี้ เขาพูดเพียงสองประโยคเท่านั้นแต่หยวนหมิงกลับพูดไม่หยุดไป๋หลี่เหยียนหงบอกเขาโดยเฉพาะว่าให้รีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยถ้าเรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไปอีก ใครจะรู้ว่าหยวนหมิงตั้งใจจะทำการแสดงของเขาไปอีกนานแค่ไหน"หยวนหมิง! แกจะพูดพล่ามอีกนานแค่ไหน แกย่อมรู้ชัดเจนเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการมาเยือนของฉันในวันนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แกรุกรานกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของฉัน ทำไมแกต้องอธิบายให้ฉันฟังด้วย" หลินตงพูดขึ้นหลินตงขัดจังหวะหยวนหลินในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเขารอสักพักไม่มีใครเต็มใจที่จะก้าวออกไปข้างหน้าเขาหวังว่าข้าจะฉีกไท่ซานออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาสถานการณ์นี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น"หลินตง! ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดถึงอะไร และฉันก็ไม่มีอะไรจะอธิบายแก คราวที่แล้ว ตอนที่แกเข้าสู่
หลินตงมองหยวนหมิงซึ่งอยู่ในอาการโกรธจนพูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้นที่นี่?เขาพูดไปแค่สองประโยคมังกรเก้าหัวก็จะเริ่มต่อสู้กับคนอื่นแล้วแต่เขากลับกลายเป็นตัวประกอบแทนเมื่อกี้ หลินตงจำได้ว่าโจมตีหยวนหมิงผู้นี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้นำวานรยักษ์ครั้งก่อนที่เขาเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร เขาก็ปรากฏตัวขึ้น และหยวนหมิงซึ่งกำลังโกรธเช่นกันก็พูดไม่ออกไม่คาดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีความแค้นฝังใจอย่างลึกซึ้งระหว่างวานรยักษ์กับมังกรเก้าหัว“เป็นอะไรไป หยวนหมิง ดูจากท่าทางของแกแล้ว คิดจะประลองฝีมือกับฉันก่อนหรือเปล่า? งั้นก็รีบมาสิ! เมื่อไหร่ที่ฉัน ไท่ซานเคยกลัวแกบ้าง น้องหลินตง! ให้ฉันทดสอบเจ้านี่ก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลานั้น แกก็สามารถโจมตีได้เมื่อเห็นโอกาส”เสียงของไท่ซานดังออกมาจากความว่างเปล่าหยวนหมิงถูกไท่ซานยั่วยุและกำลังจะระเบิดกำลังจะเปิดใช้งานกายาทองคำอมตะของเขาและสั่งสอนบทเรียนให้แก่ไท่ซานแต่หลังจากได้ยินความเห็นสุดท้ายของไท่ซาน ความโกรธแค้นของเขาส่วนใหญ่ก็มลายหายไปเรื่องที่เผชิญหน้ากับสามอาณาจักรนิรันดรที่หลินตงนำมายังไม่ได้รับการจัดการ การพัวพันกับ