หลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่ได้ติดต่อซือซวี่เป็นเวลานาน บล็อคทั้งเบอร์มือถือและ Lineซือซวี่ใช้แผนทรมานตัวเอง โดยการยืนอยู่หน้าหอชั้นล่างปล่อยให้ตัวเองถูกฝนจนป่วยมีไข้สูง สภาพซูบผอมเหมือนถูกทรมานด้วยความรัก โงนเงนเหมือนไม้เสียบผีอยู่ต่อหน้าฉันฉันยังโมโหเขามาก แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเล่ห์เหลี่ยมของเขาฉันกับซือซวี่เริ่มคบกัน เดิมคิดว่าพอผ่านพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามันไปก็คงจะแยกทางใครทางมัน ไม่คิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้ดีมาก ความรักหวานชื่นยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งคลั่งรักกันมากขึ้น ซือซวี่ยอมออกมาจากหอและเริ่มมาใช้ชีวิตอยู่กับฉันเราเข้ากันได้ดีมาโดยตลอด ตอนซือซวี่ขึ้นปีสี่ เราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน ลงหลักปักฐานในเมืองจิง เขาเรียนต่อปริญญาโท ส่วนการงานของฉันก็เติบโต ผัวหามเมียคอน ชีวิตสุขสมบูรณ์มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด ได้ทำงานที่ตนเองรัก เลิกงานก็มีคนที่ตัวเองรักอยู่เคียงข้างจนกระทั่งคืนนั้น ฉันโมโหวิ่งออกจากบ้านและถูกเฉิงเหวยเหวินและเฉิงเหวยอู่ลากเข้าไปในพุ่มไม้ในเขตคอนโดมันเกิดขึ้นกับฉันอย่างไม่ทันคาดคิด ฉันพยายามดิ้นรน อยากจะตะโกนให้คนมาช่วย แต่เฉิงเหวยเหวินปิดปากและจมูกข
ฉันกลับมาอยู่ในร่างของตัวเอง ฉันแน่นิ่งไปราวสามนาทีไม่มีทาง คนดีที่ไหนเอาหัวคนมาแช่ไว้ในตู้เย็น?ฉันเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ ของการมีหัวคนมาอยู่ในตู้เย็น ทันใดนั้นก็ฉุกคิดปัญหาหนึ่งขึ้นมาได้ฉันดันตั้งภาพพื้นหลังเป็นภาพของตัวเองและก็ยังเป็นภาพที่รีทัชจนสวยด้วยหากไม่ได้ไปเปิดตู้เย็นดู ฉันก็อยากค่อย ๆ ตะล่อมให้เขามาชอบฉัน เขียนบทและกำกับให้มาเจอกันในฉากสุดโรแมนติกทว่าทุกอย่างมันจบสิ้นแล้ว!ถ้าหากเขาเป็นฆาตกรในคราบของหนุ่มหล่อ แล้วฉันบังเอิญไปเจอความลับของเขาเข้า จนเขาตามล้างแค้นฉันขึ้นมา แล้วฉันจะทำยังไง?ฉันเกาหัวด้วยความหงุดหงิด ก่อนกลับมาอยู่ในร่างตัวเอง ฉันเหมือนจะลืมปิดตู้เย็นด้วยฉันเอาภาพนั้นไปถามเพื่อนรูมเมท "มองออกไหมว่าเป็นใคร?"รูมเมทร้องว้าวอย่างโอเวอร์และจงใจพูด "คนสวยคนนี้ใครหรอ?"ฉันเลยถามอย่างดีใจ "มองไม่ออกว่าเป็นฉันใช่ไหม?"ปฏิกิริยาของฉันดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเธอ เธอเลยหันมามองอย่างละเอียดอีกครั้ง "เอาจริง ๆ ก็เหมือนอยู่""เหมือนแค่ไหน?""ก็ถ้าอยู่ในฝูงชนก็หาเจอ"หัวใจฉันถึงกับแตกสลายหลังจากลังเลอยู่สักพักก็รู้สึกว่าช่างหัวมันละ ถ้ามันก
ฉันติดตามกระแสข่าวตลอดทั้งวัน ทว่ากลับไม่มีข่าวดังอย่างพวก'ฆาตรกรโรคจิตฆ่าชำแหละคนภายในบ้าน'เลย แม้แต่เทรนด์ค้นหาก็ไม่ขึ้นไม่มีข่าวอะไรเลย ฉันได้แต่รอการเข้าไปอยู่ในร่างของเขาครั้งต่อไปอย่างกระวนกระวายใจฉันจะไปโผล่ที่ไหนอีก? ห้องขังหรือว่าห้องสอบปากคำ?ทว่ามันกลับไม่เป็นไปตามคาด วันนี้ฉันไม่ได้เข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกรคนนั้นวันที่สองก็ด้วย วันที่สามก็เช่นกันเกิดอะไรขึ้น เขาตายแล้วหรอ?หรือว่าเขาถูกตำรวจการุณยฆาตขณะกำลังจับกุม?ฉันคิดไปคิดมาเลยติดสินใจไปดูเขตคอนโดพักอาศัยของฆาตกรพอฉันเจอเขตคอนโดนั้น ฉันก็ยัดใต้โต๊ะให้ยามและเขาก็ให้ฉันผ่านเข้าไป ฉันอาศัยภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่เห็นเพื่อระบุตำแหน่งตึกและชั้น ผ่านไปครึ่งวันฉันก็พบบ้านของฆาตกรทว่ากลับเหนือความคาดหมายของฉัน ประตูบานนั้นถูกกั้นเอาไว้อย่างลวก ๆ ไม่เหมือนกับสถานที่เกิดคดีฆาตกรรมอย่างที่ควรจะเป็นเลยไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ ผู้หญิงห้องตรงข้ามก็จูงสุนัขออกมาพอดี พอเธอเห็นฉันก็เอามือทาบอกพร้อมกับขยับขาถอย"ตกใจแทบแย่ ฉันคิดว่า..."ฉันทำหน้าทำตาอยากรู้อยากเห็นใส่เธอ "คุณคะ ฉันได้ยินมาว่าห้องนี้มีคนตายหรอ?"ผู้หญิง
ฉันศีรษะกระแทกกระทบกระเทือนสมองเล็กน้อยและกลับมารักษาตัวที่บ้านหนึ่งสัปดาห์เป็นช่วงเวลายาวนานที่ฉันไม่ได้เข้าไปในร่างของคนอื่นอีก ชีวิตผ่านไปอย่างราบเรียบหลังจากหายดี ฉันก็ไปแจ้งตำรวจ หลังจากตำรวจฟังฉันพูดจบก็เกือบจะเอาฉันไปส่งโรงพยาบาลบ้าฉันรู้ว่าถ้าพูดออกมาคงไม่มีใครเชื่อ...ฉันกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ไร้เดียงสาและโง่เขลาเหมือนเดิมปีสี่วิชาเรียนไม่เยอะ ว่างจนไม่มีอะไรทำ ฉันเลยรบกวนป้าสะใภ้ให้ช่วยหางานสอนพิเศษภาษาอังกฤษตามบ้านให้ทีระหว่างเดินทาง ป้าสะใภ้เลยเล่าเรื่องของเด็กคนนี้ให้ฟังเขาชื่อว่าซือซวี่ ไม่กี่วันก่อนเขาได้พัวพันกับคดีฆาตกรบุกบ้าน เหยื่อเป็นพี่ชายน้องชายฝาแฝดอนาคตไกลว่ากันว่าถ่ายภาพเงาของคนร้ายในที่เกิดเหตุเอาไว้ได้ พอลองเอาภาพมาเทียบกันก็ใกล้เคียงกับซือซวี่ที่อายุ 17 ปีซือซวี่ถูกเรียกไปสอบปากคำที่โรงพักครึ่งวัน แต่เนื่องจากเขามีหลักฐานยืนยันที่อยู่ตอนเกิดเหตุ ทางตำรวจเลยปล่อยเขากลับขณะป้าสะใภ้กำลังเล่า เธอก็เหลือบมามองฉันและอุทาน "เย่ว์เหิง หลานเป็นอะไร? ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดีเลย?"ฉันยิ้มเจื่อน สีหน้าแย่กว่าตอนร้องไห้ "ป
DNA ของทั้งสองคนตรงกันซือซวี่ในอนาคตเป็นฆาตกรที่สังหารฝาแฝดสองคนนั้นซือซวี่ประเมินการสอนของฉันไว้ดี เลยจ้างฉันให้เป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ส่วนค่าสอนเพิ่มเป็นชั่วโมงละ 5,000 บาทตอนแรกฉันอยากปฏิเสธ ฉันไม่ใช่คนทำเพื่อเงินไปเสียทุกอย่าง ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยงกับว่าที่ปีศาจฆาตกรหรอกอีกอย่าง หลังจากทราบว่าซือซวี่กับกับฆาตกรเป็นคนเดียวกัน ประโยคนั้นที่เขาพูดว่า 'เย่ว์เหิง แกจะฆ่าสามีแกงั้นหรอ?' ก็ทำให้ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเจ้าเด็กแสบซือซวี่คงไม่ใช่ว่าที่สามีของฉันใช่ไหม...การที่ฆาตกรอำมหิตที่มีโรคจิตเภทจะฆ่าภรรยาตัวเองก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ น่ากลัวจริง ๆยิ่งไปกว่านั้นก็คือฉันชอบผู้ชายวัยผู้ใหญ่ทรงแดดดี้ ไม่ใช่เด็กที่อ่อนกว่าฉัน 5 ปีอย่างซือซวี่ฉันสอนพิเศษเขาไม่ได้หรอก สอนไปสอนมาเกิดตกหลุมรักเข้าจริง ๆ คงแย่แน่เดิมทีอยากจะปฏิเสธ ทว่าตอนนั้นฉันก็ได้ทราบข่าวร้ายพ่อแม่ของฝาแฝดคู่นั้นเสียลูกไปทั้งหมด และไม่สามารถนำตัวฆาตกรมารับโทษได้ ทั้งคู่จึงจุดไฟรมควันฆ่าตัวตายเพราะความเศร้าโศกเสียใจครอบครัวแสนสุขทั้งสี่คน ต้องมาจบชีวิตลงเพราะซือซวี่ไม่มีใครเป็นฆาตกรมาตั้งแต่เกิด ฐานะทางบ้
มีครั้งหนึ่ง ซือซวี่อดไม่ได้ที่จะถาม "คุณพูดเรื่องพวกนี้กับผมทำไม?"ฉันตอบด้วยสายตาจริงจัง "ฉันแค่อยากบอกเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ห้ามฆ่าคนเป็นอันขาด! โดยเฉพาะการเข่นฆ่าคนอื่นอย่างโหดร้าย"ซือซวี่มองฉันเหมือนคนโรคจิต "ผมไม่ได้วิกลจริต ทำไมต้องฆ่าคนอื่นด้วย"……เราสองคนไม่ได้สนิทสนมลงรอยกันตลอด ครั้งหนึ่งซือซวี่หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปขณะฉันสอนโดยไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย เปิดเสียงดังสนั่น บอกเป็นนัยน์ว่าให้ฉันหุบปากฉันหมดความอดทนและพูดกับเขาอย่างมีเหตุผล "ซือซวี่ ตอนอาจารย์สอน เธอจะไม่ฟังก็ได้ หรือจะเหม่อลอยก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะเคารพกันบ้าง ไม่ใช่หยิบมือถือเปิดเสียงดังโจ่งแจ้งแบบนี้ พฤติกรรมของเธอ มันดูขาดการอบรมสั่งสอนและไร้วุฒิภาวะ"นิ้วที่กำลังไถมือถือของซือซวี่หยุดลงจากนั้นเขาก็เหลือบมองฉันด้วยแววตาดุร้ายเหมือนเหยี่ยวเขาพูดอย่างเย็นชา "อายุมากกว่าผมไม่กี่ปี เรียกตัวเองว่าอาจารย์อย่างไม่กระดากปาก อย่าคิดว่าตัวเองว่าวิเศษวิโสไปหน่อยเลย ไม่อยากสอนก็ไสหัวกลับไป คิดว่าตัวเองเป็นใคร"เขาลุกขึ้นเดินออกไป พอเดินถึงประตูก็หันมาพูด "เดี๋ยวเธอไปเอาค่าสอนที่แม่ฉัน จากนี้ไม่ต้องมาสอนแ
ฉันลังเล่ว่าจะไปตามนัดของซือซวี่จากอนาคตดีไหม ถ้าไปก็กลัวว่าอาการจิตเภทของเขาจะกำเริบและฆ่าฉัน แต่ถ้าไม่ไป ฉันก็คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลว่าตัวเองจะเจอสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต ควรถามล่างหน้าและกันไว้ดีกว่าแก้ฉันลังเลอยู่สองวัน ซือซวี่ที่ทะเลาะกับฉันเมื่อสองวันก่อนก็เป็นฝ่ายมาหาฉันถึงหอเขาถือกล่องอาหารเก็บความร้อนที่ล้างจนสะอาดและยืนรอฉันอยู่ที่หน้าหอ เขาพึมพำอย่างไม่พอใจ "ผมว่าคุณแค่สองสามคำเองไม่ใช่หรอ? ทำมาร้องไห้จะเป็นจะตาย แม่ผมคิดว่าผมรังแกคุณ"ฉันจือปากใส่ "แค่สองสามคำหรอ? เธอว่าฉันอย่างไม่มีดี แถมไล่ฉันให้ไสหัวไป ใครมันจะไปรับได้?""แค่นี้ก็รับไม่ได้แล้วหรอ ถ้าคุณเป็นอาจารย์โรงเรียนผมคงไม่ฆ่าตัวตายไปแล้วหรือไง?"ฉันมองเขาอย่างหมดคำพูด "อาจารย์ของเธอน่าสงสารจริง ๆ รีบให้พ่อแม่เธอเอาเงินใส่ซองมอบให้พวกเขาเถอะ""นี่ก็ให้ไม่น้อยอยู่แล้ว"ซือซวี่พูดจบก็เหลือบมองการแต่งตัวฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า "ไปข้างนอกหรอ?"ฉันพยักหน้า "ฉันจะไปร้านกาแฟลวี่อิ้งที่ห้างต้าฝู ฉันนัดเพื่อนไว้""เพื่อนแบบไหน?"ฉันกรอกตาใส่เขา "อะไรไม่ควรถามก็อย่าถาม""...ได้ ผมไม่ยุ่ง ให้ผมไปส่งไหม?"
ซือซวี่ทำเสียงจิ๊ไม่พอใจ "ฉันเป็นฝ่ายขอหย่าต่างหากล่ะ เธอตะโกนร้องไห้ไม่พอใจ กอดขาฉันเหมือนคนบ้าที่อำเภอ บอกว่าจะลากฉันไปตายด้วย"ฉันโมโหจนหมั่นเขี้ยว "นายต้องทำผิดอะไรกับฉันแน่นอน! ถึงทำให้ผู้หญิงแสนดีอย่างฉันกลายเป็นแบบนั้น"ซือซวี่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว "ฉันจะทำอะไรเธอได้? เธอแก่กว่าฉันตั้งห้าปี แน่นอนว่าพอเธอแก่หมดสวย ฉันก็เลยนอกใจ"ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เลยถลึงตาใส่เขา "ยังกล้าพูดอีกนะ แต่ก็ดีที่นายพูดตรง ๆ""เวลาคนใกล้ตายก็มักจะพูดความจริง"หน้าด้านจริง ๆ ฉันเอนหลังพิงพนักและหายใจฟึดฟัด "พูดมาสิ นายมีธุระอะไรกับฉัน?"ซือซวี่หยิบแผ่นเสียงสีดำมาให้ฉัน "เอาไปให้หลัวอีอีชั้นม.5 ห้อง 3 ของโรงเรียนมัธยมแห่งแรก เธออยากได้มาตลอด"ฉันกุมคางอย่างกับพวกนักสืบ "ผู้หญิงที่ชื่อหลัวอีอีคงไม่ใช่เมียน้อยนายใช่ไหม..."ซือซวี่สีหน้าจริงจัง "คุณจะว่าผมเลวไงก็ได้ แต่อย่ากล่าวหาว่าเธอเป็นเมียน้อย คนที่ทรยศคุณก็คือผม ไม่ใช่เธอ ขอบคุณ"?ซือซวี่ถอนหายใจ "อีกอย่าง อีอีก็ตายไปแล้ว รบกวนคุณช่วยพูดให้เกียรติหน่อย"หา? เมียน้อยตายแล้ว?ตายได้ก็ดี!ฉันเอาส้อมตักขนมทานและพูดอย่างอารมณ์ดี
หลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่ได้ติดต่อซือซวี่เป็นเวลานาน บล็อคทั้งเบอร์มือถือและ Lineซือซวี่ใช้แผนทรมานตัวเอง โดยการยืนอยู่หน้าหอชั้นล่างปล่อยให้ตัวเองถูกฝนจนป่วยมีไข้สูง สภาพซูบผอมเหมือนถูกทรมานด้วยความรัก โงนเงนเหมือนไม้เสียบผีอยู่ต่อหน้าฉันฉันยังโมโหเขามาก แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเล่ห์เหลี่ยมของเขาฉันกับซือซวี่เริ่มคบกัน เดิมคิดว่าพอผ่านพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามันไปก็คงจะแยกทางใครทางมัน ไม่คิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้ดีมาก ความรักหวานชื่นยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งคลั่งรักกันมากขึ้น ซือซวี่ยอมออกมาจากหอและเริ่มมาใช้ชีวิตอยู่กับฉันเราเข้ากันได้ดีมาโดยตลอด ตอนซือซวี่ขึ้นปีสี่ เราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน ลงหลักปักฐานในเมืองจิง เขาเรียนต่อปริญญาโท ส่วนการงานของฉันก็เติบโต ผัวหามเมียคอน ชีวิตสุขสมบูรณ์มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด ได้ทำงานที่ตนเองรัก เลิกงานก็มีคนที่ตัวเองรักอยู่เคียงข้างจนกระทั่งคืนนั้น ฉันโมโหวิ่งออกจากบ้านและถูกเฉิงเหวยเหวินและเฉิงเหวยอู่ลากเข้าไปในพุ่มไม้ในเขตคอนโดมันเกิดขึ้นกับฉันอย่างไม่ทันคาดคิด ฉันพยายามดิ้นรน อยากจะตะโกนให้คนมาช่วย แต่เฉิงเหวยเหวินปิดปากและจมูกข
ฉันกระอักเลือดออกมา ทุรนทุรายดิ้นอยู่บนพื้นในหัวมีเสียงของอู๋รั่วกวังกำลังเยาะเย้ยซือซวี่ "เห็นรึยัง ซือซวี่ เย่ว์เหิงก็ยังตายเหมือนเดิม นายดวงซวยยิ่งกว่าฉัน"ฉันร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ด่าถออู๋รั่วกวังด้วยคำสบถหยาบคายต่าง ๆ คุณเกลียดซือซวี่ก็ไปทรมานเขาสิ มาฆ่าฉันทำไม?ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายจริง ๆ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะดิ้นรน ในช่วงที่กำลังสับสน ฉันเห็นรอยแยกตรงอากาศ รอยแยกนั้นถูกเปิดออก สองคนในชุดแปลกประหลาดกำลังเดินออกมาจากรอยแยกพวกเขาเดินมาหยุดตรงข้าง ๆ ฉันที่กำลังดิ้นทุรนทุรายไม่หยุดพร้อมกับหยิบอุปกรณ์ออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย จิตสำนึกของอู๋รั่วกวังถูกดูดออกไปก่อนพร้อมกับพูด"ซือซวี่ คุณฆ่าสองฝาแฝดพี่น้องกระกูลเฉิงในสองเส้นเวลาอย่างโหดร้าย ช่างไร้สามัญสำนึกจริง ๆ""คุณยอมสารภาพผิดแล้ว ยังจะกล้าแหกคุกจากสถานกักกันแล้วกลับมายังปี 2024 โดยพลการอีก คุณต้องมีจุดจบเช่นนี้ก็เป็นโทษที่คุณสมควรได้รับ"พอพูดจบ เจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้พิทักษ์เส้นเวลาทั้งสองคนก็ตรวจสอบร่างกายของฉันฉันอยากจะตะโกนเรียกพวกเขา แต่หลอดลมถูกตัดจนไม่สามารถพูดได้ เลยได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ "ฉันไม่ใช
ซือซวี่พาพวกเรามาถึงโรงงานร้างแห่งนั้นใครจะรู้ว่าพอเดินผ่านประตูเข้ามา ประตูเหล็กบานใหญ่อยู่ดี ๆ ก็ปิดเอง ฉันรีบผลักเปิดมัน แต่ว่าประตูถูกล็อคไปแล้ว ผลักยังไงก็ไม่เปิดจากนั้นก็มีปืนยิงออกมาจากไหนก็ไม่รู้ หญิงวัยกลางคนคนนั้นสะดุ้งขึ้นมา เลือดไหลออกมาทั่วร่าง เธอถลึงตาอย่างไม่เชื่อและค่อย ๆ ล้มลงและตายตาค้างนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเห็นคนเป็น ๆ ตายต่อหน้า ฉันตัวสั่นงันงกค่อย ๆ เอานิ้วไปอังตรงจมูกของเธอ เธอตายแล้ว"ทำไมถึงเป็นแบบนี้..." ฉันหันไปมองซือซวี่ เขากลับทำสีหน้าแน่นิ่งพร้อมกับตะโกนเสียงดัง "ออกมาสิ!"ในที่สุดฆาตกรก็ยอมเปิดเผยใบหน้า ฉันทั้งกลัวทั้งกังวลและอยากรู้จนสั่นไปทั้งตัวซือซวี่กุมมือของฉัน "ผมอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัว"แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เดินออกมาจากหลังถังน้ำมันขนาดใหญ่กลับเป็นอาจารย์ของซือซวี่ อู๋รั่วกวังอู๋รั่วกวังหัวเราะขณะเดินมาอยู่ตรงหน้าซือซวี่ เขากระดกแว่นขึ้นราวกับกำลังพูดคุยเรื่องทั่วไป "ซือซวี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!"ซือซวี่ในเส้นเวลานี้ยังไม่ได้เข้ามหาลัย ดังนั้นอู๋รั่วกวังไม่ควรจะรู้จักเขาพอลองคิดดูก็เข้าใจได้ไม่ยาก ในเมื่อฆาตกรสามารถเข้ามาในร่างข
เหลือเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงก่อนที่ซือซวี่จะเสียชีวิต ส่วนฆาตกรที่รอดไปได้ พวกเรายังไม่ทราบข้อมูลอะไรเลยหลังกลับมาจากโรงพยาบาล ซือซวี่กลับไปยังเส้นเวลาเดิมเป็นเวลาหนึ่งวันและรีบกลับมาฉันเองก็รู้สึกหมดคำพูด "ซือซวี่ นายลองคิดดูอีกที นอกจากสองฝาแฝดคู่นั้นแล้ว นายเคยมีเรื่องกับใครอีก"ซือซวี่กุมขมับ รู้สึกจนปัญญาอย่างมาก "นึกไม่ออกจริง ๆ มีแค่เรื่องทะเลาะเล็กน้อย ต้องแค้นฉันขนาดนั้นเลยหรอ?"ถ้าหาตัวฆาตกรไม่ได้จริง ๆ โอกาสที่ฆาตกรจะปล่อยฉันไปน้อยมากมีช่องโหว่ที่สามารถเข้าไปอยู่ในร่างของคนอื่นและสร้างผลกระทบต่อจิตใจสติปัญญาของคนนั้น มันก็ง่ายเหมือนกับการบดขยี้หมดปลวกตัวหนึ่งสำหรับคนที่อ่อนแอเหมือนลูกเจี๊ยบอย่างฉันฉันมองซือซวี่อย่างทุกข์ใจ "นายดูสิ่งที่นายทำไปสิ เดิมทีฉันกว่าจะถูกฆ่าก็อีกตั้ง 10 ปี ตอนนี้เป็นไง นายดั้นด้นมาช่วยฉัน แต่ฉันตอนนี้ใกล้ได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว"ซือซวี่หัวเราะ พร้อมกับขอบตาบวมแดง "ไม่ต้องกลัว ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 1 วันไม่ใช่หรอ?""นายมีวิธีจัดการ?"เขาพยักหน้า "อันที่จริงตอนพวกคุณสองคนเข้ามาในร่างผม ผมสัมผัสรับรู้ได้ ฆาตกรเองก็รู้ตรงจุดนี้""เขาสามารถรอให้ผม
แล้วก็มีบางภาพที่เขาแอบถ่ายฉัน มีทั้งภาพฉันกำลังกินผัดหมี่ซินเจียงรสแซ่บจนปากมันแผล็บ มีทั้งภาพที่ฉันนอนซบอกเขาจนน้ำลายยืด...ใต้โพสต์มีคอมเมนต์ของฉัน 'ซือซวี่ นายอยากตายหรือยังไง ( ≧Д≦)'โพสต์นี้มีคนคอมเมนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นคอมเมนต์ด่าเขาที่ชอบอวดแฟน ฆ่าคนโสดตายเรียบซือซวี่ตอบกลับด้วยอีโมจิใบหน้าอวดดีนิ้วยังคงเลื่อนไถต่อเนื่อง ฉันเห็นภาพตัวเองกับซือซวี่ไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน ฉันสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวพร้อมกับถือดอกไม้ช่อใหญ่กับซือซวี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาโอบไหล่ฉัน ทำหน้ายิ้มเหมือนหมาหน้าโง่ฉันเหลือบมองวันเวลาของโพสต์จดทะเบียนสมรส และคำนวนอายุของเขาอย่างรวดเร็ว พบว่าพอเขาอายุครบกฎหมายกำหนดก็แต่งงานกับฉันแล้วหลังจดทะเบียนสมรสก็จัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อนสนิทต่างก็มาร่วมอวยพรซือซวี่กับเย่ว์เหิงหลังแต่งงานแล้ว ซือซวี่ยังคงบันทึกเรื่องราวประจำวันไว้ แม้เขากับภรรยาจะทะเลาะกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่โดยรวมแล้วก็ถือเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีความสุขมากซือซวี่หยุดบันทึกเรื่องราวในวันหนึ่งอย่างกะทันหันหลังจากแต่งงานไปได้ปีกว่าผ่านไปไม่นาน ซือซวี่ก็โพสต์เพิ่มอีก 2 โพสต์ซึ่งเข
วันต่อมาฉันตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปหาซือซวี่ตามที่นัดกันไว้ตอนกลางวัน เพื่อเริ่มฝึกขั้นตอนที่สามพอเดินออกจากประตูหอก็พบซือซวี่กำลังนั่งรอฉันอยู่ฉันกำลังจะทักเขา ถามเขาเรื่องผู้หญิงเมื่อวานนี้ ทว่าจู่ ๆ ฉันก็หมดสติ พริบตาก็เข้าไปอยู่ใร่างซือซวี่วัยผู้ใหญ่ตรงหน้าฉันจากนั้น ฉันก็ลืมตาเห็นตัวเองกำลังยืนตาเหลือกและกำลังล้มหมดสติฉันรีบเข้าไปพยุงร่างของตัวเองและช้อนอุ้มตัวเองขึ้นมาในตอนนั้น นาฬิกาข้อมือของซือซวี่ก็ดังขึ้นมา เป็นเสียง AI สาว "จิตสำนึกของหญิงสาวเข้ามาในร่าง ระบุได้ว่าเป็นเย่ว์เหิง ปลอดภัย"เป็นสถานการณ์บ้าบอสิ้นดี ฉันแบกตัวเองมาที่ม้านั่งสาธารณะ พยุงร่างตัวเองให้นั่งตรง สังเกตใบหน้าของตัวเองอย่างละเอียด ฉันรู้สึกแปลกมากหลังกุมใต้คางและสัมผัสใบหน้าตัวเองเดี๋ยวก่อน...ทำไมหน้าซีกซ้ายกับซีกขวาของฉันมันดูไม่สมมาตรล่ะ?ลิปสติกสีแดงเบอร์นี้ไม่เหมาะกับฉันเลย คราวหน้าไม่ทาแล้วผมทรงใหม่ดูดีมากเลยฉันลูบใบหน้าของตัวเองไปมา เคลิบเคลิ้มกับการชื่นชมตัวเอง ทันใดนั้นก็มีมือข้างตีมือฉันให้ออกห่างตีเจ็บมาก ฉันเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจ ฉันตกใจกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้นโลกมันแคบเสียจร
ตอนฉันลงมาจากแท่นสูง ซือซวี่กำลังเช็ดจมูก บนพื้นมีกองทิชชูเปื้อนเลือดกำเดา"นายเป็นอะไร?" ฉันขมวดคิ้วถามซือซวี่ตอบอย่างเรียบเฉย "ก็ใกล้ตายแล้ว! เลือดออกนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ"ฉันตอบอืมสั้น ๆ และถามเขาอย่างเป็นห่วง "สุขภาพของนายพอช่วยเรารับมือฆาตกรไหวไหม?"ซือซวี่กรอกตาใส่ "ถ้าเธอไม่เป็นตัวถ่วงก็ไม่มีปัญหา"ล้อกันเล่นหรอ ฉันจะเป็นตัวถ่วงได้ไง ตอนนี้ฝีมือฉันไม่ต่างกับยอดฝีมือบู๊ลิ้มเลยนะเนื่องจากการฝึกสำเร็จ ซือซวี่เลยอนุญาตให้ฉันกลับมานอนที่หอได้หนึ่งวันแต่ใครจะรู้ว่าฉันกลับพบซือซวี่วัยหนุ่มขณะเดินกลับเขาบีบข้อมือฉันอย่างโมโหและต้องการคุยกับฉัน ฉันกลัวจะมีคนมาเห็นเข้าเลยขอร้องเขาให้มาคุยกันในซอยซือซวี่โมโหมาก "คุณทำแบบนี้หมายความว่าไง? ไม่ชอบผมก็พูดมาตรง ๆ ไม่จำเป็นต้องไปหาพ่อแม่ผมเลย? ผมไม่ได้ตามตื๊อคุณตลอดเสียหน่อย"ฉันมองเขาเขม็ง "ซือซวี่ ฉันไม่ชอบนาย"ซือซวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง "ผมไม่เชื่อ"ฉันหัวเราะเยาะ "ซือซวี่ นายอย่ามาตีหน้าซื่อกับฉันเลย นายควรถามใจตัวเองว่าชอบฉันจริงหรอ? นายก็แค่อยากได้ร่างกายฉัน! แต่หัวใจนายชอบคนอื่นอยู่ นายก็แค่เห็นฉันเป็นของเล่น"ซือซวี่หัวเ
ซือซวี่ให้ฉันฝึกฝนพัฒนาควบคุมจิตใจการฝึกขั้นแรก ซือซวี่ต้องการฝึกให้ฉันตื่นจากอาการฝันผีอำ โดยจะจำลองให้เหมือนกับสถานการณ์จริงฉันต้องทานลูกอมที่มีสารเมลาโทนิน จากนั้นก็นอนคว่ำลงบนเตียงพร้อมอุปกรณ์ตรวจวัดต่าง ๆ ส่วนตรงหลังมีหมอนใบใหญ่ทับไว้ ซือซวี่สะกดจิตฉันทำให้หลับการฝึกครั้งแรก ฉันหลับไปได้ไม่นานก็รู้สึกงัวเงียตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองหายใจลำบากมาก ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ฉันตกอยู่ในอาการฝันผีอำโดยสมบูรณ์ฉันพยายามขยับนิ้ว แต่ว่าหมอนตรงหลังหนักมาก กดจนศีรษะฉันมึนไปหมด ฉันตื่นไม่ได้ฉันรู้สึกอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจปิดเปลือกตาและหลับต่อซือซวี่รีบปลุกฉันให้ตื่น เขาโมโหจนแววตาลุกโชน"ใช่ที่ไหน เธอมันโง่เป็นควาย! ยังไม่ทันลืมตาถึง 10 วินาทีก็หลับตาแล้ว เธอต้องดิ้นรนหน่อยสิ!"หา? ฉันรู้สึกว่าตัวเองดิ้นรนมา 10 นาทีแล้ว ที่แท้แค่ 10 วินาทีเองหรอ?ซือซวี่เปิดมือถือและเอาคลิปสภาพของฉันตอนฝันผีอำให้ดูภายในคลิป ตรงหลังของฉันมีหมอนใบใหญ่วางไว้อยู่ ฉันนอนคว่ำเหมือนเต่าบนเตียงและลืมตาขึ้นมาเป็นเวลาสั้น ๆ 10 วินาที ฉันนอนน้ำลายยืดพร้อมกับแววตาเหม่อลอย ตาปรือสองข้างจนจะปิด สภาพ
ซือซวี่กำลังจะตายทั้งที่อายุยังน้อย ฉันเองก็รู้เสียใจอย่างอดไม่ได้พร้อมกับถอนหายใจหากเขาตายก็หมายความว่าฉันก็ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในร่างของเขาอีก ชีวิตก็จะกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมทว่าวันนั้น จู่ ๆ ซือซวี่ในวัยผู้ใหญ่ก็มาหาฉันพร้อมกับข่าวที่ฉันแทบจะลมจับหลังจากได้รู้เขาบอกฉันว่า คนที่ฆ่าหลัวอีอีอันที่จริงมีทั้งหมด 3 คนเพียงแต่ว่าคนที่สามเข้ามาในร่างของฝาแฝดในรูปแบบจิตสำนึก เขายุยงให้ฝาแฝดฆ่าหลัวอีอีอย่างโหดร้าย สอนพวกเขาให้รอดพ้นความผิดโดยอ้างว่าป่วยทางจิตในคืนวันนั้น หลัวอีอีทะเลาะกับซือซวี่จนเธอออกจากบ้าน เธอไปหลบเฝ้าสังเกตุอยู่ภายในเขตคอนโด หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ซือซวี่ก็ออกมาตามหาเธออย่างกระวนกระวาย หลัวอีอีดีใจมาก เธอวางแผนแอบเดินตามหลังหวังจะแกล้งเขาขณะนั้นก็มีคนลากเธอเข้าไปในพุ่มไม้และทำร้ายเธอจนหมดสติเช้าวันต่อมา ชิ้นส่วนศพของหลัวอีอีถูกโยนกระจัดกระจายตกลงมาภายในเขตคอนโดฝาแฝดสองคนนั้นลงมืออย่างโหดเหี้ยมและบ้าระห่ำมาก ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องให้ตัวเอง ทว่าก็เป็นการพิสูจน์ได้เรื่องหนึ่ง ว่าพวกเขาป่วยเป็นโรคจิตจริงและไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้ภายหลังการสืบสวน