“ช่วงนี้ว่างเหรอก้อย”
“ค่ะ ก้อยลาออกจากงานที่บริษัทแล้วล่ะค่ะ กะว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนให้รู้สึกดีกว่านี้อีกสักหน่อยแล้วจะกลับมาหางานทำใหม่”
“ไม่ต้องหาหรอก ถ้าพักจนสบายใจแล้วก็มาทำงานกับผมสิ ตอนนี้ผมกำลังต้องการเลขา พอดียัยแอ้มขอลาออกไปช่วยงานพ่อเธอแล้ว” ได้โอกาสก็ทาบทามคนที่ไว้ใจได้ทำงานเสียเลย เพราะสิ้นเดือนนี้อารียาลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เตรียมตัวไปบริหารงานโรงแรมกับพ่อของเธอหลังจากฝึกทำงานเป็นเลขาอยู่กับเขาได้สักระยะแล้ว
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะภู”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว”
กวินตราพยักหน้าพร้อมฉีกยิ้มน้อยๆ เป็นการขอบคุณน้ำใจของภูมินทร์ ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยเธอในฐานะเพื่อนเสมอ แบบนี้เองเธอถึงได้ยกให้เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเสมอมา
พราวฝนกลับจากโรงแรมที่ฝึกงานในช่วงเย็นเธอก็นั่งรถแท็กซี่ตรงมายังบ้านของภูมินทร์ เธออยากจะมาเยี่ยมพี่สาวหลังจากไม่เจอกันร่วมอาทิตย์ เพราะปกติแล้วเธอจะพักอยู่ที่โรงแรมที่ตัวเองฝึกงาน เนื่องจากโรงแรมนั้นเป็นของ เพชร ไชยกมลพรรณ ลุงแท้ๆ ของภูมินทร์ เธอเลยได้สิทธิพิเศษอยู่ที่นั่นฟรี เพราะตอนนี้อยู่ในการปกครองของภูมินทร์
สาวแว่นหน้าตาจิ้มลิ้มตัวเล็กในชุดพนักงานโรงแรมลงจากรถได้ก็รีบสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในบ้านหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร สีหน้าของเธอระรื่นเมื่อรู้ว่าจะได้พบพี่สาว
แต่เข้าบ้านมาเจอภูมินทร์ได้ไม่ถึงห้านาทีพราวฝนก็เริ่มหน้าเสีย เพราะรู้ว่าพลอยฟ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ทั้งยังรู้ว่าพี่สาวของเธอปฏิเสธการรักษาทุกอย่างจากหมอ ทั้งที่ผ่าตัดอีกครั้งดวงตาก็น่าจะหายเป็นปกติแล้ว
“พี่พลอยไม่ยอมรักษาต่อจริงๆ เหรอคะ ทำไมถึงได้ตัดสินใจแบบนั้นกัน”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพี่คุณถึงได้ตัดสินใจแบบนั้น แต่ผมเลือกที่จะตามใจเธอ เพราะไม่อยากให้เธอเครียด”
“เข้าใจแล้วค่ะ พราวขอตัวกลับก่อนนะคะ” พราวฝนร่ำลาภูมินทร์เรียบร้อยเธอก็เดินเหม่ออยู่ข้างถนนพักใหญ่ คิดไม่ตกว่าอะไรทำให้พลอยฟ้าตัดสินใจแบบนี้
พราวฝน กิตติพรรณวิไล หญิงสาวตัวเล็กวัย 21 รูปร่างหน้าตาน่ารักน่าชังราวกับตุ๊กตา ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโต เรียกได้ว่ามีใบหน้าน่ารักน่าชังไม่ต่างไปจากพี่สาว แค่เป็นคนสายตาสั้นจนใส่แว่นหนาเตอะเท่านั้น บุคลิกลักษณะนิสัยเรียบร้อย อ่อนหวานเช่นเดียวกับคนเป็นพี่เหมือนกัน แค่แอบดื้อตาใสกว่าคนเป็นพี่นิดหน่อยเท่านั้น
ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน เพราะกำลังจะเรียนจบระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพมหานคร เธอตั้งใจว่าหากเรียนจบแล้วก็จะรีบหางานทำและเลี้ยงตัวเองให้ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระของภูมินทร์ให้รู้สึกเกรงใจมากนัก แต่เรื่องที่ทำให้เธอเครียดมากที่สุดตอนนี้กลับไม่ใช่เรื่องของเธอ ทว่าเป็นเรื่องของพี่สาวมากกว่า
เธอจำได้ว่าพลอยฟ้าเคยพูดว่าอยากรักษาดวงตาให้หายเร็วๆ หลังจากนั้นเธอก็จะได้รีบทำงานหาเงินใช้เองโดยที่ไม่ต้องรบกวนภูมินทร์
แต่คำพูดของภูมินทร์ที่มาบอกเธอว่าพี่เธอปฏิเสธการรักษาและอยากอยู่เพียงลำพังคนเดียวที่บ้านพักตากอากาศหลังเก่าของพ่อ เธอเองก็ยิ่งแปลกใจ เห็นทีคงจะต้องเดินทางไปหาเพื่อถามความเป็นไปเป็นมาด้วยตัวเองเสียแล้ว
พลอยฟ้าพยายามใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่เคยเต็มไปด้วยความสุขเมื่อมาเยือน แต่ตอนนี้หญิงสาวแทบจะมีน้ำตาทุกวินาทีเมื่ออยู่ที่นี่ ไม่เพียงแค่ถูกภูมินทร์กระทำย่ำยีพรากความบริสุทธิ์จนไข้ขึ้น เธอยังต้องหาทางเอาชีวิตรอดเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวในขณะที่ตาของเธอมองอะไรไม่ค่อยจะเห็น
ยังนึกไปในแง่ดีที่ในบ้านยังพอจะมีอาหารประทังชีวิต แม้จะเป็นแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋องก็เถอะ เธอต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ เพราะคนที่ห่วงที่สุดคือพราวฝน น้องสาวของเธอที่ยังเรียนไม่จบ หากพราวฝนเรียนจบมีงานทำดูแลตัวเองได้ เธอจะไม่ห่วงขนาดนี้เลย
แค่ไม่เหลือพ่อกับแม่เป็นที่พึ่งก็เศร้าใจพอตัวแล้ว เธอยังต้องมาบาดเจ็บจนตาไม่สามารถมองเห็นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซ้ำยังถูกรังแกจากคนที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนดี ชีวิตของเธอทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
ฟู่ ฟู่ อี๊ด... เสียงของกาน้ำร้อนที่เธอตั้งเอาไว้บนเตาแก๊สเริ่มดังขึ้นเป็นสัญญาณให้พลอยฟ้ารู้ว่าเธอต้องรีบปิดเตาแก๊ส ไม่เช่นนั้นอีกไม่กี่วินาทีน้ำในกาต้มก็คงจะเดือดทะลักออกมา แล้วจะเสี่ยงให้เธอโดนน้ำร้อนลวกด้วย
“อ๊าย” ไม่ทันความคิดพลันมือก็ถูกลวกด้วยน้ำเดือดขณะกำลังคลำเพื่อจะปิดเตาแก๊ส และเป็นขณะเดียวกันที่พราวฝนเข้ามาในครัวพอดี
“พี่พลอย!” สาวเจ้าตกใจหน้าตาตื่นเรีบเข้าไปปิดเตาแก๊สก่อนจะรีบปิดวาล์วในเวลาอันรวดเร็ว
“มาที่นี่ได้ยังไงพราว คุณภูพามาเหรอ” โพล่งเสียงดังด้วยความตกใจที่รู้ว่าน้องสาวของเธออยู่ที่นี่ ไม่ใช่ภูมินทร์พาน้องของเธอมาที่นี่เพื่อกระทำอย่างที่ทำกับเธอล่ะ
“เปล่าค่ะ พราวมาคนเดียว”
คำตอบของพราวฝนพอจะให้พลอยฟ้าหายใจหายคอได้คล่อง
“เดี๋ยวพราวพาพี่พลอยไปทายานะคะ ดูซิเนี่ยมือแดงหมดเลย” พูดจบก็จูงมือพี่สาวออกไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นและรีบกุลีกุจอหากล่องปฐมพยาบาลมาปฐมพยาบาลให้พี่สาว
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”
“ก็เมื่อวันก่อนพราวไปหาพี่พลอยที่บ้าน คุณภูเค้าบอกว่าพี่พลอยขอให้เค้ามาส่งที่นี่เพราะอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ แถมยังบอกว่าพี่พลอยไม่ยอมรับการรักษาอีกต่อไป พราวพยายามโทรหาพี่พลอยเท่าไหร่ก็ไม่ติด พอวันหยุดก็เลยขับรถมาหานี่ไง” เธออธิบายขณะทายาที่มือให้พี่สาว“เป็นอย่างที่คุณภูพูดนั่นแหละ”“อะไรทำให้พี่พลอยตัดสินใจแบบนี้คะ ก่อนหน้านี้ก็บอกพราวเองว่าอยากหายไวๆ จะได้รีบหางานทำแล้วก็จะได้ไม่ต้องเป็นภาระใครอีก”“พี่...พี่ไม่อยากเป็นภาระใครตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อยากให้คุณภูต้องใช้เงินเยอะๆ เพื่อรักษาพี่อีกแล้ว แค่คุณภูส่งพราวเรียนก็พอแล้ว”“แต่คุณภูเค้าก็เคยบอกว่าเค้าเต็มใจดูแลพวกเรานะคะ เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวเราก็เคยช่วยเหลือครอบครัวคุณภูตั้งเยอะ”“พี่ไม่อยากให้เค้ามาเสียเงินรักษาพี่อีก”“แล้วถ้าเป็นเงินของพราวล่ะคะ ถ้าพราวมีเงินพี่พลอยจะยอมรักษาต่อไหม”พลอยฟ้านั่งเงียบก่อนจะพยักหน้าตอบ “อืม” เธอรับปากไปส่งๆ เพราะรู้ว่ายังไงน้องสาวของเธอก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าผ่าตัดให้เธออยู่แล้วพราวฝนยิ้มกว้าง อย่างน้อยตอนนี้พี่สาวของเธอก็รับปากที่จะรักษาต่อด้วยเงินของเธอ แม้จะไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมารัก
หญิงสาวยืนปาดน้ำตาอยู่ครู่ใหญ่จากนั้นก็เอื้อมมือปิดหน้าต่างแล้วเดินกลับมาที่เตียงนอนกว้างในขณะที่พลอยฟ้ากำลังจะทิ้งตัวลงนอนเตียงนุ่มเธอก็ต้องผุดลุกนั่งกะทันหันพร้อมควานหาอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เตรียมเอาไว้บนหัวนอนเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องนอนของเธอถูกเปิด“คิดว่าไอ้ท่อนไม้แค่นี้จะทำอะไรผมได้เหรอ”เสียงของภูมินทร์ดังขึ้นทำพลอยฟ้าโล่งอกที่เป็นเขา แต่ก็โล่งอกได้ไม่กี่นาทีเธอก็จำได้ว่าเขาก็อันตรายไม่แพ้โจรที่เธอกลัวเหมือนกันฟึ่บ กึก กึก ไม้ในมือของพลอยฟ้าถูกภูมินทร์กระชากขว้างทิ้งไปมุมห้อง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นสาวเจ้าก็ถูกชายหนุ่มผลักให้นอนหงายลงไปกับเตียงจนตกใจร้องเสียงหลง “อ๊าย”ภูมินทร์คร่อมคนตัวเล็กได้ก็รีบคว้าข้อมือทั้งสองของหญิงสาวตรึงเอาไว้กับเตียงนุ่ม“จะทำอะไร ปล่อยพลอยนะ”“ผมรู้ว่าวันนี้พราวมาหาคุณ บอกอะไรกับเธอไปบ้าง”“พลอยไม่ติดจะบอกเรื่องอัปยศให้น้องพลอยฟังหรอกค่ะ คุณสบายใจได้” เธอเอ่ยตอบเสียงแข็ง ไม่คิดว่าภูมินทร์จะเข้ามาที่นี่ในเวลากลางดึก ทว่าคงรู้เรื่องว่าน้องสาวของเธอมาหาที่นี่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ตั้งถามกับเธอแบบนี้แน่นอน“อืม...” กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจนสาวเจ้าต้องย่นจมูก
“คือ ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่ฉันเครียดเรื่องพี่พลอย”“พี่พลอยทำไม”“ก็พี่พลอยไม่ยอมรักษาดวงตาต่อน่ะสิ พูดแค่ว่าไม่อยากรบกวนเงินของคุณภูมากไปกว่านี้”“อ้าว แต่คุณภูเค้าก็เต็มใจช่วยไม่ใช่เหรอ”“อืม เออ แล้วพี่ข้าวจะกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่ ฉันอยากให้พี่ข้าวลองคุยกับพี่พลอยดู” ตอนนี้พราวฝนอยากให้ขวัญฤดีพี่สาวของขวัญฤทัยได้ลองพูดคุยกับพี่สาวของเธอมากๆ เพราะขวัญฤดีเป็นเพื่อนสนิทกับพลอยฟ้า หากได้ขวัญฤดีมาช่วยพูดตะล่อมให้พี่สาวของเธอยอมลดศักดิ์ศรีแล้วใช้เงินของภูมินทร์รักษาตัวไปก่อนพี่สาวเธออาจจะรับฟังก็ได้“เห็นบอกว่าอีกเดือนนึงเลย ให้พี่ข้าวโทรคุยได้ไหมล่ะ” ขวัญฤทัยหน้าเจื่อน จำได้ว่าเมื่อวานพี่สาวเธอโทรมาบอกแม่ว่าตอนนี้เจ้านายของพี่สาวเธอเลื่อนกำหนดกลับช้ากว่าเดิมเพราะการคุยงานยังไม่เรียบร้อยดี“พี่พลอยไม่ใช้โทรศัพท์เลยน่ะสิ”“งั้นเดี๋ยวฉันจะลองถามพี่ข้าวดูนะว่าจะกลับมาไวกว่านั้นได้ไหม”“ขอบใจนะ” เห็นจะมีความหวังอีกครั้งกับขวัญฤดี ภาวนาว่าหากขวัญฤดีกลับมาพูดตะล่อมให้พี่สาวของเธอรักษาแล้วพี่ของเธอจะเชื่อบ้างหลังเลิกงานพราวฝนเลือกที่จะไม่กลับไปพักผ่อนที่ห้องหรูในโรงแรม แต่เธอเลือก
พราวฝนตกลงรับความช่วยเหลือของหนึ่งธิดาเรียบร้อย เย็นวันนี้หนึ่งธิดาก็รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาพราวฝนไปหาเจ๊มะเหมี่ยว คนที่เป็นทั้งเจ้านายและเป็นเสมือนแม่บังเกิดเกล้าในทันทีมะเหมี่ยวหญิงวัยสี่สิบปลายๆ แต่ยังดูสวยไม่แพ้สาวแรกรุ่น ด้วยดูแลตัวเองดีทุกกระเบียดนิ้ว เพราะต้องใช้รูปร่างหน้าตาติดต่องานอยู่บ่อยๆเมื่อมะเหมี่ยวเห็นพราวฝนคราแรกก็แทบจะไม่อยากคิดจะหางานให้ เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานเอาอกเอาใจลูกค้าระดับวีไอพีของเธอได้หรือเปล่า แม้จะหุ่นดีผิวพรรณงามแต่ก็ยังดูเฉิ่มและใสซื่อจนเกินไปแต่เมื่อหนึ่งธิดาได้ลองถอดแว่นหนาๆ ของพราวฝนออก มะเหมี่ยวก็ตาลุกวาว รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอได้เพชรเม็ดงามที่จะทำเงินให้เธอได้อย่างงามแน่นอน“ดูซิเนี่ย ความสวยของหนูมันถูกแว่นหนาๆ บดบังไปหมดรู้ตัวรึเปล่า ทำไมไม่ใส่คอนแทคเลนส์ล่ะ”“พราวไม่ค่อยชอบค่ะ ใส่แว่นมันก็ง่ายกับการใช้ชีวิตดีค่ะ”“แต่ถ้าจะทำงานกับเจ๊ก็ต้องถอดแว่นนะจ๊ะ”“ได้ค่ะ พราวจะถอดค่ะ”“ดีมาก งั้นเรามาลองแต่งตัวกันดีกว่า แองจี้เอาน้องไปแต่งตัวเตรียมถ่ายรูป”“ค่ะเจ๊”สาวสองร่างสูงเข้ามารวบตัวพราวฝนเข้าไปในห้องแต่งตัวพักใหญ่ และแล้วหญิงสาวที่แสน
ณ ห้องสวีทหรูชั้นบนสุดของโรงแรมระดับห้าดาวติดริมแม่น้ำสายใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ใกล้จะกลางดึกแล้ว แต่ชายหนุ่มนักเรียนนอกเจ้าสำราญวัย 28 ย่าง 29 อย่างภควัตรก็ไม่รู้สึกง่วงเพลียแม้แต่น้อย เพราะยังปรับเวลาให้ร่างกายพักผ่อนตามเวลาของประเทศไทยไม่ได้และกิจกรรมฆ่าเวลาของเขาก็คือการได้จิบไวน์ ลงว่ายน้ำเล่นที่สระว่ายน้ำหลังห้องสวีทเพื่อรอการได้เชยชมสาวไทยบริสุทธิ์ที่ส่งตรงมาจากสังกัดของมะเหมี่ยว ชื่อนี้ที่เพื่อนๆ ของเขาการันตีเด็กในสังกัดของมะเหมี่ยวมีแต่งานดีๆ เกรดพรีเมี่ยมแล้วนี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มลองสาวไทย เพราะก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตอยู่แต่ต่างประเทศ สาวๆ ที่เข้ามาในชีวิตก็จะมีเพียงแค่คนละเชื้อชาติเท่านั้น อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคนที่เชื่อชาติเดียวกันจะทำให้เขาหัวใจเต้นแรงได้มากแค่ไหนไม่ทันที่จะได้หลุดจากภวังค์ความคิด นัยน์ตาของหนุ่มหล่อหุ่นล่ำที่กำลังแช่ตัวอยู่ในน้ำก็เริ่มมีแววตาเป็นประกายเมื่อได้สบสายตากับหญิงสาวตัวเล็กใบหน้าสวยหวานในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ยอมรับว่าเธอดูสวยน่ารักมากกว่าในรูปหลายเท่า หุ่นนาฬิกาทรายกับร่างกายที่เป็นทรวดทรงและผิวเนื้อนวลเนียนที่ชวนสัมผัสนั้นทำให้เขาเริ
เมื่อรับรู้ได้ว่าหญิงสาวเริ่มจะยืนไม่อยู่เขาก็รีบรวบอุ้มเธอขึ้นเตียงจากนั้นก็สลัดกางเกงว่ายน้ำต่อด้วยแพนตี้ตัวจิ๋วของคนตัวเล็กเหวี่ยงทิ้งไปข้างเตียง จากนั้นก็นอนเนื้อแนบเนื้อกันอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มร่ายลีลาการจูบนุ่มนวลสลับเร่าร้อน เล้าโลมให้คนตัวเล็กได้มีอารมณ์ร่วมยิ่งภควัตรได้สัมผัสตัวของพราวฝนมากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกถูกใจในตัวของเธอมากเท่านั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลังจากนี้เขาจะขอให้เธอมาบริการเขาเพียงคนเดียว ทว่าตอนนี้ก็ใช่เวลาที่จะมาตกลง เพราะเขาอยากจะลุกล้ำตัวตนเข้าไปในตัวของเธอแทบแย่อยู่แล้วพราวฝนหายใจติดๆ ขัดๆ ตอนนี้สับสนกับร่างกายของตัวเองในขณะที่กำลังถูกเล้าโลม บางครั้งก็เหมือนจะมวนท้องจั๊กจี้ไปทั้งตัวเหมือนจะไม่ชอบที่เป็นแบบนี้ แต่ก็รู้สึกชอบในคราวเดียวกันในขณะเดียวกันก็เหมือนจะควบคุมสติได้ บางครั้งก็เหมือนจะควบคุมไม่ได้ เธอกำลังตกอยู่ในสภาวะใดกันแน่ การจะได้ร่วมเตียงกับผู้ชายครั้งแรกคนอื่นจะเป็นเหมือนเธอหรือเปล่า ตอนนี้ในหัวสับสนไปหมด“อะ อ๊าย...” ไม่ทันที่จะได้เข้าใจตัวเองสาวเจ้าก็กรีดร้องเสียงหลง ความป่วนปั่นในร่างกายหายไป เปลี่ยนเป็นความเจ็บจุกแผ่ซ่
“อาการของคุณพลอย ฉันว่าถ้าผ่าตัดอีกครั้งมีโอกาสที่ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคุณพลอยตัดสินใจแบบนั้น”“ก็เธอสบายใจที่จะทำแบบนี้ ฉันที่มีหน้าที่ดูแลเธอก็ต้องทำให้เธอสบายใจที่สุดเท่าที่จะทำได้”“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันอยากคุยกับเธอ”“รู้สึกว่าแกจะเอาใจใส่พลอยเหลือเกินนะ ฉันก็บอกเหตุผลกับแกตามที่พลอยบอกฉันไปแล้ว แล้วฉันก็ไม่อยากถามอะไรให้เธอไม่สบายใจอีก มีธุระแค่นี้ใช่ไหม ฉันประชุมมาเหนื่อย ขอตัวพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินหนี ไม่คิดเกรงใจอคิณที่อุตส่าห์มาหาถึงบ้าน“อะไรของมันวะ” หมอหนุ่มไม่เข้าใจว่ามาถามเรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำเป็นอารมณ์เสียใส่เขาขนาดนี้ด้วย ถึงภูมินทร์ไม่คิดจะบอกเรื่องที่อยู่ของพลอยฟ้ากับเขา แต่เขาก็จะหาทางรู้ด้วยตัวเองให้ได้เขาอยากจะพูดคุยกับพลอยฟ้าให้เธอยอมกลับมารักษาตัว หากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยนานกว่านี้ หญิงสาวอาจจะไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติ คนเป็นหมออย่างเขายอมให้คนไข้ของตัวเองเจอชะตากรรมแบบนั้นไม่ได้จริงๆตั้งแต่เมื่อวานที่อคิณมาหา จนถึงเช้าของวันทำงานในใหม่ของภูมินทร์ เขาก็ยังไม่สามารถทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้นมาได้ ไม่รู้ว่าทำไ
พลอยฟ้าง้างมือฟาดไปอีกรอบ เพียะ ครั้งนี้หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองฟาดไปโดนส่วนไหนของภูมินทร์แต่ก็ขอให้ได้ทำร้ายเขากลับบ้าง จะได้ถือว่าเอาคืนจากความเจ็บปวดที่เธอได้รับ“ยังไม่หยุดทำร้ายผมใช่ไหม” ภูมินทร์ละมือจากทุกอย่างมาดึงข้อมือทั้งสองของพลอยฟ้าเอาไว้ไม่ยอมให้เธอได้ทำร้ายเขาอีก“คุณทำพลอยก่อนนะ” เธอตวาดลั่นขณะถูกอุ้มลากไปที่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ ฟึ่บ ปึก “อึก...” และแล้วพลอยฟ้าก็ถูกโยนให้ไปนอนกลิ้งอยู่ที่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ เธอเจ็บจุกจนแทบร้องไม่ออกเพราะหลังกระแทกเข้ากับรากไม้เต็มแรงแต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นนั่งเธอก็ถูกภูมินทร์คร่อมขึงเอาไว้และฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี“อย่า...อื้อ” ริมฝีปากบางถูกประกบจูบเอาไว้อย่างไร้ความนุ่มนวล และแล้วพลอยฟ้าก็ได้ตกเป็นของภูมินทร์ เธอได้รับความทรมานสุดแสนจะบรรยายอีกครั้งภูมินทร์ไม่มีแม้แต่ความปราณีให้หญิงสาวแม้แต่น้อย หากเธอเจ็บปวดที่ถูกเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี เขาก็จะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเธอเล่น ให้เธอตกนรกทั้งเป็นจนตรอมใจตายไปในเร็ววันได้ยิ่งดีหลังจากหยุดงานไปหนึ่งวันเต็มๆ เพราะถูกสูบพลังจากร่างกายจนป่วย วันนี้พราวฝนก็ได้ฤกษ์มาทำงานเพราะอ
“แล้วคุณก้อยจะโดนกี่คดีคะ เธอทำไปเพราะแค่ความรักคำเดียวจริงๆ”“วิธีรักในทางที่ถูกมันก็มี แต่สิ่งที่เธอทำมันคือการเห็นแก่ตัวแล้วก็โหดร้ายเกินมนุษย์ พี่เองก็เคยตกอยู่ในวังวนมืดบอดเหมือนเธอ แต่ดีที่พี่ไม่ทำร้ายพลอยจนถึงแก่ชีวิต คิดแล้วก็...”“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีตอีกแล้วก็ได้ค่ะ”“อืม พี่ดีใจที่พี่ปกป้องพลอยกับลูกเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นพี่คงใจสลาย พักผ่อนเถอะนะ พี่จะนอนอยู่ข้างๆ พลอยไม่ห่างไปไหน” เขาค่อยๆ พาคนในอ้อมกอดลงนอนที่เตียงกว้าง“ค่ะ” พลอยฟ้าค่อยๆ หลับตาลงซุกอยู่กับอกอุ่น รู้สึกขอบคุณชายหนุ่มเหมือนกันที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยและอยากปกป้องจนเธอรู้สึกอุ่นใจได้เร็วแม้จะผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่ถึงวัน“นี่ถ้าพราวอยู่กับพี่พลอยตอนนั้นต้องได้ตบหน้ายัยก้อยนั่นสักทีสองทีแล้ว ดีนะที่หลานพราวไม่เป็นอะไร” พราวฝนบ่นอุกขณะนั่งเรือข้ามฝั่งไปที่เกาะพร้อมกับภควัตร ภคพลและขวัญฤดี พอรู้ว่ากวินตราก่อวีรกรรมอะไรกับพี่สาวของเธอเอาไว้บ้างก็อยากจะฉีกเนื้อยัยคนหน้าเนื้อใจเสือนั่นเป็นชิ้นๆ“โหดเหลือเกินนะคุณ” ภควัตรเพิ่งเห็นพราวฝนโมโหหนักก็ครั้งนี้ จะว่าไปเวลาหญิงสาวโกรธก็น่ากลัวสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน
“พี่ภูคะ พี่หมอมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ บอกว่าด่วนมาก”ภูมินทร์รีบรับโทรศัพท์มือถือจากอารียาขณะที่กำลังดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดวานแต่งริมชายหาด ไม่รู้อคิณมีเรื่องด่วนอะไรจะคุยกับเขา แต่ถ้าหาดจะมาบอกว่าติดงานมาไม่ได้เขาได้เคืองแน่ เพราะก่อนหน้านี้รับปากเขาเอาไว้อย่างดิบดีแล้วว่าจะมางานแต่งให้ได้“ว่าไงคิณ อย่าบอกว่าจะมาไม่ได้นะ” เขาเอ่ยหยอกปลายสายสีหน้าระรื่น แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่อคิณแจ้งให้ทราบก็เริ่มหน้าถอดสี“คุณก้อยเข้ามาทำอะไรในนี้คะ” พลอยฟ้าเข้าห้องนอนมาได้ก็แปลกใจที่เห็นกวินตราอยู่ในนี้ แถมเธอยังฉีกกล่องของขวัญที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ภูมินทร์ยับยู่ยี่คามืออีก“มาก็ดีแล้ว”“โอ้ย” กวินตรากระชากพลอยฟ้าเหวี่ยงไปที่พื้น จากนั้นก็คร่อมหญิงสาวเอาไว้“คนอย่างแกไม่สมควรจะได้มีชีวิตที่มีความสุขอีพลอย คนที่ควรจะมีความสุขอยู่ตอนนี้คือกู”เพียะ “อ๊าย”เสียงร้องของความเจ็บปวดของพลอยฟ้าดังไปถึงหูภูมินทร์ที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดนำหน้าอารียาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน“กูจะทำให้มึงตายไปพร้อมลูก” กวินตราคว้ามีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงหมายจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของพลอยฟ้า แต่พลอยฟ้าก็คว้าข้อมือกวินตราเอาไว
“ก็อย่างที่พี่เคยบอก ตอนที่พี่ไม่รู้เหตุผลว่าพี่ภูทำร้ายพี่ทำไมพี่ก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดเค้า แต่พอรู้เหตุผลก็กลายเป็นพี่รู้สึกผิด แล้วก็สงสารพี่ภูที่สูญเสียคนรักไปก็เพราะพี่”“แล้วพี่ภูเค้าได้บอกไหมว่าเค้ารู้สึกดีกับพี่พลอยตอนไหน”“เค้ารู้สึกผิดเรื่องที่ทำลงไปกับพี่ก็เลยพยายามดูแลพี่เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผ่านมา อยู่ๆ กันไปก็เกิดความรักความผูกพันธ์ขึ้นมามั้ง” เธอไม่อยากพูดเรื่องรายละเอียดยิบย่อยไปมากกว่านี้เพราะนั่นจะเท่ากับว่าเธอต้องพูดเรื่องที่แก้วเกล้าไม่ได้มีลูกกับภูมินทร์ แล้วก็เรื่องที่ภูมินทร์แกล้งเธอจนถูกพวกวัยรุ่นฉุดด้วย เมื่อเรื่องราวร้ายๆ มันผ่านไปแล้วเธอก็อยากให้มันเป็นแค่ความลับเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพูดถึงมันอีก“อย่างนี้นี่เอง พราวดีใจนะที่พี่สองคนหัวใจตรงกัน พราวอยากเห็นพี่พลอยมีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะ”“ขอบใจนะพราว ขอบใจที่ห่วงพี่ตลอด แล้วเรื่องเรากับคุณพัตรล่ะ ทุกอย่างโอเคไหม”“ก็ดีค่ะ ถึงคุณพัตรจะดูกะล่อนแล้วก็เจ้าเล่ห์ไปหน่อย แต่เค้าก็เป็นคนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่งเลยนะคะ”“แสดงว่าบ้านนี้เค้าถูกเลี้ยงให้เป็นสภาพบุรุษกันจริงๆ สินะ คุณพลก็ดูอบอุ่นสุภาพแล้วก็ให้เกีย
พักหลังมาก็เห็นว่าหมอหนุ่มดูร่าเริงดี คิดว่าจะตัดใจจากพลอยฟ้าได้แล้วเสียอีก ที่ไหนได้พอรู้ข่าวว่าหญิงสาวจะแต่งงานกลับจะหนีหัวใจตัวเองไปที่ต่างประเทศเสียอย่างนั้นสาวเจ้าเข้ามาถึงห้องทำงานของหมอหนุ่มได้ก็วางกล่องขนมเค้กตรงหน้าของเขาเช่นวันอื่นๆ ที่ผ่านมา “แอ้มได้ข่าวว่าพี่หมอจะไปเรียนต่อที่อเมริกา จะไปจริงๆ เหรอคะ”“รู้มาจากไหน”“คุณพ่อบอกค่ะ”“พี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากไปเรียนต่อ”“เป็นเพราะพี่หมอรู้เรื่องที่พลอยจะแต่งงานใช่ไหมคะ”“เกี่ยวอะไรกับงานแต่งคุณพลอย” อคิณส่ายหัวน้อยๆ ไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่ทำให้อารียาคิดแบบนั้น“ก็พี่หมอชอบพลอย แล้วก็ยังตัดใจจากพลอยไม่ได้ แอ้มพูดถูกใช่ไหมคะ ถ้าพี่หมอยอมมองคนอื่นบ้างก็คงไม่ต้องหนีหัวใจตัวเองแบบนี้” อารียาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจจนหมอหนุ่มดูออก เขาจึงอมยิ้มมุมปากหลังจากหญิงสาวพูดจบ“ห่วงพี่มากเลยเหรอ”“ค่ะ ห่วงมาก แอ้มไม่เข้าใจว่าทำไมพี่หมอไม่ลืมพลอยซะที”“เรื่องคุณพลอย พี่ทำใจได้ตั้งนานแล้ว พี่ไม่ฝืนให้หัวใจตัวเองต้องจมอยู่กับรักที่เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างพี่ก็พอจะรู้ว่าพี่ควรจะสนใจใคร”“พี่หมอกำ
“ได้สิ พี่พร้อมตอบทุกอย่าง”“ทำไมพี่ภูถึงได้เปลี่ยนไปได้คะ”“พี่รู้ตัวแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับพลอยแค่พี่น้อง ตั้งแต่ที่พี่ไม่ชอบให้คุณพลมายุ่งกับพลอย แล้วก็ไม่ชอบให้คุณพัตรมาทำให้พลอยดีใจ แทนที่จะเป็นพี่ที่ทำทุกอย่างให้พลอย แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าพลอยคิดยังไงกับพี่”“รู้ว่าคิดอะไรคะ”“พี่ได้ยินทั้งหมดตอนที่พลอยคุยกับคิณ ทำไมไม่เคยบอกให้พี่รู้”“พลอยรู้ว่าพี่ภูไม่มีทางมองพลอยนี่คะ” พลอยฟ้าหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตากับคนที่กำลังชันหัวมองจ้องหน้าเธอไม่วางตา“เค้าเรียกคิดไปเอง เมื่อคืนนี้คุณย่าคุยกับพี่ว่าให้มาคุยกับพลอยเรื่องงานแต่ง อยากจะให้มีขึ้นเร็วๆ นี้ไหม”“พลอยแล้วแต่พี่ภูเลยค่ะ อะไรที่พี่ภูมีความสุข พลอยเห็นด้วยค่ะ”“เพราะเราเป็นแบบนี้ไงพี่เลยตกหลุมรักเราง่ายๆ” พูดจบก็กระชับกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น จะว่าไปเรื่องราวของเขากับเธอเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พลอยฟ้าก็ไม่เคยคิดแก้แค้นการกระทำของเขาทั้งที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะมีน่าของเขาเป็นคนหนุนหลัง เธอเป็นห่วงคนอื่นก่อนเสมอ เขาแพ้ความดีข้อนี้ของเธอจริงๆ“พี่ภูหายโกรธพลอยเรื่องคุณพัตรหรือยังคะ พลอยไม่อยากให้พี่ภูคิดมาก”“อืม พี่ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า
หลังจากภูมินทร์ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ พลอยฟ้าก็เปลี่ยนความสนใจที่ดินเป็นผืนท้องทะเลในเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก เธอเดาไม่ออกเหมือนกันว่าภูมินทร์จะสร้างบ้านบนผืนดินแห่งนี้ในรูปแบบไหน แต่เธอเชื่อว่ามันคงเป็นบ้านพักตากอากาศที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุดอีกหลังหนึ่งเลยก็ว่าได้สาวเจ้าเอาแต่เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่นี่จนลืมเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภูมินทร์หายไปนานแล้วเธอก็เริ่มหันกลับมามองหาเขา ทว่ามองหาไปรอบตัวแล้วก็มองไม่เห็นเธอรีบเดินกลับไปที่รถบ้านก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าภูมินทร์อยู่ที่นี่ มองไปยังป่าสนแล้วก็ไม่เจอใคร เธอจึงรีบสาวเท้าไปที่ริมชายหาดเผื่อว่าชายหนุ่มจะอยู่แถวนั้นก็ไม่มี หัวใจตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นกลัว“พี่ภูคะ พี่ภูอยู่ไหนคะ” ขอบตาของพลอยฟ้าเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม ภาพวันที่เขาทิ้งเธอให้เดินคนเดียวข้างถนนวันนั้นมันกลับมาอีกแล้ว เขาแกล้งเธออีกแล้วใช่ไหม“ร้องให้ทำไมพลอย” ภูมินทร์เดินเข้ามายืนตรงหน้าพลอยฟ้าที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้น“พี่ภู” เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่น “พลอยนึกว่าพี่ภูทิ้งพลอยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” โล่งใจเหลือเกินที่เขาไม่ได้คิดจะทิ้งเธ
ภควัตรยังคงสังเกตพราวฝนตลอดเวลา ตั้งแต่เธอออาบน้ำจนขึ้นมานั่งบนเตียงเธอก็ยังดูยังมีเรื่องในใจไม่หาย หากวันนี้เขาไม่ได้รู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไรก็คงนอนไม่หลับเหมือนกัน“คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ คุยกับผมได้นะ”พราวฝนหันมองคนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเรื่องในใจออกมา “ถ้าพราวคุยกับคุณ เรื่องของพราวจะเป็นความลับไหมคะ”“เป็นสิ เรื่องเก็บความลับไว้ใจผมได้ ผมเก่งที่สุด แต่ผมไม่มีความลับกับคุณนะบอกไว้ก่อน”“อันที่จริงพี่พลอยกับพี่ภู ไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความรักตั้งแต่แรก แต่ทำไมคุณถึงบอกว่าพี่ภูหึงพี่พลอยล่ะคะ”“เหรอ แต่ผมมองออกว่าคุณภูหวงคุณพลอยมาก แล้วก็ดูแลเมียเค้าดีมากด้วย ดูอย่างวันนี้สิ ไม่ค่อยจะให้คุณพลอยอยู่ห่างตัวเลย หนุ่มๆ สาวๆ อยู่ด้วยกันใกล้ชิดต้องใช้ชีวิตด้วยกันแทบจะตลอดเวลามันก็ต้องมีใจให้กันบ้าง ไม่เชื่อวันหลังลองไปถามพี่คุณดูสิว่าตอนนี้พวกเค้ามีความสุขดีไหม” เขาตอบไปตามสิ่งที่คิด วันนี้เขาก็เห็นภูมินทร์และพลอยฟ้าเป็นคู่รักที่ตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา ทั้งสายตาที่ทั้งคู่มองกันยังบ่งบอกว่าเป็นคนพิเศษของกันและกันด้วย“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ” ได้รับความ
“น้ำผลไม้ไม่มีเหรอคะพี่แอ้ม” ขวัญฤทัยเอ่ยทักอารียาที่เพิ่งกลับเข้ามานั่งข้างๆ“อ๋อ หมดน่ะจะ”“ทานปลาเผาไหมคะ เดี๋ยวขิงแกะเนื้อปลาให้ ไม่มีแฟนให้บริการ ขิงบริการเจ้านายก็ได้” พูดพร้อมตักเนื้อปลาเผาลงในจานของอารียา“ขอบคุณนะ แบบนี้ต้องประเมิณโบนัสให้พนักงานดีเด่นซะแล้ว”“แบบนี้ยิ่งเต็มใจบริการเลยค่ะ”อารียาพอจะยิ้มออกกับความน่าเอ็นดูของขวัญฤทัย หากเธอมีความสุขแบบคนโสดได้อย่างที่พูดกับขวัญฤทัยก็ดีน่ะสิ เชื่อว่าตอนนี้หมออคิณก็คงจะรู้สึกปวดหัวใจไม่ได้ต่างจากเธอ เธอหวังให้เขาทำใจตัดใจจากพลอยฟ้าได้เร็วๆ เพราะการที่จะตัดใจให้ไม่รักใครสักคนมันทรมานจริงๆ“มาทำอะไรตรงนี้ ไม่ไปสนุกกับเพื่อนล่ะ”“อ๋อ พลอยจะคั้นน้ำผลไม้ค่ะ” เห็นภูมินทร์เข้าครัวมาตามเธอได้ก็รีบลุกจากเก้าอี้หยิบผลส้มที่ล้างเตรียมเอาไว้มาผ่าครึ่ง“เดี๋ยวพี่ช่วย”“ขอบคุณค่ะ เอ่อ... พี่ภูคะ พรุ่งนี้พี่ภูจะไปไหนไหมคะ”“ทำไมเหรอ”“พรุ่งนี้คุณพัตรให้พลอยไปเซ็นรับบ้านค่ะ คุณพัตรอยากให้บ้านเป็นของขวัญปีใหม่กับพลอยค่ะ”“เค้ามาให้พลอยทำไม” มือที่กำลังหยิบจับช่วยหญิงสาวหยุดชะงักลง ไม่คิดว่าจะมีใครมาให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับพลอยฟ้าตัดหน้าของเขาดื้อๆ
“อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ผมนานๆ เหมือนกันนะครับคุณย่า”หญิงชรายื่นมือวางบนหัวของหลานทั้งสอง “ย่าขอให้หลานทั้งสองของย่า คิดสิ่งใดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต เดินในทางที่ถูกที่ควรตลอดไปนะลูกนะ”“ขอบคุณครับคุณย่า/ขอบคุณค่ะคุณย่า”“นี่ถ้าคุณลุงกับคุณป้าอยู่พร้อมหน้ากันก็ดีนะครับ” ภูมินทร์นึกถึงเพชรกับอรอนงค์ หากทั้งสองอยู่ที่นี่ในตอนนี้ด้วยย่าของเขาก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้“สองรายนั้นเค้าชอบเที่ยวต่างประเทศกันอยู่แล้วย่าชินแล้วล่ะ” ลาวัลย์เห็นเป็นเรื่องปกติของลูกชายกับลูกสะใภ้แล้วว่าปีใหม่ทั้งสองชอบไปเติมความหวานกันที่ต่างประเทศ แต่เธอเองก็ไม่ได้นึกน้อยใจที่ลูกไม่อยู่ เพราะปกติแล้วทั้งสองก็เข้าไปเยี่ยมเยียนเธอที่บ้านสวนเป็นประจำ“ว่าแต่เราเถอะยังแอ้มย่ายังแปลกใจว่าทำไมไม่ไปกับพ่อแม่เราล่ะ” ที่น่าแปลกก็เห็นจะเป็นอารียาที่ปีนี้อยู่ที่เมืองไทย ไม่ได้ไปเที่ยวพร้อมกันกับพ่อและแม่อย่างที่เคยไป“ปีนี้ไม่ค่อยอยากเที่ยวค่ะ อยากใช้วันหยุดแพลนงานมากกว่า”“ท่าทางจะสนใจแต่งานแบบนี้แล้วเมื่อไหร่หลานสาวย่าจะมีแฟนกับเค้าล่ะเนี่ย”“แอ้มยังไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกค่ะ”“ดูโน่นสิ ไม่อิ