ขาเรียวสวยก้าวไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของณรงค์ ใบหน้าคมเงยหน้ามองเธอ พลางส่งสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“สรมาที่นี่ทำไม”“สรคิดถึงพี่ ก็เลยตั้งใจมาหาพี่ให้หายคิดถึง” เธอยิ้มหวาน แต่ทว่าสามีกลับแสยะยิ้มเมื่อได้ยินที่เธอพูด“คิดถึงเหรอ? ใช้ชีวิตสุขสบายแล้วจะคิดถึงพี่ทำไมอีก”ดวงตาดำขลับฉายแววสั่นไหว “ทำไมพี่พูดอย่างนั้นล่ะ สรเป็นเมียพี่ก็ต้องคิดถึงพี่สิ”“เหอะ! เป็นเมียพี่อย่างนั้นหรือสร”ชายหนุ่มยืนขึ้นพลางมองใบหน้าสวยด้วยแววตาเดือดดาลก่อนจะว่าต่อ“ตอนนี้เธอไม่ได้เหมือนเมียพี่เลยสร เธอเหมือนเป็นเมียเสี่ยชัชมากกว่า”ทั้งท่าทางหมางเมินและคำพูดไม่รื่นหูของสามี ทวีความขุ่นเคืองภายในใจของหญิงสาวจนเธอไม่สามารถข่มความโกรธได้อีกต่อไป“แล้วใครกันที่ให้สรเอาตัวเข้าแลกเพื่อใช้หนี้” เธอเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ใครกันที่มันสร้างปัญหาเอาไว้ มันก็เป็นเพราะพี่ทั้งนั้น แล้วพี่จะมาตัดพ้อทำตัวงี่เง่าให้ได้อะไร”“เธอหาว่าพี่ทำตัวงี่เง่าเหรอ”เขาแผดเสียงดังลั่น ทำเอาหญิงสาวตะลึงงันและรู้สึกอาย เพราะตอนนี้มันไม่ได้มีแค่เขากับเธอที่อยู่ตรงนั้น“แล้วเธอล่ะ ที่ไปเสวยสุขอยู่กับผู้ชายคนอื่น แล้ว
ก๊อก ก๊อก ~ ~หญิงสาวเคาะประตูห้องทำงานของชัชวาลก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน เจ้าของบ้านละสายตาจากงานตรงหน้าก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างอบอุ่นให้นภัสสร“เป็นไงออกไปช้อปปิ้งของนอกมา สนุกไหม”เธอผงะไปเล็กน้อยพร้อมกับความรู้สึกผิดที่แล่นขึ้นมาเฉียบพลัน“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น” เขาเอ่ยก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นมาหาหญิงสาว“ที่จริงวันนี้สรไม่ได้ไปห้างค่ะ” ดวงตากลมโตฉายแววหม่นเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะว่าต่อ “สรไปหาพี่ณรงค์มา”“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย”ใบหน้าคลาคล่ำไปด้วยประสบการณ์เพ่งพินิจมองคนตัวเล็ก พลางลูบแขนอย่างอ่อนโยนคล้ายปลอบประโลม“ส...สร” นภัสสรเอ่ยตะกุกตะกัก ในขณะเดียวกันหยดน้ำตาก็ร่วงหล่นอีกครั้ง“เป็นอะไร ไหนบอกฉันมา” ชัชวาลเอ่ยอย่างใจเย็น“สรขอพี่รงค์หย่าแล้วนะคะ”เธอเอ่ยก่อนที่น้ำตาจะพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก ร่างบางสั่นสะท้านร้องสะอื้นปานจะขาดใจ ทำเอาคนโตกว่าใจเจ็บไปด้วยเมื่อได้เห็นวงแขนแกร่งโอบรับเธอเข้ามาในอ้อมกอด พลางลูบหลังอย่างแผ่วเบา เขาไม่เอ่ยอะไร นอกจากปล่อยให้นภัสสรร้องไห้ระบายออกมาเท่าที่เธอต้องการเธอผละจากอ้อมแขนของชัชวาลก่อนจะเอ่ย “สรมีเรื่องหนึ่งอยากให้เสี่ยช่วยค่ะ
ว่าจบริมฝีปากหยักนุ่มก็บรรจงจูบเรียวปากบางของหญิงสาว รสจูบอันหอมหวานทำให้เธอเคลิบเคลิ้มคล้ายกับตกอยู่ในภวังค์ นอกจากอ้อมแขนอันอบอุ่นที่โอบกอดเธอไว้ในยามที่หลั่งน้ำตา ก็มีสัมผัสรสสวาทที่สามารถคลายเศร้าให้เบาลงได้ ยิ่งเธอเสียใจมากเท่าไหร่ เธอยิ่งโหยหาและต้องการสัมผัสแนบชิดจากเสี่ยชัชมากเท่านั้น ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นยาวิเศษชุบชีวิตให้เธอกลับมายิ้มได้อีกครั้งกางเกงของชายหนุ่มถูกปลดเปลื้อง เผยให้เห็นท่อนลำเอ็นที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่ นภัสสรนั่งคุกเข่าที่พื้นก่อนเลื่อนใบหน้าขาวถูไถไปกับส่วนแกนกาย เนิบช้าแต่เร่าร้อน ทำเอาชัชวาลต้องขบฟันกดเสียงครางต่ำ“ซี้ดดดดดด”ปากบางเผยองับถุงกลมสีคล้ำสองลูก พลางดูดอมอย่างออกรส จนคนโตกว่าแทบทนไม่ไหว ถึงกับต้องจิกเรือนผมของเธอเอาไว้เพื่อระบายความเสียวซ่านเมื่อความเป็นชายตั้งตระหง่านหลังจากที่ได้รับการปรนเปรอ ชัชวาลก็เอนกายพิงโซฟา ก่อนที่ร่างสะโอดสะองจะขึ้นคร่อมร่างหนาแล้วเคลื่อนขยับสะโพกบดเบียดท่อนเอ็นไปมาเป็นจังหวะมือหนาเลื่อนปลดกระดุมเสื้อของหญิงสาวทีละเม็ดก่อนจะควักสองเต้าออกมาหยอกล้อด้านนอก เขาใช้นิ้วเขี่ยสะกิดยอดอกที่เริ่มแข็งเป็นไตแล้วจึงใช้ลิ้นเลียว
“เสี่ยครับ เอาตัวมันมาแล้วครับ”ชายฉกรรจ์บอกผู้เป็นนาย ที่ตอนนี้นั่งเอนกายพิงพนักเก้าอี้ พลางพ่นควันบุหรี่อย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้องทำงานที่บ่อนเถื่อนย่านชานเมือง“มันอยู่ที่ไหน” ชัชวาลเอ่ยเสียงดุดัน“ผมมัดมันขังไว้ที่ห้องใต้ดินครับเสี่ย” ชายวัยกลางคนเหยียดยิ้มอย่างพอใจกับผลงานของลูกน้อง“ดี เดี๋ยวฉันลงไป”สิ้นเสียงทุ้มน่าเกรงขาม กายแกร่งก้มลงเลื่อนเปิดลิ้นชักหยิบกระบอกอาวุธ ที่เขาจะเอาออกมาเมื่อมีเรื่องจำเป็นต้องใช้ ก่อนจะย่างสามขุมก้าวมุ่งหน้าไปยังชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดการเรื่องสำคัญหรือปัญหาต่าง ๆ ที่กวนใจ“ปล่อยกู!! ไอ้พวกเหี้ย!!” เสียงสบถด่าดังออกมาเมื่อเขาก้าวเท้ามาถึงชั้นใต้ดินร่างทะมึนสูงจากไกล ๆ เดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มที่ถูกพันธนาการเอาไว้ เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทว่าก็นึกไม่ออกว่าคนด้านหน้าเป็นใคร จนกระทั่งเสียงทักทายของอีกฝ่ายทำให้เขานึกออก“ว่าไง ไม่เจอกันนานเลยนะ” ชัชวาลแสร้งทำเป็นมิตร“เสี่ยชัช!!”“ใช่ กูเอง”“มึงจับกูมาทำไม” ณรงค์เอ่ยพลางเชิดหน้าอย่างท้าทาย“ที่มึงถาม เพราะไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งโง่กันแน่”ใบหน้าคลาคล่ำไปด้วยกาลเวลาเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
ร่างเพรียวสวยเอนกายเพลิดเพลินกับการแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ เธอรู้สึกหัวโล่งปลอดโปร่งทุกครั้งที่ได้มานอนทอดอารมณ์แช่น้ำเช่นนี้ ความฝันหนึ่งของเธอคือการที่บ้านมีอ่างอาบน้ำอย่างที่บ้านเศรษฐีหลายบ้านมีกัน หากเมื่อไหร่ที่ความฝันของเธอเป็นจริง ตอนนั้นเธอคงนอนแช่น้ำทุกวันอย่างเช่นตอนนี้เอี๊ยด ~ ~ประตูห้องน้ำเปิดออก ทำให้หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของบ้านได้กลับมาแล้ว ชายร่างสูงกำยำพร้อมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวย่างก้าวเข้ามาหาเธอ ก่อนจะยิ้มละมุนอย่างเคย“ขอฉันแช่น้ำด้วยคนได้ไหม” เสียงทุ้มขออนุญาต“ได้สิคะ ก็นี่บ้านของเสี่ย”“แต่ตอนนี้ห้องนี้มันเป็นห้องส่วนตัวของเธอ”“แต่สรเป็นแค่คนอาศัย ไม่มีสิทธิ์อะไรแบบนั้นหรอกค่ะ”“แค่เป็นเมียฉัน เธอก็มีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้” ชัชวาลเอ่ยจริงจัง ทำเอาหญิงสาวกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย“ขอเว-”ยังไม่ทันที่หญิงสาวเอ่ยจบ ชัชวาลก็เอ่ยแทรกขัดขึ้นเสียก่อน“ขอเวลาสรคิดก่อนนะคะ เธอจะบอกฉันแบบนี้ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ” นภัสสรทำหน้าสลดพลางผงกหัวตอบรับร่างกล้าแกร่งถอดชุดคลุมอาบน้ำออก ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งในอ่างอาบน้ำฝั่งตรงข้ามหญิงสาว“เธอจำเป็นต้องใช้เวลาคิด หรือจริง ๆ แล้วเธอ
“แค่รู้สึกดีเท่านี้ก็พอแล้ว”เพราะความรักมันก็ล้วนแต่เกิดจากความรู้สึกดีทั้งนั้นแหละว่าจบริมฝีปากหนาก็แตะแนบสัมผัสเรียวปากสีเชอร์รี่แผ่วเบา คนตัวเล็กเผยอรับจูบด้วยความยินดี ก่อนจะโถมตัวดื่มด่ำและลุกไล้มอบสัมผัสตามอารมณ์ปรารถนาหน้าอกนิ่มถูไถคลึงเคล้าอกแกร่งแนบชิดสนิทสนม ในขณะที่ท่อนแข็งแกร่งด้านล่างไล่เลียเฉียดสัมผัสขาอ่อนเนียนไปมา ทำเอาหัวใจของหญิงสาววาบหวามและเนื้อตัวสั่นระริกจมูกโด่งอันนิดของใบหน้าหวานลุกล้ำดอมดมซอกคอแกร่งของชายหนุ่มอย่างโหยหา ก่อนจะเลื่อนลงต่ำพรมจูบส่วนหัวแดงก่ำอย่างรักใคร่ เธอแลบลิ้นยาวกวาดเลียท่อนเอ็นตั้งแต่โคนไปจนถึงปลาย พลางทำสายตาเย้ายั่วจนคนโตกว่าใจสั่นระรัวแทบระเบิด“ของฉันมันอร่อยขนาดไหนเลยเหรอ เธอถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากจะกินมันขนาดนั้น” เขาแซวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์“ใช่ค่ะ มันทั้งน่าอร่อยและน่าอมมากเลยค่ะ”ว่าจบปากบางก็ครอบแกนกายเข้าไปทันที ทำเอาชายวัยกลางคนเสียววาบโดยไม่ทันตั้งตัว“อ้ะ เธอนี่มันใจร้อนจริง ๆ” เขายิ้มขำเธอผงกหัวขึ้นลงพลางใช้มือช่วยถูรูดส่วนที่เหลือเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงลามกดังสนั่นคลอไปกับเสียงกระเพื่อมของน้ำในอ่าง“อ่อกๆๆๆๆ”“อ่าส์ พอก่อน เด
ดนตรีจากวิทยุเปิดคลอผสานกับเสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เบา ๆ ร่างเพรียวลมเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง พลางทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมายด้วยจิตใจที่ไร้อารมณ์และความรู้สึก“เธอจะแวะไหนไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้นทลายความเงียบที่ก่อตัวตั้งแต่พวกเขาขึ้นรถมาได้สักพัก“ไม่ค่ะ กลับบ้านเลยก็ได้ค่ะเสี่ย” เธอเอ่ยพลางยิ้มไม่เต็มแก้มให้สารถี“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเงียบตั้งแต่ออกมาแล้ว”“สรไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”เธอเอ่ยพลางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ“สรแค่รู้สึกว่างเปล่าค่ะ มันรู้สึกไม่มีอะไรอยู่ในนี้เลย ทั้งความดีใจและความเสียใจ มันไม่มีอะไรเลย” เจ้าของเสียงหวานสั่นเครือขณะกุมหน้าอกข้างซ้าย“เพราะการเลิกรากับคนรักมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี เธอเลยไม่รู้สึกถึงมัน” แต่ทว่าสำหรับชัชวาลแล้วมันกลับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เขาปรารถนาตั้งแต่พบเจอนภัสสร“และอีกอย่างเพราะเธอเสียใจไปแล้วล่ะมั้งก่อนหน้านี้ เวลาที่ต้องหย่าจริง ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรขนาดนั้น”“คงงั้นมั้งคะ” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ“ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรก็ดีแล้ว ปล่อยใจให้มันเป็นไปอย่างที่มันจะเป็น ไม่ต้องพยายามดีใจหรือเสียใจ ไม่ต้องพยายามยัดเยียดให้ตัวเองรู้สึ
เขายิ้มมุมปากก่อนจะขับเข้าไปในซอย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และซากอาคารรกร้างที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน แม้แต่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอื่น ๆ เธอก็ไม่พบเห็น“เสี่ยคะ?”“ว่าไง” เธอถามขณะที่รถคันหรูหยุดการเคลื่อนไหว แต่ทว่าเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่“เราจะทำกันที่นี่เหรอคะ” เธอขมวดคิ้วเป็นปม พลางชี้นิ้วไปยังพงหญ้าและบ้านโทรม ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าไม่เกินห้าร้อยเมตร“ที่จริงตั้งใจจะทำบนรถ แต่ถ้าเธออยากลองเอาท์ดอร์แบบบ้านร้าง ฉันก็ไม่ขัดนะ”เขาพูดเล่น แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย นภัสสรทำหน้าวิตกพลางกุมมือที่สั่นงันงกไว้บนตัก“ฉันพูดเล่น ใครมันจะไปทำกับเธอในที่แบบนั้น” เขาว่าก่อนจะลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน“สรตกใจหมดเลยค่ะ”“หรือเธออยากให้ฉันเปิดโรงแรม” เขาเสนอ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าเป็นในรถ สรก็พอได้อยู่”“เธอเคยลองบนรถแล้วเหรอ”“ยังไม่เคยหรอกค่ะ ถ้าครั้งนี้กับเสี่ยก็ครั้งแรกค่ะ” ชายหนุ่มลอบยิ้มก่อนจะขยับเบาะและปรับที่นั่งให้เอนไปด้านหลัง“ฉันเปิดซิงเธอเหรอเนี่ย” เขายิ้มขำพลางรูดซิปและหล่นกางเกงลงต่ำ“เปิดซิงอะไรกันคะ อย่างสรเนี่ยน่าจะเลยคำว่าซิงไปนานแล้วค่ะ”นภัสสรเปลี่ยนท่านั่งมาคุกเข่าข้างคนขับ ก่อ
นภัสสรขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยท้ายสุดของหมู่บ้าน ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวมาถึง เธอสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระราวกับว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้าน เธอได้รับเกียรตินั้นเสมอตั้งแต่วันแรกที่มาจนถึงปัจจุบัน“สวัสดีค่ะหนูสร ให้ป้าช่วยถืออะไรไหมคะ” ป้าสายออกมาต้อนรับเธออย่างดี“ไม่เป็นไรค่ะป้า เดี๋ยวสรถือเองก็ได้ค่ะ”“หนูสรกินอะไรมาหรือยังคะ ให้ป้าเตรียมให้ไหม”“สรกินมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เสี่ยอยู่ไหนหรือคะ” เธอระบายยิ้มพลางถาม“คุณชัชอยู่ที่ห้องนอนค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย“งั้นเดี๋ยวสรไปหาเสี่ยก่อนนะคะ” เธอปลีกตัวก่อนจะเยื้องย่างมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของชัชวาลก๊อก ก๊อก ~ ~หญิงสาวเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดมันเข้าไปด้านใน เจ้าของบ้านสะลึมสะลือคล้ายกับเพิ่งรู้สึกตัวตื่นหลังจากที่เธอเข้ามา ร่างเพรียวบางหย่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวพรมจูบบนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามทั้งที่ยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่“เพิ่งมาถึงเองค่ะ”“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาถามก่อนจะหยัดตัวนั่งพิงหัวเตียง“จะห้าทุ่มแล้วค่ะ”“อ้าว ดึกแล้วทำ
สามปีต่อมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างเบิกบานแต่ทว่าสำหรับนภัสสรแล้ว วันนี้กลับกลายเป็นวันทำงานที่เธอทั้งกดดันและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นวันที่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ของเธอจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองสักทีหลังจากที่เธอหย่าขาดกับณรงค์ เธอก็ได้เอาเงินเก็บที่เสี่ยชัชให้ด้วยความเสน่หามาลงทุนสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ในช่วงแรกกิจการลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตามประสาคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญการทำธุรกิจมากนักแต่เมื่อได้ลองผิดลองถูกหลายอย่าง มันก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และผลักดันให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอย่างที่เธอต้องการ จนกระทั่งสามารถเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ได้“พี่สรคะ มีดอกไม้มาส่งค่ะ” น้ำรินทร์เอ่ยพลางยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้เจ้าของแบรนด์“ใครให้มาเหรอรินทร์” เธอยิ้มบางพลางทำหน้างุนงงเล็กน้อย“พี่สรดูเองดีกว่าค่ะ”ลูกน้องคนสนิทยิ้มร่าก่อนจะว่าต่อ“แต่รินทร์ว่าพี่สรคงเดาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ก็คงเป็นคนดีคนเดิมของพี่สรนั่นแหละ”หญิงสาววัยสามสิบสามไม่พูดอะไร ก่อนจะก้มหน้าอ่านจดหมายน้อยที่
ชัชวาลอุ้มร่างเพรียวสวยไปวางบนโซฟาอย่างค่อย ๆ พลางถอนแกนกายออก ก่อนจะไปจัดการเช็ดคราบแห่งความสุขสมที่เลอะอยู่กลางห้องอีกฝ่ายวางเธอลงไว้ที่โซฟาท่าไหน เธอก็ยังเอนตัวพิงโซฟาอยู่ท่านั้น นภัสสรนั่งอ้าขาเอนกายพิงพนักที่นั่งอย่างสิ้นสภาพ การร่วมรักครั้งนี้ทำเธอล่องลอย สติกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางจนเธอแทบจะจับจุดและเอาสติกลับมาไม่ได้“เธอโอเคไหม นภัสสร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางจับแก้มนวลเพื่อตรวจเช็กร่างกายว่าเธอยังปกติดีหรือไม่“โอเคค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อน“โอเคจริง ๆ ใช่ไหม ฉันไม่เคยเห็นเธอหมดสภาพแบบนี้มาก่อนเลย” เสียงทุ้มต่ำเจือความกังวลเอ่ยก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก“โอเคจริง ๆ ค่ะ สรแค่หมดแรงเฉย ๆ” ตอนนี้สติของเธอเริ่มกลับมาเกือบหมดแล้ว“งั้นเธอนอนพักก่อนดีไหม”“ก็ดีค่ะ นอนพักสักหน่อยน่าจะดีขึ้น”“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าเอาเธอขนาดนี้เลย” ว่าจบชายหนุ่มก็กดจูบกลางหน้าผากอย่างแผ่วเบา“ไม่ใช่ความผิดเสี่ยเลยค่ะ ก็สรอยากให้เสี่ยทำแรง ๆ เอง และอีกอย่างที่ทำกันเมื่อกี้ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย” เธอเอ่ยพลางเม้มปากอย่างขัดเขิน“หมายความว่ายังไง”“ที่เสี่ยอุ้มสรเมื่อกี้มันดีมาก ๆ เลยค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววเป็
ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีตรงแก้มอย่างเห็นได้ชัด ก้อนเนื้ออกข้างซ้ายเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ รู้สึกประหม่าจนต้องเม้มปากเพื่อแก้อาการเขิน แต่ทว่ามันกลับยั่วยุอารมณ์กามของอีกฝ่ายให้พลุ่งพล่าน จนเผลอกระทุ้งเสยเข้าไปเต็มแรง“อ้ะ จ...จุก”“เจ็บเหรอ”ร่างกำยำถามอย่างเป็นกังวล แต่ก็ยังกระแทกกระทั้นไม่ยั้งแรงเช่นเดิม“ไม่เจ็บค่ะ แค่จุกเฉย ๆ” เธอเอ่ยพลางลูบตรงท้องน้อยที่ปวดมวนวาบเป็นที ๆ“ให้ฉันทำเบากว่านี้ไหม”“ไม่เอาค่ะ ทำแรง ๆ แบบนี้แหละ หนูชอบ”รอยยิ้มเสือร้ายปรากฏบนใบหน้าชายวัยกลางคนทันที ก่อนจะตอกอัดเสยแกนกายอย่างไม่ปรานี ทำเอาหญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความจุกเสียว“อ่าส์ ตรงนั้นแหละค่ะ เสียวสุด ๆ ไปเลย”สะโพกสอบโถมแรงอัดกระแทกเข้าใส่ไม่บันยะบันยัง ทำเอาสองเต้ากลมกลึงเด้งกระเพื่อมตามแรงโน้มถ่วง อีกทั้งเรียวขาสวยทั้งสองข้างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้เต็มฝ่าเท้า แขนแกร่งจึงยกขาข้างหนึ่งของหญิงสาวมาประคองไว้ หวังจะช่วยทำให้เธอทรงตัวได้ง่ายขึ้น แต่ทว่ามันกลับทำให้ท่อนลำเนื้อทะลวงเข้าไปในตัวของอีกคนลึกกว่าเดิม“อ้าาาส์ ล...ลึก ลึกจังเลยค่ะเสี่ย”“พิงผนังไว้ดี ๆ นะ ฉันจะใส่เต็มแรงแล้ว”“กรี๊ดดดด อ่าห์”นภ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกเจ้าของใบหน้าสอางค์ท่ามกลางความเงียบในห้องทำงานของเขา“ไม่เป็นไรค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว” นัยน์ตาดำขลับฉายแววแน่วแน่ขะมักเขม้นกับงานเอกสารตรงหน้าพลางเอ่ย“เธอนั่งทำมาทั้งวันแล้วนะ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”“เสี่ยก็ทำมาทั้งวันเหมือนกัน ไม่เห็นเสี่ยจะเหนื่อยเลยนี่คะ” เธอเอ่ยย้อนตาใส แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำให้คนแก่กว่ารู้สึกเดือดดาล“ก็ฉันทำจนชินไปแล้ว แต่เธอเพิ่งจะทำเองนะ”นภัสสรมาช่วยงานเอกสารและตัวเลขให้ชัชวาลได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์งานด้านนี้มาก่อน แต่ทว่าความรู้จากการเรียนจบครูคณิตฯ ระดับมัธยมศึกษามาก่อนก็พอจะช่วยเธออยู่ได้บ้าง ถึงจะช่วยไม่ได้มากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโง่งมจนเกินไป“ถึงจะเพิ่งทำ แต่สรก็ทำได้นะคะ” เธอยังคงมุ่งมั่น“ก็รู้ แต่มันก็ต้องทำแต่พอดีไง ทำเยอะเกินไป เธอจะล้าเอาได้ เดี๋ยวจะเหนื่อยจนไม่ได้ทำอย่างอื่น” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของชายมีอายุ“เสี่ยหมายถึงทำอะไรคะ” หญิงสาวเอียงคอถามชัชวาลเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เธอก่อนจะโน้มใบหน้าและกระซิบข้างหูหญิงสาวอย่างแผ่วเบา“ก็ทำแบบที่เธอร้องครางเสีย
นภัสสรแหวกกางเกงในออก เพื่อเปิดทางให้หลืบสวาทได้ครอบครองความใหญ่โตได้ดั่งใจปรารถนา เธอจับแกนลำเนื้อให้ส่วนหัวถูไถกับปากถ้ำที่ชุ่มน้ำคลึงเคล้ากระตุ้นอารมณ์กามให้พลุ่งพล่าน พลางเชิดหน้าครางเสียงหวานอย่างระมัดระวัง“อื้ออออ อ่าส์ เสียวจัง”“เธอลองเอามันเขี่ยเม็ดเธอดู”“ไม่เอาค่ะ หนูอยากให้เสี่ยเขี่ยเม็ดให้หนูมากกว่า เสี่ยทำให้หน่อยได้ไหมคะ” แพขนตาสวยกะพริบถี่พลางทำเสียงหวานออดอ้อน“เสี่ยเขี่ยให้ตอนหนูขย่มดีไหมคะ”“ก็ได้ค่ะ”เธอทำปากมุ่ยก่อนกดสะโพกให้ท่อนลำเอ็นเสือกไสเข้าไปจนสุดลำ ความจุกเสียวที่คุ้นเคยแผ่ซ่านไปถึงท้องน้อย ทำเอาเธออ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่ คนโตกว่านึกสนุกจึงแหย่นิ้วชี้เข้าไปให้เธอดูดอม หญิงสาวไล้เลียพลางดูดดึงนิ้วของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวนไม่ต่างจากที่เธอทำกับแกนกายของเขา ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดเต้นรัวเร็วจนแทบจะระเบิดออกมา“หน้าเธอโคตรยั่วเลย เห็นแล้วยิ่งมีอารมณ์”“สรทำให้เสี่ยมีอารมณ์ได้มากกว่านี้อีกนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขณะที่สะโพกยังเคลื่อนขยับผ่อนหนักผ่อนเบาเอาแต่ใจตนเอง“อย่ายั่วมากไปนะ เดี๋ยวฉันหัวใจวายก่อน”“สรเพิ่งโสดได้ไม่ถึงวัน เสี่ยก็จะหนีสรไปแล้วเหรอ” เธอเอ
เขายิ้มมุมปากก่อนจะขับเข้าไปในซอย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และซากอาคารรกร้างที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน แม้แต่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอื่น ๆ เธอก็ไม่พบเห็น“เสี่ยคะ?”“ว่าไง” เธอถามขณะที่รถคันหรูหยุดการเคลื่อนไหว แต่ทว่าเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่“เราจะทำกันที่นี่เหรอคะ” เธอขมวดคิ้วเป็นปม พลางชี้นิ้วไปยังพงหญ้าและบ้านโทรม ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าไม่เกินห้าร้อยเมตร“ที่จริงตั้งใจจะทำบนรถ แต่ถ้าเธออยากลองเอาท์ดอร์แบบบ้านร้าง ฉันก็ไม่ขัดนะ”เขาพูดเล่น แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย นภัสสรทำหน้าวิตกพลางกุมมือที่สั่นงันงกไว้บนตัก“ฉันพูดเล่น ใครมันจะไปทำกับเธอในที่แบบนั้น” เขาว่าก่อนจะลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน“สรตกใจหมดเลยค่ะ”“หรือเธออยากให้ฉันเปิดโรงแรม” เขาเสนอ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าเป็นในรถ สรก็พอได้อยู่”“เธอเคยลองบนรถแล้วเหรอ”“ยังไม่เคยหรอกค่ะ ถ้าครั้งนี้กับเสี่ยก็ครั้งแรกค่ะ” ชายหนุ่มลอบยิ้มก่อนจะขยับเบาะและปรับที่นั่งให้เอนไปด้านหลัง“ฉันเปิดซิงเธอเหรอเนี่ย” เขายิ้มขำพลางรูดซิปและหล่นกางเกงลงต่ำ“เปิดซิงอะไรกันคะ อย่างสรเนี่ยน่าจะเลยคำว่าซิงไปนานแล้วค่ะ”นภัสสรเปลี่ยนท่านั่งมาคุกเข่าข้างคนขับ ก่อ
ดนตรีจากวิทยุเปิดคลอผสานกับเสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เบา ๆ ร่างเพรียวลมเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง พลางทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมายด้วยจิตใจที่ไร้อารมณ์และความรู้สึก“เธอจะแวะไหนไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้นทลายความเงียบที่ก่อตัวตั้งแต่พวกเขาขึ้นรถมาได้สักพัก“ไม่ค่ะ กลับบ้านเลยก็ได้ค่ะเสี่ย” เธอเอ่ยพลางยิ้มไม่เต็มแก้มให้สารถี“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเงียบตั้งแต่ออกมาแล้ว”“สรไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”เธอเอ่ยพลางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ“สรแค่รู้สึกว่างเปล่าค่ะ มันรู้สึกไม่มีอะไรอยู่ในนี้เลย ทั้งความดีใจและความเสียใจ มันไม่มีอะไรเลย” เจ้าของเสียงหวานสั่นเครือขณะกุมหน้าอกข้างซ้าย“เพราะการเลิกรากับคนรักมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี เธอเลยไม่รู้สึกถึงมัน” แต่ทว่าสำหรับชัชวาลแล้วมันกลับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เขาปรารถนาตั้งแต่พบเจอนภัสสร“และอีกอย่างเพราะเธอเสียใจไปแล้วล่ะมั้งก่อนหน้านี้ เวลาที่ต้องหย่าจริง ๆ ก็เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรขนาดนั้น”“คงงั้นมั้งคะ” เธอเอ่ยยิ้ม ๆ“ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรก็ดีแล้ว ปล่อยใจให้มันเป็นไปอย่างที่มันจะเป็น ไม่ต้องพยายามดีใจหรือเสียใจ ไม่ต้องพยายามยัดเยียดให้ตัวเองรู้สึ
“แค่รู้สึกดีเท่านี้ก็พอแล้ว”เพราะความรักมันก็ล้วนแต่เกิดจากความรู้สึกดีทั้งนั้นแหละว่าจบริมฝีปากหนาก็แตะแนบสัมผัสเรียวปากสีเชอร์รี่แผ่วเบา คนตัวเล็กเผยอรับจูบด้วยความยินดี ก่อนจะโถมตัวดื่มด่ำและลุกไล้มอบสัมผัสตามอารมณ์ปรารถนาหน้าอกนิ่มถูไถคลึงเคล้าอกแกร่งแนบชิดสนิทสนม ในขณะที่ท่อนแข็งแกร่งด้านล่างไล่เลียเฉียดสัมผัสขาอ่อนเนียนไปมา ทำเอาหัวใจของหญิงสาววาบหวามและเนื้อตัวสั่นระริกจมูกโด่งอันนิดของใบหน้าหวานลุกล้ำดอมดมซอกคอแกร่งของชายหนุ่มอย่างโหยหา ก่อนจะเลื่อนลงต่ำพรมจูบส่วนหัวแดงก่ำอย่างรักใคร่ เธอแลบลิ้นยาวกวาดเลียท่อนเอ็นตั้งแต่โคนไปจนถึงปลาย พลางทำสายตาเย้ายั่วจนคนโตกว่าใจสั่นระรัวแทบระเบิด“ของฉันมันอร่อยขนาดไหนเลยเหรอ เธอถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากจะกินมันขนาดนั้น” เขาแซวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์“ใช่ค่ะ มันทั้งน่าอร่อยและน่าอมมากเลยค่ะ”ว่าจบปากบางก็ครอบแกนกายเข้าไปทันที ทำเอาชายวัยกลางคนเสียววาบโดยไม่ทันตั้งตัว“อ้ะ เธอนี่มันใจร้อนจริง ๆ” เขายิ้มขำเธอผงกหัวขึ้นลงพลางใช้มือช่วยถูรูดส่วนที่เหลือเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงลามกดังสนั่นคลอไปกับเสียงกระเพื่อมของน้ำในอ่าง“อ่อกๆๆๆๆ”“อ่าส์ พอก่อน เด