EPISODE 34กลับบ้านเราได้ไหม? ตอนสาย ฉันกลับเข้าบ้านตอนที่เฮียรามหอบลูกหอบเต้าเดินสวนออกมาพอดี พอเห็นหน้ากันก็ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็แค่ยิ้มให้ เดินเข้ามาตบบ่าเบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมรั้วกลับเข้าบ้านตัวเองไป หลังจากได้นั่งอ่านแชตระหว่างเพื่อนเขาคุยกัน บวกกับที่เจ๊พริกกับเฮียยักษ์พยายามจะช่วยพูด ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะต้องลองให้โอกาสเฮียครามดูสักครั้ง แม้ว่าความตั้งใจเดิมมันจะยังมีเหลืออยู่ แต่เพราะเฮียก็ไม่เคยทำไม่ดีกับฉันเลยแม้สักครั้งเดียว ขนาดช่วงแรกเขายังมึนตึง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฮียเป็นฝ่ายยอมมาตลอด ส่วนฉันเป็นฝ่ายที่เรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขาเอง พอเดินกลับเข้าบ้านมาก็พบคนที่ว่านอนหลับอยู่ที่โซฟาด้านล่าง บนโต๊ะเต็มไปด้วยขวดเบียร์หลายขวด ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับตาอยู่เริ่มจะครึ้มเขียวไปด้วยหนวดเครา ฉันหยุดยืนมองเขาอยู่สักพักก็กลับขึ้นไปด้านบน ข้าวของที่รื้อเอาไว้เตรียมจะเอากลับบ้าน ตอนนี้ถูกยัดเก็บกลับที่เดิมทุกชิ้น ความรู้สึกมากมายยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคิดตอนที่ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่แสน
EPISODE 35ใจลอย หลายวันต่อมา หลายวันผ่านมานี้ฉันแทบจะไม่ได้อยู่ห่างจากเฮียครามเลย ยกเว้นตอนอาบน้ำนั่นแหละ ถึงจะไม่ได้เห็นหน้ากัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเฮียก็คงจะไปอยู่กับเพื่อนบ้าง เข้าบริษัทบ้าง ไม่ก็ทำกิจวัตรประจำวันที่โปรดปรานอย่างการนอน แต่หลายวันมานี้เฮียจะมานั่งข้าง ๆ ฉันเสมอ ต่อให้ไม่ได้รับการโต้ตอบแต่เฮียก็ไม่ได้ลุกไปไหน ขนาดตอนฉันนั่งทำงาน เฮียก็นั่งหลับอยู่ข้างกัน อาหารเช้าที่ฉันเคยทำ ตอนนี้เฮียกลับเป็นคนทำแทนทุกอย่าง… จะบอกว่าไม่หวั่นไหวเลยมันก็เป็นการโกหก เพราะฉันก็เริ่มจะใจอ่อนลงทีละนิดกับการที่คนไม่เอาอะไรเลยแบบเฮีย มานั่งเอาอกเอาใจกันตลอดหลายวัน ซ้ำยังพยายามจะยิ้มให้แม้ว่าฉันจะหน้าบูดเป็นตูดก็ตาม และถ้าไม่นับเรื่องปัญหาระหองระแหงของเรา นี่ก็โคตรจะไม่ใช่ตัวฉันเลยสักนิด ไอ้การที่ต้องมานั่งดึงหน้าทั้งวันแบบนี้ มันรู้สึกปวดหน้าไปหมด อยากจะยิ้มอยากจะหัวเราะ อยากจะหันไปคุยด้วย แต่ต้องทำเป็นเก๊กจนรำคาญตัวเอง ก็ถ้าไม่มีเฮียยักษ์ที่แวะเข้ามาบ่อย ๆ ปากงี้ก็คงจะไม่ได้ขยับแน่ ๆ ไม่ต้องเดาหรอกว่าทำไมช่วงนี้เ
EPISODE 36BEGIN AGAIN วันต่อมา คงเป็นคืนแรกที่ฉันนอนหลับได้โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเหมือนหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา สมองปลอดโปร่งชนิดที่ว่าหลับไปแบบไม่ฝันอะไรเลย โดยที่มีอีกคนนอนกอดอยู่ไม่ห่าง และแค่ขยับตัว เฮียครามก็ตื่นขึ้นมา เรามองกันเองอยู่ครู่หนึ่ง ต่างคนก็ต่างหันหน้าไปยิ้มกันคนละทาง ใช่แหละ… สถานการณ์อึดอัดหนักใจดีขึ้นแล้วอย่างเห็นได้ชัด คนข้าง ๆ เบียดกายเข้ามาหาอีกระดับ หอมแก้มกันแรง ๆ แล้วเอาแต่นอนจ้อง “คิดถึง” “คิดถึงไรเฮีย… เจอกันทุกวัน” “…” “คิดถึงก็ต้องแบบ… ไม่เจอกันสิถึงจะเรียกว่าคิดถึงได้” “…” “ถ้ายังเจอกันทุกวันแบบนี้จะเรียกว่าคิดถึงได้ยังไงกัน?” “…” ฉันเลื่อนคิ้วเข้าหากันเมื่อเฮียมันเอาแต่ยิ้ม ดึงมือขึ้นไปจูบ สัมผัสค้างอยู่อย่างนั้นจนต้องเบนสายตาหนี ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมากับอาการราวกับหลงรักกันแบบนั้น ก็ใช่อยู่ที่หลายวันมานี้… เฮียมักจะทำอะไรแบบนี้เพื่อให้ฉันหายโกรธ แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจจะมอง เพราะกำลังดึงอยู่ไง… คงเป็นครั้งแ
EPISODE 37ทริปกระชับความสัมพันธ์ สิบนาทีต่อมา “สิบนาทีก็ได้” “ไม่เอาเฮีย คนอื่นรออยู่” “นิดนึง” “ไม่ได้…” ฉันกระวีกระวาดเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ในขณะที่อีกคนเอาแต่เดินกอดเอวตาม อะไรบางอย่างยังคงผงาดแข็งค้างอยู่อย่างนั้น สงสารก็สงสารอยู่หรอก แต่คนแบบเฮียครามสิบนาทีมีที่ไหนกัน… “เฮียไปแต่งตัวได้แล้ว” “ใครแม่งคิดทริปเวรนี่ขึ้นมาตอนนี้วะเนี่ย…” “เจ๊” “บอกมันว่าอีกสักชั่วโมงค่อยไปก็ได้มั้ง” “เจ๊บอกว่าต้องเอาหนูยิ้มไปฝากคุณย่าก่อน และเฮียยักษ์ก็กลัวว่าจะไม่ทันเรือรอบสุดท้ายด้วย” “ก็ไม่ต้องไปไหมล่ะ?” “ได้ไงเฮีย… คนอื่นเขาอุตส่าห์หยุดทำภารกิจตัวเองเพื่อให้เราดีกันเลยนะ” “ก็ดีแล้วนี่ไง” “แต่งตัวสิเฮีย” สุดท้ายแล้วเฮียครามก็ยกมือยอมแพ้ เดินไปสวมเสื้อผ้าลวก ๆ ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเหลือประมาณ และไม่กี่นาทีถัดมา เราสองคนก็เดินขึ้นรถตู้ไปนั่งกันที่เบาะหลังสุด ท่ามกลางสายตาแปลกใจของคนอื่นเมื่อเห็นว่าฉันยอมคุยกับเฮ
EPISODE 38น้ำผึ้งพระจันทร์ 1 ฉันทิ้งเข่าลงนั่งตรงหน้าเฮียที่กำลังปลดเอากางเกงออกไป สายตาคาดหวังมองมาทั้งยังเลียปากแบบหื่นกระหายเต็มขั้น ในขณะที่ฉันคงจะหน้าแดงเงยหน้าขึ้นมองรอรับท่อนเอ็นที่ผงาดใหญ่โตอยู่ตรงหน้า เฮียขยับเข้ามาจนส่วนนั้นจรดจดจ่ออยู่บริเวณริมฝีปากฉัน ใช้มันตีเข้ากับเรียวปากเบา ๆ ราวกับเป็นการทักทาย ลูกกระเดือกขยับเม้มปากแน่นก่อนจะป้อนความแข็งแกร่งดุนดันเข้ามาในปากเล็กของฉัน แค่เข้ามานิดเดียวก็คับปาก ขนาดอ้ากว้างที่สุดแล้วก็แน่นขนัดไปหมด มือหนาลูบหัวกันเบา ๆ ก่อนจะออกแรงดันหัวฉันให้ขยับโยก เฮียส่งเสียงคราง หน้าตาดูเสียวจัด เส้นเลือดปูดโปนเห็นได้ชัดตรงลำคอแกร่งตอนที่เขาเงยหน้าสูดปาก ทั้งยังเส้นเลือดที่ท่อนกายส่วนล่างซึ่งกำลังขยับผ่านขอบปากรูดเข้าไปยังความอ่อนนุ่มเปียกชื้นด้านในก็เต้นเป็นจังหวะดัง ‘ตุบ ๆ’ “โคตรเสียวเลยหยี…” “อ่อก” “โอย… อา…” “อ่อก อ่อก!” ฉันคิดว่าตัวเองคงจะตายแน่ ๆ เพราะเฮียครามเริ่มจะลืมตัวอีกแล้ว นอกจากจะจับหัวฉันโยกเข้าใส่ไม่หยุดจนลึกเข้าไปน้ำตาแทบไหลแล้ว เอวแกร่
EPISODE 39น้ำผึ้งพระจันทร์ 2 ยี่สิบนาทีต่อมา น่าขายขี้หน้านัก… น่าขายขี้หน้าจริง ๆ ตอนแรกที่ว่าจะออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงแรมที่คนอื่นคงกำลังรวมกลุ่มกันอยู่ สุดท้ายแล้วก็รู้ตัวว่าไม่สามารถออกจากห้องไปได้ แค่เดินลงจากเตียง ขาก็สั่นจนแทบจะร่วงลงไปกองกับพื้น สรุปวันนี้ก็จบลงตรงที่เฮียครามเป็นคนแต่งตัวเดินออกไปเอาข้าวมาให้แทน… แล้วพรุ่งนี้อีหยี… จะมองหน้าคนอื่นยังไงกันเล่า! หลังจากที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียง สักพักประตูห้องก็เปิดออก เพราะคิดว่าเฮียคงจะเป็นคนที่กลับเอาข้าวเข้ามาให้ ฉันเลยไม่ได้แต่งตัว ยังคงห่อตัวเองอยู่ในผ้าห่มผืนหนา แต่หลังจากได้ยินเสียงที่เอ่ยทักขึ้น ทำให้ต้องรีบผุดตัวลุกขึ้นนั่งหน้าตาตื่น เพราะคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่เฮียคราม “น่าตบกบาลมันเข้าให้สักที” “เจ๊!” “แทนที่จะให้น้องกินข้าวก่อน สะเหล่อหิวนัก!” “มะ… ไม่เป็นไรหรอก หยีไม่หิวเท่าไร ปกติก็ไม่ค่อยกินข้าวเย็นอยู่แล้ว” ฉันอึกอักแก้ตัว ทั้งยังพยายามรวบผ้าห่มมาปกคลุมตัวเองไว้ตั้ง
EPISODE 40หมอดู วันต่อมา ฉันสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังรัวไม่หยุดมาจากโทรศัพท์มือถือของใครสักคน คนที่นอนหมดแรงอยู่ข้าง ๆ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงควานมือหาโทรศัพท์ที่ว่าก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นดูแชตของใครสักคน “ไอ้ห่ายักษ์” “ทำไมอะ…” “…” เฮียครามไม่ตอบแต่พ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะรัวนิ้วพิมพ์อะไรสักอย่างตอบกลับไป และนาทีถัดมาก็ผุดตัวลุกขึ้นนั่งเสยผมอยู่สองสามที ชำเลืองมองฉันในสภาพสะลึมสะลือ “อะไร…” ฉันเลิกคิ้วมอง รวบเอาผ้าห่มขึ้นกอดเพราะความหนาวเย็น เฮียครามกระโดดลงจากเตียงไปเปิดเอากระเป๋า หาเสื้อผ้ามาส่งให้ ในขณะที่ตัวเขาเองก็เดินไปหาเสื้อผ้ามาสวม ก่อนจะหันมาบอก “ไปกินข้าวกัน” “…” “ไอ้ยักษ์มันงอแง ตัวก็อย่างกับควาย ทำเป็นโวยวายเป็นเด็ก ๆ” “…” ถึงปากจะด่าเพื่อนแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็เกือบจะแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ฉันที่ยังคงงุนงงรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า เพราะเห็นได้ชัดว่าเฮียตั้งใจจะออกไปเจอคนงอแงที่ว่าจริง ๆ เราสองคนรีบร้อนล้
EPISODE 41FULL MOON 19.00 น. เพราะทุกคนกลับมาจากขับรถเล่นบนเกาะแล้วเอาแต่เข้าห้องใครห้องมันหลับเป็นตาย เลยส่งผลให้เราทุกคนไม่ทันรอบเรือที่จะข้ามฟากไปเกาะพะงันซึ่งเป็นที่ที่จะไปงานฟูลมูนปาร์ตี สุดท้ายเลยต้องเหมาลำสปีดโบตกันไป ระหว่างทางคงมีแค่เฮียยักษ์คนเดียวที่สนุกสนานครึกครื้น เต้นท่ามูนวอล์กแม้ว่าเรือจะกำลังแล่นทำความเร็วอยู่ก็ตาม พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจ อีเจ๊ก็เลยต้องไปเต้นเป็นเพื่อน ฉันรีบถ่ายวิดีโออัดคลิปเอาไว้ และก็ทันพอดีกับจังหวะที่เรือกระแทกเข้ากับผิวน้ำ เล่นเอาคนที่กำลังยืนอยู่หน้าคะมำพร้อม ๆ กัน เรียกเสียงหัวเราะได้เกรียวกราวเหมือนอย่างเคย ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเกาะพะงันเพราะเป็นวันที่จัดงาน เลยได้เห็นคนจากต่างเชื้อชาติมารวมตัวกันอยู่มาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาตินั่นแหละ เราทั้งหมดซื้อสายรัดข้อมือเพื่อเข้าเกาะ ก่อนที่พวกผู้ชายจะไปยืนมุงกันอยู่ที่ร้านแทททูเรืองแสงที่เจ้าของร้านกำลังตวัดปลายพู่กันอย่างชำนาญ วาดลวดลายลงบนผิวเนื้อของคนที่กำลังยืนต่อคิว ส่วนเราอีกสามคนพากันเดินเข้าไปในร้านขายชุดว่ายน้ำแบบสะท้อนแสงที่จริง
EPISODE 50ตอนพิเศษ 3 วันต่อมา ผมตื่นแล้ว… เพราะเสียงรัวกดกริ่งดังไม่หยุดที่หน้าบ้านนั่น ให้เดาก็คงเป็นไอ้พริกกับไอ้รามนั่นแหละ แต่ต่อให้เสียงกริ่งจะดังแค่ไหนก็ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยิน รู้อีกทีผมก็อุ้มหลานพาดบ่า ถือตะกร้าขวดนมเดินลงมาข้างล่าง สภาพสะลึมสะลือขีดสุดเพราะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นัยน์ตาต้องหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์จ้าในช่วงสายของวัน “สภาพน่ารักแบบนี้กูต้องอัดรูปใส่กรอบแล้วมั้ง” เสียงร่าเริงของไอ้ห่ารามดังขึ้น พร้อมกันมันก็รีบยกโทรศัพท์รัวถ่ายรูปยกใหญ่ “ยิ้มเป็นไงบ้าง?” พอประตูเปิด คนเป็นแม่รีบรับลูกต่อไป ท่าทางเป็นห่วง ผมส่งต่อตะกร้านมให้ไอ้ราม ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ขี้ทั้งคืน มึงรีบพาไปหาหมอเลย” “โถ…” “แค่นี้นะ กูจะไปนอน” “ตอนเย็นมาแดกข้าวด้วย” เสียงไอ้รามยังคงดังต่อ ผมไม่ได้สนใจเพียงแค่หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน โบกมือให้มันนิดหน่อยเท่านั้น พอขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่าหยีเหมือนจะเพิ่งตื่น หัวผงกขึ้นมองเล็กน้อย นัยน์ตาใสปรือมองก่อนจะตบที่นอน
EPISODE 49ตอนพิเศษ 2 หลายชั่วโมงต่อมา “เฮียชงนมเสร็จรึยัง?” “แป๊บ” “ยิ้มร้องไม่หยุดเลยทำไงดี?” “เดี๋ยวเฮียอุ้มเอง หยีไปอาบน้ำได้แล้ว” “ไม่เอาอะ” ผมเดินกลับมาหาคนที่กำลังยืนอุ้มหนูยิ้มพาดบ่า เสียงร้องไห้โยเยดังมาได้ร่วมชั่วโมงแล้วแบบไม่มีพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ้มถึงได้ร้องไม่หยุดแบบนี้ แต่จะให้โทรไปบอกให้พริกก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวแม่งไม่เป็นอันทำห่าอะไรกันพอดี หยีไม่ยอมให้เอายิ้มมา กลับเดินหนีไปอีกทาง วางร่างเล็กของหลานไว้บนเตียงก่อนจะป้อนนมเข้าปากเล็กนั่น และพอได้จับขวดนม นัยน์ตาใสแป๋วที่เมื่อครู่มีน้ำตาคลอก็ชะงักเงียบไป มืออ้วนป้อมจับขวดนมถือเอง พลิกตัวไปทางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ผมเม้มปากกลั้นยิ้ม ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้แอบเหนื่อยไม่น้อย ทั้งที่ปกติหนูยิ้มเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้อง แต่อาจจะเป็นเพราะห่างพ่อห่างแม่ทำให้เกิดอาการร้องไม่หยุดแบบนี้ ก็เด็กนั่นแหละ แถมเป็นหลานผมด้วย จะบอกว่ารักเหมือนลูกตัวเองก็คงไม่ผิดนัก
EPISODE 48ตอนพิเศษ 1 KRAM TALKS เวลาผ่านเลยไปก็หลายเดือน ทุกอย่างดูสงบสุขดี เว้นก็แต่… หยีไม่ยอมกินข้าวเลย เอาแต่ทำงาน ซ้ำยังไม่มีเวลาให้คนเป็นสามีแบบผมด้วย และใช่… มันน่าหงุดหงิด อยากจะจับมาฟัดสักทีสองที บรรยากาศในบ้านช่วงบ่ายอ่อน ๆ ที่แสนจะเงียบเชียบ มีเสียง ‘ต๊อกแต๊ก ๆ’ ดังอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ต่อให้ผมเดินผ่าน หรือเปิดประตูบ้านเข้ามา คนที่กำลังนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ใส่แว่นตาทรงโต ในรูจมูกข้างหนึ่งมียาดมเสียบเอาไว้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกันเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้หยีจริงจังกับการเขียนนิยายมากจนผมไม่อยากจะไปกวน แต่บางทีมันก็แอบอยากอยู่ด้วย อยากชวนไปข้างนอก ไม่ก็ชวนหาอะไรทำ… เราไม่ได้เข้านอนพร้อมกันมาร่วมเดือนแล้ว และเรื่องพวกนั้นก็แทบไม่ได้ทำกันเลย เพราะน้องมันเอาแต่ทำงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับเป็นตาย ใครแม่งจะไปกล้ากวน แต่เพราะระยะนี้เจ้าตัวออกจะอาการหนักเกินไปสักหน่อย ถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลาเหมือนตอนก่อนนู้นสมัยที่เราย้ายมาอยู่ด้วยกันแรก ๆ ผมเลยตั้งใจว่าอาจจะต้องบังคับให้เมียหยุดทำงาน
EPISODE 47ก้าวไปข้างหน้า หลายเดือนต่อมา “กรี๊ด!!!!!!” “อะไร…” “เฮีย! ตื่นมาดูนี่เร็ว!” “…” คนข้าง ๆ ยกหัวขึ้นมามองในตอนที่ฉันกำลังส่องหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู มือไม้สั่นหนักจนเฮียครามต้องดึงไปดูเอาเอง คิ้วหนาเลื่อนเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจจนฉันต้องดึงมันกลับมาดูอีกครั้ง ส่งเสียงวี้ดว้ายไปมาอย่างหยุดไม่อยู่ “เฮีย! นิยายของหยี… ได้ขึ้นหน้าหนึ่งขายดีแล้วนะ!!!” “อืม…” “เฮียอะ!! ไม่ดีใจหน่อยเหรอ?” “ดีใจดิ” “เฮียดูสิ ๆ ๆ หยีตื่นเต้นอะ!” “ใจเย็น” คนข้าง ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหัวเราะออกมาเบา ๆ ดึงเอาตัวฉันไปกอดจูบลงบนเรือนผมกันสองสามที ถึงจะไม่ได้แสดงอาการดีอกดีใจได้มากไปกว่านี้ แต่แค่นี้สำหรับคนแบบเฮียแล้วก็ถือว่าโอเค… และใช่… หลังจากที่ฉันตั้งอกตั้งใจเขียนนิยายต่อเนื่องกันอยู่หลายเดือนแบบที่เรียกได้ว่าข้าวปลาไม่สนใจจะกิน ตอนนี้ก็ราวกับว่าความพยายามนั้นสัมฤทธิ์ผลเข้าให้แล้ว การตั้งตารอให้นิยายที่ตัวเองเขียนขึ้นหน้าขายดีของ
EPISODE 46งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันยังคงนั่งนิ่ง พยายามเก็บอาการตระหนกตกใจเอาไว้ไม่ให้ผิดสังเกต คนข้าง ๆ กำลังทำเป็นส่งยิ้มให้คนอื่น ๆ แบบที่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเฮียจะฝืนใจตัวเองทำแบบนี้ได้ลง แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเขากำลังทำ “เฮียทำไรอะ?” พอเห็นว่าอีกสามคนไม่ได้มองอยู่ ฉันก็รีบกระซิบถามทันที เฮียครามไหวไหล่เล็กน้อยราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหยีไง” “ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย” “บอกแล้วไงว่าเป็นของขวัญ” “แต่…” “ไม่เป็นไร… เฮียตั้งใจจะช่วยเด็ก ๆ อยู่แล้ว” คนข้าง ๆ ยิ้มใจดี เลื่อนมือมากุมมือฉันไว้เมื่อเห็นว่าฉันผู้ซึ่งได้รับความช่วยเหลือแบบที่ว่านี้ไม่ได้ยินดีอะไรนัก ดูก็รู้ว่าเฮียคงอยากจะช่วยทำให้ฉันหายเป็นกังวลในเรื่องสังคมป่วย ๆ นี่ และใช่… ฉันไม่เห็นด้วยที่เฮียจะทำถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเขาพูดมางั้นว่าอยากช่วยน้อง ๆ ฉันจะไปทำอะไรได้ ก็แค่… ไม่คิดว่าเฮียจะเต็มใจมาจนถึงขั้นแต่งองค์ทรงเครื่องเบอร์นี้ “เอ… จริง ๆ ยิหวาคุ้นหน้าเฮียครามมากเลยนะคะ” เสียงคนตรงหน
EPISODE 45ครบรอบ หลายวันต่อมา ฉันกำลังแต่งตัวเตรียมไปงานเปิดตัวกระเป๋าอะไรสักอย่างนั่นของคุณส้มที่ลิลลี่พูดถึง ถึงใจจะไม่อยากไป แต่ด้วยความที่ไม่อยากจะเป็นคนเดียวที่ถูกนินทาก็เลยจำใจต้องไป เฮียครามเพิ่งกลับมาจากข้างนอก กำลังถอดเสื้อเชิ้ตโยนใส่ตะกร้า เท้าสะเอวมองมาเงียบ ๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้เฮียฟังอีก ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาไม่ชอบที่จะให้ฉันไปปั้นหน้าเข้าสังคมแบบนั้น แต่ถึงงั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แน่นอนว่าก็ไม่ยอมไปด้วยอยู่ดี “หยีน่าจะกลับดึก ๆ หน่อย”ฉันว่าพลางใส่ต่างหูที่กลั้นใจซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่บอกว่ากลั้นใจซื้อเพราะว่าระยะหลังมานี้ฉันไม่ได้มีเงินให้ใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน ถึงสถานการณ์ที่บ้านกำลังอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ฉันก็ไม่อยากจะไปรบกวนอะไรให้มากนัก อีกทั้งเฮียเองก็บังคับให้ใช้เงินเขา เพราะงั้นไอ้ของฟุ่มเฟือยนี่ก็คือเงินเก็บของฉันเองที่ได้จากการขายงานนั่นแหละ“สวยไหม?”หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็หันกลับไปหมุนตัวให้คนเป็นสามีดู เฮียที่ยังคงอยู่ในสภาวะหน้านิ่งชำเลืองข
EPISODE 44ความสุขของเมีย KRAM TALKS คนในอ้อมแขนนอนหลับไปแล้วชนิดที่ว่าต่างไปจากหลายวันก่อนหน้า ที่กว่าจะหลับได้ก็เล่นเอาผมกล่อมแทบตาย หยีคิดมากมาหลายวันเรื่องไอ้เครื่องรางบ้าบอคอแตกนั่น ปากก็บอกว่าไม่ได้เชื่อขนาดนั้นแต่เจ้าตัวก็เอาแต่เครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร เดี๋ยวก็ดู ๆ และเพราะรู้ว่าผมไม่เชื่อหลายวัน ที่ผ่านมาก็เลยไม่ได้มาพูดถึงให้ฟังอีก แต่เห็นน้องมันเครียดขนาดนั้น จะให้คนเป็นผัวอยู่เฉยได้ยังไง… ก็แหงอยู่แล้ว ไอ้อะไรที่ว่านั่นจะหายไปเองได้ยังไง… ผมเป็นคนเอาออกเอง… หลังจากที่หยีหลับไปแล้ว แบบที่ว่านอนน้ำลายยืด กรนเสียงเบา ๆ ผมก็เลื่อนตัวออกจากผ้าห่ม เดินไปยังไอ้ถุงสีแดงที่เห็นแล้วขัดหูขัดตามาหลายวัน เทเอาทรายที่บรรจุอยู่ในถุงออกใส่ฝ่ามือจำนวนหนึ่งก่อนจะทิ้งไปง่าย ๆ แล้วเก็บมันกลับเข้าที่เดิมโดยที่เจ้าของของมันไม่รู้ตัว ก็ปล่อยให้ไม่รู้ไปนั่นแหละดีแล้ว… แต่เห็นหยีเครียดแล้วผมก็เครียดไปด้วย เลยคิดว่าแอบจัดการไปเงียบ ๆ ดีกว่า และก็อย่างที่เห็น… ว่าพอสบายใจหยีก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม ผมอาบน้ำ
EPISODE 43เรื่องเหลือเชื่อ หลายวันต่อมา ถึงจะบอกว่าไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้ฉันชักจะเป็นกังวลหนักขึ้นทุกที เพราะอะไรที่อยู่ในถุงผ้าสีแดงนั่นดูเหมือนจะยังอยู่เต็มถุง ไม่ได้ลดขนาดลงเลยสักนิดตามที่แม่หมอบอก และใช่… ฉันเริ่มจะแอบกังวลขึ้นมานิด ๆ แล้วเหมือนกัน… ไม่ได้เชื่อขนาดนั้นเลยจริง ๆ “เป็นไร?” “เปล่า” “ทำหน้าเครียดขนาดนั้น ทะเลาะกับไอ้ครามเหรอ?” “เปล่าหรอกเจ๊” “แล้วเป็นอะไร?” “จำหมอดูคนนั้นที่หยีซื้อเครื่องรางกลับมาได้ไหม?” “…” “ตอนนี้อะไรที่ควรจะหายไปมันยังเต็มถุงอยู่เลย” “จริงเหรอ!!” แทนที่คนถามซึ่งเป็นอีเจ๊จะทำหน้าตกอกตกใจ แต่กลายเป็นว่าคนที่กำลังนอนเลื่อนโทรศัพท์เล่นอยู่ที่โซฟาผงกหัวขึ้นมามองแทน อ้ายรีบกระโดดลุกขึ้นเดินเข้ามาหา สีหน้าตระหนกตกใจ บ่งบอกได้ว่าเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้ระดับไหน ในขณะที่เจ๊พริกทำหน้าบอกบุญไม่รับกับสิ่งที่ได้ยิน เดินหมุนตัวไปเก็บของโดยไม่ใส่ใจจะถามต่อ “ก็ที่
EPISODE 42สายมู หลายวันต่อมา เรากลับมาจากทริปกระชับความสัมพันธ์อะไรที่ว่านั่นได้หลายวันแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และฉันก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองว่าเฮียเจินกำลังจะซื้อบ้านหลังฝั่งตรงกันข้าม เพราะถ้าอ้ายเรียนจบเมื่อไรคงจะได้แต่งงานกันทันที เจ๊พริกก็กลับมาเลี้ยงลูก กลับมาทำอาหารเลี้ยงทุกคนเหมือนเดิม พวกเฮียทั้งสี่กำลังลงขันทำธุรกิจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับแอปพลิเคชันออนไลน์ซึ่งฉันไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเป็นคนไม่สันทัดทางด้านนั้น เฮียยักษ์ยังคงแวะเวียนมาหาทุกวัน มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเหมือนทุกที และแน่นอนว่าตอนนี้ตัวฉันเองก็กลับมาทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเดิม เฮียครามดูเหมือนจะชินแล้วที่เห็นเมียตัวเองกำลังนั่งยัดยาดมเข้ารูจมูก รัวนิ้วใส่แป้นพิมพ์อย่างเมามันในช่วงเช้าของวัน แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่เฮียจะตื่น ฉันก็ทำอาหารรอไว้เรียบร้อย และใช่… กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาสายของวัน ยอดการดาวน์โหลดนิยายเรื่องใหม่ที่วางขายอยู่ที่หน้าเว็บฝากขายวรรณกรรมอิเล็กทรอนิกส์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในกราฟดาวน์โหลดมีแนวโน้มสูงขึ้