“พากันไปไหนมา แม่ให้คนไปตามหาจนทั่ว” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม หลังจากเห็นดาวเหนือและลูกสาวเดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกัน “หมวยกับซ้อไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านมา” “เหนือมานั่งตรงนี้ เดี๋ยวแม่ไปเอาผลไม้กับขนมมาให้กินรองท้อง” “เหนือยังอิ่มอยู่เลยค่ะแม่” “แล้วเย็นนี้อยากกินอะไร แม่จะได้ให้คนไปตลาดซื้อของมาเตรียมไว้ให้” “เหนือกินอะไรก็ได้ค่ะ” ปาลินลูบศีรษะของลูกสะใภ้อย่างนึกเอ็นดู ดาวเหนือเป็นคนน่ารัก ท่าทางก็ดูอ่อนหวานเรียบร้อย ผิดกับลูกชายของเธอที่เป็นคนหัวรุนแรงเข้าขั้น “แล้วดาวศุกร์ไปไหน ตั้งแต่เช้าแม่ยังไม่เห็นหน้าหลานเลย” “แฟรงก์พาไปเรียนว่ายน้ำค่ะ” “ถ้าเหนือมีอะไรไม่สบายใจ คุยกับแม่ได้นะ” “…..” ใบหน้าแสนหวานปรากฏรอยยิ้มบางๆ คนในครอบครัวของฟรินรักและเอ็นดูเธอมาก เลยไม่ได้เกิดเป็นความหนักใจอะไร “แล้วฟรินเป็นยังไงบ้าง” “เขาดูแลเหนือดีค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร” “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ถ้าลูกชายแม่ทำอะไรให้หนูไม่พอใจ ให้รีบมาบอกแม่ เดี๋ยวแม่จัดการมันให้เอง” “น
สี่เดือนผ่านไป… “แงงงง” ฟรินรีบดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนในช่วงกลางดึกของวัน เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวฝาแฝดวัยสี่เดือนเศษ “ว่าไงคนสวยของป๊า” อุ้มชาราขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะหยิบขวดนมป้อนใส่ปากให้ลูกน้อยด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ส่วนอีกคนยังคงนอนหลับตาพริ้มไม่ยอมตื่น “ป๊าอยู่นี่แล้ว ไม่ร้องนะเด็กดี” “ส่งลูกมาให้เหนือ ฟรินจะได้พัก” หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียไม่แพ้กัน “นอนต่อเถอะ เดี๋ยวฉันดูลูกเอง” “ฟรินนั่นแหละควรไปนอนพัก พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” พรุ่งนี้เขามีเรียน ส่วนเธอมีเวลาว่างทั้งวัน “ฉันไหว” “อย่าดื้อได้ไหม ส่งลูกมา” “ลูกติดมือฉันมากกว่า เธอก็น่าจะรู้” ดาวเหนือวางใบหน้าซบลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม ฟรินเป็นพ่อที่ดี ดูแลลูกสามคนได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนในฐานะสามีก็มีหึงหวงไปตามนิสัยของเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ “ชารันนอนนิ่งไม่ค่อยงอแงเลย เหนือว่าคนนี้นิสัยเหมือนฟริน” “ตั้งใจทำขนาดนั้น ต้องเหมือนฉันน่ะถูกแล้ว” “อยากให้ลูกเห
มหาวิทยาลัย… ร่างสูงคมคายสวมชุดนักศึกษา ยืนก้มมองนาฬิกาข้อมือแบรนด์หรูที่มีมูลค่าราคาสูงถึงแปดหลักอยู่หน้าตึกคณะของหญิงสาว ทรงผมสีดำขลับถูกเสยขึ้นแบบลวกๆ โชว์ใบหน้าหล่อเหลาแบบไม่ตั้งใจ สีผิวขาวซีดเผือดและความสูงที่โดดเด่นสามารถเรียกความสนใจจากนักศึกษาสาวที่อยู่บริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี “คิดถึงจังเลย รอนานไหมคะ” ดาวเหนือทำเสียงหวานรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดชายหนุ่มไว้แน่น ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มสากเบาๆ “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง เลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสอง มัวไปเถลไถลที่ไหนมา” ฟรินถามเสียงดุ จ้องมองคนตัวเล็กอย่างต้องการคำตอบ “รออาจารย์ตรวจงานอยู่ค่ะ” “แล้วโทรหาทำไมไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน” “ตั้งสั่นไว้เลยไม่ได้ยิน” “พอตามใจชักเอาใหญ่” “ฟรินอย่าดุเหนือเลยนะ” เมื่อรู้ตัวว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี จึงส่งสายตาออดอ้อน ซุกใบหน้าเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วจูบเบาๆ “…..” “เหนือไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางไปไหนเลย ตัวติดกับฟรินแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว” “แล้วยังไง…ถ้าไม่ติดผัวแล้วจะให้ติดใ
-F2BAR- “สวัสดีครับ” ลูกน้องคนสนิทรีบเดินเข้ามาทักทาย ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมหลังจากที่เห็นแฟรงก์เดินเข้ามาตรวจงานก่อนร้านเปิด “งานที่กูสั่งเรียบร้อยดีไหม” “เรียบร้อยทุกอย่าง ไม่มีปัญหาครับ” ยกมือเกาหัวด้วยความงุนงงมองเห็นคนด้านหลังที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นเจ้านายไม่มีผิดเพี้ยน “แล้วคนนี้ทำไม…” “น้องชายฝาแฝดกูเอง” “สวัสดีครับ” ฟรินพยักหน้ารับไหว้ วาดสายตามองไปรอบบริเวณร้านของแฟรงก์ที่เพิ่งเปิดไปได้ไม่นาน เคยได้มาเห็นกับตาตัวเองก็วันนี้ “ว่าแต่เฮียไปเอาลูกใครมาเลี้ยงว่ะนั่น” เห็นแฟรงก์อุ้มเด็กผู้หญิงผิวขาวตาโตไว้ในอ้อมแขนแล้วอดเอ็นดูไม่ได้ “ลูกกูนี่แหละ” “เฮ้ย! จริงดิ เฮียแอบไปมีลูกมีเมียตั้งแต่ตอนไหน…แต่จะว่าไปเด็กคนนี้หน้าเหมือนเฮียมากเลยนะ” “แน่นอนอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเผลอยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าอุ้มดาวศุกร์ไปเที่ยวที่ไหนต่างก็มีแต่คนเข้ามาทักบอกว่าหน้าเหมือนเขา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเด็กน้อยหน้าเหมือนพ่ออย่างฟรินมากกว่า… “แล้วเมียเฮียคนไหนอ่ะ เห
กริ๊ง… มือหนาควานหานาฬิกาปลุกที่กำลังส่งเสียงร้องดังในยามเช้าตรู่ ชายหนุ่มลืมตาตื่นด้วยความงัวเงีย ก่อนจะวาดสายตามองไปรอบห้องแต่ไม่เห็นใคร พบเพียงความว่างเปล่า “ทำไมไม่ปลุก” เดินเข้าไปสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลัง วางใบหน้าซบลงบนไหล่ในขณะที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาทำอาหารอยู่ในครัว “วันนี้เป็นวันหยุด อยากให้ที่รักพักผ่อนค่ะ” “มึนหัวชะมัด” ยกมือนวดขมับของตัวเองเบาๆ “เมื่อคืนฟรินเมามากเลยนะ รู้ตัวไหมคะ” “ขอโทษที่ทำตัวไม่น่ารัก” ใช้ปลายจมูกโด่งคมคลอเคลียไปตามลำคอระหง ก่อนจะพรมจูบเบาๆ อย่างหวงแหน “เหนือเข้าใจ ไม่ได้ว่าอะไร นานๆ จะออกไปเจอเพื่อนทั้งทีก็ต้องมีบ้าง” “ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ฉันหมายถึงเรื่องที่รุนแรงกับเธอมากเกินไปหน่อย” “…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น มองเห็นเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก รอยฟกช้ำบนลำคอและเนินอก ยังปรากฏให้เห็นอยู่จางๆ “ช้ำไปทั้งตัวเลยดูสิ” ถึงแม้การกระทำจะดูเป็นห่วง แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจ “ฟรินชอบทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” “แล้วเหนือชอบ
-หลายสัปดาห์ต่อมา- “ซ้อว่างมั้ย ทำผมให้หมวยหน่อยค่ะ” หมวยเฟย์เปิดประตู ก่อนจะชะเง้อหน้าเข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ว่างสิ วันนี้อยากทำทรงไหน” “ถักเปียสองข้างแล้วรวบขึ้นแบบนี้ ซ้อทำเป็นมั้ย” ยื่นรูปภาพในโทรศัพท์ให้พี่สะใภ้ช่วยดู เธอมักจะให้ดาวเหนือ ช่วยแต่งตัวทำผมก่อนออกไปเที่ยวอยู่เป็นประจำ “ทำได้ สบายมาก” “ซ้อของหมวยน่ารักที่สุด” “วันนี้แต่งตัวสวย จะออกไปเที่ยวไหน” หมวยเฟย์แต่งตัวจัดเต็มผิดปกติแถมยังแต่งหน้าสวยกว่าทุกวัน “มีนัดกับเพื่อนค่ะ ซ้ออยากไปเที่ยวกับหมวยมั้ย” “หมายถึงเที่ยวคลับอะไรพวกนี้ใช่มั้ย” ถามอย่างไม่มั่นใจ ตั้งแต่เกิดมาเคยเข้าสถาบันเทิงแบบนั้นจนแทบจะนับครั้งได้ “ใช่เลย…” “พี่ต้องขออนุญาตฟรินก่อน” “ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างซ้อ ไม่ใช่เอาแต่เรียนหนังสือ เลี้ยงลูกอดอู้ไม่ยอมออกไปไหน” เพราะเฮียฟรินออกคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหน ถ้าเป็นเธอคงอกแตกตายไปตั้งนานแล้ว “…..” แต่ดาวเหนือกลับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร เธอชอบที่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกมาก
-สี่ปีผ่านไป- “ป๊า!” ชายหนุ่มทั้งสองสะดุ้งเฮือกพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงสดใสของดาวศุกร์ดังมาแต่ไกล ฟรินก้มหน้าก้มตาทำวิทยานิพนธ์ในขณะที่กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท ส่วนแฟรงก์นั่งไขว้ส่งเสียงเชียร์ฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ “เรียกใครวะ” เพราะตรงนี้มีเขาและน้องชายที่นั่งอยู่ ดาวศุกร์อายุหกขวบอยู่ในชุดนักเรียนกระโปรงลายสก็อต ผมยาวสลวยถักเปียสองข้าง เดินกอดอกสีหน้าบึ้งตึงตรงมาหาคนทั้งสองที่นั่งอยู่ “ศุกร์เรียกป๊าแฟรงก์นั่นแหละ” “มีอะไรอีกอ่ะ” “ทำไมวันนี้ไม่ไปรับศุกร์ที่โรงเรียน” ปกติป๊าฟรินจะไปส่งตอนเช้า ส่วนป๊าแฟรงก์จะไปรับที่โรงเรียนตอนเย็น แต่วันนี้กลับให้ปู่ไปรับแทน “ป๊าติดงานน่ะสิ” “แต่ป๊าฟรินบอกว่า ป๊าแฟรงก์มีแฟนเหรอ?” มือน้อยๆ จับใบหน้าหล่อเหลาของแฟรงก์ให้หันกลับมาสบตา ทำเอาคนถูกจับได้ถึงกลับเลิ่กลั่กหันมองซ้ายขวา ดาวศุกร์ยิ่งโตยิ่งรู้มาก แล้วไอ้นิสัยท่าทางห้าวๆ เหมือนเด็กผู้ชายได้มาจากเขาทั้งนั้น “เปล่า ไม่ได้มีแฟน” “ศุกร์ไม่ให้ป๊ามีแฟนนะ ถ้ามีแฟนเดี๋ยวป๊าไม่รัก
“ศุกร์สวยไหมคะแม่” เด็กน้อยยิ้มกว้างมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ พลางหมุนตัวไปรอบๆ วันนี้เป็นวันสำคัญของแม่กับป๊า ดาวศุกร์เลยได้ใส่ชุดสวยเป็นพิเศษ “ลูกสาวแม่สวยมาก สวยที่สุดเลย” ผู้เป็นแม่ย่อตัวนั่งลงโอบกอดลูกสาวด้วยความรัก งานแต่งของเธอและฟริน ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหลังจากที่รู้ว่าดาวเหนือกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สี่ จึงเชิญเฉพาะแขกคนสำคัญและญาติที่สนิทให้มาร่วมแสดงความยินดี “แม่ก็สวยเหมือนกัน สวยเหมือนนางฟ้าเลย” เพราะในการ์ตูนที่เคยเห็น มีนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ใส่ชุดสีขาวฟูฟ่องเหมือนที่แม่ใส่อยู่ตอนนี้ “แม่รักหนูนะ รักชารากับชารันด้วย” มองเด็กแฝดทั้งสองที่อยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยง โชคดีที่ชารากับชารันเป็นเด็กเลี้ยงง่ายเลยทำไม่เหนื่อยมาก “พร้อมหรือยัง แขกเริ่มทยอยมากันแล้ว” ฟรินกับแฟรงก์เดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน ร่างสูงสวมชุดเจ้าบ่าวสีเบจสะอาดตา ส่วนแฟรงก์สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนตรงตามตรีมงานในวันนี้ ฟรินไล่สายตามองสำรวจหญิงสาวอย่างพิจารณา มันคือภาพฝันที่อยู่ในจินตนาการมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีสิบปีที
“อืม…” แสงแดดสาดกระทบเข้ามาภายในห้องนอน ช่วยปลุกคนที่หลับอยู่ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์” ดาวเหนือขยับพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองเมื่อถูกหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก “สายมากแล้ว วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “ให้ป๋าไปดูงานแทน วันนี้เลยมีเวลาว่างทั้งวัน” “ชนินทร์งอแงไหมคะ” หญิงสาวหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง มองดูลูกชายคนเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี “อยู่กับป๊าเป็นเด็กดี ไม่งอแงเลยครับ” “ปะ…ป๊า~” ชนินทร์ในวัยสิบเดือนเริ่มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว วางหน้าซบลงบนลาดไหล่ของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “ว่าไงสุดหล่อ อ้อนป๊าทำไม” “ป๊า~” “อยากมีลูกอีกสักสิบคน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังปรายสายตามองไปทางภรรยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เพ้อเจ้อ” “ถ้าเธอไม่หนีไปทำหมัน ป่านนี้คงกำลังท้องลูกฉันอยู่” “ใจคอไม่คิดจะให้พักบ้างเลยหรือไง เหนือเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่วัว” ดาวเหนือถอนหายใจลากยาวด้วยความท้อใจ เพราะวันๆ ฟรินเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเธอ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เข
“ทำไมที่คอของแม่มีรอยแดง” ดาวเหนือหยุดชะงัก รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดลำคอ หลังจากได้ยินคำถามของลูกสาว “ป๊าทำเอง” ฟรินรีบออกรับแทน พลางไล่สายตามองปฏิกิริยาของภรรยา “ป๊ากับแม่ทะเลาะกันเหรอ บีบคอแม่ทำไม” “ป๊าไม่ได้บีบคอแม่ ป๊าแค่จุ๊บแรงๆ” “แล้วแม่เจ็บไหม” ลูกสาวคนโตหันมาถามผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา “จะ…เจ็บค่ะ” ดาวเหนือพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่สามีด้วยความไม่พอใจ “ทีหลังป๊าห้ามจุ๊บแม่แรงนะ ศุกร์ให้จุ๊บเบาๆ ก็พอ” “งั้นคราวหน้าป๊าจะจุ๊บเบาๆ” “ฟรินนั่งคุยกับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวเหนือจะเข้าครัวไปหยิบจานผลไม้มาให้” “อย่าไปนาน…คิดถึง” ดึงมือของหญิงสาวมาหอมซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวว่าเสพติด รู้ว่าคลั่งเธอมาก แต่ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ “ปัญญาอ่อนฉิบหาย” แฟรงก์ที่นั่งเงียบอยู่นาน เบะปากมองคว่ำด้วยความรำคาญใจ สองผัวเมียคู่นี้มันยอมกันที่ไหน ไอ้แว่นมันคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนสถานที่หรือผู้คน “สาธุ…กูขอให้เหนือมีผัวใหม่ในเร็วๆ นี้ จะได้หลุดพ้นจากคนประสาทอย่างมึง”
“นิ่งเฉยอยู่ทำไม หรืออยากใช้มากกว่าปาก?” ดาวเหนือคุกเข่าลงตรงหน้า เลื่อนสองมือเข้าไปถอดกางเกงของชายหนุ่มออกอย่างรู้งาน ดวงตาคู่สวยไหวสั่น มองความเป็นชายที่กำลังขยายตัว ถึงแม้จะเห็นอยู่แทบทุกวันแต่หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ปากบางครอบลงบนแก่นกายอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นอุ่นเลียวนไปทั่วบริเวณส่วนปลาย ก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ สัมผัสได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลซึมเปียกแฉะไปทั่วริมฝีปาก ฟรินก้มลงมองการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา ท่าทางไม่ประสีประสาแต่เขากลับมองว่ามันน่าหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น “แค่เห็นหน้าเหนือก็เหมือนจะแตก” “อึก…” ใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยว เมื่อแก่นกายขยายใหญ่คับริมฝีปากจนเธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างนึกเอ็นดู ภาพที่เธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด มือสากเลื่อนเข้าไปจับศีรษะของหญิงสาวไว้มั่น ก่อนจะอัดกระแทกความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากเล็กตามจังหวะที่ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก “อยากให้แตกใส่ตรงไหน” “แล้วแต่ฟรินจะทำ”
“ชนินทร์น่ารักจังเลย หนูขอจับน้องได้มั้ยคะ” ดาวศุกร์เกาะขอบเตียงเขย่งปลายเท้าขึ้นมองน้องชายด้วยความตื่นเต้น “ได้ค่ะ จับน้องเบาๆ นะคะ” “ศุกร์รักน้องค่ะแม่” ดาวศุกร์เผยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมองเห็นน้องชายตัวจิ๋ว “เป็นพี่น้องต้องรักกันนะคะ” “ถ้าศุกร์โต เดี๋ยวศุกร์จะเป็นคนเลี้ยงน้องแทนแม่กับป๊าเอง” เพราะเห็นว่าป๊าทำงานหนักเลยอยากแบ่งเบาภาระช่วยดูแลแม่กับน้อง “ลูกสาวของแม่คนนี้เก่งที่สุดเลยค่ะ” “ป๊าแฟรงก์เคยสอน บอกว่าถ้าศุกร์เป็นเด็กดีจะมีแต่คนรักเรา” เด็กน้อยยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าดื้อมากๆ จะโดนป๊าแฟรงก์ดึงหู “ใช่แล้วค่ะ ถ้าหนูเป็นเด็กดี ทุกคนจะรักหนู” “ศุกร์สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ป๊ากับแม่จะได้รักศุกร์มากๆ” โชคดีที่ดาวศุกร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย อาจจะซุกซนไปบ้างตามวัยแต่มีจิตใจดี ชอบสงสารและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ “…..” “เอาอีกดิไอ้แว่น” แฟรงก์สะกิดน้องชายเบาๆ เพื่อให้หันมองลูกทั้งสามคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “อะไร?”
“ทำไมวันนี้คนสวยตื่นเช้า ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนตัวเล็กไว้แน่นจากทางด้าน โน้มริมฝีปากพรมจูบที่ลำคอขาวเบาๆ ด้วยความหวงแหน วันนี้ดาวเหนือตื่นเช้ากำลังยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ริมระเบียงห้องของบ้านพัก “อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ” “สวยมาก” “ใช่ค่ะ สวยมากเลย” “ไม่ได้หมายถึงพระอาทิตย์ แต่ฉันหมายถึงเธอ” ปลายนิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มอมชมพูอย่างอ่อนโยน “ตื่นมาก็อ้อนเมียแต่เช้าเลยนะคะ” เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มของสามีเบาๆ “อยากทำมากว่าอ้อนอีก” “…..” ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนด้วยความเขินอาย ขยับถอยหนีแต่ฟริน ยังคงเดินตามไม่ห่างไปไหน “อยากย้ายมาอยู่ที่นี่มั้ย เธอจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน” “เหนือชอบที่นี่ แต่ฟรินเองก็ยังมีธุรกิจและลูกน้องที่ต้องดูแล เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอแค่บอกมาคำเดียว เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” อะไรที่เป็นความสุขของลูกกับเมียเขายินดีทำให้แบบไม่มีข้อแม้ “คงต้องถามลูกๆ ก่อนว่าอยากมาอยู่ที่นี่ไหม เหนือแล้วแต่ลูก” “ส่วนฉั
“กินผักเยอะๆ หลานแฟรงก์จะได้แข็งแรง” แฟรงก์ยื่นจานผักและผลไม้ให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดาวเหนือท้องแก่ใกล้คลอดจำเป็นต้องกินแต่ของที่มีประโยชน์ “เหนือว่าคนนี้ต้องตัวโตมากแน่เลย” คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มบางๆ อย่างมีความสุข ทุกคนในครอบครัวล้วนแต่เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ “ตัวโตก็ดีแล้ว จะได้ดูแลปกป้องพี่สาวได้” “ศุกร์ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องหรอก” ดาวศุกร์พูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง “ตัวแค่นี้อย่าทำซ่าส์นะศุกร์” “ก็ป๊าฟรินเป็นคนสอนหนูเองว่าให้ลูกเข้มแข็ง” “สภาพอย่างไอ้แว่นเนี่ยนะจะมาเข้มแข็ง ตอนโดนเมียทิ้งร้องไห้จะเป็นจะตาย” แฟรงก์หรี่สายตามองหน้าน้องชายอย่างเอือมๆ “ป๊าต้องไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า อดหลับอดนอน จนจะเป็นบ้าตามมันไปอีกคน” “กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้แฟรงก์ อย่ามาลามปาม” คนที่ถูกกล่าวหา เกิดอาการร้อนตัวรีบพูดแทรกขึ้น เขาอุตส่าห์นั่งเงียบๆ แต่ก็ก็ยังมิวายโดนพูดจากระแทกแดกดัน “กูพูดความจริงทั้งนั้น มึงรับไม่ได้เหรอ” “แล้วเมียของป๊าเ
“ทำไมหน้ามึงโทรมขนาดนี้ ขอบตาดำอย่างกับหมีแพนด้า ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน” แฟรงก์จับหน้าน้องชายฝาแฝดหันซ้ายหันขวา ไม่รู้ว่าไอ้แว่นมันมัวแต่ทำงานหนักหรือเอาแต่คิดเรื่องเมีย ถึงได้อดหลับอดนอน “ถึงเราจะเป็นผู้ชาย ก็ต้องดูแลตัวเองนะน้องรัก อย่าปล่อยตัวให้โทรมเหมือนผีดิบจำศิลแบบนี้” ตบบ่าแฝดน้องเบาๆ ถึงจะเป็นแฝดหน้าตาคล้ายกันก็จริง แต่คนอื่นมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขาน่ะหล่อกว่าไอ้แว่นเป็นไหนๆ “เลิกวุ่นวายได้แล้วแฟรงก์ ถอยไปไกลๆ กูจะทำงาน” ฟรินปัดป่ายมือพี่ชายออกจากใบหน้าด้วยความรำคาญ จะให้เอาเวลาที่ไหนไปดูแลตัวเองแบบมัน ไอ้แฟรงก์มันเข้าคลินิกเสริมความงามกับแม่ทุกเดือน นั่งๆ นอนๆอยู่แต่ในร่ม เคยออกแดดที่ไหนกัน ส่วนเขาแค่ก้มหน้าทำงานก็หมดเวลาไปเกือบวัน “พักเรื่องงานเอาไว้ก่อน ไปรับลูกที่โรงเรียนกัน” “แต่อีกครึ่งชั่วโมงกูต้องเข้าประชุม” “มึงเห็นงานสำคัญกว่าลูกหรือไง” แฟรงก์ยืนเท้าเอวมองหน้าน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องงานเอาไว้ค่อยทำก็ได้ ยังไงเรื่องลูกก็ต้องมาก่อนเสมอ” ในหัวสมองของไอ้แว่น
“ทานอีกนิดสิเหนือ ผลไม้มันมีประโยชน์นะ” “เหนืออิ่มแล้วค่ะแม่” ดาวเหนือบอกอย่างเกรงใจ แม่สามีและทุกคนในครอบครัววรางกูรดูแลและรักเธอมากเสมือนเป็นญาติแท้ๆ ด้วยอีกคน “งั้นดื่มนมอีกสักหน่อย หลานแม่จะได้แข็งแรง” พอรู้ว่าได้หลานชายถึงกลับหัวใจพองโต อะไรที่ว่าดีก็หาประเคนมาให้ลูกสะใภ้แทบทุกอย่าง “ขอบคุณค่ะ” “ถ้าอยากกินอะไรให้บอกแม่นะ คนกำลังท้องต้องเลือกกินแต่สิ่งที่มีประโยชน์” ปาลินลูบศีรษะของดาวเหนือด้วยความรักใคร่เอ็นดู ถ้าลูกชายรักใครเธอก็รักด้วย “ค่ะแม่” “อิจฉาซ้อจริงๆ ผัวก็หลงจนหัวปักหัวปำ แถมแม่ผัวยังรักพร้อมยอมยกสมบัติให้อีก” หมวยเฟย์ที่นั่งเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้น ก่อนจะปรายสายตามองไปยังผู้เป็นแม่ที่เอาอกเอาใจลูกสะใภ้จนออกหน้าออกตา เจ๊ปาลินเห่อหลานชายคนนี้ยิ่งกว่าอะไรดี เตรียมของรับขวัญไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ “งั้นก็ดูไว้เป็นตัวอย่าง ถ้าแกจะมีผัวต้องหาให้ดีกว่าพวกเฮียสองคนนะรู้ไหม” แฟรงก์บอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจได้ที่ไหน “พวกสันดานเจ้าชู้หลายใจ อย่าไปคิดจะเ
“ป๊า!” ‘ชารา’ แฝดผู้พี่วิ่งเข้ามาในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อด้วยความคุ้นเคย ด้านล่างเป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ ส่วนชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว “ว่าไงครับ?” “เห็นชุดเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของชารามั้ยคะ” เด็กน้อยยืนกอดอกถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว สามารถเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อได้เป็นอย่างดี “ป๊าพับเก็บไว้ให้อยู่ในลิ้นชัก หนูลองไปหาดูนะ” “ขอบคุณค่ะ ชารารักป๊า” ชาราเดินเข้าหา เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มผู้เป็นพ่อที่นั่งทำงานอยู่ “ป๊าก็รักลูกเหมือนกัน” แกร๊ก… บานประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมดาวเหนือและดาวศุกร์ที่เดินเข้ามาใหม่ ภาพวุ่นวายเล่านี้เป็นสิ่งที่บุรินทร์วัชร์มักจะได้เห็นเป็นประจำอยู่ทุกวัน “เหนือจะพาดาวศุกร์ออกไปซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ฟรินจะเอาอะไรไหม” “รอก่อนได้มั้ย เลิกงานแล้วค่อยไปพร้อมกัน” “ไม่เป็นไร ไปแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” “ท้องอยู่…ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีฉันไปด้วย เป็นห่วง” ท้องของดาวเหนือเริ่มขยายใหญ่จนเห็นได้ชัด เวลาจะไปไหนมาไห