“ถ้าฟรินจะทำแบบนั้นก็ได้ แต่เหนือจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับฟรินอีก” ดาวเหนือหันไปสบตากับชายหนุ่ม ดวงตากลมโตสั่นไหวพยายามฝืนกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา
“ขู่เหรอ?” ร่างสูงรั้งเอวบางให้เข้าหา จับใบหน้าแสนหวานก่อนจะออกแรงบีบด้วยความรู้สึกที่อยากจะคาดเดา
“เหนือไม่ได้ขู่แต่พูดจริง”
“ถ้าคิดว่าการเขี่ยฉันทิ้งมันง่ายขนาดนั้นก็ลองดูสิ”
ดาวเหนือผลักคนตัวโตให้ถอยห่าง ขณะที่ฟรินกำลังจะโน้มริมฝีปากลงมาจูบเธอ โดยไม่แคร์สายตาขององศาหรือนักศึกษาคนอื่นที่กำลังมองมาอย่างให้ความสนใจ
“โกรธมากหรือไง ทำไมไม่ยอมให้จูบ”
“แล้วสิ่งที่ฟรินทำกับเหนือมันสมควรโกรธมั้ย” น้ำเสียงที่พูดฟังดูตัดพ้อ ฟรินเหมือนต้องการแค่เอาชนะ เขาไม่ได้รู้สึกดีกับเธอจริงๆ
“…..”
“ตกลงเหนือกับไอ้ฟรินเป็นอะไรกัน” เสียงขององศาพูดแทรกขึ้น ช่วยเรียกความสนใจของชายหนุ่มให้หันไปมอง
ฟรินเดินเข้าไปหาโน้มใบหน้าลงไปกระซิบบอกด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“เหนือเป็นเมียกู”
“กูอยากได้ยินจากปากเหนือ ไม่ใช่คนอื่น”
“มึงนั่นแหละคนอื่น”
“จริงเหรอเหนือ ที่ไอ้ฟรินมันบอกว่าเหนือเป็นเมียมัน คือเรื่องจริงหรือเปล่า” องศาร้อนรนมองไปทางร่างบางอย่างต้องการคำตอบ ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่ในใจแต่ยังอยากจะได้ยินจากปากเธอ
“ระ…รู้สึกเวียนหัวเหมือนจะไม่สบาย เหนือขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” คนตัวเล็กพูดตัดบทแค่นั้น เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้มีปากเสียงต่อกันไปมากกว่านี้
เธอรีบเดินหนีออกมา แต่ฟรินยังคงเดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง
“ทำไมไม่บอกมันไป ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“…..”
“แค่บอกว่าฉันเป็นผัวมันยากนักเหรอ”
“พอได้มั้ยฟริน ตอนนี้เหนือปวดหัวมากเลย”
เขาไม่ฟังในสิ่งที่เธอพูด แต่เลือกที่จะฉุดกระชากให้ดาวเหนือเดินตามอย่างเอาแต่ใจ
ดาวเหนือถูกผลักให้เข้ามาอยู่ในห้องน้ำชาย ก่อนที่เขาจะยืนขวางประตูเอาไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีก ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดเป็นอันหมดลงเมื่อเห็นสายตาห่างเหินที่ใช้มอง
“ในเมื่อฟรินได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วก็ปล่อยเหนือไปสักทีสิ จะตามมารังควานกันอีกทำไม”
“ฉันไม่ปล่อย เพราะมันยังไม่พอ!”
“ถ้าฟรินยอมหยุด เหนือจะถือว่าเรื่องที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดขึ้น” ถ้าบอกว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเธอก็เข้าใจ จะไม่เอาเรื่องนี้มาผูกมัดเขาไว้กับตัว
“ฟรินไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเหนือเลย เรายังจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“พูดออกมาได้ ปัญญาอ่อน!”
“…..”
“ไม่มีเพื่อนที่ไหน เขาเอากันขนาดนี้”
คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อถูกตอกหน้ากลับมา ดาวเหนือขยับถอยหลังหาทางออก เมื่อฟรินเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหันไปล็อกประตูห้องน้ำอย่างแน่นหนา
“พอได้มั้ยฟริน เหนือไม่ไหวนะ จะไม่ยอมให้ฟรินทำอีกแล้ว” ดาวเหนือปฏิเสธเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นอีก
“เดี๋ยวก็รู้ว่าจะยอมหรือไม่ยอม”
“จะเอาคลิปนั่นมาขู่เหนือเหรอ”
“แล้วจะยอมให้เอามั้ย”
“ทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไร”
“ต้องการเธอ”
“…..” แววตาที่มองมันเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ไม่คิดว่าฟรินจะใช้วิธีแบบนี้เล่นงานเธอ
“เหนือเกลียดฟริน!”
“ปากดี! งั้นเอาหลานไปฝากพ่อกับแม่เธอสักคนดีมั้ย”
“แล้วจะทำแบบนี้กับเหนือไปอีกนานแค่ไหน”
“เอาจนกว่าจะเบื่อ”
“งั้นก็รีบทำให้มันเสร็จ เหนืออยากกลับบ้าน”
-คลับหรูใจกลางเมือง-
“เป็นไรไอ้แว่น เครียดเรื่องอะไร” เจย์เดนถามอย่างสงสัย มองไปทางฟรินที่นั่งก้มหน้าถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“สงสัยทะเลาะกับเมีย”
“…..” ฟรินปรายหางตามองไคโรที่พูดเย้าหยอก แต่มันดันไปตรงกับเรื่องจริงที่คิดมากในตอนนี้
เขามองหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกดส่งข้อความและโทรหาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากดาวเหนือ
ตั้งแต่แยกกันช่วงบ่ายก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลย เธอเพียงแค่กดอ่านแต่ไม่ยอมตอบข้อความใดๆ กลับมา
“ถ้ามันเงียบ แสดงว่าเรื่องจริง สงสัยโดนจะเมียทิ้ง” ไคโรยิ้มยั่ว การได้กวนประสาทเพื่อนชายถือว่าเป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่งในชีวิต เพราะฟรินเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ถ้ามันคิดจะทำก็ทำเลย ไม่มีคำด่าหรือท่าทางโวยวายเพื่อส่งสัญญาณให้รู้ตัว
“คนประสาทอย่างมัน ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะไปอยู่ด้วยได้”
พลั่ก! ไม่พูดเปล่าแต่ถอดรองเท้าผ้าใบคู่โปรดเขวี้ยงใส่หน้าเพื่อนชายเต็มแรง
“ถ้าปากมึงว่างลองเอารองเท้ากูไปคาบไว้”
“สมควรไอ้ไค มันอยู่ของมันดีๆ มึงจะไปกวนประสาทเพื่อ?” คัมภีร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย พวกมันสองตัวทะเลาะกันทีไรมีแต่เขาที่เป็นคนคอยห้าม บางทีก็โดนลูกหลงเจ็บหนักจนได้เย็บหลายเข็ม
“ทะเลาะกับเหนือเหรอ” แฟรงก์ที่สังเกตอยู่นานเอ่ยถาม ก่อนจะดึงมวนบุหรี่ออกจากริมฝีปากของน้องชายแล้วขยี้มันจนดับ
“ไม่ได้ทะเลาะ”
“แล้วมึงเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องยุ่งเรื่องของกูหรอก”
“ไม่จริงไอ้ฟริน มึงกำลังเครียด ไม่งั้นไม่สูบบุหรี่จัดขนาดนี้หรอก”
เขารู้จักนิสัยของน้องชายดีกว่าใคร ฟรินไม่ใช่คนโวยวายหรือทำลายข้าวของ เวลาโกรธจัดหรือมีเรื่องเครียดหนัก มันจะเงียบผิดปกติ เริ่มสูบบุหรี่จัด สายตาเริ่มล่อกแล่กอยู่ไม่นิ่ง ชอบนั่งก้มหน้าอยู่ในมุมของตัวเอง
คนรอบข้างที่สนิทจะรู้ว่าถ้าอาการแบบนี้คือต้องรีบถอยห่างอย่าเข้าใกล้เพราะพร้อมระเบิดตลอดเวลา
“บอกกูมา เดี๋ยวกูไปคุยกับเหนือให้เอง”
“กูจัดการเองได้”
“ถ้าจัดการได้ มึงไม่เป็นแบบนี้หรอกไอ้ฟริน!”
“…..”
ติ๊ง! ดาวเหนือสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยคยามงัวเงียเมื่อได้ยินโทรศัพท์แผดเสียงร้องดัง คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากที่เห็นรายชื่อของ ‘ฟริน’ ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
(ทำอะไรอยู่ ทำไมโทรหาไม่ยอมรับสาย)
“…..”
(ออกมาหาหน่อย ตอนนี้ฉันรออยู่หน้าบ้านเธอ)
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรีบก้าวขาลงจากเตียง มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นรถของฟรินที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“ฟรินมาทำไม มีธุระอะไรดึกดื่นขนาดนี้”
(อยากมาเห็นหน้าเมีย)
“ดื่มมาด้วยเหรอ” เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงที่ยืดยานก็รู้ได้ว่าฟรินคงดื่มหนักมาก่อนหน้านั้น
(ออกมาหาหน่อยเหนือ…คิดถึง)
“…..”
(ถ้าไม่มา จะเข้าไปหาเอง)
“รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเหนือรีบไป”
แกร๊ก…ประตูรั้วเหล็กถูกเปิดออกพร้อมหญิงสาวที่เดินออกมา ฟรินรีบเดินเข้าหาก่อนจะดึงเธอมากอดไว้แน่นแล้วจูบเบาๆ ด้วยความโหยหา
“ทำไมไม่รับสาย ทำไมไม่ตอบข้อความ” ฝ่ามือหนาประคองใบหน้าแสนหวานไว้แน่น จ้องมองหน้าเธออย่างร้อนรน
“เมาแล้วทำไมไม่กลับบ้าน มาหาเหนือทำไม”
“ตอบคำถามฉัน! อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง”
“เหนือโกรธที่ฟรินทำแบบนั้น” ดาวเหนือพูดอย่างกระอักกระอ่วนฟรินใช้คลิปอย่างว่ามาเป็นเครื่องมือในการแบล็คเมล์ให้เธอยอมทำเรื่องแบบนั้น
“ถ้าหมายถึงคลิปนั่น ฉันลบทิ้งไปตั้งนานแล้ว”
“เหนือไม่ชอบให้ฟรินทำแบบนั้น”
“ถ้าเธอไม่ชอบจะไม่ทำอีก”
“…..”
“คิดถึง”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกัน”
“อยากเจอตอนนี้” ชายหนุ่มดึงเธอมากอดไว้แน่น ฝังริมฝีปากลงไปขบเม้มออกแรงดูดที่ลำคอขาวเนียนจนเกิดรอย
“ตอนนี้ดึกแล้ว ฟรินกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“ถ้าจะให้ฉันกลับ เธอต้องไปด้วย”
ชายหนุ่มยืนกอดอกจ้องมองดาวเหนือที่กำลังนอนหลับเปลือยกายคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เรือนร่างอรชรมีเพียงผ้าห่มผืนหนาปกปิดเอาไว้ “อื้อ…ฟรินพอก่อน เหนือไม่ไหวแล้ว” ร่างเล็กที่นอนคว่ำหน้าสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เมื่อสัมผัสได้ถึงท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่กำลังสอดใส่เข้ามาในช่องทางคับแน่นจากทางด้านหลังเป็นรอบที่สามของคืนนี้ น้ำสีขาวขุ่นที่ถูกปล่อยเข้าไปก่อนหน้านั้น ค่อยๆ ไหลย้อนทะลักออกจากร่องรักสีหวานยามที่แก่นกายลำใหญ่ขยับเข้าออกด้วยจังหวะเนิบนาบ ใบหน้าคมคายยกยิ้มด้วยความพอใจ เห็นร่องรักของเธอกลืนกินความเป็นชายของเขาจนหมด “ไหวหรือไม่ไหว เดี๋ยวฉันตัดสินใจให้เอง” ปัก! เสียงเนื้อกระทบบั้นท้ายขาวเนียนดังตามแรงกระแทกที่ชายหนุ่มส่งให้ โดยไม่มีทีท่าว่าฟรินจะยอมจบมันง่ายๆ คนตัวเล็กกัดปากแน่นกลั้นเสียงร้องครางยามที่ฝ่ามือหนาสอดเข้าล้วงเข้ามาบีบเคล้นเนินอกขาวเนียน ปลายนิ้วเรียวลูบวนไปยังยอดอกย้ำๆ “บะ…เบากับเหนือหน่อยได้มั้ยฟริน” ดาวเหนือหันกลับไปมองใบหน้าคมคายด้วยสายตาเว้าวอน แต่ฟรินกลับมองว่ามันยั่วยวนจนอดใจไม่ไหว สะบัดเอวส
-สองเดือนผ่านไป- “กี่โมงแล้ว” ดาวเหนือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย มองเห็นฟรินกำลังนั่งจ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “บ่ายสามสิบห้า” “ทำไมไม่ปลุกเหนือ” “กรนดังซะขนาดนั้น ใครจะไปกล้าปลุก” เขาอมยิ้มเล็กน้อย ก้มมองร่างบางที่กำลังนอนหนุนตักไม่ยอมลุกไปไหน ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปตามพวงแก้มของหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน เขาและเธอให้สถานะคบกันแบบเปิดเผยในฐานะคนรักมาเป็นระยะเวลาสองเดือน “อย่ามาพูดมั่วนะ เหนือไม่เคยนอนกรน” “น้ำลายเปียกกางเกงฉันขนาดนี้ ยังจะมาเถียงอีก” “…..” คนตัวเล็กทำหน้างอ รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง เผลอจ้องมองไปยังกางเกงสแล็คสีดำของฟรินที่มีรอยเปียกเป็นวงกว้าง “จ้องนานขนาดนั้น ระวังมันตื่นแล้วจะเจ็บตัว” ชายหนุ่มขยับเข้าใกล้จูบเธอเบาๆ ก่อนจะใช้ฟันคมขบกัดริมฝีปากล่างอย่างแรงด้วยความมันเขี้ยว “อื้ออ…เจ็บ” ดาวเหนือสะดุ้งด้วยความเจ็บ สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในโพรงปาก “เหนือไม่ได้มองตรงนั้นของฟรินสักหน่อย” “
-หนึ่งเดือนที่แล้ว- “ได้ข่าวว่าไอรินดาวอักษรตามจีบมึงเหรอไอ้แว่น” “…..” ฟรินไม่ได้ตอบคำถาม ริมฝีปากคาบมวนบุหรี่ นั่งหลับตาเอนหลังพิงโซฟาพร้อมครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “เอ้า! ไอ้เวร กูถามไม่ได้ยินหรือไง” เจย์เดนตะโกนถามด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมแข่งกับเสียงเพลงรอบข้าง “ไม่รู้ดิ ไม่ได้สนใจ” “ไอรินออกตัวแรงจะตายว่าชอบมึง คนเขารู้ทั้งมหาลัย ว่าแต่มึงไม่รู้เรื่องอะไรบ้างหรือไง” คัมภีร์มองไปทางเพื่อนชายที่นั่งทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไอ้ฟรินมันเสน่ห์แรงเกินใคร สาวสวยในมหาลัยต่างแวะเวียนมาขายขนมจีบกันทั้งนั้น “รู้แล้วไง” “สวย หมวย เอ็กซ์ขนาดนั้น มึงไม่สนใจจริงดิ” “แบบนั้นมันไม่ชอบหรอก ไอ้แว่นมันชอบแบบหัวอ่อน หลอกง่ายดูติ๋มๆ เหมือนยัยดาวเหนืออ่ะ” ไคโรพูดแทรกขึ้น ก่อนจะเลิกคิ้วยิ้มยั่วประสาทมองหน้าฟริน “หุบปากไอ้สัดไค!” “พูดแทงใจดำอ่ะดิ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะคนนี้อ่ะ” “…..” “สรุปเอาไงอ่ะ ถ้าไม่จริงจังกับดาวเหนือกูจะได้เอาต่อได้นะไม่ติดอยู่แล้ว” “ก็เอาดิ” ฟรินดับมวนบุหรี
ติ๊ง~ ดาวเหนือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอ่าน หลังจากได้ยินเสียงข้อความแจ้งเตือน ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มบาง เมื่อเห็นว่าคนที่ส่งข้อความมาหาคือ ‘ฟริน’ แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว ฟริน : มาหาหน่อย รอที่เดิม ดาวเหนือ : ตอนเย็นค่อยเจอกันได้มั้ย ฟริน : อยากเจอตอนนี้ ดาวเหนือ : คิดถึงเหนือใช่มั้ย ฟริน : อืม ดาวเหนือ : ถ้าไม่ตอบไม่ไป ฟริน : คิดถึง ดาวเหนือ : คิดถึงแค่ไหน ฟริน : รีบมาอย่าลีลา ดาวเหนือ : บอกเหนือมาก่อนสิ ฟริน : คิดถึงมาก ดาวเหนือกดอ่านข้อความด้วยหัวใจพองโต รีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าสะพายเตรียมตัวไปหาตามที่นัดหมาย “เดี๋ยวฉันมานะ” “จะไปไหน” มินดารีบคว้าแขนของเพื่อนสนิทที่จู๋ๆ ก็ลุกพรวดพราดออกไปไม่บอกไม่กล่าว “ไปหาฟรินที่ห้องสมุด” “แกติดมันหรือมันติดแก” มินดาถอนหายใจกลอกตามอง ไม่มีเลยสักวันที่สองคนนี้จะห่างกันได้ ถ้าเหนือไม่ไปหา ฟรินจะส่งข้อความหรือไม่ก็โทรมาตามทุกวัน “ไม่เห็นห
ครืด…สมาร์ตโฟนแผดเสียงร้องดังนานนับชั่วโมงเมื่อมีสายเรียกเข้า ดาวเหนือเหลือบสายตามองเพียงนิด ก่อนจะเห็นรายชื่อของฟรินปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขาพยายามส่งข้อความและติดต่อโทรหาเธอหลายสาย แต่สิ่งที่ทำคือปล่อยมันไว้แบบนั้น! ‘27สายไม่ได้รับ’ ‘12ข้อความยังไม่ได้อ่าน’ ร่างบางกดฟังคลิปเสียงย้ำๆ เพื่อเตือนใจตัวเองว่าที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องหลอกลวงจากผู้ชายที่เธอรักจนหมดหัวใจ คนตัวเล็กนั่งทอดสายตาเหม่อมองไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิท มีเพียงแสงดาวที่สาดส่องระยิบระยับพอให้เห็นแค่ลางๆ เธอนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ยอมลุกไปไหนตั้งแต่บ่ายจนถึงดึก “ดึกแล้วนะหนู ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?” “…..” ดาวเหนือดึงสติกลับคืนมายกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เธอเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะแห่งนี้ สังเกตเห็นดาวเหนือมานั่งใจลอยคนเดียวตั้งแต่บ่ายจนถึงมืดค่ำ “เป็นผู้หญิงมานั่งที่มืดๆ คนเดียวมันอันตรายนะ บ้านอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวป้าไปส่ง” “ขอบคุณค่ะป้า แต่หนูขอนั่งตรงนี้อีกสักหน่อย เ
แกร๊ก…บานประตูห้องนอนถูกเปิดออก เฟย์วารีบยกมือขึ้นปิดจมูกหลังจากได้กลิ่นฉุนของควันบุหรี่ลอยเตะจมูกเข้าอย่างจัง “เฮียฟริน แม่ให้มาตามไปกินข้าว” “เฮียยังไม่หิว” ฟรินตอบกลับแค่นั้น ก่อนจะดับมวนบุหรี่ที่อยู่ในมือเมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้ามาใกล้ “ทำหน้าเหมือนโลกจะแตก เฮียเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” เฟย์วาเดินเข้าไปถามพี่ชาย หลังจากที่สังเกตเห็นความผิดปกติมาหลายวัน “เปล่า” “เฮียมีเรื่องไม่สบายใจเหรอ” “มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย” เฟย์วาหย่อนตัวนั่งลงบนขอบเตียงข้างพี่ชาย พักนี้เขาคอยหลบหน้าหลบตาอยู่แต่ในห้อง ขนาดอยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่แทบจะไม่ได้คุยกันเลย “ทะเลาะกับซ้อใช่มั้ย ทำไมหลายวันมานี้ถึงไม่เห็นพาซ้อมาบ้างเลย” “…..” “ซ้อแค่งอนใช่มั้ย ถ้างั้นเฮียรีบไปง้อเลย” ที่ผ่านมาฟรินมักจะพาดาวเหนือมาค้างที่บ้านทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่อาทิตย์ที่ผ่านมากลับไม่เห็น “ยังไงพี่สะใภ้ของหมวยต้องเป็นซ้อคนเดียว ถ้าเป็นคนอื่นหมวยไม่เอานะ” “อืม เฮียก็ไม่เอาคนอื่นเหมือนกัน” “ไอ้แว่นกู
“พวกแกรู้ข่าวไอ้องศาหรือยัง” เจ้าขารีบวิ่งเข้ามารายงานกับกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ คนในมหาลัยเขาลือกันให้หนาหูว่าองศากำลังเจ็บหนักเพราะถูกทำร้าย “อะไรของแกเจ้าขา” มินดาถามอย่างให้ความสนใจ ถ้าเจ้าขากระตือรือร้นขนาดนี้คงเป็นเรื่องสำคัญ “แล้วแกล่ะเหนือรู้ข่าวหรือยัง” “ข่าวอะไร” “เอ้า! ทำไมไม่รู้อ่ะ มันเกี่ยวกับแฟนแกด้วยนะ” ดาวเหนือหยุดนิ่งชั่วขณะ เมื่อได้ยินในสิ่งที่เจ้าขาบอก เธอละสายตาจากงานที่ทำ เริ่มให้ความสนใจหลังจากได้ยินว่าฟรินมีส่วนเกี่ยวข้อง “มีอะไร มันเกิดอะไรขึ้น” “เห็นเขาบอกกันว่าไอ้องศาโดนฟรินตามไปกระทืบคาห้องน้ำที่คลับเมื่อคืน ตอนนี้นอนหยอดข้าวต้มอยู่โรงพยาบาล” “จริงเหรอเหนือ” มินดาหันไปถามเพื่อนสนิท เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไงดาวเหนือก็ต้องรู้ “มะ…ไม่รู้เหมือนกัน” เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้และไม่คิดมาก่อนว่าฟรินจะทำแบบนั้น “เป็นแฟนกันภาษาอะไรไม่รู้เรื่อง” “…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ครุ่นคิดอย่างหนักว่าเหตุการณ์ที่เกิ
ตุบ! ดาวเหนือยกมือกุมท้องด้วยความจุกแน่น เมื่อถูกแฟนหนุ่มเหวี่ยงขึ้นมาบนเตียงนอนอย่างแรงแบบไม่ทันตั้งตัวจนกระโปรงนักศึกษาร่นขึ้นโชว์ต้นขาขาวเนียน ก่อนที่จะถูกฟรินกระชากข้อเท้าให้เข้าหา ดวงตาคู่สวยมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย “อย่าทำแบบนี้กับเหนือนะฟริน” “แล้วจะให้ทำยังไง ไหนลองบอกมา” ฟรินถอดแว่นตาออกจากใบหน้าแล้วโยนมันทิ้งแบบไม่สบอารมณ์ เลื่อนมือไปปลดกระดุมนักศึกษาออกทีละเม็ดพร้อมจ้องหน้าเธอไปด้วย “พูดมาว่าต้องการแบบไหน” “ไม่อยากให้ฟรินทำแบบนี้” เสียงหวานสั่นเครือยามมองเห็นเรือนร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่าอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงสแล็คสีดำสุภาพ อีกทั้งรอยสักที่ทำให้ดูน่าเกรงขามเพิ่มขึ้นอีก “หมายถึงไม่อยากเอากับฉัน?” “เหนือไม่ได้เต็มใจ” “แล้วทำไมถึงไม่เต็มใจ” “…..” ร่างบางขยับถอยห่างจนแผ่นหลังแนบชิดกับหัวเตียง ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงมาใกล้สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของกันและกัน “อย่าทำเหมือนไม่เคย ทั้งๆ ที่โดนฉันเ
“อืม…” แสงแดดสาดกระทบเข้ามาภายในห้องนอน ช่วยปลุกคนที่หลับอยู่ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์” ดาวเหนือขยับพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองเมื่อถูกหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก “สายมากแล้ว วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “ให้ป๋าไปดูงานแทน วันนี้เลยมีเวลาว่างทั้งวัน” “ชนินทร์งอแงไหมคะ” หญิงสาวหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง มองดูลูกชายคนเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี “อยู่กับป๊าเป็นเด็กดี ไม่งอแงเลยครับ” “ปะ…ป๊า~” ชนินทร์ในวัยสิบเดือนเริ่มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว วางหน้าซบลงบนลาดไหล่ของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “ว่าไงสุดหล่อ อ้อนป๊าทำไม” “ป๊า~” “อยากมีลูกอีกสักสิบคน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังปรายสายตามองไปทางภรรยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เพ้อเจ้อ” “ถ้าเธอไม่หนีไปทำหมัน ป่านนี้คงกำลังท้องลูกฉันอยู่” “ใจคอไม่คิดจะให้พักบ้างเลยหรือไง เหนือเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่วัว” ดาวเหนือถอนหายใจลากยาวด้วยความท้อใจ เพราะวันๆ ฟรินเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเธอ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เข
“ทำไมที่คอของแม่มีรอยแดง” ดาวเหนือหยุดชะงัก รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดลำคอ หลังจากได้ยินคำถามของลูกสาว “ป๊าทำเอง” ฟรินรีบออกรับแทน พลางไล่สายตามองปฏิกิริยาของภรรยา “ป๊ากับแม่ทะเลาะกันเหรอ บีบคอแม่ทำไม” “ป๊าไม่ได้บีบคอแม่ ป๊าแค่จุ๊บแรงๆ” “แล้วแม่เจ็บไหม” ลูกสาวคนโตหันมาถามผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา “จะ…เจ็บค่ะ” ดาวเหนือพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่สามีด้วยความไม่พอใจ “ทีหลังป๊าห้ามจุ๊บแม่แรงนะ ศุกร์ให้จุ๊บเบาๆ ก็พอ” “งั้นคราวหน้าป๊าจะจุ๊บเบาๆ” “ฟรินนั่งคุยกับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวเหนือจะเข้าครัวไปหยิบจานผลไม้มาให้” “อย่าไปนาน…คิดถึง” ดึงมือของหญิงสาวมาหอมซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวว่าเสพติด รู้ว่าคลั่งเธอมาก แต่ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ “ปัญญาอ่อนฉิบหาย” แฟรงก์ที่นั่งเงียบอยู่นาน เบะปากมองคว่ำด้วยความรำคาญใจ สองผัวเมียคู่นี้มันยอมกันที่ไหน ไอ้แว่นมันคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนสถานที่หรือผู้คน “สาธุ…กูขอให้เหนือมีผัวใหม่ในเร็วๆ นี้ จะได้หลุดพ้นจากคนประสาทอย่างมึง”
“นิ่งเฉยอยู่ทำไม หรืออยากใช้มากกว่าปาก?” ดาวเหนือคุกเข่าลงตรงหน้า เลื่อนสองมือเข้าไปถอดกางเกงของชายหนุ่มออกอย่างรู้งาน ดวงตาคู่สวยไหวสั่น มองความเป็นชายที่กำลังขยายตัว ถึงแม้จะเห็นอยู่แทบทุกวันแต่หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ปากบางครอบลงบนแก่นกายอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นอุ่นเลียวนไปทั่วบริเวณส่วนปลาย ก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ สัมผัสได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลซึมเปียกแฉะไปทั่วริมฝีปาก ฟรินก้มลงมองการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา ท่าทางไม่ประสีประสาแต่เขากลับมองว่ามันน่าหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น “แค่เห็นหน้าเหนือก็เหมือนจะแตก” “อึก…” ใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยว เมื่อแก่นกายขยายใหญ่คับริมฝีปากจนเธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างนึกเอ็นดู ภาพที่เธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด มือสากเลื่อนเข้าไปจับศีรษะของหญิงสาวไว้มั่น ก่อนจะอัดกระแทกความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากเล็กตามจังหวะที่ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก “อยากให้แตกใส่ตรงไหน” “แล้วแต่ฟรินจะทำ”
“ชนินทร์น่ารักจังเลย หนูขอจับน้องได้มั้ยคะ” ดาวศุกร์เกาะขอบเตียงเขย่งปลายเท้าขึ้นมองน้องชายด้วยความตื่นเต้น “ได้ค่ะ จับน้องเบาๆ นะคะ” “ศุกร์รักน้องค่ะแม่” ดาวศุกร์เผยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมองเห็นน้องชายตัวจิ๋ว “เป็นพี่น้องต้องรักกันนะคะ” “ถ้าศุกร์โต เดี๋ยวศุกร์จะเป็นคนเลี้ยงน้องแทนแม่กับป๊าเอง” เพราะเห็นว่าป๊าทำงานหนักเลยอยากแบ่งเบาภาระช่วยดูแลแม่กับน้อง “ลูกสาวของแม่คนนี้เก่งที่สุดเลยค่ะ” “ป๊าแฟรงก์เคยสอน บอกว่าถ้าศุกร์เป็นเด็กดีจะมีแต่คนรักเรา” เด็กน้อยยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าดื้อมากๆ จะโดนป๊าแฟรงก์ดึงหู “ใช่แล้วค่ะ ถ้าหนูเป็นเด็กดี ทุกคนจะรักหนู” “ศุกร์สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ป๊ากับแม่จะได้รักศุกร์มากๆ” โชคดีที่ดาวศุกร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย อาจจะซุกซนไปบ้างตามวัยแต่มีจิตใจดี ชอบสงสารและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ “…..” “เอาอีกดิไอ้แว่น” แฟรงก์สะกิดน้องชายเบาๆ เพื่อให้หันมองลูกทั้งสามคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “อะไร?”
“ทำไมวันนี้คนสวยตื่นเช้า ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนตัวเล็กไว้แน่นจากทางด้าน โน้มริมฝีปากพรมจูบที่ลำคอขาวเบาๆ ด้วยความหวงแหน วันนี้ดาวเหนือตื่นเช้ากำลังยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ริมระเบียงห้องของบ้านพัก “อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ” “สวยมาก” “ใช่ค่ะ สวยมากเลย” “ไม่ได้หมายถึงพระอาทิตย์ แต่ฉันหมายถึงเธอ” ปลายนิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มอมชมพูอย่างอ่อนโยน “ตื่นมาก็อ้อนเมียแต่เช้าเลยนะคะ” เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มของสามีเบาๆ “อยากทำมากว่าอ้อนอีก” “…..” ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนด้วยความเขินอาย ขยับถอยหนีแต่ฟริน ยังคงเดินตามไม่ห่างไปไหน “อยากย้ายมาอยู่ที่นี่มั้ย เธอจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน” “เหนือชอบที่นี่ แต่ฟรินเองก็ยังมีธุรกิจและลูกน้องที่ต้องดูแล เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอแค่บอกมาคำเดียว เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” อะไรที่เป็นความสุขของลูกกับเมียเขายินดีทำให้แบบไม่มีข้อแม้ “คงต้องถามลูกๆ ก่อนว่าอยากมาอยู่ที่นี่ไหม เหนือแล้วแต่ลูก” “ส่วนฉั
“กินผักเยอะๆ หลานแฟรงก์จะได้แข็งแรง” แฟรงก์ยื่นจานผักและผลไม้ให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดาวเหนือท้องแก่ใกล้คลอดจำเป็นต้องกินแต่ของที่มีประโยชน์ “เหนือว่าคนนี้ต้องตัวโตมากแน่เลย” คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มบางๆ อย่างมีความสุข ทุกคนในครอบครัวล้วนแต่เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ “ตัวโตก็ดีแล้ว จะได้ดูแลปกป้องพี่สาวได้” “ศุกร์ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องหรอก” ดาวศุกร์พูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง “ตัวแค่นี้อย่าทำซ่าส์นะศุกร์” “ก็ป๊าฟรินเป็นคนสอนหนูเองว่าให้ลูกเข้มแข็ง” “สภาพอย่างไอ้แว่นเนี่ยนะจะมาเข้มแข็ง ตอนโดนเมียทิ้งร้องไห้จะเป็นจะตาย” แฟรงก์หรี่สายตามองหน้าน้องชายอย่างเอือมๆ “ป๊าต้องไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า อดหลับอดนอน จนจะเป็นบ้าตามมันไปอีกคน” “กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้แฟรงก์ อย่ามาลามปาม” คนที่ถูกกล่าวหา เกิดอาการร้อนตัวรีบพูดแทรกขึ้น เขาอุตส่าห์นั่งเงียบๆ แต่ก็ก็ยังมิวายโดนพูดจากระแทกแดกดัน “กูพูดความจริงทั้งนั้น มึงรับไม่ได้เหรอ” “แล้วเมียของป๊าเ
“ทำไมหน้ามึงโทรมขนาดนี้ ขอบตาดำอย่างกับหมีแพนด้า ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน” แฟรงก์จับหน้าน้องชายฝาแฝดหันซ้ายหันขวา ไม่รู้ว่าไอ้แว่นมันมัวแต่ทำงานหนักหรือเอาแต่คิดเรื่องเมีย ถึงได้อดหลับอดนอน “ถึงเราจะเป็นผู้ชาย ก็ต้องดูแลตัวเองนะน้องรัก อย่าปล่อยตัวให้โทรมเหมือนผีดิบจำศิลแบบนี้” ตบบ่าแฝดน้องเบาๆ ถึงจะเป็นแฝดหน้าตาคล้ายกันก็จริง แต่คนอื่นมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขาน่ะหล่อกว่าไอ้แว่นเป็นไหนๆ “เลิกวุ่นวายได้แล้วแฟรงก์ ถอยไปไกลๆ กูจะทำงาน” ฟรินปัดป่ายมือพี่ชายออกจากใบหน้าด้วยความรำคาญ จะให้เอาเวลาที่ไหนไปดูแลตัวเองแบบมัน ไอ้แฟรงก์มันเข้าคลินิกเสริมความงามกับแม่ทุกเดือน นั่งๆ นอนๆอยู่แต่ในร่ม เคยออกแดดที่ไหนกัน ส่วนเขาแค่ก้มหน้าทำงานก็หมดเวลาไปเกือบวัน “พักเรื่องงานเอาไว้ก่อน ไปรับลูกที่โรงเรียนกัน” “แต่อีกครึ่งชั่วโมงกูต้องเข้าประชุม” “มึงเห็นงานสำคัญกว่าลูกหรือไง” แฟรงก์ยืนเท้าเอวมองหน้าน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องงานเอาไว้ค่อยทำก็ได้ ยังไงเรื่องลูกก็ต้องมาก่อนเสมอ” ในหัวสมองของไอ้แว่น
“ทานอีกนิดสิเหนือ ผลไม้มันมีประโยชน์นะ” “เหนืออิ่มแล้วค่ะแม่” ดาวเหนือบอกอย่างเกรงใจ แม่สามีและทุกคนในครอบครัววรางกูรดูแลและรักเธอมากเสมือนเป็นญาติแท้ๆ ด้วยอีกคน “งั้นดื่มนมอีกสักหน่อย หลานแม่จะได้แข็งแรง” พอรู้ว่าได้หลานชายถึงกลับหัวใจพองโต อะไรที่ว่าดีก็หาประเคนมาให้ลูกสะใภ้แทบทุกอย่าง “ขอบคุณค่ะ” “ถ้าอยากกินอะไรให้บอกแม่นะ คนกำลังท้องต้องเลือกกินแต่สิ่งที่มีประโยชน์” ปาลินลูบศีรษะของดาวเหนือด้วยความรักใคร่เอ็นดู ถ้าลูกชายรักใครเธอก็รักด้วย “ค่ะแม่” “อิจฉาซ้อจริงๆ ผัวก็หลงจนหัวปักหัวปำ แถมแม่ผัวยังรักพร้อมยอมยกสมบัติให้อีก” หมวยเฟย์ที่นั่งเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้น ก่อนจะปรายสายตามองไปยังผู้เป็นแม่ที่เอาอกเอาใจลูกสะใภ้จนออกหน้าออกตา เจ๊ปาลินเห่อหลานชายคนนี้ยิ่งกว่าอะไรดี เตรียมของรับขวัญไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ “งั้นก็ดูไว้เป็นตัวอย่าง ถ้าแกจะมีผัวต้องหาให้ดีกว่าพวกเฮียสองคนนะรู้ไหม” แฟรงก์บอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจได้ที่ไหน “พวกสันดานเจ้าชู้หลายใจ อย่าไปคิดจะเ
“ป๊า!” ‘ชารา’ แฝดผู้พี่วิ่งเข้ามาในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อด้วยความคุ้นเคย ด้านล่างเป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ ส่วนชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว “ว่าไงครับ?” “เห็นชุดเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของชารามั้ยคะ” เด็กน้อยยืนกอดอกถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว สามารถเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อได้เป็นอย่างดี “ป๊าพับเก็บไว้ให้อยู่ในลิ้นชัก หนูลองไปหาดูนะ” “ขอบคุณค่ะ ชารารักป๊า” ชาราเดินเข้าหา เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มผู้เป็นพ่อที่นั่งทำงานอยู่ “ป๊าก็รักลูกเหมือนกัน” แกร๊ก… บานประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมดาวเหนือและดาวศุกร์ที่เดินเข้ามาใหม่ ภาพวุ่นวายเล่านี้เป็นสิ่งที่บุรินทร์วัชร์มักจะได้เห็นเป็นประจำอยู่ทุกวัน “เหนือจะพาดาวศุกร์ออกไปซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ฟรินจะเอาอะไรไหม” “รอก่อนได้มั้ย เลิกงานแล้วค่อยไปพร้อมกัน” “ไม่เป็นไร ไปแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” “ท้องอยู่…ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีฉันไปด้วย เป็นห่วง” ท้องของดาวเหนือเริ่มขยายใหญ่จนเห็นได้ชัด เวลาจะไปไหนมาไห