แชร์

บทที่ 185

ผู้เขียน: อู๋ซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-18 17:00:00
ตรงประตูทางเข้าของบริษัทในเครือตระกูลเซี่ย รปภ. หลายคนจับตัวเซี่ยเซียนอินมาโยนไว้นอกประตู

เซี่ยเซียนอินนอนอยู่กับพื้นราวกับดินโคลนแอ่งหนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เธอไม่รู้ว่าตัวเองนอนอยู่กับพื้นมานานแค่ไหนแล้ว เธอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจัดผมเผ้าแล้วเดินซวนเซออกไปจากที่นี่ทีละก้าว ๆ

เธอเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนพร้อมรูปถ่ายของโต้วโต่วที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ แล้วถามเกือบทุกคนที่เธอพบเจอ

เมื่อเซี่ยเซียนอินกลับมาถึงบ้าน ก็เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว

ทันทีที่เธอเข้าประตูมา หลี่ชิงเฟิงก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นกังวล!

"คุณไปที่ไหนมา? ทำไมถึงไม่ยอมรับสายเลย? รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน!"

หลี่ชิงเฟิงเองก็ตามหาเธอมาทั้งวัน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง

เซี่ยเซียนอินส่ายหน้าพลางเอ่ยเสียงเบาว่า "ฉันไม่เป็นไรค่ะ ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง? มีข่าวคราวของโต้วโต่วบ้างไหม?"

หลี่ชิงเฟิงถอนหายใจ "ยังเลย พรุ่งนี้ผมจะคิดหาหนทางอื่นดู"

เซี่ยเซียนอินพลันน้ำตาไหลรินขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็หันหลังกลับเข้าห้องนอนไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เมื่อหลี่ชิงเฟิงเห็นแผ่นหลังของเธอก็ให้รู้สึกใจสลาย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 186

    "เป็นแกต่างหากล่ะ! ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกโผล่มาจากไหน แต่แกยังถึงขั้นมานั่งอยู่ตรงที่นั่งของฉัน แกหมายความว่ายังไงกันแน่?" เสี่ยวอิ๋งยิ้มเยาะ เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกตื่นตะลึงจนสีหน้าคล้ำเครียด เสี่ยวอิ๋งเดินเข้ามาหาหลี่ชิงเฟิงพลางหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋าของตัวเองแล้วยื่นให้เขา "ดูให้ชัด ๆ ซะ เซี่ยเซียนอินของแกยกเทียนชื่อกรุ๊ปให้ฉันแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นบอสของที่นี่ เข้าใจหรือยังล่ะ?" "ตอนนี้ก็ช่วยลุกขึ้นจากที่นั่งของฉันเดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของแกอีกแล้ว" หลี่ชิงเฟิงพลันเข้าใจได้ทันที มิน่าล่ะเมื่อวานนี้เซี่ยเซียนอินถึงได้ออกไปข้างนอกตั้งนาน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะต้องมาขอร้องเสี่ยวอิ๋ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังโดนเสี่ยวอิ๋งเล่นงานอีกต่างหาก! หลี่ชิงเฟิงจ้องมองเสี่ยวอิ๋งด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น... เสี่ยวอิ๋งยังคงหวาดกลัวเขาอยู่บ้างจึงเดินถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว "แกจะทำอะไรน่ะ? กลางวันแสก ๆ แบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ?" เมื่อประตูห้องทำงานเปิดออก เพื่อนร่วมงานหลายคนที่มารวมตัวกันอยู่ตรงประตูล้วนกำลังมองมาที่พวกเขา หลี่ชิงเฟิงรู้ว่าไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 187

    เสี่ยวอิ๋งนั่งสวมบทบาทเป็นราชินีบนบัลลังก์อยู่ในห้องทำงาน! เธอกางฝ่ามือแล้วเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอันแสนวิเศษ ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากนั้นก็มีพนักงานหลายคนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พนักงานเหล่านี้ล้วนมีประสบการณ์ช่ำชอง พวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องกฎเกณฑ์ในที่ทำงานโดยไม่ต้องอธิบาย ตอนนี้เปลี่ยนผู้นำคนใหม่แล้ว พวกเขาย่อมต้องมาแสดงความยินดี "สวัสดีครับคุณเซี่ย ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เสี่ยวอิ๋งยิ้ม "ดีมากค่ะ นับว่าคุณค่อนข้างมีไหวพริบทีเดียว วางใจเถอะ ตราบใดที่คุณคอยติดตามฉันและทำตามคำสั่งแต่โดยดี คุณย่อมได้รับผลประโยชน์อยู่แล้ว" ทุกคนยิ้มแล้วพยักหน้าพลางกล่าวว่า "คุณเซี่ย พวกเราอยากจะหาเวลาจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้คุณน่ะ คุณคิดว่าไง?" เมื่อเสี่ยวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มแล้วพูดว่า "ได้เลยค่ะ! งั้นก็จัดคืนวันพรุ่งนี้เถอะค่ะ!" "บอกพวกเขาว่าทุกคนต้องมางานเลี้ยงต้อนรับของฉันด้วยนะคะ!" "ไม่งั้นวันรุ่งขึ้นก็ไม่ต้องมาทำงานอีกเลย" "ครับ!" หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว เสี่ยวอิ๋งก็ล็อกประตูแล้วค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหมายเลขชุดหนึ่ง ไม่นานก็มีเสียงชายผู้หนึ่งดังขึ้นจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 188

    เพื่อนที่ว่านี้จะปรากฏตัวขึ้นก็ต่อเมื่อได้ยินว่าคุณประสบความสำเร็จเท่านั้น พวกเขาจะประจบสอพลอคุณอย่างสุดกำลัง หมายจะยกยอปอปั้นจนคุณตัวลอยขึ้นฟ้าทะลุทางช้างเผือกกันไปเลย เสี่ยวอิ๋งก็ชอบเรื่องแบบนี้มากเช่นกัน หลังจากพูดจาเยินยอไปอีกไม่กี่คำ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเรียกบริกรแล้วเปิดไวน์มูลค่าห้าหมื่นอีกขวดหนึ่ง เสียงเพลงบนฟลอร์เต้นรำค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วบรรยากาศในห้องส่วนตัวก็ครึกครื้นยิ่งขึ้น! ขณะที่เสี่ยวอิ๋งกับเพื่อน ๆ ของเธอกำลังดื่มฉลองสำราญใจกันอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็สังเกตเห็นว่าประตูห้องส่วนตัวค่อย ๆ เปิดออกแล้วมีคนเดินเข้ามา เสี่ยวอิ๋งผงะอึ้งพลางวางแก้วไวน์ลงแล้วขยี้ตา เพราะคิดว่าเธอคงดื่มมากเกินไปจนตาลาย คนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือหร่วนเหมยงั้นเหรอ? หร่วนเหมยก้มหน้าก้มตาเดินเข้ามาหาเธอ ทั้งยังดูเหมือนมีเรื่องจะพูด แต่เสียงเพลงดังมากเกินไปจึงทำให้เธอได้ยินไม่ชัด เสี่ยวอิ๋งปิดเพลงแล้วมองหร่วนเหมย จากนั้นก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "โอ้ ลมอะไรหอบป้ามาถึงที่นี่ล่ะ? อยากจะดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมล่ะ?" หร่วนเหมยก้มหน้าแล้วพูดว่า "เซี่ยอิ่ง บอกให้พวกเธอออกไปก่อนได้ไหม? ฉันมีเรื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 189

    เมื่อหร่วนเหมยได้ยินเช่นนี้เข้า เธอก็อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! ดวงตากลัดเลือดของเธอจ้องมองเสี่ยวอิ๋งด้วยความอาฆาตเคียดแค้น! ทันใดนั้นเธอก็กรีดร้องแล้วพุ่งกระโจนเข้ากดเสี่ยวอิ๋งลงกับโซฟาทันที! "ฉันจะฆ่าหล่อนซะ! นังปีศาจ! หล่อนมันไม่ใช่คน!" หร่วนเหมยที่จู่ ๆ เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาสร้างความหวาดกลัวให้แก่เพื่อน ๆ รอบตัวเธอ! ตอนนี้ยังจะมีใครสนใจเสี่ยวอิ๋งอยู่อีกเล่า? พวกเธอต่างหลบหนีไปด้วยความตื่นตระหนก! หร่วนเหมยตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งเสียแล้ว คำพูดเมื่อสักครู่นี้ปลุกเร้าเธอมากเกินไป ตอนนี้เธอจึงคิดจะฆ่าเสี่ยวอิ๋ง! แต่ไม่นานประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกดังปัง จากนั้น รปภ. หลายคนก็วิ่งเข้ามาลากตัวหร่วนเหมยออกไป! ไม่กี่นาทีต่อมา หร่วนเหมยก็ถูกโยน รปภ. โยนออกมานอกบาร์ หร่วนเหมยที่อับจนหนทางนั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงประตูของบาร์ ดึงดูดความสนใจให้ทุกคนเข้ามามอง ในยามนี้เอง คนชุดดำหลายคนก็พลันเดินแหวกฝูงชนออกมาหาเธอแล้วเอ่ยเสียงเบาว่า "คุณหร่วนเหมย ช่วยมากับพวกเราทีครับ" หร่วนเหมยมองหน้าพวกเขา "พะ... พวกคุณเป็นใครกัน?" "ร้องไห้อยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าคุณอยากจะหาโต้วโต่วให้เจอ ก็มาหาวิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 190

    หลี่ชิงเฟิงเอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "แม่ไม่ได้บันทึกอะไรเอาไว้เลย ต่อให้แจ้งตำรวจไปก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี กลับไปดูแลเซียนอินแทนผมก่อนเถอะครับ" หร่วนเหมย "อย่ามัวแต่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงนี้! เธอคิดว่าลำพังแค่คนชุดดำไม่กี่คนก็จะทำให้เสี่ยวอิ๋งตกใจได้งั้นเหรอ? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเซียนอินและโต้วโต่วล่ะก็ ฉันขอบอกเธอไว้เลยว่าระหว่างไม่จบแน่! เธอควรจะหัดมีสามัญสำนึกเสียบ้างนะ!” หลังจากหร่วนเหมยพูดจบก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป หลังจากเธอออกไปแล้ว หลี่ชิงเฟิงก็หัวเราะขึ้นมา ในที่สุดสุนัขจิ้งจอกก็โผล่หางออกมาแล้ว "ดูเหมือนว่าหล่อนจะขายโต้วโต่วแล้วได้เงินมา ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ คืนนี้เธอน่าจะออกมาฉลอง" หลี่ชิงเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เย่เซียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ในเมื่อขายไปแล้ว ก็หมายความว่าชีวิตของโต้วโต่วไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ทุกอย่างก็จัดการได้ไม่ยากแล้ว มิหนำซ้ำยังมีเวลาให้จัดการด้วย" "วันนี้รีบเอาบันทึกการโอนเงินของเสี่ยวอิ๋งมาให้ฉันด้วย ฉันต้องการเดี๋ยวนี้เลย!" หลี่ชิงเฟิงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด เย่เซียวพยักหน้า "ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละ" "มีปัญหาอะไรงั้นรึ?" หลี่ชิงเฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 191

    ชายหัวโล้นที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็คือ เมิ่งชวนที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ ดวงตาของหลี่ชิงเฟิงฉายแววเยียบเย็น แต่เมิ่งชวนกลับไม่ทันสังเกตเห็น เขาเอาแต่คิดเรื่องที่จะเชือดสุกรตัวอ้วนพี พวกลูกน้องของเมิ่งชวนต่างหยิบเครื่องมือพลางเปิดฝากระโปรงรถแล้วร่วมทำงานกันอย่างว่องไว ในเวลาไม่ถึงชั่วสิบอึดใจ เมิ่งชวนก็ยิ้มพลางกล่าวว่า "นายท่าน ซ่อมเสร็จแล้ว ทั้งหมดหนึ่งแสนบาทครับขอบคุณมากครับ" เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "หนึ่งแสนงั้นรึ? กล้าเรียกราคานี้จริง ๆ เหรอเนี่ย? คงไม่ใช่แค่น้ำมันรั่วแล้วมั้ง?" รอยยิ้มบนใบหน้าของเมิ่งชวนค่อย ๆ เลือนหายไปแล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า "คุณดูซิว่าแถวนี้ยังมีอู่ซ่อมรถอยู่อีกไหม? ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นรถหรูด้วย ผมไม่กล้าใส่อะไหล่ห่วย ๆ ให้คุณหรอก คิดแค่หนึ่งแสนยังถูกไปเสียด้วยซ้ำ" เย่เซียวหัวเราะ "คุณซ่อมเสร็จในเวลาไม่ถึงสิบวินาที คุณจะใช้อะไหล่คุณภาพดีอะไรได้เล่า?" เมิ่งชวนแววตามืดมน เขาไม่คิดจะพูดคุยไร้สาระกับพวกเขาอีกต่อไป จากนั้นเขาก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ก็แค่หนึ่งแสน แกจะจ่ายหรือไม่จ่ายกันแน่?" หลี่ชิงเฟิงกับเย่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    "ฉะ...ฉันไม่รู้จัก..." "ฉันไม่เคยค้ามนุษย์สักหน่อย!" "ฉันจะทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้นได้ยังไงกัน? ยามที่พวกเรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ พวกเราควรจะยึดถือหลักคุณธรรมไม่ใช่หรือไง?" เมิ่งชวนรู้ว่าขืนตอนนี้ตนยอมรับออกไปคงต้องตายเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงกอดกุมความหวังสุดท้ายเอาไว้ หลี่ชิงเฟิงหัวเราะพลางหยิบใบเสร็จออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนมาตรงหน้าอีกฝ่าย "นี่เป็นใบเสร็จจากธนาคาร เงินสองแสนที่แกโอนให้เซี่ยอิ่ง เป็นเงินแบบไหนกันนะ?" "นี่เป็น...เงินขวัญถุง..." เมิ่งชวนอธิบาย หลี่ชิงเฟิงพยักหน้า "เอาล่ะ ในเมื่อแกไม่พูดอะไรก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน" เขาลุกขึ้นแล้วโบกมือ จากนั้นชายชุดดำหลายคนที่อยู่ข้างหลังก็หิ้วตัวอีกฝ่ายเข้าบ้านทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ "พวกแกจะทำอะไรน่ะ? อย่ามาแตะต้องฉันนะ! พวกแกกำลังก่ออาชญากรรมอยู่นะ!" เมิ่งชวนร้องตะโกน แต่ที่นี่อยู่ไกลมากเสียจนไม่มีใครได้ยินเสียงเขา เขาถูกโยนเข้าไปในบ้าน เสื้อผ้าถูกฉีกทึ้งแล้วก็ถูกแขวนลงมาจากขื่อ... คนชุดดำหิ้วน้ำมาถังหนึ่งแล้วราดใส่เมิ่งชวน ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะเชือดสุกรอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีคนปกติคนไหนจะสามารถทนแรงกดดันเช่นนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20
  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    เซี่ยชวนแวดล้อมไปด้วยขุนเขาทั้งสามด้านและอีกด้านก็หันหน้าเข้าหาทะเล เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทำให้มีหุบเขาลึกมากมายอยู่ที่นี่ บางชนเผ่าในหุบเขามีความคิดที่ค่อนข้างล้าหลัง ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเริ่มธุรกิจซื้อขายมนุษย์ หลังจากหลี่ชิงเฟิงกับเย่เซียวออกมาจากอู่ซ่อมรถ หลี่ชิงเฟิงก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า "ขับรถมาที่นี่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมง ค่ำมืดป่านนี้แล้วแถมทางขึ้นเขาก็ขรุขระ เช่นนั้นก็ได้แต่ค่อย ๆ ขับไปแล้ว. .” เย่เซียวยิ้มนิด ๆ "พี่ใหญ่ พี่เห็นบนนั้นไหม?" เย่เซียวชี้นิ้วขึ้นฟ้า หลี่ชิงเฟิงเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นเฮลิคอปเตอร์สีดำค่อย ๆ มุ่งหน้ามาหาพวกเขาอยู่ไกล ๆ หลี่ชิงเฟิงยิ้มจาง ๆ เขาไม่ได้อยู่กับกองกำลังอสูรรัตติกาลมานาน เขาจึงไม่คุ้นเคยกับพลังอำนาจของกองกำลังอสูรรัตติกาลอีกต่อไปแล้ว ไม่นานนักเฮลิคอปเตอร์ก็ค่อย ๆ ร่อนลงมา จากนั้นพวกเขาสองคนก็รีบกระโจนตัวขึ้นไปแล้วอันตรธานหายไปท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรีอันไกลโพ้น... ……. หลี่โต้วโต่วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วขมวดคิ้ว กลิ่นเหม็นเน่าระลอกหนึ่งที่กำจายเข้าสู่จมูกของเธอ ทำให้เธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20

บทล่าสุด

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 286

    "พ่อไม่ไปนะ!" จู่ ๆ เซี่ยเทาก็แผดเสียงร้องพลางกระโดดข้ามโซฟาแล้ววิ่งไปที่ประตูหลัง! เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายตอบสนองว่องไว! เพียงก้าวเดียวก็ประชิดตัวพลางจับเขากดลงกับพื้นแล้วบังคับสวมกุญแจมือ สิบนาทีต่อมา ภายในห้องสอบสวน เสี่ยวอิ๋งนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยความคิดมากมาย ตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูวิดีโอแล้วถามว่า "เท่าที่พวกเราทราบมา คนที่อยู่ในวิดีโอคือเซี่ยเทาพ่อของคุณ ตอนนี้เขาอยู่ห้องข้าง ๆ คุณจะอธิบายสิ่งที่เขาพูดว่ายังไงล่ะ?" เสี่ยวอิ๋งสูดลมหายใจลึก ๆ พลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมคุณถึงไม่ถามเขาเองล่ะคะ?" "แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องถามเขาอยู่แล้ว แต่คุณเป็นลูกสาวของเขา คุณจะไม่รู้เรื่องนี้เลยเชียวเหรอ?" เซี่ยอิ่งลูบคางพลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "จริงด้วยสิ! ดูเหมือนเขาจะเคยบอกว่าทำความผิดร้ายแรงบางอย่างแล้วอยากจะหนีไป! ฉันถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยแถมยังบอกว่ายิ่งฉันรู้ให้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี! วันหน้าให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี ๆ..." "พูดต่อไปสิ" "จากนั้น

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 285

    "จะวิธีอะไร ฉันก็อยากลองดูทั้งนั้น!" เสี่ยวอิ๋งเอ่ยโดยไม่ลังเล "ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก! วิธีไหนฉันก็อยากจะลองดู!" เย่เจี้ยนเหอเงยหน้ามองเธอแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า "โยนความผิดเรื่องทั้งหมดนี้ให้พ่อของเธอแบกรับไว้!" เมื่อเสี่ยวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ ศีรษะของเธอก็ส่งเสียงอื้ออึง! ตอนแรกสังเวยคุณย่าไปแล้ว ตอนนี้ถึงทีพ่อของเธอแล้วงั้นเหรอ? เย่เจี้ยนเหอจ้องมองเธอ "ไม่มีเวลาคิดแล้ว จะตกลงหรือจะติดคุก!" "ฉันตกลง! ฉันตกลงค่ะ! ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!" เสี่ยว อิ๋งผงกศีรษะซ้ำไปซ้ำมา เย่เจี้ยนเหอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะเรียกทนายเข้ามา พวกเขาจะบอกเธอว่าต้องพูดหรือทำอะไร จากนั้นเธอก็แค่รอให้ตำรวจเรียกตัว" เสี่ยวอิ๋งผงกศีรษะ "ฉะ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" พอกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวอิ๋งก็เจอพ่อของเธอ เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ดวงตาของเสี่ยวอิ๋งก็ฉายแววน่าหวาดกลัว เซี่ยเทาก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลย ลูกสาวของเขารู้เรื่องแล้ว "เสี่ยวอิ๋ง พ่อทำอาหารให้ลูกกินด้วยนะ ดูสิ..." "กินบ้าอะไรเล่า!" เสี่ยวอิ๋งพลันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขึ้นมาทันที! เธอร

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 284

    ในสถานการณ์เช่นนี้ ขืนเสี่ยวอิ๋งมัวแต่เข้าไปพัวพันคงได้จบเห่กันพอดี การเก็บเธอไว้น่าจะยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เสี่ยวอิ๋งเองก็เป็นคนฉลาดจึงผงกศีรษะแล้ววิ่งออกทางประตูหลัง... เย่เซียวคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับถูกหลี่ชิงเฟิงห้ามเอาไว้ "ไม่ต้องไล่ตามหรอก วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหวังเจิ้น อย่าทำอะไรน่าเกลียดเกินไปเท่านี้ก็พอแล้ว" เย่เซียวพยักหน้าแล้วยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ ในตอนนี้เอง ปี้ไห่เทาก็เดินยิ้มเข้ามา "เหล่าหวัง วันนี้ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะ! ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดดี ๆ ที่นายควรจะมีความสุขแท้ ๆ แต่กลับลงเอยแบบนี้เสียได้..." หวังเจิ้นถอนหายใจ "ช่างเถอะ" "เหล่าหวัง ตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกหอการค้าเทียนเหมินของพวกเรา เย่เจี้ยนเหอดันพานังคนชั้นต่ำแบบนั้นมาเสียได้ กลับไปเมื่อไหร่ฉันย่อมต้องตำหนิเขาแน่! ฉันจะทำให้เขาจำให้ขึ้นใจเชียวล่ะ! เมื่อพวกเรากลับถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ไห่เทาย่อมต้องมาขอขมาของแน่นอน" หวังเจิ้นโบกมือ "คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ช่างมันเถอะ ผมไม่ถือสาหรอก" ปี้ไห่เทาพยักหน้าพลางขยิบตาให้เย่เจี้ยนเหอ จากนั้นพวกเขาสองคนก็ก้าวเดินจากไป ขณ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 283

    เสี่ยวอิ๋งโมโหจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เธอชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วด่ากราดว่า "แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! คู่ควรที่จะมอบของขวัญให้ฉันแล้วงั้นเหรอ?" "หุบปากไปซะ พ่อตาของแกโดนซ้อมขนาดนั้น เขยอย่างแกไม่กล้าแม้แต่จะผายลมเสียด้วยซ้ำไป! แกยังกล้ามาก่อเรื่องที่นี่อีกงั้นรึ?" "ถ้าฉันเป็นแกล่ะก็ คงได้โหม่งเสาโทรศัพท์ตายไปแล้ว!" "ไร้ยางอายสิ้นดี!" เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งหน้าแดงก่ำและลำคอแข็ง หลี่ชิงเฟิงกลับยิ่งขบขันพลางกล่าวว่า "ฉันคิดว่าเธอต่างหาก มั้งที่น่าจะเป็นฝ่ายโหม่งเสาโทรศัพท์?" ทันทีที่เขาพูดจบ หน้าจอขนาดยักษ์ข้างหลังล็อบบี้ก็พลันสว่างขึ้น! หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงก็สลัวลงแล้ววิดีโอก็เริ่มฉายบนหน้าจอขนาดยักษ์ เมื่อเสี่ยวอิ๋งหันหน้าไป สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเซี่ยเทาที่กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง โดยมีสาวสวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่ข้างกาย! หึ่ง! เสี่ยวอิ๋งศีรษะจวนจะระเบิดอยู่แล้ว! เธอได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น! มันเป็นวิดีโอที่ก่อนหน้านี้หลี่ชิงเฟิงถ่ายเอาไว้นั่นเอง! เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งนิ่งงันไป หลี่ชิงเฟิงก็นิ้มแล้วพูดเสียงดังขึ้นมาว่า "ทุกท่าน ผู้ชายที่อยู่ในวิดี

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 282

    เงินหลายล้านบาทไม่ได้จ่ายไปโดยไร้ประโยชน์แล้ว! ศาสตราจารย์เฒ่าโดนเขาหลอกเข้าแล้วจริง ๆ! เสี่ยวอิ๋งเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นก็ยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่หลี่ชิงเฟิง "ตอนนี้แกจะว่ายังไงเล่า? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแจกันของแกมันเป็นของปลอม!" "น่าตลกชะมัดเลย! ฉันเสนอทางออกให้ แต่แกกลับยืนกรานที่จะขุดหลุมฝังตัวเองให้ได้! ไม่มีใครห้ามแกได้เลย!" เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มจาง ๆ แล้วหันมามองศาสตราจารย์หลี่พลางพูดว่า "ศาสตราจารย์หลี่ ช่วยดูขอองผมอีกสักครั้งเถอะครับ" คาดไม่ถึงว่าศาสตราจารย์หลี่จะส่ายหน้าแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องดูหรอก" เซี่ยอิ่งหัวเราะพลางกล่าวว่า "แจกันใบนั้นของแกมันปลอมชัดเจนเกินไป! ศาสตราจารย์หลี่ไม่มองให้เสียสายตาหรอก!" ในยามนี้เอง ศาสตราจารย์หลี่ก็เหลือบมองเธอแล้วสายหน้า "สาวน้อย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย ฉันยังพูดไม่ทันจบเลย ถึงแม้ว่าแจกันใบนี้จะฝีมือยอดเยี่ยมจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นของปลอมจริง ๆ" "ส่วนแจกันของคุณหลี่ ทันทีที่เข้ามาผมก็เห็นแล้วล่ะ มันเป็นของจริง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องตรวจดูเลย" หลังจากศาสตราจารย์หลี่พูดจบ ทั้งห้องก็เ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 281

    ไม่มีใครคาดคิดว่าหลี่ชิงเฟิงจะมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนั้น! ปี้ไห่เทาที่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ แอบรู้สึกว่าชักไม่ได้การเสียแล้ว หลี่ชิงเฟิงคนนี้ดูไม่เหมือนเขยไร้ประโยชน์อย่างที่ข่าวร่ำลือกันเอาไว้เลยสักนิด การที่ยังสามารถสงบนิ่งได้ในภาวะคับขันเช่นนั้น มิหนำซ้ำยังพูดจาเสียคล่องปากและท่าทีเจ้าแผนการของอีกฝ่าย เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบนี้จะเป็นเขยไร้ประโยชน์ไปได้ สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ ต่อให้อีกฝ่ายจะก่อเรื่องเช่นนั้น แต่หวังเจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ กลับไม่มีวี่แววที่จะโมโหเลยสักนิด พวกเขาต่างอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เขาเองก็รู้นิสัยของหวังเจิ้น อีกฝ่ายไม่ใช่ตาเฒ่าที่นิสัยดิบดีอะไรเลย พอปี้ไห่เทานึกได้เช่นนี้ เขาก็ทอดสายตามองเย่เจี้ยนเหออีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสายตาหลุกหลิกอยู่บ้าง เขาก็พอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบนี้จะมีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ เสียด้วย ตอนนี้เย่เซียวยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมเจตนาสังหารอันแรงกล้า! เย่เจี้ยนเหอกับเสี่ยวอิ๋งหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัวไปชั่วขณะ ไม่นานปี้ไห่เทาก็ลุกขึ้นแล้วมองหลี่ชิงเฟิงด้วยสายตาเย็นชา "ทำแบบนี้

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 280

    "ฉุดเศรษฐกิจให้ดิ่งลงเหวงั้นรึ? ถ้าทุกคนทำตัวเป็นไอ้เศษสวะชอบหลอกกินข้าวนิ่มอย่างแก ประเทศชาติก็คงจะพินาศไปตั้งนานแล้ว!" "ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี! แกมันก็แค่มดปลวกตัวหนึ่งแท้ ๆ กล้าดียังไงถึงได้มาหัวเราะเยาะใส่พวกเรา?" ในตอนนี้เอง จู่ ๆ หวังเจิ้นที่เอาแต่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็ตบโต๊ะ! ทุกคนพลันหุบปากฉับ! หวังเจิ้นแววตามืดมน เขาเหลือบมองทุกคนแล้วเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาว่า "พวกคุณหมายความว่ายังไงกัน? คิดจะก่อจลาจลในงานเลี้ยงวันเกิดของผมรึไง? พวกคุณไม่เห็นแก่หน้าผมเลย! คิดจะทำอะไรกันแน่!" เมื่อหวังเจิ้นโกรธขึ้นมา แม้แต่ปี้ไห่เทาก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน นับประสาอะไรกับพวกเขากันเล่า "เหล่าหวัง ได้โปรดใจเย็นลงก่อนเถอะ เอาแบบนี้เป็นยังไง เพื่อจะได้รู้ว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบไหนเป็นของจริงใบไหนเป็นของปลอม คุณก็แค่เชิญผู้เชี่ยวชาญให้มาประเมินก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" "คุณเองคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงของเก่ามานานหลายปี เช่นนั้นก็น่าจะรู้จักผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้เยอะอยู่บ้างใช่ไหมล่ะ?" หวังเจิ้นถอนหายใจพลางพยักหน้าแล้วพูดว่า "ก็ได้! ในเมื่อพวกคุณอยากเถียงกันดีนัก งั้นก็มาทำให้เรื่องนี้กระจ่างกันไปเลย

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 279

    หลังจากหลี่ชิงเฟิงพูดจบ ทุกคนก็ตะลึงงันไปชั่วขณะแล้วหัวเราะลั่น! เสี่ยวอิ๋งกับเย่เจี้ยนเหอหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง จากนั้นพวกเขาก็ชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วพูดว่า "แกมันขี้โม้จนไม่เลือกเวลาจริง ๆ พับผ่าสิ! ลำพังแค่คุยโวโอ้อวดต่อหน้าพ่อตาโง่ ๆ ของแกไม่พอ แต่ยังจะมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าพวกเราอีกงั้นเหรอ?" ปี้ไห่เทาที่อยู่อีกด้านเองก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยแววดูถูกดูแคลน "ลำพังแค่พวกเราคนใดคนหนึ่งก็ผ่านโลกมามากกว่าแกถึงสิบชาติภพรวมกันเสียอีก แกกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ คิดว่าพวกเราโง่หรือไงกัน?" "ผ่านโลกมามาก? คุณคิดว่าตัวเองผ่านโลกมามากแล้วงั้นรึ?" หลี่ชิงเฟิงยิ้มเหยียดหยันพลางเอ่ยเสียงทุ้มลึก "วันนี้ผมจะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณเองก็แล้วกัน เย่เซียว เอาของขวัญของพวกเราออกมา" เย่เซียวผงกศีรษะ จากนั้นเขาก็หยิบแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนออกมาจากกล่องแล้ววางลงต่อหน้าทุกคน ทันทีที่พวกเขาเห็นแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวน ทุกคนก็ถูกแจกันใบนั้นดึงดูดความสนใจเข้าแล้วจริง ๆ เย่เจี้ยนเหอหน้าถอดสีแล้วตรวจสอบแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้วให้รู้สึกสับสน ฝีมือช่างวิจิตรประณีตนัก!

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 278

    เย่เจี้ยนเหอยิ้มเหยียดหยัน "แกคิดจะแข่งกับฉันงั้นรึ? ก็ได้ ฉันจะเอาออกมาให้แกได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน ฉันขอพนันเลยว่าชั่วชีวิตแกน่าจะได้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ" หลังจากเย่เจี้ยนเหอพูดจบก็ดีดนิ้ว จากนั้นผู้ช่วยคนงามที่อยู่ข้างหลังก็รีบเดินเข้ามา ของขวัญของอีกฝ่ายเองก็อยู่ในกล่อง มิหนำซ้ำยังมีขนาดพอ ๆ กับของเขาอีกต่างหาก เย่เจี้ยนเหอยิ้มอวดดีแล้วพูดว่า "มหาเศรษฐีหวัง ผมได้ยินมาว่าคุณชอบสะสมของเก่ามากทีเดียว ดังนั้นผมจึงสั่งให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศประมูลของสิ่งนี้มาให้คุณเป็นพิเศษ เชิญดูเอาเองเถอะครับ!" หลังจากพูดจบ ผู้ช่วยสาวก็เปิดกล่องแล้วสายตาของทุกคนก็ทอดมองมาที่มือของผู้ช่วยสาว! แจกันลายครามใบหนึ่งค่อย ๆ เผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา! เมื่อหลี่ชิงเฟิงเห็นแจกันใบนี้ก็ถึงกับตะลึงงัน... ช่างเหมือนกับแจกันลายครามที่เขาซื้อมาไม่มีผิดเพี้ยนเลย! เขาเหลือบมองเย่เซียวที่อยู่ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเย่เซียวก็เอ่ยกระซิบข้างหูว่า "เป็นของปลอมแน่ ๆ ครับ" ในยามนี้เอง เย่เจี้ยนเหอก็หยิบแจกันขึ้นมาแล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้วพูดเสียงดังว่า "แจกันลายครามสมัยราชวงศ์ห

DMCA.com Protection Status