ปัทมายืนมองร่างสูงที่เดินเคียงข้างพิรุณรัตน์มาแต่ไกล ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งสองจะคืบหน้าไปเยอะ อาจเป็นเพราะโพรเจกต์โครงการที่พิรุณรัตน์ส่งเข้าประกวดก็เป็นได้ หล่อนเองก็ตั้งใจจะทำโครงการนี้เหมือนกัน แต่พอไปอ้อนจิรัฎร์เขากลับตอบปฏิเสธอ้อม ๆ ว่าไม่สะดวก มารู้ทีหลังว่าช่วยพิรุณรัตน์ก็รู้สึกเจ็บใจกว่าเก่า ตั้งแต่จิรัฎร์ย้ายเข้าไปทำงานในห้องเดียวกับพิรุณรัตน์หล่อนก็แทบไม่เจอชายหนุ่ม จะเข้าไปคุยก็มีก้างขวางคอตลอด ยิ่งช่วงนี้เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้พนันที่เสียไปด้วย ไม่รู้จะไปเอาเงินมาจากไหน ตั้งใจจะจับผู้ชายในบริษัทสักคน เล็งจิรัฎร์ไว้ก็เหมือนจะหลุดมือไปเป็นของนังเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจนัก คิดไม่เท่าไหร่เจ้าหนี้ก็โทรมาทวงหนี้จนหล่อนต้องปิดมือถือหนี
โครงการที่พิรุณรัตน์ส่งประกวดผ่านเข้ารอบสุดท้าย หญิงสาวดีใจกระโดดโลดเต้นเมื่อเห็นการประกาศผล เที่ยงนี้จึงตั้งใจว่าจะชวนจิรัฎร์ออกไปฉลองเสียหน่อย แต่ถูกเขาปฏิเสธกลับมาจนหน้าหงอยกันเลยทีเดียว
“อามีธุระพอดีครับ ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน”
“ก็ได้ค่ะ” พิรุณรัตน์ตอบเสียงอ่อย หน้ามู่ทู่ แม้ขัดใจแต่ก็ไม่กล้างอแงใส่จิรัฎร์หรอก อยู่ในช่วงจีบชายหนุ่มมาเป็นแฟนอยู่ ขืนทำตัวงี่เง่างอแงเขาได้ปิดประตูลงกลอนล็อกหัวใจสามชั้นไม่ให้โอกาสเธอได้เคาะประตูด้วยซ้ำ และเธอสัญญากับตัวเองไว้แล้วด้วยว่า หากพิชิตใจเขาได้แล้วเธอจะไม่งอแงงี่เง่าโดยเด็ดขาด!
พักเที่ยงจึงไร้เงาคนร่างสูงที่คอยเดินตามคุณหนูเรนนี่อย่างเคย พิรุณรัตน์ขับรถออกมากินมื้อเที่ยงที่ห้างแถว ๆ บริษัท ตอนแรกว่าจะชวนบิดา แต่ท่านติดประชุมลากยาวตั้งแต่เช้าแล้ว หญิงสาวเลือกนั่งกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ระหว่างรออาหารก็ทอดมองออกไปนอกร้าน พลันสายตาก็สะดุดกับร่างสูงของจิรัฎร์ กำลังลุกเพื่อเรียกให้เขามากินอาหารด้วยกัน แต่มือก็ต้องชะงักค้างไว้ข้างใบหู เพราะผู้หญิงที่เดินตามหลังคืออดีตภรรยาของชายหนุ่ม
“พิมพ์บุปผา!” ชื่อนี้เคยสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งเธอและเขามาแล้ว และนี่มันเรื่องอะไร ทำไมจิรัฎร์ยังติดต่อหล่อนอยู่ พิรุณรัตน์คิดว่าทั้งสองตัดขาดกันไปนานแล้วตั้งแต่เซ็นใบหย่า หญิงสาวจำได้ดีว่าหลังจิรัฎร์หย่าเขามีสภาพเช่นไร ชายหนุ่มที่เคยแจ่มใส ยิ้มง่าย กลายเป็นคนเงียบขรึมลงถนัดตา แม้ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ๆ แต่เธอก็รู้ข่าวลือที่ดังไปทั่วบริษัท มีข่าวว่าสาเหตุของการหย่าร้างมาจากการที่จิรัฎร์ทำร้ายร่างกายพิมพ์บุปผา ไร้สาระสิ้นดี! อาไนต์ของเธอนี่นะจะทำร้ายใครได้ มดสักตัวเขายังไม่ฆ่าเลยมั้ง แต่ข่าวนั้นก็ซาลงไปเมื่อพิมพ์บุปผาลาออก และพนักงานที่เคยทำงานอยู่ในปีนั้นก็ผลัดเปลี่ยนไปจนหมดตอนนี้คงจะเหลือแค่ผกามาศเท่านั้นที่พอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน
พิรุณรัตน์รู้ดีว่าสาเหตุของการหย่าร้างไม่ได้มาจากตัวจิรัฎร์ แต่มาจากผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของจิรัฎร์ไป แต่ไม่สามารถรักษาหรือดูแลให้ดีได้เลย เธอรู้ดีว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเลิกรามาจากพิมพ์บุปผานอกใจนอกกายจิรัฎร์ พิรุณรัตน์ในวัยสิบห้าปีมักเห็นพิมพ์บุปผาอยู่สองต่อสองกับพนักงานด้านไอทีคนหนึ่งบ่อยครั้ง เคยเห็นเขาจับปอยผมหล่อนด้วย หรือบางทีก็หนักจนถึงขั้นจับมือถือแขน ตอนนั้นพิรุณรัตน์คันปากอยากบอกจิรัฎร์เสียเหลือเกินว่าถูกสวมเขา แต่มาคิดอีกทีจิรัฎร์คงไม่เชื่อคำพูดของเด็กอย่างเธอแน่ ๆ พิรุณรัตน์จึงคอยเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ และวันที่คาดคิดไว้ก็มาถึง นั่นคือวันที่ทุกคนในบริษัทรู้ว่าจิรัฎร์และพิมพ์บุปผาได้เลิกกันแล้ว แต่ข่าวลือบ้าบอที่หาว่าจิรัฎร์ทำร้ายร่างกายเจ้าหล่อนนี่สิไม่รู้ว่ามาจากไหน จะสืบตอนนี้ก็คงไม่ทันเพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว
บริกรมาเสิร์ฟอาหารพอดี แต่เธอไม่มีอารมณ์จะกินแล้วจึงวางเงินไว้แล้วรีบออกจากร้าน เห็นรอยยิ้มของพิมพ์บุปผาที่ทอดมองร่างสูงแล้วยิ่งเจ็บใจ ในหัวมีเรื่องให้คิดสะระตะ พวกเขากลับมาคบกัน หรือบังเอิญพบกันเฉย ๆ แต่ดูจากท่าทางนั้นเหมือนว่าพวกเขานัดพบกันมากกว่า พอมาดูพิมพ์บุปผาชัด ๆ พิรุณรัตน์ก็เพิ่งเห็นว่าหล่อนนั้นท้องโตอยู่มาก มือใหญ่ของจิรัฎร์ลูบหน้าท้องนูน ๆ นั้นด้วย หรือที่จิรัฎร์สร้างระยะห่างเพราะเขากลับไปคบหากับพิมพ์บุปผาอีกครั้งแล้วมีลูกด้วยกัน! พอคิดถึงตรงนี้แข้งขาก็อ่อนเปลี้ยจวนจะเดินไม่ไหว หญิงสาวจึงต้องใช้มือดันผนังไว้เพื่อประคองตนเอง ใจสั่นระรัว ทั้งกลัวทั้งเสียใจ หากจิรัฎร์กลับไปคบกับพิมพ์บุปผาจริง ๆ เธอจะทำอย่างไรดี
จิรัฎร์โทรมาแจ้งว่าเขายังทำธุระไม่เสร็จ จะขอเข้ามาบริษัทอีกครั้งหลังสี่โมงเย็น หากมีงานตรงไหนที่ไม่เข้าใจให้โทรถามเขาได้เลย พิรุณรัตน์รับคำแบบอึน ๆ ในหัวยังมีภาพของพิมพ์บุปผาที่จับแขน ส่งยิ้มให้จิรัฎร์เมื่อกลางวันอยู่เลย พอบ่ายมาพิรุณรัตน์ไม่มีสมาธิในการทำงานสักนิด หญิงสาวคอยแต่มองเวลาบนหน้าจอมือถือไม่หยุด ใจกระวนกระวายจนไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้ ร่างเล็กเดินเป็นหนูติดจั่นวนไปวนมาในห้อง และพอคนร่างสูงเปิดประตูเข้ามาก็ชะงักไปเล็กน้อย
“น้องเรนนี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” เพราะสีหน้าและท่าทางของพิรุณรัตน์มันชัดเจนและดูผิดปกติจนเขากังวลใจ จะว่าเรื่องงานก็ไม่น่าใช่ หรือจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอบอกใครไม่ได้ หญิงสาวกอดอกเดินวุ่นพลางกัดเล็บไปด้วย ซึ่งเป็นกิริยาของคนที่อยู่ในอาการวิตกกังวล เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่หรือเปล่า?
“พี่ไนต์กลับไปคบกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ?” พิรุณรัตน์โพล่งถามพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล อยากจะห้ามอยู่หรอกแต่พอพูดร่างกายเธอก็บังคับอะไรไม่ได้อีก
“ยังเจ็บช้ำเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่พออีกเหรอคะ อยากมีเขาบนหัวเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนอีกเหรอคะ?!” เธอเสียใจจนพาลโกรธเขา หากชายหนุ่มกลับไปจริง ๆ มันคือเรื่องบ้าและโง่ที่สุดที่ผู้ชายอย่างเขาทำเลย
จิรัฎร์ดูสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อพิรุณรัตน์พูดถึงเรื่องเจ็ดปีที่แล้วเขาก็กระจ่างชัด คงเป็นเรื่องของพิมพ์บุปผา และถ้าให้คะเนหญิงสาวคงบังเอิญพบเขากับอดีตภรรยา คิ้วเข้มขมวดปมสงสัยถึงสิ่งที่พิรุณรัตน์พูด แต่ยังไม่ได้ถามเจ้าตัวก็โพล่งออกมาจนหมด
“พี่ไนต์ไม่รู้เหรอคะว่าตลอดเวลาที่พี่กับหล่อนแต่งงานกัน หล่อนไม่ได้มีพี่คนเดียว ผู้หญิงคนนั้นน่ะ” พิรุณรัตน์สะอื้นพลางปาดน้ำตาออกจากแก้ม “มีคนอื่นมาตลอดเวลา เรนนี่เห็นมาตลอด แต่เรนนี่พูดไม่ได้ ตอนนั้นเรนนี่กลัวว่าพี่ไนต์จะหาว่าเรนนี่เป็นเด็กเลี้ยงแกะ โกหกพกลม แต่ตอนนี้เรนนี่โตแล้ว เรนนี่มีสิทธิ์ที่จะบอก พี่ไนต์อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกได้ไหมคะ เรนนี่พอมีสิทธิ์ไหมที่จะรักษาหัวใจของพี่ไนต์ไว้ เรนนี่ไม่ต้องการเห็นพี่ไนต์เจ็บปวดอีกแล้ว” ม่านตาของจิรัฎร์ขยายขึ้นหลังจากฟังประโยคยาว ๆ นั้น ถ้าจะย้อนไปก็ราว ๆ เก้าปีเศษ ๆ ตอนนั้นเขาทำงานใกล้ชิดพิมพ์บุปผาจึงเกิดเป็นความรักและคบหาดูใจกันสักพัก ก่อนจะเป็นฝ่ายขอแต่งงานหล่อนเอง เพราะรู้สึกอยากสร้างครอบครัวร่วมกับหล่อน โดยไม่รู้ว่าจริง ๆ พิมพ์บุปผาไม่ได้รักตนเองมากเท่าไรนัก หญิงสาวคบหาดูใจกับพนักงานหนุ่มไอทีอยู่แล้ว แต่เพราะฝ่ายนั้นเป็นเด็กกำพร้าและทำงานอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรในบริษัท
บทที่ 7 เข้าสู่เดือนที่สี่ของการมาทำงานที่บริษัทของบิดา พิรุณรัตน์เรียนรู้งานไปได้มากและเริ่มลงมือทำโพรเจกต์บ้างแล้วตามที่พิทักษ์มอบหมาย โดยมีจิรัฎร์ช่วยเป็นลูกมือคอยดูแลไม่ห่าง ส่วนเรื่องจีบจิรัฎร์ดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้าสักเท่าไร ชายหนุ่มตีหน้านิ่ง ทำซึนใส่ ทั้ง ๆ ที่เธอก็เห็นอยู่ว่าบางจังหวะที่เธอหยอดเขาก็แอบยิ้ม “เอกสารอะไรคะ?” พิรุณรัตน์ถามทันทีที่คนร่างสูงเดินมาพร้อมกับกระดาษเพียงหนึ่งแผ่น “ประกาศท่องเที่ยวประจำปีของบริษัทครับ เขาให้ลงชื่อว่าใครจะไปบ้าง” “เรนนี่ไปค่าาา!” หญิงสาวชูมือสุดแขน กระโดดดึ๋งดั๋งเหมือนเด็กน้อย จิรัฎร์ยิ้มพลางส่ายหน้าเอ็นดู ต่อให
บทนำ...ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนักเรียนคอซองสีน้ำเงินผมยาวเพียงไหล่เอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อรอรับคำตอบจากผู้ชายตัวสูงชะลูดตรงหน้า จิรัฎร์ยิ้มให้เด็กหญิงจนตาหยีภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะ เด็กสาวตรงหน้าคือน้องเรนนี่ หรือ พิรุณรัตน์ บุตรสาวของเจ้านายเขาเอง “ว่าไงคะ?” เด็กหญิงเร่งเร้าต้องการรู้คำตอบ“ชื่อไนต์นี่หมายถึงตอนกลางคืน อัศวิน หรือว่า ดี คะ?” คนถูกถามยอบตัวเล็กน้อยแล้วจึงตอบข้อสงสัย“หมายถึงตอนกลางคืนครับน้องเรนนี่”“แล้วทำไมเป็นกลางคืน ไม่เป็นอัศวินล่ะคะ?” เจ้าหนูจำไมช่างสงสัยยังถามต่อ แต่คนตัวสูงไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย กลับเอ็นดูบุตรสาวของเจ้านายเสียมากกว่า“เพราะอาไนต์เกิดตอนกลางคืนครับ”“อ๋อ…” เด็กหญิงอ้าปากกว้าง พยักหน้าหงึกหงักทำเอาจิรัฏร์เอ็นดูกว่าเดิมจนต้องโยกศีรษะน้อยเบา ๆ“ก็เหมือนเรนนี่เลยน่ะสิ”“เหมือนยังไงครับ?”“คุณแม่คลอดเรนนี่ตอนที่ฝนกำลังตกค่ะ คุณพ่อเลยตั้งชื่อว่าฝน แต่แม่บอกว่าอยากให้อินเตอร์หน่อยเลยเปลี่ยนเป็นเรนนี่ค่ะ” เด็กหญิงเรนนี่ยิ้มกว้างอวดฟันซี่เล็ก ๆ แสนน่ารักทันทีที่พูดจบ จิรัฎร์เองก็พลอยยิ้มตามไปด้วย เพราะความสดใสและน่ารักของเด็กหญิงวัยเพียงสิบขวบเท่านั้น ชายหนุ
บทที่ 1 เงาที่สะท้อนภาพจากกระจกปรากฏร่างอรชรในวัย 22 ปีบริบูรณ์ หญิงสาวมีร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวขาวนวลราวหยวกกล้วย ผมยาวดัดลอนถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยหวานถูกเคลือบไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงอย่างบางเบา “ต่างหูคู่ไหนดีน้า?” ใบหน้าสวยหวานทำปากยื่น กำลังใช้ความคิด หญิงสาวมองสิ่งของชิ้นเล็กในมือทั้งซ้ายและขวาสลับกันไปมา ยังเลือกต่างหูที่จะสวมในวันนี้ไม่ได้เลย ซ้ายก็น่ารัก ขวาก็ดูเรียบหรู “เรนนี่เสร็จหรือยังลูก เดี๋ยวได้ไปทำงานสายกันพอดี” เสียงของมารดาเรียกให้สาวสวยในกระจกตัดสินใจเลือกเป็นต่างหูมุกแบบเรียบแทนต่างหูเพชรรูปโบประกายวิบที่ดูน่ารัก ด้วยเพราะวันนี้คือวันแรกที่หญิงสาวจะได้เข้าไปทำงานที่บริษัทของบิดา เรนนี่ หรือ พิรุณรัตน์ เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของครอบครัวโอภาสภัทร คุณพิทักษ์ผู้เป็นบิดาเป็นนักธุรกิจด้านพัฒนาอาหารสำเร็จรูปหลากหลายแบบ อาทิเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผลไม้อบแห้ง และอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์มีน่าซึ่งนำมาจากชื่อจริงของภรรยานั่นเอง พิรุณรัตน์เรียนจบคณะบริหารธุรกิจตามที่ตั้งเจตนารมณ์ไว้ตั้งแต่แรก หญิงสาวเข้าออกบริษัทของบิดาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงวิ่งเล่นสนุกสนาน รู้ทุกซอก
“เฮ้อ...” ลมหายใจหนักหน่วงถูกระบายออกจากปากได้รูป จิรัฎร์ถอดแว่นสายตาออก วักน้ำใส่หน้าเพื่อเรียกสติ เขาอายุสามสิบแปดแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าพิรุณรัตน์คิดอย่างไรกับตนเอง หญิงสาวเริ่มมีท่าทีแปลกไปก็ตอนที่เริ่มแตกเนื้อสาว สายตาของเด็กสาวทอประกายยามมองเขาทุกครั้ง พิรุณรัตน์มักส่งยิ้มและมีท่าทีขวยเขินเวลาพบกันทุกเมื่อ แต่จิรัฎร์นั้นพยายามนิ่งเฉยและมองเด็กสาวอย่างเอ็นดู พยายามเว้นระยะห่างด้วยสถานะและอายุของเด็กหญิงที่ห่างจากเขาถึงสิบหกปี แม้ตอนนี้เด็กสาววัยรุ่นในวันนั้นจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่สวยสะพรั่ง แต่เขาก็ไม่คิดเกินเลยกว่าความเอ็นดูที่มีให้หญิงสาวจิรัฎร์ หรือ อาไนต์ ของคุณหนูเรนนี่ เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่อายุยี่สิบหก เขารู้จักกับพิทักษ์เพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แม้จะอยู่คนละรุ่นและอายุห่างกันกว่าหนึ่งรอบ แต่เพราะมีใจรักชอบคล้าย ๆ กันจึงสนิทสนมและคบหาเป็นเพื่อนในชีวิตกันมาหลายปี จิรัฎร์สำนึกในบุญคุณของเพื่อนรุ่นพี่อย่างพิทักษ์อยู่เสมอ เนื่องจากเมื่อประมาณสิบสองปีก่อนบิดาของจิรัฎร์ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สาม ตอนนั้นชายหนุ่มทำงานที่บริษัทข้ามชาติที่หนึ่ง มีหน้าที่การงานและเงินเดือนที่เรียกว่าดีมาก
บทที่ 2จิรัฎร์ขยับเนกไทของตนเองแม้มันจะไม่ได้อึดอัดเลยสักนิด แต่ที่ทำให้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง คงเป็นเพราะแม่สาวแก้มป่องที่ยืนกอดอกส่งสายตาคาดโทษมาที่เขา พิรุณรัตน์ส่งค้อนวงใหญ่มาให้ก่อนจะก้าวเข้ามาประชิด“อาไนต์ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย รู้ไหมคะ?” “ครับ?” คนที่ไม่รู้ว่าตนเองนั้นผิดอะไรเลิกคิ้วขึ้น สายตาเลื่อนมองไปยังนิ้วเรียวที่เริ่มไต่อยู่บนช่วงแขนของเขา ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ขยับใกล้เข้ามาจนมือเรียวเล็กทาบทับอยู่กลางอก จิรัฎร์กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอมองพิรุณรัตน์ไม่วางตา ไพล่คิดไปถึงเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่หญิงสาวบอกเขาว่าต้องการเป็นแฟนกับเขา ตอนนั้นยังคิดว่าโตขึ้นพิรุณรัตน์ต้องเป็นสายรุกแน่ ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเจอเธอรุกคืบขนาดนี้ “อาไนต์จะไปยิ้มให้ผู้หญิงคนอื่นแบบนั้นไม่ได้นะ เรนนี่ไม่ยอม” ว่าจบแขนเสลาก็คล้องเข้ากับลำคอของจิรัฎร์ ใบหน้าสวยหวานยื่นเข้ามาใกล้ หญิงสาวจงใจเป่าลมร้อนรดใบหูบรื๋อออ… ขนบนกายชายหนุ่มลุกพรึ่บ จิรัฎร์พยายามขืนลำคอไว้เมื่อหญิงสาวตั้งใจโน้มมันให้ลงมา“รอยยิ้มของอาไนต์มีให้เรนนี่คนเดียว เข้าใจไหมคะ?” “น้องเรนนี่ อาว่า...” “จุ๊ ๆ อย่าเพิ่งพูดค่ะ” พิรุณรัตน์ส่าย
“น้องเรนนี่ว่าอะไรนะคะ?” ท้ายประโยคพิรุณรัตน์ตั้งใจพูดให้ปัทมาได้ยินคนเดียว หล่อนส่งสายตาดุกร้าวมาให้ แต่พิรุณรัตน์กลับตอบด้วยรอยยิ้มแฉ่งอย่างเคย “เปล่านี่คะ” ว่าจบก็ยักไหล่ เหยียดมุมปากให้คู่แข่งอย่างปัทมาได้เห็นซึ่งหน้าเพื่อเป็นการประกาศสงคราม และบอกว่าเธอจะลงสนามแล้วให้ระวังตัวไว้ให้ดี ปัทมาหน้าเจื่อน แต่ก็เพียงครู่เดียว ก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้“พี่ไนต์คะ พอดีมีเอกสารที่ปัดไม่ค่อยเข้าใจ ยังไงพี่ไนต์ช่วยมาดูให้ปัดหน่อยนะคะ”“คงไม่ได้หรอกค่ะพี่ปัด” ยังไม่ทันที่จิรัฎร์จะได้ตอบคำถามพิรุณรัตน์ก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน หญิงสาวคว้าแขนจิรัฎร์ให้ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ ทั้งยังเอียงศีรษะซบไหล่กว้างอีกด้วย“เช้านี้อาไนต์มีงานต้องสอนเรนนี่อีกเยอะเลยค่ะ เรนนี่ต้องรีบเรียนรู้งานเพื่อเข้ามาช่วยงานคุณพ่อน่ะค่ะ เลยต้องสอนงานอย่างใกล้ชิด รบกวนพี่ปัดไปศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองแทนนะคะ” อีกครั้งที่ผกามาศ นันทินีและณัฐพรมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อหยิบกาแฟได้แล้วก็ค่อย ๆ ย่องออกจากพื้นที่ที่เรียกได้ว่าระอุยิ่งกว่าสงคราม สามสาวมองหน้ากันอีกครั้งพยักหน้าพร้อมกันเป็นการรับรู้ แม้ปากจะไม่ขยับว่าขณะนี้มีศึกชิงพระเกิดข
บทที่ 3 “เรนนี่รักอาไนต์นะคะ รักมาตลอด” เด็กสาวในวันนั้นที่เคยบอกรักเขาเมื่อแปดปีก่อน ณ วันนี้ก็ยังมีความรู้สึกต่อเขาเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จิรัฎร์สูดหายใจลึกหลังจากสิ้นประโยคบอกรัก เขาไม่ได้รู้สึกยินดีสักนิดหากได้เป็นแฟนหนุ่มบุตรสาวเจ้านาย ตรงกันข้ามคงรู้สึกกระอักกระอ่วนน่าดู เพราะด้วยอายุ สถานะ และอะไรมากมาย เขารู้ดีว่าพิรุณรัตน์มีความรักที่มั่นคงเพียงใด มันเนิ่นนานกว่าแปดปีแล้ว แต่ภายในดวงตากลมโตคู่นั้นเขาก็ยังคงเห็นตัวเองสะท้อนกลับมาทุกครั้งที่มอง “อาไม่ได้รักน้องเรนนี่แบบนั้น” ประโยคคุ้นหูที่มันสลักตราตรึงในใจมาตลอดหลายปี ชายหนุ่มเคยบอกเธอแบบนี้เมื่อครั้งที่สารภาพรัก แต่ตอนนั้นก็พอเข้าใจได้เพราะเขากำลังจะแต่งงาน ส่วนเธอก็เป็นเพียงเด็กสาวที่คิดเกินตัว“อาว่า...”“ให้โอกาสเรนนี่หน่อยไม่ได้เหรอคะ?” พิรุณรัตน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อยู่ ๆ น้ำตาก็ปริ่มจวนจะไหล เธอไม่ได้จะใช้น้ำตาเพื่อให้เขาใจอ่อนหรอกนะ เพียงแต่ตอนนี้ในอกมันแทบจะระเบิดออกมาแล้ว แค่เห็นว่าเขาตั้งท่าจะปฏิเสธเป็นรอบที่สาม ได้โปรดเถอะ..อาไนต์ขา อย่าใจร้ายกับเรนนี่คนนี้อีกเลย “นะคะ ให้โอกาสเรนนี่ได้ลองจีบอาไนต์ดูก่