ปัทมายืนมองร่างสูงที่เดินเคียงข้างพิรุณรัตน์มาแต่ไกล ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งสองจะคืบหน้าไปเยอะ อาจเป็นเพราะโพรเจกต์โครงการที่พิรุณรัตน์ส่งเข้าประกวดก็เป็นได้ หล่อนเองก็ตั้งใจจะทำโครงการนี้เหมือนกัน แต่พอไปอ้อนจิรัฎร์เขากลับตอบปฏิเสธอ้อม ๆ ว่าไม่สะดวก มารู้ทีหลังว่าช่วยพิรุณรัตน์ก็รู้สึกเจ็บใจกว่าเก่า ตั้งแต่จิรัฎร์ย้ายเข้าไปทำงานในห้องเดียวกับพิรุณรัตน์หล่อนก็แทบไม่เจอชายหนุ่ม จะเข้าไปคุยก็มีก้างขวางคอตลอด ยิ่งช่วงนี้เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้พนันที่เสียไปด้วย ไม่รู้จะไปเอาเงินมาจากไหน ตั้งใจจะจับผู้ชายในบริษัทสักคน เล็งจิรัฎร์ไว้ก็เหมือนจะหลุดมือไปเป็นของนังเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจนัก คิดไม่เท่าไหร่เจ้าหนี้ก็โทรมาทวงหนี้จนหล่อนต้องปิดมือถือหนี
โครงการที่พิรุณรัตน์ส่งประกวดผ่านเข้ารอบสุดท้าย หญิงสาวดีใจกระโดดโลดเต้นเมื่อเห็นการประกาศผล เที่ยงนี้จึงตั้งใจว่าจะชวนจิรัฎร์ออกไปฉลองเสียหน่อย แต่ถูกเขาปฏิเสธกลับมาจนหน้าหงอยกันเลยทีเดียว
“อามีธุระพอดีครับ ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน”
“ก็ได้ค่ะ” พิรุณรัตน์ตอบเสียงอ่อย หน้ามู่ทู่ แม้ขัดใจแต่ก็ไม่กล้างอแงใส่จิรัฎร์หรอก อยู่ในช่วงจีบชายหนุ่มมาเป็นแฟนอยู่ ขืนทำตัวงี่เง่างอแงเขาได้ปิดประตูลงกลอนล็อกหัวใจสามชั้นไม่ให้โอกาสเธอได้เคาะประตูด้วยซ้ำ และเธอสัญญากับตัวเองไว้แล้วด้วยว่า หากพิชิตใจเขาได้แล้วเธอจะไม่งอแงงี่เง่าโดยเด็ดขาด!
พักเที่ยงจึงไร้เงาคนร่างสูงที่คอยเดินตามคุณหนูเรนนี่อย่างเคย พิรุณรัตน์ขับรถออกมากินมื้อเที่ยงที่ห้างแถว ๆ บริษัท ตอนแรกว่าจะชวนบิดา แต่ท่านติดประชุมลากยาวตั้งแต่เช้าแล้ว หญิงสาวเลือกนั่งกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ระหว่างรออาหารก็ทอดมองออกไปนอกร้าน พลันสายตาก็สะดุดกับร่างสูงของจิรัฎร์ กำลังลุกเพื่อเรียกให้เขามากินอาหารด้วยกัน แต่มือก็ต้องชะงักค้างไว้ข้างใบหู เพราะผู้หญิงที่เดินตามหลังคืออดีตภรรยาของชายหนุ่ม
“พิมพ์บุปผา!” ชื่อนี้เคยสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งเธอและเขามาแล้ว และนี่มันเรื่องอะไร ทำไมจิรัฎร์ยังติดต่อหล่อนอยู่ พิรุณรัตน์คิดว่าทั้งสองตัดขาดกันไปนานแล้วตั้งแต่เซ็นใบหย่า หญิงสาวจำได้ดีว่าหลังจิรัฎร์หย่าเขามีสภาพเช่นไร ชายหนุ่มที่เคยแจ่มใส ยิ้มง่าย กลายเป็นคนเงียบขรึมลงถนัดตา แม้ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ๆ แต่เธอก็รู้ข่าวลือที่ดังไปทั่วบริษัท มีข่าวว่าสาเหตุของการหย่าร้างมาจากการที่จิรัฎร์ทำร้ายร่างกายพิมพ์บุปผา ไร้สาระสิ้นดี! อาไนต์ของเธอนี่นะจะทำร้ายใครได้ มดสักตัวเขายังไม่ฆ่าเลยมั้ง แต่ข่าวนั้นก็ซาลงไปเมื่อพิมพ์บุปผาลาออก และพนักงานที่เคยทำงานอยู่ในปีนั้นก็ผลัดเปลี่ยนไปจนหมดตอนนี้คงจะเหลือแค่ผกามาศเท่านั้นที่พอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน
พิรุณรัตน์รู้ดีว่าสาเหตุของการหย่าร้างไม่ได้มาจากตัวจิรัฎร์ แต่มาจากผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของจิรัฎร์ไป แต่ไม่สามารถรักษาหรือดูแลให้ดีได้เลย เธอรู้ดีว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเลิกรามาจากพิมพ์บุปผานอกใจนอกกายจิรัฎร์ พิรุณรัตน์ในวัยสิบห้าปีมักเห็นพิมพ์บุปผาอยู่สองต่อสองกับพนักงานด้านไอทีคนหนึ่งบ่อยครั้ง เคยเห็นเขาจับปอยผมหล่อนด้วย หรือบางทีก็หนักจนถึงขั้นจับมือถือแขน ตอนนั้นพิรุณรัตน์คันปากอยากบอกจิรัฎร์เสียเหลือเกินว่าถูกสวมเขา แต่มาคิดอีกทีจิรัฎร์คงไม่เชื่อคำพูดของเด็กอย่างเธอแน่ ๆ พิรุณรัตน์จึงคอยเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ และวันที่คาดคิดไว้ก็มาถึง นั่นคือวันที่ทุกคนในบริษัทรู้ว่าจิรัฎร์และพิมพ์บุปผาได้เลิกกันแล้ว แต่ข่าวลือบ้าบอที่หาว่าจิรัฎร์ทำร้ายร่างกายเจ้าหล่อนนี่สิไม่รู้ว่ามาจากไหน จะสืบตอนนี้ก็คงไม่ทันเพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว
บริกรมาเสิร์ฟอาหารพอดี แต่เธอไม่มีอารมณ์จะกินแล้วจึงวางเงินไว้แล้วรีบออกจากร้าน เห็นรอยยิ้มของพิมพ์บุปผาที่ทอดมองร่างสูงแล้วยิ่งเจ็บใจ ในหัวมีเรื่องให้คิดสะระตะ พวกเขากลับมาคบกัน หรือบังเอิญพบกันเฉย ๆ แต่ดูจากท่าทางนั้นเหมือนว่าพวกเขานัดพบกันมากกว่า พอมาดูพิมพ์บุปผาชัด ๆ พิรุณรัตน์ก็เพิ่งเห็นว่าหล่อนนั้นท้องโตอยู่มาก มือใหญ่ของจิรัฎร์ลูบหน้าท้องนูน ๆ นั้นด้วย หรือที่จิรัฎร์สร้างระยะห่างเพราะเขากลับไปคบหากับพิมพ์บุปผาอีกครั้งแล้วมีลูกด้วยกัน! พอคิดถึงตรงนี้แข้งขาก็อ่อนเปลี้ยจวนจะเดินไม่ไหว หญิงสาวจึงต้องใช้มือดันผนังไว้เพื่อประคองตนเอง ใจสั่นระรัว ทั้งกลัวทั้งเสียใจ หากจิรัฎร์กลับไปคบกับพิมพ์บุปผาจริง ๆ เธอจะทำอย่างไรดี
จิรัฎร์โทรมาแจ้งว่าเขายังทำธุระไม่เสร็จ จะขอเข้ามาบริษัทอีกครั้งหลังสี่โมงเย็น หากมีงานตรงไหนที่ไม่เข้าใจให้โทรถามเขาได้เลย พิรุณรัตน์รับคำแบบอึน ๆ ในหัวยังมีภาพของพิมพ์บุปผาที่จับแขน ส่งยิ้มให้จิรัฎร์เมื่อกลางวันอยู่เลย พอบ่ายมาพิรุณรัตน์ไม่มีสมาธิในการทำงานสักนิด หญิงสาวคอยแต่มองเวลาบนหน้าจอมือถือไม่หยุด ใจกระวนกระวายจนไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้ ร่างเล็กเดินเป็นหนูติดจั่นวนไปวนมาในห้อง และพอคนร่างสูงเปิดประตูเข้ามาก็ชะงักไปเล็กน้อย
“น้องเรนนี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” เพราะสีหน้าและท่าทางของพิรุณรัตน์มันชัดเจนและดูผิดปกติจนเขากังวลใจ จะว่าเรื่องงานก็ไม่น่าใช่ หรือจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอบอกใครไม่ได้ หญิงสาวกอดอกเดินวุ่นพลางกัดเล็บไปด้วย ซึ่งเป็นกิริยาของคนที่อยู่ในอาการวิตกกังวล เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่หรือเปล่า?
“พี่ไนต์กลับไปคบกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ?” พิรุณรัตน์โพล่งถามพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล อยากจะห้ามอยู่หรอกแต่พอพูดร่างกายเธอก็บังคับอะไรไม่ได้อีก
“ยังเจ็บช้ำเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่พออีกเหรอคะ อยากมีเขาบนหัวเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนอีกเหรอคะ?!” เธอเสียใจจนพาลโกรธเขา หากชายหนุ่มกลับไปจริง ๆ มันคือเรื่องบ้าและโง่ที่สุดที่ผู้ชายอย่างเขาทำเลย
จิรัฎร์ดูสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อพิรุณรัตน์พูดถึงเรื่องเจ็ดปีที่แล้วเขาก็กระจ่างชัด คงเป็นเรื่องของพิมพ์บุปผา และถ้าให้คะเนหญิงสาวคงบังเอิญพบเขากับอดีตภรรยา คิ้วเข้มขมวดปมสงสัยถึงสิ่งที่พิรุณรัตน์พูด แต่ยังไม่ได้ถามเจ้าตัวก็โพล่งออกมาจนหมด
“พี่ไนต์ไม่รู้เหรอคะว่าตลอดเวลาที่พี่กับหล่อนแต่งงานกัน หล่อนไม่ได้มีพี่คนเดียว ผู้หญิงคนนั้นน่ะ” พิรุณรัตน์สะอื้นพลางปาดน้ำตาออกจากแก้ม “มีคนอื่นมาตลอดเวลา เรนนี่เห็นมาตลอด แต่เรนนี่พูดไม่ได้ ตอนนั้นเรนนี่กลัวว่าพี่ไนต์จะหาว่าเรนนี่เป็นเด็กเลี้ยงแกะ โกหกพกลม แต่ตอนนี้เรนนี่โตแล้ว เรนนี่มีสิทธิ์ที่จะบอก พี่ไนต์อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกได้ไหมคะ เรนนี่พอมีสิทธิ์ไหมที่จะรักษาหัวใจของพี่ไนต์ไว้ เรนนี่ไม่ต้องการเห็นพี่ไนต์เจ็บปวดอีกแล้ว” ม่านตาของจิรัฎร์ขยายขึ้นหลังจากฟังประโยคยาว ๆ นั้น ถ้าจะย้อนไปก็ราว ๆ เก้าปีเศษ ๆ ตอนนั้นเขาทำงานใกล้ชิดพิมพ์บุปผาจึงเกิดเป็นความรักและคบหาดูใจกันสักพัก ก่อนจะเป็นฝ่ายขอแต่งงานหล่อนเอง เพราะรู้สึกอยากสร้างครอบครัวร่วมกับหล่อน โดยไม่รู้ว่าจริง ๆ พิมพ์บุปผาไม่ได้รักตนเองมากเท่าไรนัก หญิงสาวคบหาดูใจกับพนักงานหนุ่มไอทีอยู่แล้ว แต่เพราะฝ่ายนั้นเป็นเด็กกำพร้าและทำงานอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรในบริษัท
บทที่ 7 เข้าสู่เดือนที่สี่ของการมาทำงานที่บริษัทของบิดา พิรุณรัตน์เรียนรู้งานไปได้มากและเริ่มลงมือทำโพรเจกต์บ้างแล้วตามที่พิทักษ์มอบหมาย โดยมีจิรัฎร์ช่วยเป็นลูกมือคอยดูแลไม่ห่าง ส่วนเรื่องจีบจิรัฎร์ดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้าสักเท่าไร ชายหนุ่มตีหน้านิ่ง ทำซึนใส่ ทั้ง ๆ ที่เธอก็เห็นอยู่ว่าบางจังหวะที่เธอหยอดเขาก็แอบยิ้ม “เอกสารอะไรคะ?” พิรุณรัตน์ถามทันทีที่คนร่างสูงเดินมาพร้อมกับกระดาษเพียงหนึ่งแผ่น “ประกาศท่องเที่ยวประจำปีของบริษัทครับ เขาให้ลงชื่อว่าใครจะไปบ้าง” “เรนนี่ไปค่าาา!” หญิงสาวชูมือสุดแขน กระโดดดึ๋งดั๋งเหมือนเด็กน้อย จิรัฎร์ยิ้มพลางส่ายหน้าเอ็นดู ต่อให
หลังจากทำกิจกรรมในช่วงเช้าเรียบร้อยทางบริษัทจึงปล่อยให้พนักงานทุกคนลงไปเล่นน้ำ พิรุณรัตน์ยืนเลือกชุดว่ายน้ำอยู่นานก็ยังไม่ได้ที่พอใจ หญิงสาวอยากจะอวดขาสวย ๆ ให้จิรัฎร์ได้ตะลึง แต่เพราะมีคนเยอะก็เกรงจะตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นด้วย จึงเลือกสวมบิคีนีสีแดงไว้ด้านในสวมทับด้วยเสื้อสีขาวเนื้อบางเฉียบ ถ้าโดนน้ำมันก็เห็นนิด ๆ หน่อย ๆ ดูเซ็กซี่แบบไม่โป๊จนเกินไป น่าจะเรียกสายตาจากจิรัฎร์ได้แน่ ๆ จิรัฎร์ไม่ได้ลงเล่นน้ำตามคำชวนของพิรุณรัตน์ เขาเลือกอยู่บนฝั่งนั่งรับลมชมวิวไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นปัทมาก็เข้ามาพูดคุยด้วย ชายหนุ่มรู้สึกว่าปัทมาเริ่มรุกเขาหนักขึ้น อาจเพราะหล่อนเห็นว่าพิรุณรัตน์เองก็ตามติดเขาแจ จากไม่เคยส่งข้อความใด ๆ หล่อนก็เริ่มส่งมาบอกฝันดี สอบถามเรื่องสัพเพเหระ เขาตอบเท่าที่ตอบได้เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจ้าหล่อน และเขาไม่อยากเมินเฉยจนหล่อนรู้สึกแย่ จิรัฎร์วางปัทมาไว้เป็นเพียงรุ่นน้องในที่ทำงานเท่านั้น และหวังว่าหล่อนจะเข้าใจ
บทที่ 8พอกลับมาที่ห้องตนเองก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งที่ปลายเตียงมองเงาของตนเองในกระจก ลมหายใจถูกระบายออกมาหนักหน่วง จิรัฎร์ส่ายหน้าเล็กน้อยขณะจับที่กลางอก วันนี้เขาน่าจะพ่ายแพ้ต่อสิ่งที่ตั้งมั่นเอาไว้แต่แรก พิรุณรัตน์ได้เข้ามามีอิทธิพลในใจเสียแล้ว แม้พยายามปฏิเสธหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เขาพยายามหาข้อลบล้างหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ ฐานะ หรือ บุญคุณของพิทักษ์ เพื่อให้ตัวเองสำนึกและตระหนักไว้ให้ดี ลงท้ายเรื่องของหัวใจก็ไม่มีใครห้ามได้ เขาเริ่มมีความรู้สึกต่อพิรุณรัตน์มากขึ้นทุกวัน แม้แสร้งตีหน้าขรึม ทำเสียงดุ สร้างระยะห่าง แต่มันไม่เคยช่วยได้สักนิด ยิ่งเกิดเรื่องนี้ด้วยมันยิ่งทำให้เขารู้ว่าพิรุณรัตน์มีความสำคัญเพียงใด ในท้องของเขาเหมือนมีคลื่นทะเลและพายุทอร์นาโดซัดโหมกระหน่ำ ขณะที่อุ้มร่างเล็กมายังห้องพัก ในใจภาวนาขอให้หญิงสาวอย่าเป็นอะไร มีความคิดหลั่งไหลเข้ามามากมายตอนมองหน้าพิรุณรัตน์บนเตียง ไม่ว่าจะเป็นความห่วงใย ความรู้สึกผิด ความเอ็นดู และจบท้ายที่ความรัก มันก่อตัวขึ้นม
“เรนนี่เคยฝันถึงพี่ไนต์ด้วยค่ะ” เธอบอกขณะเลิกเสื้อยืดสีขาวขึ้น ไล่นิ้วไปตามร่องกล้ามสวย จิรัฎร์ทำหน้าเหยเก เขาสะท้านเพียงแค่ปลายนิ้วเย็นสัมผัสเนื้อใน “ในรถเราจูบกันด้วย” “มันไม่ใช่ความฝันหรอกครับ” จิรัฎร์เฉลยทุกอย่าง ตากลมโตเบิกขึ้นก่อนที่สมองจะประมวลภาพที่คิดว่าเป็นความฝันออกมาเป็นฉาก ๆ เธอและเขาจูบกันในรถดูดดื่ม ลูบไล้สัมผัสกันวาบหวิว เนื้อตัวร้อนขึ้นมาเมื่อบางสิ่งใต้ร่มผ้าขยายใหญ่จนสัมผัสได้ ลิ้นเล็กเลียริมฝีปาของตนขณะมองริมฝีปากของเขา “อยากจูบไหมคะ?” คำถามนั้นได้รับคำตอบเป็นจูบหวาน ๆ ที่แสนร้อนแรงของจิรัฎร์ ชายหนุ่มจับท้ายทอยพิรุณรัตน์แล้วกดจูบลงทันที ปากบางเผยอขึ้นลิ้นลัดเลาะเกาะเกี่ยวหาความหวานไม่หยุด มือไม้ไม่อยู่นิ่ง มันลากไล
บทที่ 9 พอสิ้นประโยคนั้นจิรัฎร์ก็ชะงักงันไปครู่ใหญ่ ชายหนุ่มกำปลายเสื้อไว้แน่น ทอดมองร่างเล็กที่ยังเปลือยเปล่าเนื้อตัวยังแดงเป็นกุ้งลวกอยู่เลย ใจจริงเขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาถึงตอนนี้ แต่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะยังไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าภายนอกในขณะที่ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน “ให้เรนนี่ช่วยนะคะ” ร่างเปลือยขยับเข้ามาใกล้ มือเล็กจับเข้าที่เอวก่อนลากนิ้วไปตามเนื้อผ้า สะกิดส่วนที่โป่งนูนเพียงนิดมันก็เต้นเร่าเอาแต่ใจ ชายหนุ่มสะดุดลมหายใจหลายครั้ง พยายามเรียกสติ แต่เมื่อกางเกงผ้าถูกปลดออกก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่มันอัดแน่นพร้อมปลดปล่อยได้อีกต่อไป “เรนนี่…” จิรัฎร์ครางต่ำขณะมือน้อยกอบกุมตัวตนเขาไว้ผ่านชั้นในชาย หญิงสาวออกแรงบีบคลึงแผ
“พอดีพี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวน่ะครับ เลยไม่ได้ไป” “พี่ไนต์เขาอยากอยู่ดูแลเรนนี่น่ะค่ะ ตามประสาคนรั..” “เรนนี่ลูก!” เสียงของพิทักษ์ดังขัดขึ้นเสียก่อน และเป็นพิรุณรัตน์ที่ปล่อยมือจากจิรัฎร์เอง หญิงสาวขยับห่างชายหนุ่มเล็กน้อย แอบเหล่มอคนตัวสูงก็เห็นเขาส่งยิ้มอ่อน ๆ มาให้จึงพอเบาใจ อยู่ ๆ พิรุณรัตน์ก็เกิดอาการประหม่าขึ้นมา ด้วยสถานะที่ยังไม่ชัดเจนจึงทำให้เธอเกิดกลัวว่าบิดาและมารดาอาจจะมองจิรัฎร์ไม่ดี เธอกลัวว่าเขาจะถูกท่านต่อว่าและมองไม่ดี “ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” “โอเคขึ้นแล้วนะลูก ยังปวดหัวหรือตัวร้อนอยู่ไหม?” พิรุณรัตน์ส่ายหน้า ส่งยิ้มหวานให้บิ
บทที่ 10 เสียงหัวใจดังตึกตัก พร้อม ๆ กับกายสาวที่เริ่มจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกับชายหนุ่ม อากาศเริ่มจะหมดทั้งสองจึงผละห่างกันเพียงครู่เพื่อสูดลมเข้าปอดแล้วก้มลงประกบปากกันอีกครั้ง มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางไปทั่ว เช่นเดียวกับพิรุณรัตน์ที่เริ่มซุกซนทำมากกว่าเล่นปูไต่ มันเลื่อนต่ำลงจนน่าหวาดเสียว ดีที่จิรัฎร์คว้ามือเล็กไว้ได้ทัน“มาเป็นแฟนพี่นะเรนนี่” จิรัฎร์กระซิบเสียงพร่า เกลี่ยจมูกไปตามแก้มนุ่มและใบหู“อือ...” ไม่รู้ว่านั่นใช่คำตอบหรือไม่ แต่จิรัฎร์กำลังหลงใหลกลิ่นกายหอมหวานจนโงหัวแทบไม่ขึ้น แต่โชคดีที่เขายังพอมีสติ ชายหนุ่มกัดฟันบีบไหล่เปลือยพลางดันตัวเธอออก แต่ก็อ้อยอิ่งอยู่ตรงริมฝีปากสวยอยู่นาน“ว่าไงคะ?” เสียงทุ้มแหบพร่าขณะเปล่งเสียงออกมา พิรุณรัตน์สะเทิ้นอายยามสบก
บทจบ จิรัฎร์อายุครบสี่สิบเอ็ดปีไปเมื่อเดือนก่อน ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกปวดหลังและเมื่อยเนื้อตัวง่ายขึ้น แต่เขากลับชอบเพราะมีร่างนุ่มนิ่มคอยมาบีบนวดเอาใจเสมอ และมันจบลงที่เขานาบเธอทุกครั้ง ดูเหมือนตอนนี้เขาจะกลายเป็นคนอายุหลักสี่ที่ติดเซ็กซ์ไปแล้ว แฟนสาวอย่างพิรุณรัตน์ช่างยั่วยวนและน่ารัก เขาอดใจไม่ไหวทุกทีเวลาได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ จิรัฎร์ยอมรับว่าชอบท่าไม้ตายอย่างปูไต่มาก ๆ เพราะมันทำให้เขาอารมณ์เตลิดเปิดเปิงได้ง่าย ชายหนุ่มยิ้มขณะมองกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินในมือ แหวนเพชรวงนี้เขาเลือกเองกับมือ เป็นเพชรแท้เบลเยี่ยมแปดกะรัตที่เขาต้องดีลตรงกับช่างชาวรัสเซีย แหวนวงนี้ใช้ระยะเวลาทำเกือบสามเดือนด้วยความประณีตของช่าง และกว่าจะได้แบบและทรงที่ตรงใจเขา ตัวเรือนสลักชื่อย่อของทั้งเขาและพิรุณรัตน์ไว้ด้วย ใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะขณะที่คนข้างกายขยับกาย วันนี้เขาตั้งใจจะขอเธอแต่งงาน อายุเขาเยอะมากแล้ว อยากมีลูกสักคนสองคนแล้วด้วย และอีกอย่าง หลาย ๆ ครั้งที่ออกงานสังคมก็มักมีหนุ่ม ๆ มาท
เวลาล่วงเลยไปเกือบปีได้ที่ทั้งจิรัฎร์และพิรุณรัตน์เป็นแฟนกัน พิทักษ์และมีนายินดีต้อนรับว่าที่ลูกเขยคนนี้เป็นอย่างมาก โชคดีที่ทั้งสองไม่ใช่คนหัวโบราณสักเท่าไรจึงพอจะเข้าใจคนหนุ่มสาวที่เวลาอยู่ด้วยกันก็จะแสดงความรักที่มันเปิดเผย พิรุณรัตน์เป็นพวกชอบสกินชิพมาก ๆ เธอมักจะหอมแก้ม หรือจูบจิรัฎร์อยู่เสมอ ๆ แม้จะแอบทำแล้วแต่คนในบริษัทก็ยังมีเห็นบ้าง และทุกคนก็เริ่มรู้กันหมดแล้วว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน กลุ่มของผกามาศแสดงความยินดีต่อจิรัฎร์อย่างจริงใจ เพราะหล่อนเห็นเขามาตั้งแต่ทำงานที่นี่แรก ๆ แต่งงานแล้วก็หย่า เป็นโสดอยู่นานหลายปีดีดัก คิดว่าจะไม่มีใครเสียแล้ว สุดท้ายก็โดนเด็กสอยลงจากคานจนได้ คนที่นินทาก็มีอยู่พอสมควร พวกนั้นคิดว่าจิรัฎร์หวังรวยทางลัด แต่ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่าจิรัฎร์เองก็เป็นเศรษฐีเหมือนกัน เศรษฐีที่ดินปล่อยเช่า และยังเป็นเศรษฐีทองอีกด้วย เพราะเขาซื้อเก็งกำไรทุกเดือนร่างสูงที่ร้อยวันพันปีไม่เคยป่วย วันนี้กลับนอนไข้ขึ้นบนเตียง แค่ขยับกายก็ร้าวระบมไปห
บทที่ 12พิทักษ์ทรุดลงกับเก้าอี้ เขายกมือขึ้นลูบหน้าแรง ๆ หลายรอบ อันที่จริงเขาไม่ได้ต้องการให้พิรุณรัตน์เป็นแฟน หรือ แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนหรอก เพียงแค่ต้องการให้มาทำความรู้จักกันไว้ ในภายภาคหน้าอาจมีเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน แต่ดูจากคลิปแล้วเขาขอตัดขาดจากฝั่งเพื่อนสนิทดีกว่า“ขอบใจมากนะไนต์”“เป็นโชคของผมที่เจอไอ้นั่นโดยบังเอิญ” พิทักษ์เหลือบมองรุ่นน้อง ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะได้ยินจิรัฎร์พูดจิกกัดใครแบบนั้น“แล้วพี่จะเอายังไงต่อครับ”“ก็จะยังไงเล่า ก็ต้องตัดขาดฝ่ายนั้น เดี๋ยวส่งคลิปให้ไอ้เวชดูด้วยว่าลูกมันพูดจาหมา ๆ แบบนี้ มันพูดออกมาได้ยังไง” พิทักษ์เองก็โกรธไม่ต่างกัน มีใครมาพูดถึงบุตรสาวแบบนี้คนเป็นพ่อแบบเขาก็ต้องร้อนใจเป็นธรรมดา ธุร
“ไปทำงานสิไนต์” พิทักษ์ไล่ จิรัฎร์ลอบถอนหายใจ“อย่าให้เรนนี่ไปดูตัวเลยครับ น้องไม่ชอบหรอกที่โดนจับคลุมถุงชน ถ้าพี่คิดว่าผมไม่คู่ควรกับเรนนี่ อย่างน้อย ๆ ก็ให้เรนนี่ได้ตัดสินใจเรื่องดูตัวบ้างก็ดีนะครับ ผมยังรักรอยยิ้มของเรนนี่ ไม่อยากให้น้องกังวล”พ้นร่างสูงไปแล้วพิทักษ์ก็ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ เขาคิดถึงเรื่องที่เกาะเสม็ดตอนที่จิรัฎร์มีปากเสียงกับปัทมา ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่สักพัก ดูจากภายนอกก็เห็นว่าจิรัฎร์ไม่ยอม พอรุ่นน้องโพล่งว่ามีแฟนแล้วก็รู้สึกตงิดใจ ยิ่งมาเห็นตอนที่พิรุณรัตน์กับจิรัฎร์แอบจับมือส่งสายตาหวานฉ่ำให้กันตอนพักรถ เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าทั้งสองใช้เวลาช่วงเอาต์ติ้งพัฒนาความสัมพันธ์กันไปพอสมควร พิทักษ์และมีนาคุยเรื่องของจิรัฎร์และพิรุณรัตน์ตลอด และยินดีที่ได้ผู้ชายอย่างจิรัฎร์มาเป็นลูกเขยด้วยซ้ำ อาจจะกังวลเรื่องอายุที่ห่างกันอยู่บ้าง แต่ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ อายุอาจจะมีผลบ้าง แต่ถ้าทั้งสองคนรักกันเหนียวแน่น ใช้เหตุและผลอยู่ด
บทที่ 11ช่วงเช้ามืดพิรุณรัตน์ย่องออกจากห้องของจิรัฎร์ แต่ก็ยังไม่วายยั่วยวนเขาจนชายหนุ่มตบะแตกจัดการหญิงสาวรอบเช้าไปอีกหนึ่งครั้ง พิรุณรัตน์ทำตัวเหมือนโจรห้าร้อย ค่อย ๆ ย่องออกจากห้องชายหนุ่ม จิรัฎร์ยืนอมยิ้มที่หน้าประตูเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าตลก ยามนี้เพิ่งจะตีห้ายังไม่มีใครตื่นหรอก อีกอย่างเมื่อคืนทุกคนน่าจะสังสรรค์กันจนเมาปลิ้นหลับคอพับกันอยู่ในห้องนั่นแหละ พิรุณรัตน์ยกมือโบกหยอย ๆ เมื่อถึงหน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่ก็ห่างไม่กี่เมตรเอง ชายหนุ่มยิ้มโบกมือกลับ พอหญิงสาวผลุบเข้าห้องเขาก็อาบน้ำอาบท่าออกไปทำธุระทันทีสิ่งแรกหลังจากออกจากห้องคือการหาซื้อยาคุมฉุกเฉินให้พิรุณรัตน์ ชายหนุ่มเซิร์ชหาร้านขายยาที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จิรัฎร์ใช้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อถึงร้านยาก็ตรงเข้าประเด็น เภสัชกรสาวแนะนำเขาเป็นอย่างดีแล้วยังเชิญชวนให้ซื้อถุงยางอนามัยติดไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินอีกด้วย เพราะการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร และมันก็ป้องกัน
ร่างเล็กค่อย ๆ พยุงคนตัวโตไปยังเตียง ชายหนุ่มทิ้งตัวทันทีจึงทำให้เกี่ยวติดเธอลงไปด้วย ขึ้นมาเกยบนอกเขาจึงได้กลิ่นละมุดมากขึ้น ‘ดื่มไปเยอะจริง ๆ ด้วยแฮะ’ พิรุณรัตน์หัวเราะคิกคักบนอก มือก็เริ่มไต่ไปตามกล้ามเนื้อแน่น ๆ จิรัฎร์ครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาครางต่ำเมื่อมือเล็กซุกซนหยอกเย้าอยู่ที่ยอดอก แค่แรงสะกิดเล็กน้อยก็ทำให้เขาตื่นแล้ว ตื่นทั้งตัว ส่วนนั้นผงกหัวขึ้นพร้อม ๆ กับที่เขาพลิกกายขึ้นมาคร่อมร่างเล็กแทน“เรนนี่…” คนเมาครางต่ำ ขณะซุกไซ้จมูกไปทั่วลำคอและใบหน้าสวย พิรุณรัตน์ตกใจอยู่เพียงชั่ววินาที แขนเสลายกขึ้นคล้องคอจิรัฎร์ไว้แล้วยื่นหน้าเข้าใกล้มอบจูบหวานล้ำให้เขาตามที่ตั้งใจไว้ แต่พอจูบจริง ๆ มันไม่หวานสักนิด มันร้อนแรงและร้อนเร่า บางจังหวะจิรัฎร์ก็กัดปากเธอด้วย เขาดูกลัดมันดี มันยิ่งเร้าอารมณ์ให้เธอเฉอะแฉะไปหมด มือใหญ่ลากไล้ไปทั่ว ปัดป่ายจุดกระสันจนเธอสะท้าน ใจหายวาบ เสื้อผ้าหลุดพ้นกายเหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋ว ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ
บทที่ 10 เสียงหัวใจดังตึกตัก พร้อม ๆ กับกายสาวที่เริ่มจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกับชายหนุ่ม อากาศเริ่มจะหมดทั้งสองจึงผละห่างกันเพียงครู่เพื่อสูดลมเข้าปอดแล้วก้มลงประกบปากกันอีกครั้ง มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางไปทั่ว เช่นเดียวกับพิรุณรัตน์ที่เริ่มซุกซนทำมากกว่าเล่นปูไต่ มันเลื่อนต่ำลงจนน่าหวาดเสียว ดีที่จิรัฎร์คว้ามือเล็กไว้ได้ทัน“มาเป็นแฟนพี่นะเรนนี่” จิรัฎร์กระซิบเสียงพร่า เกลี่ยจมูกไปตามแก้มนุ่มและใบหู“อือ...” ไม่รู้ว่านั่นใช่คำตอบหรือไม่ แต่จิรัฎร์กำลังหลงใหลกลิ่นกายหอมหวานจนโงหัวแทบไม่ขึ้น แต่โชคดีที่เขายังพอมีสติ ชายหนุ่มกัดฟันบีบไหล่เปลือยพลางดันตัวเธอออก แต่ก็อ้อยอิ่งอยู่ตรงริมฝีปากสวยอยู่นาน“ว่าไงคะ?” เสียงทุ้มแหบพร่าขณะเปล่งเสียงออกมา พิรุณรัตน์สะเทิ้นอายยามสบก
“พอดีพี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวน่ะครับ เลยไม่ได้ไป” “พี่ไนต์เขาอยากอยู่ดูแลเรนนี่น่ะค่ะ ตามประสาคนรั..” “เรนนี่ลูก!” เสียงของพิทักษ์ดังขัดขึ้นเสียก่อน และเป็นพิรุณรัตน์ที่ปล่อยมือจากจิรัฎร์เอง หญิงสาวขยับห่างชายหนุ่มเล็กน้อย แอบเหล่มอคนตัวสูงก็เห็นเขาส่งยิ้มอ่อน ๆ มาให้จึงพอเบาใจ อยู่ ๆ พิรุณรัตน์ก็เกิดอาการประหม่าขึ้นมา ด้วยสถานะที่ยังไม่ชัดเจนจึงทำให้เธอเกิดกลัวว่าบิดาและมารดาอาจจะมองจิรัฎร์ไม่ดี เธอกลัวว่าเขาจะถูกท่านต่อว่าและมองไม่ดี “ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” “โอเคขึ้นแล้วนะลูก ยังปวดหัวหรือตัวร้อนอยู่ไหม?” พิรุณรัตน์ส่ายหน้า ส่งยิ้มหวานให้บิ
บทที่ 9 พอสิ้นประโยคนั้นจิรัฎร์ก็ชะงักงันไปครู่ใหญ่ ชายหนุ่มกำปลายเสื้อไว้แน่น ทอดมองร่างเล็กที่ยังเปลือยเปล่าเนื้อตัวยังแดงเป็นกุ้งลวกอยู่เลย ใจจริงเขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาถึงตอนนี้ แต่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะยังไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าภายนอกในขณะที่ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน “ให้เรนนี่ช่วยนะคะ” ร่างเปลือยขยับเข้ามาใกล้ มือเล็กจับเข้าที่เอวก่อนลากนิ้วไปตามเนื้อผ้า สะกิดส่วนที่โป่งนูนเพียงนิดมันก็เต้นเร่าเอาแต่ใจ ชายหนุ่มสะดุดลมหายใจหลายครั้ง พยายามเรียกสติ แต่เมื่อกางเกงผ้าถูกปลดออกก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่มันอัดแน่นพร้อมปลดปล่อยได้อีกต่อไป “เรนนี่…” จิรัฎร์ครางต่ำขณะมือน้อยกอบกุมตัวตนเขาไว้ผ่านชั้นในชาย หญิงสาวออกแรงบีบคลึงแผ