แต่เขาจำได้ว่า ตอนที่ฉือเจียวเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เธอหมายตากระเป๋าชาแนลรุ่นหนึ่ง เขาจึงให้ เลขาจ้าว ไปซื้อมา เลขาจ้าวนำกระเป๋านั้นไปส่งที่ซีย่วน และฉือหว่านเห็นเข้า ฉือหว่านมองกระเป๋าใบนั้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเธอเป็นประกาย ก่อนจะหันมายิ้มให้เขา "กระเป๋าใบนี้สวยมากเลย" เธอดูเหมือนจะชอบมันมาก ฮั่วซือหานกล่าวเรียบๆ “เธอชอบกระเป๋าชาแนล” ลู่หนานเฉิงยกมุมปากขึ้น “ชอบกระเป๋าก็ง่ายเลย ขอบใจมาก” ขณะนั้นเอง กู้เป่ยเฉินเดินเข้ามา “พี่รอง พี่หนานเฉิง พวกพี่อยู่ที่นี่กันหมดเลย” ลู่หนานเฉิงมองไปทางกู้เป่ยเฉิน “เป่ยเฉิน นายไปเล่นที่บ้านตระกูลฉือไม่ใช่เหรอ?” “ใช่แล้ว! ฉันยังเจอฉือหว่านกับพ่อบุญธรรมของเธอด้วย พี่รอง พี่หนานเฉิง พวกพี่รู้ไหม ฉือหว่านถึงกับรังเกียจพ่อบุญธรรมของตัวเอง! เธอปฏิเสธที่จะยอมรับเขา!” กู้เป่ยเฉินเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลฉือให้ฟังอย่างละเอียด “พี่หนานเฉิง พี่ยังจะชอบฉือหว่านอีกเหรอ หวังดีกับผู้หญิงแบบนั้นไปก็เสียเปล่า! ตอนนี้พี่คงได้เห็นธาตุแท้ของเธอแล้วใช่ไหม? เธอมันก็แค่ผู้หญิงหน้าเงิน รักแต่คนรวย ดูถูกคนจน!” ลู่หนานเฉิงขมวดคิ้วแน่น ก
แต่คุณนายใหญ่ฮั่วไม่ได้รับรูปนั้น เพราะฉือหว่านรีบเก็บมันกลับลงไปในกล่องอย่างรวดเร็ว “คุณย่าคะ นี่เป็นรูปตอนหนูเด็กๆ ค่ะ ถ่ายออกมาไม่สวยเลย ให้คุณย่าดูไม่ได้หรอกค่ะ” คุณนายใหญ่ฮั่วยิ้ม ขำเบาๆ “หวานหว่านของย่าจะมีช่วงเวลาที่ดูไม่สวยด้วยเหรอ?” ลุงฝู พ่อบ้านรีบกล่าวเสริมขึ้นมาทันที “ไม่มีทางแน่นอนครับ” มองดูคุณย่าที่แสนอบอุ่นและลุงฝูที่ใจดี ฉือหว่านก้มหน้าลง ตักรังนกขึ้นมาทานคำหนึ่ง ขณะนั้นเอง เสียงของสาวใช้ก็ดังขึ้นมา “คุณชาย” ฉือหว่านเงยหน้าขึ้นมอง ฮั่วซือหานกลับมาแล้ว คุณนายใหญ่ฮั่วยิ้มออกมา “ซือหาน กลับมาแล้วเหรอ?” ฮั่วซือหานถอดเสื้อสูทออกแล้วยื่นให้สาวใช้ ก่อนจะก้าวขายาวเข้ามาในห้องรับแขก ขณะนั้นเอง ฉือหว่านรู้สึกถึงรสชาติแปลกๆ ในรังนก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณย่า ค่ะ ในรังนกถ้วยนี้ใส่อะไรลงไปหรือเปล่าคะ? รู้สึกว่ารสชาติมันแปลกๆ” คุณนายใหญ่ฮั่วยิ้มกว้างขึ้น “หวานหว่าน หนูสังเกตเห็นแล้วเหรอ? ย่าให้เขาเติมสมุนไพรช่วยบำรุงครรภ์ลงไป” บำรุงครรภ์? ฉือหว่านมองถ้วยรังนกในมือตัวเอง ขมวดคิ้วจนหน้าผากเต้นตุบๆ “…”เธอกับฮั่วซือหานยังไม่เคยนอนด้วยกันเลย ต่อให้ดื่
"อย่าพูดมาก คืนนี้เอาห้าพันล้านมาให้ฉันด้วยตัวเอง ถ้าไม่งั้น พรุ่งนี้รูปของเธอจะถูกส่งไปทั่วทั้งไห่เฉิง คืนนี้ฉันจะรอ!" หวังกังวางสายไปทันที ฉือหว่านกำโทรศัพท์ไว้แน่น ขณะนั้นเอง เสียงของฮั่วซือหานดังขึ้นจากด้านหลัง "เธอคุยโทรศัพท์กับพ่อบุญธรรมของเธอเหรอ?" ฉือหว่านหันกลับมา ฮั่วซือหานกลับมาที่ห้องแล้ว สายตาของฮั่วซือหานมองไปที่กล่องในมือเธอ ร่างสูงสง่าของเขาทอดเงาทับเธอไว้ "คุณย่าบอกว่าพ่อบุญธรรมของเธอส่งรูปมาให้ รูปอะไร?" ฉือหว่านมองเขา เธอควรบอกเขาเรื่องพ่อบุญธรรมของเธอไหม? ถ้าเธอบอก เขาจะมีปฏิกิริยายังไง? ฉือหว่านเปิดปากพูด "รูปนี้คือ..." แต่ยังไม่ทันพูดจบ โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นสายจากลู่หนานเฉิง ฉือหว่านกดรับ ลู่หนานเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "หวานหว่าน รีบออกมาเร็ว ผมมีของขวัญให้คุณ" ฉือหว่านขมวดคิ้ว "คุณชายลู่ ตอนนี้ฉันไม่สะดวก..." "หวานหว่าน ตอนนี้ผมอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลฮั่ว ถ้าคุณไม่ออกมา ผมจะเข้าไปเอง" ฉือหว่านยอมจำนนทันที "คุณไม่ต้องเข้ามา ฉันจะออกไปเอง" ฮั่วซือหานมองเธอ "เป็นสายจากหนานเฉิงเหรอ?" ฉือหว่านพยักหน้า "ใช่ ฉ
เมื่อครู่ฮั่วซือหานยืนอยู่บนระเบียงและเห็นทุกอย่าง เขาเห็นลู่หนานเฉิงมอบกระเป๋าชาแนลรุ่นลิมิเต็ดให้ฉือหว่าน แต่ฉือหว่านไม่ได้รับมัน ฉือหว่านมองชายหนุ่ม "คุณเป็นคนบอกคุณชายลู่ว่าฉันชอบกระเป๋า?" ฮั่วซือหานเลิกคิ้วดกคมขึ้นเล็กน้อย "ไม่ใช่เหรอ? ฉันจำได้ว่าเธอชอบ" ฉือหว่านยกมุมปากแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย "ฉันไม่ชอบ ฉันชอบของที่แพงกว่านั้น อย่างสร้อยเพชรอะไรพวกนั้น คราวหน้าคุณให้คุณชายลู่ส่งสร้อยเพชรให้ฉันแทนเถอะ" คิ้วคมของฮั่วซือหานขมวดเข้าหากัน บรรยากาศรอบตัวเขาเย็นลงทันที บทสนทนาจบลงแบบไม่รื่นรมย์ "วันนี้พ่อบุญธรรมของเธอส่งรูปอะไรมาให้?" เขาถาม ตอนแรกฉือหว่านตั้งใจจะบอกเรื่องรูปภาพกับหวังกังให้เขาฟัง แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ก็แค่รูปตอนเด็กๆ ที่เขาเคยถ่ายฉันไว้" ฮั่วซือหานอยากถามต่อ "พ่อบุญธรรมของเธอ..." ฉือหว่านขัดขึ้นก่อน "ประธานฮั่ว คุณว่างมากหรือไง ถ้ามีเวลามากขนาดนี้ เอาไปศึกษาวิธีมีลูกจะดีกว่า!" ฮั่วซือหานก็นึกถึงคำพูด "หมดแรง" ของเธอก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมาทันที "ฉันจะมีลูกยังไง มันไม่เกี่ยวกับเธอ ไม่ต้องมายุ่ง!"
ฮั่วซือหานไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ว่ามา” “สิบปีก่อน หวังกังถูกจำคุกในข้อหาล่วงละเมิดและทารุณกรรมเด็ก รวมถึงพยายามข่มขืน” ปลายปากกาที่อยู่ในมือหยุดชะงักลงบนเอกสารทันที ฮั่วซือหานเงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง มองไปที่เลขาจ้าว “คนที่ถูกกระทำคนนั้นคือฉือหว่าน?” เลขาจ้าวพยักหน้า “ใช่ครับท่านประธาน พ่อบุญธรรมของคุณผู้หญิงเป็นทั้งโรคจิตและเศษสวะโดยแท้” เส้นกรามอันคมเข้มของฮั่วซือหานบีบรัดแน่นทันที แท้จริงแล้วเขาเคยสงสัยว่าฉือหว่านกับพ่อบุญธรรมของเธออาจมีเรื่องราวบางอย่างที่ปกปิดไว้ แต่เขาไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องที่โหดร้ายถึงเพียงนี้ ทันใดนั้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มีสายเข้า ฮั่วซือหานกดรับสาย และปลายสายเป็นเสียงร้อนรนของซูเสี่ยวฝู “ประธานฮั่ว แย่แล้ว! หวานหว่านเกิดเรื่องแล้ว!” ฮั่วซือหานกำโทรศัพท์แน่นขึ้น “ฉือหว่านเป็นอะไร?” “หวานหว่านถือเช็คไปที่ไนต์คลับเพื่อพบกับพ่อบุญธรรมสารเลวนั่น ฉันไม่วางใจเลยแอบตามไป แต่พอฉันเข้าไปข้างใน หวานหว่านก็หายไปแล้ว! เธอถูกพ่อบุญธรรมสารเลวนั่นพาตัวไป!” อะไรนะ? ฮั่วซือหานก้าวขายาวออกจากห้องทำงานทันที เขาผลักประตูห้องนอนอ
หวังกังขับรถตู้สีขาวพุ่งทะยานไปบนทางด่วน เขาเหลือบมองกระจกมองหลังไปยังเบาะหลัง ฉือหว่านยังคงนอนอยู่ที่นั่น ไม่ได้สติ สายตาของหวังกังเต็มไปด้วยความหยาบช้า เขากวาดมองรูปร่างโค้งเว้าของฉือหว่านด้วยความกระหาย ตอนนี้เขาแทบจะอดใจไม่ไหว อยากลงมือกับเธอเดี๋ยวนี้ แต่เพื่อความปลอดภัย เขาต้องพาเธอออกจากที่นี่ก่อน รอให้ถึงที่ที่ไม่มีใครรู้จักเธอ ทีนั้นเธอก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้ เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามใจชอบ แค่คิดถึงเรื่องนี้ หวังกังก็รู้สึกเลือดในกายเดือดพล่าน แต่ทันใดนั้น รถที่อยู่ข้างหน้าก็หยุดกะทันหัน หวังกังรีบเหยียบเบรกทันที เกิดอะไรขึ้น!? ตรงนี้มีรถติด คนขับรถคันอื่นต่างยื่นศีรษะออกมามองสถานการณ์ “เกิดอะไรขึ้น? ข้างหน้ามีอุบัติเหตุหรือเปล่า?” “ไม่ใช่อุบัติเหตุ มีคนปิดถนน ทางแยกข้างหน้าถูกปิดหมดเลย ตอนนี้กำลังตรวจสอบรถทุกคัน” ปิดถนน!? หวังกังหน้าถอดสี รู้สึกถึงลางร้ายอย่างแรงกล้า “ใครกันที่มีอำนาจมากพอจะปิดถนนทั่วทั้งไห่เฉิงแบบนี้!?” “ได้ยินว่าคนสั่งการคือประธานฮั่วซือหานแห่งฮั่วซื่อกรุ๊ป เจ้าพ่อของไห่เฉิง ที่นี่เป็นอาณาเขตของเขา เขาจะสั่งฟ้าฝนยังได้เล
หวังกังออกแรงกระชาก “แควก!” เสียงเนื้อผ้าขาดดังขึ้น คอเสื้อของฉือหว่านถูกฉีกออกเผยให้เห็นผิวกายขาวเนียนส่วนใหญ่ที่ปรากฏต่ออากาศเย็น ฉือหว่านถูกดึงกลับไปสู่ความทรงจำเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นก็อยู่ในถ้ำแบบนี้ เธอถูกหวังกังกดอยู่ใต้ร่าง กลิ่นสกปรกจากตัวเขาอบอวลมา ความสิ้นหวังและความหวาดกลัวซัดเข้ามาราวกับคลื่นลูกใหญ่ เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย เด็กหญิงฉือหว่านในวันนั้นกำลังจะตายจริงๆ เธอคิดถึงพี่ชายของเธอ ทำไมพี่ชายถึงไม่มาช่วยเธอ? ร่างของเธอหนักอึ้งขึ้น หวังกังทาบทับลงมาแล้ว เธอหลับตาลง และพบว่าหลายปีผ่านไป เมื่อเธอต้องเผชิญชะตากรรมแบบเดิม เธอกลับคิดถึง ฮั่วซือหาน เธอเติบโตขึ้นแล้ว… แต่ก็เหมือนจะไม่โตเลย เธอยังคงหวังว่าฮั่วซือหานจะมาช่วยเธอ แต่เธอก็รู้ดี… เขาจะไม่มีวันมา ฉือหว่านเอื้อมมือไปที่เอวของตัวเอง… แต่ในวินาทีถัดมา มีเท้าข้างหนึ่งถีบกระแทกเข้าใส่! แรงกดทับบนร่างของเธอหายไปทันที หวังกังที่ยังอยู่บนตัวเธอเมื่อครู่ ถูกเตะจนกระเด็นไป "โครม!" เสียงกระแทกหนักดังลั่น หวังกังลอยไปชนเข้ากับผนังถ้ำเต็มแรง ก่อนจะกระอักเลือดออกมา ฉือหว่านชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง เธอเงย
ฉือหว่านถูกอุ้มขึ้นไปบน โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม คันหรูของเขา ฮั่วซือหานวางเธอลงบนเบาะข้างคนขับ จากนั้นก็เดินอ้อมไปขึ้นที่นั่งคนขับ มือใหญ่เรียวยาวที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดนูนกำพวงมาลัยแน่น เขาเหยียบคันเร่ง รถสุดหรูแล่นไปข้างหน้าอย่างราบรื่น ร่างบางของฉือหว่านถูกห่อหุ้มอยู่ในเสื้อโค้ตของเขา กลิ่นสะอาดเย็นสดชื่นและไออุ่นจากตัวเขาโอบล้อมเธอไว้ ปลายจมูกเล็กๆ ของเธอขึ้นสีแดงอ่อน ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างไหลเวียนอยู่ในใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมาจริงๆ ตอนนั้น เขาไม่ได้มา แต่ตอนนี้... เขามาแล้ว ฉือหว่านหันไปมองใบหน้าด้านข้างของเขา ดวงตาคมเข้ม รูปหน้าหล่อเหลาคมชัดของเขาช่างสมบูรณ์แบบ “ประธานฮั่ว ขอบคุณค่ะ” ฮั่วซือหานขยับนิ้วเรียวยาวกระชับพวงมาลัยให้มั่น ริมฝีปากเขากดแน่นเล็กน้อยก่อนจะถามเสียงเย็น “ทำไมไม่บอกฉัน?” ฉือหว่านอ้ำอึ้ง “ฉัน…” “ฉันถามเธอไปตั้งกี่ครั้ง ทำไมเธอไม่พูด? ถ้าฉันมาสายไปกว่านี้อีกหน่อย เธอรู้ไหมว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง?” น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความโกรธ ฉือหว่านรับรู้ถึงอารมณ์เกรี้ยวกราดของเขา ดวงตาสีแดงระเรื่อของเธอเริ่มฉาบไปด้วยม่านน้ำใส “ทำไมค
“เปล่านะ!” ฉือหว่านปฏิเสธทันที “เมื่อคืนฉันไม่ได้อยู่กับประธานฮั่ว!” ฮั่วซือหานได้ยินคำปฏิเสธของเธอแล้ว แค่นหัวเราะในใจ เธอกลัวว่าลู่หนานเฉิงจะรู้ว่าเมื่อคืนพวกเขาอยู่ด้วยกันมากขนาดนั้นเลย โกหกผู้ชายเก่งจริงๆ! เจ้าแม่จอมโกหก! ลู่หนานเฉิงหันไปมองฮั่วซือหาน “ซือหาน ทำไมไม่พูดอะไรเลย?” ฮั่วซือหานสีหน้าเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก "เธอพูดไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?" ก็เอาตามที่เธอพูดเถอะฉือหว่านรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ประธานฮั่ว คุณชายลู่ พวกคุณคุยกันเถอะ ฉันขอตัวก่อน” ฉือหว่านเดินออกไป ลู่หนานเฉิงเดินเข้ามาใกล้ฮั่วซือหาน ขมวดคิ้วไม่พอใจ “ซือหาน นายต้องรู้จักดูสถานการณ์หน่อยสิ” ฮั่วซือหานหรี่ตาลงมองลูหนานเฉิง“ต่อไปถ้าฉันอยู่กับฉือหว่าน นายต้องหาเรื่องออกไป ให้ฉันได้มีโอกาสอยู่กับเธอแค่สองคน เข้าใจไหม?” ฮั่วซือหาน “…” นี่มันออฟฟิศของเขา แล้วเขากลายเป็นส่วนเกินไปแล้วหรือไง!? ฮั่วซือหานน้ำเสียงไม่ดี “งั้นพวกนายออกไปกันเลยสิ” “ไม่เอาน่าซือหาน ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาย เพื่อนกำลังจีบผู้หญิง นายก็ควรช่วยไม่ใช่เหรอ? เมื่อก่อนนายยังบอกเลยว่าสนับสนุนให้ฉันจีบฉือหว่าน”
ฮั่วซือหานขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เขาเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร มองไปที่เลขาจ้าว “มันหนีไปที่ไหน?” "หวังกังหนีไปที่บ้านตระกูลฉือครับ! นอกจากนี้ กู้เป่ยเฉินยังเชิญสื่อมวลชน 36 สำนักของไห่เฉิง เพื่อจัดงานแถลงข่าว ในการแถลงข่าวนี้ พวกเขาจะกล่าวหาว่าคุณนายฮั่วทำร้ายและทอดทิ้งพ่อบุญธรรมของตัวเอง!" ฮั่วซือหานเม้มริมฝีปากแน่น กู้เป่ยเฉินคิดจะทำอะไร!? "พวกนายทำงานกันยังไง? หวังกังถูกทำให้หมดสภาพไปแล้ว ทำไมถึงยังปล่อยให้เขาหลุดรอดออกมาได้!?" เมื่อเห็นประธานของตัวเองหัวเสียขึ้นมา เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากของเลขาจ้าวทันที “ท่านประธานครับ เรื่องนี้…” "ฉันเป็นคนสั่งให้เลขาจ้าวปล่อยหวังกังเองค่ะ" เสียงหวานใสของฉือหว่านดังขึ้นมาแทรก ฮั่วซือหานหันไปมองฉือหว่านทันที "เธอ?" ฉือหว่านพยักหน้า "ใช่ ฉันเป็นคนจงใจให้เลขาจ้าวปล่อยเขาไปเอง" ฮั่วซือหานสายตาลึกซึ้งขึ้น “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? พวกเขากำลังจะจัดงานแถลงข่าว คนชั่วแบบหวังกังคิดจะตามรังควานเธอไปตลอดชีวิต ฉันจะส่งคนไปจับมันที่บ้านตระกูลฉือเองและจะทำให้สื่อมวลชนยกเลิกการแถลงข่าว ทุกอย่างจะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องที่เธอไม่อยากให้ใครรู้
"คุณนายฉือ! คุณต้องช่วยผมนะ! ประธานฮั่วขังผมไว้ ผมแอบหนีออกมา ถ้าประธานฮั่วจับผมได้อีก ผมตายแน่!" หวังกังตัวสั่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวต่อฮั่วซือหานยังคงฝังลึกในใจ เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลัน แน่นอนว่าหลี่หลันต้องช่วยหวังกัง หวังกังคือไพ่สำคัญในมือเธอ เธอไม่มีทางปล่อยให้ไพ่นี้กลายเป็นไพ่ตายเด็ดขาด “แม่คะ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี?” ฉือเจียวถาม ฉือไห่ผิงเริ่มไม่พอใจ หลี่หลันอุตส่าห์ทำเรื่องให้เขาพอใจได้สักครั้ง สุดท้ายกลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาอีก เขาขมวดคิ้ว “หลันหลัน เธอคิดจะทำยังไง?” หลี่หลันมองสามีของเธอ "ที่รัก อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เรื่องนี้ยังไม่จบ" ฉือเจียวดวงตาเป็นประกาย “แม่คะ! หรือแม่คิดแผนอะไรดีๆ ออกแล้ว?” หลี่หลันยิ้ม "เจียวเจียว ตอนนี้ลูกโทรหาคุณชายกู้เถอะ คุณชายกู้ชอบลูกมากไม่ใช่เหรอ? เขาเชื่อฟังลูกทุกอย่าง ตอนนี้เป็นเวลาที่เราต้องใช้เขาแล้ว" กู้เป่ยเฉินรักฉือเจียวจริงๆ เขาเคารพและมองฉือเจียวเป็นพี่สะใภ้ของตัวเองเสมอ ฉือเจียวพยักหน้า "ได้เลย หนูจะโทรหากู้เป่ยเฉินเดี๋ยวนี้!" …ครึ่งชั่วโมงต่อมา กู้เป่ยเฉินมาถึงบ้านตระกูลฉือ “พี่สะใภ้เจียวเจี
ฉือหว่านดวงตากลมใสเปล่งประกายในผ้าห่ม จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา ฮั่วซือหานเอ่ยถามเสียงแหบต่ำ “หัวเราะอะไร?” ฉือหว่านมองเขา “ฉันควรจะตอบว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยดีล่ะ?” ความเย้ายวนที่แฝงไปด้วยการหยอกล้ออย่างพอดี ทำให้หัวใจสั่นไหว ฮั่วซือหานยิ้มตาม ก่อนจะโน้มลงจูบริมฝีปากแดงของเธออีกครั้ง …เช้าวันรุ่งขึ้น บ้านตระกูลฉือ ภายในห้องนอน หลี่หลันเอนกายพึงพอใจอยู่ในอ้อมแขนของฉือไห่ผิง เธอคล้องแขนรอบคอเขา แล้วเอ่ยเสียงออดอ้อน “เมื่อกี้คุณทำฉันเจ็บเลยนะ” ฉือไห่ผิงใช้ปลายนิ้วบีบคางเธอ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “คราวนี้อิ่มแล้วใช่ไหมล่ะ?” “คนบ้า~” เมื่อคืน ฉือเจียวโทรตามฉือไห่ผิง เขารีบกลับบ้านทันที มอบความสุขให้หลี่หลันจนเธออิ่มเอมเต็มที่ ฉือไห่ผิงโอบกอดหลี่หลัน “หวังกังพาฉือหว่านไปจริงๆ เหรอ?” “ใช่สิคะ” หลี่หลันยิ้มพึงใจ “ก้างขวางคออย่างฉือหว่านหายไปแล้ว ต่อไปนี้เจียวเจียวจะได้เป็นคุณนายฮั่วซะที สามีขา คุณกำลังจะเป็นพ่อตาของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งไห่เฉิงแล้วนะ~” ฉือไห่ผิงหัวเราะเสียงดัง มีความสุขจนสุดขีด “หลันหลันที่รัก คราวนี้คุณทำได้ดีมาก!” หลี่หลันรู้สึกพอใจ ทั้งคื
เธอจูบเขา ฮั่วซือหานดวงตาแดงก่ำ รีบผลักเธอออกทันที "ฉือหว่าน!" ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเธอมองเขา ดวงตากลมใส บริสุทธิ์ แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์อ่อนหวานที่ไม่เจตนา เธอเอ่ยเสียงเบา "สายของฉือเจียว คุณจะไม่รับเหรอ?" ฮั่วซือหาน ก้มลงมาจูบริมฝีปากเธออย่างรุนแรง เสียงโทรศัพท์ยังคงสั่นไม่หยุด ฉือเจียวยังโทรมาเรื่อยๆ แต่ฉือหว่านกลับรู้สึกว่า นี่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการคบชู้ ทั้งที่เธอกับฮั่วซือหานเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่พวกเขากลับเหมือนแอบนอกใจฉือเจียว ฮั่วซือหานจูบเธออย่างรุนแรง ราวกับต้องการลงโทษเธอ ริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธอถูกขบเม้มอย่างหนักหน่วง แล้วเขาก็รุกล้ำเข้าไปในปากเธอ… กวาดต้อนทุกอย่าง รุนแรงเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ ปีศาจคนนี้… เธอชอบยั่วยวนเขานัก! หวังกังพูดถูกอยู่ข้อหนึ่ง เธอชอบยั่วยวนผู้ชายจริงๆ แม้ตอนเด็ก… เธอก็ยังถูกเศษสวะอย่างหวังกังจ้องตาเป็นมัน ในขณะที่เขายังจูบเธออยู่นั้น มือเล็กนุ่มของเธอค่อยๆ เลื่อนลงมา แทรกเข้าไปใต้ปกเสื้อเชิ้ตของเขา ฮั่วซือหาน หายใจสะดุดไปชั่วขณะ เขาผละออกจากเธอทันที จ้องเธอด้วยสายตาคมกริบ "ฉือหว่าน เธอค
เธอเรียกเขาอยู่เรื่อยๆ เสียงหวานไพเราะของเธอ ดึงดูดจนชายหนุ่มข้างห้องถึงกับหันกลับไปมองอีกครั้ง เสียงที่ทำให้คนต้องเหลียวหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮั่วซือหานทำได้เพียง กลับเข้าไปในห้องด้วยสีหน้ามืดดำ ฉือหว่านขึ้นเตียงแล้ว ฮั่วซือหานมองเธออย่างไม่พอใจ "เธอเรียกอะไรนักหนา เรียกหาผีหรือไง?" ฉือหว่าน “……” เธอหวังดีแท้ๆ! "ฉันไปอาบน้ำเย็นก่อน" ฮั่วซือหานเดินเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวราดน้ำเย็นใส่ตัวเอง ไม่กี่นาทีต่อมา เขาออกมาแล้วขึ้นเตียง ทั้งสองคนนอนเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร เสียงจากห้องข้างๆ ยังคงเล็ดลอดมา เสียงหัวเราะหยอกล้อกันของชายหญิง แม้จะพยายามกดเสียงให้เบาลงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังได้ยินชัดเจน ฮั่วซือหานคิดว่า เขาควรจะไปอาบน้ำเย็นอีกครั้ง เขาตัดสินใจจะเปิดผ้าห่มลุกออกไป แต่ในจังหวะนั้นเอง ฉือหว่านขยับตัว เดิมที เธอนอนอยู่ริมเตียง ห่างจากเขามาก แต่ตอนนี้ เธอกลับขยับเข้ามาใกล้ ร่างกายอ่อนนุ่มของเธอแนบเข้ามาหาเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ ปะทะเข้ากับจมูกของเขา ฮั่วซือหานชะงักไปครู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ทั้งคู่ อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ เธอเข้ามาแนบชิดแบบนี้ มันชัดเจนมาก ว่าเธอหมายถึงอะไร ฮั่วซ
แต่เสียงจากห้องข้างๆ ยังไม่หยุด แถมยังดังขึ้นกว่าเดิม แบบนี้จะนอนหลับได้ยังไง? ฮั่วซือหานยกมือขึ้น กระดูกข้อนิ้วที่คมชัดของเขา เคาะผนังสองครั้ง "ตึง ตึง" เสียงจากห้องข้างๆ เงียบลงทันที ฮั่วซือหานหลับตาลง แต่เขากลับ ไม่มีวี่แววจะง่วงเลย ร่างกายของชายหนุ่มวัยหนุ่มแน่น ร้อนระอุขึ้นมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ฉือหว่านนอนอยู่ข้างๆ ตัวของเธอนุ่มละมุน กลิ่นหอมของเธออยู่ใกล้แค่เอื้อม ในหัวของเขาพลันปรากฏภาพของคืนนั้น ในห้องนอนหลักของวิลล่าซีย่วน เขากดเธอไว้กับผนัง จับข้อมือเธอแน่น…แต่ในตอนนั้นเอง เสียงจากห้องข้างๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฮั่วซือหานลืมตาขึ้น อย่างหงุดหงิด เขาลุกขึ้นทันที กระชากผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง แต่ในจังหวะนั้นเอง มือเล็กๆ ข้างหนึ่งยื่นมาจับชายเสื้อของเขาไว้ ฮั่วซือหานหันกลับไปมอง ฉือหว่านโผล่ศีรษะออกมาจากผ้าห่ม เพราะเมื่อครู่เธอซุกอยู่ข้างใน ผิวหน้าขาวเนียนของเธอจึง ขึ้นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าไร้เครื่องสำอางของเธอ ชวนให้คนจ้องมอง ดวงตากลมใสของเธอเปล่งประกายราวกับน้ำ ขาวสะอาดและดูบริสุทธิ์เสียจนเขาอยากจะกัดเธอสักคำ ฉือหว่านดึงเสื้อของเขาไว้ ถามด้วยความไม่สบ
ฮั่วซือหานออกมาตั้งนานแล้ว และเมื่อครู่ เขาได้ยินทุกอย่างจากข้อความเสียงนั้นหมดแล้ว ฉือหว่าน “…” สมองเธอขาวโพลนไปหมด ทันทีที่ตั้งสติได้ เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่นะ ประธานฮั่ว ฟังฉันอธิบายก่อน…” เธอลุกขึ้นเร็วเกินไป โทรศัพท์ในมือร่วงลงไปบนเตียง เสียงข้อความเสียงของซูเสี่ยวฝูยังคงเล่นต่อไป "ประธานฮั่วหุ่นดีขนาดนั้น มีซิกแพ็คแน่นอนอยู่แล้ว! แถมฉันเห็นนิ้วของประธานฮั่วเรียวยาวมาก ได้ยินมาว่าผู้ชายที่มีนิ้วยาว เวลาบนเตียงจะสุดยอดมาก! หวานหว่าน สู้เขา! คืนนี้ต้องนอนกับประธานฮั่วให้ได้!" ฉือหว่านที่เมื่อครู่ยังพยายามจะอธิบาย “……” ให้เธอเอาหัวโขกกำแพงไปเถอะ! ช่วยด้วย! ตอนแรกเธอกับซูเสี่ยวฝูก็คุยกันดีๆ อยู่หรอก แต่ใครจะไปคิดว่าเสี่ยวฝูจะคุยไปเรื่อยๆ แล้วหลุดเข้าโหมด 18+ แบบนี้!? บรรยากาศในห้อง อึดอัดจนแทบจะมีรอยร้าว ฉือหว่านมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างประตูห้องน้ำ แล้วแสร้งหัวเราะสองเสียง “คุณก็ได้ยินแล้วใช่ไหม คำพูดพวกนั้น เสี่ยวฝูเป็นคนพูดนะ ไม่ใช่ฉัน!” ตอนนี้ต้องโยนเพื่อนรักเป็นแพะไปก่อน! ฮั่วซือหานเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนตัวของเขายังมีไอหมอกเย็นของน้ำที่
ฮั่วซือหานพยักหน้า จากนั้นพาฉือหว่านเดินไปยังห้องพัก ฉือหว่านรู้สึกสงสัย “เมื่อกี้เจ้าของบ้านพักบอกว่าของที่ต้องเสียเงินคืออะไรเหรอ?” ฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่ง ดวงตาใสซื่อของเธอเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ดูเหมือนจะสงสัยจริงๆ ฮั่วซือหานหลบสายตา ไม่ตอบ เมื่อเข้ามาในห้อง 503 ภายในสะอาดสะอ้าน แต่… มีเพียงเตียงเดียว ฉือหว่านก้มหน้าลงเล็กน้อย มองแพขนตายาวของตัวเอง คืนนี้เธอกับเขาจะนอนกันอย่างไร? “ฉือหว่าน” เสียงทุ้มของฮั่วซือหานดังขึ้นจากด้านหลัง นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเรียกชื่อเธอ ฉือหว่านหันไปมอง “มีอะไรเหรอ?” แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ “เมื่อกี้ในรถ คุณอยากถามฉันอะไรเหรอ?” “เธอ…” ฮั่วซือหานกำลังจะถาม แต่ทันใดนั้น "ติ๊ง" เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของเขา ฮั่วซือหานกดเปิดดู เป็นข้อความจากฉือเจียว ฉือเจียวส่งรูปมาให้ เป็นภาพของเธอในวัยเด็ก ฮั่วซือหานกดขยายภาพขึ้นมาดู ฉือเจียวตอนเด็กมีลักษณะคล้ายฉือหว่านอยู่เล็กน้อย ฮั่วซือหานชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความที่ฉือเจียวแนบมา “วันนี้ฉันไปรื้ออัลบั้มรูปเก่าๆ เจอรูปนี้~