กู้เป่ยเฉินตกใจ “16 ปี?” ที่กลุ่มคนของกู้เป่ยเฉินยอมรับฉือเจียว ไม่ได้เป็นเพียงเพราะความสวยของเธอ แต่เพราะเธอเรียนเก่งตั้งแต่เด็ก มีวุฒิการศึกษาสูง และเป็นนักศึกษาชั้นยอดจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มองไปทั่ววงการไฮโซของไห่เฉิงก็หาคนที่โดดเด่นกว่าเธอไม่ได้ เธอคู่ควรกับฮั่วซือหาน ผู้หญิงที่มีเพียงความสวยอย่างเดียวคือจุดจบ แต่ถ้ามีความสวยและวุฒิการศึกษา นั่นถึงจะเป็นไพ่ตาย สำหรับชนชั้นสูง พวกเขายิ่งให้ความสำคัญกับวุฒิการศึกษาของผู้หญิง ความรู้สึกดีๆ ที่กู้เป่ยเฉินเคยมีกับฉือหว่านหายไปหมด เขาพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “ฉือหว่าน เธอเลิกเรียนตอนอายุ 16 จริงๆ น่ะเหรอ?” ฉือหว่านมองฉือเจียวที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนยิ้มบางๆ “ใช่ ฉันเลิกเรียนตอนอายุ 16 จริงๆ” กู้เป่ยเฉินหัวเราะเยาะ “งั้นบังเอิญจังเลย พี่รองของฉันก็เลิกเรียนตอนอายุ 16 เหมือนกัน แต่พี่รองของฉันเป็นคนพิเศษ ตอนอายุ 16 ก็จบปริญญาโทสองใบจากฮาร์วาร์ด สร้างประวัติศาสตร์เลยล่ะ แต่เธอน่ะอายุ 16 เลิกเรียนแล้วยังไม่มีแม้แต่วุฒิมัธยมปลายเลย ฮ่าๆ” กู้เป่ยเฉินหัวเราะเยาะเสียงดัง ฉือเจียวมองด้วยความหยิ่งทะนง ไม่มีใครมองฉือหว่
ฉือเจียวยิ้มมุมปาก หัวใจเต็มไปด้วยความหวาน เธอเอนตัวอ่อนนุ่มซบอกฮั่วซือหานก่อนเงยใบหน้าที่งดงามขึ้นมองเขา “ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใจร้าย คุณไม่มีทางทิ้งฉัน” ฮั่วซือหานในฐานะมหาเศรษฐีแห่งไห่เฉิง หล่อเหลาสง่างาม ทรงอำนาจจนสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ตามใจ เขาคือผู้ชายที่เติมเต็มทุกจินตนาการของเธอ แต่เมื่อสามปีก่อน เขาประสบอุบัติเหตุและกลายเป็นเจ้าชายนิทรา หมอทุกคนบอกว่าเขาจะไม่มีวันฟื้นอีกในชาตินี้ แล้วเธอจะปล่อยให้ช่วงวัยอันงดงามของเธอสูญเปล่าอยู่กับเขาได้อย่างไร? ดังนั้น เธอจึงหนีไป ใครจะไปคิดว่าเมื่อฉือหว่านแต่งงานแทนเธอ ผ่านไปเพียงสามปี ฮั่วซือหานกลับฟื้นขึ้นมาได้ จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่รู้ว่าฮั่วซือหานฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร หรือว่าโชคชะตาของฉือหว่านเหมาะสมที่จะนำโชคลาภมาให้? หมอต่างก็พูดว่านี่คือปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ ดังนั้น เธอจึงกลับมา เธอรู้ว่าฮั่วซือหานรักเธอ และไม่มีทางทิ้งเธอ ฮั่วซือหานมองใบหน้างดงามของฉือเจียว “ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อก่อน…คุณคิดว่าผมจะตามใจคุณขนาดนี้เหรอ?” เมื่อพูดถึง “เรื่องเมื่อก่อน” ฉือเจียวก็ชะงัก ดวงตาเผยความรู้สึกไม่สบายใจ
รุ่นน้องสาวอัจฉริยะคนนั้นปฏิเสธคำขอเพิ่มเพื่อนของเขาดื้อๆ! ในขณะนั้น เลขาจ้าวเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยกาแฟ เมื่อเขาเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเจ้านาย ก็ถึงกับตกใจ มีคนปฏิเสธคำขอเพิ่มเพื่อนของท่านประธานงั้นเหรอ??? นี่มันเรื่องไม่น่าเชื่อในชีวิตเลยนะ? เลขาจ้าวพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านประธาน รุ่นน้องสาวอัจฉริยะของคุณนี่...พิเศษจริงๆ ครับ” ฮั่วซือหานหัวเราะเยาะเบาๆ “พิเศษจริงๆ” เธอคือคนแรกที่ปฏิเสธเขา ไม่เพิ่มก็ช่างเถอะ ฮั่วซือหานยกกาแฟขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก ก่อนจะขมวดคิ้วทันที เลขาจ้าวถามอย่างรีบร้อน “ท่านประธาน กาแฟไม่ถูกใจใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมทำใหม่” ฮั่วซือหานจู่ๆ ก็รู้สึกคิดถึงกาแฟที่ฉือหว่านเคยทำ นั่นแหละที่ถูกปากเขามากที่สุด ฮั่วซือหานพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เขียนเช็คที่มีเลขศูนย์แปดตัว นี่คือเงินชดเชยการหย่าที่จะให้ฉือหว่าน” เธอบอกว่าจะออกไปตัวเปล่า เขาไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว ผู้หญิงบ้านนอกที่เลิกเรียนตอนอายุ 16 แบบเธอ จะหาเงินได้จากที่ไหน? เธอแค่ทำเป็นเล่นตัวเพื่อให้ได้เงินมากขึ้นเท่านั้น เช็คที่มีศูนย์แปดตัวนี้ก็เหมือนการจ่ายค่าทดแทนสำหรับสามปีที่ผ่านมา หลั
ทุกคนไม่ต้อนรับการมาของเธอ และต่างพยายามไล่เธอออกไป ฉือหว่านคิดว่ามันน่าขัน ดวงตาที่เย็นเยียบของเธอกวาดมองใบหน้าของหลี่หลัน ฉือเจียว และฉือไห่ผิงทีละคน ก่อนดึงแขนเรียวของตัวเองออกจากมือของฮั่วซือหานอย่างแรง พร้อมยิ้มบางๆ และพูดว่า “ได้ ฉันจะไป” จำไว้ด้วยนะ ว่าพวกคุณเป็นคนไล่ฉันไปเอง! ฉือหว่านหมุนตัวและเดินออกไป แต่ไม่นานนัก ฉือหว่านก็หันกลับมาอีกครั้ง เธอยกมือเสยปอยผมข้างแก้มทัดไว้ที่หลังหู “ท่านประธานฮั่ว คุณรู้ไหมว่าฉันมาที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนวันนี้เพื่ออะไร?” ฮั่วซือหานมองใบหน้าขาวเนียนบางราวปีกจักจั่นของเธอ ขนเล็กๆ บนผิวหน้าเปล่งประกายแวววาวอย่างนุ่มนวล ทำให้เธอดูงดงามยิ่งขึ้น ฮั่วซือหานพูดด้วยใบหน้าเย็นชา แสดงออกชัดว่าเขาไม่สนใจจะรู้ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาช่างเย็นเยียบ “ฉือหว่าน เธอตามรังควานแบบนี้ มันน่ารำคาญจริงๆ” ฉือหว่านก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มที่งดงาม “ฉันมาหาหมอจีนให้คุณน่ะ” พูดจบ ฉือหว่านก็หยิบการ์ดใบเล็กออกมายื่นให้ฮั่วซือหาน “นี่ให้คุณ” ฮั่วซือหานก้มลงมอง การ์ดใบเล็กที่เป็นสีเหลืองหม่น ดูเหมือนการ์ดที่ถูกสอดเข้ามาตามรอยประตู บนการ์
วิลล่าตระกูลฉือ ในยามค่ำคืน หลี่หลันนั่งรอฉือไห่ผิงอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น โดยสวมชุดนอนผ้าไหมเนื้อดี ในวัยสาว หลี่หลันเคยเป็นสาวงามแห่งเจียงหนานที่ทั้งอ่อนหวานและงดงาม ฉือเจี้ยนกั๋วรักเธอมากจนเอาใจทุกอย่าง ไม่ให้เธอต้องทำงานบ้านเลยแม้แต่น้อย ต่อมาเธอแต่งงานใหม่กับฉือไห่ผิง ซึ่งได้สืบทอดกิจการและทรัพย์สินของฉือเจี้ยนกั๋ว และทำให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น ส่งผลให้หลี่หลันกลายเป็นคุณนายผู้สูงศักดิ์ เธอให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ในตอนนั้น ประตูวิลล่าถูกเปิดโดยสาวใช้ ฉือไห่ผิงกลับมาถึงบ้าน หลี่หลันรีบยิ้มด้วยความดีใจ เดินเข้าไปต้อนรับและถอดเสื้อสูทชั้นนอกของเขาออก “คุณคะ ทำไมวันนี้กลับดึกจัง?” ต่างจากฉือเจี้ยนกั๋วที่ซื่อสัตย์และเงียบขรึม ฉือไห่ผิงในวัยหนุ่มมีความเจ้าชู้และหน้าตาหล่อเหลา เมื่อเขากลายเป็นผู้บริหารบริษัทในภายหลัง ความน่าเกรงขามและสง่าราศีที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้หลี่หลันหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น ฉือไห่ผิงพูดขึ้น “คืนนี้ผมมีงานเลี้ยงน่ะ” หลี่หลันได้กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อสูทของฉือไห่ผิง กลิ่นนี้คุ้นเคยมาก เพราะเป็นของเลขาสา
ฮั่วซือหานยื่นมือออกมารับร่างของเธอไว้ เขาก้มหน้ามองเธอด้วยดวงตาหล่อเหลาทว่าราบเรียบ ก่อนจะเม้มปากและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ฉือหว่าน เธอกลับมาทำไม?” ฉือหว่านเองก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับบ้าน วันนี้เขาสวมสูทสีดำที่เข้ารูปพอดีตัว พึ่งกลับมาจากข้างนอก เนื้อผ้าที่ดูหรูหราและมีคุณภาพยังคงมีไอเย็นจากด้านนอกติดอยู่ ร่างกายของฉือหว่านร้อนผ่าว เธอขยับเข้าไปซบอกของเขาโดยสัญชาตญาณ หวังให้ความเย็นและกลิ่นอายสุขุมของเขาดับไฟปรารถนาในร่างกายเธอ ดวงตาของฉือหว่านเป็นประกายระยิบระยับขณะมองเขา “ฮั่วซือหาน ช่วย…” คำพูดยังไม่ทันหลุดจากปาก ฮั่วซือหานก็ผลักเธอออกไปก่อน เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา “เธอเป็นอะไร?” ฉือหว่านชะงักไปเล็กน้อยเมื่อถูกผลักออกมา เมื่อครู่นี้เธอกลับคิดจะขอให้ฮั่วซือหานช่วยเธอ เขาจะช่วยเธอได้ยังไงกัน? “ฉันโดนวางยา” วางยา? ฮั่วซือหานขมวดคิ้วเรียวคมเข้าหากัน ผู้หญิงที่ทำให้เขาโกรธอยู่เรื่อยช่างหาเรื่องจริงๆ! “เธอรออยู่ตรงนี้” ฮั่วซือหานเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ด้วยรูปร่างสูงเพรียว เขาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงและกดโทรออก เสียงเรียกเข้าจากอีกฝั่งดังขึ้น ฮ
เมื่อมองชื่อของ 'ฉือเจียว' ฮั่วซือหานรู้สึกเหมือนสติกลับคืนมาตอนนี้เขารู้สึกสับสน เสื้อผ้าของเขาเปียกอยู่ครึ่งตัว ร่างกายเต็มไปด้วยรอยจูบจากผู้หญิง หายใจก็ยังไม่ทันตั้งตัว เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะ...มีอารมณ์กับเธอเขาเกิดความรู้สึกกับฉือหว่าน!เขาไม่ได้ชอบฉือหว่าน แต่เขาโทษตัวเองว่า เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชาย และไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของหญิงสาวที่เย้ายวนได้ฮั่วซือหานกดรับสายโทรศัพท์ เสียงของเขาเมื่อพูดถึงฉือเจียวเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ยิ่งรู้สึกผิดก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู น้ำเสียงจึงอ่อนโยนกว่าปกติเล็กน้อย "ฉือเจียว"จากปลายสายของฉือเจียว เสียงเพลงแนวเฮฟวีเมทัลดังแว่วมาทำให้เธอพูดเสียงหวาน "ซือหาน ตอนนี้ฉันอยู่ที่บาร์นะ"ฮั่วซือหานตอบ "ห้ามดื่มเหล้า ให้ผู้ช่วยสั่งนมให้เธอแทน"ฉือเจียว "รู้แล้วน่า ผู้ช่วยฉันก็ฟังคุณทุกอย่าง ซือหาน คุณมาสนุกด้วยกันสิ ฉันรอคุณอยู่"ฮั่วซือหานหันตัวกลับ ตั้งใจจะออกไปแต่ในตอนนั้น มือเล็กๆ มือหนึ่งยื่นเข้ามาจับที่ปลายแขนเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่นฮั่วซือหานหันมอง ฉือหว่านเปียกโชกทั้งตัว สายเดี่ยวที่เธอใส่เปียกชุ่มจนแนบไปกับร่างกายเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่งด
ฉือหว่านรู้สึกหูอื้อเขาถึงกับพูดว่าจะช่วยเธอหาผู้ชายหนึ่งคน หรือสองคนก็ได้อย่างนั้นเหรอ?เขาได้เลือกไปแล้วเขาเลือกฉือเจียวโดยไม่ลังเลราวกับมีคมดาบปักลึกเข้าไปในหัวใจของฉือหว่าน ดาบเล่มนั้นยังคงบิดแทงจนเลือดเนื้อของเธอแตกกระจายริมฝีปากของฉือหว่านสั่นระริก เธอเอ่ยเสียงเบาและยากลำบาก "ฮั่วซือหาน ฉันยัง...เป็นภรรยาของคุณอยู่..."ฮั่วซือหานในตอนนี้สวมชุดเสื้อเชิ้ตสีดำสะอาดและกางเกงสแล็กเรียบเนี้ยบ เขาได้ปัดเป่าความยุ่งเหยิงที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหมดสิ้น เขากลับมาเป็นชายผู้เยือกเย็นและสง่างามเช่นเดิมเขาหยิบบางสิ่งออกมาแล้วยื่นให้ฉือหว่าน "นี่คือสิ่งที่ชดเชยให้คุณ"ฉือหว่านก้มมองลงไป มันคือเช็คจำนวนมหาศาลที่มีศูนย์แปดตัวเสียงของฮั่วซือหานเย็นชาและเรียบนิ่งดังขึ้นจากเหนือศีรษะเธอ "ฉือหว่าน นี่คือค่าชดเชยในการหย่าของเรา เราหย่ากันเถอะ"เขาวางเช็คลงบนอ่างล้างหน้าก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปทันทีเขากำลังไปหาฉือเจียวเหมือนกับแม่ในอดีตดวงตาของฉือหว่านที่ขาวกระจ่างแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นจนแวววาว เธอถูกทอดทิ้งอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นแม่ หรือฮั่วซือหาน เธอพยายามยึดพวกเขาไว้สุดชีวิต แต่ทั้งสองกลับ
“เปล่านะ!” ฉือหว่านปฏิเสธทันที “เมื่อคืนฉันไม่ได้อยู่กับประธานฮั่ว!” ฮั่วซือหานได้ยินคำปฏิเสธของเธอแล้ว แค่นหัวเราะในใจ เธอกลัวว่าลู่หนานเฉิงจะรู้ว่าเมื่อคืนพวกเขาอยู่ด้วยกันมากขนาดนั้นเลย โกหกผู้ชายเก่งจริงๆ! เจ้าแม่จอมโกหก! ลู่หนานเฉิงหันไปมองฮั่วซือหาน “ซือหาน ทำไมไม่พูดอะไรเลย?” ฮั่วซือหานสีหน้าเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก "เธอพูดไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?" ก็เอาตามที่เธอพูดเถอะฉือหว่านรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ประธานฮั่ว คุณชายลู่ พวกคุณคุยกันเถอะ ฉันขอตัวก่อน” ฉือหว่านเดินออกไป ลู่หนานเฉิงเดินเข้ามาใกล้ฮั่วซือหาน ขมวดคิ้วไม่พอใจ “ซือหาน นายต้องรู้จักดูสถานการณ์หน่อยสิ” ฮั่วซือหานหรี่ตาลงมองลูหนานเฉิง“ต่อไปถ้าฉันอยู่กับฉือหว่าน นายต้องหาเรื่องออกไป ให้ฉันได้มีโอกาสอยู่กับเธอแค่สองคน เข้าใจไหม?” ฮั่วซือหาน “…” นี่มันออฟฟิศของเขา แล้วเขากลายเป็นส่วนเกินไปแล้วหรือไง!? ฮั่วซือหานน้ำเสียงไม่ดี “งั้นพวกนายออกไปกันเลยสิ” “ไม่เอาน่าซือหาน ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาย เพื่อนกำลังจีบผู้หญิง นายก็ควรช่วยไม่ใช่เหรอ? เมื่อก่อนนายยังบอกเลยว่าสนับสนุนให้ฉันจีบฉือหว่าน”
ฮั่วซือหานขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เขาเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร มองไปที่เลขาจ้าว “มันหนีไปที่ไหน?” "หวังกังหนีไปที่บ้านตระกูลฉือครับ! นอกจากนี้ กู้เป่ยเฉินยังเชิญสื่อมวลชน 36 สำนักของไห่เฉิง เพื่อจัดงานแถลงข่าว ในการแถลงข่าวนี้ พวกเขาจะกล่าวหาว่าคุณนายฮั่วทำร้ายและทอดทิ้งพ่อบุญธรรมของตัวเอง!" ฮั่วซือหานเม้มริมฝีปากแน่น กู้เป่ยเฉินคิดจะทำอะไร!? "พวกนายทำงานกันยังไง? หวังกังถูกทำให้หมดสภาพไปแล้ว ทำไมถึงยังปล่อยให้เขาหลุดรอดออกมาได้!?" เมื่อเห็นประธานของตัวเองหัวเสียขึ้นมา เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากของเลขาจ้าวทันที “ท่านประธานครับ เรื่องนี้…” "ฉันเป็นคนสั่งให้เลขาจ้าวปล่อยหวังกังเองค่ะ" เสียงหวานใสของฉือหว่านดังขึ้นมาแทรก ฮั่วซือหานหันไปมองฉือหว่านทันที "เธอ?" ฉือหว่านพยักหน้า "ใช่ ฉันเป็นคนจงใจให้เลขาจ้าวปล่อยเขาไปเอง" ฮั่วซือหานสายตาลึกซึ้งขึ้น “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? พวกเขากำลังจะจัดงานแถลงข่าว คนชั่วแบบหวังกังคิดจะตามรังควานเธอไปตลอดชีวิต ฉันจะส่งคนไปจับมันที่บ้านตระกูลฉือเองและจะทำให้สื่อมวลชนยกเลิกการแถลงข่าว ทุกอย่างจะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องที่เธอไม่อยากให้ใครรู้
"คุณนายฉือ! คุณต้องช่วยผมนะ! ประธานฮั่วขังผมไว้ ผมแอบหนีออกมา ถ้าประธานฮั่วจับผมได้อีก ผมตายแน่!" หวังกังตัวสั่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวต่อฮั่วซือหานยังคงฝังลึกในใจ เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลัน แน่นอนว่าหลี่หลันต้องช่วยหวังกัง หวังกังคือไพ่สำคัญในมือเธอ เธอไม่มีทางปล่อยให้ไพ่นี้กลายเป็นไพ่ตายเด็ดขาด “แม่คะ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี?” ฉือเจียวถาม ฉือไห่ผิงเริ่มไม่พอใจ หลี่หลันอุตส่าห์ทำเรื่องให้เขาพอใจได้สักครั้ง สุดท้ายกลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาอีก เขาขมวดคิ้ว “หลันหลัน เธอคิดจะทำยังไง?” หลี่หลันมองสามีของเธอ "ที่รัก อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เรื่องนี้ยังไม่จบ" ฉือเจียวดวงตาเป็นประกาย “แม่คะ! หรือแม่คิดแผนอะไรดีๆ ออกแล้ว?” หลี่หลันยิ้ม "เจียวเจียว ตอนนี้ลูกโทรหาคุณชายกู้เถอะ คุณชายกู้ชอบลูกมากไม่ใช่เหรอ? เขาเชื่อฟังลูกทุกอย่าง ตอนนี้เป็นเวลาที่เราต้องใช้เขาแล้ว" กู้เป่ยเฉินรักฉือเจียวจริงๆ เขาเคารพและมองฉือเจียวเป็นพี่สะใภ้ของตัวเองเสมอ ฉือเจียวพยักหน้า "ได้เลย หนูจะโทรหากู้เป่ยเฉินเดี๋ยวนี้!" …ครึ่งชั่วโมงต่อมา กู้เป่ยเฉินมาถึงบ้านตระกูลฉือ “พี่สะใภ้เจียวเจี
ฉือหว่านดวงตากลมใสเปล่งประกายในผ้าห่ม จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา ฮั่วซือหานเอ่ยถามเสียงแหบต่ำ “หัวเราะอะไร?” ฉือหว่านมองเขา “ฉันควรจะตอบว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยดีล่ะ?” ความเย้ายวนที่แฝงไปด้วยการหยอกล้ออย่างพอดี ทำให้หัวใจสั่นไหว ฮั่วซือหานยิ้มตาม ก่อนจะโน้มลงจูบริมฝีปากแดงของเธออีกครั้ง …เช้าวันรุ่งขึ้น บ้านตระกูลฉือ ภายในห้องนอน หลี่หลันเอนกายพึงพอใจอยู่ในอ้อมแขนของฉือไห่ผิง เธอคล้องแขนรอบคอเขา แล้วเอ่ยเสียงออดอ้อน “เมื่อกี้คุณทำฉันเจ็บเลยนะ” ฉือไห่ผิงใช้ปลายนิ้วบีบคางเธอ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “คราวนี้อิ่มแล้วใช่ไหมล่ะ?” “คนบ้า~” เมื่อคืน ฉือเจียวโทรตามฉือไห่ผิง เขารีบกลับบ้านทันที มอบความสุขให้หลี่หลันจนเธออิ่มเอมเต็มที่ ฉือไห่ผิงโอบกอดหลี่หลัน “หวังกังพาฉือหว่านไปจริงๆ เหรอ?” “ใช่สิคะ” หลี่หลันยิ้มพึงใจ “ก้างขวางคออย่างฉือหว่านหายไปแล้ว ต่อไปนี้เจียวเจียวจะได้เป็นคุณนายฮั่วซะที สามีขา คุณกำลังจะเป็นพ่อตาของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งไห่เฉิงแล้วนะ~” ฉือไห่ผิงหัวเราะเสียงดัง มีความสุขจนสุดขีด “หลันหลันที่รัก คราวนี้คุณทำได้ดีมาก!” หลี่หลันรู้สึกพอใจ ทั้งคื
เธอจูบเขา ฮั่วซือหานดวงตาแดงก่ำ รีบผลักเธอออกทันที "ฉือหว่าน!" ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเธอมองเขา ดวงตากลมใส บริสุทธิ์ แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์อ่อนหวานที่ไม่เจตนา เธอเอ่ยเสียงเบา "สายของฉือเจียว คุณจะไม่รับเหรอ?" ฮั่วซือหาน ก้มลงมาจูบริมฝีปากเธออย่างรุนแรง เสียงโทรศัพท์ยังคงสั่นไม่หยุด ฉือเจียวยังโทรมาเรื่อยๆ แต่ฉือหว่านกลับรู้สึกว่า นี่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการคบชู้ ทั้งที่เธอกับฮั่วซือหานเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่พวกเขากลับเหมือนแอบนอกใจฉือเจียว ฮั่วซือหานจูบเธออย่างรุนแรง ราวกับต้องการลงโทษเธอ ริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธอถูกขบเม้มอย่างหนักหน่วง แล้วเขาก็รุกล้ำเข้าไปในปากเธอ… กวาดต้อนทุกอย่าง รุนแรงเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ ปีศาจคนนี้… เธอชอบยั่วยวนเขานัก! หวังกังพูดถูกอยู่ข้อหนึ่ง เธอชอบยั่วยวนผู้ชายจริงๆ แม้ตอนเด็ก… เธอก็ยังถูกเศษสวะอย่างหวังกังจ้องตาเป็นมัน ในขณะที่เขายังจูบเธออยู่นั้น มือเล็กนุ่มของเธอค่อยๆ เลื่อนลงมา แทรกเข้าไปใต้ปกเสื้อเชิ้ตของเขา ฮั่วซือหาน หายใจสะดุดไปชั่วขณะ เขาผละออกจากเธอทันที จ้องเธอด้วยสายตาคมกริบ "ฉือหว่าน เธอค
เธอเรียกเขาอยู่เรื่อยๆ เสียงหวานไพเราะของเธอ ดึงดูดจนชายหนุ่มข้างห้องถึงกับหันกลับไปมองอีกครั้ง เสียงที่ทำให้คนต้องเหลียวหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮั่วซือหานทำได้เพียง กลับเข้าไปในห้องด้วยสีหน้ามืดดำ ฉือหว่านขึ้นเตียงแล้ว ฮั่วซือหานมองเธออย่างไม่พอใจ "เธอเรียกอะไรนักหนา เรียกหาผีหรือไง?" ฉือหว่าน “……” เธอหวังดีแท้ๆ! "ฉันไปอาบน้ำเย็นก่อน" ฮั่วซือหานเดินเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวราดน้ำเย็นใส่ตัวเอง ไม่กี่นาทีต่อมา เขาออกมาแล้วขึ้นเตียง ทั้งสองคนนอนเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร เสียงจากห้องข้างๆ ยังคงเล็ดลอดมา เสียงหัวเราะหยอกล้อกันของชายหญิง แม้จะพยายามกดเสียงให้เบาลงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังได้ยินชัดเจน ฮั่วซือหานคิดว่า เขาควรจะไปอาบน้ำเย็นอีกครั้ง เขาตัดสินใจจะเปิดผ้าห่มลุกออกไป แต่ในจังหวะนั้นเอง ฉือหว่านขยับตัว เดิมที เธอนอนอยู่ริมเตียง ห่างจากเขามาก แต่ตอนนี้ เธอกลับขยับเข้ามาใกล้ ร่างกายอ่อนนุ่มของเธอแนบเข้ามาหาเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ ปะทะเข้ากับจมูกของเขา ฮั่วซือหานชะงักไปครู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ทั้งคู่ อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ เธอเข้ามาแนบชิดแบบนี้ มันชัดเจนมาก ว่าเธอหมายถึงอะไร ฮั่วซ
แต่เสียงจากห้องข้างๆ ยังไม่หยุด แถมยังดังขึ้นกว่าเดิม แบบนี้จะนอนหลับได้ยังไง? ฮั่วซือหานยกมือขึ้น กระดูกข้อนิ้วที่คมชัดของเขา เคาะผนังสองครั้ง "ตึง ตึง" เสียงจากห้องข้างๆ เงียบลงทันที ฮั่วซือหานหลับตาลง แต่เขากลับ ไม่มีวี่แววจะง่วงเลย ร่างกายของชายหนุ่มวัยหนุ่มแน่น ร้อนระอุขึ้นมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ฉือหว่านนอนอยู่ข้างๆ ตัวของเธอนุ่มละมุน กลิ่นหอมของเธออยู่ใกล้แค่เอื้อม ในหัวของเขาพลันปรากฏภาพของคืนนั้น ในห้องนอนหลักของวิลล่าซีย่วน เขากดเธอไว้กับผนัง จับข้อมือเธอแน่น…แต่ในตอนนั้นเอง เสียงจากห้องข้างๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฮั่วซือหานลืมตาขึ้น อย่างหงุดหงิด เขาลุกขึ้นทันที กระชากผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง แต่ในจังหวะนั้นเอง มือเล็กๆ ข้างหนึ่งยื่นมาจับชายเสื้อของเขาไว้ ฮั่วซือหานหันกลับไปมอง ฉือหว่านโผล่ศีรษะออกมาจากผ้าห่ม เพราะเมื่อครู่เธอซุกอยู่ข้างใน ผิวหน้าขาวเนียนของเธอจึง ขึ้นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าไร้เครื่องสำอางของเธอ ชวนให้คนจ้องมอง ดวงตากลมใสของเธอเปล่งประกายราวกับน้ำ ขาวสะอาดและดูบริสุทธิ์เสียจนเขาอยากจะกัดเธอสักคำ ฉือหว่านดึงเสื้อของเขาไว้ ถามด้วยความไม่สบ
ฮั่วซือหานออกมาตั้งนานแล้ว และเมื่อครู่ เขาได้ยินทุกอย่างจากข้อความเสียงนั้นหมดแล้ว ฉือหว่าน “…” สมองเธอขาวโพลนไปหมด ทันทีที่ตั้งสติได้ เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่นะ ประธานฮั่ว ฟังฉันอธิบายก่อน…” เธอลุกขึ้นเร็วเกินไป โทรศัพท์ในมือร่วงลงไปบนเตียง เสียงข้อความเสียงของซูเสี่ยวฝูยังคงเล่นต่อไป "ประธานฮั่วหุ่นดีขนาดนั้น มีซิกแพ็คแน่นอนอยู่แล้ว! แถมฉันเห็นนิ้วของประธานฮั่วเรียวยาวมาก ได้ยินมาว่าผู้ชายที่มีนิ้วยาว เวลาบนเตียงจะสุดยอดมาก! หวานหว่าน สู้เขา! คืนนี้ต้องนอนกับประธานฮั่วให้ได้!" ฉือหว่านที่เมื่อครู่ยังพยายามจะอธิบาย “……” ให้เธอเอาหัวโขกกำแพงไปเถอะ! ช่วยด้วย! ตอนแรกเธอกับซูเสี่ยวฝูก็คุยกันดีๆ อยู่หรอก แต่ใครจะไปคิดว่าเสี่ยวฝูจะคุยไปเรื่อยๆ แล้วหลุดเข้าโหมด 18+ แบบนี้!? บรรยากาศในห้อง อึดอัดจนแทบจะมีรอยร้าว ฉือหว่านมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างประตูห้องน้ำ แล้วแสร้งหัวเราะสองเสียง “คุณก็ได้ยินแล้วใช่ไหม คำพูดพวกนั้น เสี่ยวฝูเป็นคนพูดนะ ไม่ใช่ฉัน!” ตอนนี้ต้องโยนเพื่อนรักเป็นแพะไปก่อน! ฮั่วซือหานเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนตัวของเขายังมีไอหมอกเย็นของน้ำที่
ฮั่วซือหานพยักหน้า จากนั้นพาฉือหว่านเดินไปยังห้องพัก ฉือหว่านรู้สึกสงสัย “เมื่อกี้เจ้าของบ้านพักบอกว่าของที่ต้องเสียเงินคืออะไรเหรอ?” ฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่ง ดวงตาใสซื่อของเธอเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ดูเหมือนจะสงสัยจริงๆ ฮั่วซือหานหลบสายตา ไม่ตอบ เมื่อเข้ามาในห้อง 503 ภายในสะอาดสะอ้าน แต่… มีเพียงเตียงเดียว ฉือหว่านก้มหน้าลงเล็กน้อย มองแพขนตายาวของตัวเอง คืนนี้เธอกับเขาจะนอนกันอย่างไร? “ฉือหว่าน” เสียงทุ้มของฮั่วซือหานดังขึ้นจากด้านหลัง นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเรียกชื่อเธอ ฉือหว่านหันไปมอง “มีอะไรเหรอ?” แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ “เมื่อกี้ในรถ คุณอยากถามฉันอะไรเหรอ?” “เธอ…” ฮั่วซือหานกำลังจะถาม แต่ทันใดนั้น "ติ๊ง" เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของเขา ฮั่วซือหานกดเปิดดู เป็นข้อความจากฉือเจียว ฉือเจียวส่งรูปมาให้ เป็นภาพของเธอในวัยเด็ก ฮั่วซือหานกดขยายภาพขึ้นมาดู ฉือเจียวตอนเด็กมีลักษณะคล้ายฉือหว่านอยู่เล็กน้อย ฮั่วซือหานชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความที่ฉือเจียวแนบมา “วันนี้ฉันไปรื้ออัลบั้มรูปเก่าๆ เจอรูปนี้~