“พรุ่งนี้ เดือนมหาวิทยาลัยจ้าวตั้งใจจะตบหน้าเย่ฮวนเอ่อร์ต่อหน้าทุกคนแน่ๆ”ศึกระหว่างเดือนและดาวมหาวิทยาลัย C หลายคนกำลังเชียร์อยู่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฉือหว่านก็ยกมุมปากยิ้มเย็น ฮั่วเสวียนช่วงนี้เอาแต่หาเรื่อง และแน่นอนว่าฉือเจียวต้องมีส่วนช่วยอยู่เบื้องหลัง ทุกอย่างมุ่งเป้ามาที่เย่ฮวนเอ่อร์พรุ่งนี้พวกนั้นยังคิดจะตบหน้าเย่ฮวนเอ่อร์อีกเหรอ?แต่ใครจะเป็นฝ่ายถูกตบหน้าก็ยังไม่แน่หรอกฉือหว่านกลับถึงหอพักหญิง เย่ฮวนเอ่อร์กำลังถือเสื้อแจ็คเก็ตสีดำของเฉินจิ้น เตรียมจะออกไป “ฮวนเอ่อร์ เดี๋ยวก่อน”ฉือหว่านเรียกเย่ฮวนเอ่อร์ไว้เย่ฮวนเอ่อร์ตั้งใจจะเอาเสื้อของเฉินจิ้นไปซักแห้ง จึงหยุด“หวานหว่าน มีอะไรเหรอ?”ฉือหว่านหยิบลูกอมสีสันสดใสลูกหนึ่งออกมา “ฮวนเอ่อร์ กินอันนี้สิ”เย่ฮวนเอ่อร์ชอบของหวานมาก เธอยิ้มดีใจรับลูกอมมาแล้วใส่เข้าปาก “ขอบใจนะ...อ๊า ขมมากเลย!”เย่ฮวนเอ่อร์ทำท่าจะคายลูกอมออกมาทันทีแต่ฉือหว่านรีบเอามือปิดปากเธอไว้ “อย่าคาย! ยาขมแต่ดี กินไปเถอะ”เย่ฮวนเอ่อร์เลยต้องกลืนลูกอมขมๆ นั่นลงไป “หวานหว่าน นี่มันอะไรกัน ขมสุดๆ เลยนะ?”ฉือหว่านมองใบหน้าหวานซ่อนปานของเย่ฮวนเอ่อ
เย่ฮวนเอ่อร์ยกมือขึ้น เคาะประตู "ก๊อกๆ"ไม่นานประตูก็เปิดออก แต่คนที่เปิดไม่ใช่เฉินจิ้น กลับเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเด็กหญิงคนนั้นมองเย่ฮวนเอ่อร์ด้วยความสงสัย “พี่สาว มาหาใครเหรอคะ?”เย่ฮวนเอ่อร์เดาว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นน้องสาวของเฉินจิ้น เฉินเหมียวเหมี่ยว เพราะเธอสวมชุดนักเรียนมัธยมต้นเฉินเหมียวเหมี่ยวดูผอมบางเล็กน้อย แต่เธอมัดหางม้าสูง สวมชุดเรียบร้อย ดวงตาเป็นประกาย สดใสร่าเริง ดูมีพลัง และมีเค้าหน้าเหมือนเฉินจิ้นอยู่ไม่น้อยเย่ฮวนเอ่อร์ถูกใจเฉินเหมียวเหมี่ยวตั้งแต่แรกเห็น เธอยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อเย่ฮวนเอ่อร์ เป็นเพื่อนของพี่ชายเธอเฉินจิ้น พี่มาหาเขาน่ะ เขาอยู่บ้านไหม?”เฉินเหมียวเหมี่ยวส่ายหน้า “พี่สาว พี่ชายหนูยังไม่กลับมาเลยค่ะ”ดึกป่านนี้แล้ว เขายังไม่กลับมาอีกเหรอตอนนั้นแม่ของเฉินจิ้นก็เดินออกมา “เป็นเพื่อนของอาจิ้นเหรอ เข้ามานั่งก่อนสิ”เย่ฮวนเอ่อร์หันไปมองแม่ของเฉินจิ้น สายตาเธอมืดสนิทจริงๆ ผมหงอกไปครึ่งหัวแล้ว แต่ใบหน้ายังดูใจดี น้ำเสียงอ่อนโยน เดาว่าสมัยสาวๆ ต้องเคยเป็นหญิงงามแห่งเจียงหนานแน่ๆเย่ฮวนเอ่อร์เดินเข้าไป “คุณป้า สวัสดีค่ะ”แม่ของเฉินจิ้น
เฉินจิ้นไม่เหมือนกับผู้ชายคนไหนที่เย่ฮวนเอ่อร์เคยเจอเลย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ พี่ชาย หรือจ้าวอี้…พวกเขาไม่เคยเข้าครัว เพราะที่บ้านมีคนใช้มากมาย แต่เฉินจิ้นทำอาหารได้แถมดูเหมือนจะทำอาหารเก่งด้วย เพราะไม่นานนัก กลิ่นหอมของซี่โครงเปรี้ยวหวานก็อบอวลทั่วบ้านเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าบังเอิญดีจัง เธอกับเฉินเหมียวเหมี่ยวชอบเมนูเดียวกัน ซี่โครงเปรี้ยวหวานนี่คืออาหารจานโปรดที่สุดของเย่ฮวนเอ่อร์เลยไม่นานเฉินจิ้นก็ยกจานซี่โครงเปรี้ยวหวานมาวางบนโต๊ะ กลิ่นหอม สีสวยดูน่ากินมาก เขายังผัดบวบใสๆ มาจานหนึ่งด้วย เย่ฮวนเอ่อร์ไม่หิวตอนแรก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกท้องร้องขึ้นมาเฉยจู่ๆ ก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากข้างบนหัว “ยังไม่กลับอีกเหรอ?”หืม?เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ดวงตากลมโตที่ดูไร้เดียงสาเงยขึ้นสบตาเข้ากับสายตาเย็นชาของเฉินจิ้นไม่รู้ว่าเขาเดินมาอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไร ตอนนี้เขากำลังมองเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึกเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกอึดอัด รีบพูด “คุณป้า เหมียวเหมี่ยว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ พ่อโทรมาตาม”แม่ของเฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวเลยไม่กล้ารั้งเธอไว้ “งั้นไว้มาเล่นอีกนะลูก”เย่ฮวนเอ่อร์เด
เย่ฮวนเอ่อร์ก็ได้ยินคำด่าของคนเมาคนนั้น เธอหันไปมองเฉินจิ้นใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเฉินจิ้นถูกเคลือบด้วยแสงจากไฟริมถนน มองใกล้ๆ แบบนี้ เย่ฮวนเอ่อร์ก็เห็นความเป็นเด็กวัยรุ่นในตัวเขาบ้าง เขาเป็นคนสุขุมเกินวัย แต่จริงๆ แล้วอายุก็ไล่เลี่ยกับเธอ พวกเขาเพิ่งเรียนปีหนึ่งเอง ยังเด็กอยู่มากเขาไม่มีสีหน้าใดๆ เงียบขรึมไม่พูดจาเย่ฮวนเอ่อร์เอ่ยขึ้น “คุณ…”ยังไม่ทันพูดจบ ไหล่ของเธอก็รู้สึกเบาขึ้น เฉินจิ้นปล่อยมือจากเธอแล้ว เขาพูดเสียงเรียบ “เธอลืมของไว้”เขาหยิบถุงของขวัญที่เธอเตรียมไว้มาให้“ไม่ต้อง นั่นฉันตั้งใจซื้อให้คุณป้าไว้บำรุงร่างกาย ขอบคุณที่คุณช่วยฉันไว้”เฉินจิ้นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหยิบถุงของแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเย่ฮวนเอ่อร์รีบตามเขาไปเธอสังเกตว่าเขาพาเธอเดินออกจากตรอกที่มืดและชื้นแฉะ มาถึงถนนใหญ่ด้านนอก เขายังโบกแท็กซี่ เปิดประตูเบาะหลัง วางของลงไป แล้วหันมามองเธอ “กลับบ้านเถอะ อย่ามาอีกเลย คำขอบคุณของเธอ ฉันรับไว้แล้ว”หัวใจของเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที เธอเริ่มมองเห็นแล้วว่าใต้ความเย็นชาและเงียบขรึมนั้น เขามีหัวใจที่อบอุ่นร้อนแรงมากเขาพูดว่าเธอเป็นแฟน
ถ้าเขามีแฟน เขาจะอ่อนโยนกับแฟนแบบที่อ่อนโยนกับน้องสาวไหมนะ?โอ๊ย… เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!เย่ฮวนเอ่อร์รู้ตัวว่าเธอกำลังคิดถึงเฉินจิ้นอยู่ตลอด ใบหน้าของเธอก็แดงแปร๊ดขึ้นมาทันทีนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?…………คืนนั้นเย่ฮวนเอ่อร์นอนไม่ค่อยหลับ เช้าวันถัดมาเธอไปมหาวิทยาลัย C สายเมื่อมาถึงสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย C คนก็ล้อมเต็มไปหมด ทั้งดอกไม้ ลูกโป่งประดับประดาอยู่ทุกที่จ้าวอี้กำลังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้าฮั่วเสวียน พร้อมช่อดอกกุหลาบขนาดใหญ่ในมือ “เสวียนเสวียน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ ฉันก็หลงรักเธอหมดหัวใจ เธอจะเป็นแฟนฉันไหม?”ฮั่วเสวียนใส่เดรสสวย ยิ้มหวานมองจ้าวอี้อย่างเปี่ยมสุข แล้วพยักหน้าแรงๆ “ฉันตกลง!”จ้าวอี้ลุกขึ้นมา จับใบหน้าสวยใสของฮั่วเสวียนแล้วจูบหนึ่งทีฮั่วเสวียนยิ้มอย่างเขินอาย ทันใดนั้นสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นเย่ฮวนเอ่อร์ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนทันที “ฮวนเอ่อร์…”จ้าวอี้ก็หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์เช่นกัน เขารีบดึงฮั่วเสวียนไปอยู่ข้างหลัง “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอเห็นแล้วใช่ไหม เสวียนเสวียนตกลงเป็นแฟนฉันแล้ว พวกเราเป็นแฟนกันแล้ว!”เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มเย็น “ดีสิ แบบนี้ฮั่ว
ฉือเจียวเงยหน้าขึ้น เธอเห็นฉือหว่าน ฉือหว่านมาแล้ว!รอยยิ้มของฉือเจียวยิ่งกว้างขึ้น นี่แหละคือสิ่งที่เธอรอ ฉือหว่านมาได้ถูกจังหวะพอดี!ฉือหว่านเดินเข้ามาหาเย่ฮวนเอ่อร์ เย่ฮวนเอ่อร์เอ่ยอย่างโกรธจัด “หวานหว่าน คนพวกนี้มันไร้ยางอายจริงๆ บิดเบือนความจริงหน้าตาเฉย!”“ฮวนเอ่อร์ ฉันรู้หมดแล้ว” ฉือหว่านส่งสายตา ‘ใจเย็นๆ’ ไปให้เย่ฮวนเอ่อร์ฉือเจียวหัวเราะเยาะ “ฉือหว่าน มาได้จังหวะพอดีเลย เพื่อนรักของเธอเย่ฮวนเอ่อร์บอกว่าคุณชายจ้าวเคยชมว่าเธอสวย เธอเชื่อไหมล่ะ? คนเราควรรู้จักตัวเอง ฉันถามเธอหน่อยสิ เธอคิดว่าเย่ฮวนเอ่อร์เป็นยัยขี้เหร่ไหม?”เธอจงใจจะให้ฉือหว่านจนมุมฉือหว่านเลิกคิ้วโค้งสวยขึ้นนิดหนึ่ง ดวงตาใสสะอาดมองไปยังฉือเจียว “ฮวนเอ่อร์ไม่ใช่ยัยขี้เหร่แน่นอน ตรงกันข้าม ฮวนเอ่อร์เป็นสาวสวยระดับท็อปเลยต่างหาก”อะไรนะ?ฮ่าฮ่าๆๆทั้งฉือเจียว จ้าวอี้ และฮั่วเสวียนระเบิดเสียงหัวเราะฮั่วเสวียนถึงกับหัวเราะก้มตัว “ฉือหว่าน เธอกล้าพูดว่าเย่ฮวนเอ่อร์เป็นสาวสวยเนี่ยนะ?”ฉือเจียวรู้สึกสะใจสุดๆ “เห็นไหมล่ะ ฉือหว่าน เธอกับเย่ฮวนเอ่อร์มันก็แค่พวกเดียวกันจริงๆ!”จ้าวอี้หันไปมองเย่ฮวนเอ่อร์ แ
เย่ฮวนเอ่อร์หน้าตาสวยมาก เป็นความสวยแบบลูกคุณหนูที่เติบโตมากับการเอาใจใส่จากครอบครัวใหญ่ เมื่อปานนั้นถูกเช็ดออก ที่ใต้หางตาข้างขวาของเธอยังมี “ไฝน้ำตา” เม็ดเล็กๆ ทั้งหน้าตาทั้งบรรยากาศรอบตัว กลายเป็นสาวหวานแสนสวยเจียวเจียวโดยแท้ตายแล้ว!เสียงสูดหายใจเฮือกๆ ดังขึ้นไม่หยุดยัยขี้เหร่พลิกเกม กลายเป็นสาวสวยระดับเทพไปแล้ว คนที่ไม่อยากจะเชื่อที่สุดก็คือฉือเจียวกับฮั่วเสวียน ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง ปานของเย่ฮวนเอ่อร์ หายไปจริงๆ งั้นเหรอ?!เป็นไปไม่ได้!ฉือหว่านถอนมือกลับ “เรียบร้อย”เธอหยิบกระจกบานเล็กออกมายื่นให้เย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ ทำความรู้จักตัวเองใหม่อีกครั้งสิ”เย่ฮวนเอ่อร์รับกระจกมา มองเงาสะท้อนของตัวเอง นี่คือเธอจริงๆ เหรอ?เธอค่อยๆ ยกมือแตะเบาๆ ที่แก้มข้างขวาของตัวเอง หลังจากความตกใจและสับสน… น้ำตาก็คลอเบ้าทันทีจริงๆ แล้วในบางคืนที่เธอนอนไม่หลับ เธอก็เคยถามตัวเองเหมือนกัน เธอไปทำผิดอะไรไว้กันแน่?เย่ฮวนเอ่อร์มองฉือหว่านด้วยน้ำตาคลอ ฉือหว่านยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาเปล่งประกาย “ตอนนี้ฮวนเอ่อร์ของฉันกลายเป็นสาวสวยไปแล้ว!”เย่ฮวนเอ่อร์อยากจะกระโดดเข้าไปกอดฉือหว่านแน่นๆแต่
เย่ฮวนเอ่อร์ที่ถูกคว้าแขนไว้ถึงกับงง “อะไรนะ หมายความว่ายังไง?”จ้าวอี้มองเฉินจิ้นหนึ่งที แล้วหันกลับมามองเย่ฮวนเอ่อร์ “เธอกับเขาเป็นอะไรกันแน่?”เย่ฮวนเอ่อร์ถึงกับหัวเราะออกมา เธอสะบัดมือของจ้าวอี้ออกเต็มแรง “จ้าวอี้ เราเลิกหมั้นกันแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรจะมาถามแบบนี้? อย่าลืมนะว่าตอนนี้แฟนคุณคือฮั่วเสวียนต่างหาก!”ฮั่วเสวียนรีบวิ่งเข้ามาทันที เพราะเมื่อครู่ที่เย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเฉินจิ้นไป จ้าวอี้ก็ตามไปด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวอี้เป็นฝ่ายวิ่งตามเย่ฮวนเอ่อร์เองฮั่วเสวียนถึงกับตกใจเธอมองจ้าวอี้ด้วยสายตาน้อยใจสุดๆแต่จ้าวอี้ไม่แม้แต่จะมองเธอ เขาจ้องเย่ฮวนเอ่อร์อย่างเดือดดาล “เย่ฮวนเอ่อร์ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง! ฉันถามว่าเธอไปสนิทกับเฉินจิ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? หรือว่าเธอแอบนอกใจฉันตั้งแต่ก่อนเลิกกันแล้ว?”นอกใจงั้นเหรอ?เขาเองที่ทั้งเล่นด้วยและแสดงความใกล้ชิดกับฮั่วเสวียน จนทำให้เธอเจ็บช้ำแทบตาย เธอที่ออกไปคนเดียวตอนฝนตก แล้วเกือบถูกคนร้ายฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินจิ้น เธอคงไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้วเย่ฮวนเอ่อร์จึงตอบกลับอย่างเย็นชา “จ้าวอี้ ฉันไม่มีหน้าที่ต้องตอบคำถามคุณ และที่สำคัญ ฉั
ฮั่วซือหานรู้สึกได้ถึงมือเล็กๆ ของฉือหว่านที่เลื่อนไปบนตัวเขา เธอร้อนรุ่มและใจร้อนเกินไป ขณะที่ดึงกระดุมเสื้อเขาจนกระเด็นหลุดไปเม็ดหนึ่งลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เขารีบจับมือเธอไว้เบาๆ “ฉือหว่าน ช้าหน่อย ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าสำรองนะ”ถ้าเสื้อผ้าของเขาขาดขึ้นมา เขาจะไม่มีเปลี่ยนนะแต่ฉือหว่านกลับไม่ฟัง เธอเพียงต้องการความอบอุ่นมากกว่านี้ มือเล็กๆ ถูกดึงออกไปได้ก็รีบซุกหน้าลงตรงซอกคอเขา “ไม่เอา…หนาว…”เสียงของเธอออดอ้อนอ่อนแรง ปนน้ำเสียงเจ็บไข้คล้ายเด็กน้อยกำลังอ้อนขอแน่นอนว่า ฮั่วซือหานรู้ดีว่าต่อให้เธอไม่ป่วย เธอก็ออดอ้อนเก่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองบนเตียงเธอเหมือนปีศาจน้อยตัวหนึ่งแค่หลังหย่ากัน ก็ไม่ได้ลิ้มลองอีกเลยฮั่วซือหานพยายามกลั้นใจ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว มือของเขาลูบไปที่กระดุมเสื้อของเธอ ราวกับตั้งใจจะช่วยเธอระบายความร้อนในกายทุกอย่างเริ่มวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย เขาพลิกตัวทาบลงเหนือเธอ ทั้งสองสลับกันถอดผ้าเสื้อเชิ้ตของเขาถูกดึงออกไปครึ่งตัว กล้ามไหล่และแผ่นหลังแน่นตึงเผยออกชัด ฝ่ามือเย็นเฉียบของฉือหว่านสัมผัสกับร่างกายของเขาร่างของฮั่วซื
ฮั่วซือหานหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “นายพักผ่อนให้ดี เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”คืนนี้ฉือหว่านกับกู้เป่ยเฉินต้องการพักฟื้นก่อน เรื่องการกลับออกจากหมู่บ้านค่อยคิดพรุ่งนี้อีกทีกู้เป่ยเฉินได้พี่รองอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจทันที เขาพยักหน้า “ได้ครับ”ฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านออกมาจากกระท่อม หลิวชุนฮวาที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็รีบเข้ามา “พี่ซือหาน น้องสาวพี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“เธอเป็นไข้สูงครับ น้องชุนฮวา รบกวนช่วยจัดหาห้องพักให้เราได้ไหม?”พอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของฮั่วซือหานเข้าเต็มตา สาวบ้าหน้าตาอย่างหลิวชุนฮวาจะปฏิเสธได้อย่างไร? เธอรีบใช้อำนาจลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน จัดหาห้องพักสะอาดเรียบร้อยให้เขาทันทีฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านไปวางลงบนเตียง ร่างกายเธอเย็นเฉียบ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เส้นผมปอยหน้าม้าเปียกชื้นแนบอยู่กับหน้าผากขาวเนียนจนดูน่าสงสารจับใจเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าผากของเธอเบาๆ“พี่ซือหาน” ขณะนั้นเอง เสียงหลิวชุนฮวาก็ดังขึ้นฮั่วซือหานถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเธออยู่ในห้อง เขาหันไปถามตรงๆ “น้องชุนฮวา มีพี่ชายด้วยใช่ไหม?”หลิวชุนฮวาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่ชายฉันชื่อหลิว
หลิวชุนฮวาหันไปมองเลขาจ้าวกับคนที่ตามมาด้วย “หมู่บ้านเราห้ามคนนอกเข้า พวกเขาเข้าไปไม่ได้ แต่ฉันจะแอบพาคุณเข้าไปได้คนเดียว”เลขาจ้าวรีบเอ่ย “ท่านประธาน เข้าไปคนเดียวมันอันตรายนะครับ”ฮั่วซือหานถามกลับเรียบๆ “อันตรายอะไร?”เลขาจ้าวพูดเบาๆ “ชุนฮวาคนนี้เหมือนจะหลงคุณนะครับ ระวังเธอล็อกตัวคุณไว้เป็นเจ้าบ่าวประจำหมู่บ้านล่ะ”ฮั่วซือหานเหลือบตาเย็นๆ ไปมองเลขาจ้าวแวบหนึ่งเลขาจ้าวรีบหุบปากเงียบแทบทันทีฮั่วซือหานสั่งการ “พวกนายพักอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปเอง”เลขาจ้าวพยักหน้า “รับทราบครับ”ฮั่วซือหานหันไปทางหลิวชุนฮวา “น้องชุนฮวา รบกวนด้วยนะครับ พาผมเข้าไปที”“ไปกันเถอะ”หลิวชุนฮวาพาฮั่วซือหานเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างเดินอยู่ข้างเขา หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนกวางน้อยวิ่งในป่า “คุณชื่ออะไรเหรอ?”“ฉันชื่อฮั่วซือหาน”“งั้นฉันเรียกคุณว่าพี่ซือหานได้ไหมคะ?”“…ถ้าคุณชอบแบบนั้นก็เรียกได้”“คุณทำงานอะไรเหรอ?”“เปิดบริษัทน่ะ”“แล้วทำไมยังไม่แต่งงานล่ะ คุณชอบผู้หญิงแบบไหน?”เมื่อหลิวชุนฮวามองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง ฮั่วซือหานก็ยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ฉันชอบผู้หญิงที่จิตใจดี เชื
ฮั่วซือหานพาเลขาจ้าวและทีมงานเข้ามาในหมู่บ้านผิงซี เขาเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจึงรีบเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ ขอถามหน่อย วันนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านสองคนหรือเปล่า?”ชาวบ้านมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง “พวกคุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”ฮั่วซือหานตอบอย่างสุภาพ “พวกเรามาตามหาคนครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชาวบ้านก็ส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน “ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ทั้งนั้น หมู่บ้านเรารับแต่คนใน อย่ามาวุ่นวาย รีบออกไปซะเถอะ”แล้วชาวบ้านก็เริ่มออกปากไล่ฮั่วซือหานเลขาจ้าวกำลังจะอธิบาย “พวก…”แต่ฮั่วซือหานยกมือห้ามไว้ “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”เขาหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเลขาจ้าวเดินตามอย่างมึนงง “ท่านประธาน ทำไมเราต้องถอยล่ะครับ? ผมรู้สึกว่าคุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ต้องอยู่ในนั้นแน่ๆ!”แววตาเฉียบคมของฮั่วซือหานเหมือนเหยี่ยวล่าเหยื่อ “ไม่ใช่แค่รู้สึก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ในนั้นแน่นอน”“แล้วเราจะออกมาทำไมล่ะครับ?”“เมื่อกี้นายไม่เห็นเหรอ? ชาวบ้านที่นี่ต่อต้านคนนอกอย่างชัดเจน ฉันเห็นมีคนกลับเข้าไปเรียกคนแล้วด้วย ตอนนี้เราคนน้อย อยู่ในพื้นที่ของเขา ถ้าปะทะขึ้นมาจะไม่คุ้
ฉือหว่านสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเขากู้เป่ยเฉินยกแขนขึ้นกอดเธอแน่นขึ้นอีก “ฉือหว่าน อดทนไว้นะ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นแล้ว”…ทางด้านของฮั่วซือหาน หลังจากที่ฉือหว่านหายตัวไป เขาก็สั่งระดมคนออกตามหาโดยทันทีในเวลาไม่นาน เลขาจ้าวก็นำภาพจากกล้องวงจรมาส่งให้เขา “ท่านประธาน พบแล้วครับ คุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ขึ้นเรือยอชต์ลำเดียวกันไป”ฮั่วซือหานมองภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นกู้เป่ยเฉินขึ้นเรือยอชต์ ส่วนฉือหว่านขึ้นไปก่อนแล้วใบหน้าหล่อเหลาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งจนแทบหยดน้ำออกมาได้ “กู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ได้ยังไง?”ไม่มีใครรู้ว่ากู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่เลขาจ้าวพูดต่อ “ท่านประธาน ผมเดาว่าคุณชายกู้น่าจะตามคุณฉือหว่านมา”“แล้วเจอเรือยอชต์ลำนั้นหรือยัง?”“ส่งคนไปตามหาที่ทะเลแล้วครับ แต่เรือยอชต์ลำนั้นระเบิดกลางทะเลแล้วครับ”ฮั่วซือหานลุกพรวดจากเก้าอี้ “อะไรนะ? ระเบิด?”เลขาจ้าวพยักหน้า “ใช่ครับ มีคนวางระเบิดบนเรือยอชต์”ขณะนั้นเอง ฉือเจียวก็เดินเข้ามา “ซือหาน ระเบิดนั่นต้องเป็นฝีมือของเป่ยเฉินแน่ เขาคงอยากฆ่าฉือหว่าน ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉือหว่านมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดเหี้ยมขนาด
กู้เป่ยเฉินเคยคบผู้หญิงมาหลายคน กอดเอวก็แล้ว ทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นก็เคยแต่จู่ๆ พอได้โอบเอวของฉือหว่าน หัวใจเขากลับเต้นแรงอย่างไม่เป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ รีบเขย่าร่างเธอเบาๆ พร้อมเรียก “ฉือหว่าน เธอเป็นอะไรไป?”ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า หน้าผากของเธอร้อนจัด อุณหภูมิร่างกายก็ผิดปกติ เธอกำลังเป็นไข้สูงมันช่างเหมือนคำว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่ผิดเพี้ยนฉือหว่านลืมตาขึ้นช้าๆ เธอพยายามลุกขึ้น “ฉันไม่เป็นไร”“ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก? เธอเป็นไข้สูงเลยนะ เดินยังไม่ไหวแน่ เดี๋ยวฉันอุ้มเธอกลับไป”ฉือหว่านมองไปที่ขาขวาของเขาที่บาดเจ็บ “นายจะอุ้มฉันไหวเหรอ?”กู้เป่ยเฉิน “…”กู้เป่ยเฉินรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเขาเนี่ยนะ จะอุ้มผู้หญิงตัวแค่นี้ไม่ไหว? ดูยังไงเธอก็ไม่ถึง 45 กิโล!เห็นเขาทำหน้าเหวอ ฉือหว่านก็หัวเราะน้อยๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเองกู้เป่ยเฉินเดินตามเธอกลับไปเงียบๆฉือหว่านเอาสมุนไพรมาบด จากนั้นก็ยัดใส่ปากหลิวว่างไป ก่อนจะกินสมุนไพรลดไข้เองเล็กน้อยกู้เป่ยเฉินมองเธอ เธอยังคงทำโน่นทำนี่ไม่หยุด ทั้งที่ร่างกายอ่อนแอแทบยืนไม่ไหว เธอก็ยังฝืนลากสังขาร
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?