ฮั่วเสวียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฉือเจียว พอฉือเจียวได้ยินว่าเย่ฮวนเอ่อร์ไปรอที่โรงหนังทั้งคืน แถมยังกลับมาเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำ ก็หัวเราะลั่นอย่างสะใจ“ขำจะตายอยู่แล้ว เสี่ยวเยาแห่งตระกูลหลินแล้วยังไง ใครใช้ให้ยัยนั่นเกิดมาขี้เหร่ล่ะ เสวียนเสวียน เธอสุดยอดมาก เดือนมหาวิทยาลัยจ้าวโดนเธอปั่นหัวซะอยู่หมัด”ฮั่วเสวียนยกมุมปากยิ้ม “ซ้อเจียวเจียว อย่าเพิ่งรีบ พรุ่งนี้ยังมีละครดีให้ดูอีกนะ”ฉือเจียว “ใครใช้ให้เย่ฮวนเอ่อร์ไปคบกับฉือหว่าน เป็นศัตรูกับพวกเรา นี่แหละคือบทเรียน เสวียนเสวียน ฉันรอฟังข่าวดีจากเธอนะ”“ไม่ต้องห่วง ซ้อเจียวเจียว”…………ฉือหว่านกลับมาที่หอพักหญิงค่อนข้างดึก ข้างในมืดสนิท ไม่ได้เปิดไฟหรือว่าฮวนเอ่อร์ยังไม่กลับจากเดต?ดูท่าแล้วฮวนเอ่อร์น่าจะมีความสุขมากฉือหว่านเอื้อมมือไปเปิดไฟ แล้วเธอก็เห็นร่างเล็กๆ ม้วนตัวอยู่บนเตียง เย่ฮวนเอ่อร์กลับมาแล้ว และนอนหลับไปแล้วฉือหว่านรู้สึกแปลกใจ “ฮวนเอ่อร์ เธอกลับมาจากเดตแล้วเหรอ วันนี้ไปเที่ยวกับจ้าวอี้สนุกไหม?”เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังให้เธอ “สนุกมาก หวานหว่าน ฉันง่วงแล้ว จะนอนแล้วนะ”ฉือหว่านเอื้อมมือไปห่มผ้าให้เธอ “โอเค ง
เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจ เธอไม่เข้าใจเลยว่าจ้าวอี้กำลังพูดอะไร?เขาเข้าหาเธอเพราะแรงกดดันจากตระกูล ชมว่าเธอสวย หมั้นกับเธอ ทั้งหมดเป็นแค่การเสแสร้ง ที่จริงแล้วในสายตาเขา เธอก็แค่ยัยขี้เหร่คนหนึ่ง!ที่แท้นี่คือความรู้สึกจริงๆ ของเขาใบหน้าของเย่ฮวนเอ่อร์ซีดเผือด“เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่อยากเห็นฮั่วเสวียนเจ็บอีก คนที่ควรตายคือเธอ ยัยขี้เหร่!”จ้าวอี้พูดคำนี้ด้วยความเกลียดชัง แล้วหมุนตัวเดินจากไปทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ถอยหลังไปหลายก้าว น้ำตาเอ่อคลอในดวงตา เธอรีบยกมือปิดปากแล้ววิ่งออกจากหอพักหญิงทันทีข้างนอกยังคงมีฝนตก เหมือนกับอารมณ์ของเย่ฮวนเอ่อร์ เธอวิ่งออกจากมหาวิทยาลัย C แล้วขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่ง“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอมันขี้เหร่ เธอก็แค่ผู้หญิงขี้เหร่คนหนึ่ง!”“เย่ฮวนเอ่อร์ คนที่ควรตายคือเธอ ยัยขี้เหร่!”คำพูดเย็นชานั้นของจ้าวอี้ยังคงดังซ้ำๆ อยู่ในหัว น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลไม่หยุด เย่ฮวนเอ่อร์ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด“หนูจ๊ะ จะไปไหนเหรอ?”“ไปถนนเสวียฟู่…ตระกูลหลิน…”เย่ฮวนเอ่อร์พูดสะอึกสะอื้น ตอนนี้เธอแค่อยากกลับบ้านเธอร้องไห้หนักมาก จนไม่ทันสังเกตเลยว่า คนขับรถแท็กซี่ข้างหน้ากำลังสวมหมวกแก๊ป แล้
นิ้วเรียวยาวของฮั่วซือหานชะงักไปเล็กน้อย“ประธานฮั่ว รีบออกเดินทางเถอะค่ะ พวกเราต้องรีบหาให้เจอให้เร็วที่สุด ฮวนเอ่อร์ต้องปลอดภัยนะ”ฮั่วซือหานมองฉือหว่านผ่านกระจกมองหลัง ฉือหว่านนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ก้มหน้ามองโทรศัพท์ไม่หยุด ใบหน้าเธอซีดเล็กน้อย ใบหน้าหมดจดสงบนิ่งนั้นยิ่งดูบริสุทธิ์กว่าเดิมหัวใจของเธอจดจ่ออยู่ที่เย่ฮวนเอ่อร์ เพียงแค่ปรายตามองเขาเพียงแวบเดียวเท่านั้นตอนนี้ทั้งสองคนนั่งห่างกัน คนหนึ่งด้านหน้า คนหนึ่งด้านหลัง ห่างเหินเหมือนคนแปลกหน้าโดยสมบูรณ์ฮั่วซือหานละสายตา เหยียบคันเร่ง “ได้”…………ตลอดทาง เย่ฮวนเอ่อร์ร้องไห้ไม่หยุด เธอเสียใจมาก แต่ระหว่างที่ร้องไห้อยู่ ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเพราะเธอสังเกตว่าถนนข้างนอกไม่ใช่ทางกลับบ้านเลย แถมถนนยิ่งไปยิ่งเปลี่ยวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองคนขับข้างหน้า “ลุงคะ นี่ไม่ใช่ถนนเสวียฟู่ ลุงจะพาฉันไปไหน?”คนขับข้างหน้าถอดหมวกแก๊ปออก เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า เขายิ้มเหี้ยม “หนูจ๊ะ ลุงจะพาเธอไปสนุกไงล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าคนขับหน้าคุ้นมาก เธอนึกขึ้นมาได้ คนนี้คือคนร้ายที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ปีศาจคืนฝนตกที่ตำรวจตามจับอยู่ปีศาจ
เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขายาวสีดำ เย่ฮวนเอ่อร์จำเขาได้ เขาคือเฉินจิ้นเฉินจิ้นกับจ้าวอี้ต่างก็เป็นสองหนุ่มฮอตประจำมหาวิทยาลัย C จ้าวอี้เป็นหนุ่มหล่อสว่างสดใส ลูกชายบ้านรวย มีแฟนคลับผู้หญิงมากมาย ส่วนเฉินจิ้นเย็นชา ชอบอยู่คนเดียว ผู้หญิงในโรงเรียนไม่กล้าเข้าใกล้เขา แต่ในหอพักหญิงตอนกลางคืนก็มักจะมีคนพูดถึงเขาเย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่เฉินจิ้น เขาพุ่งเข้ามากระชากตัวปีศาจคืนฝนตกออกไป ปีศาจคืนฝนตกตั้งสติได้แล้ว แววตาดุดันด่าขึ้นว่า “เด็กเวร! แกไม่รู้จักตายรึไง กล้ามาขัดขวางฉัน!”ปีศาจคืนฝนตกต่อยหน้าเฉินจิ้นทันทีแต่เฉินจิ้นหลบอย่างคล่องแคล่ว แล้วสวนหมัดเข้าไปที่ท้องของปีศาจคืนฝนตกตุบปีศาจคืนฝนตกกระแทกกับตัวรถ แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือดเฉินจิ้นไว้ผมสั้น ใบหน้าแข็งแกร่งเฉียบคมแบบที่เย่ฮวนเอ่อร์ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาดูเย็นชา มีความเข้มดุดันแบบผู้ชายเต็มตัวเม็ดฝนหยดลงมาตามแนวกรามคมเข้มของเขา ใบหน้าไร้อารมณ์ยิ่งเพิ่มความแข็งกร้าว เขาก้าวเท้าเข้าใกล้ปีศาจคืนฝนตก กล้ามเนื้อใต้เสื้อยืดสีดำแน่นกระชับ หายใจแรงเล็กน้อยหลังต่อสู้ สื่อถึงพลังของผู้ชายที่น่าหลงใหลปีศ
เขารายงานที่อยู่นี้ทางโทรศัพท์ “คนสลบแล้ว...อย่าพูดมาก เอาโบนัสโอนเข้าบัญชีฉันซะ...”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่รู้ว่าเขาโทรหาใคร เธอรีบใส่เสื้อแจ็คเก็ตของเขา ปกปิดผิวกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองเธอพยุงตัวลุกขึ้นจากเบาะรถแท็กซี่ ตั้งใจจะพูดคำว่า “ขอบคุณ” กับเฉินจิ้น แต่ตอนนั้นเอง เสียงใสคุ้นหูก็ดังมาจากที่ไกลๆ “ฮวนเอ่อร์! ฮวนเอ่อร์ เธออยู่ไหน!”ฉือหว่านมาถึงแล้วพอเย่ฮวนเอ่อร์หันกลับไปมองอีกครั้ง เธอก็ไม่เห็นเฉินจิ้นแล้ว เฉินจิ้นหายไปแล้วเขาหายไปเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?เธอยังไม่ได้พูดขอบคุณเขาต่อหน้าเลยด้วยซ้ำ…………ฮั่วซือหานกับฉือหว่านมาถึงแล้ว ก่อนหน้านี้ฮั่วซือหานเห็นรอยล้อรถเบรกไถลบนถนน จึงลงจากรถแล้วตามหาพร้อมฉือหว่านฉือหว่านเห็นเย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบวิ่งเข้าไปหา “ฮวนเอ่อร์ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมเธอถึงมาที่นี่ ฉันตกใจหมดเลย!”ฮั่วซือหานมองไปที่คนขับที่สลบอยู่บนพื้น เขาก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นเย่ฮวนเอ่อร์ปลอดภัย เขาก็ถอนหายใจเบาๆแต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับยังตึงเครียด เย็นชาพูดตำหนิทันที “เย่ฮวนเอ่อร์ ใครให้เธอออกมาคนเดียว เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตัวเองได้แล้ว!”
ตำรวจรุ่นใหญ่คนนั้นกำลังถามถึงเฉินจิ้น?หรือว่าเมื่อกี้โทรศัพท์ที่เฉินจิ้นโทรออก คือโทรหาเขาคนนี้?เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “อืม เขาไปแล้วค่ะ”ตำรวจรุ่นใหญ่ไม่ได้พูดอะไรต่อ “ไอ้ปีศาจคืนฝนตก เราจะพาตัวไปเอง พรุ่งนี้ขอให้หนูไปให้ปากคำกับเราที่สถานีหน่อยนะ”เย่ฮวนเอ่อร์ “ได้ค่ะ”“ตอนนี้เป็นช่วงฤดูฝน พายุกำลังจะมา อากาศแบบนี้อันตราย รีบไปที่จุดพักข้างหน้ากันก่อน ไปอาบน้ำอุ่น เปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่อย่างนั้นจะเป็นหวัดเอา” ตำรวจรุ่นใหญ่เตือนด้วยความเป็นห่วงตอนนี้ฮั่วซือหาน ฉือหว่าน และเย่ฮวนเอ่อร์เปียกโชกกันหมดแล้ว อากาศในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงก็เริ่มเย็นลง พวกเขาเลยต้องทำตามคำแนะนำของตำรวจ มุ่งหน้าไปยังจุดพัก…………จุดพักไม่ได้ใหญ่นัก แต่สะอาด เด็กหนุ่มที่ดูแลที่นั่นพาทั้งสามคนไปยังห้องหนึ่ง “ขอโทษนะครับ คืนนี้เหลือแค่ห้องนี้ห้องเดียวแล้วครับ”สามคนอยู่ห้องเดียว?ฉือหว่านมองเข้าไปข้างใน เห็นว่ามีเตียงแค่เตียงเดียวเท่านั้นแต่พวกเขาไม่มีทางเลือกฮั่วซือหานพยักหน้า “ตกลง พวกเราจะพักที่นี่”เด็กหนุ่มส่งคีย์การ์ดให้แล้วก็เดินจากไปฮั่วซือหานเดินเข้าไปในห้อง แต่ฉือหว่านก็รีบวิ่งออกไป เรียกเด
ฉือหว่านมองเขาด้วยดวงตากลมใส แล้วคลี่ยิ้มบาง “ประธานฮั่ว รอบตัวคุณคงมีผู้บริหารเยอะแยะถ้ามีคนเหมาะสม แนะนำให้ฉันหน่อยนะคะ”ฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะเบือนสายตากลับไป เขายกมือถอดเนกไทที่คอออก แล้วพูดเสียงเรียบ “ถ้ามีคนเหมาะสม จะบอกให้ก็แล้วกัน”“ขอบคุณค่ะ ประธานฮั่ว”ขณะนั้นเอง ประตูห้องน้ำเปิดออก เย่ฮวนเอ่อร์รีบออกมาจากห้องน้ำ “หวานหว่าน เธอรีบเข้าไปอาบต่อนะ”ฉือหว่านไม่พูดมาก เดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีคนสุดท้ายที่เข้าไปอาบคือฮั่วซือหาน ตอนเขาเข้าไป ฉือหว่านกับเย่ฮวนเอ่อร์นอนอยู่บนเตียงแล้วเด็กสาวสองคนนอนอยู่ด้วยกัน เย่ฮวนเอ่อร์หลังจากร้องไห้แล้วก็เริ่มดีขึ้น เธอเล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับจ้าวอี้กับฮั่วเสวียนให้ฉือหว่านฟังเมื่อฉือหว่านได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฮวนเอ่อร์ ดูเหมือนว่าฮั่วเสวียนจงใจแย่งคู่หมั้นเธอไปเลยนะ เรื่องฮั่วเสวียนยังพอจัดการได้ ปัญหาคือจ้าวอี้ เธอยังชอบเขาอยู่รึเปล่า?”เย่ฮวนเอ่อร์ส่ายหน้า “ไม่ชอบแล้ว เมื่อก่อนฉันนึกว่าเขาเป็นคนอบอุ่น แท้จริงแล้วทุกอย่างมันแค่การเสแสร้งกับแผนลวง!”เมื่อได้ยินว่าเย่ฮวนเอ่อร์ไม่ชอบจ้าวอี้อีกต่อไป ฉือ
ฉือหว่านกับเย่ฮวนเอ่อร์นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ทั้งสองคนยังไม่หลับ ยังคุยกันต่อเย่ฮวนเอ่อร์ถาม “หวานหว่าน เธอเคยเจอผู้ชายแบบนั้นไหม?”ฉือหว่าน “แบบไหนเหรอ?”ในหัวของเย่ฮวนเอ่อร์ลอยขึ้นมาด้วยภาพใบหน้าหล่อเข้มผมสั้น “แบบที่ดูเย็นชาแล้วก็เท่มาก เขาเก่งเรื่องต่อสู้มากเลยนะ ทำให้รู้สึกนิดๆ ว่าน่ากลัว…”ฉือหว่านหันไปมองเสื้อแจ็คเก็ตเบสบอลสีดำที่แขวนอยู่ตรงราว ซึ่งตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์ใส่มันอยู่ และตอนนี้แขวนไว้อย่างระมัดระวัง ดูก็รู้ว่าเป็นของผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอฉือหว่านยกมุมปากยิ้ม “หมายถึงเฉินจิ้น เดือนมหาวิทยาลัยเฉินใช่ไหม?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่ เขานั่นแหละ”ฉือหว่านกระพริบตาอย่างแซวๆ “บุญคุณช่วยชีวิตแบบนี้ เธอจะตอบแทนด้วยตัวเองเลยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์หน้าแดง “หวานหว่าน! ฉันไม่คุยกับเธอแล้วนะ”ฉือหว่านหัวเราะคิกเย่ฮวนเอ่อร์ยกมือมาปิดปากเธอ “หวานหว่าน ห้ามขำเลยนะ”ฮั่วซือหานนอนอยู่บนเตียง เสียงฝนตกหนักกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่าง ฉือหว่านกับเย่ฮวนเอ่อร์นอนคุยกันเบาๆ หัวเราะคิกคักกันในผ้าห่ม สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับห้องแคบๆ นี้ฮั่วซือหานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเย่ฮวนเอ่อร
ฮั่วซือหานรู้สึกได้ถึงมือเล็กๆ ของฉือหว่านที่เลื่อนไปบนตัวเขา เธอร้อนรุ่มและใจร้อนเกินไป ขณะที่ดึงกระดุมเสื้อเขาจนกระเด็นหลุดไปเม็ดหนึ่งลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เขารีบจับมือเธอไว้เบาๆ “ฉือหว่าน ช้าหน่อย ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าสำรองนะ”ถ้าเสื้อผ้าของเขาขาดขึ้นมา เขาจะไม่มีเปลี่ยนนะแต่ฉือหว่านกลับไม่ฟัง เธอเพียงต้องการความอบอุ่นมากกว่านี้ มือเล็กๆ ถูกดึงออกไปได้ก็รีบซุกหน้าลงตรงซอกคอเขา “ไม่เอา…หนาว…”เสียงของเธอออดอ้อนอ่อนแรง ปนน้ำเสียงเจ็บไข้คล้ายเด็กน้อยกำลังอ้อนขอแน่นอนว่า ฮั่วซือหานรู้ดีว่าต่อให้เธอไม่ป่วย เธอก็ออดอ้อนเก่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองบนเตียงเธอเหมือนปีศาจน้อยตัวหนึ่งแค่หลังหย่ากัน ก็ไม่ได้ลิ้มลองอีกเลยฮั่วซือหานพยายามกลั้นใจ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว มือของเขาลูบไปที่กระดุมเสื้อของเธอ ราวกับตั้งใจจะช่วยเธอระบายความร้อนในกายทุกอย่างเริ่มวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย เขาพลิกตัวทาบลงเหนือเธอ ทั้งสองสลับกันถอดผ้าเสื้อเชิ้ตของเขาถูกดึงออกไปครึ่งตัว กล้ามไหล่และแผ่นหลังแน่นตึงเผยออกชัด ฝ่ามือเย็นเฉียบของฉือหว่านสัมผัสกับร่างกายของเขาร่างของฮั่วซื
ฮั่วซือหานหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “นายพักผ่อนให้ดี เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”คืนนี้ฉือหว่านกับกู้เป่ยเฉินต้องการพักฟื้นก่อน เรื่องการกลับออกจากหมู่บ้านค่อยคิดพรุ่งนี้อีกทีกู้เป่ยเฉินได้พี่รองอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจทันที เขาพยักหน้า “ได้ครับ”ฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านออกมาจากกระท่อม หลิวชุนฮวาที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็รีบเข้ามา “พี่ซือหาน น้องสาวพี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“เธอเป็นไข้สูงครับ น้องชุนฮวา รบกวนช่วยจัดหาห้องพักให้เราได้ไหม?”พอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของฮั่วซือหานเข้าเต็มตา สาวบ้าหน้าตาอย่างหลิวชุนฮวาจะปฏิเสธได้อย่างไร? เธอรีบใช้อำนาจลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน จัดหาห้องพักสะอาดเรียบร้อยให้เขาทันทีฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านไปวางลงบนเตียง ร่างกายเธอเย็นเฉียบ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เส้นผมปอยหน้าม้าเปียกชื้นแนบอยู่กับหน้าผากขาวเนียนจนดูน่าสงสารจับใจเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าผากของเธอเบาๆ“พี่ซือหาน” ขณะนั้นเอง เสียงหลิวชุนฮวาก็ดังขึ้นฮั่วซือหานถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเธออยู่ในห้อง เขาหันไปถามตรงๆ “น้องชุนฮวา มีพี่ชายด้วยใช่ไหม?”หลิวชุนฮวาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่ชายฉันชื่อหลิว
หลิวชุนฮวาหันไปมองเลขาจ้าวกับคนที่ตามมาด้วย “หมู่บ้านเราห้ามคนนอกเข้า พวกเขาเข้าไปไม่ได้ แต่ฉันจะแอบพาคุณเข้าไปได้คนเดียว”เลขาจ้าวรีบเอ่ย “ท่านประธาน เข้าไปคนเดียวมันอันตรายนะครับ”ฮั่วซือหานถามกลับเรียบๆ “อันตรายอะไร?”เลขาจ้าวพูดเบาๆ “ชุนฮวาคนนี้เหมือนจะหลงคุณนะครับ ระวังเธอล็อกตัวคุณไว้เป็นเจ้าบ่าวประจำหมู่บ้านล่ะ”ฮั่วซือหานเหลือบตาเย็นๆ ไปมองเลขาจ้าวแวบหนึ่งเลขาจ้าวรีบหุบปากเงียบแทบทันทีฮั่วซือหานสั่งการ “พวกนายพักอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปเอง”เลขาจ้าวพยักหน้า “รับทราบครับ”ฮั่วซือหานหันไปทางหลิวชุนฮวา “น้องชุนฮวา รบกวนด้วยนะครับ พาผมเข้าไปที”“ไปกันเถอะ”หลิวชุนฮวาพาฮั่วซือหานเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างเดินอยู่ข้างเขา หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนกวางน้อยวิ่งในป่า “คุณชื่ออะไรเหรอ?”“ฉันชื่อฮั่วซือหาน”“งั้นฉันเรียกคุณว่าพี่ซือหานได้ไหมคะ?”“…ถ้าคุณชอบแบบนั้นก็เรียกได้”“คุณทำงานอะไรเหรอ?”“เปิดบริษัทน่ะ”“แล้วทำไมยังไม่แต่งงานล่ะ คุณชอบผู้หญิงแบบไหน?”เมื่อหลิวชุนฮวามองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง ฮั่วซือหานก็ยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ฉันชอบผู้หญิงที่จิตใจดี เชื
ฮั่วซือหานพาเลขาจ้าวและทีมงานเข้ามาในหมู่บ้านผิงซี เขาเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจึงรีบเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ ขอถามหน่อย วันนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านสองคนหรือเปล่า?”ชาวบ้านมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง “พวกคุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”ฮั่วซือหานตอบอย่างสุภาพ “พวกเรามาตามหาคนครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชาวบ้านก็ส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน “ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ทั้งนั้น หมู่บ้านเรารับแต่คนใน อย่ามาวุ่นวาย รีบออกไปซะเถอะ”แล้วชาวบ้านก็เริ่มออกปากไล่ฮั่วซือหานเลขาจ้าวกำลังจะอธิบาย “พวก…”แต่ฮั่วซือหานยกมือห้ามไว้ “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”เขาหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเลขาจ้าวเดินตามอย่างมึนงง “ท่านประธาน ทำไมเราต้องถอยล่ะครับ? ผมรู้สึกว่าคุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ต้องอยู่ในนั้นแน่ๆ!”แววตาเฉียบคมของฮั่วซือหานเหมือนเหยี่ยวล่าเหยื่อ “ไม่ใช่แค่รู้สึก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ในนั้นแน่นอน”“แล้วเราจะออกมาทำไมล่ะครับ?”“เมื่อกี้นายไม่เห็นเหรอ? ชาวบ้านที่นี่ต่อต้านคนนอกอย่างชัดเจน ฉันเห็นมีคนกลับเข้าไปเรียกคนแล้วด้วย ตอนนี้เราคนน้อย อยู่ในพื้นที่ของเขา ถ้าปะทะขึ้นมาจะไม่คุ้
ฉือหว่านสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเขากู้เป่ยเฉินยกแขนขึ้นกอดเธอแน่นขึ้นอีก “ฉือหว่าน อดทนไว้นะ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นแล้ว”…ทางด้านของฮั่วซือหาน หลังจากที่ฉือหว่านหายตัวไป เขาก็สั่งระดมคนออกตามหาโดยทันทีในเวลาไม่นาน เลขาจ้าวก็นำภาพจากกล้องวงจรมาส่งให้เขา “ท่านประธาน พบแล้วครับ คุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ขึ้นเรือยอชต์ลำเดียวกันไป”ฮั่วซือหานมองภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นกู้เป่ยเฉินขึ้นเรือยอชต์ ส่วนฉือหว่านขึ้นไปก่อนแล้วใบหน้าหล่อเหลาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งจนแทบหยดน้ำออกมาได้ “กู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ได้ยังไง?”ไม่มีใครรู้ว่ากู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่เลขาจ้าวพูดต่อ “ท่านประธาน ผมเดาว่าคุณชายกู้น่าจะตามคุณฉือหว่านมา”“แล้วเจอเรือยอชต์ลำนั้นหรือยัง?”“ส่งคนไปตามหาที่ทะเลแล้วครับ แต่เรือยอชต์ลำนั้นระเบิดกลางทะเลแล้วครับ”ฮั่วซือหานลุกพรวดจากเก้าอี้ “อะไรนะ? ระเบิด?”เลขาจ้าวพยักหน้า “ใช่ครับ มีคนวางระเบิดบนเรือยอชต์”ขณะนั้นเอง ฉือเจียวก็เดินเข้ามา “ซือหาน ระเบิดนั่นต้องเป็นฝีมือของเป่ยเฉินแน่ เขาคงอยากฆ่าฉือหว่าน ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉือหว่านมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดเหี้ยมขนาด
กู้เป่ยเฉินเคยคบผู้หญิงมาหลายคน กอดเอวก็แล้ว ทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นก็เคยแต่จู่ๆ พอได้โอบเอวของฉือหว่าน หัวใจเขากลับเต้นแรงอย่างไม่เป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ รีบเขย่าร่างเธอเบาๆ พร้อมเรียก “ฉือหว่าน เธอเป็นอะไรไป?”ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า หน้าผากของเธอร้อนจัด อุณหภูมิร่างกายก็ผิดปกติ เธอกำลังเป็นไข้สูงมันช่างเหมือนคำว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่ผิดเพี้ยนฉือหว่านลืมตาขึ้นช้าๆ เธอพยายามลุกขึ้น “ฉันไม่เป็นไร”“ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก? เธอเป็นไข้สูงเลยนะ เดินยังไม่ไหวแน่ เดี๋ยวฉันอุ้มเธอกลับไป”ฉือหว่านมองไปที่ขาขวาของเขาที่บาดเจ็บ “นายจะอุ้มฉันไหวเหรอ?”กู้เป่ยเฉิน “…”กู้เป่ยเฉินรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเขาเนี่ยนะ จะอุ้มผู้หญิงตัวแค่นี้ไม่ไหว? ดูยังไงเธอก็ไม่ถึง 45 กิโล!เห็นเขาทำหน้าเหวอ ฉือหว่านก็หัวเราะน้อยๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเองกู้เป่ยเฉินเดินตามเธอกลับไปเงียบๆฉือหว่านเอาสมุนไพรมาบด จากนั้นก็ยัดใส่ปากหลิวว่างไป ก่อนจะกินสมุนไพรลดไข้เองเล็กน้อยกู้เป่ยเฉินมองเธอ เธอยังคงทำโน่นทำนี่ไม่หยุด ทั้งที่ร่างกายอ่อนแอแทบยืนไม่ไหว เธอก็ยังฝืนลากสังขาร
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?