กู้เป่ยเฉินยังคงอยู่ข้างเธอ ฉือเจียวจึงค่อยวางใจลงเล็กน้อย…หลังจากงานแถลงข่าวของสื่อมวลชนจบลง ฮั่วซือหานกลับไปขึ้นรถโรลส์-รอยซ์สุดหรู เขาเอ่ยสั่งเลขาจ้าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีเสน่ห์ดึงดูด “ไปบอกพวกสื่อมวลชน ฉันไม่ต้องการให้มีข่าวเกี่ยวกับฉือหว่านหลุดออกไป”เลขาจ้าวตอบเสียงเบา “ท่านประธานวางใจได้เลยครับ เมื่อครู่ผู้สื่อข่าวหญิงบางคนได้เป็นตัวตั้งตัวตีลบรูปถ่ายและวิดีโอของคุณผู้หญิงออกหมดแล้ว พวกเขาจะไม่รายงานข่าวของคุณผู้หญิงแน่นอน”ฮั่วซือหานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วหัวเราะเบาๆ “เธอนี่ช่างล่อลวงใจคนได้ดีจริงๆ”เลขาจ้าวพูดด้วยความจริงใจ “คุณผู้หญิงเป็นคนกล้าหาญมากจริงๆ ครับ”ฮั่วซือหานเลิกคิ้ว ใช่ เธอช่างกล้าหาญนักฮั่วซือหานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก“ฮัลโหล คุณลุง”คุณลุงของฮั่วซือหานเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัย C ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า เขาหมกมุ่นอยู่กับการแพทย์จนได้รับการยกย่องไปทุกที่ว่าเป็นท่านหลินเสียงของท่านหลินดังขึ้น “ซือหาน นี่มันแขกพิเศษเชียวนะ เจ้าไปนึกอะไรถึงโทรหาข้าได้?”“คุณลุง มีเรื่องหนึ่งที่อยากขอร้องคุณลุงครับ”“ว่ามาเถอะ เรื่องที่ทำให้แกถึ
ทุกคนยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดในขณะนั้น โทรทัศน์ในห้องจัดเลี้ยงกำลังออกอากาศข่าว ผู้ประกาศข่าวถือไมโครโฟนกล่าวว่า “วันนี้ เราได้จับกุมผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และพยายามข่มขืนไม่สำเร็จ นอกจากนี้ เรายังจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดอีกหนึ่งราย”ในจอปรากฏภาพหวังกังที่ถูกคลุมศีรษะด้วยถุงดำ ขณะกำลังถูกพาตัวขึ้นรถตำรวจ ไม่นานนัก หลี่หลันก็ถูกนำตัวออกมาเช่นกันสามผู้บริหารในห้องอาจไม่รู้จักหวังกัง แต่พวกเขารู้จักหลี่หลันดี ทุกคนอึ้งไปก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ประธานฉือ ผู้ต้องสงสัยคนนั้นดูคล้ายคุณนายฉืออหรือเปล่า?”อะไรนะ?มือของฉือไห่ผิง ทกำลังรินเหล้าชะงักค้าง เขาหันขวับไปมองหน้าจอและแน่นอนว่าภาพในจอคือหลี่หลันจริงๆ!ใบหน้าของฉือไห่ผิงเปลี่ยนสีทันที ร่างกายแข็งค้างอยู่กับที่ผู้ประกาศข่าวยังคงกล่าวต่อ “ใครๆ ก็มักจะถามว่าเศรษฐกิจแบบ ‘สุนัขเลียแข้งเลียขา’ ที่ไหนดีที่สุด? ขอบอกเลยว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้คือที่สุดแล้ว! อายุปูนนี้ยังขายลูกสาวของตัวเองเพื่อเป็นสุนัขรับใช้ แถมยังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจและยิ่งใหญ่อลังการ…”ฉือไห่ผิง : “…”สีหน้าของสามผู้บริหารในห้
ฉือเจียวกลับชวนเธอไปดื่มกาแฟ ฉือหว่านไม่พูดอะไร ฉือเจียวเลิกคิ้วแล้วยิ้ม "ทำไมล่ะ ฉือหว่าน เธอไม่กล้าหรอ? ช่วงนี้เธอชนะมาตั้งหลายครั้ง กำลังเป็นช่วงขาขึ้นเลยนะ หรือว่าเธอกลัวฉัน?" ฉือหว่านยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วยิ้ม "โอเค ไว้เจอกัน" หลังจากวางสาย ฉือหว่านก็เตรียมตัวออกจากบ้าน ติ๊ง เสียงแจ้งเตือน WeChat ดังขึ้น เป็นแผนผ่าตัดที่หลินจื้อหย่วนส่งมาให้ หลินจื้อหย่วน "อาจารย์ นี่เป็นเคสผ่าตัดที่ฉันเจอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ค่อนข้างยุ่งยากเลยค่ะ ถ้าอาจารย์มีเวลา รบกวนช่วยแนะนำหน่อย" หลินจื้อหย่วนเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัย C และเป็นลูกศิษย์ของเธอ ส่วนฉือถังก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัย C และเป็นศิษย์รักของหลินจื้อหย่วน ครั้งนี้ที่ฉือถังได้มาเป็นผู้ช่วยของเธอ ส่วนหนึ่งก็เพราะหลินจื้อหย่วนช่วยผลักดันอย่างเต็มที่ พูดง่ายๆ คนพวกนี้ก็คือลูกศิษย์ลูกหาของเธอทั้งนั้น ฉือหว่านตอบกลับไปสั้นๆ หนึ่งคำ "โอเค" ... ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉือหว่านเดินทางมาถึงคาเฟ่ และมองเห็นฉือเจียวทันที ฉือเจียวไม่ได้รอเธออยู่ที่โต๊ะ แต่ยืนรออยู่บนบันไดแทน ฉือหว่านเดินขึ้นไป "ฉือเจียว ฉันว่าเราสอ
ฉือหว่านยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มขื่นขมและเต็มไปด้วยการประชดตัวเอง … ในห้องพักผู้ป่วย VIP ของโรงพยาบาล ขาของฉือเจียวได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ฮั่วซือหานเม้มริมฝีปากพลางมองไปที่หมอ "ขาของเธอได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็นหรือกระดูกไหม? จะมีผลกระทบกับการเต้นในอนาคตหรือเปล่า?" หมอตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "ประธานฮั่ว ไม่ต้องกังวลครับ เราถ่ายภาพเอกซเรย์แล้ว โชคดีที่เป็นแค่แผลภายนอก ไม่มีอาการบาดเจ็บถึงเส้นเอ็นหรือกระดูก ขอแค่พักฟื้นดีๆ ก็จะกลับมาเต้นได้เหมือนเดิม" หมอพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ตอนนั้นเอง ฮั่วซือหานรู้สึกถึงแรงสัมผัสที่อ่อนนุ่มในฝ่ามือของเขา ฉือเจียวเอื้อมมือเล็กๆ มาจับมือเขาไว้ ฮั่วซือหานก้มลงมอง ฉือเจียวเงยหน้าซีดเซียวขึ้นสบตาเขา "ซือหาน ฉันไม่เป็นไรหรอก คุณไม่ต้องกังวลขนาดนั้น" ฮั่วซือหานดูเป็นห่วงเธอมากเกินไป ซึ่งก็เป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ไว้ แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก "ทำไมเธอถึงกลิ้งตกลงไปเอง?" จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา ฉือเจียวชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เธอรู้ดีว่าหลอกเขาไม่ได้ เธอก็ไม่ได้อยากจะหลอ
อะไรนะ? ส่งฉือหว่านไปเรียนที่ไหนนะ? มหาวิทยาลัย C งั้นเหรอ?เขาบ้าไปแล้วหรือไง?มหาวิทยาลัย C เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ฉือหว่านมีสิทธิ์อะไรจะเข้าไปเรียนที่นั่น? สีหน้าของฉือเจียวเปลี่ยนไปทันที "ซือหาน! ฉือหว่านเลิกเรียนไปตั้งแต่สิบหกแล้วนะ! เธอมาจากบ้านนอก นอกจากยั่วยวนผู้ชาย เธอทำอะไรเป็นที่ไหน แล้วคนแบบนี้มีสิทธิ์อะไรจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย C?" ฮั่วซือหานมองฉือเจียว แต่ไม่ได้ตอบอะไร แววตาของเขามั่นคงและหนักแน่นมาก เป็นการบอกชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่มีการต่อรอง เขาตัดสินใจแล้วว่าจะส่งฉือหว่านเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย C ฉือเจียวเป็นคนฉลาด เธอกับฮั่วซือหานเพิ่งกลับมาคืนดีกัน เธอไม่กล้าทะเลาะกับเขาเรื่องนี้ อีกอย่าง คนอย่างฉือหว่านเข้าไปในมหาวิทยาลัย C ก็มีแต่จะกลายเป็นตัวตลก พอถึงเวลานั้น ฮั่วซือหานก็จะยิ่งรังเกียจเธอเอง เธอไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งดูฉือหว่านขายขี้หน้าก็พอแล้ว ฉือเจียวแย้มรอยยิ้ม "ก็ได้ค่ะ ซือหาน ฉันจะฟังคุณทุกอย่าง" ฮั่วซือหานยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กของเธอเบาๆ "เด็กดี~" ฉือเจียวซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนเขาอย่างมีความสุข … ฉือหว่านกลับมาที่คฤหาสน์ตระก
ฉือหว่านเงยหน้ามองฮั่วซือหาน "ไม่ต้อง ฉันจะไปคืนนี้" เธอพยายามดึงข้อมือออกจากมือของเขา แต่ปลายนิ้วเรียวยาวทรงอำนาจของฮั่วซือหานกลับรั้งไว้แน่น แรงกดดันจากเขาทำให้เธอขยับไม่ได้เลย เขาขยับริมฝีปากบางเอ่ยเสียงนิ่ง "พรุ่งนี้ไปมหาวิทยาลัย C ไปรายงานตัว" ฉือหว่านชะงัก "ทำไม?" "ฉันส่งเธอไปเรียนที่มหาวิทยาลัย C ทุกอย่างจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เธอไปเรียนแพทย์ที่นั่น" ฉือหว่าน "..." เขาส่งเธอไปเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัย C อย่างนั้นเหรอ? วันหนึ่งข้างหน้า ถ้าเขาหันกลับมาทบทวนคำพูดของตัวเองตอนนี้ เขาจะรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่? "ฉันไม่ไป!" ฉือหว่านปฏิเสธทันที ฮั่วซือหานขมวดคิ้วหล่อเข้มขึ้น "ฉือหว่าน มหาวิทยาลัย C เป็นสถาบันระดับสูง ไม่ใช่ว่าใครอยากเข้าไปก็เข้าได้ โอกาสนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ฉันรู้ว่าเธอเลิกเรียนตั้งแต่สิบหก ตอนนี้ฉันให้โอกาสเธอกลับไปเรียนอีกครั้ง เธอไม่เคยสนใจเรื่องการแพทย์เหรอ? ถ้าเธอตั้งใจเรียน สักวันเธอก็สามารถเปล่งประกายบนเวทีของตัวเองได้ เหมือนที่ฉือเจียวเป็น" ฉือหว่าน "..." เขาดูถูกเธอขนาดนี้เลยเหรอ?! ขอบคุณนะ ฟังฉันให้ดี ขอบคุณมาก! เธอกลั้น
ความจริงแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอชินกับการเร่ร่อนมาตลอด เร่ร่อนไปเรื่อยๆ… แล้วเธอก็เติบโตขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว เธอเพิ่งรู้ว่า ความอบอุ่นต่างหากที่ทำให้คนเสียน้ำตาได้ง่ายกว่าความทุกข์ทรมาน คุณนายใหญ่ฮั่วยกมือขึ้นกอดฉือหว่านไว้ ลูบแผ่นหลังเธอเบาๆ เหมือนปลอบเด็ก “เด็กโง่ ทำไมถึงต้องมาพูดจาเกรงใจกับย่าแบบนี้อีกล่ะ?” "คุณย่า หนูมีเรื่องอยากบอกค่ะ" "ว่ามาสิ เรื่องอะไร?" ฮั่วซือหานที่ยืนอยู่หน้าประตู มองฉือหว่าน เธอซบหน้าลงบนไหล่ของคุณย่า ขนตายาวสั่นระริก และหยาดน้ำตาเม็ดโตไหลลงมาเงียบๆ "คุณย่า… หนูคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วค่ะ หนูต้องไปแล้ว" คุณนายใหญ่ฮั่วตกใจ “ทำไมล่ะ? หรือว่าเจ้าซือหานนั่นแกล้งหนูอีก? เดี๋ยวย่าจะไปสั่งสอนเขาเอง!” ลุงฝูรีบยื่นไม้ขนไก่มาให้ “คุณนายใหญ่ ใช้อันนี้เลยครับ!” คุณนายใหญ่ฮั่วรับไว้ทันที “หวานหว่าน หนูไม่ต้องไปหรอก! ทำไมต้องเป็นหนูที่ต้องไป? ให้หมอนั่นออกไปแทน!” ฮั่วซือหานที่ยืนอยู่นอกประตู "..." เขาเป็นหลานแท้ๆ หรือเปล่า? หรือว่าโดนเก็บมาเลี้ยงกันแน่? ลุงฝูก็เหมือนกัน เขาไม่รู้แล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบ้านนี้! เวลานี้ เสียงห
เธอก็แค่เจ้าสาวตัวแทนที่ถูกส่งมาแต่งงานแทน เป็นแค่เรื่องผิดพลาดเล็กๆ เท่านั้น เขายอมรับว่าเคยหลงใหลเธอชั่วขณะหนึ่ง แค่เพราะแรงปรารถนา แต่เขาไม่ได้ชอบเธอ คนที่เขาชอบคือฉือเจียว คนที่เขาต้องการก็คือฉือเจียว เขาไม่ชอบความสัมพันธ์ที่ต้องเวียนวนอยู่ระหว่างผู้หญิงสองคน ถึงเวลาต้องจบเรื่องระหว่างเขากับฉือหว่านแล้ว! … ซูเสี่ยวฝูกำลังจะเข้านอนในค่ำคืนอันเงียบสงบ ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เธอหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินไปเปิดประตู "ใครน่ะ?" ฉือหว่านยืนอยู่หน้าประตู ฉือหว่านไม่ได้เอาสัมภาระอะไรติดตัวมาเลย มีเพียงเสื้อกั๊กไหมพรมสีเหลืองอ่อนที่คุณนายใหญ่ฮั่วถักให้ เธอเงยหน้ามองซูเสี่ยวฝู แล้วแย้มรอยยิ้มขื่นขม "เสี่ยวฝู ฉันไม่มีบ้านอยู่แล้ว เธอให้ฉันพักด้วยได้ไหม?" ซูเสี่ยวฝูรีบดึงเธอเข้ามา มือของฉือหว่านเย็นเฉียบ ซูเสี่ยวฝูรีบจับมือเธอขึ้นมาถูไถให้ความอบอุ่น "หวานหว่าน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมดึกขนาดนี้เธอถึงออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว มันอันตรายนะ!" ฉือหว่านแย้มมุมปากเล็กน้อย "วันนี้ฉือเจียวกลิ้งตกลงมาจากบันได แล้วบอกฮั่วซือหานว่าไม่ให้ฉันอยู่ห้องเดียวกับเขา…ฉันก็เลยถู
เมื่อกี้ตอนอยู่ในหอพักหญิง เธอพยายามจะอธิบายให้เขาฟังใช่ไหม แต่เขาไม่ฟังสักคำ กลับด่าเธอซะเสียหาย ตอนนั้นเองแววตาของเธอก็หมดแสงไปทันที ในใจฮั่วซือหานรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ไม่นานเขาก็แค่นหัวเราะออกมา เรื่องทั้งหมดนี้สุดท้ายก็เป็นเพราะเธอหาเรื่องมาเอง เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย C ได้แค่สองวัน ก็ถูกเพลย์บอยอย่างโจวเจิ้นอวี่หมายตาเข้าให้แล้ว เมื่อกี้สายตาที่โจวเจิ้นอวี่มองเธอ เขาเห็นเต็มตา ในฐานะผู้ชายด้วยกัน เขารู้ดีว่าโจวเจิ้นอวี่มันเอาจริง เมื่อกี้แค่เธอยอมขอโทษหรืออ้อนหน่อยเดียว โจวเจิ้นอวี่ก็คงยอมปล่อยผ่านแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกหน้าเลยด้วยซ้ำ คิดมาถึงตรงนี้ ฮั่วซือหานก็พลันสีหน้ามืดครึ้มลงอีกครั้ง ยัยจิ้งจอกน้อย ไม่ว่าไปที่ไหนก็ไม่วายอ่อยผู้ชาย เขาส่งเธอมาเรียนหนังสือ ไม่ได้ส่งมาให้หาแฟน กล้าหาแฟนดูสิ จะได้รู้กัน! ฮั่วซือหานหันขวับ สายตาคมกริบกวาดมองเลขาจ้าวทันที “เลขาจ้าว นายดูจะชอบฉือหว่านมากเลยนะ?” ความลำเอียงที่เลขาจ้าวมีต่อฉือหว่าน มันชัดเจนมาได้สักพักแล้ว เลขาจ้าวสะดุ้งจนตัวตรงเป็นไม้ “ท่านประธาน ผมก็แค่คิดว่าคุณผู้หญิง…เหมาะสมกับท่านประธานมากก
ในห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายปกครอง โจวเจิ้นอวี่เดินกร่างกลับมาอีกครั้ง โดยมีพ่อแม่ของเขาเดินตามมาด้วย พอเขาเห็นฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์ที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วพอได้เห็นใบหน้าเล็กขาวเนียนนุ่มของฉือหว่านอีกครั้ง ใบหน้าที่สวยใสไร้การปรุงแต่งเหมือนดอกบัวที่เพิ่งโผล่พ้นน้ำ หัวใจของโจวเจิ้นอวี่ก็เต้นแรงอีกครั้ง เขาอยากได้ฉือหว่านมาเป็นแฟนจริงๆฮั่วเสวียนแค่ให้เขามาหาเรื่องฉือหว่าน ไม่ได้บอกให้เขาเอาฉือหว่านมาเป็นแฟนเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาอุตส่าห์ไม่ถือสาเรื่องที่ฉือหว่านเป็นเด็กบ้านนอกแท้ๆ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรถึงกล้าปฏิเสธเขา?แค่เขาขับรถสปอร์ตไปจอดหน้าอาคารหอพักหญิง ไม่รู้ว่ามีสาวๆ ตั้งกี่คนยืนโบกมือส่งยิ้มให้โจวเจิ้นอวี่จ้องฉือหว่านแล้วพูดเสียงกร่าง “ฉือหว่าน กลัวล่ะสิ เพิ่งเข้าเรียนได้สองวันก็จะถูกไล่ออกแล้ว! แต่ถ้าเธอยอมขอโทษฉันตอนนี้ อาจจะมีทางออกก็ได้นะ!”แม่โจวดึงแขนโจวเจิ้นอวี่ไว้ “ลูก แม่ไม่ยอมนะ ยัยนี่ทำลูกเจ็บขนาดนี้ ยังไงก็ต้องไล่เธอออกจากมหาวิทยาลัย C ให้ได้!”พ่อโจวมองไปที่หัวหน้าฝ่ายปกครอง “หัวหน้าหลิว คุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”หัวหน้าหลิวกำลังจะพูด แต่
งั้นก็ช่างมันเถอะ เท้าเล็กข้างขวาของเธอถูกเขาจับไว้ในอุ้งมือ ตรงนั้นเป็นจุดอ่อนไหวของผู้หญิง เธอพยายามดึงเท้ากลับ “ปล่อย!” ฮั่วซือหานเองก็รู้สึกถึงความไม่เหมาะสม เขามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะปล่อยมือ เท้าเล็กขาวนุ่มถูกดึงกลับทันที แล้วเธอก็ซ่อนมันไว้ใต้กระโปรง ฮั่วซือหานลุกขึ้นนั่ง กลับเข้าสู่เรื่องหลัก “เรื่องนี้ฉันจะให้คนไปจัดการให้……” ฉือหว่านนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ปฏิเสธทันที “ประธานฮั่ว ขอบคุณในความหวังดีนะ แต่ไม่ต้องหรอก” ฮั่วซือหานหันมามองเธอ “ฉือหว่าน อย่ารู้จักดีไม่รู้จักชั่วนักเลย เธอคิดว่าฉันอยากยุ่งเรื่องของเธอหรือไง?” “ถ้าไม่อยากก็อย่ามายุ่ง ตั้งแต่คุณไล่ฉันออกจากคฤหาสน์ตระกูลฮั่ว วันนั้นเป็นต้นมา เรื่องของฉันก็ไม่ต้องให้คุณมายุ่งอีกแล้ว!” บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ตึงเครียดขึ้นมาทันที ฮั่วซือหานโมโหจนแทบคลั่ง ตอนนั้นเอง ฉือหว่านเลิกคิ้วเรียวขึ้น ดวงตากลมใสคู่นั้นก็เริ่มกวาดมองสำรวจตัวเขาอีกครั้ง “เมื่อคืนฉือเจียวป้อนคุณไม่อิ่มเหรอ?” ฮั่วซือหานชะงักไปทันที “ถ้าอิ่มแล้วคุณจะมายุ่งอะไรกับฉันอีกล่ะ? คุณก็แค่อยากช่วยฉันสักครั้ง แล้วก็หวังให้ฉันตอบแทน
ฉือหว่าน เธอจะเป็นเด็กดีบ้างไม่ได้เลยหรือไง?ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า หัวใจของฉือหว่านก็อ่อนยวบลงในทันทีฮั่วซือหานอยากให้เธอว่านอนสอนง่ายจริงๆสามปีของชีวิตแต่งงานที่ผ่านมา แม้ว่าเธอจะคอยดูแลเขาตอนที่เขาเป็นเจ้าชายนิทรา แต่เขาก็ให้ค่าตอบแทนเธออย่างดีในด้านวัตถุ แถมยังส่งเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย C เขาหวังจะจบความสัมพันธ์กับเธอแค่ตรงนี้แต่เธอที่มหาวิทยาลัย C ไม่ได้ว่านอนสอนง่ายสักนิด เมื่อคืนที่ห้อง VIP ในบาร์ เขาก็หงุดหงิดเพราะได้ยินเรื่อง “เทพแห่งการนอน” ของเธอไปแล้ว วันนี้ตอนประชุมก็ไม่เป็นอันประชุมอีก เพราะ “เทพแห่งการต่อสู้” อย่างเธอโดนเรียกผู้ปกครองฮั่วซือหานยังไม่เคยเจออะไรซวยๆ ขนาดนี้มาก่อนในชีวิตตอนนั้นเอง เด็กสาวที่กำลังนอนทับอยู่บนตัวเขาก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง “คุณก็ไม่ได้ชอบคนว่านอนสอนง่ายสักหน่อย”อะไรนะ?ฉือหว่านใช้สองมือเล็กๆ ยันบนแผงอกแกร่งของเขา แล้วค่อยๆ ยืดตัวขึ้น ดวงตากลมใสก้มลงมองใบหน้าหล่อเหลา “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ฮั่วซือหาน คุณน่ะ…ชอบผู้หญิงแรดๆ ไม่ใช่เหรอ”คิ้วเข้มของฮั่วซือหานขมวดเข้าหากันทันที เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดคำแรงๆ แ
ตั้งแต่เธอย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลฮั่ว เธอก็มาอยู่ที่นี่ ฮั่วซือหานเห็นเตียงเล็กๆ ของฉือหว่าน ผ้าห่มกับหมอนของเธอพับไว้อย่างเรียบร้อยดี แต่เมื่อกี้เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ชุดสายเดี่ยวสีขาวตกอยู่บนเตียง ฮั่วซือหานเหลือบมองแวบหนึ่ง ก่อนจะเบือนสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว เขาหันข้าง มองเด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ฉือหว่านอยากอธิบาย “วันนี้ฉันลงมือกับโจวเจิ้นอวี่เพราะว่า……” “ฉือหว่าน ฉันส่งเธอมาเรียนมหาวิทยาลัย C เพื่อให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษาทางการแพทย์ แล้วตอนนี้เธอกำลังทำอะไร? เรียนก็ไม่เรียน เอาแต่นอนในห้องเรียน เลิกเรียนก็ตีกับคนอื่น? เธอไม่จำเป็นต้องเก่งเหมือนฉือเจียว แต่เธอก็อย่าหาเรื่องได้ไหม ตอนนี้ตระกูลโจวเขาจะไล่เธอออกจากมหาวิทยาลัย C อยู่แล้ว! ฉันไม่ได้มีเวลามาคอยตามแก้ปัญหาให้เธอตลอดเวลาหรอกนะ!” ฮั่วซือหานที่อัดอั้นความโกรธมาตลอดทาง ตอนนี้ระเบิดออกมาหมด ด่าฉือหว่านเป็นชุด ฉือหว่านมองเขาที่กำลังเดือดดาล “……” เขาไม่คิดจะฟังคำอธิบายของเธอเลย ในสายตาเขา เธอก็คงเป็นแค่คนแย่ๆ คนหนึ่ง เทียบกับฉือเจียวไม่ได้เลยสักนิด เขาในตอนนี้ ต่างจากเขาเมื่อคืนในห้อง VIP บาร์โดยสิ
ฉือหว่านมองหัวหน้าฝ่ายปกครองด้วยความตกใจ “ไม่ใช่นะคะท่านหัวหน้า คุณโทรผิดแล้ว……”เสียงของเธอค่อยๆ เบาลง เพราะสายตาเธอถูกบดบังด้วยร่างสูงสง่าทรงอำนาจที่ก้าวมายืนตรงหน้าเธอ เงาทะมึนแผ่คลุมลงมาบนตัวเธอทันทีฮั่วซือหานใช้สายตาคมกริบดั่งมีดกวาดมองเยี่ยฮวนเอ่อร์แวบหนึ่ง ก่อนจะหันสายตามาจ้องฉือหว่าน “ใครเป็นคนเริ่มลงมือก่อน ก้าวออกมา!”ฮั่วซือหานเต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาล น่ากลัวจนเยี่ยฮวนเอ่อร์สะดุ้งแล้วแอบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เยี่ยฮวนเอ่อร์ยังแอบยื่นมือออกไป ดันตัวฉือหว่านไปข้างหน้าฉือหว่านพุ่งไปชนเข้ากับแผงอกของชายหนุ่มเต็มแรงอกเขาแข็งแกร่งเหมือนกำแพงเหล็ก เป็นกล้ามเนื้อที่แน่นเปรี๊ยะ เพราะเขารีบตรงจากห้องประชุมผู้บริหารมา ออร่าของซีอีโอระดับสูงยังคงแผ่ซ่าน ทำให้ใครก็ไม่กล้าขยับเข้าใกล้ฉือหว่านที่ชนเข้าไป ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที ตอนนี้เธออยากมีตาขึ้นด้านหลังเพื่อจะได้ถลึงใส่เยี่ยฮวนเอ่อร์สักที คนทรยศ!ส่วนสูงของฉือหว่านพอดีอยู่ตรงระดับอกเขาพอดี ฮั่วซือหานก้มลงมองเธอ “ยืนดีๆ!”อื้อฉือหว่านรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่งฮั่วซือหานสั่งเสียงเข้ม “เงยหน้าขึ้นมา!”ฉือหว่านเชื่อฟัง เงยหน้าข
ฮั่วเสวียนภูมิใจเป็นอย่างมาก มหาวิทยาลัย C คือถิ่นของเธอ การจัดการฉือหว่าน สำหรับเธอแล้วมันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ“พี่สะใภ้เจียวเจียว คราวนี้ฉือหว่านมาเที่ยวมหาวิทยาลัย C แค่สองวันเอง เรื่องนี้พวกเราหยิบมาเป็นเรื่องตลกหัวเราะเยาะเธอได้ทั้งชาติเลย……”…………ฮั่วซื่อกรุ๊ปในห้องประชุม VIP ที่โต๊ะประชุมยาวเรียงรายไปด้วยผู้บริหารระดับสูงของฮั่วซื่อกรุ๊ป ทุกคนมีบัตรประจำตัวสีน้ำเงินแขวนคอเอาไว้ วันนี้คือวันประชุมผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าฝ่ายการเงินกำลังรายงานผลการเงินในไตรมาสนี้ นอกจากเสียงรายงานของเขาแล้ว ทั้งห้องประชุมที่เคร่งขรึมและจริงจังแห่งนี้เงียบสนิทไร้เสียงอื่นใดฮั่วซือหาน ประธานฮั่วซื่อกรุ๊ป นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะประชุม วันนี้เขาสวมสูทสีดำที่ตัดเย็บพอดีตัว หล่อเหลาและเปี่ยมด้วยความสูงศักดิ์ เขาก้มตาหล่อเหลาลงอ่านรายงานในมือ ออร่าของผู้นำระดับสูงที่ไม่ต้องแสดงออกมาก็แผ่กระจายไปทั่วแต่แล้ว ในตอนนั้นเอง ประตูห้องประชุมก็ถูกผลักเข้ามา เลขาจ้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเลขาจ้าวยื่นมือถือให้ฮั่วซือหาน พลางพูดเสียงเบาอย่างลำบากใจ “ท่านประธาน……”การประชุมผู้บริหารระดับ VIP แบบนี้ เลข
พวกนั้นทั้งหมดพุ่งเข้าหาฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์...ไม่นานนัก ในโรงเรียนก็มีเสียงตะโกนดังลั่น “แย่แล้ว! มีคนตีกัน! มีคนตีกันแล้ว!”ท่านหลินกำลังตรวจงานอยู่ในห้องทำงานของอธิการบดี ได้ยินดังนั้นก็เดินออกมาทันทีพร้อมน้ำเสียงเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น?”“ท่านหลิน คุณชายโจวนำคนมารุมล้อมฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์... โดนหนักมากเลยครับ... ผมถูกกระชาก ใบหน้าก็ถูกข่วนจนเลือดซิบ...” นักเรียนชายพูดไปหอบไปอะไรนะ?สีหน้าท่านหลินเปลี่ยนไปทันที เขารีบวิ่งออกไปพร้อมกับหัวหน้าฝ่ายปกครองจากระยะไกล ท่านหลินก็เห็นภาพเหตุการณ์เต็มตา พวกสมุนทั้งหมดนอนกองอยู่บนพื้น ถูกยาสลบของฉือหว่านเล่นงานจนสลบไปหมด ส่วนโจวเจิ้นอวี่ถูกฉือหว่านกระชากผมกดลงกับพื้น เยี่ยฮวนเอ่อร์ก็ช่วยกันข่วนหน้าของเขาอย่างเมามันโจวเจิ้นอวี่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บ “โอ๊ย! ผมฉัน! โอ๊ย! หน้าฉัน!”ท่านหลิน “……”เมื่อกี้เขายังนึกว่าฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์ถูกซ้อมซะอีก ที่ไหนได้ สองคนนี้กลับเป็นฝ่ายกดหัวโจวเจิ้นอวี่ลงกับพื้น ซ้ำยังกระชากผมเขาซะยุ่งเหยิงใครๆ ก็ว่า ในใต้หล้า สตรีหญิงกับคนเลว เป็นสิ่งที่จัดการยากที่สุด สตรีเวลาเปิดศึกก็โหดไม่แพ
นี่คือสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนมากตอนนั้นเอง ฮั่วซือหานก็ก้าวขายาวๆ ออกไป เขาสั่งให้เลขาจ้าวไปจัดการเรื่องรถแล้วเสี่ยวเยาคนนั้นช่างเป็นที่รักของเขาจริงๆ แค่เสี่ยวเยาโทรมา เขาก็รีบทำให้ทันทีเธอต้องรู้ให้ได้ว่าเสี่ยวเยาเป็นใครเธอต้องกลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเสี่ยวเยาให้ได้!…………ฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์ยังยืนอยู่ริมถนน ไม่นานรถหรูโรลส์รอยซ์ก็แล่นมาจอดเทียบตรงหน้าคนขับเปิดประตูหลังด้วยท่าทีเคารพ ฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์ขึ้นรถไปด้วยกันฉือหว่านอึ้ง “ฮวนเอ่อร์ ลูกพี่ลูกน้องของเธอรวยขนาดนี้เลยเหรอ?”โรลส์รอยซ์ รถประจำตัวของฮั่วซือหานก็เป็นยี่ห้อนี้เหมือนกัน หรือว่ายี่ห้อนี้จะเป็นแบรนด์โปรดของพวกผู้ชายเลวๆ?เยี่ยฮวนเอ่อร์หัวเราะ “ใช่ ก็รวยใช้ได้เลย หวานหว่าน ฉันแนะนำเธอให้รู้จักลูกพี่ลูกน้องของฉันดีไหม เธอมาเป็นพี่สะใภ้ของฉันเถอะ”อะไรนะ อะไรนะ?ฉือหว่านรีบปฏิเสธ “ขอบคุณนะฮวนเอ่อร์ แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ฉันขอผ่านดีกว่า ฉันไม่คู่ควรหรอก”เยี่ยฮวนเอ่อร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่หวานหว่านเอ๋ย เธอก็เป็นพี่สะใภ้ของฉันอยู่แล้วนี่ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็คือฮั่วซือหานไง!…………วันรุ่งขึ้น