มินตราฟังเขาเงียบๆ แต่มือก็พับเสื้อเก็บลงกระเป๋าพร้อมกับพูดกับเขา
“แต่มีนมีงานด่วนที่ต้องรีบเข้าไปสะสางค่ะ”
“ผมเป็นหมอเจ้าของไข้ ผมเป็นคนตัดสินใจ”
“แต่มีนมีความจำเป็นจริงๆค่ะ ถ้าแผลไม่หายดีหรือเกิดการติดเชื้อ มีนค่อยกลับมาก็ได้ คุณหมอเซ็นให้มีนออกจากโรงพยาบาลเถอะค่ะ หมอเองก็มีคนไข้คนอื่นที่ต้องดูแลไม่ใช่เหรอคะ ที่สำคัญ คุณคงรำคาญมีนมามากพอแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น หรือว่า…เพราะว่า…”
“มีนบอกแล้วยังไงละคะ มีนต้องรีบไปทำงาน นี่มีนหยุดมาเกือบสิบวันแล้วนะคะ ทำไมคะ หรือหมออยากได้ของขวัญจากมีนอีกงั้นเหรอคะ มีนส่งให้คุณหมอได้ทุกวันเลยนะคะ”
“คนไข้ครับ นั่งและตั้งสติฟังหมอก่อนนะครับ ที่ผมไม่อนุญาตให้คุณออกในตอนนี้เพราะแผลคุณมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย แผลที่หน้าผากก็ยังไม่แห้งเราก็ต้องรักษาต่อเนื่อง และพรุ่งนี้คุณก็ต้องเขาสแกนอีกครั้งดูว่ามีอาการแทรกซ้อนอื่นๆหรือไม่ นี่คือหลักการในการรักษาครับ ฟังหมอนะครับ”
“มีนกลับมาสแกนได้นี่คะ หรือไม่ก็สแกนตอนนี้และรอฟังผลเลย แต่ยังไงมีนก็จะออกจากโรงพยาบาลค่ะ”
“คุณมินตรา ผมขอเหตุผลที่คุณต้องการจะออกจากที่นี่ นอกจากเหตุผลเรื่องงานที่ฟังไม่ขึ้นนี่ด้วย”
“มีนหายแล้วค่ะคุณหมอ และมีนไม่ต้องการอยู่อุดอู้ที่นี่อีก งานที่รอสะสางของมีนมีมากและตอนนี้ผู้บริหารคนอื่นๆก็ไม่อยู่ รบกวนคุณหมอ ช่วยเข้าใจมีนด้วยนะคะ”
“หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ผมจะอนุญาตให้คุณออกได้ แต่ตอนนี้บาดแผลของคุณ….”
มินตรารู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่เพราะเขาเป็นหมอที่เรียนและรักษาตามหลักวิชาการทุกกระเบียดนิ้ว นอกจากเธอจะทำบางอย่างที่เขาจะทนไม่ได้
มินตราหลับตาและกลั้นใจทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะกล้าทำมาก่อน แต่ยังไงเธอก็จะตัดใจอยู่แล้ว แค่ครั้งเดียวคงไม่เป็นไร
“บาดแผลต้องได้รับการดูแล อุ๊บ…”
มินตราประกบปากไปที่ปากหนานุ่มของหมอกวินทร์ทันทีเพื่อให้เขาหยุดพูด เธอรุกล้ำอาจหาญขนาดส่งลิ้นเข้าไปในปากเขา
หมอหนุ่มตัวแข็งทื่อเพราะทำตัวไม่ถูก มินตราบดขยี้เขาเพิ่มไปอีก แต่น่าแปลกที่เขาไม่ผลักเธอเสียที ทำไมเขาไม่รีบผลักเธอเสียทีนะ
(“อีตาหมอนี่ทำไมแข็งทื่อแบบนี้ละ หรือว่าช็อกไปแล้ว”) มินตรานึกในใจ เธอต้องเป็นฝ่ายถอนปากออกมาแทนเพราะเขาไม่ผลักเธอออก หลินหันไปมองเขาที่ยืนตกตะลึงอยู่ตรงหน้า และเริ่มแผนการต่อทันที เธอเดินเข้าไปโอบรอบคอเขา
“หมอคะ หรือว่าเราควรจะทำอะไรส่งท้ายกันดีคะ เอาเป็นว่ามีนให้รางวัลหมอสักหน่อยดีไหมคะ ว่ายังไงคะ”
“ออกไปห่างๆผม”
“ทำไมละคะ คุณหมออยากให้มีนอยู่ไม่ใช่เหรอคะ คุณหมอเริ่มสนใจ เริ่มหวั่นไหวมีนขึ้นมาแล้วสินะคะ มีนเข้าใกล้ขนาดนี้คุณหมอรู้สึกอะไรบ้างไหมคะ แต่มีน…ต้องการ....”
“ผมบอกให้ออกไป!!”
ครั้งนี้เขาผลักเธอออย่างแรงจนมินตราล้มไปที่โซฟา เธอหันมายิ้มให้เขาพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้ง
“คุณหมอคะ อย่าหลอกตัวเองสิคะ เมื่อกี้นี้มันก็ออกจะดีไม่ใช่เหรอคะ”
“ผมจะเซ็นให้คุณออกจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ออกไปห่างๆผม”
“หมอขิมคะ…”
“ออกไป!! สกปรก!!”
มีนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เมื่อหมอกวินทร์ดันตัวเธอออกและเดินออกไปและทิ้งเธออยู่ตรงนั้น “สกปรก” งั้นเหรอ หึ ถูกแล้วที่มันต้องเป็นแบบนี้ เขาจะได้ให้เธอออกไปจากที่นี่เสียที ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเธอเป็นใครหรือเขาอาจจะรู้แล้วก็ได้
เธอรีบออกไปก่อนจะดีกว่า หากว่าพวกเขาร่วมมือกัน ไม่นานคิดว่าไตเธอคงถูกแย่งชิงไปเป็นแน่ ซึ่งเธอไม่มีทางยอม สิ่งนี้เป็นสิ่งต่อรองเพียงอย่างเดียวที่เธอเหลืออยู่ เพื่อจะทวงความยุติธรรมของแม่เธอคืน
“คุณมีนคะ เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ได้เอกสารมาหรือยัง”
“ค่ะ คุณหมอเซ็นให้แล้วและรีบเข้าห้องพักไปค่ะ”
“เขาพูดอะไรหรือเปล่า”
“ไม่นะคะ เพียงแต่บอกว่า…”
มีนหันไปมองหน้าริต้าที่ยืนหน้ากังวลอยู่แต่เธอก็รอฟัง
“คุณหมอบอกว่าจะไปฆ่าเชื้อโรคค่ะ”
“หึ เฮ้อ....เก็บของเถอะ แล้วรีบไป คิดถึงเตียงที่บ้านจะแย่แล้ว”
มินตรารีบทำทีว่าจะเก็บของแต่ที่จริงเธอแอบกลั้นความเสียใจไว้ ริต้ารู้ดีว่าเธอรู้สึกอย่างไรแต่ก็พยายามทำเป็นเก็บของช่วยเธอและไม่สนใจเธอ ถึงกับบอกว่าไปฆ่าเชื้อ เขายังเป็นกวินทร์คนเดิมเมื่อหลายปีก่อน ปากร้าย ไม่รักษาน้ำใจ รอยยิ้มนั่นที่เธอไม่มีวันได้จากเขา จบสิ้นเสียทีกับรักแรกในรั้วมหาลัย จบใจเธอเสียที อะไรที่ควรทำก็ทำหมดแล้ว จากนี้จะได้เดินหน้าต่อไปได้แล้ว
ห้องพักแพทย์
กวินทร์กลับมาล้างหน้าเพื่อเรียกสติ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หัวใจเขาเต้นแรงผิดปกติตั้งแต่เดินเข้าไปหาเธอในห้อง และยกสารพัดเหตุผลที่จะไม่ให้เธอออกจากโรงพยาบาล แต่เธอกลับมาจูบเขาและยั่วโมโหเขาจนเขาทนไม่ไหว
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย หยุดเต้นแรงสักทีสิวะ!”
เขาไม่แน่ใจว่าเซ็นให้เธอออกไปเพราะโกรธหรือว่าโมโหท่าทีของเธอที่ทำกับเขากันแน่ ทั้งๆที่เขาบอกเองว่าเขาอยากให้เธอออกจากโรงพยาบาลไปได้เสียทีจะได้ไม่ต้องโมโหทุกครั้งที่เข้าห้องพักไปแล้วเจอกองของขวัญที่วางไว้ในห้องเขาเกือบทุกวันตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่เกือบสิบวัน เขารำคาญจะแย่แล้ว
“ออกไปได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องทำตัวน่ารำคาญเกะกะอยู่แถวนี้อีก”
ริต้าลากกระเป๋าออกจากห้องพัก พร้อมกับมินตราที่เปลี่ยนชุดพร้อมกับเสื้อคลุมและสวมแว่นดำเดินตามออกมา เธอแวะมาบอกลาแก้วตาที่เคาน์เตอร์ แต่วันนี้อ้อนไม่อยู่เพราะเปลี่ยนเข้ากะดึกเลยไม่เจอเธอ
“โชคดีนะคะคุณมีน ไว้มาเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ”
“พี่แก้วตาคิดถึงขนมของมีนสินะคะ ไม่ต้องห่วง มีนจะแวะให้คนมาส่งให้บ่อยๆ ขอบคุณที่ดูแลมีนอย่างดีนะคะ”
“ยินดีมากๆเลยค่ะ”
หมอขิมเดินออกมาพอดีที่เห็นว่ามินตรายืนอยู่ มินตราเห็นว่าเขาเดินออกมาแล้วเธอจึงรีบเดินออกไป
“เดี๋ยว….เดี๋ยวก่อน”
เขาพูดเพียงเบาๆแต่เธอไม่ได้ยินและไม่ได้มองหน้าเขาสักนิด เขาเองก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเธอเพราะอีกสองวันเธอเองก็ต้องกลับมาหาเขาอีกครั้งตามตารางเวลานัดหมายที่ให้ไว้
“คุณหมอคะ รายงานการตรวจค่ะ แล้วนี่คือประวัติของคุณแพรวาค่ะ”
“อ้อ ขอบใจนะแก้วตา”
เขารับแฟ้มและเดินไปที่ห้องประชุมเล็ก ซึ่งต้องขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับที่เธอจะต้องลงไป เมื่อลิฟต์มาถึงริต้าก็เดินเข้าไปก่อน เขาตัดสินใจในช่วงสุดท้าย ดึงมินตราออกมาและปิดประตูลิฟต์ให้ริต้าลงไปก่อน
“คนไข้ครับ ผมลืมแจ้งบางอย่างกับคุณ คุณลงไปก่อนเดี๋ยวผมจะไปส่งคนไข้เองครับ”
“เอ่อ คุณมีนคะ”
“คุณหมอ มีอะไร อ้าว ริต้า….”
ประตูลิฟต์ปิดแล้ว มินตราหันมามองหน้าหมอหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเธอด้วยความแปลกใจ เธอเดินถอยออกมานิดหน่อยเพื่อเว้นระยะห่างเพราะอย่างไรจากนี้เธอจะต้องตัดใจจากเขาให้เด็ดขาด
“คุณมินตรา ผมมีธุระอยากจะคุยกับคุณสักครู่”
“คุณหมอมีธุระอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ มีนจะรีบกลับบ้าน”
“เชิญทางนี้ครับ”
มินตรากอดอกและเดินตามเขาไปยังห้องประชุมเล็กในโซนของแพทย์ ซึ่งเธอไม่เคยมาที่นี่ เขาเปิดประตูห้องให้เธอเข้าไป พร้อมกับปิดประตูล็อคทันทีพร้อมกับเธอที่มองอยู่อย่างนึกแปลกใจ
“เชิญนั่งสิครับ”
“หมอคะ อย่าบอกนะว่าจะต่อเรื่องเมื่อครู่นี้ บอกมีนตรงๆก็ได้นี่คะ ที่ห้องของคุณมีนก็ไม่ติดหรอก”
หมอขิมขยับออกห่างจากตัวเธอ ห่างมากพอพร้อมเอาเก้าอี้มาคั่นระหว่างเขาและเธอเอาไว้ เขานั่งลงพร้อมกับมินตราที่นั่งลงตามเขา
“มีธุระอะไรคะ”
“คุณรู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณแพรวา นิวัติวงศ์”
มินตรานิ่งไปทันที นี่หรือเรื่องที่เขาอยากจะคุยกับเธอ เรื่องของแพรวา ที่สุดแล้วเขาก็รู้จนได้สินะว่าเธอคือเป้าหมายที่คนพวกนั้นอยากจะได้ไตเพื่อไปรักษาแพรวา“คุณหมอมาถามเรื่องนี้ทำไมคะ”“ผมพึ่งได้รับเคสคนไข้มา และ…”“มีนไม่มีอะไรจะคุย เรื่องคนไข้ของคุณหมอก็ดี หรือเรื่องอาการป่วยของเธอก็ช่าง ทุกอย่างนี้ไม่เกี่ยวกับมีน ขอตัวค่ะ”“คุณมินตรา!! หยุดก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องนั้น ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงไปมีเรื่องกับญาติผู้ป่วยของผม”“ผู้ป่วยของผม” หึ ใช่สิ ตอนนี้แพรวาคือคนไข้ของเขา และเขาคือหมอเจ้าของไข้และคงเลื่อนขั้นเป็นอย่างอื่นในเร็ววันนี้ เธอไม่ได้หันไปมองเขาอีก“ไม่มี เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน คุณหมออย่าได้เอาเรื่องนี้มาถามอีกเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วมีนขอตัว ริต้าคงรออยู่ข้างล่างนานแล้ว ลากันตรงนี้เลยก็แล้วกันนะคะ”“เดี๋ยวครับ”มีนเดินไปบิดลูกบิดประตู แต่หมอขิมดันประตูห้องประชุมเอาไว้ไม่ให้เธอเปิดพร้อมกับมือที่เอื้อมไปจับมือเธอที่ลูกบิดเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอเปิดประตู มินตรารู้สึกเริ่มไม่ปลอดภัย เธอจึงต้องโจมตีเขาก่อนเพื่อให้เขายอมปล่อย“หมอคะ ปล่อยค่ะ”“ผมยังคุยกับคุณไม่จบ”มีนจำเป็
มือถือคีมที่ชุบแอลกอฮอล์ไว้ชะงักลงทันทีเมื่อเธอรับสายคนแปลกหน้า เขาไม่ควรรู้สึกอะไรกับคนไข้ แต่ก็…..“เจ็บหน่อยนะครับ”มินตราไม่ได้ตอบอะไรระหว่างที่เขาแตะแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อ เธอไม่ได้มองหน้าเขา ในตอนนี้เองที่หมอกวินทร์เผลอมองใบหน้าขาวเนียนนั่นโดยไม่รู้ตัว เขาพึ่งสังเกตว่าขนตาเธองอนยาวสวยแค่ไหน แก้มเธอขาวมากเพียงใด และ…ริมฝีปากนั่นก็…..“หมอจะใส่ยาให้นะครับ”“ค่ะ”มินตราตอบกลับไปเพียงเท่านั้น เขาพึ่งรู้ว่าดวงตากลมโตนั้นมีเสน่ห์เพียงใดเมื่อได้มองแบบนี้ เขาไม่รู้มาก่อนว่าคนตรงหน้านั้นน่ารักมากเพียงใดเมื่อเธอไม่คอยวุ่นวายและพูดมากๆ ถามสิ่งที่เขาไม่อยากตอบ จนทำให้เขาอยาก….นึกจูบเธอขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับที่เธอ….เคยทำกับเขา ....“เจ็บเหรอครับ”หมอขิมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้คนที่ถูกถามทำหน้าไม่ถูก และแอบหวั่นไหวไปกับน้ำเสียงนั้น“นิดหน่อยค่ะ แผลยังไม่แห้งอีกเหรอคะ มีพลาสเตอร์แปะแบบนี้ ไปไหนอายเค้าแย่เลยค่ะ”“งั้นวันนี้หมอจะเปลี่ยนเป็นพลาสเตอร์ใสให้นะครับ เห็นแค่ผ้าซับนิดเดียว จะได้ทำอะไรสะดวกมากขึ้น”“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ แล้วตกลง ต้องมาโรงพยาบาลอีกเหรอคะ”“อืม
“เอ๊ะ แต่ว่าน้องแพรกินยานี้มานานมากแล้วนะคะ”“และบางครั้งก็กินเกินขนาด และกินติดต่อกันมานานแล้ว ใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ แต่อาการก็ไม่หายเสียที”“พวกคุณรักษาผิดทางมาตั้งแต่แรก รักษาแบบมักง่ายเอายาแรงมากินเพื่อให้อาการหาย แต่นั่นไม่ได้ทำให้อาการผู้ป่วยดีขึ้น แต่มันแค่ไปหยุดภาวะนั้นเอาไว้ชั่วคราว ไม่ใช่การรักษา และยานี่เป็นยาอันตรายและส่งผลกับไตโดยตรง หากว่าก่อนหน้านี้มีแค่โรคหอบ และเลือกรักษาด้วยวิธีปกติตั้งแต่แรกก็คงไม่มีโรคไตวายเฉียบพลันเข้ามาหรอกครับ”บงกชอ้าปากค้าง เหมือนว่าเป็นเรื่องที่คุณหมอแค่อธิบายให้เธอฟัง แต่ทำไมฟังดูแล้วเหมือนกับด่าพวกเธออย่างรุนแรง แม้แต่คนที่นอนป่วยอยู่ก็ถึงกับลุกขึ้นมา“พี่ขิมคะ อย่าไปตำหนิคุณแม่เลยค่ะ เป็นเพราะแพรไม่ดีเองที่ไมรักษาสุขภาพจนต้องเดือดร้อนคนอื่น พี่มีนเกลียดแพรก็ถูกแล้วค่ะคุณแม่ อย่าโทษพี่หมอเลยค่ะ"เขาหันไปมองคนที่เริ่มน้ำตาคลอที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับแสดงท่าทางน่าสงสารนั่น"ผมจะเสนอแนววิธีการรักษา อันที่จริงแล้วอาการป่วยของคุณแพรวาไม่ได้รุนแรงถึงขนาดที่จะต้องปลูกถ่ายไตหรือรับไตจากคนอื่นขนาดนั้น แค่หยุดยาแก้โรคหอบนี่และหันไปรักษาอย่างถูกวิธีก็ร
บ่ายวันนั้น“ครับคุณพ่อ อะไรนะครับ แต่ว่าตอนบ่ายผมมีนัดคนไข้เอาไว้…. ก็ได้ครับที่ไหนครับ ได้ครับ”สายด่วนจากคุณเกริกเกียรติทำให้กวินทร์ต้องรีบจัดแจงและถอดเสื้อกาวน์และเดินออกจากห้องพักแพทย์ทันทีร้านอาหาร“ขิม ทางนี้ลูก”กวินทร์เดินไปหาคุณพ่อที่มาถึงก่อนหน้านั้นพร้อมกับ….“คุณภูวดล สวัสดีครับ”“สวัสดีหลานชาย ขอโทษที่ต้องรบกวนเวลานะ”“ครับ คุณพ่อ เรียกผมมามีอะไรเหรอครับ”“คุณภูวดล ลองคุยกับตาขิมเถอะครับ เรื่องนี้ผมคงตัดสินใจเองไม่ได้”กวินทร์หันไปมองหน้าภูวดลสลับกับพ่อของเขาที่เป็นรองผู้อำนวยการที่โรงพยาบาล “คือว่า ลุงมีเรื่องอยากจะขอให้คุณหมอช่วย อาการของแพรวาถึงขั้นวิกฤตแล้ว ตอนนี้ต้องจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นลุงเลยจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคนคนหนึ่ง”“คุณภูวดลหมายถึงใครเหรอครับ”แม้เขาจะทราบอยู่แล้วว่าภูวดลหมายถึงใคร แต่เขาจะช่วยในเรื่องนี้ได้ยังไงในเมื่อมินตราเองก็เข้าใจผิดเขาอยู่ในเรื่องนี้เช่นกัน“คือลุงแค่..ลุงแค่อยากไปคุยกับลูกสาวอีกคน แต่ว่า…เรื่องของลุงกับลูกสาวคนนี้..มินตราน่ะ คนที่เคยเป็นคนไข้ของคุณหมอ”“คุณมินตราเป็นลูกของคุณลุงงั้นเหรอครับ แต่ทำไมวั
เสียงซุบซิบรอบข้างดังขึ้นอีกครั้ง แต่มินตราไม่ได้สนใจแต่ยิ้มเยาะให้คนที่ยืนด่าเธออยู่“น้อง…คนละแม่….ขอโทษนะ ฉันไม่มีพ่อมีแต่แม่ เธอก็ให้ได้นี่ เป็นแม่ไม่ใช่เหรอไตข้างเดียวเสียสละให้ลูกสิ”“แก!! หากว่าฉันแข็งแรงกว่านี้คงไม่มาขอร้องแกหรอก”“คุณใช้ท่าทางข่มขู่แบบนี้ เรียกว่าขอร้องงั้นเหรอ นี่ถ้าฉันไม่รู้ว่าคุณมาจากซ่องมาก่อนก็คงคิดว่าเป็นแม่ค้าปากตลาด”“อีมีน อีชั่ว แกกล้าดียังไง”“แล้วแกละ กล้าดียังไงมาเรียกร้องขอไตจากคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม ไปให้พ้นหน้าฉันซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับแก วันนี้ฉันไม่ได้ป่วยนะ อีแก่!!”“หึ สันดานไพร่ เถียงคำไม่ตกฟาก ก็เข้าใจได้ละนะ ไม่มีแม่คอยสั่งสอนนี่”หมอกวินทร์คิดว่านั่นคือคำพูดที่แรงเกินไปแล้ว เขาจะเดินเข้าไป แต่ไม่ทันเพราะมินตราที่โกรธจัดในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอซัดหมัดเต็มแรงไปที่ท้องของบงกชและใช้ศอกซัดลงไปที่หลังของเธออย่างแรง กาแฟที่เธอไปซื้อมาตกกระจายที่พื้นพร้อมกับเท้าที่สวมส้นสูงของมินตราที่เหยียบอยู่ที่หลังของเธอและก้มลงไปจิกผมที่ศีรษะของบงกชขึ้นมา“แกน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าที่ฉันไม่มีแม่ เป็นเพราะอีชาติชั่วคนไหนเป็นต
“เรื่องดูหนังน่ะเรื่องเล็ก แต่ว่าอาการของมีนนะสิ”“หมอกวินทร์เขาชำนาญเรื่องนี้ และเขาก็ดูแลอาการป่วยของมีนมาตั้งแต่แรก กรกลับไปก่อนเถอะ อย่าทำให้คุณหมอลำบากใจเลย เราเสียเวลามามากแล้ว”“ก็ได้ งั้น…กรกลับก่อนนะ”“ขอบใจนะกร”ปกรณ์เดินออกจากห้องตรวจแล้วหมอมีนจึงได้เดินไปปิดห้องอย่างแรงพร้อมกับล็อคประตูทันทีและหันกลับมามองเธอ“หมอ จะทำอะไรคะ”“ทำแผล ไปนั่งที่เตียงครับ”มินตราเดินกลับไปนั่งที่เตียงพร้อมกับหมอขิมที่หันเอาอุปกรณ์ทำแผลมาเปลี่ยนให้เธอ มือเขายังไม่หยุดสั่น“หมอคะ แน่ใจนะคะว่าหมอไหว ทำไมมือคุณหมอสั่นแบบนี้ละคะ”“ผมรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ คุณต่างหากที่ไม่รู้”“หมอหมายความว่าอะไรคะ”“อยู่นิ่งๆแล้วหยุดพูด ผมจะเริ่มแกะแผลแล้ว”มินตรารู้สึกงุนงงกับท่าทีผีเข้าผีออกของเขา เมื่อครู่ยังถามเธอด้วยความเป็นห่วงและคุยกันดีๆอยู่เลย มาตอนนี้กลับมาเสียงแข็งเป็นหมอโหดคนเดิมอีกแล้ว“ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะที่ทำลายเดทสำคัญในวันนี้ของคุณ น่าเสียดายสินะที่ไม่ได้ไปดูหนัง”“ก็ใช่ว่าจะไปได้วันเดียวนี่คะ วันอื่นก็ยังมี”มือเขาที่จุ่มแอลกอฮอล์ไปชะงักลง นั่นสิ เธอไม่ไปวันนี้ก็ไปวันอื่นได้ นี่เขาคิดอะไรอยู่ “หน
มินตราตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอน่าจะรู้แต่แรกว่าที่เขาเข้ามาทำดีกับเธอ ทั้งหมดนี้ก็เพราะแพรวา…“ผมไปเป็นว่าที่คู่หมั้นลูกสาวคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ จะบอกเอาไว้ให้ชัดเจน ผมไม่เคยและจะไม่มีทางเป็นว่าที่สามีของใคร ผมกับลูกสาวคุณเกี่ยวข้องกันแค่หมอกับคนไข้ และขอโทษด้วยที่หลังจากวันนี้ ผมจะขอถอนตัวจากเจ้าของแพทย์ของแพรวา ขอตัวก่อน มีน ไปกับผม”“ไม่ค่ะ มีน..”ไม่! มีน ผมต้องคุยกับคุณ คุณต้องไปกับผมเดี๋ยวนี้”“ไม่…”มินตราพูด แต่เธอก็ไม่มีแรงพอที่จะต่อต้านเขา กวินทร์อุ้มเธอมาที่ลิฟต์และกดขึ้นชั้นยี่สิบแปดทันที“จะไปไหนคะ”“ห้องพักของผม เราต้องคุยกัน”“แต่มีน…ไม่อยากคุย”“งั้นก็ฟังเฉยๆก็ได้”“ไม่....ไม่มีประโยชน์ มีน…ไม่เชื่อคุณ”เขาไม่ตอบเธอ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัว เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต กลัวว่าเธอจะหายไปและไม่ฟังเขา สิ่งที่เธอได้รับมาตลอดหลายวันนี้ ทั้งที่เขาเห็นและไม่เห็น มันทำให้เขารู้สึกไม่อยากปล่อยเธอไป ไม่อยากให้เธอพบเจอเรื่องเลวร้ายนี่คนเดียวอีกต่อไป และแน่นอนว่าสิ่งแรกที่เขาจะทำในวันพรุ่งนี้ คือการถอนตัวออกจากแพทย์ที่ดูแลอาการป่วยของแพรวาห้องหมอขิมเขาวางเธอที
“หมอคะ นี่หมอ”“ไม่ได้เหรอ”“ไม่ใช่ค่ะ แต่ว่า ขอเป็นแฟนแล้วจะกินเลยเหรอคะ”“ช้ากว่านี้ผมกลัวโดนแย่งน่ะสิ”“ว้าย หมอ!!”เขาอุ้มตัวแฟนสาวหมาดๆเข้าไปที่ห้องนอนทันทีพร้อมกับวางเธอลงที่เตียงนุ่ม โดยไม่รีรอเมื่อเขากดจมูกโด่งได้รูปนั่นฝังไปที่แก้มเธอไม่ยั้งและมาหยุดที่ริมฝีปากนุ่ม มือเรียวโอบรอบคอเขาพร้อมกับดึงเขาเข้ามาใกล้ เธอยังไม่อยากจะนึกว่ามันคือเรื่องจริง จนเขาลุกขึ้นมาและถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกนั้นออก“หมอคะ….”“คุณรีบพูดมาตอนนี้ เพราะหลังจากนี้ผมจะไม่ให้โอกาสคุณได้พูดอีก”“เรา…ไม่….อาบน้ำก่อนเหรอคะ หมอเคยบอกว่า…มีนสกปรก”“นั่น…คุณยังจำได้อีกเหรอ”มีนดันตัวขึ้นมานั่งและมองหน้าเขา“จำได้ไม่ลืมเลยค่ะ มีนเลยจะตัดใจเพราะคำนั้น”“แต่หลังจากนั้นคุณก็จูบผมอีก”“นั่นเพราะจะให้คุณปล่อยมีน ไม่งั้นคุณก็หาเรื่องให้มีนอยู่ต่อ มีนไม่ไว้ใจคุณคิดว่าคุณจะหลอกเอาไตมีนไป”“แบบนี้นี่เอง แต่ที่ตอนนั้นผมพูดออกไปไม่ได้คิดแบบนั้น ผมแค่ปฏิเสธหัวใจตัวเอง ไม่อยากยอมรับว่าชอบคุณ และคุณก็ยั่วโมโห ผมก็เลยพลั้งปากพูดออกไป”“แบบนี้นี่เอง เห็นริต้าบอกว่าคุณจะไปฆ่าเชื้อ”“ผมพูดเพราะโมโห แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่โมโหจริงๆที่
ปกรณ์ตื่นมาในตอนเช้าและคว้าไปที่ที่นอนข้างๆ สงครามบนเตียงของเขากับริต้าจบลงเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน เขารู้แน่ว่าครั้งนี้ต้องทำอะไร จากที่สับสนในหัวใจมานานว่าเขาชอบใครกันแน่“ริต้า!! ไปไหนแล้วละ”เขาเด้งตัวที่เปลือยเปล่าพร้อมกับเดินออกไปอาบน้ำทันที เขาเห็นว่าริต้าเก็บชุดให้เขาแล้วก่อนจะออกไป เมื่อถูกน้ำอุ่นที่รดศีรษะลงมาจึงได้เริ่มเข้าใจว่าเมื่อคืนนี้เป็นคืนที่ดุเดือดจริงๆเธอทิ้งทั้งรอยจูบและรอยกัดไปทั้งตัวเขา แต่เขากลับรู้สึกชอบมันมากกว่าจะรู้สึกรังเกียจ แต่ตอนนี้เขาต้องเร่งเดินหน้าจีบริต้าและให้เธอยอมรับเขาเร็วๆเสียทีบริษัทของมินตรา“วันนี้คุณมีนไม่มาทำงานเหรอครับ”“วันนี้คุณมีนมีนัดลูกค้าข้างนอกค่ะ”“แล้วคุณริต้าละ”“อยู่ในห้องทำงานค่ะ”“อ้อ งั้นผมไปหาเธอเอง”“แต่ว่าคุณริต้า…กลังมีแขก…ค่ะ”ปกรณ์ไม่ทันได้ฟังจบเขาก็เดินเข้าไปที่ห้องของเธอทันที เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่าเธอกำลังจับมือกับอีกฝ่ายอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปปัดมือผู้ชายคนนั้นออกทันที“นี่คุณทำอะไรเมียผมน่ะ ผมจะแจ้งความ”“ปล่อยนะคะคุณปกรณ์ นี่ใครปล่อยให้คุณเข้ามาในนี้ ขอโทษด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ อารมณ์หนุ่มเลือดร้อนก็เป็นแบ
ผับชื่อดัง“คุณปกรณ์คะ คุณเมาแล้วนะคะ”“ริต้า ทำไม เป็นเพราะอะไร ผมด้อยกว่าหมอคนนั้นตรงไหน ทำไมมีนถึงไม่เลือกผม”“คุณปกรณ์คะ เรื่องนี้คุณมีนบอกคุณไปแล้ว”“ผมรู้ ผมรู้แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ไม่สิ ผมรู้สึกเสียหน้า รู้สึกเสียใจและ….ทำไม”“กลับเถอะค่ะ ริต้าไปส่งคุณเอง”“ทำไมคุณต้องคอยมาดูแลผมด้วย”“เป็นคำสั่งคุณมีนค่ะ”“หึ คุณนี่ ทำทุกอย่างที่มีนสั่งอย่างตั้งใจจริงๆ”“ไปเถอะค่ะ”ริต้าประคองปกรณ์ที่แทบจะเดินไม่ไหวออกจากผับไปที่รถ เมื่อเขานั่งได้และเธอเดินมาที่นั่งคนขับและดึงเข็มขัดมาคาดให้เขาอย่างระวัง มือหนานั้นรีบคว้าแขนเธอทันที“ริต้า…ถ้ามีนสั่งให้คุณนอกนกับผม คุณก็จะทำงั้นเหรอ”“คุณปกรณ์คะ คุณเมาแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ ริต้าจะขับรถ”“ตอบผมมาก่อนสิ คุณจะทำไหม”“ปล่อยริต้าค่ะ ไม่อย่างนั้น....”เขายอมปล่อยเธอทันที แม้จะเมาแล้วแต่เขาไม่มีทางลืมวิชาหมัดมวยของริต้า เธอเก่งทุกวิชาการต่อสู้จนเขาไม่กล้า เมื่อเขาปล่อยแล้วริต้าจึงรีบขับรถมุ่งตรงไปที่คอนโดของปกรณ์ทันที “ถึงแล้วค่ะ คุณปกรณ์คะ”ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้ว ริต้าเลยต้องเดินไปเปิดประตูและพยุงเขาขึ้นลิฟต์ไปจนถึงห้องและเปิดประตูเพื่อพาเขาเข้าไปในห
หนึ่งเดือนถัดมา “หมอคะ ชุดนี้”“โป๊ไป ไม่เอา”“แล้วชุดนี้”“แหวกลึกเกิน”“ชุด..”“สั้นไป”“เอ่อ.…”“ทำไมต้องมีรูด้านข้างด้วย”“หมอ!! ตกลงจะได้สักชุดไหมคะ หาทั้งตู้แล้ว”“ไปซื้อใหม่ เดี๋ยวผมพาไป”“แต่มันจะใกล้วันแล้ว”“ชุดพวกนี้ไม่ผ่านเลยสักชุด ไม่โป๊ไปก็โชว์สัดส่วนไป ทำไมคุณชอบมีแต่ชุดแบบนี้นะ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นว่าจะใส่แบบนี้เลย”“ก็ใส่เพื่ออ่อยคุณไงละคะ”“งั้นเหรอ ผมไม่เคยเห็นสักครั้ง”“ใช่สิคะ ก็คุณตอนนั้นเคยมองมีนเสียที่ไหนกัน”“ที่จริงอ่อยผมไม่ยากเลย แค่สวมชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียวก็อ่อยได้แล้ว”“ทะลึ่ง!!”“งั้นชุดนี้ละคะ เข้ากับสีชุดของคุณด้วย”“อืม เข้าท่านะ เดรสสั้นสีครีมดูเป็นสาวมั่นดี ผมชอบ”“เฮ้อ…ได้เสียที” “แล้วชุดเพื่อนเจ้าสาวละ อย่าลืมนะครับ”“แพคใส่ถุงสูทเรียบร้อยแล้วค่ะ เอาวางไว้กับสูทของคุณ”“งั้นไปกินข้าวกันครับ คุณพ่อรออยู่ที่ร้านแล้ว”“ก็ได้ค่ะ ไปกันค่ะ”วันเดินทาง“หมอคะ กระเป๋าเอาลงมาหมดหรือยัง”“เหลือกระเป๋าถือคุณนี่แหละ นี่ครับ”“ขอบคุณค่ะ แล้วคนอื่นๆละคะ”“ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ผมจะขับรถไปเองไปกันเถอะ"มินตราและหมอขิมขึ้นรถและขับมุ่งตรงไปที่โรงแรมที่พัทยา ซึ่งงานนี้
หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับแฟนสาว ยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นทำเอามินตรารู้สึกว่าเขากำลังจะเอาคืนเธอเป็นแน่“หมอคะ หมอคงจะไม่….”“ทำไมล่ะ เริ่มกลัวแล้วเหรอ ไม่ต้องกลัว ผมก็แค่….จะกินคุณ”“แต่ว่า….อ๊ะ เดี๋ยวสิคะ อื้ออ….”ลิ้นนั้นโลมเลียไปที่โคนอวบหน้าอกอิ่มก่อนจะขึ้นไปหยุดที่ริมฝีปากอิ่มแขนทั้งสองข้างของมินตราถูกตรึงขึ้นพร้อมกับเชือกสายรัดชุดคลุมอาบน้ำที่ถูกเขาเริ่มมัดเอาไว้ ให้ตายเถอะ เขามัดได้แน่นกว่าเธอเสียอีก ความชำนาญในการมัดนี้ไม่ธรรมดาเลย เธอประมาทเขาเกินไปแล้ว“หมอคะ จะทำอะไรก็รีบ…อ๊าา…ทำสิ…อื้ออ…”ลิ้นสากค่อยๆลากไปทั่วจนมาหยุดอยู่ที่วงแขนขาวเนียนของเธอเมื่อเขาเริ่มพรมจูบไปทั่วทำเอามินตราบิดเร่าไปมาเพราะความเสียวซ่าน “หมอคะ มีน…อ๊าา หมอ…”“ต้องแบบนี้ถึงจะเรียกว่ากินทั้งตัว”“หมอ….ทำไมมัดแน่นแบบนี้ อ๊าา….อึ๊กก….”เขาจับเธอพลิกตัวให้นอนคว่ำและเริ่มสอดใส่เข้าจากด้านหลังพร้อมกับยกบั้นท้ายเธอให้ลอยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกระแทกไปไม่ยั้งจนมินตราร้องออกมาสุดเสียงเพราะความแน่นและเสียว“อรึ๊ยย…อ๊าา หมอ เร็วเข้า แรงกว่านี้อีก อ๊าา..”“เพี๊ยะ!!”“อ๊าา หมอ ได้โปรด ตีอีกสิคะ อ๊าา”“เพี๊ยะ!!”“นึกไม่ถึงว่าแฟนของ
บงกชถึงกับถอยกรูดและล้มลงทันทีเมื่อทนายบอกเรื่องนี้กับเธอ ซึ่งเท่ากับว่าเธอพลาดอะไรบางอย่างไป เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทราบว่ามีคนที่รู้เห็นในเรื่องนี้“ไม่จริง เอาอะไรมาพูด”“บอกชื่อมา”พยานทั้งสองบอกชื่อให้กับศาลทราบคนหนึ่งคือสมานที่กวินทร์บอกให้ปกรณ์ไปช่วยเหลือให้แยกห้องขังออกมาเพื่อกันตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัยเรื่องนี้บงกชไม่เคยทราบมาก่อนว่าหมอขิมได้บอกให้สมานซึ่งเป็นคนขับรถเก่าของคุณพ่อซึ่งก่อคดีฆ่าคนตายเพราะแก้แค้นให้ลูกชายตัวเองจึงได้มาติดคุกเพื่อชดใช้ความผิด เขายินดีช่วยกวินทร์และติดตามภูวดลเงียบๆตั้งแต่ภูวดลเข้ามาในคุก“นี่คือจดหมายที่คุณภูวดลเขียนเอาไว้ก่อนที่จะโดนฆ่าในคุก เขารู้ว่าแพรวาถูกฆ่ามาจากเจ้าหน้าที่ เขารู้ทันทีว่าทั้งหมดนั่นเป็นแผนของภรรยา จึงได้รีบขอกระดาษและดินสอจากเจ้าหน้าที่เพื่อเขียนทุกอย่างเอาไว้และฝากผมซึ่งเป็นเพื่อนในห้องขังของเขา”ในจดหมายนั่นบอกทุกความผิดที่เขาสารภาพเอาไว้ ตั้งแต่บงกชวางแผนฆ่าภรรยาคนแรก ซึ่งก็คือแม่ของมินตรา เธอไม่อาจทนฟังได้ กวินทร์กอดมินตราเอาไว้เมื่อศาลอ่านจดหมายนั้น และพูดถึงเรื่องยาที่บงกชแอบเอาเข้ามาและยังแอบให้คนใช้เอาปนมากับยาที่
“คุณพอจะรู้สาเหตุไหมครับ”“คุณกร ผมมีเรื่องให้คุณช่วย”“ว่ามาเลยครับ”“คุณช่วยให้คนของคุณ ไปหาเจ้าหน้าที่ที่ชื่อพรพิมล กับนักโทษชายที่ชื่อสมาน และดูแลความปลอดภัยให้พวกเขาที สองคนนี้จะเป็นพยานให้เราได้”“หมอคะ นี่คุณ…”“ผมแค่ป้องกันเอาไว้ แต่ไม่นึกว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ”“ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย คุณหมออยากได้อะไรอีกไหมครับ”“อ้อ มีอีกสองคนที่คุณต้องไปหา…”“ตกลง พวกคุณพักผ่อนไปก่อนนะ ที่นี่ปลอดภัย ไม่มีนักข่าวขึ้นมาได้แน่เพราะเป็นที่พักส่วนตัวของผู้บริหารโรงแรม”“ขอบคุณนะกร ช่วยมีนอีกแล้ว”“อย่าลืมเงินรับขวัญหลานหนักๆ”“ได้อยู่แล้ว”ปกรณ์ยิ้มให้ทั้งคู่และเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแจ้งเรื่องกุญแจและแม่บ้านให้หมอขิมก่อนจะออกไปว่าให้พวกเขาสั่งอาหารจากที่นี่ จะมีคนนำมาส่งให้ที่ห้องจะได้ไม่ต้องออกไป“มีนครับ”“มีนไม่กลัวแล้วค่ะ มีนมีคุณอยู่ทั้งคน”“ผมไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายคุณได้ เรื่องทั้งหมดมันจงใจชี้ความผิดมาที่คุณ ตอนนี้คุณต้องตั้งสติให้ดีก่อน เชื่อผมนะ”“มีนแค่ตกใจค่ะ ไม่คิดว่าทั้งสองคน….”“ลงมือโหดเหี้ยมแบบนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในคุก นี่คงเป็นความหวังสุดท้ายของหมาจนตรอกแล้วล่ะ”วันขึ้นศาล
กวินทร์เดินมารวบตัวเธอขึ้นมาทันทีพร้อมกับจูบเธอเนิ่นนาน มินตรามองหน้าของเขาที่ยิ้มส่งกลับมาให้เธอ “ผมลุ้นแทบตาย กลัวว่าคุณจะไม่ตกลง”“หมอลืมแล้วเหรอคะว่ามีนเดินหน้าจีบคุณก่อน ตื๊ออยู่ตั้งนานแต่คุณไม่หันมามองเลย”“ตอนนั้นผมคิดว่าคุณไม่จริงจังและอยากเอาชนะเท่านั้น”“มีนดูไม่จริงใจแบบนั้นเลยเหรอคะ”“ผมไม่รู้นี่ครับ ไม่เคยเจอแบบนั้นมาก่อน คิดว่าคุณล้อเล่นกับความรู้สึก ตอนนั้นผมไม่พอใจมากๆเลยนะ แต่พอคุณหันหลังให้ผมเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ใจตัวเอง…ว่าชอบคุณเข้าไปแล้ว”“ความรู้สึกช้าจังเลยนะคะ”“ผมขอโทษแล้วไงครับ”“แต่มีนเองก็ผิดจริงๆค่ะ มีนไม่รู้ว่าควรจะเข้าหาคุณยังไงก็เลยใช้วิธีแบบนั้น ก็ไม่ผิดที่หมอจะเข้าใจแบบนั้น ก็ตอนที่เรียนอยู่ มีนเคยบังเอิญไปได้ยินคุณปฏิเสธผู้หญิงคนหนึ่งในหอสมุดอย่างรุนแรง ต่อว่าเธอจนเธอร้องไห้ออกไป มีนเลยกลัวคุณตั้งแต่วันนั้น เพราะความไม่มั่นใจนั่นเลยเก็บความรู้สึกไว้เกือบสิบปี"“สิบปีเลยเหรอ ครั้งนั้นคุณได้ยินผมพูดอะไร”“ก็คุณปฏิเสธไปรุนแรงมากขนาดนั้นเป็นใครก็กลัวค่ะ”“ในตอนนั้นผมมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนมากคืออยากเป็นหมอก็เลยไม่สนใจเรื่องอื่น”"เหมือนฟ้าเล่นตลกนะคะ ม
“แล้วนี่เรา…”“คุณไม่ต้องไปหรอก ให้ริต้าไปดูแทนก็แล้วกัน”“สาเหตุละคะ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องของแม่เธอ”“คงใช่ รีบกินเถอะครับจะเย็นหมดแล้ว”มินตรารู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อได้รับข่าวเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าไม่สบายใจขึ้นมาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่หมอขิมก็เอื้อมมือมาจับเธอเอาไว้“ไม่ต้องคิดมากนะ ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจแบบนี้”“คุณจะไปดูเธอไหมคะ”เขาหันไปมองแฟนสาว เขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกังวลเรื่องอะไร เขาหันไปมองหน้าเธอพร้อมกับมือที่ยังจับเธอเอาไว้“หากว่าผมจะไป ผมจะไปกับคุณจากนี้จะไม่ไปพบเธอเพียงลำพังอีก ดีไหมครับ แบบนี้คุณสบายใจขึ้นไหม”“ก็แค่ถามดูเท่านั้นเอง”“ผมก็แค่พูดเท่านั้นเอง”“กินข้าวไปเลยค่ะ หมอคะ มีนอยากไปดูเธอหน่อย”ช้อนที่ตักข้าวต้มขึ้นมาชะงักเล็กน้อยก่อนจะส่งเข้าปากพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดปากมาเช็ดและหันมาหาเธออีกครั้ง“คุณอยากไปเหรอครับ”“ค่ะ มีนอยากไปพบเธอสักครั้ง”“ก็ได้ งั้นกินเสร็จแล้วผมขอเคลียร์งานที่แผนกหน่อย วันนี้ไม่มีเคสอะไรด่วน ผมจะพาคุณไป”“ขอบคุณค่ะหมอ”โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์“เชิญทางนี้เลยครับ”“หมอคะ คุณ..เข
มินตราโผเข้ากอดเขาทันที เธออยากกินเขาขึ้นมาจริงๆเมื่อเขาอนุญาต มินตราก้าวขาพาดคร่อมไปที่ตัวเขาที่เริ่มเอนเบาะลงเพื่อรองรับตัวเธอ มือเธอเริ่มปลดกระดุมของเขาออกและเริ่มล้วงลงไปด้านในกางเกง สแล็คพอดีตัวนั้นทันที “อาา…มีนใจเย็นๆ ผมขอปลดเข็มขัดก่อน”เข็มขัดแบรนด์ดังถูกปลดออกพร้อมกับความช่วยเหลือของเธอกระโปงสั้นตัวจิ๋วของมินตราถูกถลกขึ้นมา นิ้วเย็นๆของหมอขิมล้วงเข้าไปทันที“อ๊าา หมอคะ นิ้วคุณเย็นจัง มีนเสียว อ๊าา ซี๊ด…”“จัดการเองเลยที่รัก อาา….เบาๆนะครับ”“อื้อ หมออ….อ๊าา ดูดนมให้หน่อย อ๊าาา…”“อื้มมม นมเมีย…หวานจัง อ๊าาา เมียจ๋า ขย่มแรงๆหน่อย”“อื้อ ไหนบอกเมื่อกี้ให้เบาๆ อ๊าา หมอ มีน…อ๊าาา”“ผมก็ไม่ไหวแล้ว มีนนน…”“อ๊า!!!….หมอ….”เสื้อที่หลุดลุ่ยพร้อมกับร่างที่พาดไปที่ไหล่ของแฟนหนุ่มหอบจนหมดแรง มือหนาค่อยๆลูบหลังเพื่อปลอบเธอเบาๆ “กลับบ้านกันนะครับ”“ขามีน….ชาไปหมดเลยค่ะ”“ค่อยๆขยับนะครับ”มีนค่อยๆขยับกลับมายังเบาะของตัวเอง หมอขิมหันไปจัดเสื้อให้เธอพร้อมกับสวมชั้นในกลับให้เธอและขับรถออกจากที่นั่นทันที ฝนเริ่มตกแล้ว มินตราผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้าเพราะตากแดดที่หน้างานลูกค้ามาและยังมารั