โรงพยาบาล
“อ้อย อ้อยลูก”
เช้าวันใหม่เมื่อผกาตื่นขึ้นมาก็เจอกับอ้อยที่ฟุบหน้าลงข้างเตียงนอนเฝ้าเธออยู่หน้าสวยที่ย่นไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ขมวดคิ้วมุ่นอย่างครุ่นคิดว่าลูกสาวเธอหายไปไหน
“อือ อะ ป้าผกาตื่นแล้วเหรอจ๊ะ”
อ้อยสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอกับผกาที่กำลังจ้องมองเธอเขม็ง เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างไรชอบกล
“ที่รักล่ะอ้อย ที่รักไปไหนทำไมไม่มาหาป้า”
ผกาถามหาลูกสาวอย่างเป็นห่วงที่รักหายไปไหนแต่เช้าทำไมไม่มาอยู่กับเธอ
“อะ เอ่อคือ คือแบบนี้จ้ะป้า พอดีที่รักมันหางานเสริมทำเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลมารักษาป้า ที่รักมันเลยรับจ็อบขายของที่ตลาดช่วยป้าบัวน่ะจ้ะ สักบ่าย ๆ ตลาดวายที่รักมันคงกลับมาป้าไม่ต้องห่วงนะจ๊ะเดี๋ยวระหว่างที่ป้าเข้าโรงบาลอ้อยจะดูแลป้าเอง”
โกหกหน้าตายตอบผกาไปอย่างภาวนาไม่ให้ถูกจับได้หน้าสวยตีหน้าซื่อยิ้มให้ผกาอย่างต้องการให้คนแก่คลายกังวลที่ไม่เห็นลูกสาวมาเฝ้าอยู่ข้าง ๆ
“โธ่เอ๋ย ที่รักต้องทำงานเหนื่อยแบบนี้เพราะแม่คนเดียวแท้ ๆ”
ผกาน้ำตาคลอเบ้าทันทีที่อ้อยพูดจบโดยไม่ได้นึกสงสัยเลยว่าสิ่งที่อ้อยพูดออกมานั้นเป็นการโกหกเพื่อให้ตนสบายใจ
“ป้าจ๋า อย่าคิดมากไปเลยนะจ๊ะ ที่รักเหลือแค่ป้าคนเดียวในชีวิตนี้ ที่รักก็อยากให้ป้าได้ผ่าตัดและหายดีอยู่กับที่รักนาน ๆ น้องมันถึงไปทำงานหาเงินแบบนั้นอย่าห่วงไปเลยนะ”
อ้อยจับมือผกามากุมไว้ก่อนที่จะยิ้มให้ผกาอย่างปลอบใจซึ่งผกาก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนที่อ้อยจะกระวีกระวาดประคองผกาเข้าห้องน้ำเมื่อผกาต้องการล้างหน้าแปรงฟันให้สดชื่น
โรงแรม K
“อื้ออ อ๊ะ ซี้ดดด”
ที่รักลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าพร้อมซี้ดปากเมื่อรู้สึกเจ็บระบมไปหมดทั้งตัว จะอะไรซะอีกล่ะเมื่อคืนคุณหมอเล่นซะคนไร้ประสบการณ์แบบเธอสลบคาอกเลยทีเดียวน่ะสิ
เผลอคิดอะไรเพลิน ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผมสีดำของใครบางคนซุกอยู่ที่หน้าอกอวบใหญ่ของเธอที่มีรอยแดงเต็มไปหมด
เธอไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วสินะ
ปากสีไวน์ของคนตัวสูงคาอยู่ที่ยอดอกของเธอ แปลกจังที่เขานอนหลับทั้ง ๆ ที่ดูดนมเธอไว้ทั้งคืนแบบนั้น ที่รักแอบเสยผมที่ปรกหน้าของ กฤษฎิ์ออกพลางพินิจดูใบหน้าหล่อเหลายามนอนหลับสนิทอย่างใจสั่น ผู้ชายอะไรปาก จมูก คิ้ว รับกับใบหน้าไปหมดอย่างเหมาะเจาะ หล่อเหลาปานเทพบุตร ใบหน้ายามหลับดูไร้พิษสงแต่กลับทำให้เธอใจเต้นแรงสั่นไหวอยู่ในอกจนต้องยกมือขึ้นมาจับหน้าอกไว้กลัวว่าคนที่นอนหลับจะได้ยิน ทำไมเขาถึงหล่อแบบนี้นะคุณหมอกฤษฎิ์
“แอบมองฉันเหรอ หืม”
กำลังมองใบหน้าหล่อด้วยความหลงใหลอยู่ดี ๆ สายตาคมกริบก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจ้องเธออย่างจับผิด คนแอบมองที่ไม่ทันตั้งตัวหลบหน้าไปทางอื่นแทบไม่ทัน
“ปะ เปล่า นะคะที่รักไม่ได้แอบมองคุณหมอนะ”
ผินหน้าไปทางอื่นซ่อนแก้มสวยที่แดงปลั่งราวลูกเชอร์รีสุกแต่มีหรือจะพ้นสายตาที่เฉียบคมของกฤษฎิ์ไปได้
“อืม ไม่มองก็ไม่มอง แล้วเจ็บมากหรือเปล่า”
เลิกคิ้วถามที่รักเขาอยากรู้ว่าตอนนี้ร่างกายของเธอเจ็บมากน้อยแค่ไหนดูจากรอยแดงตามซอกคอตามหน้าอกอวบแล้วเธอคงบอบช้ำไม่ใช่น้อย
“จะ เจ็บค่ะ คุณหมอไม่เห็นอ่อนโยนเหมือนที่บอกที่รักเลย”
ก้มหน้างุดด้วยความอายเมื่อต้องพูดประโยคที่ชวนเคอะเขินแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ต้องมาทำงานแบบนี้แถมยังเสียความสาวให้คนตรงหน้าแต่ทำไมกันนะเธอถึงไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ผู้ชายคนแรกของเธอเป็นเขา เพราะถ้าเป็นคนอื่นที่มีอายุแถมอ้วนลงพุงเธอคงทำใจยอมรับไม่ได้แน่นอน
“หึ เด็กน้อย มีเซ็กซ์ใครเขาอ่อนโยนกันเล่านั่นมันนิทานหลอกเด็กนะยายหนู อ้อ ลืมไป เธอก็เด็กนี่ 21 ใช่ไหมนะ หน้าประถมนมมหาลัยสเปคชะมัด”
พูดไปก็มองนมที่รักไปด้วยสายตาเจ้าชู้ เห็นแบบนั้นหญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกอวบขาวที่มีรอยแดงเต็มไปหมดทันที
“คะ คุณหมอพูดจาไม่น่ารักเลย”
ที่รักแอบตำหนิกฤษฎิ์นิด ๆ ที่พูดจาสิปแปดบวกชวนเขิน เธอเพิ่งจะ 18 เองนะจู่ ๆ มาพูดอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้
“ถึงคำพูดฉันอาจจะไม่น่ารักแต่จริง ๆ แล้วฉันเป็นคนน่ารักนะ หนึ่งอาทิตย์ที่เธอต้องอยู่กับฉันเธออาจจะตกหลุมรักฉันก็ได้ใครจะรู้”
“หึ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็อยากจะบอกว่าอย่ามาชอบผู้ชายแบบฉันเลยนะ ฉันไม่เหมาะกับคนดี ๆ แบบเธอหรอกที่รัก”
ยกมือแกร่งขึ้นมาจับใบหน้าเนียนของที่รักที่ก้มหน้างุดให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากันก่อนที่จะยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับก้มลงมาบดจูบกลีบปากนุ่มของที่รักหนัก ๆ หนึ่งที
“อ๊ะ อืมม คุณหมอ”
ครางเสียงเบาหวิวเมื่อกฤษฎิ์ถอนจูบออกก่อนที่กฤษฎิ์จะตวัดแขนอุ้มร่างบอบบางเปลือยเปล่าของที่รักขึ้นมาแนบอกในขณะที่คนโดนอุ้มยกมือคล้องคอร่างสูงไว้แทบไม่ทันอย่างกลัวหล่น
“ปะ...ไปอาบน้ำกันดีกว่า อาบน้ำอุ่น ๆ จะได้สดชื่นเดี๋ยวฉันจะช่วยเธออาบน้ำเองนะที่รัก”
ตีหน้ามึนบอกที่รักก่อนที่จะยักคิ้วให้แล้วอุ้มที่รักหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็ออกมาแต่งตัวข้างนอก ที่รักอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเคว้งอยู่กลางห้องนั่งมองกฤษฎิ์ที่หยิบชุดสูทมาสวมอย่างไม่เร่งรีบ
“อะ เอ่อ คุณหมอคะเสื้อผ้าที่รักล่ะคะ”
เอ่ยปากถามหมอหนุ่มขึ้นอย่างงุนงงตอนมาเธอจำได้ว่าเอาเสื้อผ้ามาด้วยนี่แล้วทำไมตอนนี้หายไปหมดเลยล่ะ
“อ้อ เสื้อผ้าเธอเหรอ นี่ไง มาเลือกสิอยากใส่ชุดไหนเลือกได้เลย ฉันให้คนของฉันจัดหามาให้เธอแทนเสื้อผ้าเก่า ๆ พวกนั้นน่ะ คิดจะควงฉันเป็นอาทิตย์เธอต้องสวยดูดีสมกับเป็นผู้หญิงของหมอกฤษฎิ์สิ”
เดินเข้ามาหาที่รักก่อนจะเชยคางมนขึ้นมาจุ๊บปากบางเย็นชืดนั้นเบา ๆ ทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว
“อยู่ใกล้เธอทีไรแม่ง ของขึ้นทุกที เล่นของใส่ฉันหรือเปล่าเนี่ย ลูกชายฉันมันอยากทักทายร่องนุ่ม ๆ ของเธอทุกเวลาเลย ปกติฉันไม่เอาใครซ้ำสองนะแต่กับเธอคิดไม่ผิดที่ให้ดูแลฉันตั้งหนึ่งอาทิตย์เธอโชคดีมากนะรู้ไหมเพราะมีผู้หญิงหลายคนที่อยากใกล้ชิดฉันแทบตายแต่ฉันไม่เห็นสนใจใครแต่กับเธอสงสัยจะติดใจแฮะ หวานไปทั้งตัวแบบนี้อยากจะเอาแม่งทั้งวันทั้งคืน”
กฤษฎิ์พูดออกมาอย่างไม่กระดากปากแต่กลับเป็นที่รักเองที่กระดากและเขินอายจนหน้าแดงไปหมด
“หึ เขินเหรอแม่สาวน้อย”
ล้อเลียนที่รักที่ตอนนี้ก้มหน้างุดด้วยความอายจนหูแดงไปทั้งแถบ ในขณะที่กฤษฎิ์หัวเราะน้อย ๆ อย่างชอบใจที่ได้แกล้งสาวน้อยตรงหน้าก่อนที่ที่รักจะลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกชุดเสื้อครอปสีแดงลายตารางหมากรุกกับกระโปรงเข้าชุดกันมาใส่ ในตู้เสื้อผ้ายังมีแพนตี้อีกด้วย ที่รักได้แต่ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“อันนี้ก็ของที่รักเหรอคะ”
หันมาถามกฤษฎิ์พร้อมขยับสาบเสื้อคลุมเข้าหากันทันทีที่เห็นเขามองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่มแบบนั้น
คนบ้า สายตาเจ้าชู้ชะมัด
“ของฉันมั้งยายหนูมีแต่ของผู้หญิงแบบนั้นน่ะไซซ์น่าจะพอดีนะทั้งขย้ำทั้งดูดขนาดนั้นฉันว่าฉันวัดไม่ผิดหรอกทั้งบนทั้งล่าง”
พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิดกับสายตาของที่รักที่มองมา ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นนิด ๆ กับคำพูดสุดห่ามของกฤษฎิ์
“คุณหมอพูดจาไม่น่ารักอีกแล้วนะคะ”
หน้ามุ่ยมองหน้ากฤษฎิ์อย่างไม่ชอบใจในขณะที่คนโดนมองยักไหล่อย่างไม่แคร์สักเท่าไหร่
“คำก็ไม่น่ารัก สองคำก็ไม่น่ารัก สงสัยฉันคงน่ารักแค่เวลาเอากับเธอสินะ”
พูดใส่หน้าที่รักพร้อมรอยยิ้มกระชากใจที่เห็นลักยิ้มน่ามองมีเสน่ห์ทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินผิวปากออกจากห้องแต่งตัวไปทันทีทิ้งให้ที่รักหน้าแดงอยู่คนเดียวก่อนที่ร่างบางจะรีบหยิบชุดชั้นในออกมาใส่แล้วตามด้วยเสื้อผ้าที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้
“วันนี้ฉันมีประชุมที่โรงพยาบาล N ทั้งวัน เธออยากไปไหนหรือเปล่าฉันจะได้ให้คนของฉันไปส่ง อยู่แต่ในโรงแรมเธอคงอึดอัดแต่ไปแล้วต้องกลับมานะไม่กลับมาเธอจะไม่ได้เงินเลยนะยายหนู”
วางหนังสือพิมพ์ธุรกิจที่กำลังอ่านลงข้างโต๊ะก่อนที่จะยกกาแฟขึ้นมาจิบอย่างสดชื่นเมื่อคาเฟอีนวิ่งเข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะวางแก้วกาแฟลงเมื่อดื่มจนหมดถ้วยแล้ว ยายหนูนี่แต่งตัวนานชะมัด แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลที่ที่รักแต่งตัวช้าเขาก็พอจะเข้าใจล่ะนะ เพราะตามลำคอที่เคยมีรอยแดงเต็มไปหมดกลับถูกปิดทับด้วยรองพื้นหนาราคาแพงที่เขาให้เกริกพลจัดหามาให้
“แล้วคุณจะให้เงินที่รักเท่าไหร่คะ”
เมื่อได้ยินกฤษฎิ์พูดเรื่องเงินที่รักก็รีบเดินมาหยุดยืนตรงหน้ากฤษฎิ์ทันทีอย่างต้องการคำตอบ เพราะเรื่องเงินพี่อ้อยไม่ได้บอกจำนวนกับเธอ บอกแค่ว่าถ้าเขาพอใจเธอจะเรียกกี่บาทก็ได้
“แล้วเธออยากได้กี่บาทล่ะ หืม”
ถามอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมตวัดแขนโอบเอวที่รักมานั่งบนตักแกร่งก่อนที่จะก้มลงสูดกลิ่นหอมของแป้งเด็กที่ที่รักใช้อย่างชื่นใจ เด็กนี่ตัวหอมชะมัดเลยเขาชักจะชอบกลิ่นนี้ซะแล้วสิ
“ถ้าบอกไปแล้วคุณหมอจะยอมให้ที่รักไหมล่ะคะ”
เงยหน้าขึ้นถามกฤษฎิ์อย่างใคร่รู้ในขณะที่กฤษฎิ์เลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ ก่อนถามที่รักกลับคืน
“ไหนลองพูดมาสิอยากได้เท่าไหร่ แล้วฉันจะบอกว่าให้หรือไม่ให้”
หลอกล่อที่รักด้วยเสียงนุ่มทุ้ม ที่รักยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มที่สดใสของที่รักทำให้กฤษฎิ์ชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้านิ่ง ๆ มองอย่างไรก็น่ารักแต่เวลายิ้มทั้งสวยทั้งน่ารักเลย
หึ เด็กมันอ่อยครับทุกคน แอบใจเต้นเบา ๆ
“เอ่อ ที่รักขอสักสี่แสนได้ไหมคะ”
ถามออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ กลัวว่าเขาจะปฏิเสธแล้วไล่ตะเพิดเธอออกไปจากห้องทันทีน่ะสิ แต่เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเงินสี่แสนสำหรับคนรวยอย่างหมอฤษฎิ์จะให้เธอได้ไหม เพราะพี่อ้อยบอกว่าคุณคนนี้รวยมากโคตรรวย รวยแบบที่ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด ทั้งยังเป็นไฮโซชื่อดังของเมืองไทยอีกด้วยแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเขาเลย ยกเว้นตาสีตาสาน่ะนะ
“หืม แพงขนาดนั้นเชียวอะไรล่ะที่คิดว่าฉันจะยอมให้เธอมากถึงขนาดนี้ ที่เคยจ่ายแพงสุดก็แค่สองแสน แต่นั่นเป็นนางแบบตัวท็อปของวงการนะ ส่วนเธอยังเด็กมีดีตรงที่ซิงแล้วก็นมใหญ่แค่นั้นเองมีอะไรมาแลกล่ะถ้าจะเอาสี่แสน แลกด้วยอะไรดีน้า”
พูดไปก็กระตุกยิ้มมุมปากไปมือแกร่งทำท่ายกขึ้นมาลูบคางที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นมานิด ๆ อย่างคนที่กำลังครุ่นคิดเพื่อจะดูท่าทีของที่รักที่ตอนนี้หน้าหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัดที่เขาพูดแบบนั้น
“ตลอดอาทิตย์ที่อยู่กับคุณหมอที่รักจะทำให้คุณหมอพอใจที่สุดค่ะ”
บอกกับกฤษฎิ์แบบนั้นก่อนจะยกมือขึ้นคล้องรอบคอแกร่งของกฤษฎิ์ไว้แน่นพร้อมสบตาคมกริบของกฤษฎิ์ที่กำลังมองมาอย่างมุ่งมั่น
เหอะ เด็กมันได้ว่ะ โดนแล้วไหมล่ะไอ้หมอกฤษฎิ์
“ถ้าอยากได้สี่แสน เธอคงต้องยอมให้ฉันเอากับเธอคืนละสามน้ำแล้วล่ะที่รัก วัยกำลังหนุ่มแบบฉันความต้องการมันสูง ว่าแต่เธอเถอะไหวไหมสาวน้อย”
โอบเอวที่รักไว้ก่อนที่จะก้มลงกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ใบหูสวยของคนตัวเล็กพร้อมเป่าลมเข้าหูที่รักจนเธอรู้สึกสยิวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไหวค่ะ ที่รักยอมคุณหมอทุกอย่างเลยขอแค่คุณหมอจ่ายตามที่ที่รักขอไปเท่านั้นค่ะ”
เงยหน้าบอกกฤษฎิ์ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว กฤษฎิ์หัวเราะน้อย ๆ อย่างถูกอกถูกใจ เขาจะรอดูว่าจะเก่งแบบที่พูดหรือเปล่ายายเด็กแก่แดด
“ดีล ตามนั้น แล้วฉันจะรอดูว่าเธอจะแน่เหมือนที่พูดไหม หึ”
“แล้วสรุปจะออกไปไหนไหมวันนี้”
ถามที่รักอย่างเพิ่งคิดได้ว่าคุยเรื่องนี้กันค้างไว้
“ที่รักอยากไปโรงพยาบาล N พอดีแม่ที่รักแอดมิดอยู่ที่นั่นค่ะ”
เงยหน้าบอกกฤษฎิ์อย่างอ้อนวอนในขณะที่กฤษฎิ์นิ่งไปสักพักจนที่รักรู้สึกหวั่นใจ
“งั้นไปพร้อมฉันแล้วกัน ฉันมีประชุมที่นั่นพอดี ฉันเสร็จงานเมื่อไหร่ก็กลับพร้อมกันเลยโอเคไหม”
บอกที่รักเสียงนุ่มส่วนที่รักพยักหน้ารับรัว ๆ อย่างดีใจก่อนที่กฤษฎิ์จะอุ้มที่รักลงจากตักแกร่งแล้วเดินนำหน้าที่รักออกมาจากห้องพักทันที
โรงพยาบาล N
“แม่ แม่จ๋าที่รักมาแล้ว”
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกฤษฎิ์ก็แยกไปทำงานของเขาทันทีส่วนที่รักก็รีบมาหาแม่ที่ห้องผู้ป่วยทันทีเช่นกัน
“ที่รัก มาแล้วเหรอลูก”
ผกายิ้มกว้างอย่างดีใจที่เห็นที่รักในชุดสวยสดใสเดินเข้ามานั่งลงข้างเตียงในขณะที่อ้อยกำลังนั่งปอกผลไม้อยู่
“อ้าว ที่รักป้าบัวเก็บร้านแล้วเหรอทำไมมาไวจังเลยล่ะ”
อ้อยถามที่รักขึ้นเสียงดังในขณะที่ที่รักขมวดคิ้วมุ่นอย่างงุนงงก่อนที่จะหันไปมองอ้อยอย่างสงสัยอะไรคือป้าบัว ส่วนอ้อยรีบขยิบตาทันทีที่ที่รักหันมามองตนจนถึงบางอ้อเมื่อเห็นอ้อยขยิบตารัว ๆ แบบนั้น
“อ๋อ ป้าบัวขายดีมากเลยจ้ะวันนี้ กับข้าวหมดตั้งแต่เก้าโมงเช้าจ้ะพี่อ้อย ที่รักได้ค่าแรงวันนี้มาตั้งสามร้อย”
ตอบอ้อยเสียงดังฟังชัดโดยที่กำลังโกหกแม่ของตนไปด้วย
ขอโทษนะจ๊ะแม่ ที่รักขอโทษที่ต้องโกหก
“เก่งจริง ๆ ลูกสาวแม่ แม่ขอโทษนะที่ทำให้หนูต้องลำบากแบบนี้”
จับมือน้อยของลูกสาวมากุมไว้ก่อนที่น้ำตาจะเริ่มคลอเบ้าอย่างห้ามไม่อยู่ที่ทำให้ลูกสาวต้องลำบากทั้ง ๆ ที่ที่รักเพิ่งจะอายุเพียงเท่านี้
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่ ที่รักไหว อีกเดี๋ยวบ่าย ๆ ที่รักก็ต้องไปช่วยพี่นิดขายของที่ตลาดโต้รุ่งแล้วนะแม่ ขายเสร็จก็ดึก ๆ เลย ระหว่างนี้ให้พี่อ้อยเฝ้าแม่ไปก่อนนะจ๊ะแม่จ๋า ที่รักขอหาเงินมารักษาแม่ก่อนน้า”
ที่รักกุมมือแม่ไว้แน่นก่อนที่จะยกขึ้นมาแนบแก้มอย่างรักสุดหัวใจ
“ขอบใจนะที่รักที่อดทนยอมลำบากเพื่อแม่ขนาดนี้”
ผกามองหน้าที่รักอย่างซาบซึ้งใจในตัวลูกสาวที่ทุ่มเทยอมลำบากเพื่อเธอขนาดนี้
“เรามีกันแค่สองคนนะจ๊ะแม่ ถ้าไม่มีแม่ที่รักจะอยู่กับใครยังไงแม่ก็ต้องได้ผ่าตัดแล้วอยู่กับที่รักไปนาน ๆ นะจ๊ะ”
บอกแม่ก่อนที่จะก้มลงกอดเอวแม่เอาไว้อย่างออดอ้อน
“สองคนที่ไหนกันล่ะ ยังมีพี่อีกคนนะที่รัก ต่อให้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นพี่จะอยู่กับที่รักแล้วก็ป้าผกาจนตายกันไปข้างเลย”
อ้อยยิ้มร่าพร้อมถือจานผลไม้ที่ปอกแล้วเดินเข้ามาหาสองแม่ลูกก่อนที่ทั้งสามคนจะมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาด้วยความสุข ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีอันจะกินแต่พวกเธอแค่มีกันและกันและคอยช่วยเหลือกันแค่นี้ก็สุขใจแล้ว
“หืม มะเร็งกระเพาะอาหารเหรอ”
กฤษฎิ์ก้มลงอ่านข้อมูลในแฟ้มเอกสารอย่างสนใจเมื่อเกริกพลหาข้อมูลมาให้ตามที่เขาสั่งงานไป
“ครับนาย อีกสองวันก็ผ่าตัดแล้วครับ ค่ารักษาที่ต้องจ่ายก็ประมาณสามแสนกว่าบาทครับ”
เกริกพลรายงานผู้เป็นนายถึงข้อมูลที่เขาไปเสาะหามาให้ เมื่อผู้เป็นนายรู้สึกสงสัยว่าเด็กที่ดูแลตัวเองอยู่แม่ป่วยจริงตามที่พูดหรือเปล่า
“แล้วครอบครัวล่ะ”
ถามเกริกพลอย่างต้องการรู้ให้มากกว่านี้ถึงประวัติครอบครัวของที่รัก
“อยู่กับแม่แค่สองคนครับนาย อันที่จริง เอ่อคือ คือว่า”
เกริกพลอ้ำอึ้งเมื่อต้องพูดในเรื่องที่อาจจะทำให้นายเขาตกใจและโมโหมากก็เป็นได้
“อ้ำอึ้งอยู่ได้พูดมาสักทีสิฉันรอฟังอยู่”
มองมาที่เกริกพลที่กำลังลังเลอยู่อย่างกดดันก่อนที่เกริกพลจะยอมพูดออกมา
“คือว่าที่จริงแล้วเด็กนี่อายุ 18 ครับนาย เพิ่งจบม.6 กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ครับ”
พูดจบก็ก้มหน้าลงเพื่อรอรับคำด่าจากผู้เป็นนายทันที
“ฮะ อะไรนะ เวรแล้วไหมล่ะกู นี่เอาเด็ก 18 มาดูแลฉันเนี่ยนะ”
กฤษฎิ์สบถอย่างหัวเสียเมื่อรู้อายุที่แท้จริงของที่รัก
“ผมขอโทษครับนายที่ทำงานสะเพร่าไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะส่งเธอให้นาย”
เกริกพลก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดที่เอาเด็กม.ปลายไปดูแลปรนนิบัตินายของตน
“เฮ้อ จริง ๆ เลยนะเกริกพลแล้วนี่ฉันเสือกเปิดซิงเด็กมันด้วย”
กฤษฎิ์ส่ายหน้าน้อย ๆ เมื่อคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่ตนได้เปิดซิงเป็นผู้ชายคนแรกของที่รักไปแล้ว
“ผมขอโทษครับนายเดี๋ยวผมจะรีบจัดการเรื่องนี้แล้วหาเด็กมาเปลี่ยนให้นายนะครับ”
บอกกฤษฎิ์อย่างสำนึกผิดในขณะที่กฤษฎิ์โบกไม้โบกมือเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้อง
“หึ ช่างมันเถอะ เด็กก็เด็ก เอากับเด็กดูสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ กินแต่พวกมากประสบการณ์แล้วมันน่าเบื่อสู้ลองกินเด็กแบบที่รักแล้วมันเร้าใจดีแล้วก็ค่ารักษาพยาบาลเด็กนี่จัดการเคลียร์ให้ด้วยแล้วกัน นี่คงเป็นเหตุผลที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้สินะ คงต้องการหาเงินมารักษาแม่นี่เอง”
ประโยคหลังพึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียวก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเพื่อเดินทางกลับที่พักนี่ก็ห้าโมงเย็นแล้วเขาอยากทานอาหารเหนือเป็นมื้อเย็นสักหน่อย หนีบเด็กนั่นไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์มากดโทรหาที่รักทันที
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ที่รักรีบคว้ามากดรับสายทันที
“ฮัลโหลค่ะ คุณหมอ อ๋อ ได้ค่ะ ที่รักจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เมื่อวางสายแล้วที่รักก็เตรียมตัวกลับไปหากฤษฎิ์ทันที
“คุณเขาโทรตามแล้วเหรอที่รัก”
อ้อยถามทันทีเมื่อเห็นที่รักเตรียมตัวจะออกไปแล้ว
“จ้ะพี่อ้อย ที่รักฝากแม่ด้วยนะ พรุ่งนี้ที่รักจะขอคุณหมอมาใหม่นะจ๊ะ”
ยิ้มให้อ้อยก่อนที่จะรีบเดินออกมาหากฤษฎิ์ที่รออยู่หน้าห้องแล้ว ก่อนที่กฤษฏิ์จะโอบเอวที่รักเดินออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยมีสายตาของนางพยาบาลสองคนมองตามจนสุดสายตา
“เอ๊ะ นั่นมันท่านประธานนี่ มากับใครอะแก”
ส้มรีบถามเพื่อนนางพยาบาลทันทีที่เห็นกฤษฎิ์เดินโอบเอวที่รักเดินผ่านไปอย่างไม่แคร์สายตาของคนที่เดินสวนไปสวนมาเลยสักนิด
“เด็กท่านไหมล่ะส้ม ท่านประธานเจ้าชู้จะตาย ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงออกจะดังในแวดวงไฮโซ ฉายาหมอคาสโนว่าไม่ได้ได้มาเล่น ๆ นะได้ยินมาว่าฟันหญิงเป็นว่าเล่นเลยแก”
หมิวนางพยาบาลที่มาด้วยกันรีบบอกส้มถึงกิตติศัพท์ของกฤษฎิ์ที่เธอได้ยินมารวมถึงติดตามข่าวคราวทางทีวีด้วย
“อ๊าย หมิวฉันอยากเป็นเด็กท่านจังเลย ให้ได้สักทีจะดีมาก ผู้ชายอะไรไม่รู้ โคตรหล่อ ยิ้มทีฉันละลายอะแก เมื่อวานเห็นครั้งแรกฉันแทบกรี๊ดในความโอปป้าของท่าน เบ้าหน้าโคตรเกาหลีแถมหุ่นเฟิร์มมากอยากเอานมไปซบที่อกแน่น ๆ นั่นเลยแก”
หมิวพูดถึงกฤษฎิ์อย่างเพ้อฝันในขณะที่ส้มส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับความมโนเพ้อของเพื่อนสาวก่อนที่จะรีบเดินกลับวอร์ดเพื่อทำงานตามหน้าที่ทันที
“คุณหมอจะพาที่รักไปไหนคะ” ที่รักถามกฤษฎิ์เมื่อทั้งคู่ขึ้นมานั่งบนรถคันหรูเรียบร้อยแล้ว“กินข้าวไงสาวน้อย นี่มันเย็นแล้วนะเธอไม่หิวหรือไง”กฤษฎิ์เลิกคิ้วถามที่รักในขณะที่มือข้างหนึ่งก็เล่นผมสั้นทรงเด็กนักเรียนของที่รักไปพลาง ๆ เพลินดีจัง ผมนิ่มชะมัดเลย หอมด้วย“ช่วงนี้ที่รักไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ บางวันข้าวเย็นก็ไม่ได้ตกถึงท้องด้วยซ้ำมัวแต่ทำงานพาร์ตไทม์”ที่รักบอกกฤษฎิ์ด้วยรอยยิ้มจริงใจ ส่วนกฤษฎิ์อมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูกับท่าทางไร้เดียงสาของที่รัก“แต่หนึ่งอาทิตย์ที่เธออยู่กับฉัน เธอต้องทานให้ครบทุกมื้อนะจะได้มีแรงไว้ใช้กับฉันเยอะ ๆ เพราะฉันมันคนความต้องการสูง หึหึ”กระซิบข้างหูแผ่วเบาชวนให้ดวงหน้าเนียนใสนั้นเห่อแดงไปทั้งหน้า“คุณหมอทะลึ่งจังเลยค่ะ”ก่อนที่จะได้สติแล้วเอ็ดชายหนุ่มออกมา กฤษฎิ์หัวเราะให้กับคำพูดน่ารักของที่รักเออ อยู่กับเด็กนี่ทีไรอารมณ์ดีทุกทีเลยแต่ละคำพูดที่พูดออกมาช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง“เขาว่าผู้ชายทะลึ่งจริงใจนะ ไม่รู้เหรอพวกที่พูดจาดี ๆ บางทีอาจจะแอบร้ายก็ได้อย่าไว้ใจพวกที่มันพูดจาหวานหูมากล่ะ อันนี้ฉันสอนไว้ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ชายด้วยกัน”กฤษฎิ์บอกที่รัก
วันผ่าตัด“แม่ทำใจให้สบาย ๆ นะจ๊ะ ยังไงแม่ก็ต้องหายออกมาหาที่รักน้า”ที่รักจับมือผกาไว้แน่นอย่างต้องการที่จะส่งกำลังใจให้เมื่อต้องส่งตัวผกาเข้าห้องผ่าตัดแล้ว“แม่สัญญาจะอดทนนะลูกเพราะแม่อยากอยู่กับที่รักไปนาน ๆ”มองที่รักทั้งน้ำตาคลอเบ้าก่อนที่พยาบาลจะเข็นเตียงผกาเข้าห้องผ่าตัดไปสองแม่ลูกมองกันจนลับสายตา“วันนี้วันสุดท้ายแล้วใช่ไหมที่แกต้องอยู่กับคุณเขา เขาบินกลับกรุงเทพวันนี้นี่”อ้อยถามถึงกฤษฎิ์ที่วันนี้เป็นวันที่ที่รักต้องอยู่ดูแลวันสุดท้าย ที่รักพยักหน้าตอบรับก่อนที่หน้าสวยจะหม่นลงเล็กน้อย“แล้วไม่ดีใจเหรอที่เขาจะกลับแล้ว แกจะได้ดูแลแม่แกไงล่ะที่รัก”อ้อยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นที่รักทำหน้าเศร้าเหมือนคนอกหักอย่างไรอย่างนั้นเลยเอ๊ะ หรือว่า...อ้อยยกมือทาบอกด้วยความตกใจก่อนที่จะหันไปถามที่รักทันที“ที่รัก แกอย่าบอกนะว่าหลงรักคุณเขาไปแล้ว”อ้อยถามที่รักด้วยความตกใจก่อนที่หน้าสวยของที่รักจะเศร้าลงอีกอย่างเห็นได้ชัดที่โดนอ้อยตั้งคำถามที่จี้ใจเธออย่างแรง“คุณหมอเขาเป็นคนดีนะพี่อ้อย เกือบอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมา เขาดูแลที่รักดีมากเลย มันจริงที่ที่รักคอยดูแลเขา ให้ความพึงพอใจเขาทางร่างกายแ
เมื่อกฤษฎิ์จากไปแล้วที่รักจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะหยิบเช็คที่กฤษฎิ์วางไว้ให้บนหัวเตียงขึ้นมาเตรียมเก็บใส่กระเป๋า แต่ตัวเลขที่ปรากฏบนเช็คนั้นทำให้ที่รักต้องตกใจ ด้วยคาดไม่ถึงว่ากฤษฎิ์จะกล้าให้เงินจำนวนที่มากขนาดนี้ซึ่งมากกว่าที่เธอร้องขอถึงสิบเท่า ดวงตาคู่สวยปริ่มด้วยน้ำตาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงประโยคสุดท้ายของกฤษฎิ์ก่อนที่จะจากกันไป“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอบคุณจริง ๆ”ยกมือขึ้นปิดปากสะอื้นฮักก่อนตัดใจปาดน้ำตา กลั้นสะอื้น คว้ากระเป๋าและโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กฤษฎิ์ซื้อให้เดินออกจากห้องไป แต่ก่อนที่จะเดินพ้นห้อง ที่รักกวาดสายตาดูรอบห้องที่มีแต่ความทรงจำของเธอกับกฤษฎิ์อีกครั้ง ไม่ว่าจะมุมไหนก็จะมีภาพของเธอกับกฤษฎิ์พูดคุยหยอกล้อกันอยู่ทั่วทุกมุมห้องก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอีกครั้ง ที่รักกลั้นใจยกมือปาดน้ำตาแล้วตัดสินใจปิดประตูห้องลงเพื่อเดินทางกลับไปโรงพยาบาล กลับไปสู่ความเป็นจริงที่เธอต้องอยู่กับมันต่อจากนี้ Move on ซะนะที่รักโรงพยาบาล N“พี่อ้อยจ๊ะแม่เป็นยังไงบ้าง”ที่รักถามอ้อยทันทีที่มาถึงห้องพักฟื้นที่มีร่างของผกานอนพักผ่อนอยู่หลังจากเข้ารับการผ่าตั
โรงพยาบาล N“อ้วกก”“ไหวไหมครับนาย”เกริกพลที่ยืนลูบหลังกฤษฎิ์อยู่ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อผู้เป็นนายอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายมาได้เกือบสองเดือนแล้วโดยที่ไม่รู้สาเหตุ จะว่าแพ้ท้องแทนเมียก็ไม่ใช่เพราะนายเขา โสด แค่ไม่ซิงเฉย ๆ เท่านั้นเอง“เฮ้อ ทรมานฉิบหาย โรคห่าไรวะ อ้วกได้ทุกวัน ทำซีทีสแกนก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ผลเลือดก็ปกติ แล้วฉันเป็นอะไรนักหนาเนี่ย”โวยวายกับลูกน้องคู่ใจอย่างหมดเรี่ยวแรงก่อนที่เกริกพลจะหิ้วปีกผู้เป็นนายมานั่งลงบนโซฟา“ไปหาซื้อสตรอว์เบอร์รีกับลิ้นจี่มาให้หน่อยสิ”กฤษฎิ์สั่งเกริกพลที่กำลังยื่นยาดมมาให้ผู้เป็นนาย“นายว่าอะไรนะครับ ลิ้นจี่ สตรอว์เบอร์รี ปกติไม่เห็นนายกินนี่ครับ”เกริกพลถามอย่างแปลกใจ นายเขากินเป็นแต่เหล้ากับไวน์ ผลไม้เคยแตะเสียที่ไหน ไม่รู้นึกคึกอะไรขึ้นมาอีกถึงอยากกินลิ้นจี่กับสตรอว์เบอร์รี“อย่าถามให้มากความได้ไหมเอาลูกเปรี้ยว ๆ นะอยากกิน”สั่งลูกน้องก่อนที่เกริกพลจะรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่าง งง ๆ เพื่อตามหาผลไม้ตามที่นายสั่งอยากกินทันที“อืม อร่อย อร่อยมาก”เกริกพลนั่งมองกฤษฎิ์ที่ตอนนี้กำลังนั่งกินสตรอว์เบอร์รีที่ยังไม่สุกดีกับลิ้นจี่ที่เขาแอบชิมยังรู้สึกเ
รายการ ‘คุยการบริหารธุรกิจกับคนดัง’“ต่อไปถึงคิวไฮโซหนุ่มสุดหล่อ ทายาทโรงพยาบาล N โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังชั้นนำทั่วประเทศ คุณกฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก กันบ้างนะคะท่านผู้ชมวันนี้เรามีสัมภาษณ์พิเศษกัน แอนนาอยากจะบอกว่าคิวคุณกฤษฎิ์ยาวเหลือเกินค่ะ กว่าจะเชิญตัวมาได้แอนนาไปติดต่อตั้งหลายรอบเลยนะคะ”เสียงรายการทีวีเกี่ยวกับธุรกิจดังขึ้น ทำลูกน้อยในท้องของที่รักดิ้นปะทะฝ่ามือของที่รักที่กำลังวางเอาไว้บนหน้าท้องนูนพอดี“หืม ลูกสาวแม่ดิ้นใหญ่เลยได้ยินชื่อคุณพ่อดีใจเหรอคะลูก”ที่รักก้มลงพูดกับลูกในท้องอย่างอารมณ์ดีพลางจ้องมองไปที่หน้าจอทีวีอย่างใจจดใจจ่อ หน้าของคนที่เธอคิดถึงถวิลหาตลอดเวลาปรากฏอยู่บนหน้าจอทีวีขออัปเดตชีวิตของเธอหน่อยแล้วกันตอนนี้เธอย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพได้เกือบสามเดือนแล้ว บ้านที่เธอตัดสินใจซื้อเป็นบ้านสวนร่มรื่นน่าอยู่มากทีเดียวเธอซื้อมาในราคาหนึ่งล้านบาทเจ้าของคนเก่าใจดีมากบังเอิญได้รู้จักกันคุณป้าเลยขายให้ในราคาถูก เพราะคุณป้าเจ้าของบ้านจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดบ้านเกิดพอดี“ขอถามเรื่องส่วนตัวนิดหนึ่งนะคะ ตอนนี้คุณกฤษฎิ์โสดหรือมีเจ้าของหัวใจแล้วค่ะ”พิธีกรสาวพราวเสน่ห์ถามคำถามที่
3 ปีต่อมาโกดังร้าง“มึงจะบอกไม่บอกว่าใครส่งมึงมา”กฤษฎิ์เอาปืนจ่อหัวผู้ชายที่ยืนหน้านิ่งตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ สายตาคมกริบที่จ้องมองศัตรูเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดและไร้ความปรานี“แล้วทำไมกูต้องบอกมึงด้วยล่ะ”ยิ้มเย็นตอบกลับอย่างกวนบาทาก่อนที่จะถมน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดลงพื้นเพื่อกวนโทสะของกฤษฎิ์“ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก เรื่องแค่นี้กูไม่จำเป็นต้องรอคำตอบจากคนอย่างมึง”ปังเสียงกระสุนปืนดังขึ้นหนึ่งนัดก่อนที่ร่างของคนที่ยืนตรงหน้ากฤษฎิ์จะล้มลงขาดใจตายทันที“เก็บศพมันด้วยนะ ชิน”หันไปสั่งลูกน้องมือขวาคู่ใจที่คอยช่วยงานในมุมมืดก่อนที่ชินจะรับปืนมาถือไว้แล้วบอกลูกน้องคนอื่น ๆ มาเก็บศพก่อนจะเดินตามกฤษฎิ์ออกไป“แล้วจะเอายังไงต่อไปครับนาย”เมื่อเดินออกมานอกโกดังชินก็ถามกฤษฎิ์อย่างพร้อมที่จะรอรับคำสั่งทันที“เก็บพวกมันที่เหลือให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว ในเมื่อไม่อยากบอกก็ปล่อยมันไป”ชินก้มหน้ารับคำสั่งก่อนที่กฤษฎิ์จะเดินไปขึ้นรถที่เรียวสตาร์ตรออยู่แล้วก่อนจะเดินทางกลับทันทีNevigator Pub“ว่าไงเพื่อนรักหายไปไหนมากูนั่งรอตั้งนาน”คิง เพื่อนรักนักธุรกิจของกฤษฎิ์ถามทันทีที่กฤษฎิ์นั่งลงบนโซฟาสุ
หลายวันต่อมากฤษฎิ์ขับรถสปอร์ตคันหรู Ferrari รุ่นใหม่ล่าสุดมาจอดหน้าเซเว่นฯ แห่งหนึ่ง เมื่อเขาทำธุระที่ไอ้เจ้าหลานชายตัวดีขอร้องเสร็จก็รีบบึ่งรถออกมาจากภัตตาคารหรูทันทีเพื่อที่จะเข้าเวรช่วงเย็นวันนี้ แต่ตอนนี้อาการง่วงเข้าเล่นงานเขาซะจนต้องแวะ เซเว่นฯ เพื่อหากาแฟเติมพลังให้ตัวเองดีดสักหน่อย“เซเว่นฯ ยินดีให้บริการค่ะ”เสียงพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ร้องบอกหนุ่มหล่อทันทีที่เขาเดินเข้ามาข้างในร้านอย่างตื่นเต้น เสื้อเชิ้ตสีขาวตัดกับกางเกงสแล็กส์สีน้ำเงินช่างดูดีหล่อเหลาราวกับรูปปั้นชวนให้พนักงานสาวตัวบิดม้วนด้วยความขวยเขิน“หาวว ง่วงจังเลยว่ะ เมื่อคืนไม่น่าดื่มกับไอ้หมอนัทเลย ง่วงชะมัด” กฤษฎิ์ยกมือขึ้นปิดปากก่อนที่จะเดินไปกดกาแฟใส่แก้ว เขาว่ากันว่ากาแฟเซเว่นฯ มันแรง นี่น่าจะจริงแฮะ เคยมีรุ่นน้องบอกมา แล้วนับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ดื่มแต่กาแฟเซเว่นฯ เป็นประจำ เพราะกาแฟที่ว่าราคาแพงยังเอาเขาไม่อยู่สักแก้วเลย ของเขาดีจริง ๆ แถมราคาไม่แพง มือแกร่งหยิบแก้วกาแฟออกมาเตรียมกดน้ำแข็งแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีแรงจิ้มเบา ๆ ที่ต้นขาจึ้ก จึ้ก จึ้กเมื่อก้มลงมองก็เห็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักยืนยิ้มแฉ่งเผยลักยิ้มทั้งส
โรงพยาบาล N“แก้มใสลูกนั่งรอแม่ขาตรงนี้นะคะเดี๋ยวแม่ขามา อย่าเถลไถลนะรู้ไหม เดี๋ยวป้าอ้อยมานะลูกนะ”ที่รักบอกแก้มใสที่อยู่ในชุดกระโปรงลายการ์ตูนก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาลเพื่อติดต่อขอวางขนมไทยของแม่เธอขายตุ้บของเล่นที่แก้มใสกำลังนั่งเล่นเผลอหลุดมือกลิ้งไปบนทางเดิน หนูน้อยรีบปีนลงจากเก้าอี้เพื่อวิ่งไปเก็บทันที“อะ หนู ระวัง”กฤษฎิ์ร้องบอกแก้มใสก่อนที่จะอุ้มแก้มใสขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนทันที เมื่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำลังเข็นรถอุปกรณ์ของใช้ใส่ลังซึ่งซ้อนกันหลายชั้นจนทำให้มองไม่เห็นทาง ซึ่งเขาผ่านมาทางนี้พอดีก่อนจะเห็นหนูน้อยกำลังวิ่งตามเก็บของเล่นที่หล่นอยู่จนไม่ทันมองทางเดิน เมื่ออยู่ในอ้อมแขนของกฤษฎิ์แก้มใสก็กอดคอหนาไว้ทันทีด้วยความตกใจ“เอ่อ ขอโทษครับท่านประธานพอดีผมมองไม่เห็นทางจริง ๆ”พนักงานสองคนที่ช่วยกันเข็นรีบขอโทษกฤษฎิ์ทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นกฤษฎิ์ที่กำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยอยู่“ทีหลังระวังด้วย ในเมื่อลังมันซ้อนกันแบบนี้ก็ควรแบ่งกันเข็นคนละฝั่งจะได้ช่วยกันดูทางไม่ใช่ไปเข็นฝั่งเดียวกัน”ตำหนิพนักงานด้วยน้ำเสียงเข้ม ก่อนที่พนักงานทั้งสองจะยกมือไหว้ขอโทษอีกครั้
บรื้น บรื้น บรื้นเสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถ Ferrari ดังขึ้นก่อนที่รถแข่งทั้งสี่คันจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เก้าทัพขับรถด้วยความใจเย็นและมีสติ สายตาที่คมกริบมองไปข้างหน้าอย่างมีสมาธิและไม่วอกแวก ตอนนี้รถที่เขาขับอยู่ลำดับที่สองเมื่อถึงโค้งอันตรายเก้าทัพไม่รอช้าเร่งเครื่องขึ้นไปแซงรถคันแรกตอนเข้าโค้งด้วยความชำนาญไม่มีหลุดเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะวิ่งเข้าเส้นชัยไปอย่างฉิวเฉียดพร้อมกับเสียงกรี๊ดของผู้ชมที่มาดูการแข่งขันของวันนี้"กรี๊ดด อยากเห็นหน้าเจ้าของรถคันสีดำจังเลยผู้หญิงหรือผู้ชายอะแกตอนเข้าโค้งโคตรเท่เลย""ใครวะแก ฝีมือขับรถไม่ธรรมดาเลย เอาชนะพี่เอ็มได้นี่โคตรเทพเลย""รอดูหน้าเลยแกนั่นๆ เขาจอดรถแล้ว เขาจะหล่อไหมน้า"เอี๊ยดเสียงล้อรถบดกับพื้นสนามเสียงดังลั่นก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จะดับลงเก้าทัพเปิดประตูรถออกมา ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์สีดำเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าออกอย่างลวก ๆ ก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนๆที่กำลังรอการมาของเขาอยู่ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของสาว ๆ เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าของรถ Ferrari ที่เป็นผู้ชนะก็ถึงกับพากันกรี๊ดออกมาสุดเสียงเพราะเขาคือพี่เก้าทัพ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าหล่อแต่หน
เมื่อเดินออกมาจากสนามได้ไม่กี่ก้าวเก้าทัพก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำจนทนไม่ไหวก่อนจะบอกแก้มใสให้รอตัวเองตรงนี้ก่อน"พี่แก้มรอเก้าตรงนี้ก่อนนะเก้าไปห้องน้ำแป๊บเดียวเดี๋ยวมาห้ามเถลไถลหรือไปเล่นซนที่อื่นเข้าใจไหม"เก้าทัพบอกพี่สาวที่กำลังเดินเล่นมือถืออยู่ก่อนที่แก้มใสจะเงยหน้าขึ้นจากมือถือแล้วพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย"ห้ามหายไปไหนนะ เก้ากลับมาต้องเห็นพี่แก้มยืนรอเก้าอยู่ตรงนี้นะรู้เปล่า"เก้าทัพเดินไปได้เพียงสองก้าวก็หันมาย้ำพี่สาวอีกครั้งอย่างกลัวว่าถ้าเขากลับมาแล้วพี่สาวสุดแสบของเขาจะหายไปจากตรงนี้น่ะสิ ไม่ได้กลัวผู้ชายมาฉุดนะเพราะพี่สาวเขาสายสตรอง สายเฟียร์ส เห็นตัวเล็กร่างบางแบบนี้แต่กลับล้มผู้ชายร่างใหญ่มาหลายคนแล้วเก่งใช่ไหมล่ะ หึหึ"เฮ้ย มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ กูบอกให้หยุด"เสียงร้องตะโกนสั่งให้หยุดก่อนแก้มใสจะได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนวิ่งมาทางที่เธอกำลังยืนอยู่ ก่อนที่จะพากันวิ่งมาดักหน้าผู้ชายสามคนที่กำลังจะวิ่งหนีดูก็รู้ว่าเหมือนกำลังจะมีเรื่องกันเลย เธอว่ามันเป็นเรื่องปกตินะที่สนามแข่งรถของพี่ชายเธอ จะมีคนตีกันเพราะตีกันบ่อยจนพี่ชายเธอชินไปซะแล้ว แต่ที่มันไม่ปกติคือพวกไอ้หน้า
โรงเรียนมัธยม C“น้องคะเห็นเก้าทัพไหมคะ”เด็กหญิงแก้มใสในวันวานตอนนี้เติบโตเป็นสาวสวยวัยแรกแย้มด้วยวัย 21 ปี แต่ความเฟียร์สที่มีไม่ได้ลดลงเลยสักนิดกลับทวีความแสบขึ้นทุกวัน จนคุณพ่อขาแบบกฤษฎิ์กุมขมับวันละหลายรอบเลยทีเดียว“อ้อ น้องเก้าทัพ กันต์ดนัยใช่ไหมคะ”สาวน้อยม.ปลายถามพี่สาวคนสวยหุ่นดีสุดเซ็กซี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนที่แก้มใสจะพยักหน้ารับ“เห็นอยู่ที่หอประชุมค่ะ”สาวน้อยม.ปลายหันหลังชี้ไปที่หอประชุมขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหลังโรงเรียนก่อนที่แก้มใสจะยิ้มสวยให้จนเห็นลักยิ้มข้างแก้มทั้งสองข้าง“ขอบใจจ้ะ”แก้มใสเมื่อรู้ว่าน้องชายอยู่ที่หอประชุมขาเรียวสวยในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย เสื้อนักศึกษาขนาดพอดีตัวกับกระโปรงพลีทโชว์เรียวขาสวยก็เดินไปตามทางที่สาวน้อยชี้บอกทันทีผัวะ ผัวะ ผัวะเมื่อแก้มใสเดินมาถึงทางเข้าหอประชุมเธอก็เห็นนักเรียนชาย ม.ปลายสามสี่คนกำลังรุมน้องชายเธออยู่ แต่ดูแล้วน้องชายที่เก่งการต่อสู้ของเธอจะได้เปรียบแฮะ ก่อนที่ขายาว ๆ จะวิ่งเขาไปกระโดดถีบหลังไอ้ตัวโย่งที่มันบังอาจจะมาลอบกัดทุบหลังน้องชายเธอปึกแรงถีบมหาศาลจากขาเล็กที่ทักษะการเตะต่อยไม่ได้เล็กตามไปด้วยส
ครืด ครืด ครืด“แม่ขาโทรศัพท์คุณยายโทรมาค่ะ”แก้มใสที่นั่งเลี้ยงน้องชายอยู่ตะโกนบอกแม่ขาที่กำลังทำมื้อเช้าให้เก้าทัพอยู่ในครัวกับพี่ ๆ แม่บ้าน ส่วนตัวเธอนั้นกำลังนั่งเล่นของเล่นเป็นเพื่อนเก้าทัพในวัยขวบครึ่ง“แก้มฉายย นี่ ๆ”มือน้อย ๆ ของเก้าทัพจับชายเสื้อของพี่สาวเอาไว้แน่นก่อนที่จะพยายามดึงพี่สาวมานั่งข้าง ๆ ตัวเอง แต่แก้มใสก็ยังนั่งเล่นตุ๊กตาที่เดิมจนเก้าทัพโมโหจับหุ่นยนต์ตัวน้อยเขวี้ยงใส่หัวพี่สาวดัง ปึก “โอ๊ย เก้าเขวี้ยงพี่ทำไมเนี่ย”แก้มใสหันมาว่าน้องชายด้วยความโมโหที่โดนเขวี้ยงหุ่นยนต์ใส่ หน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความงอนน้องชายก่อนจะกอดอกเชิดหน้าใส่ ปากน้อย ๆ บึนใส่น้องชายที่ไม่ได้รู้เลยว่าพี่สาวกำลังงอนตัวเองอยู่ ที่รักเดินออกมาจากในครัวเพื่อรับโทรศัพท์ของแม่ที่โทรมาหาเธอก่อนจะเจอกับแก้มใสที่กำลังทำหน้างอใส่น้องชายอยู่“แก้มฉาย มา มา”เก้าทัพกวักมือเรียกพี่สาวที่ทำหน้างอนอย่างไม่ประสาก่อนที่ที่รักจะก้มลงอุ้มลูกชายขึ้นมาในอ้อมกอด แต่เก้าทัพก็ดิ้นจะลงจากอ้อมกอดของแม่จะไปหาพี่สาวเพื่อเล่นด้วย พอดีกับที่กายเดินลงมาจากชั้นบนก็เลยรับเก้าทัพมาอุ้มไว้เองเพราะที่รักกำลังติดสายอยู่“ไหนน้อ
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วก็เป็นหน้าที่ของคุณแม่และคุณพ่อมือใหม่อย่างกฤษฎิ์ที่ต้องคอยดูแลและเลี้ยงลูกน้อยเอง คุณหญิงกรองแก้วกับผกาเสนอให้หาพี่เลี้ยงเด็กมาคอยดูแลลูกน้อยช่วยที่รักแต่กฤษฎิ์ปฏิเสธเพราะเขาจะเป็นคนที่คอยช่วยภรรยาเลี้ยงลูกของเขาเอง ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเขาก็จะอดทนเพราะลูกคนนี้เขาตั้งใจจะเลี้ยงเองตั้งแต่เล็กจนโต เขาจะคอยเฝ้ามองดูพัฒนาการการเติบโตของลูกน้อยไปเรื่อย ๆ โดยที่มีเขากับเมียตัวน้อยคอยอุ้มชูและดูแลให้ลูกชายคนนี้โตขึ้นมาอย่างดีที่สุด“หนาวไหมครับลูกพ่อ หืม”คุณพ่อมือใหม่ที่ลุกขึ้นมาอาบน้่ำให้ลูกชายแต่เช้าพูดคุยหยอกล้อกับลูกน้อยอย่างอารมณ์ดี ช่วงนี้งานต่าง ๆ เขาโยนให้กายเข้ามาช่วยดูแลไปก่อน ส่วนเขาขอตัวมาเป็นคุณพ่อมือใหม่หัดเลี้ยงลูกก่อนแล้วกัน หลานชายเขาว่างมันเก่งจะตายบางทีอาจจะเก่งกว่าเขาด้วยซ้ำฉะนั้นให้กายช่วยงานเขาดีที่สุดจบปิ๊งใช่ไหมครับเก้าทัพลูกพ่อ“แหม อยู่กับพ่อไม่งอแงเลยนะเก้าทัพ”ที่รักที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมาแซวลูกน้อยที่ให้พ่ออาบน้ำให้อย่างอารมณ์ดี ส่วนกฤษฎิ์ยิ้มแป้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้นสงสัยลูกจะชอบเขาแน่นอนเลยร้องไห้ทีไรเขาโอ๋แป๊บเดียวก็เงียบตลอด“มาค่ะ เ
เมื่อครบกำหนดคลอดที่รักก็ยังไม่รู้สึกปวดท้องคลอดแต่อย่างใดจนเลยกำหนดคลอดมาเล็กน้อยตอนนี้ที่รักกำลังอยู่ในห้องคลอดเธอเลือกที่จะคลอดแบบธรรมชาติแทนการผ่าตัด ส่วนคนที่ทำคลอดให้เธอน่ะเหรอไม่ใช่คุณหมอที่ไหนหรอก สามีสุดที่รักของเธอเองแหละเพราะหวงเมียยิ่งกว่าอะไรซะอีกใครจะยอมให้หมอคนอื่นมาทำคลอดให้เมียเขากันล่ะ ตอนที่รู้ว่าเมียตัวน้อยเจ็บท้องคลอดเขาถึงกับทิ้งงานที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมดแล้วรีบมาทำคลอดให้เมียทันทีงานกับเมียเมียสำคัญกว่าเห็น ๆ“อื้อออ พี่หมอที่รักเจ็บ เจ็บเหลือเกิน”ที่รักที่ตอนนี้กำลังเบ่งคลอดร้องบอกสามีด้วยความเจ็บปวดเธอเจ็บมากเหลือเกินเจ็บเหมือนครั้งที่คลอดแก้มใสเลยใครบอกมีลูกคนที่สองจะชินเธอก็ยังเจ็บอยู่ดี“อดทนอีกนิดนะคนดี ใกล้แล้ว ๆ”กฤษฎิ์บอกเมียด้วยความสงสารเขาทำคลอดมาก็เยอะแต่พอมาทำคลอดให้เมียเขาโคตรใจบางเลย สงสารเมียอย่างบอกไม่ถูกต้องทนอุ้มท้องตั้งเก้าเดือนแล้วยังจะต้องเจ็บเพราะเบ่งคลอดอีกเห็นแบบนี้แล้วเขาอยากเจ็บแทนเหลือเกิน“ฮึก ฮืออ อื้ออ แฮกก”ทั้งร้องไห้ ทั้งออกแรงเบ่งออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมานโดยที่มีกฤษฎิ์ค่อยซับเหงื่อให้ตลอดเวลา ส่วนมืออีกข้างจับมือที่รักไว้แน่นอย่
หลังจากวันที่พี่หมอไปเต้นแสดงความสามารถพิเศษกับลูกสาวตัวน้อยคุณพ่อกับคุณลูกก็กลายเป็นดาว Tiktokไปเรียบร้อย ว่างเป็นไม่ได้ต้องพากันอัดคลิปลง Tiktok ทุกทีเลยแต่เห็นแบบนี้ที่รักไม่อยากจะอวดเลยว่าคนตามสองพ่อลูกสุดเฟียร์สกันเป็นแสนเลยนะคะ และการที่แก้มใสชอบเต้นพี่หมอเลยส่งแก้มใสไปเรียนเต้นเป็นที่เรียบร้อยซึ่งเด็กหญิงแก้มใสก็ชอบมาก ๆ กับการเรียนเต้นกลับมาจากเรียนทีไรเป็นต้องเต้นอวดพ่อขาแม่ขากับพี่กายทุกครั้งเลย“พ่อขาเอาใหม่ ๆ ท่านั้นพ่อขาทำไม่ถูก”แก้มใสเบรกพ่อขาที่กำลังเต้นท่าน่ารัก ๆ ดุ๊กดิ๊กตามคลิปที่กำลังดังอยู่ใน Tiktok ตอนนี้ ส่วนที่รักได้แต่นั่งกินมะม่วงเปรี้ยวมองสองพ่อลูกที่กำลังเต้นอยู่ ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนกว่าแล้วท้องเธอใหญ่กว่าตอนที่ท้องแก้มใสมาก ส่วนเพศลูกในครรภ์ยังไม่รู้เพราะพี่หมอรอรู้ทีเดียวตอนคลอดเลยเหตุผลคือรอลุ้นมันน่าตื่นเต้นดีออก ซึ่งกายกับพี่หมอมีการพนันกันไว้พี่หมอบอกว่าตัวเองจะได้ลูกผู้ชาย ส่วนกายก็บอกว่าตัวเองจะมีน้องผู้หญิงโดยเงินเดิมพันในครั้งนี้สูงลิบลิ่วถึงห้าล้านบาทเชียวแต่คนที่ได้กลับกลายเป็นแก้มใสซะงั้นต่อให้ใครจะชนะก็ตาม“งั้นเอาใหม่แล้วกันรอบนี้พ่อ
ในที่สุดเด็กหญิงแก้มใส กมลชนก พิสิฐกุลวัตรดิลก ก็อายุครบห้าขวบซึ่งคุณพ่อแบบกฤษฎิ์ก็จัดงานฉลองวันเกิดเล็ก ๆ ให้ลูกสาวสุดที่รักด้วยการพาลูกสาวตัวน้อยไปทำบุญที่วัดใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งก็วุ่นวายกันพอสมควรกับความแสนซนของลูกสาวที่ไปทักหลวงตาว่าทำไมถึงหัวโล้น กฤษฎิ์กับที่รักแทบลมจับที่ได้ยินคำถามสุดแสนไร้เดียงสา ที่ลูกสาวตัวน้อยถามหลวงตาตอนที่หลวงตากำลังรดน้ำมนต์อวยพรวันเกิดให้ หลังจากนั้นครอบครัวของกฤษฎิ์ก็พากันไปบริจาคข้าวของเครื่องใช้ให้กับบ้านเด็กกำพร้ารวมถึงเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งเด็กหญิงแก้มใสดูจะชื่นชอบเป็นพิเศษทั้งตักอาหารให้ทั้งชวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องคุยจนแทบไม่ได้ทานมื้อเที่ยงกันซึ่งกว่าจะผ่านวันเกิดมาได้ กฤษฎิ์ถึงกับกุมขมับหลายรอบกันทีเดียวเนอสเซอรี“คุณพ่อคะอาทิตย์หน้าทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมการประกวดความสามารถพิเศษของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้น การร้องเพลง และการเล่นดนตรีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ร่างกาย และจิตใจของเด็ก ๆ คุณครูฝากให้น้องแก้มใสเตรียมการแสดงมาด้วยนะคะ คุณพ่อหรือคุณแม่สามารถมาแสดงร่วมกับน้องได้ค่ะ คุณครูฝากการบ้านการแสดงและเรียนเชิญคุณแม่น้องแก้มใส
“อ้วก แหวะ”เสียงอาเจียนของที่รักที่ดังออกมาจากในห้องน้ำเรียกความสนใจจากกฤษฎิ์กับแก้มใสที่กำลังนั่งเล่นของเล่นด้วยกัน สองพ่อลูกชะงักมือที่กำลังเล่นอยู่ทันที เพราะวันนี้เป็นวันหยุดสามคนพ่อ แม่ ลูกจึงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนที่รักตอนนี้อายุครรภ์ย่างเข้าเดือนที่สี่ แล้วเมียตัวน้อยของเขาแพ้ท้องหนักมากจริง ๆ ก่อนที่กฤษฎิ์จะลุกจากโซฟาเดินไปหาที่รักที่กำลังก้มหน้าอาเจียนใส่ชักโครกอยู่“ไหวไหมคะคนดี”มือใหญ่ลูบหลังเมียตัวน้อยเบา ๆ ด้วยความสงสารลูกคนนี้ทำไมดื้อจังเลยนะ ไม่สงสารแม่ขาเลยหรืออย่างไรตาหนูของพ่อคิดในใจก่อนที่จะลูบหลังที่รักเบา ๆ“สงสัยลูกต้องดื้อมากแน่ ๆ เลยค่ะ เล่นซะจนที่รักหมดแรง”เงยหน้าจากชักโครกขึ้นบอกกฤษฎิ์เสียงเบาก่อนที่จะพิงอกอุ่น ๆ ที่พร้อมจะให้เธอพิงเสมอไม่ว่าจะยามหลับ ยามตื่น หรือแม้กระทั่งตอนที่เธอนั่งอยู่หน้าชักโครกก็ตาม“ลูกชายไงคะเลยดื้อมากเป็นพิเศษ”บอกเมียตัวน้อยด้วยรอยยิ้มก่อนที่กฤษฎิ์จะพยุงที่รักให้ลุกขึ้นเพื่อบ้วนปาก แล้วหยิบทิชชูที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาเช็ดปากให้ที่รักอย่างเบามือ“พี่หมอคะ ที่รักอยากกินขนมครกหน้าปากซอยจังเลยค่ะ”เมื่อเดินออกมาจ