“ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของเจ้าศักดินาเคนนี่จะต้องจบลงเช่นนี้จริง ๆ” “ฉันได้ยินมาว่าเป็นเพราะเจ้าศักดินาเคนนี่หลอกลวงจักรพรรดิและช่วยเหลือผู้หญิงที่ชื่อโมนิก้ากับลูกชายของเธอใช่ไหม? เขาก็เลยต้องถูกประหารชีวิต” “เฮ้อ! ชีวิตเขาต้องมาจบลงเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว” เจ้าศักดินาเคนนี่เงยหน้าขึ้นท่ามกลางสายฝนที่เย็นยะเยือกและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ผู้คนกำลังซุบซิบนินทาเขา ในวันที่ภรรยาของเขาถูกนำตัวออกมาประจานต่อสาธารณชน สายฝนก็ได้โหมกระหน่ำลงมาเหมือนดั่งเช่นวันนี้ ภาพของโมนิก้าผุดขึ้นมาในใจของเขาทันที ความทรงจำนั้นทำให้เขายิ้มได้ ‘ยอดรักของผม คุณเป็นยังไงบ้าง? ผมรู้สึกละอายใจยิ่งนักที่ผมไม่สามารถปกป้องแอมโบรสได้ ผมขอโทษ ผมคงไม่กล้าสู้หน้าคุณอีกแล้ว' เจ้าศักดินาเคนนี่ยังไม่รู้ว่า อีเวตต์ได้พาแอมโบรส หลบหนีไปกับเธอแล้ว "ได้เวลาแล้ว เตรียมตัวประหาร!” ในเวลานั้น เสียงของเพชฌฆาตก็ดังขึ้น จากนั้นผู้ประหารก็ยกใบมีดขนาดใหญ่ขึ้นมา เจ้าศักดินาเคนนี่หลับตาลงด้วยความรู้สึกสิ้นหวังภายใต้การจ้องมองของฝูงชน ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสนิท ในตอนที่โมนิก้าถูกนำตัวออกมาประจานต่อสาธารณะชน ฝูงชนได้ขว้
“รีบออกไปจากที่นี่กันก่อน” เซเลสเต้พูดเบา ๆ ขณะที่พูดเช่นนั้น เซเลสเต้ก็กระตุ้นพลังภายในเพื่อทำลายโซ่โลหะบนร่างกายของเจ้าศักดินาเคนนี่ จากนั้นเธอก็พาเขาบินขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว เพชฌฆาตตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “รีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า!” จากนั้น ทหารที่เหลือก็รีบวิ่งตามเซเลสเต้และเจ้าศักดินาเคนนี่ไป แต่พวกเขาจะตามเซเลสเต้ด้วยความสามารถที่อ่อนแอเช่นนี้ได้อย่างไร? ในไม่ช้า ร่างของเธอและเจ้าศักดินาเคนนี่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ฝูงชนต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น “เธอเป็นเทพธิดาหรือเปล่า?” “เจ้าศักดินาเคนนี่ช่างโชคดี ที่มีผู้หญิงที่งดงามเช่นนั้นมาช่วยเอาไว้!” “หากเธอเป็นเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ นั่นก็ถือเป็นการตายที่คุ้มค่า” ในเวลานั้น เซเลสเต้พาเจ้าศักดินาเคนนี่บินขึ้นไปบนยอดเขาแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมืองหลวง ฝนที่โปรยลงมาก่อนหน้านี้ได้หยุดลง เหลือเพียงลมหนาวที่ผ่านพัดมาเท่านั้น เจ้าศักดินาเคนนี่มองดูเซเลสเต้อย่างสงสัย "คุณเป็นใคร? ทำไมคุณถึงช่วยผม?” เซเลสเต้มองดูเจ้าศักดินาเคนนี่อย่างใจเย็นและพูดขึ้นว่า “คุณไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อฉัน ฉันเป็นเจ้าสำนักสุญตา ส่วนเหตุผลท
ชื่อเสียงและความมั่งคั่งไม่มีความหมายสำหรับเจ้าศักดินาเคนนี่อีกต่อไป เมื่อเขามีชีวิตรอดมาได้ เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะผจญภัยไปยังทวีปอื่น … ที่ในพื้นที่ชนบทในทวีปโลกใหม่ มีวิหารเก่าแก่ตั้งอยู่ที่นั่น อีเวตต์และแอมโบรสหนีมาจนสุดหนทาง จนพวกเขามาหยุดอยู่ที่วิหารเก่าแก่ในที่สุด ในเวลานั้น แอมโบรสนั่งอยู่บนกองฟางและมองดูอีเวตต์ที่กำลังยุ่งกับการทำอาหาร อีเวตต์กำลังจุดไฟย่างกระต่าย! พวกเขาหนีออกมาตัวเปล่า ดังนั้นอีเวตต์จึงไม่ได้นำอะไรติดตัวมาด้วย แต่ด้วยทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมของเธอ ทั้งวิหารเก่าแก่จึงตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอันโอชะ “หอมมากเลย! อาหารของคุณน่ากินที่สุดในโลก!” แอมโบรสกล่าวชมเชยอีเวตต์พร้อมปรบมือ เด็กชายเลียริมฝีปากอย่างหิวโหย “เจ้าตัวเล็กคงหิวแล้วสินะ!” อีเวตต์รู้สึกยินดีที่ได้ฟังคำชมเชยจากแอมโบรส จากนั้นเธอก็ยืนกระต่ายย่างให้เขา หลังจากที่พวกเขาต้องวิ่งหนีมาทั้งคืน แอมโบรสจึงดูเหนื่อยล้า แต่ในที่สุดเขาก็ตื่นตัวเมื่อเขาได้รับกระต่ายย่างจากอีเวตต์ อีเวตต์มองดูแอมโบรสอย่างเงียบ ๆ ด้วยหัวใจที่รู้สึกเจ็บปวด เขาเป็นเด็กดีจนใคร ๆ ก็ต้องรู้สึกสงสารเขา ในขณะที
จากนั้นแอมโบรสก็หันมาและถามอีเวตต์ว่า “อ้อ! คุณพ่อของผมอยู่ที่ไหน? ผมได้ยินว่าจักรพรรดิต้องการประหารชีวิตเขา เขาจะไม่ตายใช่ไหมครับ?” “เขา…” อีเวตต์ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มและพูดปลอบโยนเขาว่า “เขาจะต้องไม่เป็นอะไร” 'ฉันไม่สามารถช่วยเจ้าศักดินาเคนนี่ได้ และตอนนี้เขาก็คงจะถูกประหารชีวิตไปแล้ว หัวใจของเด็กนั้นบอบบางเกินไป ดังนั้นเขาจะไม่สามารถยอมรับกับข่าวร้ายเช่นนี้ได้” ขณะที่พูดเช่นนั้น อีเวตต์ก็ดึงแอมโบรสมากอดไว้ในอ้อมแขน “ได้เวลานอนแล้ว” เมื่อได้สัมผัสอ้อมแขนอันอบอุ่นของอีเวตต์ แอมโบรสก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาของเขาก็ยังคงเบิกกว้าง อีเวตต์เองก็นอนไม่หลับเช่นกัน ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเธอ ‘แอมโบรสเป็นเด็กที่น่าสงสาร ดังนั้นฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเขาเด็ดขาด!' ภายในวิหารเก่าแก่ มีเพียงเสียงฝนที่กำลังตกอยู่ด้านนอก ผ่านไปครู่หนึ่ง แอมโบรสก็ยังคงนอนไม่หลับ เขาจึงพูดขึ้นว่า “ผมนอนไม่หลับ คุณช่วยเล่าเรื่องให้ผมฟังได้ไหม?” "แน่นอน!" อีเวตต์ พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม อีเวตต์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “อืม…ฉันจะเล่าเรื่องที่ฉันปลอมตัวเป็
“ตกลง! ถ้างั้นผมจะนอนแล้ว พรุ่งนี้คุณจะเล่าเรื่องให้ผมฟังอีกได้ไหม?” แอมโบรสยิ้มขณะ กล่าวอ้อนวอนอีเวตต์ "แน่นอน!" อีเวตต์ลูบศีรษะของเขาและตอบด้วยรอยยิ้ม แอมโบรสพยักหน้าอย่างมีความสุข เขาเริ่มง่วงนอนแล้ว ดังนั้นเขาจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว อีเวตต์กอดเขาไว้ในอ้อมแขนขณะที่เธอมองดูเขาหลับสนิท ที่ด้านนอกฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องจนทำให้ภายในวิหารหนาวเย็น ดังนั้นทั้งคู่จึงนอนกอดกันแน่นเพื่อทำให้ร่างกายของพวกเขาอบอุ่น หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งในที่สุดอีเวตต์ก็ผล็อยหลับไป … อีกด้านหนึ่ง ที่พระราชวังเมฆารุ่งโรจน์ ในทวีปโลกใต้เมฆี แดร์ริลนั่งคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดินีอยู่ภายในสวนอันเงียบสงบแต่เขากลับรู้สึกไม่สงบ ก่อนหน้านี้แดร์ริลประสบความสำเร็จในการใช้มดนำด้ายร้อยผ่านรูเล็ก ๆ อันคดเคี้ยวของหยกเก้าเสี้ยว เมื่อเขาทำสำเร็จจักรพรรดินีจึงต้องการมอบรางวัลให้แก่เขา ดังนั้นแดร์ริลจึงบอกว่าเขาต้องการแก่นแท้ของมังกรที่อยู่ในมือของควินซี จักรพรรดินีจ้องมองแดร์ริลอย่างเย็นชา ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็พูดขึ้นว่า “ขันทีน้อย เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการแก่นแท้ของมังกรที่อยู่ในมือของควินซีอย่างนั้นเหรอ?” “ใช่แล้
เมื่อเป็นเช่นนั้นแดร์ริลจึงตัดสินใจได้ทันที เมื่อจักรพรรดินี้ไม่สามารถทำตามคำขอของแดร์ริลได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหาโอกาสขโมยแก่นแท้ของมังกรจากควินซีกลับคืนมา 'ดูเจ้าหมอนั่นสิ!' ในเวลานั้น บรรดาข้าราชการที่อยู่ที่นั่นต่างก็รู้สึกเดือดดาล เมื่อได้เห็นการกระทำของแดร์ริล “ดูขันทีผู้นั้นสิ ช่างไร้มารยาทเสียจริง!” “จักรพรรดินีอนุญาตให้เขาไม่ต้องคุกเข่าเมื่อพบเห็นเธอ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ควรจะคุกเข่าลงในเวลานี้เพื่อแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดินี เขากล้าดียังไงนั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่มียางอาย? ไร้มารยาทเสียจริง ๆ!” แม้แต่จักรพรรดินีเองก็ขมวดคิ้ว แต่เนื่องจากว่าเธอเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ตำหนิเขา จักรพรรดินีหันมองดูข้าราชการหลายคนที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ เธอยิ้มและพูดกับพวกเขาว่า “วันนี้พวกท่านมีบทกวีมาท่องให้ข้าฟังหรือเปล่า?” จักรพรรดินีถามพวกเขาอย่างเร่งรีบ เมื่อสองวันก่อน หิมะได้ตกในช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นโอกาสที่หาชมได้ยาก ทั้งพระราชวังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ จักรพรรดินีชื่นชอบบทกวีมาก ดังนั้น เธอมักจะเชิญข้าราชการมาที่นี่ เพื่อให้พวกเขาได้เพลิดเพลินไปกับทิ
“ขันทีผู้น้อย นายหัวเราะอะไร?” สแตนลีย์เดินเข้าไปใกล้แดร์ริลและถามอย่างเย้ยหยัน ขันทีผู้นี้ไม่ใช่แค่ไม่มีมารยาทเมื่อจักรพรรดินีเชิญให้เขานั่งเท่านั้น แต่เขากำลังหัวเราะเยาะบทกวีของสแตนลีย์อีกด้วย เขากำลังทำให้ทุกคนโกรธเคือง สแตนลีย์รู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง ความโกรธในใจของเขาผุดขึ้นมาทันที เมื่อแดร์ริลรับรู้ได้ถึงความโกรธของสแตนลีย์ เขาจึงยิ้มและพูดขึ้นว่า “ผมเปล่าหัวเราะ” แดร์ริลพูด อย่างไม่ใส่ใจ จักรพรรดิมีหันมองแดร์ริลและถามขึ้นอย่างสุภาพว่า “เจ้ามีความเห็นว่าบทกวีของเจ้าหน้าที่สแตนลีย์ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?” การแสดงออกของแดร์ริลชัดเจนเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมองออกเพราะว่าพวกเขาไม่ใช่คนโง่ “เอ่อ…” แดร์ริลเกาหัวและพูดขึ้นว่า “มันฟังดูธรรมดา ๆ” 'อะไรนะ? ฟังดูธรรมดางั้นเหรอ?' ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “ช่างเป็นขันทีที่ไร้มารยาทเสียจริง!” ในเวลานั้น ข้าราชการคนหนึ่งก็ลุกขึ้นและต่อว่าแดร์ริลทันที “นายรู้ไหมว่าคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้านายเป็นใคร? เขาเป็นอัจฉริยะทางวรรณกรรมผู้ยิ่งใหญ่ แสตนลีย์ ปาร์ค! และบทกวีที่เขาแต่งนั้นมีมากเกินกว่าที่นายจะรู้ได้ นายกล้าพูดได้ยังไ
“เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ไปยั่วยุเจ้าหน้าที่ สแตนลีย์! เจ้าช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!” จักรพรรดินีหันมองแดร์ริลและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แดร์ริล ทำไมเจ้าไม่ลองแต่งบทกวีให้ข้าฟังดูบ้างล่ะ? ในเมื่อเจ้าบอกว่าบทกวีของสแตนลีย์ฟังดูธรรมดา ๆ เท่านั้น” น้ำเสียงอันอ่อนโยนของเธอฟังดูมีอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย! ในเวลานั้น จักรพรรดินีกำลังสงสัยในตัวแดร์ริล ขันทีผู้นี้สามารถใช้มดในการร้อยด้ายแดงได้ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องมีพรสวรรค์บางอย่างเมื่อเขากล่าวว่าบทกวีของสแตนลีย์ฟังดูธรรมดา หรือว่าเขาจะมีความสามารถในการแต่งบทกวี? เมื่อจักรพรรดินีพูดเช่นนั้น บรรยากาศทั้งพระราชวังเมฆารุ่งโรจน์จึงตกอยู่ในความเงียบงันทันที “เอ่อ…” แดร์ริลเกาหัวและพูดกับจักรพรรดินีอย่างสุภาพว่า “ถ้าอย่างนั้นขอผมคิดดูก่อน” ในจักรวาลโลกมีบทกวีเกี่ยวกับหิมะมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นจักรพรรดินีอาจจะได้อ่านบทกวีโบราณของจักรวาลโลกแล้ว เนื่องจากม่านเวทมนต์ระหว่างเก้าแผ่นดินใหญ่ได้หายไป ดังนั้นแดร์ริลจึงไม่ควรจะท่องบทกวีเหล่านั้นให้เธอฟัง แต่ถึงอย่างนั้นแดร์ริลก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เนื่องจากภายในเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติของเขามีผู้ที่มีความสามาร
”รอก่อน”จู่ ๆ ลูคัสก็คิดบางอย่างได้ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางต่อและสั่งลูกน้องทั้งสองของตน “วางแดร์ริลลงและค้นตัวเขา เผื่อว่ามีของอะไร”ฮ่าฮ่าแดร์ริลไม่ใช่เพียงแค่ประมุขสำนักประตูสุราลัยเท่านั้นแต่ว่ายังเป็นจักรพรรดิของเวสต์ริงตัน เขาต้องมีของมีค่าอยู่กับตัวแน่‘ฉันอาจจะเจอคัมภีร์ล้ำค่าบนตัวเขาก็ได้หากว่าฉันหาของมีค่าก่อนที่จะเอาเขาไปส่งที่สำนักเสียงลวงตา’ลูคัสยิ้มพร้อมคิด“ครับ นายน้อย”ลูกน้องทั้งสองรับคำและวางแดร์ริลลงก่อนที่จะเริ่มค้นตัวเขาไม่นานก็เจอของสองอย่างบนตัวแดร์ริล อันหนึ่งคือเจดีย์ส่วนอีกอันคือย่ามใส่สัตว์เทพเจดีย์เจ็ดมหาสมบัตินั้นสามารถเปลี่ยนขนาดได้ ดังนั้นแดร์ริลจึงเปลี่ยนให้เล็กที่สุด สูงแค่ประมาณนิ้วโป้ง ตอนที่เขาไม่ได้ใช้งาน คนทั่วไปก็จะไม่คิดว่ามันเป็นของสำคัญและเป็นเรื่องยากที่จะรู้ถึงความลับของเจดีย์“เอ่อ…”ตอนนั้นลูคัสก็หยิบเจดีย์ขึ้นมา หมุนไปมาเพื่อดู เขานิ่วหน้าและบอกว่า “มันมีพลังวิญญาณและดูเหมือนเป็นของล้ำค่า แต่ว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรกัน?”จากนั้นลูคัสก็ห้อยเจดีย์กลับไว้ที่คอของแดร์ริลเหมือนเดิมแล้วลูคัสก็หยิบย่ามใส่สัตว์เทพขึ้นมาอย่างยินดีแล
สีหน้าของจาค็อบมืดครึ้มเมื่อเขาพูดเช่นนั้น เขาเองก็รู้สึกสับสนที่จริงจาค็อบไม่เชื่อเหมือนกันว่าแดร์ริลจะเป็นคนเช่นนั้น แต่สถานการณ์ตรงหน้าก็ต่างไป อีกอย่างแดร์ริลก็เหม็นกลิ่นเหล้าจริง ๆแต่จาค็อบนั้นก็ทำอะไรรอบคอบสมกับที่เป็นประมุขของคฤหาสน์เกียรติกระบี่และตัดสินใจว่าจะรอให้แดร์ริลตื่นขึ้นมาก่อนที่จะถามเขา“ท่านลุง”แต่ลูคัสร้อนใจขึ้นมาทันทีและบอกอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นยังไง แดร์ริลก็เมาและมานอนที่เตียงปาร์คเกอร์จริง นี่อาจจะทำลายชื่อเสียงทั้งของปาร์คเกอร์และคฤหาสน์เกียรติกระบี่ หากว่าเรื่องหลุดออกไปว่าเราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วคนอื่นเขาจะมองพวกเรายังไง? แล้วอนาคตปาร์คเกอร์จะแต่งงานได้ยังไง?”ลูคัสพูดอย่างเป็นการเป็นงานก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ “ผมคิดว่าเราน่าจะมัดเขาไว้ก่อนแล้วค่อยสอบสวนเขาตอนที่ตื่นขึ้น ทำแบบนั้นก็ไม่เป็นการทำลายชื่อเสียงของคฤหาสน์เกียรติกระบี่”หลายคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเขา“ใช่ อย่างน้อยเราก็น่าจะทำเพื่อชื่อเสียงของคฤหาสน์เกียรติกระบี่”“แดร์ริลแข็งแกร่งมากไป หากว่าคำพูดของนายน้อยลูคัสที่ว่าเขาอยากทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควรกั
”ญาติผู้น้อง”ตอนนั้นเองลูคัสที่แอบอยู่ด้านนอกก็รีบพาคนอีกสองคนเข้ามาทันที“เกิดอะไรขึ้น?” ลูคัสตะโกนเสียงดังอย่างเป็นห่วงก่อนที่จะมองแดร์ริลที่อยู่บนเตียงและทำหน้าตาประหลาดใจ “ทำ… ทำไมประมุขดาร์บี้ถึงได้มาอยู่ที่นี่?”ต้องบอกว่าลูคัสแสดงได้ดีมาก ปาร์คเกอร์ไม่ได้รู้เลยว่ามีเรื่องหมกเม็ดอะไรและคิดว่าลูคัสมาเพราะได้ยินเสียงร้องของเธอ“ฉัน…” ปาร์คเกอร์กัดปากแน่นหน้าแดงก่ำ และพูดอย่างอับอายว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…”ตอนนี้ใจปาร์คเกอร์ว้าวุ่นมาก ผู้หญิงคนไหนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ทำใจให้นิ่งได้ยากกันทั้งนั้น“โอ้ตาย”ตอนนั้นเอง จาค็อบและศิษย์คนอื่น ๆ ที่สังเกตเห็นความวุ่นวายก็เข้ามาเอ่อ…ทุกคนต่างก็อึ้งไปทันทีเมื่อได้เห็นสถานการณ์ในห้องและมีสีหน้าบรรยายไม่ถูก“ทะ… ทำไมแดร์ริลถึงได้อยู่ในห้องของคุณหนูปาร์คเกอร์?”“กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้งเลย…”“เป็นไปได้ไหมว่าแดร์ริลดื่มเหล้าย้อมใจแล้วอยากจะมาทำอะไรกับคุณหนูปาร์คเกอร์…”ฝูงชนต่างก็แสดงความคิดเห็นดัน ลูคัสทำสีหน้าตื่นตะลึงเหมือนกันแต่ว่าในใจนั้นแอบหัวเราะลั่น‘ฮ่าฮ่า ตอนนี้แดร์ริลอธิบายตัวเองยากแล้ว ทุกคนเห็นเขาแบบนี้แล้ว’“ปา
จากนั้นลูคัสก็เรียกลูกน้องออกมาสองคนและบอกว่า “เร็วเขาถอดเสื้อผ้าหมอนี่ออก”ลูกน้องทั้งสองรีบถอดเสื้อผ้าของแดร์ริลออกตามคำสั่ง“อุ้มเขาขึ้นแล้วไปกัน” ลูคัสโบกมือและเดินออกไปลูกน้องทั้งสองคนรีบยกแดร์ริลขึ้นแล้วเดินตามไป พวกเขาไม่ลืมเอาเสื้อผ้าของแดร์ริลไปด้วยพวกเขาอาศัยความมืดของยามค่ำคืน อุ้มแดร์ริลเข้าไปในห้องของปาร์คเกอร์ เธอยังไม่กลับมาที่ห้องตอนนี้เพราะว่าเธอมีธุระต้องจัดการพวกเขาโยนแดร์ริลไปนอนบนเตียงปาร์คเกอร์ก่อนที่ลูคัสจะนำคนของเขาอีกสองคนไปซ่อนอยู่ในมุมมืด“แดร์ริล”ลูคัสยิ้มชั่วร้ายออกมาเมื่อพวกเขาซ่อนมิดชิดแล้ว และพูดกับตัวเองว่า “อย่ามาว่าฉันที่ทำเรื่องชั่ว ๆ เลย ใครใช้ให้นายล่วงเกินประมุขสำนักเสียงลวงตาล่ะ? อีกอย่างญาติฉันก็ชอบนายมากนี่”ตอนแรกลูคัสวางแผนว่าจะเอาตัวแดร์ริลออกจากคฤหาสน์เกียรติกระบี่ทันทีหลังจากที่เขาเมา และส่งไปที่แท่นของสำนักเสียงลวงตา แต่คฤหาสน์เกียรติกระบี่เพิ่มการรักษาความปลอดภัยหลังจากเหตุต่อสู้เมื่อกลางวัน การแอบพาแดร์ริลออกไปจึงไม่ใช่เรื่องง่ายลูคัสตัดสินใจว่าจะถอดเสื้อผ้าแดร์ริลออกและเอาเขามาไว้บนเตียงปาร์คเกอร์ จากนันเขาก็จะรีบเข้ามาแล
”โอ้”แม้เบื้องหน้าลูคัสอาจจะดูนิ่ง แต่ว่าในใจเขายินดีและตื่นเต้นมากเมื่อเห็นแดร์ริลดื่มไวน์ลูคัสนั้นเชิญแดร์ริลมาดื่มไม่ใช่เพราะความชื่นชมแต่อย่างใด แต่เพื่อที่จะได้ทำตามคำสั่งของแจ็คกี้และจับตัวแดร์ริลไปลูคัสนั้นเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่าคนแข็งแกร่งอย่างแดร์ริลไม่มีทางได้รับผลจากยาพิษธรรมดา ๆ แน่ ดังนั้นเขาเลยไม่โง่ขนาดที่จะวางยาในไวน์ไวน์นั้นไม่มียาพิษ แต่ว่าตัวไวน์เองต่างหากที่มีปัญหากรุ่นกรึ่มเป็นเหล้าแรงเป็นพิเศษของทวีปมหาสมุทรอำพัน เพียงแค่ดื่มไวน์นี้เข้าไปอึกใหญ่ก็อาจจะทำให้คนดื่มเมาไปได้ครึ่งเดือน แม้แต่ผู้บ่มเพาะหากว่าได้ดื่มเช้าไปก็ไม่อาจต้านทานความแรงของเหล้าได้ ทุกคนที่รู้จักไวน์นี้รู้ดีว่าต้องกินยาแก้ก่อนที่จะดื่มกรุ่นกรึ่มอย่างเพลิดเพลินแผนของลูคัสก็ง่าย ๆ เขาเจตนาจะไม่บอกแดร์ริลว่ากรุ่นกรึ่มนั้นแรงแค่ไหน แล้วก็รอให้แดร์ริลเมาค่อยจับเขามัดส่วนตัวลูคัสนั้นกินยาแก้ไปแล้ว เขาก็เลยไม่ต้องกังวล“ประมุขดาร์บี้” ลูคัสยิ้มและมองแดร์ริล “ไวน์เป็นไงบ้างครับ?”“ยอดเยี่ยม”แดร์ริลพยักหน้าและอดเอ่ยไม่ได้ “กลิ่นของไวน์นี้แรงมาก มันมีรสหวานติดปลายลิ้น เป็นไวน์ชั้นยอด”แดร์ริล
แจ็คกี้ไม่พูดอะไรอีก เขาหันหลังจากไปแล้วหายไปในความมืดยามค่ำคืนในพริบตา“เฮ้อ”ตอนนั้นเอง ลูคัสก็สูดหายใจเข้าลึกพร้อมสีหน้ายุ่งยากใจประมุขสั่งให้เขาหาทางเอาเอง แล้วเขาจะมีทางอะไรล่ะ?…ตอนนั้นเองที่คฤหาสน์เกียรติกระบี่จาค็อบตั้งใจจัดเลี้ยงให้แดร์ริลเพื่อขอบคุณเขาสำหรับการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจากนั้นแดร์ริลก็ถูกจัดให้นอนพักในห้องพักแขกหลังจากกินอาหารเสร็จตอนนั้นที่แดร์ริลนอนอยู่บนเตียงแต่ยังไม่ได้หลับ สองชั่วโมงผ่านไปแต่ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเรื่องเดบร้าจากคนของปาร์คเกอร์เขายังไม่รู้ที่อยู่ของเดบร้า แล้วเขาจะมีอารมณ์มาพักผ่อนได้อย่างไร?ก๊อก ก๊อกมีเสียงประจบเอาใจดังมาจากนอกห้อง “ประมุขดาร์บี้ คุณนอนหรือยังครับ?”‘หืม?’แดร์ริลนิ่วหน้า เขาลุกขึ้นและเดินไปดูแล้วก็ต้องอึ้งไปเขาเห็นว่าลูคัสยืนยิ้มกว้างอยู่ด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม“มีอะไรให้ช่วยเหรอ?” แดร์ริลถามเบื้องหน้าเขาดูนิ่ง ๆ แต่ในใจแดร์ริลรังเกียจหมอนี่มาก‘เจ้าโง่นี่มาหาฉันทำไมกัน?’“แหะแหะ…”ลูคัสยิ้มด้วยสีหน้านอบน้อมแล้วบอกว่า “ประมุขดาร์บี้ อย่าเพิ่งปฏิเสธผมนะครับ เมื่อตอนกลางวันผมล่วงเกินคุณไปเยอะ แต่คุณก็ใ
”ประมุขดาร์บี้ คุณน่าทึ่งจริง ๆ คุณไล่แจ็คกี้ไปได้”“ใช่แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงได้เป็นผู้ทรงอิทธิพลแบบนี้”เหล่าแขกพากันมาทำความเคารพแดร์ริล พยายามที่จะเยินยอเขา แดร์ริลนั้นขี้เกียจที่จะรับมือกับพวกสอพลอพวกนี้ เขายิ้มและพูดปัด ๆ ไปไม่กี่ประโยคจาค็อบ โยฮันที่อยู่ข้างกายเขาเองก็มีทีท่าไม่แยแสพวกแขกก่อนหน้านี้แขกเหล่านี้พากันมาเยินยอจาค็อบตอนที่เห็นว่าคฤหาสน์เกียรติกระบี่นั้นมีอาวุธระดับม่วง แต่กลับหนีเขาเหมือนเห็นโรคร้ายตอนที่สำนักเสียงลวงตาโผล่มาจาค็อบรู้สึกว่าคงจะดีกว่านี้หากไม่คบหาสหายเหล่านี้ที่ต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์จากเขาเหล่าแขกพากันอับอายที่จะหน้าด้านอยู่ต่อเมื่อรู้สึกได้ถึงท่าทีไม่แยแสของจาค็อบและท่าทีไม่สนใจของแดร์ริล ไม่นานพวกเขาก็จากไปคฤหาสน์เกียรติกระบี่กำลังทำความสะอาดบริเวณที่มีการต่อสู้จนเสร็จสิ้น ปาร์คเกอร์เองก้ไม่ลืมคำขอร้องของแดร์ริล และรีบส่งคนให้ออกไปหาข่าวของเดบร้าทันทีเวลาเดียวกันปาร์คเกอร์ก็เชื้อเชิญให้แดร์ริลอยู่ที่คฤหาสน์เกียรติกระบี่เพราะว่ามันคงใช้เวลากว่าจะหาที่อยู่ของเดบร้าได้ แดร์ริลพยักหน้าตกลงไม่นานก็ถึงเวลาค่ำคืนตอนนั้นเองที่เท
ทุกคนต่างก็มองแดร์ริลเมื่อได้ยินคำพูดของเขาโดยเฉพาะพวกที่หวาดกลัวสำนักเสียงลวงตา พวกเขาต่างก็มีความคิดมากมายแจ็คกี้นั้นเป็นปีศาจร้ายที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา เขานั้นเป็นคนชี้นิ้วสั่งเป็นสั่งตายคนอื่นได้ แต่ตอนนี้เขาแพ้ให้แดร์ริลแบบหมดท่า แล้วเขาจะโมโหจัดจนล้มพนันหรือไม่?“ฟู่”แจ็คกี้หน้าแดงก่ำ เขาสูดหายใจเข้าลึก “แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนดี แต่ฉันก็รักษาคำพูดและยอมรับว่าแพ้แล้ว”จากนั้นแจ็คกี้ก็โบกมือ “ทุกคนจงฟัง เราจะไปจากคฤหาสน์เกียรติกระบี่ทันที แล้วไปรวมตัวกันที่แท่นพิธีหลัก”สีหน้าแจ็คกี้เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจตอนที่ตะโกนประโยคสุดท้ายออกมาที่จริงนั้นเขาไม่เต็มใจจะจากไปแบบนี้สักนิด เขาต้องการจะควบคุมคฤหาสน์เกียรติกระบี่และอาวุธระดับม่วงทั้งสามชิ้นนั้นก็อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมแล้วแต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นเพราะแดร์ริลทำให้เส้นเลือดหัวใจของเขาบาดเจ็บตอนที่ใช้ง้าวสวรรค์ ทำให้แจ็คกี้ไม่สามารถสู้ต่อไปได้“โอ้”เหล่าศิษย์สำนักเสียงลวงตานับพันต่างก็ไปจากคฤหาสน์เกียรติกระบี่ด้วยสีหน้ามืดครึ้มเมื่อได้ยินคำสั่งของแจ็คกี้“แดร์ริล ดาร์บี้”แจ็คกี้เดินไปสองสามก้าวก่อนที่จะหยุด เขาหันกลั
”ประมุขแจ็คกี้ การต่อสู้นี้จบแล้ว” สีหน้าแดร์ริลเย็นเยียบไม่แสดงอารมณ์ใดซูมแดร์ริลโบกง้าวด้วยกำลังที่มีเมื่อพูดจบ และกลิ่นอายที่สั่นสะเทือนฟ้าดินก็ปล่อยออกมาจากง้าวสวรรค์ก่อนที่จะมีลำแสงสีแดงเลือดพุ่งเข้าใส่แจ็คกี้แจ็คกี้แทบไม่ทันคิดขณะที่เขาสีหน้าเปลี่ยน เขารีบปล่อยพลังภายในออกมาและเปลี่ยนเครื่องจักรสังหารให้ป้องกันการโจมตีปังลำแสงสีเลือดทำลายเครื่องจักรเปลี่ยนร่างสังหารออกเป็นเสี่ยง ทำให้แจ็คกี้ร้องครางออกมาและปลิวถอยหลังไปมากกว่า 100 เมตร ก่อนที่จะร่วงกระแทกพื้นอย่างแรงการโจมตีของแจ็คกี้อาจจะดูรุนแรงตอนที่เขาโจมตีแดร์ริล แต่เขาก็ใช้พลังภายในไปเยอะแล้ว ตอนนี้แจ็คกี้ไม่สามารถรับการโจมตีได้เมื่อเจอกับง้าวสวรรค์ของแดร์ริลอะไรกัน?ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างก็อ้าปากค้างเมื่อได้เห็นเรื่องตรงหน้าและมองแดร์ริลอย่างพูดไม่ออกพลังของชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวมากแล้วอาวุธในมือเขาก็ดูพิเศษ มันดูคุ้นตาชอบกล…เฮือกตอนนั้นเองจาค็อบก็มองแดร์ริลด้วยความตกตะลึง แววตาเขาก็ตื่นเต้นมากเพื่อนของลูกสาวเขามีความสามารถขนาดนี้ คนเราจะดูกันแต่ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริง ๆปาร์คเกอร์ตัวสั่นและมองแ