เสี่ยวชิวเสียงไม่เคยกังวลในตัวอวี่เจียวหรงเลย แม้ว่าระดับการบำเพ็ญในตอนนี้ของอวี่เจียวหรงจะไม่ถึงกับไร้เทียมทานแต่เธอรู้ว่ามีสุดยอดผู้แข็งแกร่งหนุนหลังอวี่เจียวหรง ถึงเธอจะไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตามแต่อาจารย์ของเธอเคยบอกกับเธอว่า หากใครก็ตามในรัฐชิงโจวไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ก็ให้พวกเขาไปหาอวี่เจียวหรงไ
ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของตระกูลไป๋หลี่นั้น ไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับสำนักกระบี่เดียวดาย ไม่ต้องพูดถึงว่าผู้สนับสนุนของสำนักกระบี่เดียวดายนั้นเป็นเผ่าเซียนเขารู้วิธีการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ของสำนักกระบี่เดียวดายดี และครั้งนี้ต้องวุ่นวายมากแน่“ท่านพ่อ นี่เราต้องทนแบบนี้ตลอดไปหรือ?” ไป๋หลี่หงอี้พูดขึ้
ผู้อาวุโสของสำนักกระบี่เดียวดายพูดด้วยความโกรธ!ไป๋หลี่เหรินจงไม่ยอมแพ้ เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และพลังลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของเขาเมื่อเห็นแบบนี้ผู้อาวุโสดูก็ตกใจอย่างมาก!“ไป๋หลี่เหรินจงดูเหมือนว่าข้าจะยังคงมองเจ้าต่ำไป ที่แท้เจ้าได้ทะลวงสองระดับยุทธ์ติดกันสินะ”“ไม่น่าแปลกใจ
อวี่เจียวหรงตบผู้แข็งแกร่งจากสำนักกระบี่เดียวดายคนหนึ่งกลายเป็นละอองเลือดทันทีผู้อาวุโสไป๋หลี่เหรินจงและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอยู่สองสามวินาที ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกตัวในเวลานี้เสี่ยวชิวเสียงวางอาหารทั้งหมดไว้บนโต๊ะ และพนักงานเสิร์ฟก็กลัวจนหมดสติและหนีออกจากร้านอาหารทีละคนเสี่ยวชิวเสียงนั่งลงแล้วพูดกับอ
บรรพบุรุษของสำนักกระบี่เดียวดายแข็งแกร่งเกินไปสิ่งที่เขากลัวก็คือสำนักกระบี่เดียวดายจะทำลายตระกูลไป๋หลี่แต่ตอนนี้เมื่อเรื่องราวมาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว เขาทำได้เพียงก้าวและดูไปทีละก้าวเท่านั้นสิบนาทีต่อมา อวี่เจียวหรงและเสี่ยวชิวเสียงรับประทานอาหารเสร็จ และในเวลานี้ ผู้นำขอ
บรรพบุรุษของสำนักกระบี่เดียวดายกลัวมากจนเขาฉี่รสดหลิวตงไป๋ไม่สนใจที่จะเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ลงมือแทงเข็มเงินเข้าไปในร่างกายของเขาจากนั้นเขาก็พูดว่า: “ข้าเป็นผู้พิทักษ์ของเด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างใน พวกเธอชอบสำนักกระบี่เดียวดายของเจ้า”“จากนี้ไป สำนักกระบี่เดียวดายจะเคารพพวกเธอทั้งสองเป็นประมุข”“เ
เพราะพวกเธอรู้อยู่แล้วว่าแม้ฉินเป่ยจะไปถึงโลกนั้น เขาจะไม่สามารถพบกับอวี่เจียวหรงได้ในเวลาอันสั้นและคราวนี้ฉินเป่ยจะไม่ได้ไปพร้อมกับพวกเธอเพียงเพราะเรื่องนี้ ทำเอาพวกเธอทุกคนอารมณ์เสีย!ฉินเป่ยเห็นสิ่งที่พวกเธอคิดแล้ว จึงปลอบโยนพวกเธอ: “เอาล่ะ อย่าเป็นแบบนี้สิ เลิกทำหน้าเหมือนตูดกันได้แล้ว”“หรงเอ
อวี่เจียงเสวี่ยทนไม่ได้ที่จะจากฉินเป่ยไป และไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปไหน!ฉินเป่ยลูบหัวเล็ก ๆ ของเธอแล้วพูดว่า “เธอไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้หรอกหน่า จากนี้ไปเธอไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องของพี่เขยและพี่สาวรู้ไหม”“ตอนเจอพี่สาวแล้วต้องบอกให้ด้วยว่าผมสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง”“แล้วก็ อย่าลืมช่วยพี่สาวให้มากขึ้น