เวินหงอิงและคนอื่น ๆ มองไปที่ยาบำรุงตานเล็กของฉินเป่ยและฟังแนวความคิดของเขา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวินหงอิง เธอไม่กล้าคิดว่าจะทะลวงขั้นราชาจอมยุทธ์ได้ภายในครึ่งปีด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เธอเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในคำพูดของฉินเป่ย ขณะคนอื่นมองไปยังยาบำรุงตานเล็กในมือของฉินเป่ย ตกใจมากเสียจนดว
บอดี้การ์ดทั้งสองตกตะลึงครู่หนึ่งด้วยการเฆี่ยนตี แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะรู้สึกเสียใจใด ๆ และคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วเพื่อขอโทษ อู่เทียนสงเพียงมองปราดเดียว อู่เทียนสงก็รู้ทันทีว่าจ้าวเทียนจี๋หมายถึงอะไร เขารีบทำมือบอกให้บอดี้การ์ดทั้งสองคนลุกขึ้น“นายน้อยจ้าว คุณมีอะไรก็บอกผมมาตามตรงเถอะ ผมยังมีธุระอีกหล
โจวห้าวร้องไห้โฮออกมาอู่เทียนสงส่ายหัวพลางทอดถอนหายแล้วพูดว่า “ขาของคุณไม่ได้บาดเจ็บสาหัสมากนัก แต่คุณฉินฝังเข็มที่ขาของคุณเอาไว้ ขอแค่ฝังเข็มอีกครั้งขาของคุณก็จะหายทันที แต่ผมไม่กล้าฝังเข็มลงไปนี่น่ะสิ คุณฉินเคยบอกใช่ไหมว่ามีแค่เขาคนเดียวในโลกที่สามารถรักษาขาของคุณได้น่ะ”โจวห้าวหยุดร้องไห้ เมื่อน
จ้าวเทียนจี๋เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนสิครับ คนอย่างผมใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น แถมคราวนี้ปู่ของผมก็โกรธมากด้วย ผมไม่กล้าทำให้เขาโกรธอีกแล้วละ ถ้าจะบอกว่าผมไม่เกลียดฉินเป่ยเลยมันก็คงไม่ใช่เรื่องจริง แต่การสู้รบฆ่าฟันไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ใช่ไหมล่ะครับ”“แพทย์เซียนอู่เชื่อผมเถอะ ผมอยากผูกมิตรกับฉินเป่ยจร
จ้าวเทียนจี๋เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเป่ยเฉินอีหลางพูดขึ้นทันที “ดูเหมือนว่าแกจะมั่นใจมากว่าหมาแก่อู่นั่นจะเข้าร่วม ฉันดีใจจริง ๆ ต่อไปแกต้องพยายามแล้วละนะ คราวนี้แกแพ้เด็กฉินเป่ยนั่น ทำให้ฉันผิดหวังในตัวแกมากจริง ๆ !”“อาจารย์จะสอนวิชาลับให้แกในตอนนี้ เมื่อแกเรียนสำเร็จแล้ว ระดับการบำเพ็ญของแกจะเพิ่ม
ฉินเป่ยรับผิดชอบเฉพาะการดำเนินงานของต้าถังกรุ๊ปในเบื้องหลังเท่านั้น ขณะที่อันหนิง เวินหงอิงและคนอื่นๆ จะดำเนินการส่วนที่เหลือเองทันทีที่พวกเขาทั้งสองคนเดินออกจากคลินิก ก็มีรถยนต์ขับมาหยุดตรงหน้าพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็เห็นโจวเทียนเป่ยยกตัวโจวห้าวซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นลงมาจากรถเมื่อเห็นสองพ่อลูกคู่นี้ส
โจวซินหลานต้องการเลือกผู้ช่วยคนใหม่จากกลุ่มผู้คนที่มาใหม่ให้กับหลินชิวเสีย หลังจากการสัมภาษณ์และการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ในที่สุดเธอจึงเลือกเฉินเยี่ยนซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง เฉินเยี่ยนมีอายุใกล้เคียงกับเธอ เป็นคนจินหลิง ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มาจ
ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะดึงหูตัวเอง บีบบังคับให้ตัวเองทิ้งความคิดเหล่านั้น สวมชุดชั้นในให้กับหลินชิวเสียใหม่อีกครั้ง“ชิวเสีย เรื่องนี้รอให้หายป่วยก่อนพวกเราค่อยทำกันเถอะ”เมื่อหลินชิวเสียได้ยิน เธอจึงพูดด้วยความเสียใจว่า “เป็นเพราะสรีระร่างกายของฉันสู้น้องหรงไม่ได้ใช่ไหม?”“คุณพูดอะไร