สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มเลื่อนลอยถึงเวลาแล้วฉินเป่ยคลึงเข็มเงินในมือของเขาแล้วฝังเข็มเงินเล่มแรกลงบนหน้าอกของหลินชิวเสีย เมื่อเข็มถูกฝังลงไปเธอแค่รู้สึกคล้ายกับมังกรไฟที่แผดเผาเลื้อยจากลำคอพาดผ่านถึงทรวงอกของเธอและแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วคลื่นความเย็นภายในร่างกายของเธอถูกยับยั้งลงและเริ
ฉินเป่ยตัวเขาตกตะลึงจนไม่สามารถขยับตัวได้เพราะเขารู้จักแหวนวงนี้ มันเป็นแหวนคู่ของวงที่เขาสวมอยู่ที่มือ !“พระเจ้าช่วย !ไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ?”“ท่านอาจารย์หาคู่หมั้นให้ฉันถึงเจ็ดคนแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย?’หลังหายจากอาการตกตะลึง ฉินเป่ยคล้ายจะเห็นว่าอวี่เจียวหรงถือมีดพุ่งตรงมาที่เขา !“บ้าเอ้ย !”ฉินเ
“ในตอนนี้ คุณต้องเล่าสถานการณ์ของหลินซื่อกรุ๊ป และเรื่องที่คุณอาและคุณน้าถูกฆ่าตายให้ผมฟัง เล่าอย่างละเอียดเลยนะครับ !”ฉินเป่ยอารมณ์สงบและมั่นคง ในเมื่อเขาได้พบหลินชิวเสียแล้ว และยืนยันแล้วว่าเธอคือหนึ่งในคู่หมั้นของเขา งั้นเรื่องของเธอก็เป็นเรื่องของเขา พ่อแม่ของเธอก็คือพ่อแม่ของเขาด้วยเช่นกันเขา
ดวงตาของเธอเจิ่งนองด้วยน้ำตา แต่หัวใจของเธอราวกับถูกอาบไปด้วยน้ำผึ้ง!เธอเคยเข้มแข็ง เธอเคยเด็ดขาดและตัดสินใจทุกอย่างอย่างรวดเร็วทว่าการที่พ่อแม่ถูกฆ่าตาย ทำให้จิตใจของเธอกระทบกระเทือนเสียหายอย่างหนัก เธอไม่สามารถเอาตัวเองออกจากวังวนของเหตุการณ์นี้ได้ ดังนั้นหญิงสาวที่ฉินเป่ยเห็นอยู่ ณ ตอนนี้กลับไม
ตระกูลอัน หนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ในเมืองหยางตู่!“เตรียมรถ ไปหลินซื่อกรุ๊ป เร็วเลย!”อันตงไหลผู้นำแห่งตระกูลอันยังสวมกางเกงไม่เสร็จก็วิ่งออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบด้วยสีหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรง!……ณ หลินซื่อกรุ๊ปเวลานี้ หลังฉินเป่ยชำเลืองมองโทรศัพท์ก็ดึงมือหลินชิวเสียขึ้นมาและพูดขึ้นว่า “น่
โจวซินหลานเกือบขาดหายใจตายแล้ว ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม!อย่างไรก็ตามเธอสงบสติอารมณ์ได้แล้วและรู้สึกดีใจมาก เธอเข้ามาทำงานในหลินซื่อกรุ๊ปได้ห้าปีแล้ว หลินชิวเสียปฏิบัติต่อเธอเหมือนญาติพี่น้อง นอกจากหลินชิวเสียแล้วเธอคือคนที่ไม่อยากเห็นหลินซื่อกรุ๊ปต้องปิดกิจการลงมากที่สุดตอนนี้โอกาสแสดงฝีมือ
เวินหงอิงส่ายหัว“คนขายเนื้อเฉินใช้กลอุบาลพักนี้ไม่เป็นหรอก ฉันสงสัยว่าน่าจะเป็นอีกสองคนนั้น เจ้าตำหนักหม่า คุณอย่าลืมไปสิว่าประธานหลินไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อแม่เธอ บางทีฐานะของประธานหลินอาจเก็บซ่อนความลับอันน่าตกใจไว้ก็ได้!”“จริงสิ เจ้าตำหนักหม่า ฉันบรรลุถึงขั้นยอดปรมาจารย์แล้วนะ เมื่อคืนวานท่านพี่หย
หวังเป่ยซานพูดตรงประเด็นจนจ้าวเทียนเจ๋อใจหวั่นขอบเขตพลังของเขาหยุดนิ่งอยู๋ที่ระดับขั้นยอดปรมาจารย์มานานหลายปีแล้ว หากไม่มีผู้สูงส่งชี้แนะ ไม่มียาเป็นตัวช่วย ชาตินี้เขาคงไม่อาจทะลวงระดับพลังไปอีกขั้นได้ในฐานะจอมยุทธระดับเฒ่าปีศาจที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ขอบเขตพลังไม่ก้าวหน้าสู้ตายไปเสียยังจะดีก