“แก...” ตอนนี้ซินดี้ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด“หยุดนะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาเกือบแปดปี และเราถ่ายรูปด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน อย่าบังคับให้ฉันต้องงัดหลักฐานขึ้นมาพิสูจน์”แคทเธอรีนกวาดสายตาของเธอมองไปที่แขกอย่างใจเย็น ก่อนที่จะหันกลับมาสนใจคู่สามีภรรยาโจนส์ในตอนสุดท้าย“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหรอกค่ะ เพราะตระกูลโจนส์ไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่ดี ฉันไม่อยากอยู่ในพิธีฉลองนี้แม้แต่วินาทีเดียว พูดตรง ๆ นะคะ ฉันรังเกียจพวกหน้าซื่อใจคด”จากนั้นเธอก็โยนไมโครโฟนลงที่ด้านข้างพลางกระโดดลงจากโต๊ะ และเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงภายใต้สายตาของทุกคนที่จับจ้องมาที่เธอตระกูลโลว์และตระกูลโจนส์ได้รับความอับอายเป็นอย่างมากอีธานรู้สึกละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในที่สุด พ่อของเขาก็ก้าวออกไปข้างหน้าและประกาศกับแขกที่มาร่วมงาน “มาเริ่มงานเลี้ยงกันเถอะครับ ขณะที่ให้คู่หมั้นทั้งสองคนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและพักผ่อนที่ชั้นบน ผมพนันได้เลยว่าพวกเขาต้องรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน”เขาส่งสายตาเป็นสัญญาณไปที่อีธานหลังจากพูดเช่นนั้น อีธานกัดฟันแน่นขณะที่ลงจากเวทีและเดินไปที่ด้านหลัง...
นอกจากนั้น อีธานยังจินตนาการภาพแคทเธอรีนอยู่กับชายอื่นไม่ออก“คุณน้าครับ ผมคิดว่าคุณต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ คนบางคนมองดูแค่ผิวเผินจริง ๆ อาจจะไม่ได้ไร้เดียงสา—““ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนแก แล้วฉันก็อายุมากกว่าแกหลายปี ดังนั้นหยุดบอกว่าฉันต้องทำอะไรสักที” เวสลีย์พูดขัดจังหวะผู้ชายคนนั้นขึ้นเรียบ ๆ “ยิ่งไปกว่านั้น แกเป็นผู้ชายประสาอะไรถึงใส่ร้ายแฟนเก่าที่โตมากับแก”ใบหน้าของอีธานแดงก่ำขึ้นด้วยความอับอาย “ที่ผมพูดเพื่อตัวของคุณน้าเองทั้งนั้น คุณปู่และคุณย่าจะไม่มีทางต้อนรับเธอเข้าตระกูล”“เพื่อตัวของฉันเองอย่างนั้นเหรอ? ฉันมั่นใจว่าแกรู้คำตอบดีกว่าใคร ๆ”ติ๊ง ในตอนนั้นเองลิฟต์ก็มาถึงเวสลีย์พาแคทเธอรีนเข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์ที่เลื่อนปิดเข้าหากันบดปังใบหน้าที่โกรธเคืองของอีธานขณะที่อยู่ภายในลิฟต์ เธอรู้สึกอัดอั้นกับอารมณ์บางอย่างที่ถาโถมเข้าใส่ตัวเธอเขามองไปที่เธอ เมื่อคิดว่าเธอคงตกใจ เขาจึงลูบศีรษะของเธอเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้ม“เมื่อสักครู่นี้คุณใจกล้าจริง ๆ หรือเปล่าที่กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะต่อหน้าทุกคนแบบนั้น?”ด้วยความสัตย์จริง เขาเองก็ตกใจที่ทำเธอแบบนั้นนี่คงจะเป็นงานเลี้ยงที่น่า
เรื่องที่ได้ยินทำให้เฟรยารู้สึกแปลกใจ “ฉันทำอะไรให้เธอโกรธหรือเปล่า?”“เธอไม่ได้ทำให้ฉันโกรธ แต่เธอขุดหลุมฝังฉัน!” แคทเธอรีนที่ควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่เริ่มกรีดร้อง “ฌอนไม่ใช่น้าของอีธาน! เธอจำคนผิด!”“ไม่มีทาง...” เฟรย่าไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป“วันนี้ฉันเจอน้าตัวจริงของอีธาน แต่เขากลับกลายเป็น เวสลีย์ โลว์ยอนส์ ฉันได้ดูแลโครงการวิลล่าของเขาที่กรีน เมาน์เทน เมื่อไม่นานมานี้” ตอนนี้แคทเธอรีนรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา “มีอะไรผิดพลาดที่ทำให้เธอเข้าใจผิดแบบนี้? พระเจ้าช่วย”“...”เฟรยาเงียบไปทั้งตัวสั่น เธอไม่รู้ว่าทำไมเพราะเธอรู้เรื่องนี้มาจากพี่ชายของเธอ...ครึ่งชั่วโมงต่อมา แคทเธอรีนปรากฏตัวต่อหน้าเฟรยาเร็วราวกับสายฟ้าเฟรยาได้ยืมหมวกกันน็อกมารอก่อนหน้านี้แล้ว “ตามกฎแล้ว เธอตีฉันได้แต่ห้ามตบหน้าของฉัน”มุมปากของแคทเธอรีนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ช่วยไม่ได้ “ฉันขอกระโดดลงไปในแม่น้ำกับเธอได้ไหม?”เฟรยาสะดุ้งสุดตัวอย่างน่าสงสาร“ฉันยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนและสำนึกผิดของตัวเองในช่วง 30 นาทีที่ผ่านมา ฉันคิดถึงเหตุการณ์ที่พี่ชายของฉันชี้ให้ฉันดูผู้ชายที่เป็นน้าของอีธาน ตอนนั้นมีผู้ชายสองค
สำนักงานทนายความเจนนิงส์เชสที่เพิ่งกลับจากรับประทานอาหารกลางวัน กำลังเดินเข้ามาในสำนักงานอย่างไม่รีบร้อนขณะที่เขาเดินผ่านสำนักงานของฌอน เขาสังเกตเห็นเลขากำลังเข้าไปพร้อมกับถ้วยกาแฟ“ทนายฮิลล์ไม่ไปพักกลางวันเหรอครับ?” เขาถามกับเลขา“ไม่ค่ะ เขากำลังตรวจสอบคดีใหม่อยู่” เลขากระซิบตอบ “พักนี้ทนายฮิลล์ขยันทำคดีมาก เขามีปัญหาทางการเงินหรือเปล่า? เขาเคยรับว่าความคดีแค่สองคดีต่อเดือนเท่านั้น แต่ตอนนี้เขารับว่าความถึงสี่คดีพร้อม ๆ กัน เขายุ่งมากจนทำงานกินเวลามาจนถึงช่วงพักกลางวันเลย” เชสเยาะเย้ย คนอย่างฌอนเนี่ยนะจะมีปัญหาทางการเงิน?ประธานบางคนอาจจะใช้เงินจนหมดได้ แต่ฌอนน่ะหรือ? ล้านปีก็ไม่มีทางหมดทรัพย์สมบัติที่เขาครอบครองอยู่ สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ถึงสิบชั่วอายุคน เขาไม่อยากกลับไปที่บ้านอันว่างเปล่า แต่ก็ดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมรับเท่านั้นเอง“เอาล่ะ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” เขารับแก้วกาแฟมาแล้วเดินเข้าไปในสำนักงาน“วางเอาไว้ตรงนั้นแหละ” ฌอนพูดขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเชสถอนหายใจออกมา “อ่า วันนี้เป็นวันฉลองพิธีหมั้นระหว่างตระกูลโจนส์และตระกูลโลว์ เพื่อนของฉันคนหนึ่งที่ได้ไปร่วมงานเ
“ไม่ใช่แน่นอน เธอใช้วิธีแย่ ๆ แค่กับฉันเท่านั้น” ฌอนพูดเยาะเย้ย“...”เชสปิดปากเงียบฟังดูเหมือนฌอนจะกำลังอวดเขาอยู่‘อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แคทเธอรีนก็ไม่แม้แต่จะสนใจนาย’เขาเยาะเย้ยในใจก่อนจะพูดขึ้น “จากสิ่งที่ตระกูลโจนส์ทำก่อนหน้านี้ พวกเขาคงจะไม่ยอมปล่อยเรื่องวุ่น ๆ พวกนี้ไปหรอก คราวก่อนพวกเขาก็ยังจับเธอไปขังไว้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด นายไม่คิดเหรอว่าเธออาจจะตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งก็ได้? ฉันควรจะให้คนจับตาดูเธอเอาไว้ไหม?”ฌอนกลับไปอ่านเอกสารของเขา “ไม่ต้อง เว้นเสียแต่เธอจะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน”เพียงไม่นานเขาก็พูดขึ้น “แต่พวกเขาน่าจะคิดให้รอบคอบก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรลงไป พวกตระกูลโจนส์ไม่ไว้หน้าฉันเลยจริง ๆ ฉันต้องการให้คลิปนี้แพร่กระจายไปในโลกออนไลน์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนั้นห้ามไม่ให้สื่อทุกแพลตฟอร์มนำมันออก”“อืม… ได้”เชสไม่ได้รู้สึกเยาะเย้ยผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เมื่อสักครู่นี้ฌอนประกาศอย่างจริงจังว่าเขาจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย เว้นเสียแต่ว่าเธอจะมาขอความช่วยเหลือ ทว่า...“ถ้าอย่างนั้นก็ไปจัดการสิ”ฌอนขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดในเวลาเดียวกันนั้นเ
ฌอนรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันทีโธ่เว้ย! แคทเธอรีนฟังดูเหมือนดีใจมากที่ได้ไปสำนักทะเบียนอย่างนั้นเหรอ?นอกเสียจากว่าเธอจะดีใจเพราะในที่สุดเธอก็จะได้พบกับเขาอีกครั้ง?ต้องเป็นอย่างนั้นแน่เมื่อคืนก่อนเธอย้ายออกด้วยความหุนหันพลันแล่นจนเกินไป เธอคงจะรู้สึกเสียใจกับการที่ตัดสินใจโดยไม่คิดทบทวนให้ดี ทว่าก็รู้สึกอับอายเกินว่าจะยอมรับความผิดพลาดนั้นของเธอบางทีเธออาจจะหาข้ออ้างเพื่อชวนเขาออกไป เขาควรจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อพวกเขาได้พบกันหลังจากนี้หรือเปล่า?อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับประทานอาหารดี ๆ เลยตั้งแต่เธอย้ายออกไปเอาละ ถ้าอย่างนั้นเขาควรจะแวะระหว่างทาง เพื่อซื้อเค้กไปฝากเธอที่นั่นเขาแวะซื้อชีสเค้กก่อนจะตรงไปหาเธอเมื่อไปถึงสำนักงานทะเบียน ฌอนสังเกตเห็นว่าแคทเธอรีนสวมเดรสสีขาวที่เขาซื้อให้เธอคราวที่แล้วภายใต้เสื้อคลุมสีเบจ แสงยามบ่ายตกกระทบลงบนร่างของเธอส่งผลให้ผิวพรรณของเธอดูเปล่งปลั่งสดใสริมฝีปากบางเซ็กซี่ของเขายกยิ้มขึ้นน้อย ๆ เธอแต่งตัวดูดีเพียงเพื่อจะมาที่สำนักทะเบียน นี่เธอต้องการจะหย่าจริง ๆ หรือเปล่า หรือต้องการจะเอาชนะใจเขากันแน่? เขามั่นใจว่าเขารู้คำตอบนั้นดีเ
ฌอนยิ้มเย็นชาออกมาแทนที่จะพยายามห้ามไม่ให้แคทเธอรีนจากไป “แค่ผมสั่งคำเดียวจะไม่มีใครหน้าไหนในออสเตรเลียกล้ารับคำฟ้องร้องคดีหย่าของเรา เอาเลยลองดูถ้าคุณไม่เชื่อผม แต่เมื่อถึงเวลานั้นคุณจะต้องอยู่กับผม 30 ปี แทนที่จะเป็นสามปี”เธอหันกลับมามองเขา จริง ๆ แล้วเธอไม่รู้ว่าคนที่เธอกำลังต่อกรด้วยเป็นใครกันแน่จะพูดว่าเขาเป็นคนธรรมดาก็ไม่ได้ เพราะดูเหมือน เชส แฮริสันจะเป็นเพื่อนสนิทกับเขาจะพูดว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ขับรถหรูราคาแพงหรืออาศัยอยู่ในคฤหาสน์“ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้แค่คุณข่มขู่หรอก ฉันอยากเซ็นใบหย่ามากกว่าอยู่กับผู้ชายอย่างคุณ”น้ำเสียงของเธอรู้สึกได้ถึงความไม่เกรงกลัว เธอหันหลังและเดินจากไปอย่างไรก็ตามตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วเมื่อเห็นว่าเธอเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาโยนเค้กลงบนพื้นด้วยความโกรธผู้หญิงใจร้าย!ผู้ชายอย่างเขา? มีผู้หญิงนับไม่ถ้วนอยากขึ้นเตียงกับเขา เธอไม่รู้จริง ๆ หรือว่าเธอกำลังพลาดอะไรไปอยากหย่าเหรอ? ฝันไปเถอะ!…โรงแรมเกรทโบวินตระกูลโจนส์และตระกูลโลว์มารวมตัวกัน หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีฉลองหมั้นใบหน้าอั
เจฟฟี่ขมวดคิ้ว ริมฝีปากของเขาเผยอออกจากกัน ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของเขา...20 นาทีต่อมาในห้องน้ำป้าเฮเลนเดินไปหารีเบคก้าด้วยท่าทางระแวดระวัง เธอดูกระวนกระวายใจ“คุณหนูใหญ่ ประธานโจนส์และคุณผู้หญิงจะสงสัยฉันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้หรือเปล่าคะ? ฉันไม่รู้เรื่องนะคะ คุณหนูเป็นคนขอให้ฉันพูดเรื่องโกหก”“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจัดการทำให้พวกเขาไม่เข้าใจแบบนั้นแล้ว” รีเบคก้าดึงบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าของเธอและส่งให้ผู้หญิงคนนั้น “นี่เป็นค่าตอบแทนของป้า แล้วปิดปากของป้าเอาไว้ให้สนิท ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”ดวงตาของป้าเฮเลนเป็นประกาย เธอรีบรับค่าตอบแทนนั้นอย่างรวดเร็วพลางพยักหน้ารับไม่หยุด “ยินดีที่ได้รับใช้คุณหนูค่ะ”“อีกเรื่องหนึ่ง...” มุมปากของรีเบคก้ายกขึ้นเป็นรอยยิ้มร้าย “ป้าต้องดูแลคุณย่าของฉันให้ดีกว่านี้ ฉันไม่ต้องการเห็นอาการของเธอดีขึ้นอีก”สิ่งที่ได้ยินทำให้ป้าเฮเลนรู้สึกตกใจ ร่างกายของเธอสั่นไปทั้งตัวเมื่อมองไปยังคุณหนูถึงอย่างนั้นเธอก็พยักหน้ารับโดยปราศจากความลังเลหลังจากที่คิดถึงค่าตอบแทน “ไม่มีปัญหาค่ะ โอ้ ใช่ ฉันยังไ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก