“ฌอนนิคฉันไม่ได้ตั้งใจโกหกคุณนะคะ ฉันถูกบังคับให้ทํา หมอนั่นเป็นหนึ่งในอาชญากรที่ลักพาตัวฉันตอนอยู่อเมริกา คุณควรรู้ว่าเหตุการณ์นั้นเจ็บปวดแค่ไหนสําหรับฉัน ตัวฉันไม่สะอาดบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วแต่เจ้าคนนั้นก็ยังมาปรากฏตัวอีกอย่างกับปีศาจ”“เขาบอกว่าเขามีรูปภาพและวิดีโออนาจารในอดีตของฉัน ฉันเลยไม่มีทางเลือก ฉันกลัวว่าคุณจะรังเกียจฉันถ้าคุณรู้เข้าฉันจึงได้ให้เงินเขา 200 ล้านดอลลาร์ แต่เขายังไม่หนำใจ เขาอยากมีเซ็กส์กับฉัน”ซาร่านั่งงอตัวลงและร้องไห้อย่างขมขื่นพูดว่า “ฉันรู้สึกขยะแขยงทุกครั้งที่เขาสัมผัสฉัน มันรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก ฌอนนิคฉันพลาดไปแล้ว ฉันได้ทําผิดต่อคุณโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันรักคุณค่ะ เพราะคุณถอยห่างจากฉันมากพออยู่แล้วจนคุณอยากอ้วกทุกครั้งที่ฉันสัมผัสคุณ ฉันจึงกลัวว่าคุณอาจจะยิ่งเกลียดฉันมากกว่านี้ถ้าคุณเห็นภาพเหล่านั้น”"ลุกขึ้นเถอะ"ฌอนยื่นมือไปช่วยดึงเธอขึ้นซาร่าโผเข้าไปสู่อ้อมแขนของเขา เธอคร่ำครวญสะอึกสะอื้นกอดเขา “ฌอนนิคอย่าทิ้งฉันไปนะคะ ขาดคุณไปฉันคงอยู่ไม่ได้”ร่างกายของฌอนแข็งทื่ออันที่จริง ตํารวจได้บอกเรื่องนี้กับเขาเรียบร้อยแล้วก่อนที่เขาจะประกั
“ไม่ใช่ของเราทั้งคู่ แค่ของผม” ฌอนถูหน้าผากตัวเอง ร่องรอยของความสิ้นหวังไร้หนทางแว่บขึ้นมาในดวงตาที่หรี่เล็กของเขา “ผมขอโทษซาร่า ผมคิดว่าเราทั้งคู่ต้องการเวลาให้ใจเย็นลงสักพัก”ซาร่าห์ตกตะลึงงงงัน เธอไม่อยากจะเชื่อเลยฌอนยังไม่คิดหยุดตามเรื่องนั้นเหรอ? ทําไมจู่ ๆ เขาถึงจะต้องจากไปทันที?!ไม่ เธอไม่สามารถปล่อยให้เขาจากไปได้ซาร่าคว้ามือของฌอน “ฌอนนิคได้โปรดอย่าไป ฉันขอร้อง ต้องทำยังไงคุณถึงจะยกโทษให้ฉันคะ? อะไรก็ตามที่คุณบอกมา ฉันยินดีที่จะทําทุกอย่าง” “ซาร่า อย่าทําแบบนี้...” ฌอนพยายามสะบัดมือของเธอออกแต่ราวกับว่าซาร่าเป็นบ้าไปแล้ว ใบหน้าของเธอนองไปด้วยน้ำตา “ถ้าคุณต้องการความสงบ คุณก็ทําได้ที่นี่ ฉันจะไม่รบกวนคุณ ฌอนนิคทุกคนในแคนเบอร์ราเห็นฉันเป็นตัวตลกแล้วตอนนี้ ถ้าคุณย้ายออกกะทันหัน ผคนเหล่านั้นจะคิดอย่างไรกับฉัน? พวกเขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแพศยา ฉันจะไม่สามารถเดินเชิดหน้าได้อีกทั้งชีวิต หากคุณไม่ต้องการฉัน ฉันตายซะดีกว่า!”“ซาร่า คุณกําลังขู่ผมเหรอ?”น้ำเสียงหมดหวังสิ้นของฌอนเย็นชา ร่างสูงตระหง่านของเขาแผ่กระจายรังสีที่ทําให้คนหัวใจสั่นสะท้านได้โดยไม่รู้ตัวซาร่าห์ตกใจ
“ประธานฮิลล์คุณไม่ใช่คนเฮงซวยครับ คุณแค่... ไม่ได้รักคุณนีสันอีกแล้ว” ‘คุณหมดรักเธอไปนานแล้ว แต่คุณแค่ถูกคุณนีสันล่อลวงให้หลงผิด’ เฮดลีย์คิด"ฉันไม่รักเธอเหรอ" ฌอนยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันเคยคิดว่าฉันจะรักเธอตลอดไป”“มีกำแพงขวางกั้นระหว่างคุณกับคุณนีสัน” เฮดลีย์กล่าว “ความสุขเป็นสิ่งสําคัญที่สุดเมื่อคนสองคนมีความสัมพันธ์กัน แต่ผมไม่เคยเห็นว่าคุณมีความสุขเลยสักครั้งที่คุณออกมาจากวิลล่า”ฌอนถึงกับผงะ เขาไม่มีความสุขเลยเหรอ?เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าจะใช่ เขาไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ แต่เขาอยากอยู่ทํางานดึกต่อที่บริษัทมากกว่ากลับมาเฮดลีย์เห็นว่าฌอนงุนงง เขากล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้... แม้ว่าคุณจะมองข้ามเรื่องนี้ได้ แต่วันนั้นตํารวจได้ปรากฏตัวพาคุณนีสันออกไปต่อหน้าสาธารณะ ผู้คนต่างกระจายข่าวลือกันไปแล้ว หากคุณยังคงยืนกรานที่จะอยู่กับคุณนีสัน ไม่เพียงแต่จะทําให้นายท่านฮิลล์และคุณผู้หญิงฮิลล์โกรธเท่านั้น แต่ว่าคนนอกก็จะพากันเยาะเย้ยคุณด้วย”"อย่าพูดอะไรอีกเลย"ฌอนกําหมัดที่อยู่วางอยู่บนขาของเขาแน่นมันเป็นงานแต่งงานแห่งศตวรรษ กระนั้นเขาก็ยังกลายเป็นตัวตลกแห่งแคนเบอร์ราให้คนคร
”ถ้าไม่ใช่เพราะไหวพริบของผม ผมคงจะเข้าไปพัวพันกับปัญหาของคุณแล้ว นี่ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลยนะ อ้อ แล้วก็ตอนนี้คุณควรคิดให้ออกว่าคุณยังมีอะไรเป็นประโยชน์ต่อผมอีก พอคุณไม่มีฌอนอยู่ข้าง ๆแล้ว ในสายตาผมคุณก็ไม่เหลืออะไรเลย”การโทรสิ้นสุดลงฉับพลัน ซาร่าตกใจมากเธอจับโทรศัพท์แน่น เธอรู้มาโดยตลอดว่าในสายตาของคนกลุ่มนั้นไม่ว่าเธอจะโดดเด่นแค่ไหนในแวดวงจิตวิทยาและศิลปะ พวกเขาเพียงสนใจลําดับความสําคัญตามภูมิหลังของวงศ์ตระกูลเท่านั้น ครอบครัวนีสันไม่เป็นดังแต่ก่อนที่เคย ดังนั้นเธอจึงทําได้เพียงจับฌอน ร็อดนีย์ และเชสเตอร์ไว้ให้แน่นเท่านั้นคลื่นแห่งความตื่นตระหนกพุ่งเข้าใส่ เธอกดหมายเลขของร็อดนีย์ครึ่งชั่วโมงต่อมา ร็อดนีย์ก็รีบรุดมาอย่างรวดเร็วซาร่าล้างหน้าและเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมดื่มไวน์ รูปลักษณ์ของเธอดูเป็นคนที่สิ้นหวังแต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์เช่นกัน“ซาร่า หยุดดื่มเถอะ” ร็อดนีย์ฉวยแก้วไวน์ของเธอออก การได้เห็นผู้หญิงที่เขาแอบหลงรักตั้งแต่ยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ในสภาพเช่นนี้ทําให้เขาเจ็บปวด“ร็อดนีย์ คุณไม่เกลียดฉันเหรอ?” ซาร่าเงยห
“ใช่เลย ท่านประธานตัวสูงใหญ่ทรงพลังมาก มองปราดเดียวก็รู้ว่าเขาอึดมาก เธอยังไม่สุขสมอีกเหรอ?”“บางทีท่านประธานอาจดูแข็งแกร่งแค่ภายนอกหรือเปล่า?”“...”เฮดลีย์ได้แต่มองอย่างหัวเสีย ขณะที่พวกเขายังคงนินทากันไปเรื่อย ๆ หากพวกเขายังนินทาเช่นนี้ต่อไป ความเป็นส่วนตัวของคุณชายใหญ่ฮิลล์จะเหลือที่ไหนกัน“หุบปากซะ คุณกําลังนินทาท่านประธานอยู่ในบริษัทเหรอ? คุณไม่อยากทำงานที่นี่อีกต่อไปแล้วใช่ไหม?” เฮดลีย์เตือนบรรดาพนักงานถึงค่อยรู้ตัวว่าตอนนี้พวกเขากำลังตื่นเต้นตกใจกลัวจนเหงื่อแตกในขณะนั้น ลีอาเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา "ฌอนอยู่ไหน?""ในออฟฟิศครับท่าน" เฮดลีย์รีบตรงเข้าไปหาเธอและพูดว่า “คุณผู้หญิง ท่านต้องเกลี้ยกล่อมท่านประธานฮิลล์นะครับ เขาทํางานหามรุ่งหามค่ำมาสองวันไม่ได้พักเลยครับ”ลีอาเปิดประตูเข้าไป จากนั้นปิดประตูตามหลังฌอนที่ถูกขัดจังหวะเงยหน้ามองด้วยตาแดงก่ำพร้อมเอ่ยว่า "ทําไมแม่ถึงมาที่นี่ครับ?”“ถึงลูกไม่อยากจะกลับบ้าน แต่แผนกเลขานุการของลูกก็ไม่สามารถทํางานล่วงเวลาได้ทั้งกลางวันและกลางคืนนะ พวกเขาเป็นคนที่มีครอบครัว”ลีอาลากเก้าอี้มานั่งลง เธอถอนหายใจเมื่อเห็นใบหน้าเคราคร
ฌอนตัวสั่นใช่ ซาร่าหายตัวไปอยู่ต่างประเทศสองสามปีเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอเปลี่ยนไปหรือไม่?ลีอาไม่เข้าใจเมสันจนผ่านไป 30 ปี แล้วเขาล่ะ? เขารู้จักซาร่าเพียง 20 ปีเท่านั้น“ฌอน ลูกไม่ใช่คนธรรมดา ลูกเป็นผู้นําของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น ยืนอยู่บนยอดพีระมิด คนอื่นต่างให้ความสนใจกับการแต่งงานของลูก ลูกเคยหย่าร้างมาแล้วครั้งหนึ่งและเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกกําลังจะแต่งงานเป็นครั้งที่สอง มันจะกลายเป็นรอยมลทินในชีวิตของลูก”ลีอายืนขึ้นและพูดอย่างจริงจังว่า "ลองคิดดูให้ดี"เธอพูดจบและหันจากไปฌอนนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้สํานักงานอยู่นานมากจนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูหนึ่งทีแล้วจากนั้นศีรษะน้อย ๆ ของซูซี่ก็ดันเข้ามาจากด้านนอก "ลุงคะ หนูเข้าไปได้ไหมคะ?"ถึงแม้ฌอนจะอารมณ์ไม่ดี แต่หัวใจเขาก็อ่อนลงทันทีเมื่อเห็นท่าทางของเจ้าตัวเล็กดูน่ารักอยากรู้อยากเห็นแต่ก็ระมัดระวัง“ซูซี่ วันนี้หนูไม่ไปโรงเรียนเหรอ?” ฌอนสังเกตเห็นว่าเธอสวมเครื่องแบบสีแดงของชั้นเตรียมอนุบาลอยู่“คุณย่าบอกว่าลุงอารมณ์ไม่ดี หนูก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนลุง” ซูซี่เอียงศีรษะพูดหัวใจของฌอนอบอุ่นขึ้นในทันทีเขาคิดไม่ถึงว่าลีอาจะห่วงใยเ
นั่นเป็นเสียงของแคทเธอรีนหัวใจของฌอนแทบหยุดเต้น เขาหันหลังไปมองซูซี่และเห็นเธอลดศีรษะลงพูดกับนาฬิกาว่า “เราอยู่ที่ลานจอดรถค่ะ เราจะรออยู่ที่นั่นนะคะ”หลังจากวางสาย หน้าตาหล่อ ๆ ของเขาก็ยับย่นทันที "หนูชวนแคทเธอรีนด้วยเหรอจ๊ะ?”"ใช่ค่ะ" ซูซี่เขย่าขาสองข้าง“... ทําไมหนูไม่บอกลุงก่อนหน้านี้ล่ะ?” ฌอนอารมณ์เสีย“เพราะหนูกลัวว่าลุงจะไม่อยากมาถ้าหนูบอก” ซูซี่แลบลิ้นออกมา “คุณย่าบอกว่าคุณเลิกกับแฟน หนูเลยถามพ่อว่าผู้ชายควรทำอะไรตอนเลิกกับแฟน พ่อบอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับผู้ชายที่ต้องทําหลังจากเลิกราคือการมีความสัมพันธ์กับคนอื่นไปเลยซึ่งคนอื่นคนเดียวที่หนูรู้จักคือป้าแคธี่”"..."ฌอนพูดไม่ออก คนอื่นมองว่าเขาเลิกกันแล้วซะงั้น “เอิ่ม... หนูชวนป้าแคธี่แล้วเธอก็ยอมมาง่าย ๆ เลยเหรอ?”"ใช่ค่า” ซูซี่พยักหน้าฌอนบีบพวงมาลัยโดยไม่รู้ตัว เป็นไปได้ไหมว่าเธอรู้ว่าเขาไม่ได้แต่งงานและอยากกลับมาคบกับเขา?เขาปลดกระดุมที่คอ และอารมณ์หดหู่ของเขาก็ดีขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูกแต่ซูซี่พูดว่า "เพราะหนูโกหก บอกว่าหนูมากับพ่อ"ฌอน “...”ปรากฎว่าที่จริงแล้วผู้หญิงคนนั้นตกลงจะมาที่สวนสนุกเพราะว่า… เลียมงั้น
ตอนนั้นเอง…ฌอนเห็นผู้ชายหลายคนต่างก็มองเธอ หนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยหยุดอยู่ตรงหน้าเธอเพื่อเริ่มต้นการสนทนา “คุณครับ ผมขอเพิ่มเบอร์ติดต่อคุณในว้อทสแอปได้ไหม?””ภายใต้แสงแดดใบหน้าใสสะอาดของเด็กหนุ่มดูเขินอายแคทเธอรีนตกใจ เธอกำลังจะยิ้มและปฏิเสธทันใดนั้นเสียงต่ำมีเสน่ห์ก็ดังขึ้น “ภรรยา ผมขอโทษที่มาสาย”เด็กหนุ่มหันกลับมาและเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาดูภูมิฐานของฌอน เขาหน้าซีดทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเธอแต่งงานแล้วเพราะเธอดูยังสาวเหลือเกิน ลูกของพวกเขาก็โตมากเช่นกัน “ผม... ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าคุณแต่งงานแล้ว ขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ”พูดจบเด็กหนุ่มรีบหันหลังและหนีไปอย่างรวดเร็วแคทเธอรีนจ้องชายนิสัยน่ารังเกียจที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น “ใครคือภรรยาคุณคะ? คุณควรระวังปากของไว้คุณดีกว่า”“ใช่ค่า ลุงคะ ป้าแคธี่กลายเป็นภรรยาของลุงตั้งแต่เมื่อไหร่” ซูซี่ถามอย่างสงสัยขณะกินสายไหม“ฉันกลัวว่าเธอจะถูกพวกเหล่าเด็กชายตัวน้อยที่ไม่ประสีประสาหลอกเอาน่ะ” ฌอนพูดเยาะเย้ยเหยียดหยาม“แคทเธอรีน โจนส์ คุณอายุเท่าไร? คุณไม่อายเหรอที่ยิ้มให้หนุ่มน้อยแบบนั้น? คุณรู้ความหมายของคําว่า ‘ยับยั้งชั่งใจ’
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก