ซินดี้รู้สึกหงุดหงิดกับสีหน้าท่าทางของแคทเธอรีนอย่างบอกไม่ถูก “เธอเล่นได้ดี ทำให้ดีต่อไปนะ”แคทเธอรีนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาพลางหรี่ตายิ้ม “จนป่านนี้แล้ว เธอก็ยังไม่อยากอธิบายว่าทำไมเพลงแรกถึงเหมือนเพลง ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ ของเธออีกเหรอ? เพราะทุกเพลงในอัลบั้ม ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องและทำนองฉันเป็นคนแต่งขึ้นทั้งหมดไง”ด้วยสิ่งที่ถูกเปิดเผยออกไปนั้น ผู้ชมจึงเกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นทันที ทุกคนหันไปมองเชสเตอร์อย่างไม่รู้ตัว ทุกคนต่างทราบกันดีว่าซินดี้เป็นแฟนของเชสเตอร์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาออกโรงปกป้องเธอ และตามใจเธอราวกับเธอเป็นลูกไก่ในกำมือสำหรับการที่แคทเธอรีนแฉซินดี้อยู่ตอนนี้ นั่นก็เหมือนกับการตบหน้าเชสเตอร์เชสเตอร์จุดบุหรี่แล้วขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ซินดี้รู้สึกสับสน “เธอพูดเรื่องอะไร?”ร็อดนีย์ต่อว่าขึ้นมาทันที “แคทเธอรีน โจนส์ ฉันคิดว่าเธอคงเสียสติไปแล้วจริง ๆ! ซินดี้เป็นคนแต่งเพลงพวกนั้นเองไม่ใช่เธอ! เธอจะหน้าด้านไปถึงไหนกัน?”“ใช่ เธอรู้ไหมว่าซินดี้มีความสามารถมากแค่ไหน? ทำไมซินดี้ต้องให้เธอแต่งเพลงให้ด้วย?” โจแอนตะโกนออกมาเช่นกันแคทเธอรีนไม่สนใจข้อกล
“แบบนั้นจะไม่เป็นการพูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ?”“คุณไม่เข้าใจดนตรี ยิ่งคุณฟัง แคทเธอรีนจะบรรเลงเพลงที่ไพเราะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แถมน้ำเสียงของเธอยังดีมากด้วย ทักษะการเล่นเปียโนของเธอนั้นสูงกว่าเกรด 10 และยังเทียบเท่าได้กับนักเปียโนมืออาชีพด้วยซ้ำ ซินดี้ไม่มีตรงไหนเลยที่อยู่ใกล้ระดับนั้น”“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าซินดี้จะเป็นคนแบบนี้”“เป็นเรื่องปกติ คนมากมายในวงการเพลงหลงลืมความเป็นเพื่อนเมื่อมีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อหลายปีก่อน ผมได้ยินมาว่าแคทเธอรีนเป็นแค่คนที่ไม่มีใครรู้จักในออสเตรเลีย อีกทั้งตระกูลยูลก็ไม่ได้ยอมรับเธอ”“ไม่แปลกใจเลย”“...”สายตาของผู้คนที่จับจ้องไปทางซินดี้เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามมากขึ้นเรื่อย ๆใบหน้าของซินดี้ซีดเผือด เธอซึ่งเป็นคนกลางของเรื่องทั้งหมด นับตั้งแต่เธอคบหากับเชสเตอร์มา ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเหยียดหยามเธอเลยเธอเดินไปหาเชสเตอร์ ราวกับว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอ “เชสเตอร์ ฉัน...”“เพลงพวกนั้นแคทเธอรีนเป็นคนแต่งขึ้นจริง ๆ เหรอ?” เชสเตอร์จ้องมองเธอด้วยแววตาที่เฉียบคม ราวกับว่าเขาอยากจะเห็นเธออย่างทะลุปรุโปร่ง “เธอพูดความจริงมาเลยดีกว่า ถ้าแคทเธอรีนมีเนื้อเ
เชสเตอร์นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับแคทเธอรีน มีรอยยิ้มสดใสปรากฏชัดบนใบหน้าเขา ทว่าออร่าของการบังคับขู่เข็ญแผ่ออกมาจากตัวเขาอย่างรุนแรง “เอาสมุดเพลงต้นฉบับมาให้ฉัน” “ดูเหมือนซินดี้จะสารภาพความจริงกับคุณแล้วสินะ” แคทเธอรีนยิ้มอย่างใจเย็น “ผู้หญิงจอมเสแสร้งคนนั้นมีดีอะไรนัก?” “เธอมีข้อบกพร่องมากมาย แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงของฉัน” เชสเตอร์พูดขึ้น “แคทเธอรีน โจนส์ อย่ามาขัดแย้งกับฉัน ตระกูลยูลของเธอทนรับผลที่ตามมา จากการทำให้คุณชายที่สามของประเทศโกรธเคืองไม่ไหวหรอก คืนนี้เธอยังตบหน้าคนอื่นไม่พออีกหรือไง?” มุมปากของแคทเธอรียเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย “เชสเตอร์ จิวเวล ในฐานะคุณชายที่สามของประเทศ สายตาของคุณแย่มาก คุณน่าจะเปลี่ยนแว่นตาใหม่ได้แล้วนะ” ดวงตาของเชสเตอร์เผยแววเย็นชา “ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด” “เรื่องราวระหว่างฉันกับซินดี้ถือว่าเป็นความแค้นเก่าเก็บน่ะค่ะ ฉันไม่อยากเอาอดีตขึ้นมาพูด แต่… มันเป็นความผิดของคุณที่เป็นคนโหดร้ายนะ คุณชายจิลเวล” แคทเธอรีนยิ้มอย่างเย็นชา “แค่คำสั่งคำเดียว คุณไล่คุณพ่อของฉันออกจากโรงพยาบาลของคุณ” เชสเตอร์ชะงักนิ่งไปพลางขมวดคิ้ว “ฉันไม่รู้เรื่องนั้น”
เมื่อฌอนคิดขึ้นมาได้ว่าแคทเธอรีนกับคุณชายสตริงเกอร์อาจจะทำเรื่องแบบเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถระหว่างพวกเขาเมื่อหลายวันก่อน...ทันใดนั้นเอง หัวใจของเขาก็เริ่มเจ็บร้าวขึ้นเขาไม่อาจทนนิ่งอยู่ได้ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขับรถมา จากนั้นจึงเคาะหน้าต่างรถยนต์ของคุณชายสตริงเกอร์ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?” ไอแซคลดกระจกรถลงเจ้าหน้าที่ตำรวจมองไปยังชายหนุ่มและผู้หญิงที่อยู่ในรถ พลางพูดขึ้นอย่างอึดอัดใจ “มีคนแจ้งผมว่าคุณกำลังทำเรื่องไม่เหมาะสมอยู่ในรถครับ”เรื่องไม่เหมาะสมประเภทไหนที่ชายหญิงซึ่งอยู่ด้วยกันตามลำพังในรถจะทำกัน?การกระทำของไอแซคและแคทเธอรีนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมาทันทีแคทเธอรีนกอดอก “พวกเราดูไม่เรียบร้อยสำหรับคุณเหรอคะ?”“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่ก่นด่าคนที่แจ้งเขา คนคนนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากไปแล้ว จากนั้นไอแซคจึงเตรียมที่จะคุยต่อ จู่ ๆ ก็มีรถบรรทุกน้ำขับผ่านมา เพราะกระจกรถที่ถูกเปิดออก ไอแซคที่นั่งอยู่ฝั่งนั้นจึงเปียกโชกไปด้วยน้ำเขาโกรธมากจนหน้าถอดสี“ขอโทษนะคะ แต่คุณกลับไปอาบน
ทว่าฌอนก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” เขาจับไหล่ของแคทเธอรีนแล้วตรึงเธอไว้กับกำแพง ดวงตาของเขาแผดเผาราวกับเปลวเพลิง “ฉันยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูด เป็นฉันเองที่ก่อนหน้านี้รู้จักเธอไม่ดีพอ”จากนั้นริมฝีปากบางของเขาก็จุมพิตลงบนริมฝีปากสีแดงของเธออย่างกักขฬะแต่ทว่าแคทเธอรีนหันหน้าหนีทั้งหลบหลีกริมฝีปากของเขาประทับลงบนแก้มของเธอ และกลิ่นหอมรัญจวนใจจากเรือนร่างของเธอที่อบอวลไปทั่วทำให้เขาไม่อาจถอนตัวได้“ฌอน ฮิลล์ คุณจำได้ไหมว่าคุณให้คนของคุณกดฉันลงกับพื้นแล้วค้นตัวฉันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังไง? คุณจำได้ไหมว่าคุณบังคับให้ฉันเซ็นใบหย่ายังไง? คุณยังจำได้ไหมว่าตอนนั้นคุณดูเย็นชามากแค่ไหน?”แคทเธอรีนเอ่ยพูดเบา ๆ ด้วยความเศร้าที่ยังหลงเหลืออยู่ “ความจริงแล้วตอนที่คุณอุ้มฉันลงจากรถในวันนั้น ฉันไม่ได้หลับหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกเหมือนกับอยู่ในความฝันจึงไม่กล้าตื่นขึ้นมา หลังจากที่คุณกลับไปแล้ว ฉันคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย แล้วรู้สึกว่าอาจจะยังมีโอกาสสำหรับเรา แต่วันต่อมาคุณกลับมาหาฉันเพื่อขอหย่า คุณไม่ได้หลงเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้ฉันเลย” เมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุด เสียงของเธอก
เมื่อเวลา 01:00 น. ทีมงานของซินดี้ได้จัดการประชุมด่วน และในที่สุดก็ได้ออกมาประกาศให้ผู้คนได้ทราบอย่างเป็นทางการ [ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผ่านมาห้าปีแล้วนับตั้งแต่ฉันเข้าสู่วงการบันเทิง ในปีนั้น ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ ได้ทำให้ฉันมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ อันที่จริง เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่ฉันแอบขอบคุณคนคนหนึ่งอยู่ในใจเงียบ ๆ คนคนนั้น คือ แคทเธอรีน โจนส์ เพื่อนสนิทของฉันเอง ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ เป็นเพลงที่เธอแต่งขึ้นมาให้ฉัน ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ในช่วงชีวิตนี้ของฉันได้พบเจอเพื่อนอย่างเธอ เธอเคยหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจและไม่อยากโอ้อวด แต่ตอนนี้เธอเป็นที่รู้จักโดยทั่วกันแล้ว ฉันจึงไม่อยากเก็บซ่อนความสามารถของเธอเอาไว้อีกต่อไปแล้ว ฉันจึงอยากจะมอบรางวัลที่ฉันได้รับในตอนนั้นให้กับเธอ นี่เป็นรางวัลของเธอ แคทเธอรีน ฉันรักเธอนะ]ในเวลาต่อมา ซินดี้ได้โพสต์ภาพถ้วยรางวัลอีกหลายภาพและที่เธอถ่ายคู่กับแคทเธอรีนที่โรงเรียน ภายในรูป พวกเธอทั้งสองคนมีรอยยิ้มที่สดใสและดูสนิทกันอย่างไม่น่าเชื่อชาวเน็ตต่างแตกตื่น[แคทเธอรีนกับซินดี้เป็นเพื่อนสนิทกัน คิก คิก คนสวย ๆ มักจะคบกัน][ไม่ใช่แค่นั้
[ความเห็นบน คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ซินดี้คงไม่อยากบอกแต่แรกแล้วว่าแคทเธอรีนเป็นคนแต่งเพลง ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ ขึ้นมา แต่อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้แคทเธอรีนกลับมาแล้ว แถมเธอยังมีหลักฐาน ซินดี้จึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยแถลงการณ์ออกมาก่อน][พอคุณพูดขึ้นมา ก็ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้นะ][มีข่าวซุบซิบเข้ามา ฉันได้ยินมาว่าเมื่อคืนระหว่างงานสตาร์ไลท์ กาล่า ที่ไทม์ คอร์ปอเรชั่นจัดขึ้น ซินดี้บรรเลงเพลงก่อนแล้วจากนั้นก็เป็นการแสดงของแคทเธอรีน การแสดงของเธอทำลายการแสดงของซินดี้จนไม่มีชิ้นดี แคทเธอรีนบอกว่าเธอมีร่างต้นฉบับของอัลบั้ม ‘สวรรค์แห่งความฝัน’ และยังมีเพลงอีกทั้งหมด 18 บทเพลง แต่เธอจะไม่เขียนเพลงให้ใครอีกแล้ว เธอบอกว่าเมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าต้องดูคนยังไง ซินดี้เลยกลัวมากจนเธอออกมาเปิดเผยความจริงก่อน][ตอนนี้ฉันเกลียดซินดี้จริง ๆ แล้วล่ะ ฉันเป็นแฟนคลับของเธอมาตั้งหลายปีด้วยซ้ำ ฉันคงตาบอดแน่ ๆ เลย][ฉันก็คงตาบอดเหมือนกัน ฉันจะไม่เป็นแฟนคลับของเธออีกแล้ว]...ในวิลล่าเมื่อซินดี้ได้เห็นการแสดงความคิดเห็นในอินเตอร์เน็ต เธอก็กวาดข้าวของทุกอย่างลงบนพื้นทั้งกรีดร้องออกมาเธอไม่เคยคิดเลยว่าแ
พระอาทิตย์ยามบ่ายที่แสนขี้เกียจสาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง แล้วตกกระทบลงมาบนใบหน้าสวยหวานของแคทเธอรีนเธอเอนไปด้านข้างและมุมปากของเธอก็เหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนโยน “ตกลง ฉันจะไปรับ”ฮาร์วีย์เกือบจะตาบอดเมื่อมองไป เขาถามออกไปอย่างระมัดระวังหลังจากที่เธอวางโทรศัพท์ “ประธานโจนส์ คุณกำลังออกเดทเหรอครับ?”แคทเธอรีนหยุดชะงักพลางเลิกคิ้ว ดูก็รู้ว่าเธออารมณ์ดี “เร็ว ๆ นี้แหละ”“...”เรื่องนั้นเธอหมายความว่าอย่างไร?ตอนนี้มีใครตามจีบประธานโจนส์อยู่หรือเปล่านะ?...21:00 น.เครื่องบินจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล่นลงจอดยังสนามบินแคทเธอรีนมารออยู่นานกว่าสิบนาทีก่อนจะเห็นว่าเฟรยาเดินออกมาพร้อมกับลูกรักทั้งสองคนของเธอลูคัสสวมเสื้อเชิ้ตสไตล์อังกฤษสีน้ำเงิน แม้ว่าเขาจะตัวเล็กก็ตาม ทว่าใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กชายหล่อเหลาและน่ารักมากจนทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมามากมายต่างจ้องมองเขาส่วนซูซี่ เด็กหญิงนั่งอยู่บนกระเป๋าเดินทาง ผมที่ถักเป็นเปียทั้งสองข้างแกว่งไปมาดูน่ารักเมื่อเด็กน้อยทั้งสองคนมองเห็นแคทเธอรีน ซูซี่ก็รีบกระโดดลงจากกระเป๋าเดินทางแล้ววิ่งมาหาเธอด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ คุณแม่ขา...”ซูซ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก