ฌอนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื่อเขานึกถึงแคทเธอรีนที่กำลังดูผู้ชายไม่ใส่เสื้อผ้า หน้าไม่อายอะไรอย่างนี้!เชสเถียงขึ้น “พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ มันอาจจะเป็นค้นคว้าเรียนรู้วิธีการก็ได้ บางทีพี่สะใภ้อาจจะเรียนรู้เพื่อนายก็ได้นะ”แคทเธอรีนพยักหน้ารับด้วยความเห็นด้วยกับคำพูดของเชสฌอนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เรื่องแบบนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับเธอ”แม้ว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้น เขาจะต้องเป็นคนควบคุมทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่แคทเธอรีนคิด สมมุติว่าเขาไม่ได้อยากทำแบบนั้นกับเธอขึ้นมา เธอก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวังเชสมองไปที่เธอด้วยความเห็นอกเห็นใจ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยรู้ว่าฌอนไร้ความโรแมนติกแค่ไหน...ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็จอดนิ่งแคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องพบว่าเธอมาถึงที่มิราเคิล ซึ่งเป็นสตูดิโอที่มีสไตล์เฉพาะตัวแม้ว่าเธอจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน เธอเคยได้ยินว่ามิราเคลเป็นสตูดิโอแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักที่สุดของเมลเบิร์นฌอนหันกลับมาแล้วพูดขึ้น “ไปแต่งหน้าให้เรียบร้อย ผมต้องไปจัดการเรื่องบางอย่าง สักพักผมจะมารับ”แคทเธอรีนนิ่งอึ้งไป “ฌอนนี่ค่ะ
เรื่องนั้นเป็นไปได้จริง ๆ เหรอความกลุ้มใจของแคทเธอรีนค่อย ๆ จางหายไปเมื่อคิดเช่นนั้นจากนั้นเธอจึงเปลี่ยนเป็นเดรสตัวยาวสีขาวก่อนที่เธอจะลงไปข้างล่าง โดยไม่คาดคิด เธอเห็นฌอนกำลังสูบบุหรี่อยู่นาน ๆ ครั้งที่เขาจะสูบบุหรี่ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาสูบบุรี่แบบนี้แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์เมื่อเขาสูบบุหรี่ เป็นเพราะเธอหลงรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามจึงดูดีสำหรับเธอไปเสียหมดทุกอย่าง“ฌอนนี่คะ เดรสชุดนี้ดีหรือยังคะ?”แคทเธอรีนเดินไปหาเขาและแอบดึงแขนเสื้อของเขาเบา ๆ ฌอนเหลือบมองไปที่เธอ ในตอนนี้เธอสวมชุดเดรสตามจารีตนิยมที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ในค่ำคืนนี้เธอจะต้องตกเป็นเป้าสายตาเพราะความสวยของเธออย่างแน่นอนในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกเสียใจที่เลือกหญิงสาวให้ไปกับเขา เขาควรจะซ่อนเธอเอาไว้ไม่ให้ใครได้พบเห็น“ไปกันเถอะ” ฌอนขยี้ปลายบุหรี่ที่สูบอยู่ลงในที่เขี่ยบุหรี่และเดินนำหน้าออกไปก่อนเธอมัวแต่จับชุดเดรสของเธอ แคทเธอรีนจึงเดินตามเขาไปได้ค่อนข้างช้า เมื่อฌอนหันกลับมา คิ้วของเขาก็ต้องขมวดเข้าหากัน เขาเดินเข้าไปหาเธอพลางรวบเอวบางแล้วอุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขนของ
ฌอนยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าแคทเธอรีนแสดงความหึงหวงออกมาได้เร็วแค่ไหน “น้องสาวของเชสครับ”“เธอเป็นใครคะ? ทำไมเธอถึงเรียกพี่ด้วยท่าทางสนิทสนมแบบนั้น?” ความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแองเจล่าแคทเธอรีนยกริมฝีปากสีแดงขึ้นยิ้มก่อนจะพูดขึ้น “สวัสดีค่ะคุณหนูแฮริสัน ฉันเป็นแฟนของเขาค่ะ คุณอาจจะไม่เคยพบฉันมาก่อน แต่คุณคงจะเคยได้ยินชื่อเสียงของฉันมาบ้าง ฉัน แคทเธอรีน โจนส์ค่ะ เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในแวดวงไฮโซของเมลเบิร์น”มุมปากของฌอนกระตุกขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่น่าไม่อายของเธอแองเจล่าเบิกตากว้าง เพราะเธอไม่อยากเชื่อว่าจะพบกับผู้หญิงที่หน้าด้านอย่างนี้ จากนั้นเธอก็หัวเราะเยาะออกไป “ฮี่ฮี่ ขอโทษทีนะ ฉันไม่เคยได้ยินว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด แต่ฉันเพิ่งได้ยินเกี่ยวกับเรื่องโง่ ๆ ของแคทเธอรีน โจนส์ จากตระกูลโจนส์ ในเมลเบิร์นมาเมื่อไม่นานมานี้เอง เธอแพ้พี่สาวของเธอที่มาจากชนบทและเสียสิทธิ์ในการเป็นผู้สืบทอดมรดกของตระกูลโจนส์ ต่อมาเธอก็ถูกไล่ออกจากตระกูล ฉันไม่เชื่อว่าฌอนจะมีผู้หญิงโง่ ๆ แบบนี้เป็นแฟนหรอกนะ”แคทเธอรีนรู้สึกว่ามีบางอย่างแทงทะลุหัวใจของเธอ เธอพูดอะไรไม่ออก“แองจี้” ดวงตาของฌอนเ
“เยี่ยมไปเลย ในเมื่อเธอรู้ตัวแล้ว ฉันจะไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน” แองเจล่าเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “เธออยู่ห่าง ๆ ฌอนเอาไว้จะดีกว่า เขาไม่ใช่คนที่เธอจะมายั่วยวนได้”“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันไม่ยอมอยู่ห่างจากเขาล่ะ?” แคทเธอรีนถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ทั้ง ๆ ที่เธอก็ชอบเขา แต่เขากลับทำกับเธอเหมือนน้องสาวของเขาเท่านั้น”แองเจล่ายังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร “แล้วอย่างไร? สำหรับคนที่มาจากตระกูลเก่าแก่อย่างฌอน พวกเขาเคร่งครัดในเรื่องการแต่งงานกับคนที่เหมาะสมกับสถานะทางสังคมของพวกเขา ฉันจะบอกความจริงเธอให้นะ เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ สมาชิกในตระกูลของเขาไม่มีทางยอมรับเธอ เพราะเธอไม่เหมาะสมกับเขาตอนนี้เขาก็เห็นเธอเป็นแค่ของเล่น ครอบครัวของเขาจะสูบเลือดสูบเนื้อเธอ”เธอแสดงความดูถูกด้วยคำพูดที่เหน็บแหนม และในเวลาต่อมาก็แสดงท่าทางสะใจออกมาด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้แคทเธอรีนรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของเธอ ทว่าเธอไม่คิดว่าเรื่องแบบนั้นจะเป็นเรื่องจริง อย่างไรเสียทะเบียนสมรสเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดในตอนนี้หลังจากที่แคทเธอรีนออกจากอาคารหลัก ในไม่ช้าเธอก็ได้พบกับเฟรยา“ดูเครื่องดื่มที่ฉันเตรียม
หลังจากนั้นไม่นาน ฌอนก็ก้มลงรับประทานอาหารที่แคทเธอรีนป้อนให้“ป้อนผมอีกสิ”แคทเธอรีนปิดปากเงียบนี่เขาไม่มีมือเหรอ? ทำไมเขาต้องสั่งให้เธอป้อนอาหารให้เขาด้วย?ถึงอย่างนั้น เธอก็ป้อนอาหารให้เขาจนหมดจานเพราะเธอรู้สึกผิดฌอนลุกขึ้นทันทีหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว “กลับบ้านกันเถอะ”แคทเธอรีนพูดอะไรไม่ออก “เราจะกลับบ้านกันตอนนี้เลยหรือคะ?”ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา 20:00 น. ด้วยซ้ำ ถ้าพวกเขากลับไปตอนนี้ เธอจะต้องเป็นคนแรกที่ถูกเขาสงสัยในเวลาต่อมาอย่างแน่นอน“อืม ถ้าไม่กลับคุณก็อยู่ที่นี่มันทั้งคืนไปเลย”ความจริงแล้วเขามาที่นี่ตามมารยาทเท่านั้น เมื่อลองคิดดี ๆ แล้ว เขาก็แค่มาเพราะเห็นแก่นายท่านแฮริสันเท่านั้น เขารู้สึกว่ามันเสียเวลาที่ต้องปะปนกับคนอื่นเมื่อเห็นว่าเขายังคงดึงดันที่จะกลับ แคทเธอรีนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากกลับไปกับเขาด้วยหลังจากที่พวกเขาขึ้นรถแล้ว เธอส่งของขวัญที่เธอได้รับจากนายท่านแฮริสันมาให้กับเขา“เก็บไว้” ฌอนเอ่ยขึ้นเบา ๆ“แต่มันแพงค่ะ ฉันไม่คิดว่าฉันควรจะเก็บมัน...”“มันราคาแพงแค่กับคุณเท่านั้น” ฌอนยิ้มออกมาเห็นได้ชัดว่าเธอถูกเยาะเย้ยเพราะยากจนเธอ
ลำคอของแคทเธอรีนรู้สึกเจ็บร้าวจนน้ำตาของเธอไหลลงมาอาบแก้ม เธอคิดว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับซาตานเธอรู้สึกเสียใจที่ทำแบบนั้น!“คุณทำเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้ได้อย่างไร! ทั้ง ๆ ที่ผมไว้ใจคุณมาก!”ความโกรธปะทุอยู่ในอกของฌอน ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น? สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิตของเขาคือการถูกหลอกลวงเขาโกรธเธอ ทว่าผิวที่เขาสัมผัสอยู่ตอนนี้ทำให้เขาไม่อาจควบคุมสติของเขาเอาไว้ได้ เมื่อไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เขาจึงเหวี่ยงเธอลงบนเตียงเสื้อผ้าของแคทเธอรีนถูกฉีกออกเพราะเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขารีบลุกขึ้นและเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งปัง!เสียงกระแทกปิดประตูเสียงดัง มันกระแทกหัวใจของแคทเธอรีนด้วยเช่นกันแคทเธอรีนตัวสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัวพลางจ้องมองไปที่เพดานด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า เธออยากรู้ว่าเขาจะโกรธเธอมากจนเขาไม่ยอมแตะต้องเธอหรือเปล่านั่นคงเป็นความจริง เขาไม่ได้หลงรักเธอตั้งแต่แรกที่เจอกันเธอทำผิด!เธอทำผิดอย่างมหันต์ เธอไม่ควรถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมใช้วิธีแบบนี้!แคทเธอรีนลดสายตาลงด้วยความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้าใส่เธอเสียงน้ำในห้องน้ำดังขึ้นไม่ขาดสายเป็นเวลา 45 นาทีด้วยความกังวลว่าฌอน
จู่ ๆ เชสก็เลิกคิ้วของเขาขึ้นแล้วถามด้วยความสนใจ “ตอนนี้นายก็อยู่กับเธอมาตั้งนานแล้วนะ แต่นายไม่รู้สึกอะไรกับเธอจริง ๆ เหรอ?”“รู้สึกเหรอ?” ฌอนเย้ย “นายมีความรู้สึกกับแม่บ้านที่คอยทำอาหารให้ครอบครัวของนายเหรอ? ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะทนอยู่กับเธอ แต่ตอนนี้...ฉันไม่มีทางให้อภัยเธอ”เชสกลอกตา “แล้ว...นายจะวางแผนเอาคืนเธอเหมือนกันเหรอ? ขังเธอเอาไว้ในห้องแล้วปล่อยให้เธอต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน”มุมปากของฌอนยกขึ้น เขาตอบกลับอย่างโกรธเคือง “เธอเคยมองฉันด้วยความรักมาก่อน ถ้าฉันทำแบบนั้น เธอจะต้องเป็นบ้าไปแน่ ๆ และอาจจะพังประตูบ้านของฉันด้วยซ้ำ”“...”เชสสะดุ้งสุดตัวเมื่อคิดถึงภาพนั้น“หยุดพูด แล้วอย่ามายุ่งกับฉัน” ฌอนเริ่มรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมา “รินน้ำให้ฉันสักแก้วสิ”...เวลา 4:00 น. ฌอนให้น้ำเกลือเสร็จแล้วเขาจึงกลับบ้านหลังจากที่ความร้อนในร่างกายของเขาลดลงเมื่อเขาเข้ามาภายในบ้าน เขาเห็นแคทเธอรีนกำลังหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนหน้านี้เธออ้างว่าเธอกลัวจะฝันร้ายถ้าเธอนอนคนเดียวในห้อง ถึงอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ดูนอนหลับสบายเรื่องทั้งหมดล้วนแต่เป็นการแสดงสินะเธอมีส
“เธอคิดมากไปเอง”เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น แคทเธอรีนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่เฟรยา “ขอโทษนะเคธี่ ฉันคงจะคิดไม่ถึง...”“ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ชอบฉันเลย ฉันไม่ควรจะไปบังคับเขาแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันอยู่กับเขาเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง เฟรยา เธอคิดบ้างไหมว่าฉันไม่ควรแต่งงานกับฌอนเพื่อแก้แค้นอีธาน?”ในตอนนั้นเอง แคทเธอรีนรู้สึกสับสนไปหมดเฟรยาถอนหายใจออกมา “เธอเลือกที่จะเดินทางนี้แล้วนะ เธอจะทำอะไรได้อีกในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว? เธอจะหยุดเพียงแค่นี้แล้วหย่ากับเขาเลยไหม”แคทเธอรีนยังคงเงียบ‘นั่นสิ ฉันควรจะหย่ากับเขาใช่ไหม?’เธอลุกขึ้นเมื่อวางสายแล้ว ประตูห้องนอนใหญ่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เธอสังเกตเห็นว่าฌอนได้ออกไปแล้วเธอถอนหายใจออกมา หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ซึ่งสร้างความเครียดให้กับเธอเธอทำบะหมี่ทานง่าย ๆ หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากโจเซฟ “แคทเธอรีน เธอร่างแบบบ้านพักของประธานโลว์ยอนส์เสร็จหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“ดีมาก นำแบบร่างมาที่โกลเด้น คอร์ปอเรชั่น และมาคุยกับ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก