ผู้ถือหุ้นของยูล คอร์ปอเรชั่นรู้สึกไม่สบายใจที่ได้ยินเช่นนั้น ประธานโลว์เป็นคนแรกที่ก้าวออกอมาอย่างช้า ๆ “ประธานยูล นี่เป็นปัญหาภายในครอบครัวของคุณ ไม่จำเป็นต้องสาวไส้ให้กากินในวันครบรอบ 30 ปี ของบริษัทหรอกนะ”“ถูกต้องแล้ว เมลานี่มีส่วนให้ความช่วยเหลือกับบริษัทเป็นอย่างมากในช่วงปีหลัง ๆ มานี้” ผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ พูดย้ำโจเอลรู้สึกผิดหวังเป็นที่สุดพวกคนเหล่านี้ต่างก็เคยทำงานกับเขามาตั้งแต่แรกเริ่ม ทว่าตอนนี้พวกเขากลับเข้าข้างเดเมียนเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว“คุณพ่อคะ ไม่ต้องโกรธไปหรอกค่ะ” แคทเธอรีนลูบไหล่ของเขาอย่างแผ่วเบาด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองผู้ถือหุ้น “เอาล่ะค่ะ นั่นหมายความว่าพวกคุณทุกคนให้การสนับสนุนเดเมียนและเมลานี่ในฐานะประธานและซีอีโอของยูล คอร์ปอเรชั่นใช่ไหมคะ?”ผู้ชายกลุ่มนั้นตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาต้องได้รับผลประโยชน์มากมายจากเดเมียนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้พวกเขาทั้งหมดลงเรือลำเดียวกันดังที่กล่าวมาก่อนแล้ว“ก็ได้ค่ะ งั้นคุณพ่อคะ เราจะออกไปถ้าพวกเขาไม่ตอบ”เธอคล้องแขนกับโจเอล“เคธี่ลูก...” โจเอลดูเป็นกังวล ยูล คอร์ปอเรชั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวเท่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที เรื่องอื้อฉาวของยูล คอร์ปอเรชั่นก็แพร่กระจายไปทั่ว[ข่าวด่วน! ประธานของยูล คอร์ปอเรชั่นเป็นชู้กับพี่สะใภ้ของเขา ลูกนอกสมรสถูกใช้เป็นเครื่องมือฉกชิงทรัพย์สมบัติจากพี่ชาย][ไม่น่าเชื่อ ฉันดูการถ่ายทอดสดก่อนหน้านี้ คนโง่อย่างเดเมียน ยูล ยังได้รับการสนับสนุนจากพวกผู้บริหารของบริษัท เขาต้องยัดเงินใต้โต๊ะพวกเขามากแน่ ๆ ฉันคิดว่าเรื่องนี้ควรได้รับการตรวจสอบ][ฮ่าฮ่า คนที่เหมือนกันย่อมคบหาสมาคมกันได้ บางทีพวกเขาไม่ได้คิดว่าการเป็นชู้คือปัญหา][ผู้คนมักจะพูดอยู่เสมอว่าคนที่ร่ำรวยมหาศาลมักจะป่วยทางจิต ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วล่ะ][เกิดอะไรขึ้นกับคนที่ยังอยู่ต่อในงานฉลอง? เพื่อแสดงการสนับสนุนของพวกเขากับเดเมียนอย่างนั้นเหรอ?][ไม่มีทาง นี่ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะอาเจียนแค่เห็นสินค้าของยูล คอร์ปอเรชั่น เรามาร่วมมือกันคว่ำบาตรพวกเขากันเถอะ เริ่มกันตั้งแต่วันนี้เลย]“...”แขกจำนวนมากไม่อาจฝืนทนอยู่ต่อได้หลังจากที่ได้อ่านความคิดเห็น “อืม… ฉันคิดว่าเรากลับก่อนดีกว่า”“อ่า… จู่ ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าคืนนี้ฉันมีประชุมที่ต้องเข้าร่วม ฉันกลับก่อนนะ”แขกทยอยกันกลับไปทีละค
[ฉันไม่เข้าใจเลย นิโคลานอนกับเดเมียนก่อน แล้วทำไมต่อมาเธอถึงเรียกร้องจะแต่งงานกับโจเอลล่ะ? เพื่อทำลายชีวิตเขาหรือไง?][ฉันไม่แน่ใจนะ แต่เดเมียนพิการ แล้วเขาก็ไม่ค่อยมีส่วนในการสืบทอดกิจการของครอบครัวเท่าไร แถมโจเอลก็เป็นประธานของยูล คอร์ปอเรชั่นมาโดยตลอด ก่อนที่นิโคลาจะแต่งงานกับโจเอลตระกูลวิคส์เองก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในแคนเบอร์รา แต่ทุกวันนี้พวกเขาได้เป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง][ฉันได้ยินมาว่าโจเอลอยู่ในอาการโคม่าหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อสามปีที่แล้ว อีกทั้งเขายังเกือบเสียชีวิต ฉันพนันได้เลยว่านิโคลาและเดเมียนต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนั้นด้วยเหมือนกัน][ฉันพูดถึงเรื่องนี้เมื่อสามปีก่อนว่านิโคลาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อฉัน]“...”“กรี๊ดด แคทเธอรีน สารเลว!” นิโคลาตะโกนออกมาอย่างคลุ้มคลั่งไร้ซึ่งการสงวนท่าทีชาร์ลีเองก็ขบกรามแน่นไม่ต่างกัน ดูเหมือนว่าแคทเธอรีนได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วพูดด้วยความสัตย์จริงแล้ว ชาร์ลีคงจะไม่แต่งงานกับเมลานี่ถ้าเขารู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของเดเมียน เขาคิดว่าเขาจะค่อย ๆ เข้าไปฮุบยูล คอร์ปอเร
โจเอลกำลังจะตะคอกกลับด้วยความโกรธจัดเมื่อแคทเธอรีนผลักเขาออกอย่างนุ่มนวล เธอมองใบหน้าอันหล่อเหลาของฌอนอย่างไม่ไยดี “คุณพูดถูก ฉันโกหกคุณ”“ทำได้ดีนี่ ใครร่วมมือด้วยบ้างล่ะ? เฟรยาเหรอ? หรือคนในโรงพยาบาลกัน?” ฌอนยิ่งรู้สึกเหมือนคนโง่มากขึ้นไปอีก เมื่อเขาไตร่ตรองดูแล้วว่าเธอหลอกเขาอย่างไรในช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอพยักหน้าก่อนจะยกริมฝีปากยิ้ม “ประธานฮิลล์ ถ้าตอนนั้นฉันไม่แกล้งตาย ฉันเกรงว่าฉันจะถูกเผาเหลือแต่เถ้ากระดูกจริง ๆ”“เธอว่ายังไงนะ?”ถึงจะมีราวยิ้มพราวอยู่บนใบหน้าของเธอ ทว่ามีความเย้ยหยันซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาที่หรี่ลงด้วยความไม่แยแส“ฉันมั่นใจว่าคุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร”แคทเธอรีนระบายยิ้มก่อนจะหยิบแว่นกันแดดออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาสวม เธอดูเก๋และมีความมั่นใจขึ้นมาในทันที “ฉันเป็นคนปกติ แต่คุณกลับส่งฉันเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ในทุก ๆ วัน ฉันถูกบังคับให้ฉีดยาและป้อนยาให้กิน ฉันถูกขังอยู่ในบ้าน ถูกควบคุมการใช้ชีวิตยิ่งเสียกว่านักโทษ พวกคุณทุกคนคงทำให้ฉันเป็นบ้าในเวลาไม่นาน”ลำคอของฌอนตีบตันเมื่อเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ตอนนั้นจิตใจของเธอยังไม่ปกติดี...”“คุณรู้ถึงความแตกต่างระหว่
ฌอนยังคงยืนอยู่ตรงหน้ารถแคทเธอรีนยื่นศีรษะออกมาจากหน้าต่าง “ประธานฮิลล์ หลบหน่อยได้ไหมคะ?” เขามองเธอราวกับไม่เคยเห็น แว่นตากันแดดของผู้หญิงคนนั้นที่วางอยู่บนจมูกสวยของเธอ เขาเลื่อนสายตาลงมามองที่ริมฝีปากรั้นทว่าบอบบางของเธอราวกับว่าผู้หญิงคนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิงเธอทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคย ทว่าเขาก็ไม่อาจฝืนตัวเองให้ละสายตาไปจากเธอได้ฌอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะถูกยั่วยวนด้วยความสวยของผู้หญิงได้ง่าย ๆภายในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา ในที่สุดเขาก็ก้าวหลบไปรถสปอร์ตคันสีขาวจึงขับผ่านเขาไปเฮดลีย์กลับมาหาเขา “คุณชายฮิลล์คนโตครับ ได้เวลากลับแล้วครับ”“ไปสืบมาว่าเธอแกล้งตายและออกจากประเทศไปได้ยังไง ฉันอยากรู้ว่าใครให้ความช่วยเหลือเธอ” ฌอนหันไปมองผู้ช่วยในทันทีเฮดลีย์สะดุ้งอย่างไม่รู้ตัวพลางพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วฌอนอ่านโพสต์ในเฟซบุ๊กของแคทเธอรีนหลังจากที่ขึ้นไปบนรถผู้หญิงคนนี้… โจมตีก่อนได้อย่างน่าทึ่งและได้เปรียบมุมปากของฌอนยกยิ้มขึ้น เขาชะงักไปเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นให้ตายเถอะ! เขาควรโกรธที่ถูกเธอหลอกมาตลอดสามปีที่ผ่านมา แต่เขากลับยังยิ้ม
ไม่กี่วินาทีต่อมา ฌอนก็ผลักซาร่าออกเบา ๆ “ผมจะไปนอนที่ห้องทำงาน”“ฌอนนิคคะ ทำไมล่ะคะ? เป็นแบบนี้เราจะมีลูกกันได้ยังไงล่ะคะ?” เธอพูดด้วยความหวั่นใจ “คุณรังเกียจฉันเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่ฉันอยู่ต่างประเทศ...”“ไม่ใช่ ปัญหาอยู่ที่ผมเอง” ความหงุดหงิดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขารู้ดีว่าเขารักซาร่า แต่เขาก็รู้สึกขยะแขยงแทบทุกครั้งที่พวกเขาพยายามจะมีอะไรเกินเลยกันบางครั้งเขายังคิดด้วยซ้ำ ว่าเขาต้องมีอาการป่วยบางอย่างที่ทำให้เขาร่วมหลับนอนกับผู้หญิงไม่ได้ซาร่าพยายามรักษาปัญหานี้ด้วยการบำบัดหลายวิธี แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จใบหน้าของเธอถูกปกคลุมไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมาทันที “ทำไมคุณ… ไม่ไปให้หมอตรวจร่างกายล่ะคะ? ฉันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฉันต้องการคุณนะคะ...”เธอถอดชุดนอนออกและโผเข้าหาเขาเพียงชั่วพริบตา เขาก็ผลักเธอออกไปอย่างไม่รู้ตัวในแทบจะทันที หญิงสาวที่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นล้มลงกับพื้น เธอเริ่มร้องไห้ออกมาเลียงดังเมื่อคิดถึงความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้น“ผมขอโทษ” เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกและห่อรอบตัวเธอ จากนั้นเขาก็อุ้มเธอไปที่เตีย
หลังจากวางสายแล้ว ซาร่าจึงแต่งตัวแล้วเดินลงบันไดไป ฌอนยืนอยู่หน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส นิ้วเรียวสวยของเขากำรวบแก้วไวน์แดง หน้าต่างสะท้อนใบหน้าหล่อเหลาอย่างชัดเจน ชายหนุ่มที่มีหน้าตาไร้ที่ติอย่างเขาจะทำให้ผู้หญิงคนใดอยากทำเรื่องไม่ดีกับเขาในค่ำคืนแบบนี้ความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซาร่าฌอนเป็นผู้ชายที่เจ้าเสน่ห์ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น แต่เขามีปัญหาที่ส่วนนั้น“คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?” เขามองที่กระเป๋าของเธอ“ค่ะ ฉันจะออกไปเจอเพื่อนน่ะค่ะ ฉันเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้แล้ว” เธอทัดผมไว้ที่หลังหูเผยให้เห็นสีหน้าเศร้าใจใบหน้าของฌอนเผยให้เห็นถึงความอับอาย “ขอโทษ ผมสัญญาว่า… ผมจะไปหาหมอ”“อืม… ค่ะ” เธอมัวแต่ครุ่นคิดถึงวิธีจัดการกับลูซิเฟอร์จนเธอแค่พึมพำตอบและรีบออกจากวิลล่าภายในห้องเงียบสงัดฌอนก้มลงดื่มไว้จนหมดภายในอึกเดียว เจ้าแมวอ้วนเข้ามาใกล้เท้าของเขาและเริ่มร้องเหมียว ๆขึ้นเขาก้มลงลูบหัวของเจ้าฟัดจ์ “ฉันควรจะทำยังไงต่อไปล่ะ ถ้าฉันยังคว้าน้ำเหลวอีก?” ฌอนพูดเบา ๆ...วิลล่าของตระกูลยูลโทรศัพท์ของแคทเธอรีนดังขึ้น เธอเดินไปที่สวนก่อนจะรับโทรศัพท์ เสียงของอีกคนดังขึ้นที่ปลายสาย
โจเอลโทษตัวอง แม้ว่าจะทำงานในวงการธุรกิจมาหลายปี แต่เขาก็ยังลงเอยด้วยการตัดสินใจผิด เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องชดใช้ให้แคทเธอรีนในอนาคต เขาต้องไม่ทิ้งให้เธอลำบากวันต่อมาแคทเธอรีนพาโจเอลไปที่โรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดใหม่แต่มีชื่อเสียงในแคนเบอร์ราเพื่อทำการตรวจสุขภาพคุณหมอขมวดคิ้วเมื่อดูผลการตรวจ “คุณยูล คุณมีสารพิษอยู่ในเลือด”“อะไรนะครับ?” โจเอลรู้สึกตกใจ “ตะ… แต่ผลการตรวจร่างกายเมื่อสามเดือนก่อนผลออกมาว่าผมปกตินะครับ”คุณหมอส่ายหน้า “เป็นพิษเรื้อรัง ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นอย่างน้อยสองปีที่แล้ว คุณมีอาการไอ ปวดหัวและแน่นหน้าอกอยู่บ่อย ๆ ใช่ไหม?”“ครับ” โจเอลรีบพยักหน้ารับ “ก่อนหน้านี้ผมเคยไปปรึกษาหมอ หลังจากที่ทำการตรวจร่างกายให้ผมแล้ว หมออ้างว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากการประสบอุบัติเหตุและอายุของผม...”“ผมไม่แน่ใจว่าทำไมหมอที่รักษาคุณก่อนหน้านี้ถึงได้พูดแบบนั้น เอาล่ะ ตอนนี้คุณรู้แล้วจากผลตรวจ ถ้าคุณไม่รู้ตัวเร็วกว่านี้ สุขภาพของคุณจะทรุดโทรมลงภายในหนึ่งปี คุณอาจจะล้มลงหมดสติ หรือไม่ก็มีอาการหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตครับ”คุณหมอมองโจเอลด้วยความเห็นใจขณะที่เขาพูด มีคนกล่าวไว้ว่าในสังคมชนชั้นสูง
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก