โทมัสไม่ควรเก็บความแค้นเหล่านั้นเอาไว้ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วเขาจะเกลียดบอริสก็ตาม ไม่ว่าอย่างไร ในตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็จากไปแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของฌอนค่อย ๆ หม่นลง เขามองซาร่าอย่างไม่ไยดี เขาไม่สนใจโทมัสเพราะผู้ชายคนนั้นเป็นคนสารเลวที่เอาแต่ทำเรื่องน่าอับอาย ทว่าเขาคิดไม่ถึงว่าซาร่าจะโกหกเพื่อแก้ต่างแทนพี่ชาย จนเขาเกือบจะเข้าใจสถานการณ์ผิดไป“ฌอนนิคคะ ฉันขอโทษพวกเขาแทนพี่ชายของฉันได้ไหมคะ?” ซาร่าลนไปหมด ทว่าก็กลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว พลางฝืนยิ้มออกมา “โทมัสเป็นแบบนี้มาตลอด ฉันบอกเขาหลายครั้งแล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน แต่เขาก็เอาแต่ไม่ฟัง ฉันทำอะไรกับเรื่องนี้มากไม่ได้ค่ะ นอกจากนี้ฉันก็ไม่ได้เข้าไปร่วมทะเลาะด้วยตั้งแต่แรก แต่สุดท้ายฉันกลับถูกทำให้อับอาย”“ซาร่า เธอไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะเธอไม่ได้ด่าว่าใคร ทั้งหมดเป็นเพราะโทมัส” ร็อดนีย์อดที่จะปลอบเธอไม่ได้ “ยิ่งไปกว่านั้น เฟรยาเองก็ผิดที่เรียกชื่อเธอแบบนั้นเหมือนกัน”เฟรยาหัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน “ช่างเป็นการขอโทษที่ประทับใจอะไรอย่างนี้นะคุณนีสัน ถ้าเคธี่ไม่บันทึกเสียงบทสนทนาเอาไว้ บางทีคำพูดที่เธอพูดก่อนหน้านี้คงจะทำให้
ความชั่วร้ายฉายแววขึ้นในดวงตาที่หลุบลงต่ำของซาร่าความจริงแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะฝังศพของเจนนิเฟอร์อย่างเหมาะสม เธอคิดไม่ถึงว่าฌอนจงใจสั่งร็อดนีย์ให้จัดการเรื่องนี้ เขาไม่ไว้ใจเธอแล้วหรือ?ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เธอตกใจที่แคทเธอรีนแอบบันทึกการสนทนาของพวกเขาเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอทำตัวของเธอเองยัยโง่แคทเธอรีน! เธอมันน่ารังเกียจพอ ๆ กับยัยแชริตี้...ที่ลานจอดรถเฟรยายังคงบ่นกับแคทเธอรีนด้วยเสียงเบา “ฉันเพิ่งรู้ว่าร็อดนีย์ชอบซาร่า ใครก็ตามที่ลงเอยกับตานั่นต้องโชคร้ายแน่ ๆ ผู้ชายที่ไม่มีสมองแบบนั้นกำลังถูกผู้หญิงจอมมารยาคนนั้นหลอกใช้ โอ๊ย ตายแล้ว เธอคิดว่าเขาเคยจูบซาร่ามาก่อนไหม? แค่คิดก็ทำให้ฉันอยากจะอ้วกแล้วอะ ให้ตายเถอะ! ฉันเคยจูบกับเขาดูดดื่มซะด้วย งั้นก็หมายความว่าฉันจูบซาร่าทางอ้อมด้วยเหรอ?”“...”แคทเธอรีนดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “เธอไปจูบดูดดื่มกับร็อดนีย์ตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย? ไม่มีผู้ชายคนอื่นให้เธอเลือกแล้วเหรอ? ไปจูบขอทานข้างถนนยังดีกว่าไปจูบกับเขาอีก”“จำตอนที่แพทริคมาตามหาฉันก่อนหน้านี้ได้ไหม? ร็อดนีย์บังเอิญมาอยู่ใกล้ ๆ ฉันเลยจูบเขาเพื่อแก้แค้นแพทริ
“ฉันไม่มีอารมณ์จะไปช้อปปิ้งหรอกค่ะ อ้อ จริง ๆ แล้วฉันอยากให้คุณเลิกเข้าข้างซาร่าตลอดเวลาสักที ฉันไม่สนใจหรอกนะคะ ว่าเมื่อก่อนคุณจะคิดว่าเธอจะใจดีและไร้เดียงสาแค่ไหน แต่เธอจากไปหลายปีแล้วค่ะ คุณรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในช่วงหลายปีมานี้เหรอคะ? เธอยังคงเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อก่อนอยู่อีกเหรอคะ?”แคทเธอรีนสะบัดมือออกจากมือของฌอนและกระทืบเท้าเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเขานวดขมับเบา ๆ ขณะที่สีหน้าบูดบึ้งผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาพูดตามตรง วันนี้เขาค่อนข้างผิดหวังในตัวของซาร่า ราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าเขาคงเข้าใจผิดไปจริง ๆ ถ้าไม่ได้มีการบันทึกเสียงนั่นในตอนนี้ เขากำลังวิเคราะห์พฤติกรรมของเขาอย่างใจเย็น ดูเหมือนว่าเขามักจะเข้าข้างซาร่าทุกครั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างเธอกับแคทเธอรีนทำไมกันล่ะ?แคทเธอรีนเป็นภรรยาของเขานะเขาควรจะเชื่อภรรยาของเขาสิดูเหมือนว่าต่อไปนี้เขาควรจะอยู่ให้ห่างจากซาร่าเอาไว้...เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากช่วงเวลาอาหารเช้า แคทเธอรีนเดินสวมชุดเดรสตัวยาวสีดำออกมาจากห้องแต่งตัวฌอนซึ่งสวมชุดสูทสีดำรออยู่ที่หน้าประตูมาสักพักหนึ่งแล้ว “คุณจะไปร่วมงานศพของคุณบอริส น
แคทเธอรีนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆเอาล่ะ อย่างน้อยป้าเจนนิเฟอร์และคุณลุงบอริสก็จะถูกฝังอยู่เคียงข้างกัน เพราะอย่างนั้นพวกเขาจะไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเธอเดินไปข้างหน้าเพื่อแสดงความเสียใจ ในฐานะคนในครอบครัว ซาร่าเข้ามาแสดงความขอบคุณพวกเธอทั้งคู่ก้มศีรษะลง ซาร่ากระซิบเสียงเบาพอที่จะได้ยินเพียงสองคน “เธอคิดเหรอว่าเถ้ากระดูกของเจนนิเฟอร์อยู่ในนั้นจริง ๆ? เหอะ ฉันทิ้งลงชักโครกไปเรียบร้อยแล้ว ข้างในเป็นเถ้ากระดูกของหมาตัวหนึ่ง”ตอนนี้ร่างกายของแคทเธอรีนสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัดเธอเงยหน้าขึ้น แล้วก็ต้องพบกับสีหน้าเศร้าเสียใจของซาร่า ราวกับว่าเธอไม่ได้เพิ่งพูดอะไรที่ชั่วร้ายออกมาเลยคนคนนี้เป็นคนอกตัญญูถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?แคทเธอรีนรู้ดีว่าได้เสียรู้เข้าให้แล้วทว่า เธอก็อดไม่ได้ที่จะผลักผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้นซาร่าโขกศีรษะของเธอเข้ากับโลงศพพลางน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม “คุณผู้หญิง ฉันพูดอะไรผิดไปจนทำให้คุณไม่พอใจอีกเหรอคะ?”“แคทเธอรีน เธอทำอะไรลงไป?” ร็อดนีย์รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยซาร่าให้ลุกขึ้น“แคทเธอรีน นี่ออกจะมากเกินไปหน่อยนะ” เชสเตอร์ก็เดินเข้าไปช่วยซาร่าด้วยเหมือนกันฌอนรู
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่คราวที่แล้วที่เธอมา เธอไม่ได้พูดเรื่องนี้เล่น ๆ ฉันเลยไม่คิดอย่างนั้น” แชริตี้ส่ายหน้าขณะที่สีหน้าที่สับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “เธอพูดว่าเธออยากแย่งฌอนมาจากเธอ รวมถึงตำแหน่งคุณนายฮิลล์ เธอควรจะระวังเอาไว้นะ”แคทเธอรีนรู้สึกตกใจ ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของเธอจะแม่นยำ “จริงเหรอ? เธอไม่ได้ทำแบบนั้นต่อหน้าฌอนและเพื่อน ๆ ของเขา”“เธอเป็นคนตีสองหน้าแบบนี้เสมอแหละ” มุมปากของแชริตี้กระตุกขึ้น “พวกเขาสามคนตามใจเธอเหมือนเป็นเจ้าหญิง”แคทเธอรีนเย้ย “ฉันรู้ โอ้ ใช่ เธอรู้มาก่อนไหมว่าซาร่ายังไม่ตาย? เธอยังเป็น ญาเซีย นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตอนนี้เธอเป็นคนรักษาฌอนอยู่”แชริตี้ดูตกใจจริง ๆ “จริง ๆ แล้วฉันคิดว่าเธอตาย เมื่อหลายปีก่อน เธอไปเรียนต่อต่างประเทศที่ประเทศเอ็ม เธอถูกลักพาตัวไปตอนที่เธอไปเที่ยวป่ากับเพื่อนของเธอ เพื่อนของเธอทุกคนเสียชีวิตหมด และผู้หญิงคนนั้น… ถูกข่มขืน แต่เธอหนีรอดมาได้ ทำไมเธอถึงไม่ติดต่อครอบครัวของเธอหรือแม้แต่ฌอน? เธอแอบไปอาศัยอยู่กับนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงแทน เรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ”คิ้วของแคทเธอรีนขมวดเข้ากันเมื่อได้ยินเ
“ครับ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว” ฌอนลูบหลังของแคทเธอรีนเบา ๆ ผ่านมานานแล้วนับตั้งแต่เธอเรียกเขาด้วยความรักแบบนั้น มีความรู้สึกคลุมเครือเกิดขึ้นในหัวใจของเขา บางทีเขาอาจจะไม่ได้แสดงความเอาใจใส่กับเธอมากพอซึ่งทำให้เธอซึมเศร้า “แต่วันนี้ผมโกรธนิดหน่อยนะ วันนี้คุณไม่ควรขับรถเร็วแบบนั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณกับลูก ๆ เป็นอะไรขึ้นมา?”“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วค่ะ” เธอส่ายหน้า หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ลืมตาขึ้นและพูดออกมา “ความจริงแล้ว วันนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจผลักเธอค่ะ ซาร่าบอกกับฉันว่าในโกศไม่ใช่เถ้ากระดูกของป้าเจนนิเฟอร์ แต่เป็นของสุนัข เธอเทเถ้ากระดูกลงในชักโครกไปแล้ว ฉันรับไม่ได้...”“...”ความตกใจผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาเธอไม่แปลกใจเลยที่เห็นปฏิกิริยาแบบนั้น “ฉันรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อฉัน และอาจจะคิดว่าฉันใส่ร้ายเธอ ไม่เป็นไรค่ะ”“มันค่อนข้างยากที่จะเชื่อแบบนั้นนะ” เขาพูดตรง ๆ ขณะที่ยังคงลูบแผ่นหลังของเธอมันคงจะน่ากลัวถ้าซาร่าทำแบบนั้นจริง ๆถึงเจนนิเฟอร์จะเป็นคนทำให้บ้านแตก แต่เธอก็ตายไปแล้ว คงไม่ถูกที่ไปวุ่นวายกับเถ้ากระดูกของคนตายแบบนั้น“อืม ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนั้นเหมือนกันค่
“ขึ้นไปทำการรักษาที่ชั้นบนเถอะ” ฌอนพูดก่อนเดินไปขึ้นบันไดแคทเธอรีนกัดริมฝีปากของเธอเมื่อเธอเห็นร่างของคนทั้งคู่หายขึ้นไปบนบันไดเวียนซาร่าเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ เธอทำให้แคทเธอรีนดูเหมือนไม่ใส่ใจกับอาการป่วยของฌอนเพียงเพราะเธอหึงหวงแคทเธอรีนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มกระบวนการรักษาราว ๆ 40 นาทีต่อมา จู่ ๆ เสียงของใช้ถูกทุบและเสียงผู้หญิงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาจากชั้นบนเธอวิ่งไปหาแหล่งที่มาของความวุ่นวายทันที แล้วก็ต้องพบว่าภายในห้องถูกล็อกจากด้านใน“ป้าจัสมินคะ ไปเอากุญแจมาค่ะ” เธอสั่งโดยไม่ลังเลแม่บ้านรีบวิ่งลงบันไดไปอย่างร้อนใจเพื่อเอากุญแจมา เมื่อเธอกำลังจะไขล็อกประตู มันก็ถูกเปิดออกจากด้านใน ฌอนที่สวมเพียงกางเกงขายาวเท่านั้นดูกระวนกระวายใจเมื่อเขาวิ่งออกจากห้องขณะที่อุ้มซาร่าเอาไว้ในอ้อมแขน ศีรษะของหญิงสาวมีเลือดออก และมีรอยถลอกอยู่รอบคอของเธอ“เกิดอะไรขึ้น?” แคทเธอรีนถามด้วยความตกใจฌอนกำลังจะอธิบายเมื่อจู่ ๆ ซาร่าก็ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด“ไม่เป็นไรนะ ผมจะพาคุณไปส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” เขาปลอบเธออย่างอ่อนโยน โดยไม
แคทเธอรีนหัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน “ทำไมซาร่าไม่กลับมาให้เร็วกว่านี้ล่ะถ้าเธอยังไม่ตาย? มันเป็นความผิดของฉันไปได้ยังไงที่ผู้ชายของเธอแต่งงานแล้ว ในเมื่อเธอเป็นคนที่กลับมาช้าเอง?”“ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกลับมา แต่เธอรู้สึกไม่คู่ควรกับฌอน เพราะเธอ...” ดวงตาของร็อดนีย์มีน้ำตาคลอ “เธอไม่รู้ว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง”“ฉันไม่รู้และไม่อยากรู้ด้วย” ริมฝีปากของเธอกระตุกเขาหันกลับมามอง “แคทเธอรีน เธอเลือดเย็นขนาดนี้ได้ยังไง?”“...”เธอพูดไม่ออก “ฉันรู้ว่านายรักซาร่า แต่ได้โปรดอย่าใช้ความรักนั้นมาทำร้ายคนอื่น นายอยากให้ฉันสงสารเธอเหรอ? แน่นอน แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับการแต่งงานของฉันและลูก ๆ ของฉันบ้างล่ะ? มีใครจะสงสารฉันบ้างไหม?”“เธอรู้ไหมว่าพวกเขาเจอกันได้ยังไง?”เขาพ่นควันบุหรี่ออกมายาว ๆ “ฌอนเจอกับซาร่าตอนที่เขาถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ถูกแล้ว เธอไม่ได้ป่วย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกตระกูลนีสันส่งไปที่นั่น อาการป่วยของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดีขึ้นด้วยความคิดบวกและความอ่อนโยนของเธอ เธอเหมือนกับแสงอาทิตย์ของเขาในวันที่สิ้นหวัง เพราะเขาเหมือนกันที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับซาร่า เธอเป็นคนดีจริง ๆ แม้
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก