เมื่อแคทเธอรีนลงมาข้างล่างเพื่อดื่มน้ำ จู่ ๆ เธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่พี่เลี้ยงของฌอนเคยขังเขาเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าเมื่อครั้งเขายังเด็ก...แก้วในมือของเธอตกลงบนพื้นเธอรีบวิ่งขึ้นบันไดและเปิดตู้เสื้อผ้าร่างกายของฌอนขดราวกับลูกบอล ใบหน้าซุกหน้าลงกับเข่า เขาตัวสั่นราวกับลูกสุนัขที่หวาดกลัว“ฌอนคะ ออกมาเถอะค่ะ” แคทเธอรีนพยายามดึงเขาออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ“หนาวมาก... อย่าตีผม...” ฌอนปิดหูแน่นที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เธอไม่อยากรู้สึกสงสารเขา ทว่าเธอกลับใจอ่อนและสับสนด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในตอนนั้น“ฉันจะไม่ตีคุณค่ะ อย่านอนข้างในนะคะ กลับมานอนบนเตียงนะ ไม่เป็นไรแล้วนะคะ” แคทเธอรีนกอดเขาเอาไว้พลางลูบศีรษะด้านหลังของเขาอย่างแผ่วเบาซ้ำ ๆเมื่อร่างของเขาหยุดสั่น เธอจึงช่วยพยุงเขาไปที่เตียงและห่มผ้าห่มให้เขาทว่าผู้ชายคนนั้นกลับจับมือของเธอเอาไว้แน่น เธอผละออกมาไม่ได้เลยแคทเธอรีนพยายามดึงมือออกหลายครั้ง ทว่าก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากนอนอยู่ข้าง ๆในตอนแรกเธอตั้งใจที่จะไปนอนที่ห้องนอนแขกหลังจากที่เขาหลับสนิทไปแล้ว แต่เธอกลับหลับสนิทไปเสียเองเพราะเธอเหนื่อยมากเกินไปเ
เมื่อเห็นอาหารเช้าที่ฌอนทำไว้ให้เธอก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกหิวขึ้นมาเธอจึงขับรถไปทานอาหารที่คาเฟ่ เธอรู้มาจากเฟรยาว่าอาหารเช้าที่คาเฟ่ที่นี่ทีรสชาติไม่เลวทว่าขณะที่เธอเพิ่งเริ่มรับประทานอาหารหลังจากที่เธอสั่งอาหารเช้ามา เมลานี่และชาร์ลีก็เดินจับมือกันเข้ามาในคาเฟ่ผู้จัดการคาเฟ่เดินตามทั้งสองคนเข้ามาด้วยความเอาใจใส่ “คุณชายแคมโปส คุณยูล พวกคุณมากันตั้งแต่เช้าเลย ยังมีที่นั่งว่างอยู่ คุณอยากนั่งที่ตรงไหนดี?”เมลานี่มองไปรอบ ๆ และจ้องมองที่แคทเธอรีน ดวงตาของเธอเป็นประกาย เธอดึงชาร์ลีและเดินไปหาทันที“โอ้ นี่ภรรยาของคุณชายฮิลล์คนโตไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงมาทานอาหารเช้าอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ? คุณชายฮิลล์ที่เธอรักนักรักหนาไปไหนซะล่ะ?” เมลานี่มองไปรอบ ๆแคทเธอรีนขมวดคิ้ว เธอกำลังทานอาหารเช้าอร่อย ๆ แต่พวกเขาก็เข้ามาวุ่นวายจนตอนนี้เธอเริ่มรำคาญขึ้นมาแล้วผู้จัดการคาเฟ่รู้สึกตกใจ “คุณผู้หญิงฮิลล์ สำหรับการต้อนรับที่ไม่ดี ผม...”“ไม่เป็นไรหรอก คุณคาเมรอน” ชาร์ลียิ้มอย่างมีเลศนัย “ผมเดาว่าในไม่ช้านี้เธอกำลังจะไม่ได้เป็นคุณผู้หญิงฮิลล์อีกต่อไปแล้ว เท่าที่ผมรู้มา คุณโจนส์ถูกคุณชายฮิลล์คนโ
“คุณเป็นห่วงฌอนงั้นเหรอ?” ชาร์ลีจับมือของเธอเล่น “คุณคงไม่ได้เป็นห่วงเขาอยู่หรอกใช่ไหม?”“แน่นอนว่าไม่ค่ะ ตอนนี้ในหัวใจของฉันมีแค่คุณนะคะ” เมลานี่หลุบตาลงและยิ้มออกมา “ฉันแค่อยากรู้น่ะค่ะ”ชาร์ลีตอบว่าเป็นความจริงไม่เพียงแค่นั้น อาการป่วยของฌอนยังแย่ลงอีก เมื่อหลายวันก่อนเขาถึงกับหมดสติไปและถูกรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลคนคนนั้นน่ากลัวจริง ๆหลังจากที่แคทเธอรีนออกไปแล้ว คนที่อยู่ในรถคันสีดำที่จอดอยู่ข้างถนนจึงโทรหาฌอนทันที“... คุณผู้หญิงเจอกับคุณชาร์ลี แคมโปส และคุณเมลานี่ ยูล พวกเขาแย่งที่นั่งของคุณผู้หญิงไป”ด้านหน้าของหน้าต่างบานใหญ่ ฌอนหยิบใบไม้ออกจากขอบหน้าต่าง “ถึงเวลาที่สองคนนี้จะต้องถูกลงโทษแล้ว จัดให้พวกเขาชุดใหญ่ไปเลย ส่วนคาเฟ่นั่น ไม่มีเหตุผลที่จะให้เปิดอีกต่อไปแล้ว”...ที่คาเฟ่ ชาร์ลีและเมลานี่รับประทานอาหารของพวกเขาไปได้เพียงครึ่งทางกลุ่มเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสุขภาพแห่งชาติได้เข้ามายึดร้านอาหาร “มีคนรายงานมาว่ามีอาการปวดท้องหลังจากที่ได้รับประทานอาหารเช้าจากที่นี่ ดังนั้น จึงต้องปิดร้านอาหารเพื่อทำการตรวจสอบ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยออกไปด้วย”เจ้าหน้าไล่คนออ
ผู้จัดการวูล์ฟมีสีหน้าเสียใจหลังจากที่เขาออกมาจากออฟฟิศเขาคิดว่าสถานะภาพของฮัดสัน คอร์ปอเรชั่น จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากคุณชายฮิลล์คนโต มันน่าเสียดายบรรยากาศภายในบริษัทอึมครึมตลอดทั้งเช้าแม้กระทั่งพนักงานที่โต๊ะแผนกต้อนรับเองก็ไม่เว้นเมื่อใกล้ถึงเวลา 12:00 น. ร่างสูงและหล่อเหลาก็เดินเข้ามาจากทางเข้า เมื่อมองแวบแรก ราวกับคนดังระดับแนวหน้าได้ปรากฏตัวขึ้น ทว่าเมื่อมองใกล้ ๆ รูปร่างที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ตินั้นทำให้พนักงานที่แผนกต้อนรับต้องสะดุ้งพวกเขามองไปที่ใบหน้าซึ่งทำให้ผู้หญิงออสเตรเลียคลั่งไคล้เมื่ออยู่หน้าโทรทัศน์มาหลายต่อหลายครั้ง“คุณ… คุณชายฮิลล์คนโต...” ‘ตายแล้ว ทำไมตอนนี้คุณชายฮิลล์คนโตถึงได้มีผมหน้าม้าเป็นลอนคลื่นสไตล์เกาหลีแบบนั้น? เขาหล่อมาก’‘ทำไมคุณชายฮิลล์ถึงอยู่ที่นี่ เขาจะหย่ากับประธานของเราใช่ไหม?’‘โอ้พระเจ้า ไม่นะ’“คุณชายฮิลล์คนโต คุณ...” พนักงานงานต้อนรับหญิงเข้ามาหาเขาอย่างระมัดระวัง “เธอเห็นนี่ไหม?” เขาเขย่ากล่องใส่อาหารที่ถืออยู่ในมือ “ฉันมาที่นี่เพื่อนำอาหารมาส่งให้ภรรยาของฉัน”“...”พนักงานต้อนรับหญิงอึ้งไป
แคทเธอรีนยังคงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอจึงพูดขึ้น “คุณให้พ่อครัวทำอาหารทั้งหมดนี่ให้คุณใช่ไหมคะ?”“เปล่าครับ ผมใช้เวลาตลอดทั้งเช้าทำอาหารกลางวันให้กับคุณที่บ้าน” ฌอนพูด “คุณเป็นคนที่พยายามเอาอกเอาใจผมที่เมลเบิร์น ตอนนี้ถึงตาผมแล้วที่จะจีบคุณคืน”แคทเธอรีนเยาะเย้ย “คุณชายฮิลล์คนโต คุณนี่เก่งในเรื่องการเอาอกเอาใจผู้หญิงจริง ๆ นะ ดูเหมือนว่าคุณทุ่มเทมากตอนที่คุณตามจีบซาร่า”“ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ผมทำอาหารให้คุณเท่านั้น” ฌอนส่งส้อมให้เธอ “ทานให้หมด”“ฉันไม่ทาน” แคทเธอรีนอารมณ์เสีย ทำไมเธอต้องทานอาหารตามที่เขาบอกด้วย?“แคทเธอรีน คุณเริ่มไม่มีเหตุผลแล้วนะ คุณไม่มีแฟนเก่าหรือไง?”“ได้ งั้นฉันจะหาผู้ชายที่คล้าย ๆ อีธานมาดูแลฉันบ้าง ตกลงไหมล่ะ?”แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นมองเขา อย่างที่คิดเอาไว้ เธอเห็นความไม่พอใจในแววตาของเขาและหัวเราะขึ้น “ดูสิ คุณเคยเอาใจเขามาใส่ใจเราในสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”“ผมขอโทษ” ฌอนขอโทษอย่างจริงใจ จริง ๆ เรื่องเชลลีเป็นความผิดของเขา “ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว”“ฌอนคะ ไม่มีต่อไปสำหรับเราอีกแล้วนะคะ” แคทเธอรีนยืนกราน“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”ฌอนขยับ
ฌอนเซียร์รี่ของคุณ...หญิงสาวสำลักด้วยความตกใจ“คุณได้รับหรือยัง? นั่นคือชื่อใหม่ในวอทส์แอปของผมเอง” ฌอนจ้องมองเธอ“คุณมาเล่นตลกอะไรที่นี่อีก?” แคทเธอรีนสับสนไปหมด“ผมก็กำลังเลียนแบบคุณไง”“...”แคทเธอรีนจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่เธอพยายามจีบเขา เธอทำแม้กระทั่งตั้งชื่อวอทส์แอปใหม่ว่า ‘ฌอนเนอรีน’ ด้วยซ้ำเธอเคยไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้มาก่อน ทว่าเมื่อจำได้ก็ทำให้ใบหน้าของเธอแดงเห่อขึ้นด้วยความรู้สึกอับอายตอนนั้นเธอเสียสติไปแล้วหรือไง?“ดูที่ส่วน ‘เกี่ยวกับ’ ของผมสิครับ” ฌอนเตือนเธอแคทเธอรีนแตะเปิดขึ้นขณะที่ตัวสั่น [ถ้าการจำคุกตลอดชีวิตคือการรักคุณตลอดไป ถ้าอย่างนั้น ผมก็ยินดีรับโทษ]ฌอนก้มหน้าลงพลางกระแอม “ชอบไหมล่ะ?”ในฐานะทนายความ นั่นคือคำสารภาพรักที่โรแมนติกที่สุดเท่าที่เขาจะคิดออกแคทเธอรีนแตะหน้าผากของเขา“คุณทำอะไรของคุณ?”“ตรวจดูว่าคุณมีไข้หรือเปล่า”สีหน้าของฌอนหม่นลง “พอเลย ผมอดหลับอดนอนทั้งคืนคิดวิธีนี้ขึ้นมา สำหรับคนอย่างผม เวลาแค่หนึ่งนาทีผมก็หาเงินได้ 100,000 ดอลล่าร์ แล้ว”แคทเธอรีนบ่นในใจนี่เขากำลังบอกว่าเขาเสียสละเงินหลายพันล้านดอลล่าร์เพื่อเธออย่างนั
“ฌอน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่นายกล่าวหาฉันเพราะผู้หญิงคนนั้น” ร็อดนีย์โกรธไม่ต่างกัน “เชลลีเป็นน้องสาวของซาร่า ซาร่าไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว ฉันทำแบบนี้เพื่อปกป้องครอบครัวของเธอ”“ใช่ ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันล้มเลิกอุดมการณ์ของฉัน เพราะเห็นแก่ซาร่าครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กี่ครั้งกี่หนแล้วที่โทมัสทำเรื่องชั่ว ๆ”“สี่ปีที่แล้ว เขาทำคนตาย หลังฐานทั้งหมดบ่งชี้ไปที่เขา แต่ฉันก็ยังอดทนให้คนทั้งออสเตรเลียวิพากษ์วิจารณ์ฉันและว่าความให้เขา หลังจากคดีนั้น ฉันเกลียดอาชีพของฉันและถอนตัวจากสภาทนายความ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันปล่อยให้ฮิวจ์เพ่งเล็งมาที่ฉันตามที่เขาต้องการแล้วฉันก็รู้เรื่องทั้งหมด”“...”ร็อดนีย์เงียบฌอนจับมือของแคทเธอรีนไว้แน่น “ฉันปกป้องโทมัสมาสี่ปีแล้วนะ แล้วฉันยังให้บทเรียนกับพวกตระกูลนีสันตอนที่พวกเขากดดันตระกูลแลงลีย์ ถึงอย่างไรก็ตาม นั่นทำให้เกิดปัญหาในชีวิตแต่งงานของฉัน สุดท้ายแล้ว ผู้คนก็ต้องมองไปข้างหน้า ฉันผูกติดกับซาร่าไปตลอดชีวิตไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับแคทเธอรีน”ร็อดนีย์กัดฟันด้วยความไม่พอใจ “นี่เป็นความรักที่นายให้ซาร่าในอดี
ท่าทางของลีอาแข็งกร้าวขึ้น “คุณตาของแกท่านเกษียณแล้ว ฉันกำลังเตือนแก ว่าอย่าทำเรื่องโหดเหี้ยมให้มันมากนัก ไม่อย่างนั้นอย่ามาโทษว่าฉันไม่ใจดีกับแก”“ผมไม่แน่ใจว่าแม่หมายความตามที่พูดว่ายังไง แต่...”ทันใดนั้นเอง ฌอนก็หยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมาเปิดหน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนผนัง ใบหน้าของผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายคนของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น ปรากฏขึ้นเด่นชัดขึ้นบนหน้าจอ “ขอโทษนะแม่ ผมวิดีโอคอลกับผู้ถือหุ้นอยู่ พวกเขาได้ยินที่แม่เพิ่งพูดไปหมดแล้ว”ผู้อำนวยการเคนเนดี้ ที่เป็นผู้ถือหุ้นที่อาวุโสที่สุดพูดขึ้น “รองประธานฮิลล์ ถ้าเราเรียกเงิน 8 แสนล้านดอลล่าร์ กลับคืนมาได้ เราเอามาแบ่งกันเองก็ได้ แล้วพวกเราแต่ละคนจะได้เงินคนละหลายร้อยล้านดอลล่าร์ แน่นอน เรารู้ว่าคุณรวยคุณคงไม่สนใจ คุณปฏิเสธเงินแล้วให้พวกเราได้”ผู้อำนวยการมาร์ตินพูดขึ้นอย่างประชดประชัน “เราเข้าใจว่าตระกูลแคมโปสเป็นครอบครัวของสามีของคุณนะ ในตอนนั้นพวกเราจึงปิดหูปิดตาเรื่องลูกน้องของคุณในฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น แต่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน ว่าตระกูลแคมโปสได้เงิน 8 แสนล้านดอลล่าร์ นี่มันไร้สาระเกินไปแล้วนะ”ผู้อำนวยการมอร์ริสพูดขึ้นเสียงดัง “ลูกชายของ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก