“ผมทำให้คุณตื่นเหรอ?” ฌอนห่มผ้าห่มให้เธอ “นอนเถอะ ดึกแล้ว ค่อยคุยกันพรุ่งนี้”“คุณยายของคุณเป็นยังไงบ้างคะ?” แคทเธอรีนลุกขึ้นนั่งตัวตรง เผยให้เห็นชุดนอนผ้าไหมที่เธอสวมอยู่“ท่านไม่เป็นไร แค่หมดสติจากความโกรธ และจะหายดีหลังจากได้พักผ่อนสักสองสามวัน” ฌอนลูบไล้เรือนผมยาวของเธอเธอหลุบแพขนตาของเธอลง และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฌอนนี่คะ ปล่อยฉันไปนะคะ”ฌอนนี่...เธอไม่ได้เรียกเขาด้วยชื่อนี้มานานแล้ว เมื่อทั้งคู่ยังรักกันในอดีต เธอมักจะเรียกเขาอย่างออดอ้อนด้วยชื่อนั้นฌอนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แคทเธอรีนลงไปคุกเข่ากับพื้น เธอมองเขาด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา“ปล่อยฉันไป และปล่อยตัวเองไปด้วย ตกลงไหมคะ? ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้แล้ว ครอบครัวของคุณจะไม่อนุญาตให้คุณอยู่กับฉัน ฉันทนชีวิตแบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ ผู้คนมากมายต่างเพ่งเล็งฉัน ฌอนคะ ฉันเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ฉันเหนื่อยแล้วจริง ๆ!”หญิงสาวร่ำไห้ขณะที่พูดออกมาตั้งแต่เธอยังเด็ก ถึงเธอจะเทียบกับเขาไม่ได้ แต่เธอก็ถูกเลี้ยงดูมาด้วยคุณยายของเธอ เธอมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของเธอ เธอไม่อาจไปเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์
เฮดลีย์ไม่ยอม “ความจริงแล้ว ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น พัฒนาขึ้นได้ดีภายใต้การควบคุมดูแลของคุณแม่คุณเมื่อแปดปีก่อน แต่หลังจากที่คุณขึ้นสู่อำนาจ คุณไปต่างประเทศหลายต่อหลายครั้ง และเชิญคนเก่งมีความสามารถมาทำงาน สร้างห้องวิจัยส่วนตัว และขยายวิทยาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นคุณนะครับ ที่ทำให้ตระกูลฮิลล์เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในประเทศ และคุณเป็นคนนำ ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น ขึ้นสู่สิบอันดับของโลก แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกำลังจะเป็นของเลียมอย่างนั้นหรือครับ?”“เลียมทำอะไรบ้างครับ? ในขณะที่คุณมัวแต่ยุ่งจนนอนตีสองและตื่นตอนตีสี่ เขากลับไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ แล้วยังได้ตำแหน่งระดับสูงทันทีที่เขากลับมา”“ฉันดูเหมือนคนทำงานหนักเพื่อคนอื่นหรือไง?” ฌอนเลิกคิ้วขึ้นทันทีเฮดลีย์ชะงัก“สืบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เรื่องยังไงบ้าง?” ฌอนโยนผ้าเช็ดมือทิ้ง แล้วเปลี่ยนเรื่อง“ไวน์ที่คุณดื่มถูกเปลี่ยนเป็นไวน์แก้วที่ช่วยกระตุ้น...” เฮดลีย์พูดขึ้น “ต่อมา มีคนบอกเมลานี่ ยูล ว่าคุณโจนส์ถูกผู้อำนวยการเออร์ไวน์บังคับให้เข้าไปในห้องของคุณ”“อืม เป็นแบบนั้นแหละ” ฌอนพยักหน้ารับ เมื่อคืน เขา เมลานี่ แคทเธอรีน และผู้อำนวยการเ
“ฉันจะทำเองค่ะ” แคทเธอรีนไม่ชินกับการที่เขาเป็นแบบนี้ และหยิบแปรงสีฟันก่อนจะเข้าห้องน้ำเมื่อมองดูสภาพตัวเองที่น่าสงสารในกระจก จู่ ๆ เธอก็รู้สึกแปลก ๆ แล้วตกอยู่ในภวังค์ตอนนี้ เธอไม่อาจจะควบคุมชีวิตหรือความตายของตัวเองได้เลยเธอกำลังจะยอมแพ้อย่างสิ้นเชิง และใช้ชีวิตอย่างหมดอาลัยตายอยากทุกวันแบบนี้เหรอ?ไม่ เธอทำไม่ได้ในเมื่อเธอไม่ได้กลัวตายอีกต่อไปแล้ว ยังมีอะไรให้เธอสนใจมากกว่านี้อีกหรือ?ตราบใดที่เธอยังมีลมหายใจอยู่ เธอจะต่อสู้กับผู้ชายคนนี้เมื่อเธอออกมาอีกครั้ง ฌอนมองเธอและดูเหมือนเธอจะเปลี่ยนไป “ผมไปช้อปปิ้งกับคุณได้ หรือไปพักผ่อนที่อื่นก็ได้”“ฉันจะไปที่ทำงานค่ะ” แคทเธอรีนเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว และมองหาชุดทำงาน“...”ฌอนจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาแปลก ๆ “คุณจะไปบริษัททั้งสภาพแบบนี้เหรอ?”“ทำไมล่ะคะ จะทำให้คนอื่นกลัวเหรอ?” แววตาของแคทเธอรีนดูหม่นลงและสงบ ราวกับว่าเธอไม่ได้พูดถึงตัวเองฌอนขมวดคิ้วเข้ากันและพูดขึ้นหลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง “ตามใจคุณ” ถ้าเธอหาอะไรทำได้ ก็ดีกว่าตายอยู่ที่บ้าน...10:00 น. ที่ฮัดสัน คอร์ปอเรชั่น แคทเธอรีนเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยชุดสูทส
“จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่คำพูดปากต่อปากทำให้ข่าวแพร่กระจายไปทั่วบริษัท” เคซี่พูดตะกุกตะกัก “ประธานโจนส์ อย่าถือเอาเรื่องที่คนอื่นซุบซิบนินทามาเครียดจนเกินไปนะคะ”“มันไม่ใช่เรื่องนินทา มันเป็นเรื่องจริง” แคทเธอรีนมองตรงมาที่เธอเคซี่ “...”เธอควรจะถามคำถามแบบนี้ได้อย่างไร?ในตอนนั้น จู่ ๆ เลขาก็วิ่งเข้ามาและพูดขึ้น “ท่านประธานโจนส์ ข่าวร้าย มีคนพาคนเข้ามาในบริษัทแล้วสร้างปัญหา ตอนที่พวกเขาเข้าประตูมา พวกเขาเริ่มทุบทำลายข้าวของและพูดว่าพวกเขาอยากพบคุณ”“ฉันจะลงไป” แคทเธอรีนลุกขึ้นเลขาทำอะไรไม่ถูก “ประธานโจนส์ นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีนะคะ ฉันคิดว่าเขาต้องนำกล้องมา พวกเขาต้องบันทึกภาพแล้วนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์”“ไม่เป็นไรหรอก” แคทเธอรีนลงไปข้างล่างระหว่างทาง เธอได้รับโทรศัพท์จากฌอน “ไม่ต้องลงไป ฉันสั่งแอลไปแล้ว เธอจะพาคนไปจัดการมันเอง”“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะจัดการของฉันเอง”“เคธี่ อย่าผลีผลาม เฟรกัส วิคส์ เป็นหนึ่งในนั้นที่มาด้วย เขาไม่ใช่คนที่คุณจะใช้เหตุผลด้วยได้”แคทเธอรีนหัวเราเยาะ “ตั้งแต่ฉันมายุ่งวุ่นวายกับคุณ ฉันมีทางเลือกแค่เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ สุดท้ายแล้ว
“พอใจหรือยัง?”เมื่อเขาพูดจบ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งก็รีบรุดเข้ามาจากด้านนอก “เราได้รับแจ้งว่ามีคนมาก่อความวุ่นวายให้กับฮัดสัน...”เฟรกัสกำลังจะปริปากเมื่อแคทเธอรีนผลักเมลานี่ออกไปทันที เธอเดินไปหาเจ้าหน้าตำรวจด้วยดวงตาอันแดงก่ำ “คุณตำรวจคะ คนพวกนี้เข้ามาในตึกและทำลายทรัพย์สินของเราค่ะ แถมพวกเขายังปาไข่เน่าใส่ฉันด้วย”เมลานี่กรีดร้องออกมา “ไม่จริง เห็นอยู่ตำตาว่าเธอพยายามใช้มีดทำให้หน้าของฉันเสียโฉม! รีบจับเธอไปสิ!”เจ้าหน้าที่ตำรวจมองแคทเธอรีนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลและเปื้อนไปด้วยคราบไข่เน่า ในขณะที่เมลานี่แต่งตัวดีและไม่มีรอยด่างพร้อยที่ตรงไหน เขาโกรธขึ้นมาทันที “ใครกันแน่ที่เป็นคนพยายามทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายเสียโฉม? คุณคิดว่าผมตาบอดอย่างนั้นเหรอ?”“คุณตำรวจคะ อย่าขึ้นเสียงเลยค่ะ เธอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลยูลและผู้ชายคนนั้นคือ เฟรกัส วิคส์ จากตระกูลวิคส์ ฉันได้ยินมาว่าเขารู้จักกับพวกอันธพาลมากมาย” แคทเธอรีนพูดด้วยความประหม่าเฟรกัสเคยชินกับการแสดงท่าทางวางอำนาจ และตะคอกออกมาอย่างเย็นชาเมื่อเขาได้ยินเธอ “แกมาจากเขตไหน? ฉันรู้จักหัวหน้าของแก”แคทเธอรีนกะพริบตาด้วยค
“คุณไม่เห็นข่าวในโทรศัพท์เหรอครับ?” เชสเตอร์เดินมาหาเธอ “เป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดของวันนี้ ชาวเน็ตกำลังพูดถึงข่าวนี้เลยนะครับ”แคทเธอรีนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าเชสเตอร์จะไม่โกหกเธอ ทว่าเธอไม่คิดว่าฌอนจะยอมถูกปลดเพียงเพราะเขาอยากแต่งงานกับเธอ“เป็นเรื่องปกตินี่ค่ะ ความประพฤติของเขาไม่เหมาะสม เขามีแฟนอยู่แล้วก็ยังมาแย่งพี่สาวของคนน้องมาเป็นของเขาอีก เขาควบคุมร่างกายท่อนล่างของเขาไม่ได้และพังงานเลี้ยงการกุศลที่ตระกูลฮิลล์จัดขึ้น หลังจากที่เขาทำพฤติกรรมน่ารังเกียจแบบนี้แล้ว ก็แน่นอนค่ะ ที่เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง”เชสเตอร์ชะงักไปสักครู่ต่อมา แทนที่โกรธเพราะเพื่อนสนิทของเขาถูกด่าว่า เขากลับหัวเราะชอบใจ “คุณประเมินได้ตรงจุด จริง ๆ แล้วฌอนน่ารังเกียจและมีนิสัยน่าขนลุกขนพองสยองเกล้า”แคทเธอรีนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจกับเสียงหัวเราะของเขา “ตลกขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”“ตลกสิครับ” เชสเตอร์เหยียดริมฝีปากยิ้ม “แต่ก็มีบางเรื่องที่คุณพูดไม่ถูกนะครับ คืนนั้นหลังจากที่ฌอนไปส่งคุณยายฮิลล์ที่โรงพยาบาลแล้ว ครอบครัวฮิลล์ก็ทะเลาะกัน คุณท่านพูดว่าตราบใดที่ฌอนและเมลานี่ ยูล แต่งงานกัน พวกเขาจะปล่อยให้
รอยยิ้มที่น่าสงสารปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแคทเธอรีน “นั่นคือสิ่งที่คุณพ่อคิดกับหนู คุณพ่อคะ คุณพ่อเคยพยายามจะรักหนูและเข้าใจหนูบ้างไหมคะ? พูดตามตรงนะคะ หนูรู้จักฌอนมานานแล้วค่ะ เขาเป็นคนที่บังคับให้หนูอยู่กับเขา เมื่อไม่นานมานี้ เขามาบีบบริษัทของหนูและเวสลีย์ ทั้งหมดเป็นฝีมือของเขา คุณพ่อคิดว่าหนูมีความสุขกับชีวิตที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้เหรอคะ? คุณพ่อคิดว่าหนูมีความสุขกับการถูกเพ่งเล็งและถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นลูกนอกสมรสอย่างนั้นเหรอคะ?!”ขณะที่หญิงสาวพูดต่อไป ท้ายที่สุดเธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้โจเอลรู้สึกสับสน “อะไรกันลูก? ก่อนหน้านี้ทำไมลูกไม่บอกพ่อ?”“จะแตกต่างกันยังไงล่ะคะ ถ้าหนูบอกคุณคุณพ่อ?” แคทเธอรีนมองเขาอย่างประชดประชัน “คุณพ่อไม่เคยปกป้องหนูได้เลย แม้กระทั่งอยู่ในบ้านของคุณพ่อ นับประสาอะไรกับต่อหน้าฌอนคะ?”ความอึดอัดผุดขึ้นบนใบหน้าของโจเอลทีละน้อย จู่ ๆ ก็ดูเหมือนเขาจะแก่ขึ้นอีกสองสามปี“พ่อมันใช้ไม่ได้ พ่อพาลูกมาที่แคนเบอร์รา แต่กลับปล่อยให้คนอื่นกลั่นแกล้งลูก พ่อจะไปหาฌอนเดี๋ยวนี้เลย เขาทำมากเกินไปแล้ว”“ไม่ต้องไปหาผมหรอกครับ ผมอยู่ที่นี่แล้ว”ประตูห้องส่วนตัวถูกเตะเปิดออ
“คุณลุงโจเอล ผมหวังว่าคุณจะเห็นด้วยกับพวกเรา” ฌอนพยุงแคทเธอรีนยืนขึ้นช้า ๆ “มีเพียงความเห็นชอบของคุณลุงเท่านั้นที่จะทำให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้อย่างถูกกฎหมาย ยิ่งไปกว่านั้น เธอสามารถกลับไปที่บ้านตระกูลยูลได้อย่างถูกต้องหลังจากที่ผมแต่งงานกับเธอ ด้วยวิธีนั้น จะไม่มีใครดูถูกเหยียดหยามเธอได้อีกต่อไป คุณไม่อยากเห็นแบบนั้นเหรอครับ คุณลุงโจเอล?”ประโยคสุดท้ายสะท้อนใจโจเอล...สุดท้ายแล้ว ด้วยเหตุผลบางอย่างแคทเธอรีนถูกฌอนลากขึ้นรถไปเมื่อมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ข้างเธอ เขากำลังขับรถด้วยท่าทางเคร่งเครียด แคทเธอรีนเริ่มรู้สึกสับสน แบบนี้ก็หมายความว่า... ตระกูลฮิลล์ได้ปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานเพียงเพราะเขาต้องการแต่งงานเธอใช่ไหม?“เลิกมองผมแบบนั้นสักทีเถอะ”ฌอนจอดรถที่ริมทางแยก จากนั้นเขาก็หันมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ “ไปเลือกแหวนแต่งงานของคุณกันเถอะ”“ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ!” แคทเธอรีนเสียสติไปแล้ว เมื่อคิดถึงนิสัยน่ากลัวของเขา เธอไม่ต้องการผูกติดอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต“แคทเธอรีน ผมยอมเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคุณ แต่คุณก็ยังปฏิเสธที่จะแต่งงานกับผม คุณใจร้ายแบบนี้ได้ยังไง” ดวงต
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก