“อย่า อย่าเลย” เมื่อคิดถึงคำสั่งของฌอนเมื่อวานนี้ วิลลี่รีบห้ามแคทเธอรีนเอาไว้ทันที “เขาห้ามไม่ให้ผมบอกคุณเรื่องนี้ เห็นแก่วีดิโอส่วนตัวของผมที่ส่งให้คุณนะ คุณช่วยแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยได้ไหมคุณโจนส์?”แม้จะคิดเอาไว้แล้ว แต่แคทเธอรีนก็ยังรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเรื่องนั้นจากวิลลี่ฌอนน่าจะเป็นคนในตระกูลฮิลล์ที่เอาเรื่องที่สุด เพราะขนาดวิลลี่เองยังให้ความเคารพยำเกรงกับฌอน เป็นไปได้ไหมที่คนทั้งสอง… จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน?เธอไม่เคยคิดจะไปมีเรื่องกับตระกูลฮิลล์เลย ตระกูลนี้ลึกลับเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างเธอจะจินตนาการได้“ได้ ฉันสัญญาก็ได้ แต่ฉันอยากรู้ว่ารีเบคก้ารู้จักกับคุณได้ยังไง?” แคทเธอรีนถามขณะที่บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง“สตีเฟ่นเป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักกับเธอ” วิลลี่พูดดูถูก “ผู้ช่วยของผมสนิทกับตระกูลแคมป์เบล สตีเฟ่นอยากสร้างความสนิทสนมกับผม เลยส่งแฟนของเขามาให้ผม”มุมปากของแคทเธอรีนกระตุกขึ้น “คุณชอบนอนกับแฟนคนอื่นเหรอ?”วิลลี่กระแอมเบา ๆ “ใช่ ภรรยาหรือจะไปดีเท่านางบำเรอ เป็นเรื่องท้าทายดีที่ได้นอนกับแฟนคนอื่น”แคทเธอรีนพูดอะไรไม่ออกเธอเต็มไปด้วยความต้องการอยากจะถามเขา
“ฉันรู้แล้ว นายทำได้ดีนี่”ฌอนนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่แยแสให้ความรู้สึกถึงความเย่อหยิ่งที่ฉายแววออกมาจากใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาวิลลี่รู้สึกโล่งอก ก่อนที่เขาจะทันได้พูด ริมฝีปากบางของฌอนก็ขยับ“แต่… เธอไม่ได้สงสัยอะไรใช่ไหม?”เมื่อฌอนพูดจบ บรรยากาศโดยรอบก็เย็นเฉียบลง และความกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ หัวใจของวิลลี่เหมือนจะหยุดเต้น“อย่าโกหกฉันวิลลี่” ฌอนเตือน “แกจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นตอนแกอายุ 18 ปี หลังจากที่แกโกหกฉัน?”วิลลี่สะดุ้งสุดตัว ตอนที่เขาอายุ 18 ปี เป็นปีที่ชีวิตของเขามืดมนที่สุด“เธอ… เธอสงสัยครับ” เขาตัวสั่นราวกับลูกนก วิลลี่หวาดกลัวเกินกว่าจะเก็บอาการได้ “ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคุณมาจากตระกูลฮิลล์ แต่ผมไม่ได้เป็นคนบอกเธอ เธอหลอกล้วงความลับจากผมเอง ผมไม่ทันได้ระวังตัว มิหนำซ้ำเรายังนามสกุลเดียวกันอีก...”ฌอนนวดที่หว่างคิ้วของเขา เขารู้อยู่ก่อนแล้วว่า เจ้าโง่วิลลี่จะต้องทำตามคำสั่งของเขาไม่ได้ และมีแต่จะสร้างปัญหาให้เขามากขึ้นวิลลี่พูดติดขัด “พี่ฌอน พี่ไม่กลัวว่าเธอจะจับพี่ แล้วสร้างความวุ่นวายให้กับพี่ หลังจากที่เธอรู้ว่าพี่เป็นใครแล้วเหรอครับ? จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้เก
แคทเธอรีนอึ้ง ที่จริงแล้วเธอวางแผนที่จะถามฌอนเกี่ยวกับตัวตนของเขา อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าเขาขอให้วิลลี่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยากเปิดเผยต่อเธอ ด้วยเหตุผลนั้น เธอเลยจะไม่รบกวนถามเขา “ไม่ค่ะ”ฌอนค่อย ๆ หลับตาลง แคทเธอรีนเหลือบมองเขาในเวลาเดียวกันและพูดว่า “ฉันจะเข้าร่วมการประมูลคืนนี้ ดังนั้นฉันจะไม่อยู่บ้านเพื่อทานอาหารเย็น คุณอยากจะ… มากับฉันไหม?”เธอถามเขาอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าเขาคงไม่เห็นด้วยที่จะไปด้วยกันก็ตาม เมื่อพิจารณาจากบุคลิกที่เย่อหยิ่งของเขาแล้ว เขาอาจจะไม่ได้สนใจงานแบบนี้“ตกลง”“ห๊ะ?” แคทเธอรีนมึนงง คิดว่าตัวเองอาจจะได้ยินเขาผิดไป“ผมบอกว่าตกลง ทำไมคุณถึงแปลกใจล่ะ?”ฌอนมองท่าทางมึนงงของเธอด้วยรอยยิ้ม“แต่คุณไม่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นในเมลเบิร์น”“ผมไปเพื่อป้องกันผู้ชายคนอื่นที่จะเข้ามาจีบคุณ”เขาขับรถอย่างจริงจังด้วยสายตาที่เอาแต่มองไปข้างหน้า แคทเธอรีนหันศีรษะของเธอและมองไปยังด้านข้างใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาอยู่ครู่หนึ่ง เธออดใจที่จะหอมแก้มเขาไม่ได้พวงมาลัยในมือของเขาสั่น จากนั้นเขาก็พูดอย่างช่วยไม่ได้
ผู้หญิงหลาย ๆ คนซึ่งแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มที่มั่งคั่งมาอยู่รอบ ๆ แคทเธอรีนและประจบประแจงเธอ“ประธานโจนส์ คุณซื้อเสื้อคลุมตัวนี้ที่ไหน? มันสวยมาก!”“สร้อยคอที่คุณกำลังสวมอยู่มาจากแบรนด์ทิฟฟานี่ และมันเป็นดีไซน์ล่าสุดใช่ไหมคะ?”“...”“สวัสดีตอนเย็นค่ะ ทุกคน”ทันใดนั้นเอง เจเน็ตก็เดินถือแก้วไวน์เข้ามาหาแคทเธอรีนด้วยเจตนาไม่ดี “อะ ประธานโจนส์ ฉันไม่คิดว่าคุณจะมีเวลาว่างมาเข้าร่วมการประมูลซะอีก แป๊บนึงนะ ฉันไม่แน่ใจว่า ตอนนี้ฉันยังควรเรียกคุณว่า ประธานโจนส์อยู่หรือเปล่า”“คุณหมายความว่าอะไร คุณแคมป์เบล” หนึ่งในหญิงสาว คุณผู้หญิงคลาร์กถามด้วยความโกรธเจเน็ตถอนหายใจ “บางทีพวกคุณทั้งหมดยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยินมาว่าประธานโจนส์ทำร้ายวิลลี่ที่มาจากแคนเบอร์รา ระหว่างงานเลี้ยงครบรอบของฮัดสันเมื่อคืนนี้”“อะไรนะ? คุณกำลังหมายถึงวิลลี่จากครอบครัวฮิลล์เหรอ?”“ใช่ เขานั่นแหละ” เจเน็ตพยักหน้า “เพื่อนของฉันบอกว่า ประธานโจนส์ทำให้ใบหน้าของคุณชายฮิลล์บวม และคุณชายฮิลล์ก็โกรธมาก มันเป็นความวู่วามของคุณ ประธานโจนส์ คนอย่างพวกเราจะทำให้ครอบครัวฮิลล์โกรธได้อย่างไรกัน? หวังว่าคุณจะยังคงปลอด
ทุกคนเริ่มพูดเกี่ยวกับมัน“เขาคืออีธาน จากโลว์ คอร์ปอเรชั่น เขาช่างเป็นคนใจกว้าง”“ฉันได้ยินมาว่าเขากำลังคบกับหญิงสาวจากครอบครัวสตีลที่ร่ำรวย”“อ๋อเหรอ ครอบครัวสตีล ค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงในเมลเบิร์น ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้สินะ”“ใช่แล้ว แต่ประธานกรรมการคนปัจจุบันของฮัดสัน แคทเธอรีน เป็นแฟนเก่าของเขา”“แฟนของแคทเธอรีนไม่มีท่าทีอะไรเลย ฉันเดาว่าเขาไม่มีกำลังที่จะซื้อสร้อยคอที่แพงชิ้นนี้ให้แฟนของเขา”ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ทุกคนหันไปมองที่แคทเธอรีนทันที แคทเธอรีนไม่คาดคิดแม้แต่น้อย ว่าเธอจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการโต้แย้งครั้งนี้ด้วย เธอจับฌอนไว้อย่างรวดเร็วและพูดเสียงค่อยว่า “อย่าสนใจสิ่งที่คนอื่นพูด การวิพากษ์วิจารณ์ก็เหมือนกับเครื่องประดับ โดยพื้นฐานแล้วพวกมันไม่ได้มีประโยชน์อะไร นอกจากเป็นการดึงความสนใจจากคนอื่นเท่านั้น พวกมันเหมือนกับของมือสองที่ไม่คู่ควรจะต้องสนใจ”ฌอนมองเธออย่างจริงจัง ที่จริงแล้วเขาสังเกตเห็นความสนใจของเธอที่มีต่อสร้อยคอของพระราชินีผ่านทางดวงตาของเธอ เขาคิดว่าเธออาจจะขอให้เขาซื้อมันให้เธอ พิจารณาจากการที่เธอค้
ท้ายที่สุดแล้ว ฌอนก็ชนะการประมูลสร้อยคอด้วยราคาสูงถึงสามพันล้านดอลล่าร์พนักงานคนหนึ่งมอบสร้อยคอพระราชินีให้เขาอย่างระมัดระวังต่อหน้าทุกคนฌอนหยิบสร้อยคอสีแดงที่มีประกายแวววาวขึ้นมาเมื่อหยิบมันออกมา เขาบอกแคทเธอรีนที่ยังอยู่ในอาการมึนงงด้วยเสียงต่ำว่า “ลุกขึ้น”แคทเธอรีนยืนขึ้นด้วยความสับสน ร่างหล่อเหลาที่น่าประทับใจของเขาสะท้อนอยู่ในดวงตาสดใสของเธอริมฝีปากบางสวยของฌอนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เขาก้มนิดหน่อยเพื่อสวมสร้อยคอให้แก่เธอ เสียงที่สุขุมนุ่มลึกของเขาฟังดูชวนให้ลุ่มหลง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นราชินีของผม”“ว้าว!”แขกที่อยู่ข้าง ๆ เธออ้าปากค้างด้วยความยินดีหัวใจของแคทเธอรีนเต้นแรง แม้ว่าราคาของสร้อยคอจะทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดมากเสียจนเลือดเกือบจะไหลออกมา มันเป็นโอกาสในการสร้างภาพงานแต่งงานของพวกเขา ชายหนุ่มได้เติมเต็มทุกความปรารถนาของเธอสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจมากกว่าก็คือท่าทางอันโรแมนติกของฌอนสร้อยเพชรสีแดงที่อยู่บนผิวขาวราวน้ำนมของเธอนั้นช่างดูหรูหรา มันทำให้เธอดูเหมือนราชินีผู้สูงศักดิ์“ขอบคุณนะคะ ฉันรักคุณ” แคทเธอรีนเขย่งปลายเท้าและจูบริมฝีปากของเข
“คนแบบนี้น่ากลัวมากจริง ๆ เขาส่งแฟนสาวไปให้ผู้ชายคนอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขาแน่ ๆ”“โชคดีจริง ๆ ที่ฉันไม่เห็นด้วยตอนที่ครอบครัวแคมป์เบล อยากจะนัดบอดกับลูกสาวของฉัน”“ใช่ มันน่าขยะแขยงมาก ที่เขาทำตัวราวกับเป็นสุภาพบุรุษ ในอนาคตคงจะดีกว่าถ้าฉันอยู่ให้ห่างจากตระกูลแคมป์เบล“เขาอาจจะส่งเจเน็ตไปนอนกับผู้ชายสักคนด้วยเหมือนกัน”“เป็นไปได้ ตอนแรกฉันมีความรู้สึกที่ดีต่อเจเน็ตเหมือนกัน แต่ฉันควรจะแค่ลืมมันไป เพราะฉันไม่อยากถูกเรียกว่าชู้”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน เจเน็ตรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เธอกรีดร้อง “ใครทำแบบนี้? มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ!”เจเน็ตและสตีเฟ่นผู้ซึ่งรู้สึกพึงพอใจในตอนแรก ในตอนนี้กลับรู้สึกอับอายมากอีธานกำลังจะออกไปแล้ว ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดเซียว เขาคิดว่าเขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของรีเบคก้าดีแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าเธอน่ารังเกียจมากกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้เสียอีก เธอเคยอยู่กับผู้ชายมาแล้วกี่คนกันแน่?เมื่อเขานึกถึงตอนที่เคยคบกับเธอก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกอยากที่จะอาเจียนอีธานถูกล้อมรอบไปด้วยแขกที่อยู่ข้าง ๆ เขา ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขา
สตีเฟ่นและเจเน็ต แคมป์เบล ตามพวกเขามาใบหน้าของสตีเฟ่นเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด เขาไม่ต้องการอะไรนอกจากบีบคอแคทเธอรีนทั้งเป็นฌอนดึงแคทเธอรีนไปด้านหลังของเขา รูปร่างที่สูงและหล่อเหลาของเขาแสดงให้เห็นถึงรัศมีอันทรงพลัง“แคทเธอรีน โจนส์ คุณเป็นคนเปิดวิดีโอใช่ไหม?” สตีเฟ่นตะโกนด้วยความโกรธ “ดีมาก คุณทำให้ผมโมโหอย่างสุดขีด ถ้าผมไม่ฆ่าคุณแล้วละก็ ผมคงไม่ได้ชื่อ สตีเฟ่น แคมป์เบลอีก”เจเน็ตพูดอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นกันว่า “เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังมีเรื่องกับใครอยู่? เขาคือวิลลี่ ฮิลล์! แม้ว่าเธอจะเบลอหน้าของเขา เขาก็จะไม่ละเว้นเธอ เพราะตอนนี้เธอเผยแพร่วีดีโอของเขา”แคทเธอรีนเลิกคิ้ว และยิ้มอย่างสดใส “พวกคุณเคยสงสัยไหมคะ ว่าวีดีโอนี้มาจากไหน และใครให้มันกับดิฉัน? หรือพวกคุณคุณคิดว่าฉันจะกล้าบันทึกอะไรในห้องของวิลลี่ ฮิลล์?”สตีเฟ่นและเจเน็ตทั้งคู่เริ่มแข็งทื่อในเวลาเดียวกัน สักครู่ต่อมาสตีเฟ่นก็ส่ายหัว “นั่นเป็นไปไม่ได้ คุณชายฮิลล์ไม่ได้ให้วีดีโอนี้แก่คุณหรอก คุณทำร้ายเขาเมื่อคืน ดังนั้นเขาเกลียดคุณไปแล้ว คุณคงหาคนมาแฮ็กโทรศัพท์ของคุณชายฮิลล์ใช่ไหม? ก็ได้ ในเมื่อคุณเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ ผมจะโท
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก