“คนแบบนี้น่ากลัวมากจริง ๆ เขาส่งแฟนสาวไปให้ผู้ชายคนอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขาแน่ ๆ”“โชคดีจริง ๆ ที่ฉันไม่เห็นด้วยตอนที่ครอบครัวแคมป์เบล อยากจะนัดบอดกับลูกสาวของฉัน”“ใช่ มันน่าขยะแขยงมาก ที่เขาทำตัวราวกับเป็นสุภาพบุรุษ ในอนาคตคงจะดีกว่าถ้าฉันอยู่ให้ห่างจากตระกูลแคมป์เบล“เขาอาจจะส่งเจเน็ตไปนอนกับผู้ชายสักคนด้วยเหมือนกัน”“เป็นไปได้ ตอนแรกฉันมีความรู้สึกที่ดีต่อเจเน็ตเหมือนกัน แต่ฉันควรจะแค่ลืมมันไป เพราะฉันไม่อยากถูกเรียกว่าชู้”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน เจเน็ตรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เธอกรีดร้อง “ใครทำแบบนี้? มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ!”เจเน็ตและสตีเฟ่นผู้ซึ่งรู้สึกพึงพอใจในตอนแรก ในตอนนี้กลับรู้สึกอับอายมากอีธานกำลังจะออกไปแล้ว ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดเซียว เขาคิดว่าเขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของรีเบคก้าดีแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าเธอน่ารังเกียจมากกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้เสียอีก เธอเคยอยู่กับผู้ชายมาแล้วกี่คนกันแน่?เมื่อเขานึกถึงตอนที่เคยคบกับเธอก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกอยากที่จะอาเจียนอีธานถูกล้อมรอบไปด้วยแขกที่อยู่ข้าง ๆ เขา ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขา
สตีเฟ่นและเจเน็ต แคมป์เบล ตามพวกเขามาใบหน้าของสตีเฟ่นเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด เขาไม่ต้องการอะไรนอกจากบีบคอแคทเธอรีนทั้งเป็นฌอนดึงแคทเธอรีนไปด้านหลังของเขา รูปร่างที่สูงและหล่อเหลาของเขาแสดงให้เห็นถึงรัศมีอันทรงพลัง“แคทเธอรีน โจนส์ คุณเป็นคนเปิดวิดีโอใช่ไหม?” สตีเฟ่นตะโกนด้วยความโกรธ “ดีมาก คุณทำให้ผมโมโหอย่างสุดขีด ถ้าผมไม่ฆ่าคุณแล้วละก็ ผมคงไม่ได้ชื่อ สตีเฟ่น แคมป์เบลอีก”เจเน็ตพูดอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นกันว่า “เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังมีเรื่องกับใครอยู่? เขาคือวิลลี่ ฮิลล์! แม้ว่าเธอจะเบลอหน้าของเขา เขาก็จะไม่ละเว้นเธอ เพราะตอนนี้เธอเผยแพร่วีดีโอของเขา”แคทเธอรีนเลิกคิ้ว และยิ้มอย่างสดใส “พวกคุณเคยสงสัยไหมคะ ว่าวีดีโอนี้มาจากไหน และใครให้มันกับดิฉัน? หรือพวกคุณคุณคิดว่าฉันจะกล้าบันทึกอะไรในห้องของวิลลี่ ฮิลล์?”สตีเฟ่นและเจเน็ตทั้งคู่เริ่มแข็งทื่อในเวลาเดียวกัน สักครู่ต่อมาสตีเฟ่นก็ส่ายหัว “นั่นเป็นไปไม่ได้ คุณชายฮิลล์ไม่ได้ให้วีดีโอนี้แก่คุณหรอก คุณทำร้ายเขาเมื่อคืน ดังนั้นเขาเกลียดคุณไปแล้ว คุณคงหาคนมาแฮ็กโทรศัพท์ของคุณชายฮิลล์ใช่ไหม? ก็ได้ ในเมื่อคุณเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ ผมจะโท
หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน แคทเธอรีนถอดสร้อยเพชรอย่างระมัดระวัง หลังจากที่นั่งอยู่ใต้โคมไฟตั้งโต๊ะและมองมันด้วยความรักใคร่ “มันสวยมาก ไม่มีตำหนิเลย”“ผมคิดว่าคุณพูดว่าไม่ชอบจิวเวอรี่ซะอีก”ฌอนเดินมาข้างหลังเธอและแกล้ง “คุณพูดแม้กระทั่งว่ามันเป็นของมือสอง”แคทเธอรีนเขินและพูดตะกุกตะกัก “ฉัน… ฉันแค่คิดว่ามันแพงเกินไป มันสามพันล้านดอลล่าร์เลยนะคะ จะต้องใช้เวลานานขนาดไหนในการทำเงินให้ได้มากขนาดนั้นกัน?”“อีธาน โลว์เต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขนาดนั้นเพื่อผู้หญิงของเขา แล้วทำไมผมต้องใส่ใจกับเงินจำนวนแค่นี้ด้วย?” เขาพูดอย่างดูถูก “สำหรับผม เงินไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือคุณชอบมัน”แคทเธอรีนกะพริบตา ทันใดนั้นเองเธอก็เข้าใจแล้วว่าเขาพยายามที่จะเอาชนะอีธานอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เพราะยิ่งเขาสนใจอีธานมากเท่าไหร่ นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นห่วงเธอมากเท่านั้น“ฌอนนี่ อีธานไม่มีอะไรที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับฉันแล้วจริง ๆ และฉันก็ไม่ได้รักเขาแล้วค่ะ คนที่ฉันรักคือคุณ”เธอหันหลังกลับมา และกอดรอบคอเขาไว้ก่อนที่จะจูบบนใบหน้าของเขาหัวใจของเขาเกิดความปรารถนา ในอดีต แม้ว่าเขาจะสามารถทำเงินได้มากก็
เห็นได้ชัดว่าผมของเขาเพิ่งจะถูกเป่าให้แห้ง มันทำให้เขาดูกระเซอะกระเซิง ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ความรู้สึกของความดุร้ายพลุ่งพล่านฟุ้งกระจายอยู่ทั่วทั้งตัวของเขา แคทเธอรีนมองเขาอย่างหลงใหลตอนนั้นเอง เธออยากที่จะขอบคุณเฟรยามากจริง ๆ ความผิดพลาดของเธอทำให้ผู้ชายคนนี้มาอยู่เคียงข้างเธอเขาช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วมันเป็นเขาอีกเช่นกัน ที่ทำให้เธอกล้าหาญมากพอ และเอาชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้คืนนี้ เขาให้สร้อยคอของพระราชินีกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในเมลเบิร์นเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ฟุ้งเฟ้อและเบื่อง่าย“ฌอนนี่...” แคทเธอรีนยืนขึ้นและโอบรอบคอของเขา ใบหน้าสวยงามมีความเขินอายปรากฏให้เห็น “พวกเราควร… ลองไหม?”เธอตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าครอบครัวฮิลล์จะยอมรับเธอหรือไม่ในอนาคต เธอก็อยากให้สิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอแก่ผู้ชายคนนี้ฌอนตัวแข็งทื่อเธอต่อต้านสิ่งเหล่านี้มาตลอด และเขาก็ไม่เคยไปไกลมากกว่านี้ด้วยเหมือนกัน แต่ทำไมจู่ ๆ เธอถึง…เป็นเพราะตอนนี้เธอรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเหรอ?“ทำไม?” ดวงตาลึกล้ำจ้องมองเธอ ราวกับว่าเขาอยากมองเธอให้ทะลุแคทเธอรีนถ
หัวใจของแคทเทอรีนเต้นแรงเมื่อเธอคิดถึงมัน“ฉันไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้วค่ะ” เธอส่ายหัวเบา ๆ ฌอนยิ้ม “ดูสิว่าคุณขี้ขลาดขนาดไหน เมื่อไหร่คุณจะสามารถมีลูกให้ผม ฮื้ม?”ใบหน้าเล็กของแคทเธอรีนแดงขึ้นมาทันทีเธอกอดรอบคอเขาและซุกใบหน้าไปที่อกของเขา เธอเขินมาก เธอไม่สามารถพูดเป็นเวลาสักพัก“ช่างมันเถอะ อย่างไรคุณก็จะเป็นผู้หญิงของผมไม่ช้าก็เร็ว”น้ำเสียงของฌอนตอนที่เขากอดเธอนั้นฟังดูเจ้ากี้เจ้าการมากแคทเธอรีนพบว่ามันหอมหวาน และรู้สึกมีความสุขมาก …พวกเขาทั้งคู่ผล็อยหลับไป พวกเขาไม่รู้เลยว่าข่าวเกี่ยวกับงานการกุศลในค่ำคืนนั้น ถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งเมลเบิร์น และทุกคนรับรู้เกี่ยวกับมันตอนนั้นเอง ในบ้านของตระกูลโจนส์ เจฟฟี่ได้รับสายจากหุ้นส่วนอีกครั้ง “ประธานโจนส์ คุณเห็นการกระทำที่ต่ำต้อยของลูกสาวคุณแล้วหรือยัง?”“ฮิฮิ ให้ลูกสาวคุณนอนกับผมสักคืนหนึ่งสิ แล้วผมจะทำงานกับคุณสักหนึ่งโปรเจ็ค”“หุบปาก!” ร่างกายของเจฟฟี่สั่นด้วยความโกรธขณะที่เขาสาปแช่ง “รักษาความสะอาดในปากของแกไปเถอะ”“ฮิฮิ ผมจะสะอาดกว่าลูกสาวของคุณได้อย่างไร? ใครจะอยากได้ขยะแบบนั้น?”“ไปตายซะ! อย่าโทรมาอีก”เจฟฟี่ทุบโทร
เจฟฟี่รู้สึกสั่นสะท้านเมื่อลมหนาวพัดผ่านเข้ามา นี่เป็นครั้งแรกที่ความรู้สึกเสียใจเกิดขึ้นในหัวใจของเขาเห็นได้ชัดว่ามันเคยเป็นบ้านที่ดี มันถูกทำลายลงในเวลาแค่สามเดือนได้อย่างไร?วันต่อมา เจฟฟี่ได้รับโทรศัพท์ว่าเขาถูกไล่ออกจากการเป็นคณะกรรมการของฮัดสันเขารีบไปที่บริษัทด้วยความโกรธอย่างเต็มที่ แต่การ์ดรักษาความปลอดภัยที่ประตูไม่ให้เขาเข้าไป และไล่เขาออกมาด้วยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เจฟฟี่จึงเมาอยู่ที่บาร์และกลับบ้านไปตอนเที่ยงคืนคืนนั้นเอง เขาผลักประตูของวิลล่าออกอย่างเมามาย ไม่มีแสงสว่างมาจากด้านใน และมีเพียงแสงสว่างของพระจันทร์อันเหน็บหนาวที่ไหลเข้ามาเติมผ่านทางหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานมีรถเข็นวีลแชร์คันหนึ่งตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น และบนนั้นก็มีหญิงชราคนหนึ่งซึ่งมีหลังค่อม และผมเผ้าดูกระจัดกระจาย ร่างนั้นดูน่ากลัวเป็นพิเศษเจฟฟี่รู้สึกกลัวมากจนขาของเขาอ่อนแรง เขาหันหลังและพยายามจะหนีอย่างไรก็ตาม ประตูกลับกระแทกปิดเสียงดังจากด้านหลังของเขา และห้องนั่งเล่นก็มืดลง“แม่...” เจฟฟี่คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตกใจกลัว และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว“ลูกชาย ทำไมแกถึงกลัวฉันล่ะ?”รถเข็นค่อย ๆ เคล
เจฟฟี่ตัวซีด เขารู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบากถ้าเขาไม่เป็นพยานในตอนนี้ เขาอาจต้องจบลงในคุกจริง ๆ เมื่อแซลลี่ผลักความรับผิดชอบให้เขา “ตกลง ฉันจะสารภาพ แซลลี่ เลนนอน เธอฉวยโอกาสตอนที่คุณย่าหลับและ… ใช้หมอนกดเธอไว้จนตาย”บางที มันอาจจะเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสุดท้ายของเขา นอกจากนั้นแล้วเจฟฟี่ก็ยังล้มลงกับพื้นและร้องไห้แคทเธอรีนและป้าเวนดี้เองก็ร้องไห้ด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจุดจบของคุณย่าโจนส์จะน่าสังเวชใจเช่นนี้ป้าเวนดี้ถาม “คำถามสุดท้าย วันนั้นที่คุณย่าตกลงมาจากบันได รีเบคก้าเป็นคนทำใช่ไหม?”“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นจริง ๆ” เจฟฟี่ส่ายหัว แต่เมื่อคิดถึงพฤติกรรมของรีเบคก้า เขาก็รู้สึกว่าเธออาจจะเป็นคนทำจริง ๆ แต่เขามีลูกสาวเพียงคนเดียวและไม่อยากให้เธอติดคุกท้ายที่สุดแล้ว เจฟฟี่ก็ถูกตำรวจนำตัวไปสำหรับการสอบสวนแคทเธอรีนมองดูวิลล่าที่มืดมิดข้างหลังเธอครั้งหนึ่งมันเคยเป็นบ้านของเธอ แต่ตอนนี้มันเป็นที่ ๆ เธอ ไม่อยากที่จะก้าวเท้าเข้ามาอีกต่อไปเธอเอากุญแจออกมาและโยนมันลงบนพงหญ้า ก่อนที่จะหันหลังและเดินออกจากประตูไป รถลีมูซีนคันหนึ่งจอดอยู่ที่ทางเข้าร่า
แซลลี่ร้องไห้ออกมาและพูดว่า “พ่อของแกเป็นปีศาจ! เขาบอกว่าฉันฆ่าย่าของแก รีเบคก้า ลูกต้องปกป้องตัวเองนะ”แซลลี่ถูกนำตัวออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีเบคก้าก็ล้มลงกับพื้น เธอทนทุกข์ในชนบทมามากกว่า 20 ปี และมันก็ไม่ง่ายสำหรับเธอเลยในการมายังที่นี่ แต่เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้นครอบครัวของเธอก็ถูกทำลายลงถ้าบางอย่างเกิดขึ้นกับเจฟฟี่และแซลลี่ คุณสมบัติอะไรที่จะทำให้เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลโจนส์ได้อีกไม่ ไม่ เธอไม่อยากกลับไปในวันคืนเหล่านั้นอีกเธอรีบโทรหาสตีเฟ่น “สตีเฟ่น ฉันขอร้องคุณ ได้โปรดช่วยฉันด้วย พ่อและแม่ของฉันถูกตำรวจพาตัวไป ตราบใดที่คุณช่วยฉัน ฉันสัญญาว่าฉันจะแต่งงานกับคุณ ฉันจะให้หุ้นครึ่งหนึ่งของฮัดสันแก่คุณ”“รีเบคก้า โจนส์ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ใครก็ตามที่อยู่กับคุณจะต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้าย คนแรกคืออีธาน โลว์ และตอนนี้ก็เป็นพ่อกับแม่ของคุณที่กำลังจะเข้าคุก ชื่อเสียงของผมเองก็ถูกคุณทำลายอย่างป่นปี้ ช่วยหายไป และอยู่ให้ห่าง ๆ จากผมในอนาคตด้วย แค่สายตาของคุณก็ทำให้ผมแทบอยากจะอาเจียน!”สตีเฟ่นวางสายทันทีรีเบคก้าตกตะลึงเป็นอย่างมาก เธอไม่เข้าใจ เมื่อไม่นานมานี้พวกผู้ดีทั้งหมดในเมลเบ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก