แคทเธอรีนพยักหน้ารับ เธอคิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว แม้จะไม่มีใครบอกก็ตามเพื่อแทนความรู้สึกขอบคุณ หญิงสาวง่วนอยู่ในครัวเพื่อปรุงอาหารจานโปรดของฌอนหลายเมนูในตอนนี้เอง ที่เธอกำลังเช็คโซเชียลมีเดียของเธออยู่เอาล่ะ ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์บริษัทซัมมิท ถึงแม้ว่าเจฟฟี่จะไม่ถูกสอบสวน ทว่าชาวเน็ตต่างไม่เชื่อว่าประธานบริษัทจะไม่มีส่วนรู้เห็นมีการเรียกร้องทางอินเตอร์เน็ตให้คว่ำบาตรซัมมิทซัมมิทกำลังจะพังพินาศ! ผู้คนที่เคยเข้าใจผิดว่าเธอรับสินบนต่างก็เริ่มเข้าใจขึ้น และเริ่มรู้สึกสงสารเธอหลังจากที่รู้ว่าเธอถูกใส่ร้ายจากที่เธอเคยมีผู้ติดตามหนึ่งล้านคน แต่ในตอนนี้จำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นสิบล้านคนแล้ว เธอมีชื่อเสียงมากยิ่งกว่าดาราบางคนเสียอีกหลังจากที่อาหารเย็นเตรียมพร้อมแล้ว ป้าลินดาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอาหารที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ “ป้าไม่ทราบเลยนะคะ ว่าคุณจะมีฝีมือทำอาหารขนาดนี้ ถึงว่าล่ะ คุณชายฮิลล์ถึงไม่ชอบทานอาหารที่ป้าทำให้”สิ่งที่ได้ยินทำให้แคทเธอรีนรู้สึกแปลกใจ เธอรู้ว่าฌอนคงไม่เต็มใจจะยอมรับ ทว่าเขาติดใจรสมือการปรุงอาหารของเธออย่างไม่ต้องสงสัยเลย “ป้าลินดาคะ คราวหน้
เมื่อแคทเธอรีนเดินอ้อมไปยังด้านหน้าอีกครั้ง เมื่อดวงตาของพวกเขาสบกัน แววตาของเขาราวกับจะแผดเผาเธอใบหน้าของแคทเธอรีนแดงเห่อขึ้นจากการจ้องมองของเขา หญิงสาวจึงรีบหลบสายตา โดยหารู้ไม่ว่าท่าทางของเธอนั้นเย้ายวนเพียงใดสายป่านในหัวใจของฌอนดูเหมือนจะขาดลงอย่างง่ายดาย แล้วทันใดนั้นเองที่เขาโอบเอวบางก็เธอเอาไว้ “คุณเช็ดเสร็จแล้วเหรอ?”แคทเธอรีนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร เธอทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้นทันทีหลังจากนั้น ร่างบางก็เธอก็ถูกอุ้มขึ้นจากพื้น“คุณจะทำอะไรคะ?” เธอกอดคอเขาเอาไว้ด้วยความตกใจ“แคทเธอรีน โจนส์ ผมยอมรับว่าฝีมือการยั่วยวนของคุณพัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ” น้ำเสียงของฌอนแหบห้าว ขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนหญิงสาวกำลังจะเสียสติ ‘ฉันไปยั่วคุณตอนไหนกัน? คุณพี่คะ คุณเป็นคนบอกให้ฉันเช็ดตัวให้คุณเอง คุณควรจะหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่ใช่เหรอ? คุณเคยคิดว่าฉันน่ารังเกียจมาก่อนไม่ใช่เหรอ?’เมื่อแคทเธอรีนถูกโยนลงบนเตียง หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวถึงแม้ว่าเธอจะทำใจเอาไว้บ้างแล้ว ว่าวันนี้จะต้องมาถึงหลังจากที่เซ็นสัญญาไปในวันนั้น ทว่าเธอก็ยังรู้สึกกลัว อย่างไร
ฌอนรู้สึกโกรธมาก เขาจึงโทรหาเธอทันที “แคทเธอรีน โจนส์ กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! คุณต้องให้ผมเตือนความจำของคุณถึงเนื้อหาในสัญญาหรือเปล่า? คุณคิดว่าผมเป็นคนใจบุญสุนทาน และว่าความให้ฟรี ๆ เพียงเพราะเห็นแก่ความไม่ยุติธรรมอย่างนั้นเหรอ? หรือคุณคิดว่าฝีมือการทำอาหารของคุณมีมูลค่าถึงสองร้อยล้านดอลล่าร์?”“แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของคุณด้วย ทำไมคุณยังเสแสร้งต่อหน้าผมอีก?”ทุกคำที่เขาพูดราวกับควักหัวใจของแคทเธอรีนออกมา ขณะที่เธอฟังอยู่ที่ปลายสายในตอนแรกเธอรู้สึกเสียใจมาก ทว่าในตอนนี้ เธอเองก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเหมือนกัน “คุณรู้ได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉัน?”“อีธาน โลว์กับคุณ เริ่มคบกันตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วนี่จะเป็นครั้งแรกของคุณได้ยังไง?” ฌอนไม่เชื่อว่าวัยรุ่นสมัยนี้จะรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ได้“ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับเขามาก่อน” แคทเธอรีนรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง “ฉันยังรักษาครั้งแรกของฉันเอาไว้อยู่ ไม่ว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณ”ฌอนนิ่งอึ้งไป หัวใจของเขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ผมจะให้เวลาคุณสิบนาที จะกลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้ หรือจะรอรับผลที่ตามมา”ณ อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“นังเนรคุณนั่นทำลายเจมส์ เธอมันใจร้าย!”แซลลี่น้ำตาไหลออกมา“คุณพ่อ คุณแม่ หยุดทะเลาะกันเถอะค่ะ” รีเบคก้ารีบเข้ามาห้ามพวกเขาทั้งคู่ “คุณพ่อลืมไปแล้วหรือคะ? ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมายอมแพ้นะคะ เรายังมีฮัดสัน คอร์ปอเรชั่นอยู่ในมือของเรา ที่นี่เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทในประเทศ ที่ใหญ่กว่าซัมมิทมาก!”“แต่ นั่น… เป็นของคุณย่า...” เจฟฟี่รู้สึกลังเล“คุณพ่อคะ ถ้าคุณพ่อหาทางรับมือไม่ได้ ก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น” รีเบคก้าลดเสียงลงขณะพูด“รีเบคก้าพูดถูก” แซลลี่พูดขึ้นอย่างไร้ความปราณี “พวกคุณนายในกลุ่มสามถึงห้าคนเคยประจบประแจงฉัน แต่เมื่อซัมมิทมีปัญหา พวกเขากลับรีบหนีไปทันที เมื่อซัมมิทล้มลง ครอบครัวของเราก็จะไม่มีที่ยืนในเมลเบิร์นอีกต่อไป!”เจฟฟี่พยายามคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะฉายแววความโหดร้ายออกมา “ถูกของคุณ!”...แคทเธอรีนอยู่ในห้วงของความฝันในความฝันนั้น ดูเหมือนกับว่าเธอได้กลับไปยังสวนพลัม เมื่อครั้งเธอยังเด็ก คุณปู่และคุณย่าของเธออยู่ที่นั่นและรักใคร่เอ็นดูเธอมาก เธอจึงมักจะไปอยู่ที่สวนพลัมทว่า เมื่อคุณปู่ของเธอจากไป คุณย่าของเธอก็พูดขึ้นว่า “เคธี่ ย่าเหนื่อยเหล
“ผมไม่ใช่คนที่คุณจะมาตกหลุมรักได้ง่าย ๆ” เขาพูดขึ้นด้วยความเย่อหยิ่ง แต่ยังคงปล่อยเธอไป เขาจะไม่ทำให้เธอลำบากใจอีกต่อไปแล้วบทสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น แล้วแคทเธอรีนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเธอยังคงต้องแสร้งทำเป็นหลงรักเขาต่อไปอีกในอนาคต...09:00 น.หลังจากที่เธอมาถึงที่บริษัท เธอรีบตรงไปที่ห้องทำงานเพื่อตามหาโจเซฟเธอลางานตั้งแต่ถูกตำรวจจับกุมก่อนหน้านี้ และยังไม่ได้มาที่บริษัทเลยนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาสิ่งแรกคือ เธอกลัวว่าการแสดงความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงานจะสร้างความลำบากใจให้กับโจเซฟ และเธอไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของ ทัลตัน ดีไซน์ต้องเสียหายอีก ถึงแม้ว่าคดีความจะสิ้นสุดลงแล้ว ทว่าเธอยังรู้สึกผิดต่อโจเซฟ“พี่โจเซฟคะ ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันไม่ได้เข้าบริษัทตั้งนาน แต่กลับสร้างปัญหาให้พี่กับบริษัทอยู่ตลอด”แคทเธอรีนรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าโจเซฟต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากมายที่ไม่ยอมไล่เธอออก“ไม่เป็นไรหรอก พี่เชื่อในตัวเธอมาตลอด” โจเซฟระบายยิ้มพร้อมกับรินชาใส่ถ้วยให้แก่เธอ “อีกอย่าง เรายังถือว่านี่เป็นผลพลอยได้ ในที่สุดพี่ก็ได้เป็นที่รู้จักในเมลเบิร์น แล
ในช่วงบ่าย แคทเธอรีนเพิ่งเดินออกจากลิฟต์ ตอนนั้นเองอีธานปรากฏตัวขึ้นแล้วขวางทางเธอเอาไว้“นายรู้ไหมว่าทำตัวน่ารำคาญมากแค่ไหน? คราวก่อนฉันพูดกับนายไม่ชัดเจนพอเหรอ?”แคทเธอรีนมองเขาแล้วเดินเลี่ยงออกมา“เคธี่ คุณย่าของคุณเสียแล้วนะ!” อีธานคว้าแขนของเธอเอาไว้ได้ทัน “คุณไม่รู้เรื่องเลยเหรอ?”ร่างกายของแคทเธอรีนสั่นเทา เธอหันกลับมาช้า ๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “นายโกหก!”“ผมไม่ได้โกหก ที่ผมโทรหาคุณวันนี้ เพราะผมอยากจะปลอบคุณ แต่ดูเหมือนว่าจริง ๆ แล้วตระกูลโจนส์ไม่ได้บอกอะไรกับคุณเลย”อีธานเพิ่งพูดจบขณะที่แคทเธอรีนแยกจากเขา และวิ่งไปที่รถของเธอทว่ามือของเธอสั่นมากจนเธอไม่สามารถเปิดประตูออกได้“มาเถอะ เป็นแบบนี้คุณขับรถไม่ได้หรอก ผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง ผมรู้จักที่นั่น” อีธานแย่งกุญแจรถไปจากเธอแล้วเปิดประตู เขาช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะพาไปยังสถานที่จัดงานศพหลังจากที่ลงจากรถแล้ว แคทเธอรีนเดินโซเซเข้าไปในสถานที่จัดงานศพเมื่อเธอเห็นภาพถ่ายของคุณย่าโจนส์ ความจริงที่เธอไม่อยากเชื่อก็ถูกปะติดปะต่อเข้าด้วยกันในที่สุดน้ำตาไหลลงมาอาบแนวแก้มของเธอไม่ขาดสายเธอคิดไม่ถึงเลยว่าง
“พวกคุณช่วยอย่ามาทะเลาะกันด้วยเรื่องส่วนตัวในงานศพของคุณย่าได้ไหม?!” แคทเธอรีนพูดขัดจังหวะพวกเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วเดินไปที่โลงศพเงียบ ๆดูราวกับว่าตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรให้คุณย่าของเธอได้นอกเสียจากคุกเข่าลงเธอรู้สึกเสียใจมาก เมื่อตอนพวกท่านทั้งคู่ยังหนุ่มยังสาว คุณย่าและคุณปู่ต่างก็เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากในเมลเบิร์น ถ้าไม่มีพวกท่าน ตระกูลโจนส์คงจะไม่มีวันนี้ถึงอย่างนั้นก็ตาม เมื่อพวกท่านจากไป พวกท่านกลับจากไปอย่างรวดเร็วและไม่ค่อยมีใครรู้ มีเพียงแขกไม่กี่คนเท่านั้นที่มาไว้อาลัยให้กับพวกท่าน....เมื่อถึงเวลาพลบค่ำฌอนขับรถกลับมาที่วิลล่า แล้วพบว่ามีเพียงป้าลินดาเท่านั้นที่กำลังทำอาหารอยู่ในบ้าน“แคทเธอรีนไปไหน?”“เธอยังไม่กลับมาเลยค่ะ” ป้าลินดาพูดยังไม่ทันขาดคำ ขณะที่เธอเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันทีเธอลอบถอนหายใจเงียบ ๆ เธอไม่เคยเห็นฌอนต้องมีใครอยู่ใกล้ ๆ กับเขาแบบนี้มาก่อน เขาถามหาภรรยาของเขาทันทีที่กลับถึงบ้านฌอนมองไปที่นาฬิกาที่เขาสวมอยู่ เวลาที่แสดงคือ 18:30 น.เธอรถติดอยู่หรือเปล่า? เขารีบโทรหาเธอ ทว่าไม่มีใครรับสายโธ่เว้ย แค่เขาทำดีก
“ตรวจสอบว่าพวกเขาไปโรงแรมกันหรือเปล่าอย่างนั้นเหรอ?” ฌอนลุกขึ้น ความเกลียดชังท่วมท้นในแววตาสีเข้มของเขาคิ้วของเฮดลีย์ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาอยู่เคียงข้างฌอนมานาน และไม่ค่อยเห็นเขาโกรธแบบนี้ บางทีฌอนอาจจะไม่ได้สังเกตตัวเองว่าคุณโจนส์มีอิทธิพลต่ออารมณ์ของเขามากน้อยเพียงใด“ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว” ฌอนกำหมัดแน่น น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชาและแข็งกร้าว “ฉันอยากรู้ว่า เธอจะอยู่ข้างนอกนั่นอีกนานแค่ไหน”เฮดลีย์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว...ณ ห้องจัดพิธีศพแคทเธอรีนนั่งคุกเข่าอยู่แบบนั้นตลอดทั้งคืนเจฟฟี่ แซลลี่ และรีเบคกล้า กลับไปตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วมีเพียงอีธานและเธอเท่านั้นที่ถูกทิ้งให้อยู่ภายในห้องโถงใหญ่“กลับไปซะ” แคทเธอรีนรู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่เพราะเธอ แต่เธอไม่ต้องการความเห็นใจ“ผมไม่กลับ ที่ผ่านมาคุณย่าโจนส์ก็ดีกับผมเหมือนกัน เพื่อเป็นการส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย ผมจะอยู่” อีธานดึงดันที่จะอยู่ข้าง ๆ เธอแคทเธอรีนยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา แม้แต่อีธานเองก็ยังรู้ว่าต้องส่งคุณย่า แล้วเจฟฟี่ล่ะ? เจฟฟี่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของคุณย่า คุณย่าเองก็เอ็นดูแซลลี่เหมือนกับลูกสาวของท่านเหมือนกันความเ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก