ใบหน้าหล่อเหลาของฌอนซีดเผือด มีคนได้ลบข้อมูลต่าง ๆ ออกจากสมองของเขาไปเหรอ?เขาหัวเราะแกน ๆ “นี่เป็นไปไม่ได้ ศาสตราจารย์ลินคอล์น ผมไม่ใช่หุ่นยนต์นะครับ...”ศาสตราจารย์ลินคอล์นแสดงสีหน้าตรงไปตรงมา “ไม่ครับ แต่เท่าที่ผมรู้ ประเทศวายมีทักษะการสะกดจิตแบบโบราณที่ทําเช่นนี้ได้ ทักษะการสะกดจิตนี้สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความรู้สึกและความทรงจําต่าง ๆของคนผู้นั้นได้ ทั้งยังไม่มีใครสังเกตเห็นมันได้เลยแม้แต่ผู้ที่เกี่ยวข้อง”สมองของฌอนลั่นกึกก้องการสะกดจิตเหรอ?มีคนเปลี่ยนความทรงจําและความรู้สึกต่าง ๆ ของเขา “คุณหมายถึงว่าคนที่ผมเคยรักอาจเป็นภรรยาของผม แต่หลังจากนั้นมีใครบางคนดัดแปลงมันไปจนทําให้ผมรักผู้หญิงคนอื่นใช่ไหมครับ?”“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของผมเท่านั้น ผมไม่สามารถยืนยันได้” ศาสตราจารย์ลินคอล์นกล่าว “แต่อาการต่างๆที่คุณกล่าวถึงนั้นคล้ายกันกับการอยู่ภายใต้อิทธิพลของทักษะการสะกดจิตโบราณของประเทศแถบวาย ไม่เพียงแค่นั้น ผู้ที่ทําการสะกดจิตคุณน่าจะเป็นคนที่คุณไว้วางใจอย่างมากทีเดียว ไม่เช่นนั้นคนผู้นั้นคงทำไม่สำเร็จหรอก ในขณะเดียวกันคนผู้นี้ต้องมีทักษะเป็นที่ยอมรับในด้านจิตวิทยา” บุคคลห
“นั่น... ชั่วร้ายมาก” มือของฌอนซึ่งวางพักบนเข่าของเขาสั่นสะท้าน"ใช่ มันชั่วร้ายทีเดียวแหละ" ศาสตราจารย์ลินคอล์นพยักหน้า จากนั้นเขาก็มองไปที่ฌอนอย่างพินิจพิเคราะห์ “ถ้าคุณมีคนที่คุณสงสัยก็ให้อยู่ห่างจากบุคคลนั้นซะ แน่นอนผมหวังอย่างยิ่งว่าคุณจะไม่เคยถูกสะกดจิต บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดของคุณ”"ขอบคุณครับ" ฌอนลุกขึ้นยืนและโค้งคํานับ… หลังออกจากสถานที่ของศาสตราจารย์ลินคอล์นมาแล้วฌอนยังไม่ขับรถไปไหน เขาแค่เดินไปรอบ ๆ วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยอย่างเงียบ ๆ ขายาวของเขาสั่นสะท้านไม่เพียงเท่านั้น จิตใจของเขาก็ว่างเปล่าเขาก็หวังเช่นกันว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่จินตนาการของเขาซาร่าสะกดจิตเขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาอาจจะเสียสติงั้นหรือ?เป็นไปไม่ได้ มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ซาร่าจะชั่วร้ายขนาดนี้ได้ยังไงแต่ถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ? เขาขนลุกเมื่อเขาคิดถึงบุคลิกที่อ่อนโยน ใจดี และใจกว้างของซาร่าในช่วงสามปีนั้นไม่สิ เขาต้องค้นหาความจริงให้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะจําไม่ได้แต่เขาก็ต้องคิดให้ออกว่าความทรงจําของเขาผิดพลาดยังไงแน่ดังนั้นเขาจึงซื้อตั๋วเครื่องบินมุ่งไปเมลเบิร์นทันทีโด
“อยากตามหาเธอเหรอ? นั่นก็นานมากแล้ว รอเดี๋ยวนะ"เชสโทรหาสำนักงานจัดหาแม่บ้านทำความสะอาดและรอตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพบข้อมูลป้าลินดา “ป้าลินดาทํางานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในวิลล่าหลังนี้”เชสให้ที่อยู่เขา "ฉันจะไปส่งนายที่นั่น""ไม่เป็นไร" ฌอนรับที่อยู่มา "ขอบใจนะ"“อย่าพูดงั้นสิ ฉันไม่ชินที่นายทําตัวแบบนี้เลย” เชสโยนกุญแจรถให้เขา “นายขับรถของฉันไปเลย ไว้เราไปทานมื้อเย็นด้วยกันทีหลัง”"นั่นยากละ" ฌอนเหลือบมองเขา “เดี๋ยวนี้นายไม่ค่อยได้ติดต่อพวกเราสามคนเลย นายไปแคนเบอร์ราตั้งกี่ทีแล้วทำไมไม่ชวนเราออกไปกินด้วยกันเลย? นายสบายใจที่จะอยู่ในเมลเบิร์นคนเดียวเลยนะ”ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็อิจฉาเชสขึ้นมาถึงแม้เมลเบิร์นจะเล็ก แต่โดยพื้นฐานแล้วเชสเป็นผู้มีอิทธิพลที่นี่ ชีวิตที่นี่ไม่โหดเหลือทนเท่าแคนเบอร์ราเชสยิ้มเจื่อน “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขาดการติดต่อกับพวกนายหรอก แต่ว่าพวกนายทั้งสามคนมักจะพาเทรซี่กับซาร่าไปไหนมาไหนด้วย ฉันไม่ชอบพวกหล่อนเลยจริง ๆ ฉันรู้สึกเหมือน...”ทันใดนั้นเขาก็ปิดปากตัวเอง "ช่างมันเถอะ"“ว่ามาซิ” ฌอนเอ่ยปาก ถึงแม้ตอนนี้เขาแต่งตัวธรรมดามาก แต่ออร่าในแววตาเขายังคงอย
มันก็เข้าใจได้ที่คนเราจะลืมกันเรื่องสองเรื่อง แต่มันแปลกจริง ๆ ที่ฌอนลืมหมดทุกข้อพิสูจน์ที่ว่าเขาเคยมีใจกับแคทเธอรีนเขานึกภาพไม่ออกเลยว่าครั้งหนึ่งเขาเกือบตายเพราะพยายามจะช่วยเธอเขาถึงกับไปกินหม้อไฟกับเธอและปวดท้องด้วยเขาไม่มีทางกินหม้อไฟเด็ดขาดแคทเธอรีนพิเศษสําหรับเขามากเพียงใด?เขาอยากได้คำตอบเร็ว ๆ แต่ว่าจู่ ๆ เขาก็เกิดกลัวขึ้นมาเขากลัวว่าแคทเธอรีนกับเขาจะเคยรักกันอย่างสุดซึ้ง แต่เมื่อความทรงจําของเขาถูกดัดแปลงต่อมาเขาจึงทอดทิ้งเธอและทําร้ายลูก ๆ ของพวกเขาเขากลัวว่าเขาได้ทําร้ายเธอลึกล้ำยิ่งกว่าที่เขาคิดเขานั่งอยู่ในรถราวครึ่งชั่วโมงก่อนจะไปหาป้าลินดาในที่สุดหลังจากป้าลินดารับสายของเขา เธอก็รีบเดินออกไปพร้อมหนังสือเล่มเล็กเก่า ๆ เล่มหนึ่งในมือ เมื่อเธอเห็นฌอน เธอร้องเรียกอย่างลังเลว่า “คุณชายใหญ่ฮิลล์...”“ป้าลินดา ป้ายังจําผมได้ด้วย” ฌอนมองป้าลินดาและพบว่าเขาก็ยังคงจําเธอได้อยู่“แน่นอนป้าจำได้สิ ป้าเป็นพี่เลี้ยงของคุณมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ว่าป้าประทับใจคุณโจนส์กับคุณมากที่สุด...” จู่ ๆ เธอก็หยุดอย่างรู้สึกผิดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ป้าเอ่อ... ทําให้คุณขุ่นเคืองด้
“งั้นเราเอ่อ...สนิทสนมลึกซึ้งกันไหมครับ?” ฌอนถามด้วยเสียงต่ำ ในความทรงจําของเขาเมื่อสามปีก่อน เขาเกลียดเวลาที่แคทเธอรีนเข้ามาใกล้และสัมผัสเขา เธอยังฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังเมาเพื่อจะได้ตั้งครรภ์ป้าลินดาหน้าแดง “โอ้ แน่นอนค่ะว่าคุณเป็นอย่างนั้น ทุกครั้งที่คุณโจนส์จูบคุณ คุณมีความสุขเชียวล่ะค่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คุณได้รับบาดเจ็บ คุณพูดโกหกกับเธอว่ามันจะหยุดเจ็บถ้าหากเธอจูบคุณ และคุณโจนส์ก็เชื่อคุณจริง ๆ ขนาดฉันยังหน้าแดงเลยตอนที่เห็นเข้า”“ขอบคุณนะครับป้า...” หลังจากได้ยินอย่างนั้นฌอนก็ขอตัวป้าลินดากลับด้วยความซาบซึ้งเขาจําสิ่งที่ป้าลินดาบอกเขาไม่ได้หรอก ทว่าเขาก็รู้เช่นเดียวกับคําพูดของเชสว่ามันน่าจะใช่เรื่องจริงทั้งหมดแต่ทว่าเขากลับลืมมัน เขาลืมไปแล้วว่าสามปีก่อนนั้นครั้งหนึ่งเขาเคยรักผู้หญิงที่ชื่อแคทเธอรีน โจนส์ในความคิดจิตใจของเขาล้วนจําได้แต่ความผิดของเธอไม่น่าแปลกใจหลังจากแคทเธอรีนกลับมาในอีกสามปี เธอสามารถทําอาหารจานโปรดของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย เธอรู้ว่าเขาชอบกินอะไรบ้างอย่างละเอียดราวกับมันเป็นส่วนสำคัญของเธอแม้แต่บนเตียงเธอยังรู้ว่าเขาชอบท่าไหนมากที่สุดนั่นเป็นเ
“มันก็แค่ความล้มเหลว ด้วยความสามารถของนายไม่ว่าในด้านกฎหมายหรือด้านการเงิน ไม่มีปัญหาเลยหากนายจะกลับมาที่เมลเบิร์นและกลายเป็นคนสําคัญ”"ไม่ใช่อย่างนั้น" ฌอนเปิดเบียร์ขวดหนึ่งแล้วดื่มอั้ก ๆ ดวงตาของเขาแดงขึ้นอีกครั้งเชสตกใจ "เกิดอะไรขึ้นกับนาย?"เขารู้จักฌอนมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฌอนร้องไห้ เชสทำท่าราวกับว่าเห็นผี“นายไม่เข้าใจหรอก ฉันสูญเสียสิ่งสําคัญที่สุดในชีวิตฉันไป” ฌอนเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างขมขื่นว่า “เชสนายช่วยบอกฉันมาเกี่ยวกับอดีตของฉันกับแคทเธอรีนได้ไหม? ฉันอยากรู้ว่าเราพบกัน ใกล้ชิดกันและตกหลุมรักกันได้อย่างไร”“ได้สิ เมื่อสามปีที่แล้วนายเพิ่งมาที่เมลเบิร์น...” ถึงแม้ว่าเชสจะสับสนว่าทําไมจู่ ๆ ฌอนถึงอยากจะได้ยินเกี่ยวกับแคทเธอรีนขึ้นมา ทว่าเขาก็ยังคงเล่าต่อเขาเล่าไปจนฌอนผล็อยหลับไปด้วยความเมาเขาไม่รู้จะทำยังไงจึงโทรหาร็อดนีย์ “พวกนายยังเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่ไหม? พวกนายควรไปไหนมาไหนกับฌอนให้มากกว่านี้นับแต่เกิดเรื่องใหญ่แบบนั้นกับเขา ฟังนะ ตอนนี้เขาอยู่ในเมลเบิร์นนี่เพื่อดื่มปลดปล่อยความเศร้าของเขา”"ฌอนอยู่ในเมลเบิร์นเหรอ?" ร็อดนีย์เริ่มอารม
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับผมไม่ได้โกรธคุณ ผมแค่ไม่เข้าใจคนอย่างโทมัส” ร็อดนีย์กัดฟันกรอด “ซาร่าคุณติดต่อเขาได้ไหม? ผมต้องการสั่งสอนเขา คุณจะช่วยผมไหม?”“อย่าพูดอย่างนั้นสิคะเขาสมควรจะได้รับการสั่งสอนซะบ้าง ฉันจะโทรหาเขาและพยายามหาคําตอบมา แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับสายไหมนะคะ” ซาร่าพบหมายเลขของโทมัสและโทรออกทว่าไม่มีใครรับสาย เธอกัดฟันและพูดว่า “เขาไม่ยอมรับสายฉันด้วยซ้ำ โอ้ตายละ นี่ฌอน…เป็นยังไงบ้างคะ? ถึงยังไงเราก็รู้จักกันมานานกว่าสิบปีแล้ว มัน... เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่เป็นห่วงเขา”“โอ้ เขาไปเมลเบิร์นน่ะ” ร็อดนีย์ถอนหายใจ “ผมไม่รู้ว่าทําไมจู่ ๆ เขาถึงไปอยู่ในเมลเบิร์น เขายังไปดื่มกับเชสด้วย”เมลเบิร์น...คํานี้ทําให้ซาร่าถึงกับใจหายแว้บเธอจําได้ว่าฌอนและแคทเธอรีนพบกันที่เมลเบิร์น หรือว่าเขาสงสัยอะไรบางอย่างอยู่?“ซาร่า...” เสียงของร็อดนีย์ดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดของเธอ “ผมเห็นรถสปอร์ตคันใหม่ข้างนอกนั่น คุณเปลี่ยนรถเหรอ?”“ใช่ค่ะ...” ด้วยเกรงว่าเขาจะเข้าใจผิดไปว่าเธอหน้าเงินซาร่าจึงรีบอธิบายว่า “ฉันไม่ต้องการรถคันเก่าอีกต่อไปแล้วฉันต้องการกําจัดความทรงจําต่าง ๆ ในอดีตให้หมดสิ้น
“ผมเข้าใจ...”ร็อดนีย์ตัวแข็ง เขาเคยคิดว่าซาร่าจะเห็นด้วยโดยไม่ลังเลนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาได้คาดคิดเอาไว้มาก่อนเลยตอนนี้ซาร่าเป็นเหมือนเพื่อนที่หาข้อแก้ตัวต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทซึ่งกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตได้หยิบยืมเงิน“ช่างมันเถอะนี่ก็ดึกมากแล้ว ดังนั้นผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ คุณควรพักผ่อนนะ ผมจะไม่รบกวนคุณอีกแล้วล่ะ” ร็อดนีย์โบกมือ ไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ต่ออีกแล้ว“ร็อดนีย์ ฉันขอโทษนะคะที่ช่วยคุณไม่ได้เลย” ซาร่าดูเหมือนเธอใกล้จะร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดขึ้นมาเต็มแก่“ไม่เป็นไรนะ เชสเตอร์กับผมสามารถช่วยได้หากฌอนต้องการเงิน ผมแค่ถามดูเองแหละ”ร็อดนีย์ปลอบโยนเธออย่างฝืน ๆ ก่อนจะเดินออกจากวิลล่าขณะที่เขาขับรถออกไป เขาหันกลับมามองวิลล่า ถึงแม้ว่ามันอยู่ริมทะเล ชายหาดก็ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ท้องน้ำเป็นสีฟ้าและอยู่ใกล้เมืองที่สุด เป็นที่ดินริมน้ำที่แพงที่สุดในแคนเบอร์รา ฌอนซื้อมันมาด้วยเงิน 300 ล้านในตอนนั้น และตอนนี้วิลล่าหลังนี้มีมูลค่าอย่างน้อย 800 ล้านเมื่อฌอนเลิกกับซาร่า เขามอบวิลล่าหลังนี้ให้กับเธอโดยไม่ลังเล ในขณะที่ปู่ย่าตายายของเขาต้องไปอาศัยอยู่ในวิลล่าหลังที่มูลค่าหลักสิบล้
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก