1.5 แสนล้านดอลลาร์ ที่จริงเป็นราคาสูงมากมายมหาศาลเมสันเตือนคนอื่นไว้ว่าอย่าเสนอเพิ่มราคา พอตอนนี้มีบางคนกล้าที่จะเปิดราคาสูงเสียดฟ้าเช่นนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าเขากําลังท้าทายแคมโปส คอร์ปอเรชั่นนั่นเองผู้จัดอึ้งไปเลยแต่ต่อมาเขาก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “1.5 แสนล้านดอลลาร์ นับครั้งที่1 นับครั้งที่ 2... ขายแล้วครับ”ในห้องส่วนตัวเฟรยารู้สึกประหลาดใจ “จู่ ๆ ใครกันคือคนที่ตะโกนราคานี้ออกมาอย่างไม่นึกไม่ฝัน? 1.5 แสนล้านดอลลาร์? ขอฉันนับเลขหน่อยนะ มันเยอะมากอะ”“เงินจํานวนนี้... ไม่ใช่สิ่งที่หลายคนจะสามารถควักกระเป๋าจ่ายได้” แคทเธอรีนรู้สึกประหลาดใจ กระนั้นชายลึกลับที่เธอเห็นสูบบุหรี่อยู่เมื่อครู่นี้ก็เข้ามาในหัวของเธอ“เมสันไม่ต้องการประมูลต่อแล้วรึไง?” เฟรยาถอนหายใจ "แบบนี้เหรอ?"“เห็นอยู่ว่าเมสันใจแคบแค่ไหน คนอย่างเขาคงเต็มใจจะทุ่มเงินแสนล้านดอลลาร์หรอกนะ? นั่นคงเป็นเรื่องตลก” ทันทีที่แคทเธอรีนเปิดประตูมา ชายสองคนก็ขวางทางเธออยู่"เฮ้ยเป็นผู้หญิง" ชายคนหนึ่งตะคอกใส่ “รอตรงนี้ ประธานแคมโปสต้องการพบเธอ”“แคทเธอรีน เธอน่ะเองที่เป็นคนเสนอราคานั้นออกมา” ชาร์ลีและเมลานีที่บังเอิญเดินผ่านมา
เฟรยาเข้าใจข้อความของแคทเธอรีนภายในเสี้ยววินาที “แหงล่ะ พวกคุณยืนกรานที่จะขวางทางฉันใช่ไหม? เอาล่ะฉันจะโทรหาลุงเจสัน ฉันขอเตือนคุณนะว่าอีกไม่นานฉันจะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลสโนว์”ชาร์ลีรู้สึกแย่ขึ้นมาทันทีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในปีหน้ามีความเป็นไปได้มากที่สุดว่ามาจากตระกูลสโนว์ หากพวกเขาสร้างความขุ่นเคืองให้เจสันผู้ซึ่งขณะนี้พวกเขากําลังพยายามประจบเอาใจอยู่พวกเขาคงได้เผชิญกับความยุ่งยากลำบากชาร์ลีเกือบลืมไปแล้วว่าเพื่อนสนิทของแคทเธอรีนมีภูมิหลังที่มีอิทธิพลเหลือเกิน"เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดกันน่ะครับ" การแสดงออกของชาร์ลีเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เป็นมิตรขึ้นมาทันที “ผมแค่อยากรู้ว่าใครเสนอ 5 หมื่นล้านดอลลาร์”เฟรยากัดริมฝีปากของเธอ “เราไม่ได้วางแผนจะซื้อมันหรอก เราแค่รู้สึกว่าตระกูลร่ำรวยเหล่านั้นที่เอาแต่เพิ่มทีละ 100 ดอลลาร์ทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าให้กับตระกูลที่ร่ำรวยอื่น ๆ ในออสเตรเลีย”การแสดงออกของชาร์ลีเย็นชาและไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องระงับความโกรธของเขาไว้ในขณะเดียวกัน เวสลีย์ก็ละสายตาและสีหน้าท่าทางของเขาก็ดูแปลกไป"ไปกันเถอะ" แคทเธอรีนจูงมือเฟรยา
เมสันไม่เคยเก็บงําความเกลียดชังต่อลีอาเลยด้วยซ้ำ"เธอมานี่เพื่อมองหาผู้ซื้อเหรอ?" เมสันเยาะเย้ย “จากท่าทางกระตือรือร้นของเธอ เธอต้องคิดจะขายเรือนร่างของเธอและตามตื๊อผู้ซื้อแหง แต่น่าเสียดายที่เธอทั้งแก่และไม่น่ามอง อย่าทําเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้เลยลีอา”ลีอายิ้มเยาะ “ทีคุณมาที่นี่เร็วกว่าฉันอีกก็หมายความว่าคุณก็กําลังพยายามตื๊อผู้ซื้อด้วยสินะ น่าเสียดายจังที่เธอก็คงไม่ได้สนใจตาเฒ่าหงำเหงือกอย่างคุณถึงแม้จะรวยก็เถอะ”โจแอนน์เย้าแหย่ว่า “สามีของฉันรวยมากและมักเป็นคนอื่นที่รบกวนเขาเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เสนอราคาซื้อคฤหาสน์เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ชายย่ะ...” “ใช่ถึงเป็นผู้ชายแต่เขาก็ใจกว้างกว่าคุณมากนะ 5 หมื่นล้านกับอีก 100 ดอลลาร์เชอะ เมสัน แคมโปสคุณเป็นชาวออสเตรเลียผู้ร่ำรวยที่สุดคนแรกที่ขี้ตืดและใจแคบมากเหลือเกิน ฉันรู้สึกละอายใจแทนคุณที่เสนอราคาจำนวนนั้นออกมาได้”หลังจากที่ลีอาพูดจบ เธอก็ก้าวเท้าฉับ ๆ เดินจากไปโดยเร็วทันทีเธอรังเกียจอดีตสามีของเธออย่างซะจริง ๆคน ๆ หนึ่งจะใจแคบขนาดนี้ได้ยังไง?เมสันอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “ลีอาผมไม่ได้ใจแคบ ผมแค่ไม่อยากให้คุณได้รับเงินแม้แต่สักเหรีย
พอเรจิน่าหันหลังไปแล้วใบหน้าสวยของเธอก็ดูน่ากลัวเวสลีย์เป็นคนที่พาเธอไปประมูลงาน เขายังกอดและสัมผัสเธอในห้องส่วนตัวอยู่เมื่อครู่นี้เองแต่ทว่าทันทีที่เขาออกมาจากห้องนั้นเขาก็สวมฉากหน้าที่ดูดีสง่างามชายคนนี้... ไม่ใช่คนที่เธอจะควบคุมได้ดังนั้นเธอจึงรู้ที่ทางของเธอว่าอยู่ตรงไหนยิ่งกว่านั้นเธอก็ไม่ได้ชื่นชมแคทเธอรีน ตรงข้ามเธอพบว่าแคทเธอรีนโง่มากด้วยซ้ำไปอาจเพราะแคทเธอรีนหลงคิดไปว่าเวสลีย์รักเธออย่างสุดซึ้ง…เวสลีย์ขับรถแคทเธอรีนนั่งเบาะผู้โดยสาร หยิบกล่องหนึ่งออกจากกระเป๋าถือของเธอซึ่งภายในมีนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ เอสเอสีน้ำเงินสุดหรู “คุณจ่ายหนักเลยนะครับ" เวสลีย์พูดอย่างลำบากใจว่า “คราวหน้าอย่าใช้จ่ายเพื่อผมนักสิครับผมควรเป็นคนที่ใช้จ่ายเพื่อคุณแทนซะมากกว่า”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มอบของขวัญให้คุณ” แคทเธอรีนหยิบนาฬิกาออกมาใส่ให้เขา มันดูงดงามและหรูหราแต่เมื่อสายตาของเธอจับจ้องมองที่บนข้อมือของเขา ข้อมือของฌอนก็แว่บเข้ามาในหัวเธอข้อมือของฌอนแลดูสวยงามจริง ๆ เขาไม่เคยสวมนาฬิกาแบรนด์ แต่ว่านาฬิกาทั้งหมดทุกเรือนของเขาได้รับการออกแบบโดยผู้ผลิตนา
เสียงของซูซี่ดังมาจากประตูแคทเธอรีนฉวยโอกาสนี้เลื่อนตัวออกจากภายใต้อ้อมแขนของเวสลีย์ “ฉัน... ฉันต้องไปอาบน้ำให้ซูซี่ค่ะ คุณควรจะนอนไปก่อนเลยค่ะ”เมื่อมองเงาร่างของแคทเธอรีนซึ่งกําลังจากไปด้วยความเร่งรึบ ดวงตาของเวสลีย์ก็เข้มทะมึนเขาไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการที่ร่างกายของแคทเธอรีนปฎิเสธต่อการสัมผัสของเขาเธอปัดป้องเขาเหลือเกินแต่เธอกลับยินยอมพร้อมใจกับฌอนอย่างเต็มที่‘แคทเธอรีนคุณโกหกที่บอกว่าคุณไม่มีความรู้สึกต่อฌอนอีกต่อไปแล้ว’...ในห้องน้ำจิตใจของแคทเธอรีนล่องลอยไปขณะที่เธออาบน้ำให้ซูซี่เธอไม่คิดเลยว่าร่างกายของเธอจะรู้สึกต่อต้านกับเวสลีย์มากขนาดนี้เธอควรทําอย่างไร? เธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว และความรับผิดชอบบางอย่างไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้“แม่คะเมื่อกี้แม่วางแผนจะมีน้องกับลุงเวสลีย์หรือเปล่าคะ?” คําพูดของซูซี่น่าตกใจแคทเธอรีนหยิกแก้มของเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ลูกกําลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกันจ๊ะ? ใครบอกลูกเรื่องเหล่านี้เหรอ?”“อาเลียมบอกหนูว่าอย่าได้จูบหรือแตะต้องเด็กผู้ชายที่โรงเรียนอนุบาล แบบนั้นทารกจะโผล่ออกมา” ซูซี่กล่าวอย่างมั่นใจสิ่งนี้ทําให้แคทเธอรีนเขินอาย
ฌอนได้ครุ่นคิดมาก่อนแล้วถึงยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าอาการเขานั้นจะรักษาได้หรือไม่ ดังนั้นเขาก็ไม่น่าจะหาผู้หญิงคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เขาก็ได้แต่เลี้ยงดูลูกสาวของเลียมต่อจากนี้ไปประการแรกมันเป็นการชดเชยให้เลียมประการที่สองเขาชอบซูซี่อย่างมากด้วย เนื่องจากซูซี่สูญเสียทั้งพ่อและแม่ของเธอไปทั้งคู่ เขาจึงเต็มใจที่จะรับผิดชอบเป็นพ่อให้เธอเองถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของเขาก็ตามแคทเธอรีนตกตะลึงเมื่อได้ยินเขาไม่น่าเชื่อเลย…ที่ได้ยินคําพูดเหล่านั้นออกมาจากปากของฌอนเท่าที่เธอรู้แต่ก่อนนี้ไม่ว่าจะกับเธอหรือซาร่า ฌอนก็เป็นคนประเภทที่ยึดติดและไม่ยอมปล่อยวาง การหมกมุ่นในความรักของเขาก็ค่อนข้างผิดปกติด้วยเช่นกันดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากทันทีที่ได้ยินเขาพูดว่าเขาจะไม่แต่งงานใหม่หรือมีลูกถึงแม้ว่าฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นจบเห่ไปแล้ว แต่เขาไม่จําเป็นต้องท้อแท้หมดกำลังใจเขาแตกต่างไปจากฌอนที่เธอเคยรู้จักเล็กน้อย“ไว้เราค่อยมาหารือเรื่องนี้หลังจากที่คุณแก้ต่างคดีความได้แล้วนะคะ” แคทเธอรีนพึมพํา“แคธี่...” จู่ ๆ ฌอนก็เรียกชื่อเธออย่างอ่อนโยนแคทเธอรีนรู้สึกไม่สบายใจที่เขาพูดอ
แคทเธอรีนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากซูซี่ผล็อยหลับไป ฌอนส่งวิดีโอให้เธอมาแล้วเธอสวมหูฟังขณะดูวิดีโอนั้นแล้วใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อเธอพบว่ามันเหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไงกันในวิดีโอไฟไม่ได้เปิดอยู่ แต่แสงจันทร์ส่องกระจ่างตาผ่านหน้าต่างเรียงรายเธอกับฌอนมีผ้าห่มคลุมอยู่ ส่วนบนของฌอนไม่มีสิ่งใดบดบังและมือของเธอ... โอบรอบคอของเขาไว้แน่นไม่เพียงแต่เท่านั้นเสียงของเธอยัง... ฟังดูราวกับว่าเธอ... สนุกกับมันจริง ๆเธอคิดมาตลอดว่าเธอความหวังจบสิ้นในคืนนั้น แต่ว่าวิดีโอดังกล่าวมันดูเหมือนเธอกับฌอนเป็นคู่รักที่แสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผยไม่เกรงใจใครและเธอก็เต็มใจนั่นวิดีโอที่เวสลีย์ได้ดูใช่ไหม?เธออายมากจนอยากจะตีตัวเองเหลือเกิน อย่างไรก็ตามพอเธอสงบสติอารมณ์ลงได้และคิดเรื่องนี้ดูแล้ว ไม่มีชายใดหรอกที่ทำเป็นเฉยเมยได้หลังจากที่ดูวิดีโอนั้นแล้วเวสลีย์ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้สักคําหลังจากที่เธอกลับมา เขายังบอกอีกว่าไม่เป็นไรตราบที่เธอถูกกระทำโดยที่ไม่เต็มใจตอนนี้เมื่อคิดย้อนไปเวสลีย์ใจกว้างมากจนทําให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาถ้าเธอลองมองในมุมของเวสลีย์ เธอคงจะคิดมากและรู้สึกถูกดูหมิ
แคทเธอรีนเข้าใจมันอย่างรวดเร็ว “นายกําลังบอกว่าหลังจากที่สมาชิกของไลโอน่าโยนเลียมไปที่นั่น รถอีกคันก็มาลากตัวเลียมเข้าไปในรถคันนั้น?”โลแกนพยักหน้า “มีความเป็นไปได้สูงที่มีใครบางคนเฝ้าดูจากประตูของไลโอน่าตั้งแต่เริ่มต้น ความเป็นไปได้อีกอย่างคือมีสมาชิกภายในไลโอน่าปล่อยข้อมูลรั่วไหล”หัวใจของแคทเธอรีนสั่นสะท้านอย่างไรก็ตามหลังจากได้ไตร่ตรองดู เธอก็เห็นด้วยทั้งหมดกับการวิเคราะห์ของโลแกน“อันที่จริง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเลียมจะรั่วไหลข้อมูลของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น เขาไม่น่าใช่คนแบบนั้น ฉันสงสัยว่ามีสายลับในไลโอน่า และเป็นคนเดียวกับคนที่ปล่อยข้อมูลรั่วไหลออกมา“ยิ่งไปกว่านั้น ไลโอน่าเป็นองค์กรที่ฌอนไว้วางใจมากที่สุด เมื่อไมโครชิพพัฒนาขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่เขาต้องทําคือให้บรรดาสมาชิกคนสําคัญของไลโอน่าเฝ้าห้องทดลองไว้ เป็นไปได้ที่บุคคลนั้นจะขโมยข้อมูลและหาเวลาที่เหมาะเจาะในการขุดกับดักเลียมไปพร้อมกัน”หลังจากที่เธอพูดไปแล้วนั้นโลแกนก็เหลือบมองด้วยความชื่นชม “เจ้านาย ผมคิดว่ามันน่าเสียดายที่คุณไม่ได้เป็นตํารวจ” “นี่เป็นเพียงการคาดเดาของฉันแหละ ไม่มีหลักฐาน” แคทเธอรีนกลอกตามาที่เขา “แต่คนที่
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก