“แกต้องรับผิดชอบมันจริง ๆ น่ะแหละ” คุณท่านฮิลล์จ้องไปที่ฌอน “ตัวแกเองควรอยู่ที่ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น ถ้าไม่ใช่เพราะแกพาแคทเธอรีนไปต่างประเทศ คนอื่นคงจะไม่ได้มีโอกาสแอบเข้าไปสอดแนม“แต่เราก็ไม่สามารถตําหนิแกได้ทั้งหมดด้วยเหมือนกัน มันเป็นโชคชะตาล้วน ๆ แกและแม่ของแกเหมือนกันเลยพวกแกทั้งคู่ชอบพาตัวเองไปพบทางตันและไม่รู้วิธีการทนุถนอมกับสิ่งที่คู่ควรจะดูแลทนุถนอมรักษาไว้ให้ดี พ่อแกปฏิบัติต่อเธออย่างดีในตอนนั้นทว่าเธอจ้องดูถูกเขา เธอเอาแต่คิดว่าเมสันรักเธออย่างสุดซึ้ง”พ่อ...คํานั้นไม่คุ้นเคยเลยฌอนไม่ได้ยินมานานแล้วเขางุนงงอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งได้ยินท่านผู้หญิงฮิลล์พูดว่า “ไม่ได้ข่าวพ่อของหลานมาหลายสิบปีแล้ว ยายคาดว่าเขาคงแต่งงานกับใครสักคนมีลูกไปแล้วที่เมืองนอก”เมื่อเธอพูดจบรถเก๋งซีดานสีดําก็แล่นเข้ามา ลีอาลงจากรถเอ่ยถาม "ทุกคนกําลังคุยอะไรกันอยู่เหรอคะ?"ท่านผู้หญิงฮิลล์เอ่ยตอบห้วน ๆ ว่า "เรากําลังพูดถึงเบรนแนนจ้ะ"ลีอาตกตะลึง คนผู้นั้นได้จากโลกของเธอไปนานมากจนเธอแทบจะลืมชีวิตในช่วงนั้นของเธอไปแล้ว“ถ้าแกยอมฟังเราบ้างในตอนนั้นและอยู่กับเบรนแนนไปซะตอนนี้คงไม่มีปัญหาหนักถึงเพียงนี้
โทมัสสะดุ้งแต่ทว่าความตื่นเต้นก็ตามมา“เยี่ยม ฉันอดทนต่ออารมณ์ของเขามาตั้งหลายปี เวรเอ๊ย ฉันทนมานานแล้ว ว่าแต่คุณชายสโนว์กับฌอนเป็นเพื่อนสนิทกัน คุณชายสโนว์จะทําให้ฉันลําบากในภายหลังหรือเปล่า?”เขาหายไปซ่อนตัวอยู่นานและเพิ่งจะออกมาเมื่อสองวันก่อน ถ้าเขาทําให้ร็อดนีย์ขุ่นเคืองอีกครั้งเขาอาจต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจริงๆ“อย่าโง่น่า ฌอนมักใช้อำนาจอวดเบ่งมากเหลือเกินซึ่งเขาคงทําผู้คนมากมายขุ่นเคืองอยู่แล้วล่ะ บางทีนายไม่จําเป็นต้องทํามันด้วยตัวเองก็ได้ แค่ขยับปากพูด นายก็จะมีคนมาสั่งสอนเขาแทนเองแหละ” ซาร่าเตือนเขาโทมัสเข้าใจทันที “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"เขารู้ดีเชียวล่ะว่าทั่วทั้งแคนเบอร์ร่าใครบ้างที่ไม่พอใจฌอนโทมัสเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้แล้วก็โทรหาหมายเลขหนึ่ง “ไซมอน ตอนนี้นายอยู่ไหน?”… 23:00 น.ฌอนวางเงินปึกหนึ่งไว้อย่างเมามายก่อนที่เขาจะเดินเซออกจากบาร์ไปด้วยความมึนดูเหมือนว่าเขาได้ไปชนเข้ากับใครบางคนคนผู้นั้นผลักเขาอย่างแรง แล้วฌอนผู้ซึ่งขาเซปัดไปมาก็ล้มลงไปในแอ่งโคลนบนพื้น“ฮ่าฮ่า ดูสิ นี่คือฌอนที่ครั้งหนึ่งเคยหยิ่งผยอง ในตอนนั้นคุณชายฮิลล์โอหังเหลือเกิน เขามักจะไม่ใส่ใ
“อะไร...คุณจะทําอะไรน่ะ?” ขาของไซม่อนสั่นด้วยความกลัว ความเย่อหยิ่งของเขาก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้ว “คุณหนูใหญ่โจนส์ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมตาบอด ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคุณมีภูมิหลังที่ทรงพลังเช่นนี้ นอกจากนี้ฌอนยังหักขาผมในครั้งนั้นทำให้ผมต้องนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงตั้งหลายเดือนกว่าจะหาย”“แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่แกพูดเมื่อกี้นี้นี่ แกมันอวดดีจริง ๆ” แคทเธอรีนเอาท่อนเหล็กทิ่มหน้าของเขาและยิ้มอย่างไร้เดียงสา “แกถึงกับบอกว่า... แกยังจําเรือนร่างของฉันได้จนถึงวันนี้ ดังนั้นฉันควรเต้นวาดลวดลายเพื่อแกอีกดีไหม?”“อย่าครับ เวรเอ๊ย ผมลืมมันไปหมดแล้ว” ไซม่อนทําอะไรไม่ถูกเลย “พี่สาวครับ บอสครับ คุณเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นได้โปรดอย่าถือสาเรื่องนี้นะครับ”“ฉันทําอย่างนั้นไม่ได้หรอก เนื่องจากแกยังจําเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้วได้อยู่เลยนั่นหมายความว่าแกเป็นคนใจแคบไง ใครจะไปรู้ถ้าหากว่าแกจะมาแก้แค้นฉันในภายหลังล่ะ?”“ผมไม่กล้าแก้แค้นคุณแน่นอน ผมคงไม่กล้าหรอก” ไซม่อนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขาบังอาจกลั่นแกล้งและหยอกล้อได้ตามที่เขาต้องการจะเก่งกาจสามารถเอาชนะบรรดานักสู้มากกว่าสิบคนไ
“แต่...ผมจะมีปัญหากับเชสเตอร์ไหม?” ไซม่อนรู้สึกกังวลแคทเธอรีนพูดไม่ออก “กล้าที่จะซ้อมเขา แต่กลัวที่จะมีปัญหาเนี่ยนะ? นายไม่รู้วิธีบอกหรือไงว่าโทมัสเป็นคนยุยงน่ะ?”"ใช่ ใช่ คุณฉลาดจัง" ไซม่อนถามอย่างระมัดระวังว่า "งั้นตอนนี้ผมไปได้หรือยัง?"“ไปให้พ้นเลย ยังไงซะถ้านายกล้าหลอกฉัน ระวังไว้ให้ดีว่าฉันอาจไปหา” แคทเธอรีนเอาแท่งเหล็กกระแทกพื้น"ผมไม่กล้าหรอกน่า" ไซม่อนตัวสั่น จากนั้นเขาก็พาคนของเขาโกยแน่บไปอย่างเร่งรีบจากนั้นแคทเธอรีนก็ไปที่ข้างตัวฌอน ชายคนนั้นนอนแผ่หราในแอ่งโคลน เสื้อยืดสีขาวของเขาชุ่มโชกน้ำโคลน และใบหน้าที่หล่อเหลาของเขามีบาดแผลปกคลุมไปทั่ว ในขณะนั้นดวงตาของเขาปิดและเขาดูเหมือนไร้ชีวิตถ้าไม่ใช่เพราะว่าเอกลักษณ์บนหน้าตาเขาที่คุ้นเคย แคทเธอรีนคงได้สงสัยว่าเขาใช่ฌอนไหมฌอนที่เธอรู้จักนั้นเรียบร้อยดูดี เขาจะจัดแต่งสไตล์ผมสั้นสีดําสะอาดเรียบร้อยของเขา และไม่เคยมีรอยย่นแม้แต่รอยเดียวบนชุดสูทของเขาเลยอะไรทําให้เขากลายเป็นแบบนี้?เป็นเพราะฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นล้มลงเหรอ?ฌอนไม่ใช่คนประเภทที่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นนั้น“ฌอน ตื่นได้แล้ว” แคทเธอรีนก้มศีรษะลงมาหาและ
ขณะแคทเธอรีนช่วยเขาเรื่องกางเกง เธอชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าส่วนนั้นของร่างกายเขาถูกพันผ้าก๊อซไว้เธอกลืนน้ำลาย ดูเหมือนว่าเธอได้พบกับเรื่องน่าตกใจเข้าให้ทําไมส่วนนั้นของร่างกายเขาถึงห่อหุ้มผ้าก๊อซไว้? เป็นไปได้ไหมว่า... พิการ?เธออดไม่ได้ที่จะพิสูจน์มัน แต่ทว่ามันไม่ตอบสนองเอาเลยจริง ๆในอดีตเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเธอใจหายไปสองสามวินาทีก่อนจะอ้าปากค้างประหลาดใจ ทําไมส่วนนั้นถึงขั้นพิการโดยไม่มีเหตุผลได้?นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาทรุดโทรม เมา และมืดมนไร้ชีวิตชีวาสินะ?ดูเหมือนเข้าใจได้ว่าสําหรับผู้ชายนี่คงเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเขาที่ให้ความสําคัญกับความต้องการของเขามาก่อนอย่างมากไม่แปลกใจเลยที่จู่ ๆ วันนั้นเขาก็บอกว่าในชีวิตนี้เขาจะไม่แต่งงานหรือมีลูก ที่จริงไม่มีทางที่เขาจะแต่งงานหรือมีลูกได้ในสภาพนี้ เขาจำต้อง... ลงเอยอยู่คนเดียวแคทเธอรีนมองที่ใบหน้าของเขาซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผล น่าแปลก...เธอรู้สึกขัดแย้งในใจเธอควรจะมีความสุขมากกับเรื่องนี้จนจุดประทัดฉลองสิ นี้คือผลกรรมตามสนองของเขา เป็นความผิดของเขาที่ทําให้เธอทุกข์ใจมากทว่าเธอกลับรู้สึกรับไม่ได้นั้นแหละเหตุว่าท
“นายแน่ใจนะ?” ฌอนพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่มีความแค้นเคืองอะไรกับโทมัสเลย”“นายแน่ใจหรือว่าไม่มี?” เชสเตอร์เตือนเขา“นายกําลังพูดถึงการเลิกราของฉันกับซาร่าอยู่เหรอ?” ถึงฌอนประหลาดใจแต่แววตาความไม่พอใจของเขาก็ปรากฏขึ้นมาเขาไม่คิดว่าเขาติดค้างอะไรกับซาร่า ท้ายที่สุดพี่น้องนีสันก็มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอยู่เบื้องหลังยัอนไปหลายเหตุการณ์หลังจากเขากลับมาคืนดีกับแคทเธอรีนเชสเตอร์ถอนหายใจ “ฉันไม่แน่ใจ ฉันพูดได้แค่ว่าโทมัสไม่เคยเป็นคนดีมาตั้งแต่แรก คนอย่างเขามีแต่จะคอยรับความช่วยเหลือของนายเท่านั้นแหละ แต่แล้วพอนายไม่ช่วยเขาก็กลับเป็นเกลียดนายแทน”"เขาทําแบบมีวัตถุประสงค์" ฌอนเข้าใจอย่างรวดเร็ว “มันไม่สะดวกที่เขาจะทําเองเพราะเขากลัวว่าจะทําให้พวกนายขุ่นเคือง ดังนั้นเขาจึงยุยงให้ไซม่อนมาแทนไงล่ะ”“ฉันก็สังหรณ์ใจว่าเป็นอย่างนั้นแหละ เมื่อตอนเขาวางยาเฟรยาครั้งที่แล้ว ร็อดนีย์ต้องการสั่งสอนเขา แต่เขาก็หนีไปต่างประเทศ ฉันเดาว่าเขากลับมาโดยคิดว่าความโกรธของร็อดนีย์คงบรรเทาลงแล้ว และมันกว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น” เชสเตอร์กล่าวว่า “นายเป็นพี่น้องของฉันดังนั้นฉันจะลุกขึ้นสู้เพื่อนา
เวสลีย์สตาร์ทรถด้วยสีหน้าโกรธจนบูดเบี้ยว ระหว่างทางเขาโทรหาเรจิน่า “ไปรอผมที่ห้องชุดในสํานักงาน ด้วย"เขาอยากได้ผู้หญิงสักคน ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงทนอดกลั้นความรู้สึกโกรธที่อยู่ในใจไม่ไหวเมื่อเขาใกล้ถึงอาคารสำนักงานบริษัท โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกแล้ว“ประธานลียงส์ คุณกำลังถูกโลแกนติดตาม”โลแกนเหรอ?เวสลีย์ตกใจมาก “เขาตามฉันมานานแค่ไหนแล้ว?“ตั้งแต่คุณออกจากฮัดสัน คอร์ปอเรชั่น เขาระวังตัวมาก ถ้าเราไม่ได้ส่งคนไปสังเกตเขากับออสตินไว้ตั้งแต่แรก ผมก็คงไม่ทันสังเกตเห็นหรอก”"ผมเข้าใจแล้ว" เวสลีย์กํามือบนโทรศัพท์แน่น แล้วจากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชาโลแกนเชื่อฟังแคทเธอรีนคนเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าแคทเธอรีนได้ขอให้โลแกนมาตามสืบเขาเธอสงสัยอะไรบางอย่างเหรอ?ไม่มีเหตุผลเลย เวสลีย์ระมัดระวังตัวแจมาโดยตลอด แล้วมันผิดพลาดตรงไหน?ดูท่าว่าความสําคัญสูงสุดของเขาคือการขจัดข้อสงสัยที่เธอมีต่อเขา เขาจึงโทรหาเรจิน่าอีกที “เธอไม่ต้องไปที่สํานักงานนั่นแล้วและช่วงนี้ก็ไม่ต้องมารอฉันด้วยล่ะ แคทเธอรีนเริ่มสงสัยบางอย่างแล้ว”เรจิน่าอดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ว่า “ประธานลียงส์คะเธออยากสงสัยอ
“ฉันมีอย่างอื่นอีกต้องทำค่ะ แค่นี้นะ...”แคทเธอรีนสังเกตว่าทางนั้นเงียบอีกแล้ว เธอจึงพูดแบบนั้น“แคธี่...” จู่ ๆ ฌอนร้องเรียกเธอ เธอได้ยินเสียงหายใจแรงของเขา "คุณ... เห็นทุกอย่างไหม?"“...”ความลําบากใจแผ่ซ่านเต็มหน้าแคทเธอรีน เธอบอกได้ไหมนะว่าเธอไม่เห็นมันหรอก?“"คุณกําลังพูดถึงเรื่องนั้นเหรอคะ?" สักพักเธอถึงพูดออกมาได้ “แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระของฉันอยู่ดีค่ะ”หัวใจของฌอนถูกกระชากหลุดลอยไม่ใช่ธุระของเธอเหรอ คำพูดของเธอไร้หัวใจเหลือเกิน"คุณพูดถูก" เขายิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันตัวเอง “ผมไม่มีสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งในโลกของคุณอีกต่อไปแล้ว”แคทเธอรีนรู้สึกประหลาดใจ ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงจะอารมณ์เสียโวยวาย หรือข้อที่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่จุดนั้นจึงทำให้บุคลิกของเขาเปลี่ยนไป?อันที่จริงเธอก็อยากถามว่าเขากลายเป็นแบบนั้นได้ยังไง เธอกําลังจะพูดอยู่ทีเดียวแต่แล้วเธอก็หยุดเพราะกลัวเขาจะคิดว่าเธอยังเป็นห่วงเขาอยู่ฌอนกล่าว “ผมไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่โทรหาคุณหรอกครับ ผมแค่อยากจะกล่าวขอบคุณเท่านั้นเอง ลาก่อน ทํางานของคุณต่อไปผมจะไม่รบกวนคุณละครับ”หลังจากวางสายแล้วแคทเธอรีนก็ประหลาดใจไปพักใหญ่ น้
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก