Share

บทที่ 2

Author: เสี่ยวซื่อเว่ย
ร่างของฉันแหลกเป็นชิ้นกองอยู่บนพื้น

จนดูสภาพของฉันไม่ออกแล้ว

และวิญญาณของฉันกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศมองลงมาดูร่างกายของตัวเอง

ฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจเท่าไร ความตายนับเป็นการปลดปล่อยสำหรับฉันในตอนนี้

ฉันไม่รู้ว่าล่องลอยอยู่นานแค่ไหนจนกระทั่งจางเฉิงมาถึง

เขาตามตำรวจกลุ่มหนึ่งมา โดยมีหน้าที่ถ่ายภาพบันทึกและเก็บข้อมูลจากคนรอบข้าง

ตำรวจคนหนึ่งพูดว่า “พบดินปืนจำนวนหนึ่งในที่เกิดเหตุ อาจมีใครบางคนทำระเบิดขึ้นมาเอง แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวตนของผู้เสียชีวิตครับ”

จางเฉิงขมวดคิ้ว ขณะที่มองร่างกายของฉัน

หัวใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย และเกิดความคาดหวังแปลก ๆ ขึ้นมา

ถ้าจางเฉิงรู้ว่าเป็นฉัน เขาจะนึกเสียใจภายหลังบ้างไหม?

ฉันมองจางเฉิงอย่างไม่ละสายตาครู่หนึ่ง โดยหวังว่าจะมองเห็นความรู้สึกคุ้นเคยในก้นบึ้งดวงตาของเขา

แต่แล้วจางเฉิงก็ลุกขึ้น โดยที่ไม่แสดงสีหน้าแม้แต่น้อย “ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง ชุดที่สวมดูเป็นแฟชั่นสมัยใหม่ ลองตรวจสอบผู้หญิงช่วงอายุยี่สิบถึงสามสิบที่หายตัวไป”

“ให้ฝ่ายนิติเวชเข้ามาเถอะ”

หัวใจของฉันดิ่งลงเหวอีกครั้ง จางเฉิงไม่รู้ว่าเป็นฉัน

ก็จริง เขาไม่เคยสนใจฉันเลย แล้วจะจำฉันได้อย่างไร?

หลังจากตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศพของฉันก็ถูกนำกลับไปที่สถานีตำรวจ

วิญญาณของฉันก็ล่องลอยตามไปด้วย และมานั่งอยู่ที่เบาะหลังรถของจางเฉิง

จางเฉิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ส่วนคนที่ขับรถอยู่คือหวังฉู่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาทั้งยังเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาด้วย

หวังฉู่พูด “พี่จาง พี่ไม่ได้เปิดโทรศัพท์เหรอ? เมื่อกี้ผู้กำกับโทรหาผมให้ตามตัวพี่มาที่นี่ด้วย”

จางเฉิงขมวดคิ้ว ราวกับนึกถึงเรื่องที่ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

“เป็นเพราะฟางซูน่ะสิ ทำตัวน่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว ฉันเคยเตือนเธอแล้วว่าอย่าโทรหาฉันในเวลาทำงาน แต่เธอก็ไม่เคยฟังเลย”

แม้คำพูดเหล่านี้ฉันจะฟังจนชินนานแล้ว

แต่เมื่อเห็นสีหน้าน่ารังเกียจที่แสดงออกบนใบหน้าของจางเฉิง ฉันก็ยังรู้สึกหายใจไม่ออก ราวกับหัวใจถูกบีบรัด

หวังฉู่ถอนหายใจ “พี่จาง พี่สะใภ้อาจจะแค่เป็นห่วงพี่ พี่ก็อย่าโกรธเธอนักเลย”

จางเฉิงแค่นเสียง และไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากเขาเปิดโทรศัพท์ สิ่งแรกที่เด้งขึ้นมาก็คือข้อความของฉัน

หัวใจของฉันกระตุก จางเฉิงจะรู้ไหมว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับฉัน?

คาดไม่ถึงว่าสีหน้าของเขากลับดูไม่น่ามองเป็นอย่างมาก “นี่เรียกว่าเป็นห่วงเหรอ? ลาก่อนเนี่ยนะ?”

จางเฉิงโทรหาฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่อาจรับสายได้อีกแล้ว

เมื่อเห็นว่าโทรไม่ติด สีหน้าของจางเฉิงก็ดูแย่ลงกว่าเดิม “ได้ ฟางซู ทางที่ดีขอเธอไปให้พ้นหน้าฉันตลอดเลยเถอะ อย่ากลับมาอีกนะ”

พูดจบ เขาก็บล็อกเบอร์ของฉันโดยไม่ลังเล

ไม่รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันหรือไม่

ความเจ็บปวดในหัวใจค่อย ๆ กลายเป็นความเฉยชา และฉันก็ไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใดอีก

ฉันควรรู้นานแล้ว

จางเฉิงไม่เคยสนใจฉันเลย และเขายังไม่อยากนึกถึงฉันเลยด้วย

ฉันตายไปแล้ว ยังจะโอบกอดความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงแบบนี้อยู่อีกเหรอ?

ฉันตามศพมาถึงสถานีตำรวจ จางเฉิงก็เข็นฉันเข้าไปชันสูตรพลิกศพ

วิญญาณของฉันซึ่งยังอยู่ด้านนอก ตามการเคลื่อนไหวของจางเฉิงไป และเฝ้ามองศพของฉันถูกจางเฉิงชันสูตรด้วยตาตัวเอง

ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่เจอเขา วิญญาณของฉันก็มาอยู่ข้างกายเขา โดยไม่อาจไปที่ไหน และไม่อาจหนีไปได้เลย

Related chapters

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 3

    ไม่นานผลการชันสูตรก็ออกมา“ผู้เสียชีวิตอายุประมาณยี่สิบหกปี คนที่ลักพาตัวน่าจะเกลียดชังเธอมาก ก่อนตายเธอถูกทรมานอย่างหนัก และสุดท้ายก็ตายเพราะระเบิด”“ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้เสียชีวิตตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”ทันทีที่จบประโยคนี้ ทุกคนก็ตกลงสู่ความเงียบงันถูกทรมาน ตายเพราะระเบิด หนึ่งศพมีถึงสองชีวิตเมื่อทุกคำถูกนำมารวมกันก็สร้างความสะเทือนใจให้ทุกคนฉันที่ได้ยินคำพูดของจางเฉิงก็ชะงักไป และมองท้องของฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อฉันตั้งท้องเหรอ?เด็กยังเล็กมาก ถึงขั้นที่ฉันไม่รู้การมีตัวตนของเขาด้วยซ้ำ แต่เขากลับถูกบังคับให้ต้องจากโลกนี้ไปแล้วน้ำตาของฉันไหลรินออกมาทีละหยดจางเฉิงทำเพียงถอนหายใจ“เป็นคนที่น่าสงสาร หวังว่าพวกคุณจะใช้เวลาใช้คุ้มค่า พยายามคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อความเป็นธรรมของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ผมยังไม่มีคดีในมือ สามารถทำคดีนี้กับพวกคุณได้พอดี”ฉันมองจางเฉิง ก่อนจะหัวเราะเยาะถ้าเขารู้ว่าผู้เสียชีวิตคือฉัน เขาจะยังพูดแบบนี้ไหม?หลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จ เขากับหวังฉู่ก็มานั่งยอง ๆ สูบบุหรี่ที่สวนหวังฉู่โน้มน้าวเขาว่า “พี่จาง คู่รักกันจะมาทะเลาะกันทำไม พี่ส

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 4

    ฉันชะงักไป และน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งขอโทษค่ะคุณพ่อคุณแม่ ลูกสาวคนนี้มีแต่ต้องตอบแทนบุญคุณชาติหน้าแล้วจางเฉิงที่ไม่ได้นอนมาหลายคืน ตอนนี้กำลังรู้สึกหงุดหงิดมาก“ลูกสาวคุณหายก็ไปตามหาเองสิ จะโทรหาผมทำไม?”“ตอนนี้ผมกำลังทำคดีอยู่”เพราะความกังวล พ่อของฉันจึงไม่ได้สนใจน้ำเสียงที่หมดความอดทนของจางเฉิง “นายไม่ได้เป็นหมอนิติเวชเหรอ? พ่อต้องการแจ้งความ รีบไปตามหาซูซูเถอะ เธอหายตัวไปจริง ๆ และไม่ได้รับสายพ่อมาหลายวันแล้วด้วย!”จางเฉิงยิ่งหมดความอดทนมากขึ้น สีหน้าจึงมืดครึ้มมาก “ก่อนลูกสาวคุณหายตัวไปยังส่งข้อความมาหาผมอยู่เลย บอกว่าผมจะไม่ได้เจอเธออีก ไม่มีคนหายที่ไหนเป็นแบบนี้หรอก เธอก็แค่ไปซ่อนตัวเท่านั้น”“อีกอย่างผมเป็นหมอนิติเวชไม่ใช่ตำรวจ ผมแค่รับผิดชอบเรื่องคดี ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องคนหาย”“อีกอย่าง ถ้าลูกสาวคุณปรากฏตัวมาเมื่อไร ผมจะขอเลิกกับเธอ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องเอาเรื่องของเธอมาบอกผมอีก ผมไม่สามารถใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเธอได้!”เดินทีฉันยังอยากฟังเสียงของพ่อแม่มากกว่านี้ แต่จางเฉิงกลับวางสายไปแล้วฉันตะโกนให้จางเฉิงโทรกลับไปอีกครั้งฉันอยากบอกให้พ่อแม่อย่าเสียใจ

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 5

    หวังฉู่รับที่อยู่มา และรีบเดินทางไปหาหวังเหยี่ยที่อยู่เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง เมื่อเห็นที่นี่แล้ว ทั้งร่างของฉันก็เริ่มสั่นเทาโดยไม่รู้ตัวตอนแรกฉันก็ถูกหวังเหยี่ยลักพาตัวมาที่นี่ และถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมเขาให้ฉันบอกที่อยู่ของจางเฉิง แต่ให้ตายฉันก็ไม่บอกสุดท้ายเขาก็มัดฉันไว้กับระเบิด และพาฉันไปที่โกดังร้างแถวชานเมืองหวังฉู่มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีคนอยู่ ก็เตะประตูเปิดออกฉันเข้าไปในบ้านหลังนั้น หวังเหยี่ยได้ทำลายหลักฐานการทรมานฉันในบ้านนี้ทิ้งไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงไม่เหลือเบาะแสอะไรอยู่เลยหวังฉู่เดินไปรอบ ๆ บ้านในที่สุดฉันก็พบกระดุมเม็ดหนึ่งที่มุมตู้ นั่นคือกระดุมบนชุดของฉันขอเพียงจางเฉิงพบมัน ก็จะระบุตัวคนร้ายได้ฉันขยับตัวไปมาสุดชีวิต พยายามเรียกร้องความสนใจจากทั้งสองคนแต่ตั้งแต่ต้นจนจบมันก็ไร้ผล พวกเขาไม่เห็นมัน และสุดท้ายก็ออกไปจากบ้านหลังออกมา หวังฉู่ก็คุยกับจางเฉิงว่า “ไม่พบร่องรอยการทำระเบิดเลย หรือจะไม่ใช่เขา?”จางเฉิงส่ายศีรษะ “พูดยาก ถึงยังไงก็เกิดคดีมาหลายวันแล้ว ใครจะรู้ว่าเขากลับมาทำลายร่องรอยทิ้งไปแล้วหรือเปล่า ยิ่งไปกว่

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 6

    ฉันน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดตอนนี้ฉันนึกเสียใจจริง ๆ นึกเสียใจที่ได้เจอกับจางเฉิง ทั้งยังนึกเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และยิ่งนึกเสียใจที่ฉันทะเลาะกับพ่อก่อนตายเพียงเพราะฉันกับจางเฉิงคบกันมาหลายปี แต่เขากลับไม่ยอมแต่งงานกับฉันพ่อฉันโน้มน้าวให้ฉันเลิกกับเขา แต่ฉันกลับทะเลาะกับพวกเขาเสียใหญ่โตพวกเขาไม่เคยคิดทำร้ายฉัน เป็นฉันที่ทำร้ายตัวเองเฝ้ามองแผ่นหลังของพ่อแม่ที่งอตัว และพยุงกันจากไปฉันก็รู้สึกเกลียดจางเฉิงมาก ทั้งยังเกลียดหวังเหยี่ย และยิ่งเกลียดตัวเองมากกว่าหลังจากจางเฉิงปิดประตู ก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะโทรหาฉันโทรศัพท์ยังคงโทรไม่ติด เขาจึงส่งข้อความเสียงแทน“ฟางซู เธอหยุดสร้างปัญหาได้ไหม พ่อแม่เธออายุตั้งเท่าไรยังต้องมาคอยกังวลเรื่องของเธออีก เธอยังเป็นคนอยู่ไหม?”หลังจากวางสาย เขาก็รีบตรงไปที่สถานีตำรวจ ก่อนจะชนเข้ากับหวังฉู่หวังฉู่บอกว่าคนที่เฝ้าอยู่ที่บ้านของหวังเหยี่ย รายงานว่าหวังเหยี่ยยังไม่กลับบ้านจางเฉิงส่ายศีรษะ “คนนี้ทำตัวไม่ปกติ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรทำไมถึงไม่กลับบ้านล่ะ?”หวังฉู่พูด “อืม ดังนั้นพวกเราก็เลยระบุว่าหวังเหยี่ยเป็นผู้ต้องสงสัย และทำการต

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 7

    ทันใดนั้นโทรศัพท์ของจางเฉิงก็ดังขึ้นอีกครั้งเขารับโทรศัพท์ราวกับร่างไร้วิญญาณ “ฮัลโหล?”ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องแหลมสูงของผู้หญิงดังออกมา “พี่จางเฉิง ช่วยด้วย! มีคนลักพาตัวฉันมา!”“คนร้ายบอกให้พี่มาเดี๋ยวนี้ พี่รีบมาช่วยฉันที ที่ตัวฉันมีระเบิดด้วย!”เสียงนี้มาจากอู๋เชี่ยนจางเฉิงชะงักไป ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนิติเวช “แบ่งคนตามฉันไปช่วยคน หวังเหยี่ยโผล่หัวมาแล้ว!”อู๋เชี่ยนได้ยินการเตรียมการของจางเฉิง ก็ปฏิเสธซ้ำไปมา “ไม่ ไม่ ไม่ พี่ต้องมาด้วยตัวเอง คนร้ายบอกว่าถ้าพี่พาคนอื่นมาด้วย จะระเบิดฉันทันที ฉันกลัว”จางเฉิงขึ้นรถไปตัวคนเดียว ก่อนจะขับไปยังสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกแต่ตำรวจก็ตามหลังมาห่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอะไรขึ้นฉันนั่งอยู่บนรถของจางเฉิง สีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกอาจพูดได้ว่าตอนนี้ในใจของเขาตายด้านไปแล้ว จนไม่อาจตอบสนองต่อเรื่องใดรอบตัวได้เลย และเพียงแค่ทำตามหน้าที่ในฐานะตำรวจของตัวเองไปตามกลไกของร่างกายเท่านั้นจางเฉิงเหยียบคันเร่งจนสุด และมาถึงสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนดังมาจากที่ไกล ๆจางเฉิงเดินไปตามเส

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 8

    ดวงตาของจางเฉิงเฉยชา ราวกับมองไม่เห็นอะไรเขาอยากจะทุบตีหวังเหยี่ยให้ตายเป็น ๆแต่เสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนก็ดังขึ้นมา “จางเฉิง ระเบิดเหลือเวลาอีกห้านาที มาช่วยฉันก่อน!”ตอนนี้เองที่จางเฉิงเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวกลับมา และรีบไปปลดระเบิดออกจากร่างของอู๋เชี่ยนหวังเหยี่ยลุกก็ขึ้นมา ในมือถือรีโมทควบคุมไว้ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด“พวกเราไปลงนรกด้วยกันเถอะ”ในช่วงเวลาคับขันนี้ ตำรวจที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งเข้ามายิงหวังเหยี่ยจนตายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาช่วยปลดระเบิดออกจากตัวอู๋เชี่ยนเวลาของระเบิดที่ถูกปลดออกยังไม่ได้หยุดเดินทันที และหลังจากอู๋เชี่ยนได้ปลดจากระเบิดแล้วก็วิ่งหนีออกไปนอกโกดังทันที เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกระเบิดตายหวังฉู่ดึงจางเฉิง “พี่จาง พวกเรารีบไปเถอะ ระเบิดเหลืออีกสามนาทีก็จะทำงานแล้วนะ”คนส่วนใหญ่ต่างรีบหนีออกไปข้างนอก แต่จางเฉิงยังยืนอยู่ที่เดิมมองระเบิดอย่างงงงวยหวังฉู่กัดฟัน พยายามลากจางเฉิงออกไปจากโกดังวินาทีต่อมา ระเบิดภายในโกดังก็ทำงานแรงระเบิดเป็นเหมือนที่หวังเหยี่ยบอก ทั้งโกดังถูกทำให้เหลือแต่ซากในชั่วขณะสุดท้ายหวังฉู่ที่ทับร่างของจางเฉิงไว้ ก่อนจะถูกแ

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 9

    หนึ่งปีต่อมา จางเฉิงก็เตรียมจะแต่งงานกับอู๋เชี่ยนพูดให้ถูกคือ อู๋เชี่ยนทั้งยุ่งและกระตือรือร้นอยู่ฝ่ายเดียวแต่จางเฉิงเอาตัวเองโยนเข้าไปในคดีที่สถานีตำรวจโดยสมบูรณ์ จนยุ่งทั้งวันทั้งคืนหวังฉู่เห็นเขามีท่าทีแบบนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง จึงคิดจะโน้มน้าวให้จางเฉิงพักผ่อนจางเฉิงกลับเอาแต่ส่ายหน้าตลอด ก่อนจะมองศพต่อ และใช้เวลาอยู่ในห้องนิติเวชทุกวันหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ฉันยังคงตามเขาอยู่ และเห็นจางเฉิงแสร้งทำเหมือนไม่เป็นไรในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับกอดรูปของฉันร้องไห้อย่างเจ็บปวดทั้งยังคอยพร่ำบอกว่ารักฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากนั้นก็ขอโทษแต่ฉันกลับไม่มีความรู้สึกอะไร และถึงขั้นที่ไม่รู้สึกเกลียดเขาแล้วด้วยซ้ำฉันแค่อยากไปจากเขาแต่ฉันลองทุกวิถีทางแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่ต้นจนจบมีพลังลึกลับบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องคอยอยู่ข้างกายเขาฉันค่อย ๆ หมดหวังไป บางทีฉันกับจางเฉิงอาจมีเวรกรรมต่อกัน และฉันคงได้หลุดพ้นหลังจากที่เขาตายหวังฉู่ทนไม่ไหวจึงรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้ผู้กำกับทราบ ผู้กำกับจึงมีคำสั่งบังคับให้จางเฉิงพักหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมงานแต่งงานเพราะอู๋เชี่ยนได้นำขนม

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 10

    หลังจากจ้องมองอยู่สักพัก จางเฉิงก็หยิบโทรศัพท์ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำในที่สุดฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ขอเพียงทำให้จางเฉิงพบความจริง ฉันก็จะหลุดพ้นได้แล้วห้องน้ำของร้านชุดแต่งงานไม่ได้แยกชายหญิง ดังนั้นไม่ว่าใครก็เข้าได้ทั้งนั้นได้ยินเสียงของอู๋เชี่ยนพูดอย่างภาคภูมิใจ “ตอนแรกฉันคิดจะให้หวังเหยี่ยไประเบิดฟางซูตาย เพื่อให้ระบายความแค้นไปบ้าง ใครจะไปคิดว่าฟางซูไม่ได้เรื่อง จางเฉิงไม่ได้รักเธอสักนิด คนที่เขารักที่สุดก็คือฉัน ดังนั้นสุดท้ายหวังเหยี่ยก็ต้องลักพาตัวฉันไปอีกครั้ง”“เสียแรงที่ฉันเล่าให้หวังเหยี่ยฟังอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก น่าเสียดาย”จางเฉิงได้ยินแบบนั้นก็หันหลังกลับไปที่ล็อบบี้ของร้านชุดแต่งงานฉันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า ฉันตามติดจางเฉิงต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่กลับมาอยู่ข้างตัวอู๋เชี่ยนแทนมุมมองเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันขณะที่อู๋เชี่ยนกับเพื่อนกลับไปที่ล็อบบี้ จางเฉิงก็กำลังเลือกชุดแต่งงานอยู่เมื่อเห็นเธอออกมา จางเฉิงก็ยิ้ม “ที่รัก ชุดที่เธอใส่เมื่อกี้สวยมาก พวกเราสั่งตัวนี้ไปเลยเถอะ”อู๋เชี่ยนแปลกใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นก็เผยรอยยิ้มหวานออกมา“แล้วแต่ที่รักเถอะ ชุ

Latest chapter

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 10

    หลังจากจ้องมองอยู่สักพัก จางเฉิงก็หยิบโทรศัพท์ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำในที่สุดฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ขอเพียงทำให้จางเฉิงพบความจริง ฉันก็จะหลุดพ้นได้แล้วห้องน้ำของร้านชุดแต่งงานไม่ได้แยกชายหญิง ดังนั้นไม่ว่าใครก็เข้าได้ทั้งนั้นได้ยินเสียงของอู๋เชี่ยนพูดอย่างภาคภูมิใจ “ตอนแรกฉันคิดจะให้หวังเหยี่ยไประเบิดฟางซูตาย เพื่อให้ระบายความแค้นไปบ้าง ใครจะไปคิดว่าฟางซูไม่ได้เรื่อง จางเฉิงไม่ได้รักเธอสักนิด คนที่เขารักที่สุดก็คือฉัน ดังนั้นสุดท้ายหวังเหยี่ยก็ต้องลักพาตัวฉันไปอีกครั้ง”“เสียแรงที่ฉันเล่าให้หวังเหยี่ยฟังอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก น่าเสียดาย”จางเฉิงได้ยินแบบนั้นก็หันหลังกลับไปที่ล็อบบี้ของร้านชุดแต่งงานฉันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า ฉันตามติดจางเฉิงต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่กลับมาอยู่ข้างตัวอู๋เชี่ยนแทนมุมมองเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันขณะที่อู๋เชี่ยนกับเพื่อนกลับไปที่ล็อบบี้ จางเฉิงก็กำลังเลือกชุดแต่งงานอยู่เมื่อเห็นเธอออกมา จางเฉิงก็ยิ้ม “ที่รัก ชุดที่เธอใส่เมื่อกี้สวยมาก พวกเราสั่งตัวนี้ไปเลยเถอะ”อู๋เชี่ยนแปลกใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นก็เผยรอยยิ้มหวานออกมา“แล้วแต่ที่รักเถอะ ชุ

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 9

    หนึ่งปีต่อมา จางเฉิงก็เตรียมจะแต่งงานกับอู๋เชี่ยนพูดให้ถูกคือ อู๋เชี่ยนทั้งยุ่งและกระตือรือร้นอยู่ฝ่ายเดียวแต่จางเฉิงเอาตัวเองโยนเข้าไปในคดีที่สถานีตำรวจโดยสมบูรณ์ จนยุ่งทั้งวันทั้งคืนหวังฉู่เห็นเขามีท่าทีแบบนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง จึงคิดจะโน้มน้าวให้จางเฉิงพักผ่อนจางเฉิงกลับเอาแต่ส่ายหน้าตลอด ก่อนจะมองศพต่อ และใช้เวลาอยู่ในห้องนิติเวชทุกวันหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ฉันยังคงตามเขาอยู่ และเห็นจางเฉิงแสร้งทำเหมือนไม่เป็นไรในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับกอดรูปของฉันร้องไห้อย่างเจ็บปวดทั้งยังคอยพร่ำบอกว่ารักฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากนั้นก็ขอโทษแต่ฉันกลับไม่มีความรู้สึกอะไร และถึงขั้นที่ไม่รู้สึกเกลียดเขาแล้วด้วยซ้ำฉันแค่อยากไปจากเขาแต่ฉันลองทุกวิถีทางแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่ต้นจนจบมีพลังลึกลับบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องคอยอยู่ข้างกายเขาฉันค่อย ๆ หมดหวังไป บางทีฉันกับจางเฉิงอาจมีเวรกรรมต่อกัน และฉันคงได้หลุดพ้นหลังจากที่เขาตายหวังฉู่ทนไม่ไหวจึงรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้ผู้กำกับทราบ ผู้กำกับจึงมีคำสั่งบังคับให้จางเฉิงพักหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมงานแต่งงานเพราะอู๋เชี่ยนได้นำขนม

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 8

    ดวงตาของจางเฉิงเฉยชา ราวกับมองไม่เห็นอะไรเขาอยากจะทุบตีหวังเหยี่ยให้ตายเป็น ๆแต่เสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนก็ดังขึ้นมา “จางเฉิง ระเบิดเหลือเวลาอีกห้านาที มาช่วยฉันก่อน!”ตอนนี้เองที่จางเฉิงเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวกลับมา และรีบไปปลดระเบิดออกจากร่างของอู๋เชี่ยนหวังเหยี่ยลุกก็ขึ้นมา ในมือถือรีโมทควบคุมไว้ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด“พวกเราไปลงนรกด้วยกันเถอะ”ในช่วงเวลาคับขันนี้ ตำรวจที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งเข้ามายิงหวังเหยี่ยจนตายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาช่วยปลดระเบิดออกจากตัวอู๋เชี่ยนเวลาของระเบิดที่ถูกปลดออกยังไม่ได้หยุดเดินทันที และหลังจากอู๋เชี่ยนได้ปลดจากระเบิดแล้วก็วิ่งหนีออกไปนอกโกดังทันที เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกระเบิดตายหวังฉู่ดึงจางเฉิง “พี่จาง พวกเรารีบไปเถอะ ระเบิดเหลืออีกสามนาทีก็จะทำงานแล้วนะ”คนส่วนใหญ่ต่างรีบหนีออกไปข้างนอก แต่จางเฉิงยังยืนอยู่ที่เดิมมองระเบิดอย่างงงงวยหวังฉู่กัดฟัน พยายามลากจางเฉิงออกไปจากโกดังวินาทีต่อมา ระเบิดภายในโกดังก็ทำงานแรงระเบิดเป็นเหมือนที่หวังเหยี่ยบอก ทั้งโกดังถูกทำให้เหลือแต่ซากในชั่วขณะสุดท้ายหวังฉู่ที่ทับร่างของจางเฉิงไว้ ก่อนจะถูกแ

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 7

    ทันใดนั้นโทรศัพท์ของจางเฉิงก็ดังขึ้นอีกครั้งเขารับโทรศัพท์ราวกับร่างไร้วิญญาณ “ฮัลโหล?”ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องแหลมสูงของผู้หญิงดังออกมา “พี่จางเฉิง ช่วยด้วย! มีคนลักพาตัวฉันมา!”“คนร้ายบอกให้พี่มาเดี๋ยวนี้ พี่รีบมาช่วยฉันที ที่ตัวฉันมีระเบิดด้วย!”เสียงนี้มาจากอู๋เชี่ยนจางเฉิงชะงักไป ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนิติเวช “แบ่งคนตามฉันไปช่วยคน หวังเหยี่ยโผล่หัวมาแล้ว!”อู๋เชี่ยนได้ยินการเตรียมการของจางเฉิง ก็ปฏิเสธซ้ำไปมา “ไม่ ไม่ ไม่ พี่ต้องมาด้วยตัวเอง คนร้ายบอกว่าถ้าพี่พาคนอื่นมาด้วย จะระเบิดฉันทันที ฉันกลัว”จางเฉิงขึ้นรถไปตัวคนเดียว ก่อนจะขับไปยังสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกแต่ตำรวจก็ตามหลังมาห่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอะไรขึ้นฉันนั่งอยู่บนรถของจางเฉิง สีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกอาจพูดได้ว่าตอนนี้ในใจของเขาตายด้านไปแล้ว จนไม่อาจตอบสนองต่อเรื่องใดรอบตัวได้เลย และเพียงแค่ทำตามหน้าที่ในฐานะตำรวจของตัวเองไปตามกลไกของร่างกายเท่านั้นจางเฉิงเหยียบคันเร่งจนสุด และมาถึงสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนดังมาจากที่ไกล ๆจางเฉิงเดินไปตามเส

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 6

    ฉันน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดตอนนี้ฉันนึกเสียใจจริง ๆ นึกเสียใจที่ได้เจอกับจางเฉิง ทั้งยังนึกเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และยิ่งนึกเสียใจที่ฉันทะเลาะกับพ่อก่อนตายเพียงเพราะฉันกับจางเฉิงคบกันมาหลายปี แต่เขากลับไม่ยอมแต่งงานกับฉันพ่อฉันโน้มน้าวให้ฉันเลิกกับเขา แต่ฉันกลับทะเลาะกับพวกเขาเสียใหญ่โตพวกเขาไม่เคยคิดทำร้ายฉัน เป็นฉันที่ทำร้ายตัวเองเฝ้ามองแผ่นหลังของพ่อแม่ที่งอตัว และพยุงกันจากไปฉันก็รู้สึกเกลียดจางเฉิงมาก ทั้งยังเกลียดหวังเหยี่ย และยิ่งเกลียดตัวเองมากกว่าหลังจากจางเฉิงปิดประตู ก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะโทรหาฉันโทรศัพท์ยังคงโทรไม่ติด เขาจึงส่งข้อความเสียงแทน“ฟางซู เธอหยุดสร้างปัญหาได้ไหม พ่อแม่เธออายุตั้งเท่าไรยังต้องมาคอยกังวลเรื่องของเธออีก เธอยังเป็นคนอยู่ไหม?”หลังจากวางสาย เขาก็รีบตรงไปที่สถานีตำรวจ ก่อนจะชนเข้ากับหวังฉู่หวังฉู่บอกว่าคนที่เฝ้าอยู่ที่บ้านของหวังเหยี่ย รายงานว่าหวังเหยี่ยยังไม่กลับบ้านจางเฉิงส่ายศีรษะ “คนนี้ทำตัวไม่ปกติ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรทำไมถึงไม่กลับบ้านล่ะ?”หวังฉู่พูด “อืม ดังนั้นพวกเราก็เลยระบุว่าหวังเหยี่ยเป็นผู้ต้องสงสัย และทำการต

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 5

    หวังฉู่รับที่อยู่มา และรีบเดินทางไปหาหวังเหยี่ยที่อยู่เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง เมื่อเห็นที่นี่แล้ว ทั้งร่างของฉันก็เริ่มสั่นเทาโดยไม่รู้ตัวตอนแรกฉันก็ถูกหวังเหยี่ยลักพาตัวมาที่นี่ และถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมเขาให้ฉันบอกที่อยู่ของจางเฉิง แต่ให้ตายฉันก็ไม่บอกสุดท้ายเขาก็มัดฉันไว้กับระเบิด และพาฉันไปที่โกดังร้างแถวชานเมืองหวังฉู่มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีคนอยู่ ก็เตะประตูเปิดออกฉันเข้าไปในบ้านหลังนั้น หวังเหยี่ยได้ทำลายหลักฐานการทรมานฉันในบ้านนี้ทิ้งไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงไม่เหลือเบาะแสอะไรอยู่เลยหวังฉู่เดินไปรอบ ๆ บ้านในที่สุดฉันก็พบกระดุมเม็ดหนึ่งที่มุมตู้ นั่นคือกระดุมบนชุดของฉันขอเพียงจางเฉิงพบมัน ก็จะระบุตัวคนร้ายได้ฉันขยับตัวไปมาสุดชีวิต พยายามเรียกร้องความสนใจจากทั้งสองคนแต่ตั้งแต่ต้นจนจบมันก็ไร้ผล พวกเขาไม่เห็นมัน และสุดท้ายก็ออกไปจากบ้านหลังออกมา หวังฉู่ก็คุยกับจางเฉิงว่า “ไม่พบร่องรอยการทำระเบิดเลย หรือจะไม่ใช่เขา?”จางเฉิงส่ายศีรษะ “พูดยาก ถึงยังไงก็เกิดคดีมาหลายวันแล้ว ใครจะรู้ว่าเขากลับมาทำลายร่องรอยทิ้งไปแล้วหรือเปล่า ยิ่งไปกว่

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 4

    ฉันชะงักไป และน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งขอโทษค่ะคุณพ่อคุณแม่ ลูกสาวคนนี้มีแต่ต้องตอบแทนบุญคุณชาติหน้าแล้วจางเฉิงที่ไม่ได้นอนมาหลายคืน ตอนนี้กำลังรู้สึกหงุดหงิดมาก“ลูกสาวคุณหายก็ไปตามหาเองสิ จะโทรหาผมทำไม?”“ตอนนี้ผมกำลังทำคดีอยู่”เพราะความกังวล พ่อของฉันจึงไม่ได้สนใจน้ำเสียงที่หมดความอดทนของจางเฉิง “นายไม่ได้เป็นหมอนิติเวชเหรอ? พ่อต้องการแจ้งความ รีบไปตามหาซูซูเถอะ เธอหายตัวไปจริง ๆ และไม่ได้รับสายพ่อมาหลายวันแล้วด้วย!”จางเฉิงยิ่งหมดความอดทนมากขึ้น สีหน้าจึงมืดครึ้มมาก “ก่อนลูกสาวคุณหายตัวไปยังส่งข้อความมาหาผมอยู่เลย บอกว่าผมจะไม่ได้เจอเธออีก ไม่มีคนหายที่ไหนเป็นแบบนี้หรอก เธอก็แค่ไปซ่อนตัวเท่านั้น”“อีกอย่างผมเป็นหมอนิติเวชไม่ใช่ตำรวจ ผมแค่รับผิดชอบเรื่องคดี ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องคนหาย”“อีกอย่าง ถ้าลูกสาวคุณปรากฏตัวมาเมื่อไร ผมจะขอเลิกกับเธอ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องเอาเรื่องของเธอมาบอกผมอีก ผมไม่สามารถใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเธอได้!”เดินทีฉันยังอยากฟังเสียงของพ่อแม่มากกว่านี้ แต่จางเฉิงกลับวางสายไปแล้วฉันตะโกนให้จางเฉิงโทรกลับไปอีกครั้งฉันอยากบอกให้พ่อแม่อย่าเสียใจ

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 3

    ไม่นานผลการชันสูตรก็ออกมา“ผู้เสียชีวิตอายุประมาณยี่สิบหกปี คนที่ลักพาตัวน่าจะเกลียดชังเธอมาก ก่อนตายเธอถูกทรมานอย่างหนัก และสุดท้ายก็ตายเพราะระเบิด”“ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้เสียชีวิตตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”ทันทีที่จบประโยคนี้ ทุกคนก็ตกลงสู่ความเงียบงันถูกทรมาน ตายเพราะระเบิด หนึ่งศพมีถึงสองชีวิตเมื่อทุกคำถูกนำมารวมกันก็สร้างความสะเทือนใจให้ทุกคนฉันที่ได้ยินคำพูดของจางเฉิงก็ชะงักไป และมองท้องของฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อฉันตั้งท้องเหรอ?เด็กยังเล็กมาก ถึงขั้นที่ฉันไม่รู้การมีตัวตนของเขาด้วยซ้ำ แต่เขากลับถูกบังคับให้ต้องจากโลกนี้ไปแล้วน้ำตาของฉันไหลรินออกมาทีละหยดจางเฉิงทำเพียงถอนหายใจ“เป็นคนที่น่าสงสาร หวังว่าพวกคุณจะใช้เวลาใช้คุ้มค่า พยายามคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อความเป็นธรรมของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ผมยังไม่มีคดีในมือ สามารถทำคดีนี้กับพวกคุณได้พอดี”ฉันมองจางเฉิง ก่อนจะหัวเราะเยาะถ้าเขารู้ว่าผู้เสียชีวิตคือฉัน เขาจะยังพูดแบบนี้ไหม?หลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จ เขากับหวังฉู่ก็มานั่งยอง ๆ สูบบุหรี่ที่สวนหวังฉู่โน้มน้าวเขาว่า “พี่จาง คู่รักกันจะมาทะเลาะกันทำไม พี่ส

  • ความรักค่อย ๆ จางหายไป   บทที่ 2

    ร่างของฉันแหลกเป็นชิ้นกองอยู่บนพื้นจนดูสภาพของฉันไม่ออกแล้วและวิญญาณของฉันกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศมองลงมาดูร่างกายของตัวเองฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจเท่าไร ความตายนับเป็นการปลดปล่อยสำหรับฉันในตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าล่องลอยอยู่นานแค่ไหนจนกระทั่งจางเฉิงมาถึงเขาตามตำรวจกลุ่มหนึ่งมา โดยมีหน้าที่ถ่ายภาพบันทึกและเก็บข้อมูลจากคนรอบข้างตำรวจคนหนึ่งพูดว่า “พบดินปืนจำนวนหนึ่งในที่เกิดเหตุ อาจมีใครบางคนทำระเบิดขึ้นมาเอง แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวตนของผู้เสียชีวิตครับ”จางเฉิงขมวดคิ้ว ขณะที่มองร่างกายของฉันหัวใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย และเกิดความคาดหวังแปลก ๆ ขึ้นมาถ้าจางเฉิงรู้ว่าเป็นฉัน เขาจะนึกเสียใจภายหลังบ้างไหม?ฉันมองจางเฉิงอย่างไม่ละสายตาครู่หนึ่ง โดยหวังว่าจะมองเห็นความรู้สึกคุ้นเคยในก้นบึ้งดวงตาของเขาแต่แล้วจางเฉิงก็ลุกขึ้น โดยที่ไม่แสดงสีหน้าแม้แต่น้อย “ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง ชุดที่สวมดูเป็นแฟชั่นสมัยใหม่ ลองตรวจสอบผู้หญิงช่วงอายุยี่สิบถึงสามสิบที่หายตัวไป”“ให้ฝ่ายนิติเวชเข้ามาเถอะ”หัวใจของฉันดิ่งลงเหวอีกครั้ง จางเฉิงไม่รู้ว่าเป็นฉันก็จริง เขาไม่เคยสนใจฉันเลย แล้วจะจำฉั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status