หลังจากที่ฉันได้พิมพ์ตอบกลับไปแล้วฉันก็วางโทรศัพท์มือถือไว้บนหัวเตียงแล้วลุกไปทำธุระส่วนตัวในช่วงเช้าวันใหม่ทันที
.30นาทีต่อมาก็อก ก็อก ก็อก"สกาวตื่นหรือยัง" เสียงพี่สกายมาเคาะห้องเรียกฉันตั้งแต่เช้า"ตื่นแล้วค่ะ หนูขออาบน้ำแต่งตัวแป๊บนึงเพิ่งอาบน้ำเสร็จเดี๋ยวตามออกไปค่ะ" ฉันตอบรับพี่ชายทันทีพร้อมกับมองตัวเองผ่านกระจกตู้เสื้อผ้า รู้สึกว่าร่างกายจะผอมลงทั้ง ๆ ที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ด้านใน พุงน้อย ๆ ของตัวเองแท้ๆ"โอเค อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมพี่จะได้บอกให้แม่ครัวทำให้" สกายก็ยังคงยืนถามน้องสาวตัวเองอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง"ขอข้าวต้มกุ้งรวมหมูค่ะเดี๋ยวหนูออกไปแป๊บนึงนะขอแต่งตัวก่อน" ฉันพูดย้ำกับพี่ชายตัวเองอีกครั้งหลังจากที่บอกในสิ่งที่ต้องการของมื้อเช้าวันนี้"ได้ ๆ พี่ก็มีเรื่องจะคุยและขอร้องเราอยู่เหมือนกันเดี๋ยวรอกินข้าวเสร็จแล้วค่อยคุยแล้วกันนะ" สกายพูดจบก็เดินออกไปเลยโดยไม่ได้สนใจคำตอบรับของน้องสาวตัวเองในห้องอาหาร"พี่มีเรื่องอยากจะให้เราช่วยหน่อยนะ พอดีวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้พี่ติดธุระด่วน แล้วคุณทิวทัศน์ก็ชวนไปร่วมงานวันเกิดลู"ใคร!?" ทิวทัศน์ที่เดินเข้ามาในห้องโถงของตัวบ้านก็ถามน้องชายทันทีและสายตาก็กวาดมองไปเห็นหญิงสาวทั้งสองคนนั่งรออยู่ในภายในห้องโถงแล้ว"สวัสดีค่ะท่านทิวทัศน์ ดิฉันเป็นเลขาของคุณสกายค่ะนำเอกสารสัญญามาส่งให้กับท่านค่ะ คุณสกายมีธุระด่วนและไม่สะดวกมาร่วมงานเลยให้คุณสกาวน้องสาวของคุณสกายมาแทนค่ะ" เลขาสาวที่ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีรีบทักทายและพูดคุยทันที "สวัสดีค่ะท่านทิวทัศน์" สกาวเองก็รีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่พี่ชายของเธอต้องร่วมทำธุรกิจด้วย "สวัสดี ตามสบายเลยนะวันนี้วันเกิดลูกชายลุงเอง" พ่อของหมอทักษ์ ก็รับได้และพูดคุยกับแขกอย่างเป็นกันเองโดยไม่ถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง "ค่ะ" สกาวพยักหน้าตอบรับก่อนจะมองไปรอบๆห้องผมก็เห็นรูปภาพต่างๆของเจ้าของงานถูกประดับเต็มไปหมด "รูปพวกนี้ตั้งแต่ลูกชายลุงยังนอนแบเบาะอยู่เลยนะ แม่เขาคิดอะไรอยู่ไม่รู้เหมือนกัน" ทิวทัศน์ที่เห็นสายตาของเด็กสาวมองสำรวจรูปงานวันเกิดของลูกชายก็พูดขึ้นมาและมองดูรูปของลูกชายตัวเองอย่างภาคภูมิใจ แม้ว่าความคิดนี้จะเป็นของเมียรักก็ตาม "น่ารักดีนะคะ" สกาวพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารูปในวัยเด็กของคุณหมอมีแต่ควา
"อ๊า~ คะคุณหมอคือกาว" สกาวที่กำลังอดกลั้นอยู่ก็อยากจะบอกคุณหมอเหลือเกินว่าเธอปวดฉี่ "ครับมีอะไรหรือเปล่า" หมอทักที่พยายามเอาสำลีก้านกวาดตกขาวที่ค่อย ๆ ลดลงออกก็เงยหน้าขึ้นมาถามหญิงสาวทันที "คือกาวปวดฉี่ค่ะคุณหมอ หยุดก่อนได้ไหมคะ" สกาวบอกกับคุณหมอไปตามตกเพราะเธอเริ่มปวดฉี่จริง ๆ หลังจากถูกกระตุ้นจากสำลีก้านไม้ "ออเดียวหมอสวนสายยางตรงรูทางเดินปัสสาวะให้ครับ" หมอทักษ์มองคนที่กำลังนอนอ้าขาบนแท่นยังอยู่อยางนั้นและขยับไปไหนไม่ได้ "แต่หมอคะคือกาวไม่ได้.." พิการ!? สกาวกำลังบอกคุณหมอแต่ไม่ทันจบประโยคก็ถูกขัดขึ้น "ไม่ต้องกังวลไปหรอก ใส่เข้าไปก็ไม่เจ็บและไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำทั้งที่หมอยังทำงานไม่เสร็จด้วย" หมอทักษ์บอกกับหญิงสาวก่อนจะหยิบสายยางท่อเล็กอันใหม่ที่ผ่านการล้างและอบฆ่าเชื้ออย่างดี ขึ้นมา มือหนึ่งปล่อยทิ้งสำลีก้านคาไว้ในโพร่งรักแล้วเอามืออีกข้างที่ถือไฟฉายก่อนหน้านี้เอามาแหวกตรงรูปัสวะของหญิงสาวก่อนจะค่อย ๆ จับสายท่อเสียบเข้าไปในรูให้ลูกไปจนถึงท่อปัสวะในร่างกายหญิงสาว "อ่ะ จะ..เจ็บค่ะ" สกาวรู้สึกแสบขัดเล็กน้อยเมื่อท่อที่เสียบรูปัสวะถูกเสียบเข้ามาโด
"อื้ม~" ร่างบางนอนบิดตัวไปมาดวงตาเปิดขึ้นมองสำรวจวิวทิวทัศน์ภายนอกกลับมืดครึ้มและภายในห้องนอนกลับไม่ใช่เตียงนอนของเธอ ใช้เวลาร่วมหลายนาทีกว่าเธอจะได้สติว่าครั้งสุดท้ายเธอกำลังมี เซ็กส์กับหมอหื่นนั้น "ตื่นแล้วเหรอเข้าไปอาบน้ำสิ ไม่เหนียวตัวหรือไง" หมอทักษ์เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำมองคนที่กำลังนั่งหน้าสลอนอยู่บนเตียงนอน "ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ" สกาวเมื่อตั้งสติได้ก็รีบหันไปถามทันที "มีเตียงนอนขนาดนี้มีห้องน้ำในตัว คงอยู่สวนสาธารณะล่ะมั้ง" หมอทักษ์กลับตอบออกมาด้วยความกวนบาทา ของเธอไม่น้อย ทำให้คนที่ตั้งคำถามและรอฟังคำตอบนั้นถึงกับมองหมอทักษ์ด้วยดวงตาถลน ยังไม่พึงพอใจกับคำตอบของเขา "ตอบดี ๆ สิคะ" สกาวกัดฟันพูดออกมาอย่างไม่พอใจทันที "หยอกเล่นน่า ที่นี่บ้านผมเองก็คุณสลบคาลูกชายผมขนาดนั้นจะทิ้งคุณไว้ในห้องตรวจคนเดียวก็ไม่ได้อีก เลยตัดสินใจพากลับมานอนที่บ้านผมแทน" หมอทักษ์รีบอธิบายทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีอารมณ์กับการก่อกวนของเขาจึงไม่ใครได้ใส่ใจมากนัก "ก็แค่เนี่ย~" สกาวพยักหน้าพอเข้าใจสถานการณ์ก็พยายามที่จะขยับตัวลุกแต่กับรู้สึกระบมตรงบริเวณร่องรักข
บนเตียงนอนของชายหนุ่มมีร่างบางของหญิงสาวนอนหลับไหลไปอย่างอ่อนเพลียเพราะเพราะบทรักที่ถูกมอบให้ "คงต้องตรวจ DNA สินะ" ผมนั่งมองคนที่เข้าสู่ห้วงนิทรา ก่อนจะเดินออกไปเอาอุปกรณ์ทางการแพร่ที่พกติดตัวอยู่เป็นประจำ เขาทำความสะอาดอุปกรณ์และเตรียมเจาะน้ำคร่ำของหญิงสาวเพื่อเอามาพิสูจน์ DNA พร้อมกับเลือดของเขา โดยกระทำอย่าเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้คนบนเตียงรู้ตัว "เฮ่อ~ ได้สักที" เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเขาเองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อร่างของหญิงสาวกลับนอนหลับลึกโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด .ครืน~ ครืน~ ครืน~ เสียงโทรศัพท์ของสกาวดังขึ้นมาในช่วงกลางดึกซึ่งทำให้คนที่หลับไม่ค่อยสนิทตื่นขึ้นมามองหน้าจอ กลับเป็นพี่ชายของเธอที่โทรเข้ามา "โทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ" หมอทักษ์บ่นออกมาด้วยความสงสัย แต่ก็กำลังจะเอื้อมมือไปรับสายแทนโทรศัพท์ก็สิ้นสุดการโทรเข้ามาเสียอย่างนั้น และมีเสียงข้อความเด้งเข้ามาแทน หน้าต่างแชทของโทรศัพท์ Sky: อยู่ไหนอ่ะทำไมไม่รับสาย!! คืนนี้พี่ไม่ได้กลับบ้านนะอยู่บ้านก็ดูแลตัวเองดี ๆ เป็นสกายพี่ชายของเธอที่ทักแชทเข้ามาทำให้หมอทักษ์นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์
ภายในห้องนอน สกาวตื่นขึ้นมาในเวลา 11:00น. สายตาค่อย ๆ ปรับจุดโฟกัสทางสายตาตรวจสอบรอบห้องอย่างเชื่องช้า "ที่ไหนละเนี่ย~" ฉันมองสำรวจในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยก่อนที่สมองจะเริ่มทำงาน ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจกับภายเหตุการณ์เมื่อวานที่ไหลหลั่งเข้ามาในหัวสมองของเธอเป็นฉาก ๆ "กรี๊ดดดดด~" สกาวร้องกรีดออกมาเสียงดังเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง "พลาดท่าจนได้!" สกาวนึกเพียงแต่ว่าเธอควรทำอย่างไรดีในเมื่อเขารู้แล้วว่าคนคืนนั้นคือเธอ แล้วทำไมครั้งนั้นถึงปฎิเสธทั้งยังด่ายายเธออีก ยิ่งคิดก็ยิ่ง 'งง'และสับสนถึงการกระทำของเขา หมอทักษ์ยังคงเป็นผู้ชายที่ทำให้ใจเธอสั่นหวั่นไหวและคล้อยตามได้ตลอดจริง ๆ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมจนเธอจะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว!! ถ้าไม่เผลอใจปล่อยตัวเอ็นจอยไปกับบทรักของเขาในวันนั้น คงไม่มีคนสวยท้องป่องในวันนี้ ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย~ ครืน~ ครืน~ สกาวหลุดจากพะวงความคิดเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้เธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อยกับชื่อที่อยู่บนหน้าจอ คุณยาย 4misscal.. เธอรีบกดรับสายทันที "ฮัลโลค่ะคุณยาย~" สกาวรีบเอ่ยเสียงอ้อนท
ครืน~ ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบกลับคำถามของคุณหมอก็มีสายเรียกเข้าในโทรศัพท์ของเธอ Sky in Misscall เธอก็จำต้องรับสายพี่ชายทันทีเมื่อเห็นชื่อขึ้นแสดงอยู่บนหน้าจอ "สวัสดีค่ะพี่สกายมีอะไรหรือเปล่าคะ" สกาวเรียบรับสายแล้วเอ่ยปากถามทันที'อยู่กับคุณหมอใช่ไหม คุณหมอโทรมาบอกพี่แล้วล่ะ และเราก็เตรียมกลับบ้านกับคุณหมอให้คุณหมอไปส่งได้เลยนะสกาว พอดีพี่ติดธุระไม่สะดวกไปรับกลับ' สกายยังคงมีธุระที่ต้องสะสางอยู่หลายอย่างเลยในครั้งนี้ เลยทำให้เขาไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลน้องสาวของตัวเองเท่าที่ควร "ได้ค่ะพี่ชายเดี๋ยวน้องจะให้คุณหมอไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ" สกาวตอบรับคำพูดของพี่ชายตัวเองแล้วยังคงจ้องหน้าคุณหมออย่างเอาเรื่องเอาราว กับคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเกือบชะตาขาดในชีวิตเพราะติดกับคำบ่นของพี่ชายที่IQ และ EQ สูงและความจำแม่นยิ่งกว่าอะไร "ทำไมจ้องมองผมด้วยสีหน้าอาฆาตแค้นขนาดนั้นล่ะผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ" หมอทักษ์รีบทำขึ้นเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวที่ส่งมาให้ราวกลับว่าขาดโทษเขาเอาไว้ก่อน "ทำสิคะทำให้กาวเกือบซวยและหาข้ออ้างอธิบายกับพี่ชายไม่ได้ไง!!" หลังจากวางสายของ
หมอทักษ์เดินออกจาห้อง ผอ./อาของเขาด้วยความหนักใจเขาผู้ไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมอาตัวเองยิ่งรู้สึกคิดหนักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า "แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้ละ" ผมเริ่มไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วเพราะว่าสิ่งที่รอมาเป็นอาทิตย์กลับถูกคุณอาแย่งไปเก็บไว้เอง "คุณหมอครับวันนี้มีคนไข้มารอพบครับ" เสียงแพทย์หนุ่มหน้าตาดีบอกกับเขาทันทีเมื่อเห็นว่าหมอทักษ์เดินกลับเข้ามาในแผนก "อ่อ โอเคครับ" หมอทักษ์ตอบรับคำบอกกล่าวก็จะเดินเข้าห้องตรวจประจำตัวของเขาเพื่อไปพบเจอคนไข้ที่ไม่มีคิวนัด "คุณหมอสวัสดีค่ะ" สกาวมองคนไม่สบอารมณ์เดินเข้ามาในห้องทำงานจึงกล่าวทักทายอย่างร่าเริง "มาได้ไงใครมาส่ง" หมอทักษ์จากที่ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อ 'กำลังใจ' ตัวน้อยมาหาถึงที่ทำงาน "ขับรถมาเองค่ะ" สกาวยิ้มอย่างอารมณ์ดีเพราะพี่ชายอนุญาตให้ขับเลยได้รอรถยนต์บนท้องถนนและสิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือขับรถมาอวดเขาถึงโรงพยาบาล "ให้อนุญาตให้ครับมาครับ พี่ชายเราเหรอหืม" ผมถามคนที่นั่งยิ้มอย่างภูมิใจจึงไม่กล้าเอ่ยขัดความสุขแม้ภายในใจจะห่วงความปลอดภัยของเธอมาก ก็แสดงอาการเต็มที่ไม่ได้ "ใช่แล
วันเดินทาง "ทำไมพี่สกายจองทริปไม่บอกกันก่อนคะ!?" ฉันถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะว่าอยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาบอกจะกลับประเทศไทยพร้อมกับทริปร่องเรือสำราญ! ซึ่งมันช้ากว่ากลับด้วยเครื่องบินหลายเท่า เพราะเครือสำราญมักจะแวะเทียบท่าอยู่หลายประเทศ "เพราะพี่รู้ไงว่าเธอจะไม่ไปเลยมาบอกวันนี้เลย" สกายมองน้องสาวของเขาที่กำลังแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ ได้เหนือความคาดหมาย "เหอะ นี้มันไฟว์บังคับกันชัด ๆ เลย" ฉันมองพี่ชายตัวเองแล้วยังส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ด้วย ถ้าจะถามว่สพี่เธอกลัวไหมนะเหรอ โนจะ! ไม่เคยกลัวเธอเลยออกจะชอบใจด้วยซ้ำ "อารมณ์ร้อนขึ้นนะเราอ่ะ" สกายบอกกับน้องสาวที่ทำสายตาดุดันส่งให้ "ก็เพราะใครละ มาบอกวันนี้แล้วทีตัวเองละชิ จ้องตั๋วไฟว์บินกลับอย่างสบายใจ ส่วนน้องมอบทริปร่องเรือให้ไปเองเนี่ยนะ!?" สกาวถามด้วยความไม่พอใจถ้าต้องแล้วไปร่องเรือสำราญด้วยกันเธอจะไม่โหโหเลยนะ นี้เหมือนพาจับไปปล่อยให้เที่ยวเล่นแล้วหาทางกลับเอง "ก็ไม่ได้จะให้ไปคนเดียวสักหน่อย" สกายบอกกลับน้องสาวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเริ่มเปิ่นกังวลของเธอ "แล้วจะให้ไปกับใคร!? แลกกันไหมละพี่ก็เอาตัวเครื่องบินมาให้กาว
"จะไม่ไมไหวแล้ว~" เสียงยาวยานของเธอที่แทบจะไม่มีแรงพูดร้องท้วงขึ้นทันที ดวงตาหยาดเยิ้มเหมือนว่าจะหลับลงก็ไม่ได้เพราะถูกเขาแกล้งไม่ให้เธอได้พักผ่อนตามใจปรารถนา "อีกนิดนะครับ" หมอทักษ์สวนแกนกายเข้าในช่วงสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเข้าภายในร่องรักของเธอจนฉ่ำเยิ้มและค่อย ๆ หลั่งไหลมันออกมา ."ขึ้นห้องกันเถอะเหมือนคุณแม่คนสวยจะง่วงนอนแล้วนะครับ" ทำเธอเกือบสลบคาสระน้ำขนาดนี้ยังจะมาอ้างว่าเธอง่วงนอนอีกคนบ้า! "อืม~" สกาวพยักหน้าเห็นด้วยเพราเธอเพลียจเกินกว่าจะยืนไหว ภายในห้องนอนบนเรือสำราญที่เปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ในห้อง "เหนื่อยขนาดนั่นเลยเหรอคะรับ" ทักษมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความเอ็นดู "อื้ม~ อย่ากวน" สกาวพึมพำขึ้นมาทันทีเมื่อถึงมือสัมผัสตรงแก้มนวล"ครับ" คนนั่งมองนึกเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเธอนอนสลบเพราะความเหนื่อยและอ่อนเพลียก็รีบจัดแจงข้าวของเครื่องใช้ในห้องเพื่อความสดวกของเขาและคนที่นอนหลับอยู่ ครืน~ ครืน~ ครืน~ "ฮัลโหลครับคุณอา" ชายหนุ่มรับสายทิวเขาทันทีเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์เห็นว่าคนเป็นอาโทรเข้ามา 'เรือออกหรือยัง' ทิ
"ตกใจอะไรขนาดนั้นครับ" ปากเขาพูดถามเธอแต่มือกลับเอามาลูกคลึงสะโพกเธอเนี่ยนะ'ต้องการอะไร!' ให้ตายสิคนยิ่งมีอารมณ์และใจง่ายเพราะฮอร์โมนของคนท้องสูงอยู่ "มะ..หมอ~ อย่าบีบมันเจ็บค่ะ" สกาวเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะเขาเริ่มยกเธอขึ้นมาให้เอาขารัดตรงเอว ส่วนช่วงล่างจุดสงวนกลับแนบชิดเสียดสีกัน "จะทำให้เบาที่สุด" เสียงกระซิบเบา ๆ ผ่านใบหูทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นหน้าลง เพื่อหลบน้ำเสียงและการสัมผัสจากริมฝีปากของเขา "อ๊าส~" เธอร้องครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อถูกสัมผัสและรบเร้า จากมือหนาของเขา"เสียวไหม" มือหนาของหมอทักษ์ค่อยๆ สอดเข้าไปในร่องรักและเริ่มเร่งจังหวะเข้าออกอย่างช้า ๆ สกาวพยายามก้มลงจ้องมองมือแกร่งที่สอดนิ้วเข้ามาในแอ่งร่องรักของเธอ "อยากเห็นหรอครับ" น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนของเขากลับทำให้เธอต้องรู้สึกโอนเอนไปพร้อมกับการรุกเร้าของเขา "ปะ..เปล่านะคะ" เมื่อเห็นว่าสายตาของหมอทักษ์จ้องมองเธอ เธอเองก็รีบสะบัดหน้านี้ในสิ่งที่ต้องการจะมองและอยากรู้ทันที "เหรอครับ" เขามองดูเธอที่รีบหันหน้าหนีในจุดเชื่อมต่อระหว่างนิ้วมือของเขาและร่องรักของเธอ ทั้งยังกั้นขำเอา
บนเรือมีห้องพักมากมายหลายห้อง แต่ห้องของสกาวและมอทักรับเป็นห้องเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ราวกับห้องสวีท แต่ก็ยังไม่ใช่ เพราะบนเรือสำราญลำนี้ไม่มีห้องสวีทอย่างที่หลายคนเข้าใจเป็นเพียงห้องธรรมดาแค่ใหญ่กว่าห้องพักปกติของนักท่องเที่ยว สามถึงสี่เท่า "ทำไมห้องเราสองคนถึงอยู่ด้วยกันล่ะคะ" สกาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าห้องพักของเธอจะอยู่กับเขาที่เขามาพร้อมกันทั้งยังแตะคีย์ ห้องเดียวกันได้อีกด้วย "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" หมอทักษ์ตอบออกไปทันทีทำไมเขาจะไม่รู้ก็พ่อถึงขั้นมาขอร้องเขาทั้งที่ปกติไม่เคยจะมีเวลาให้เลยด้วยซ้ำ "ได้ไง แบบนี้เราต้องแจ้งกับพนักงานไหมคะ" สกาวหันมาขอคำปรึกษาของเขาทันทีเมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นกับตนเอง"ไม่เป็นไรหรอกเรานอนด้วยกันก็ได้นี่" เขายังคงตอบออกมาแบบเป็นกันเองไม่ได้ซีเรียสกับห้องพักมาก "ได้เหรอคะ" เธอมองรอบห้องที่มีเตียงขนาดใหญ่พื้นพรมสีสวยรวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเฉกเช่นทีวีตู้เย็นสัญญาณ WiFi ให้พร้อมหมดครบจบในห้องเดียว "ได้สิครับทำไมจะไม่ได้หรือว่าหนูกลัวอะไรหรือเปล่า" หมอทักษ์ยิ้มออกมาอย่างคนมีความนัยแอบแฝงไปด้วย กลล่อลวงที่ท
วันเดินทาง "ทำไมพี่สกายจองทริปไม่บอกกันก่อนคะ!?" ฉันถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะว่าอยู่ ๆ ก็เดินเข้ามาบอกจะกลับประเทศไทยพร้อมกับทริปร่องเรือสำราญ! ซึ่งมันช้ากว่ากลับด้วยเครื่องบินหลายเท่า เพราะเครือสำราญมักจะแวะเทียบท่าอยู่หลายประเทศ "เพราะพี่รู้ไงว่าเธอจะไม่ไปเลยมาบอกวันนี้เลย" สกายมองน้องสาวของเขาที่กำลังแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ ได้เหนือความคาดหมาย "เหอะ นี้มันไฟว์บังคับกันชัด ๆ เลย" ฉันมองพี่ชายตัวเองแล้วยังส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ด้วย ถ้าจะถามว่สพี่เธอกลัวไหมนะเหรอ โนจะ! ไม่เคยกลัวเธอเลยออกจะชอบใจด้วยซ้ำ "อารมณ์ร้อนขึ้นนะเราอ่ะ" สกายบอกกับน้องสาวที่ทำสายตาดุดันส่งให้ "ก็เพราะใครละ มาบอกวันนี้แล้วทีตัวเองละชิ จ้องตั๋วไฟว์บินกลับอย่างสบายใจ ส่วนน้องมอบทริปร่องเรือให้ไปเองเนี่ยนะ!?" สกาวถามด้วยความไม่พอใจถ้าต้องแล้วไปร่องเรือสำราญด้วยกันเธอจะไม่โหโหเลยนะ นี้เหมือนพาจับไปปล่อยให้เที่ยวเล่นแล้วหาทางกลับเอง "ก็ไม่ได้จะให้ไปคนเดียวสักหน่อย" สกายบอกกลับน้องสาวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเริ่มเปิ่นกังวลของเธอ "แล้วจะให้ไปกับใคร!? แลกกันไหมละพี่ก็เอาตัวเครื่องบินมาให้กาว
หมอทักษ์เดินออกจาห้อง ผอ./อาของเขาด้วยความหนักใจเขาผู้ไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมอาตัวเองยิ่งรู้สึกคิดหนักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า "แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้ละ" ผมเริ่มไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วเพราะว่าสิ่งที่รอมาเป็นอาทิตย์กลับถูกคุณอาแย่งไปเก็บไว้เอง "คุณหมอครับวันนี้มีคนไข้มารอพบครับ" เสียงแพทย์หนุ่มหน้าตาดีบอกกับเขาทันทีเมื่อเห็นว่าหมอทักษ์เดินกลับเข้ามาในแผนก "อ่อ โอเคครับ" หมอทักษ์ตอบรับคำบอกกล่าวก็จะเดินเข้าห้องตรวจประจำตัวของเขาเพื่อไปพบเจอคนไข้ที่ไม่มีคิวนัด "คุณหมอสวัสดีค่ะ" สกาวมองคนไม่สบอารมณ์เดินเข้ามาในห้องทำงานจึงกล่าวทักทายอย่างร่าเริง "มาได้ไงใครมาส่ง" หมอทักษ์จากที่ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อ 'กำลังใจ' ตัวน้อยมาหาถึงที่ทำงาน "ขับรถมาเองค่ะ" สกาวยิ้มอย่างอารมณ์ดีเพราะพี่ชายอนุญาตให้ขับเลยได้รอรถยนต์บนท้องถนนและสิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือขับรถมาอวดเขาถึงโรงพยาบาล "ให้อนุญาตให้ครับมาครับ พี่ชายเราเหรอหืม" ผมถามคนที่นั่งยิ้มอย่างภูมิใจจึงไม่กล้าเอ่ยขัดความสุขแม้ภายในใจจะห่วงความปลอดภัยของเธอมาก ก็แสดงอาการเต็มที่ไม่ได้ "ใช่แล
ครืน~ ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบกลับคำถามของคุณหมอก็มีสายเรียกเข้าในโทรศัพท์ของเธอ Sky in Misscall เธอก็จำต้องรับสายพี่ชายทันทีเมื่อเห็นชื่อขึ้นแสดงอยู่บนหน้าจอ "สวัสดีค่ะพี่สกายมีอะไรหรือเปล่าคะ" สกาวเรียบรับสายแล้วเอ่ยปากถามทันที'อยู่กับคุณหมอใช่ไหม คุณหมอโทรมาบอกพี่แล้วล่ะ และเราก็เตรียมกลับบ้านกับคุณหมอให้คุณหมอไปส่งได้เลยนะสกาว พอดีพี่ติดธุระไม่สะดวกไปรับกลับ' สกายยังคงมีธุระที่ต้องสะสางอยู่หลายอย่างเลยในครั้งนี้ เลยทำให้เขาไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลน้องสาวของตัวเองเท่าที่ควร "ได้ค่ะพี่ชายเดี๋ยวน้องจะให้คุณหมอไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ" สกาวตอบรับคำพูดของพี่ชายตัวเองแล้วยังคงจ้องหน้าคุณหมออย่างเอาเรื่องเอาราว กับคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเกือบชะตาขาดในชีวิตเพราะติดกับคำบ่นของพี่ชายที่IQ และ EQ สูงและความจำแม่นยิ่งกว่าอะไร "ทำไมจ้องมองผมด้วยสีหน้าอาฆาตแค้นขนาดนั้นล่ะผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ" หมอทักษ์รีบทำขึ้นเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวที่ส่งมาให้ราวกลับว่าขาดโทษเขาเอาไว้ก่อน "ทำสิคะทำให้กาวเกือบซวยและหาข้ออ้างอธิบายกับพี่ชายไม่ได้ไง!!" หลังจากวางสายของ
ภายในห้องนอน สกาวตื่นขึ้นมาในเวลา 11:00น. สายตาค่อย ๆ ปรับจุดโฟกัสทางสายตาตรวจสอบรอบห้องอย่างเชื่องช้า "ที่ไหนละเนี่ย~" ฉันมองสำรวจในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยก่อนที่สมองจะเริ่มทำงาน ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจกับภายเหตุการณ์เมื่อวานที่ไหลหลั่งเข้ามาในหัวสมองของเธอเป็นฉาก ๆ "กรี๊ดดดดด~" สกาวร้องกรีดออกมาเสียงดังเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง "พลาดท่าจนได้!" สกาวนึกเพียงแต่ว่าเธอควรทำอย่างไรดีในเมื่อเขารู้แล้วว่าคนคืนนั้นคือเธอ แล้วทำไมครั้งนั้นถึงปฎิเสธทั้งยังด่ายายเธออีก ยิ่งคิดก็ยิ่ง 'งง'และสับสนถึงการกระทำของเขา หมอทักษ์ยังคงเป็นผู้ชายที่ทำให้ใจเธอสั่นหวั่นไหวและคล้อยตามได้ตลอดจริง ๆ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมจนเธอจะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว!! ถ้าไม่เผลอใจปล่อยตัวเอ็นจอยไปกับบทรักของเขาในวันนั้น คงไม่มีคนสวยท้องป่องในวันนี้ ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย~ ครืน~ ครืน~ สกาวหลุดจากพะวงความคิดเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้เธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อยกับชื่อที่อยู่บนหน้าจอ คุณยาย 4misscal.. เธอรีบกดรับสายทันที "ฮัลโลค่ะคุณยาย~" สกาวรีบเอ่ยเสียงอ้อนท
บนเตียงนอนของชายหนุ่มมีร่างบางของหญิงสาวนอนหลับไหลไปอย่างอ่อนเพลียเพราะเพราะบทรักที่ถูกมอบให้ "คงต้องตรวจ DNA สินะ" ผมนั่งมองคนที่เข้าสู่ห้วงนิทรา ก่อนจะเดินออกไปเอาอุปกรณ์ทางการแพร่ที่พกติดตัวอยู่เป็นประจำ เขาทำความสะอาดอุปกรณ์และเตรียมเจาะน้ำคร่ำของหญิงสาวเพื่อเอามาพิสูจน์ DNA พร้อมกับเลือดของเขา โดยกระทำอย่าเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้คนบนเตียงรู้ตัว "เฮ่อ~ ได้สักที" เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเขาเองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อร่างของหญิงสาวกลับนอนหลับลึกโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด .ครืน~ ครืน~ ครืน~ เสียงโทรศัพท์ของสกาวดังขึ้นมาในช่วงกลางดึกซึ่งทำให้คนที่หลับไม่ค่อยสนิทตื่นขึ้นมามองหน้าจอ กลับเป็นพี่ชายของเธอที่โทรเข้ามา "โทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ" หมอทักษ์บ่นออกมาด้วยความสงสัย แต่ก็กำลังจะเอื้อมมือไปรับสายแทนโทรศัพท์ก็สิ้นสุดการโทรเข้ามาเสียอย่างนั้น และมีเสียงข้อความเด้งเข้ามาแทน หน้าต่างแชทของโทรศัพท์ Sky: อยู่ไหนอ่ะทำไมไม่รับสาย!! คืนนี้พี่ไม่ได้กลับบ้านนะอยู่บ้านก็ดูแลตัวเองดี ๆ เป็นสกายพี่ชายของเธอที่ทักแชทเข้ามาทำให้หมอทักษ์นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์
"อื้ม~" ร่างบางนอนบิดตัวไปมาดวงตาเปิดขึ้นมองสำรวจวิวทิวทัศน์ภายนอกกลับมืดครึ้มและภายในห้องนอนกลับไม่ใช่เตียงนอนของเธอ ใช้เวลาร่วมหลายนาทีกว่าเธอจะได้สติว่าครั้งสุดท้ายเธอกำลังมี เซ็กส์กับหมอหื่นนั้น "ตื่นแล้วเหรอเข้าไปอาบน้ำสิ ไม่เหนียวตัวหรือไง" หมอทักษ์เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำมองคนที่กำลังนั่งหน้าสลอนอยู่บนเตียงนอน "ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ" สกาวเมื่อตั้งสติได้ก็รีบหันไปถามทันที "มีเตียงนอนขนาดนี้มีห้องน้ำในตัว คงอยู่สวนสาธารณะล่ะมั้ง" หมอทักษ์กลับตอบออกมาด้วยความกวนบาทา ของเธอไม่น้อย ทำให้คนที่ตั้งคำถามและรอฟังคำตอบนั้นถึงกับมองหมอทักษ์ด้วยดวงตาถลน ยังไม่พึงพอใจกับคำตอบของเขา "ตอบดี ๆ สิคะ" สกาวกัดฟันพูดออกมาอย่างไม่พอใจทันที "หยอกเล่นน่า ที่นี่บ้านผมเองก็คุณสลบคาลูกชายผมขนาดนั้นจะทิ้งคุณไว้ในห้องตรวจคนเดียวก็ไม่ได้อีก เลยตัดสินใจพากลับมานอนที่บ้านผมแทน" หมอทักษ์รีบอธิบายทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีอารมณ์กับการก่อกวนของเขาจึงไม่ใครได้ใส่ใจมากนัก "ก็แค่เนี่ย~" สกาวพยักหน้าพอเข้าใจสถานการณ์ก็พยายามที่จะขยับตัวลุกแต่กับรู้สึกระบมตรงบริเวณร่องรักข