วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดยิ้ม “เธอคิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอ? มันเหมาะมากเพราะว่าเธอแต่งงานกับแซคคารี คอนเนอร์ยิ่งทำให้ฉันตื่นเต้นขึ้นไปอีก”“...”ชาร์ล็อตเสียขวัญเธอคาดไม่ถึงว่าวิกเตอร์บ้าบิ่นมากขนาดนี้แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของแซคคารี“ชาร์ล็อต แม้ว่ามันจะไม่สะดวกเพราะเธอเพิ่งจะคลอดลูก ฉันก็ไม่สน วันนี้ฉันจะให้บอดี้การ์ดบันทึกท่วงท่าทั้งหมดและโพสมันออนไลน์… แน่นอนว่าฉันจะไม่เปิดหน้าตัวเอง ฉันจะให้ใครสักคนเบลอหน้าของฉันออกไป แต่หน้าของเธอจะเธอเปิดออกเต็ม ๆ เธอจะเสียชื่อเสียงในฐานะคนที่สังคมต้องการมากที่สุด เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้น แซคคารีจะดูถูกเธอและไล่เธอออกไปอย่างแน่นอน”ชาร์ล็อตมองไปราวกับว่าเธอกำลังมองไปที่ตัวประหลาด“วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ด แกมันบ้าไปแล้ว!”“ถึงฉันจะบ้า มันก็เพราะเธอ เธอที่ไม่ฟังฉัน แถมยังเป็นผู้หญิงดื้อด้านอีก! ฮ่าฮ่า…”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ขณะที่วิกเตอร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขากระโจนเขาใส่ชาร์ล็อตเขาได้แบบส่งคนของเขาตามชาร์ล็อตไปอย่างลับ ๆ เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินทางของชาร์ล็อตเพื่อไปเจอกับแซคคารี เพราะเขากลัวแซคคารี วิกเตอร์จึงไม่ทำอะไรคั้งแต่ครั้ง
แซคคารีเดินไม่กี่ก้าวด้วยเท้าที่ใหญ่และขาที่ยาว และในชั่วพริบตา เขาก็มาอยู่ข้างโซฟาแล้ววิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดอ้วนและรูปร่างเหมือนกับไข่ เขายังมีน้ำหนักมากกว่า 180 ปอนด์ ความแข็งแรงของแซคคารีนั้นยอดเยี่่ยมมากซึ่งเขาจับที่เสื้อของวิกเตอร์และยกเขาออกจากชาร์ล็อตก่อนที่จะโยนลงบนพื้น“โอ๊ย…”วิกเตอร์ตกตะลึงด้วยออร่าของแซคคารี เขาถูกโยนลงพื้นหน้าคว่ำ และแม้ว่าเขาจะเจ็บและเลือดออก เขาไม่กล้ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาทำได้แค่อดทนและมองไปที่แซคคารีอย่างหวาดกลัวสองบอร์ดี้การ์ดที่จับมือและขาของชาร์ล็อตไว้ ยืนงงอยู่ตรงนั้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ“บอกฉันมาสิว่าผลของการที่ทำให้ฉันไม่พอใจคืออะไร”เสียงของแซคคารีเป็นเหมือนลมที่พัดผ่านจากยอดภูเขาหิมะ ลงมายังวิกเตอร์อย่างเยือกเย็นวิกเตอร์สั่นด้วยความกลัว “คุณคอนเนอร์ ผมสาบานผมจะไม่ทำอีกแล้วในอนาคต ผมสมควรตาย! ผมสมควรตาย! ผมสมควรตาย…”วิกเตอร์คุกเข่าลงพื้นและเริ่มตบหน้าตัวเองไปมาด้วยมือทั้งสองข้าง แต่ละครั้งที่เขาทำ เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีแซคคารีมองไปที่เขาด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง “แล้วแกอยากตายยังไงดีล่ะ?”“อะไรนะ?!”วิกเตอร์ตะโกนขณะที่เขาส
“หยุดเพ้อฝันได้แล้ว” แซคคารีตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ ขณะมองดูหญิงสาวตรงหน้าของเขาอย่างเย็นชา “ฉันก็ทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่มาเป็นภรรยาของฉันนั่นแหละ เธอไม่ได้พิเศษอะไรเลย” ชาร์ล็อตยิ้มเขิน ๆ ขณะที่เธอพูดว่า “ไม่ต้องพูดให้เสียเวลาหรอก ฉันรู้ตัวเองดี” เธอไม่ใช่คนพิเศษเหรอ? ยิ่งสถานะของบุคคลสูงมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งใส่ใจในชื่อเสียงมากขึ้นเท่านั้น เธอเอาชนะแซคคารีในที่สาธารณะถึง 2 ครั้ง ชนะเดิมพันถึง 2 ครั้งเลยนะ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอทำให้เขาอับอายขายหน้าในที่สาธารณะถึง 2 ครั้ง ดังนั้น จึงถือว่า นี่เป็นความโชคดีของเธอแล้ว ที่แซคคารีไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรเธอเลย และเธอก็ไม่ได้โง่เขลา ที่จะคิดว่าเธอสมควรได้รับตำแหน่งพิเศษในใจเขา แซคคารีไม่ตอบ เขามองดูเธอขึ้นลง ๆ ด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามอย่างชัดเจน แล้วเขาก็หันหลังเดินออกจากห้องน้ำไป เขาปิดประตูดังปัง ดวงตาสีดำดุจอัญมณีของเขามืดลง ขณะฟังเสียงน้ำในห้องน้ำที่กำลังไหล 'ให้ตายเถอะ!' ชาร์ล็อตไม่มีขาเหรอไง? เธอเดินไม่เป็นเหรอ? ทำไมเขาถึงอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกราวกับถูกครอบงำตอนที่เห็นเธอนอนร้องไห้ขดตัวอ
แซคคารีถือบุหรี่ไว้ตรงริมฝีปาก และมองไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึก ดวงตาของเขาลึกราวกับห้วงมหาสมุทร ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนบรรยากาศในห้องโถงเต็มไปด้วยความอึดอัด เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ แต่เวลาแต่ละวินาทีของวิกเตอร์มันยาวนานเหมือนหนึ่งศตวรรษ ประมาณ 8 นาทีต่อมา มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของประตู เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็หยุด ประตูถูกผลักให้เปิดออก และชาย 2 คน คนหนึ่งสูงและอีกคนหนึ่งเตี้ยได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงและก้าวเข้ามาในสายตาของพวกเขา ทั้งสองคำนับอย่างนอบน้อมต่อแซคคารี และกล่าวว่า “คุณคอนเนอร์ เราได้ยินมาว่าคุณกำลังตามหาเราอยู่เหรอครับ?” วิกเตอร์เหลือบมองชายสองคน และท้องของเขาก็เริ่มปั่นป่วน เขาไม่เคยเห็นใครน่าเกลียดเท่าพวกนี้มาก่อนเลย ไม่เพียงแต่ใบหน้าของพวกเขาจะแปลกประหลาดเท่านั้น แต่มันยังเต็มไปด้วยตุ่มพองสีม่วงแดง จนทำให้เขาได้สัมผัสได้ถึงกลิ่นเหม็นของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะเว้นระยะห่างกันบ้างแล้วก็ตาม วิกเตอร์รู้ว่าตัวเขาเองไม่ใช่คนที่น่าดึงดูดนัก แต่ความอัปลักษณ์ของคนสองคนนี้ มันข้ามขั้นไปอีกระดับเลยล่ะ แซคคารีทำเป็นชี้ ๆ ไปที่ริกเตอร์ ทำให้วิกเตอร์มีความร
'อะไรนะ?' 'เขาหมายความไปแบบนั้นได้ยังไงกัน? ก็เห็น ๆ อยู่ว่าฉันห่อด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่เบ้อเริ่ม!' นอกจากนี้ วิกเตอร์ยังฉีกเสื้อผ้าของเธอเป็นชิ้น ๆ ผ้าเช็ดตัวผืนนี้เป็นสิ่งเดียวในห้องน้ำที่ใหญ่พอที่จะคลุมทั้งตัวของเธอได้! 'เขาต้องการอะไรจากฉัน?' 'ฉันควรจะอยู่ในอ่างอาบน้ำไปตลอดงั้นเหรอ?' ชาร์ล็อตไม่มีอารมณ์จะเถียงกับแซคคารี เธอเม้มริมฝีปากและเดินไปที่ห้องนอนของเธออย่างขุ่นเคือง แซคคารีชำเลืองมองร่างของเธออย่างเฉยเมย 'ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์!' 'เป็นแบบนี้ซะทุกทีไป! เธอก็เหมือนเซเลบคนอื่น ๆ นั่นแหละ โง่เง่า’ พวกเธอทั้งหมดคิดว่า เพียงแค่เปลื้องผ้าและเผยให้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของพวกเธอต่อหน้าเขา มันจะสามารถเข้าอยู่ไปในสายตาของเขาได้ มากกว่า 5 นาทีต่อมา ชาร์ล็อตกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง หลังจากสวมเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว แซคคารีตั้งใจจะเหลือบมองเธอในตอนแรก… แต่ดูเหมือนเขาจะละสายตาจากเธอไม่ได้ คราวนี้ชาร์ล็อตสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงลำลอง และรองเท้ากีฬาที่ใส่สบาย ใบหน้าเธอดูสดชื่นและสละสลวย ชาร์ล็อตแปลกใจที่แซคคารีจ้องมาที่เธอนานกว่าปกติ "นายกำลังมองหาอะไรงั้นเหรอ?" แซค
ชาร์ล็อตขึ้นรถ “ตอนนี้ก็บอกฉันมาได้แล้ว ว่าเธอขับรถข้ามแม่น้ำไปได้ยังไง?” แซคคารีถามอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขานั่งตรงที่นั่งคนขับ ชาร์ล็อตคงจะลืมไปหมดแล้ว ถ้าเขาไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย “แม่น้ำสายนี้เมื่อมองเผิน ๆ อาจดูเหมือนเต็มไปด้วยน้ำ แต่มันมีเสาหินสองเสาที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของแม่น้ำน่ะ พื้นผิวของเสาอยู่ใต้ผิวน้ำประมาณ 20 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างเสาพวกนั้นมันใกล้เคียงกับระยะห่างระหว่างล้อรถยนต์ ฉันใช้เสาพวกนั้นขับรถข้ามแม่น้ำไป” "โอ้?" แซคคารีรำพึง เขาเป็นราชาแห่งการแข่งแดร็ก ที่ขับผ่านทุกภูมิประเทศอันโหดร้ายในรอธเซย์มาแล้ว แต่เขากลับไม่รู้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่นี้เลย เด็กสาวที่อ่อนแออย่างเธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง? นัยน์ตาของความโศกเศร้าปรากฏขึ้นในดวงตาของชาร์ล็อต ขณะที่เธอรู้ดีว่าแซคคารีกำลังคิดอะไรอยู่ “ไบรสันชอบแข่งมอเตอร์ไซค์ ฉันเข้าร่วมขบวนรถของเขา เพียงแค่ไปเป็นเพื่อนเขา ฉันได้สำรวจทุกซอกทุกมุมของรอธเซย์ระหว่างการขี่มอเจอร์ไซค์ เขากับฉันค้นพบความลับของแม่น้ำสายนั้นโดยบังเอิญเมื่อปีที่แล้ว” แซคคารีรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาด เมื่อชา
ชาร์ล็อตเลือกห้องที่เธอชอบ เธอได้รับข่าวร้าย ว่าพ่อของเธอติดกับดักของไบรสันและวิกเตอร์หลังจากที่เธอคลอดลูก เธอต้องลากร่างอันบอบบางของเธอไปทุกที่ เหมือนกับเรือลำน้อยที่ลอยอยู่ในพายุรุนแรงกลางทะเลที่หาความสงบไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอได้คลายความกังวลเกี่ยวกับพ่อของเธอได้สำเร็จ และในที่สุดจิตใจของเธอก็รู้สึกสบายขึ้นบ้าง ชาร์ล็อตไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายผู้ช่วยชีวิตเรือลำน้อยที่โดดเดี่ยวและไร้กำลังอย่างเธอ จะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเผลอหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน จากนั้นเธอก็ฝัน เธอฝันถึงไบรสัน ในความฝัน เธอกับไบรสันอยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่แปลกตา ห้องมืดและไม่มีไฟ ไบรสันกำลังเดินอยู่ข้างหน้าเธอ และหันกลับมายิ้มให้เธอเป็นครั้งคราว “จับมือฉันไว้ ชาร์ล็อต อย่าหลงทางนะ ไม่งั้นฉันจะเสียเธอไปตลอดกาล” ชาร์ล็อตวิ่งตามเขาไป แต่ก็ตามไม่ทันเลย 'ไบรสัน… ไบรซ์!' เธอต้องการเรียกชื่อเขา แต่เธอรู้สึกราวกับว่ามีฟองน้ำติดอยู่ในคอ เธอไม่สามารถส่งเสียงได้ เธอยื่นมือออกไป แต่ก็จับเขาไม่ได้ เธอทำได้แค่วิ่งตามเขา ไบรสันเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง ชาร์ล็อตก็เดินตามเข้าไป เขานั่งลงบนเตีย
การข่มขู่ของเขามันเหมือนกับลมหายใจที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งพุ่งเข้าหาชาร์ล็อต ชาร์ล็อตนึกถึงการลงโทษของแซคคารีที่ทำกับวิกเตอร์ทันที ใบหน้าของเธอซีดเผือด “ฟะ ฟังฉันนะ… ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉะ ฉันกำลังเดินละเมอ… ใช่แล้ว! ฉันอาจจะเดินละเมอ ถามพ่อของฉันได้เลย ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันกำลังนอนหลับและฝันว่ากำลังเดินอยู่!” ขณะที่เธอพูด เธอสังเกตเห็นมุมปากของแซคคารียกขึ้น แม้แต่ริมฝีปากที่โค้งงอแบบสบาย ๆ ก็ทำให้ชายผู้หล่อเหลาคนนี้ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด 'เขายิ้มหรือเปล่านะ?' ยังไงก็เถอะ ไม่นานชาร์ล็อตก็ตระหนักได้ว่า ความคิดนั้นมันโง่แค่ไหน แซคคารีจะยิ้มได้ยังไงล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธจนปากสั่น! “เธอหมายความว่า ฉันดูโง่สำหรับเธองั้นเหรอ?” ริมฝีปากที่เย็นเยือกของแซคคารีผุดขึ้น เขาเน้นทุกคำ และทุกพยางค์มันเคลือบด้วยน้ำค้างแข็งที่สามารถเจาะทะลุกระดูกได้เลย ชาร์ล็อตรู้สึกราวกับว่าเธอกลายเป็นน้ำแข็ง แซคคารีปล่อยเธอ เขาเอามือที่จับเธอออก และมันก็ทำให้เธอล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว “ฉันจะขังเธอไว้” เขาละสายตาที่เย็นชาและหงุดหงิดออกจากเธอ เขามองตรงไปข้างหน้า “ต่อไปนี้ บ้
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา