ชาร์ล็อตเลือกห้องที่เธอชอบ เธอได้รับข่าวร้าย ว่าพ่อของเธอติดกับดักของไบรสันและวิกเตอร์หลังจากที่เธอคลอดลูก เธอต้องลากร่างอันบอบบางของเธอไปทุกที่ เหมือนกับเรือลำน้อยที่ลอยอยู่ในพายุรุนแรงกลางทะเลที่หาความสงบไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอได้คลายความกังวลเกี่ยวกับพ่อของเธอได้สำเร็จ และในที่สุดจิตใจของเธอก็รู้สึกสบายขึ้นบ้าง ชาร์ล็อตไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายผู้ช่วยชีวิตเรือลำน้อยที่โดดเดี่ยวและไร้กำลังอย่างเธอ จะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเผลอหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน จากนั้นเธอก็ฝัน เธอฝันถึงไบรสัน ในความฝัน เธอกับไบรสันอยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่แปลกตา ห้องมืดและไม่มีไฟ ไบรสันกำลังเดินอยู่ข้างหน้าเธอ และหันกลับมายิ้มให้เธอเป็นครั้งคราว “จับมือฉันไว้ ชาร์ล็อต อย่าหลงทางนะ ไม่งั้นฉันจะเสียเธอไปตลอดกาล” ชาร์ล็อตวิ่งตามเขาไป แต่ก็ตามไม่ทันเลย 'ไบรสัน… ไบรซ์!' เธอต้องการเรียกชื่อเขา แต่เธอรู้สึกราวกับว่ามีฟองน้ำติดอยู่ในคอ เธอไม่สามารถส่งเสียงได้ เธอยื่นมือออกไป แต่ก็จับเขาไม่ได้ เธอทำได้แค่วิ่งตามเขา ไบรสันเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง ชาร์ล็อตก็เดินตามเข้าไป เขานั่งลงบนเตีย
การข่มขู่ของเขามันเหมือนกับลมหายใจที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งพุ่งเข้าหาชาร์ล็อต ชาร์ล็อตนึกถึงการลงโทษของแซคคารีที่ทำกับวิกเตอร์ทันที ใบหน้าของเธอซีดเผือด “ฟะ ฟังฉันนะ… ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉะ ฉันกำลังเดินละเมอ… ใช่แล้ว! ฉันอาจจะเดินละเมอ ถามพ่อของฉันได้เลย ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันกำลังนอนหลับและฝันว่ากำลังเดินอยู่!” ขณะที่เธอพูด เธอสังเกตเห็นมุมปากของแซคคารียกขึ้น แม้แต่ริมฝีปากที่โค้งงอแบบสบาย ๆ ก็ทำให้ชายผู้หล่อเหลาคนนี้ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด 'เขายิ้มหรือเปล่านะ?' ยังไงก็เถอะ ไม่นานชาร์ล็อตก็ตระหนักได้ว่า ความคิดนั้นมันโง่แค่ไหน แซคคารีจะยิ้มได้ยังไงล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธจนปากสั่น! “เธอหมายความว่า ฉันดูโง่สำหรับเธองั้นเหรอ?” ริมฝีปากที่เย็นเยือกของแซคคารีผุดขึ้น เขาเน้นทุกคำ และทุกพยางค์มันเคลือบด้วยน้ำค้างแข็งที่สามารถเจาะทะลุกระดูกได้เลย ชาร์ล็อตรู้สึกราวกับว่าเธอกลายเป็นน้ำแข็ง แซคคารีปล่อยเธอ เขาเอามือที่จับเธอออก และมันก็ทำให้เธอล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว “ฉันจะขังเธอไว้” เขาละสายตาที่เย็นชาและหงุดหงิดออกจากเธอ เขามองตรงไปข้างหน้า “ต่อไปนี้ บ้
แซคคารีเดินออกจากห้องนอนทันทีขณะที่เขาพูด ชาร์ล็อตใกล้จะเสียสติ และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่อ้างว้าง “นายบอกว่า นายจะขังฉัน นายจะขังฉันไว้นานแค่ไหน?” “นั่นมันจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเธอ” แซคคารีตอบ “อาจเป็นสัปดาห์ 1 เดือน 1 ปี… หรืออาจอยู่ไปจนวันตายก็ได้” ขาของชาร์ล็อตหมดแรง และเธอก็ทรุดลงกับพื้น แซคคารีหันกลับมาด้วยการแสดงออกที่เย็นชาและน่ากลัว “ลืมอะไรไปรึเปล่า เธอมีเวลา 10 วินาทีที่จะออกไปจากห้องของฉัน ถ้าเกินมาแค่ 1 วินาที ฉันจะขังเธอเพิ่มไปอีก 1 ปี” ชาร์ล็อตถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้าของเธอกระตุก เธอลุกขึ้นยืนในวินาทีต่อมาและรีบพุ่งออกจากห้องของแซคคารี เธอล็อกประตูห้องนอน และขึ้นไปนั่งบนเตียง เธอคว้าตุ๊กตาหมีซึ่งวางอยู่ข้างหัวเตียงอย่างไม่พอใจ จากนั้นเธอก็ใช้นิ้วจิ้มจมูกของตุ๊กตาหมีอย่างแรง “แซคคารี ไอ้คนบ้า! นายมันเป็นคนสุดแสนงี่เง่า! นายมัน ไร้เหตุผล!" … แซคคารีเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชุดนอนหลวม ๆ ขนาดใหญ่ของเขาร่อนลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล เผยให้เห็นเรือนร่างที่ผอมเพรียว ล่ำสันอย่างกับนายแบบ เขาเปิดฝักบัว ปล่อยหยดน้ำผลึกละเอียดอ่อนลงบนร่างกาย และปล่อยให้ไหลลงมาตามผิวห
เมื่อชาร์ล็อตมาถึงห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่ง แซคคารีนั่งอยู่บนโซฟา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอกำลังรีบไปพบพ่อของเธอ เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นเขาตอนที่เธอวิ่งผ่านเขาไป ทั้ง ๆ ที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นแท้ ๆ เธอช้าลงเล็กน้อย แต่เธอยังคงเดินไปที่ประตู “พ่อของฉันฟื้นแล้ว ฉันต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเจอเขาตอนนี้” แซคคารีตอบอย่างไร้ความรู้สึก เมื่อได้ยินคำพูดของเธอว่า “เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าเธอโดนขังอยู่?” ชาร์ล็อตหยุดทันที เธอตกใจกับคำพูดของเขา ใบหน้าของเธอซีดเผือด และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธอหันศีรษะไปรอบ ๆ และมองแซคคารีราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองปีศาจ “ฟังนะ ถ้านายกำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนปีนขึ้นไปบนเตียงของนาย และฉันไม่ได้ตั้งใจจะคัดค้านการตัดสินใจของนายที่จะกักขังฉันเพราะสิ่งที่ฉันทำ แต่วันนี้มันไม่ใช่ พ่อของฉันฟื้นแล้ว ฉันต้องไปหาเขา นายปัดความรับผิดชอบของฉันในฐานะลูกสาวไม่ได้หรอกนะ และนายก็ห้ามไม่ให้ฉันไปเยี่ยมเขาไม่ได้!” “แล้วจะบอกว่าเป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ?” ชายคนนั้นตอบขณะที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากโซฟา ร่างสูงของเขาปรากฏ
ชาร์ล็อตส่ายหัวแล้วตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะพ่อ” “จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ ลูกเป็นลูกสาวของพ่อ และพ่อก็รู้จักลูกดีที่สุด ทุกคนคิดว่าลูกสวยและฉลาด แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นเป็นเพียงหน้ากากที่ลูกสวมใส่ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง ลูกเป็นผู้หญิงหัวแข็งและดื้อรั้น ลูกไม่ยอมจำนนต่อใครทั้งนั้น และถ้าใครพยายามจะควบคุมลูก ลูกจะต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน แต่ยังไงก็เถอะ ฟังพ่อนะ คาร์ลี่ ลูกต้องลดทิฐิลงบ้าง ตอนนี้ลูกเป็นภรรยาของใครสักคนแล้ว ลูกอย่าตอบโต้กับแซคคารีและ...” “เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวก่อน! พ่ออย่าบ่นสิ ขอร้อง หนูรู้ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่” ชาร์ล็อตพูดแทรก เธอหัวเราะทั้งน้ำตา เธอคุยกับพ่อของเธอผ่านวิดีโอเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เธอได้รู้จากพ่อของเธอว่า ไม่เพียงแต่เขาทำให้วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดถอนฟ้องพ่อเท่านั้น แต่เขายังคืนสิทธิ์การจัดการของบริษัทซิมม่อนส์ให้กับพ่อของเธอด้วย หลังจากที่พ่อของเธอหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งประธานบริษัทซิมม่อนส์ได้อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ พ่อของเธอล้มป่วยลงจากการทรยศของไบรสันและวิกเตอร์ เมื่อเขารู้ว่าแซคคารีช่วยเขาจัดการทุกอย่าง ทันท
แซคคารีกล่าวว่า "ไม่ต้อง" จากนั้นเขาก็จ้องมองชาร์ล็อตอย่างมีนัยสำคัญ เขาบอกเธออย่างชัดเจนว่า “ฉันมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับลูคัส เธอออกไปได้แล้ว...” ชาร์ล็อตไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดจนเธอจะไม่เข้าใจว่าหมายมันถึงอะไร นอกจากนี้ เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของแซคคารีอยู่แล้ว ดังนั้น เธอจึงส่ายหัวและออกจากห้องนั่งเล่นทันที ลูคัสพูดต่อหลังจากที่ชาร์ล็อตเดินออกไป “เหตุการณ์นั้นถูกวางแผนไว้อย่างรอบคอบ และจุดประสงค์ของเขาคือให้คุณไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากการสืบสวนอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ในที่สุดผมก็พบว่าคนที่วางยาคุณในคืนนั้นเป็นหนึ่งในคนของลุงของคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนที่คิดแผนทั้งหมดเพื่อต่อต้านคุณอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่ใครอื่น น่าจะเป็นลุงของคุณมากที่สุดครับ!” แซคคารีหรี่ตาลง ด้วยคำว่า “ลุง” มันทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเอาเกลือมาถูแผลตรงหัวใจของเขา “เฮ้อ… นายท่านรอง ทั้งหมดมันเป็นอดีตไปแล้ว คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ใหม่แล้วหรอกเหรอ? ลืมอดีตแล้วก้าวต่อไปเถอะนะครับ” ลูคัสปลอบโยนแซคคารีอย่างลำบากใจ ลุงของแซคคารีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ลาร์สันและแซคคารีต้องแยกทางกัน ดัง
'อะไรกันเนี่ย?' ชาร์ล็อตเคาะประตูถึง 9 ครั้งจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว เธอเพิ่งเปิดประตูและเข้ามาในห้อง เพราะแซคคารีไม่ตอบ โอเค? ชาร์ล็อตที่เดินเข้าไปในห้อง เห็นแซคคารีจ้องมองล็อกเก็ตมรกตอย่างงุนงง เธอไม่ต้องการรบกวนเขา ดังนั้นเธอจึงพยายามเขย่งเท้ากลับไปที่ห้องนอนโดยไม่ส่งเสียงดัง แต่เธอถูกจับได้ซะก่อนที่เธอจะเคลื่อนไหว เมื่อเห็นว่าแซคคารีดูค่อนข้างไม่พอใจ ชาร์ล็อตจึงไม่อยากเถียงกับเขา เธอจึงยิ้ม “โอเค ฉันผิดเอง ต่อไปฉันจะเคาะประตูแล้วกันนะ ไม่รบกวนนายละ นายตกอยู่ในภวังค์ของนายต่อแล้วกัน” แซคคารีอ้าปาก แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาพูด ชาร์ล็อตก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ และปิดประตูอย่างแรง แซคคารีขมวดคิ้วที่งดงามของเขา 'ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์! นี่เธอต่อต้านฉันงั้นเหรอ?’ ... ชาร์ล็อตซึ่งกลับมาที่ห้องนอนของเธออย่างสงบสุข เธอถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ถ้าเธอออกจากห้องไม่ทันเวลา เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอลำบากขนาดไหน เมื่อนึกถึงแซคคารี เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงล็อกเก็ตมรกตที่เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า เพราะเธอเคยเป็นเจ้าของมัน... 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอกับไบรสันได้ประกาศความสัมพันธ์อย่
มันมีกลิ่นมิ้นต์ที่เย็นและสดชื่นมาจากเขา มันเลือนรางแต่ช่างมีความพิเศษจนไม่สามารถละเลยได้ มันน่าเสพติดอย่างกับยาเสพติด ภาพในหัวของชาร์ล็อตคือเธอได้ตกลงไปในสวนที่บานสะพรั่ง และลืมไปเสียสนิทเลยว่าแซคคารีกำลังจูบเธออยู่... คนที่กำลังจูบเธอคือแซคคารี! หลังจากที่ริมฝีปากของเขากระตุกและแยกออกจากเธอ ชาร์ล็อตก็ค่อย ๆ ฟื้นความมีเหตุมีผลของเธอ ทันทีที่เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ความสับสน ตกใจ และตื่นตระหนกก็เข้าครอบงำเธอในทันที “แซคคารี คอนเนอร์ ทำไมนาย.. จูบฉัน” แซคคารียังคงกอดเธอแน่น ความอบอุ่นที่มาจากลมหายใจและหน้าอกของเขาที่ร้อนผ่าวราวกับไฟในทุ่งหญ้า ทุกวินาทีในอ้อมแขนของเขามันช่างพิเศษ เขาทำให้เธอสูญเสียความสามารถในการให้เหตุผลไปทีละน้อย “อย่าทิ้งฉันนะ ได้โปรด...” ริมฝีปากเรียวบางแสนอบอุ่นของชายคนนั้น กดลงตรงระหว่างคิ้วของเธอ และเขายังกระซิบอีกว่า “ฉันรักเธอ” ชาร์ล็อตสะดุ้ง “นาย... นายพูดอะไร?” "ฉันรักเธอ" เขากอดเธอแน่นขึ้นในอ้อมแขนอันทรงพลังของเขา ราวกับว่าเขากำลังกอดสมบัติอันล้ำค่าที่มีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเองเสียอีก เขาต้องการที่จะโอบกอดเธอไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และจ
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา