หลังจากที่มีปากเสียงกับคุณป๋าไปเมื่อช่วงดึกของเมื่อคืน ทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณป๋ายิ่งแย่ขึ้นไปอีก คือคุณป๋ายิ่งเงียบใส่ฉันมากขึ้นกว่าเดิม จนฉันต้องแอบมาร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียว ในความรู้สึกของฉัน ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันอยากให้คุณป๋ารักฉันเหมือนลูกสาวคนหนึ่งบ้าง ไม่ใช่อะไรก็คิดถึงแต่พี่ฝน ที่ผ่าน
ฉันกลับเข้ามาในบ้านตามที่คุณป๋าสั่ง ส่วนคุณป๋าก็คุยอะไรกับพี่กายไม่รู้ สักพักใหญ่คุณป๋าถึงกลับเข้ามาในบ้าน “พี่กายละคะ” ฉันถามเพราะไม่เห็นพี่กายเดินตามเข้ามาในบ้านด้วยเลย “กลับไปแล้ว” คุณป๋าตอบเสียงเย็นแล้วเดินผ่านหน้าฉันไป “ทำไมคุณป๋าต้องยกฝุ่นให้คนอื่นด้วยคะ...” ฉันเม้มปากแน่น ความรู้สึกในต
ฉันสะตั้นไปครู่หนึ่งกับคำพูดของคุณป๋า ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ มันทำให้ฉันถึงกับน้ำตาคลอ ถึงจะเคยถูกดุอยู่บ่อยครั้ง แต่คุณป๋าก็ไม่ได้ใช้คำพูดแรงขนาดนี้ ‘อยากได้มันจนตัวสั่น’ ฉันไม่ใช่นิสัยแบบนั้นสักหน่อย “ร้องไห้ทำไม” คุณป๋าเอ่ยปากถาม “คุณป๋าเคยคิดว่าฝุ่นเป็นลูกบ้างมั้ยคะ” ฉันถามเสียงสั่นเครือ
ฉันทำหน้างอเมื่อได้ยินคุณป๋าบอกว่าฉันดื้อ ดื้อตรงไหนกัน ไม่เคยเลยสักครั้ง ฉันเชื่อฟังคุณป๋าอยู่ตลอด “เถียงในใจ ?”คุณป๋าพูดขึ้น เหมือนรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ อ่านใจออกงั้นหรอ “ฝุ่น ปะ เปล่านะคะ” ฉันรีบส่ายหน้ารัวๆ ปฏิเสธ “หน้าเธอมันฟ้อง” คุณป๋าตักข้าวมาป้อนฉันอีกคำ “ไม่กินแล้วค่ะ” ฉันมองหน้าค
ฉันไปรอคุณป๋าที่บริษัทเพราะคุณป๋าให้ฉันกลับไปบ้านพร้อมกัน แต่ไม่นานคุณป๋าก็โทรมาบอกว่าให้ฉันกลับไปที่บ้านก่อนโดยให้ลูกน้องคนสนิทมาส่งฉัน ส่วนตัวคุณป๋าเองติดธุระ คงจะได้กลับดึกๆ มาถึงบ้านว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรฉันเลยพับเสื้อผ้าและพวกของใช้ที่จำเป็นแพ๊คกระเป๋า เพราะต้องย้ายไปอยู่คอนโดที่กรุงเทพเลยต้องเ
ฉันผลักคุณป๋าออก สิ่งที่ฉันคิดแต่ก็ไม่กล้าถามออกไป เรื่องคุณป๋ากับพี่ฝน พยายามหาเหตุผลมากมายมาบอกตัวเองในใจว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบที่ฉันคิดก็ได้ เหมือนคุณป๋าจะได้สติแล้ว คุณป๋ามีท่าทางตกใจ สังเกตจากสีหน้าในตอนนี้ “เมื่อกี้ฉัน....”“อย่าทำแบบนั้นกับฝุ่นอีกนะคะ” ฉันชิงตัดบทพูดก่อน “ฝุ่น ไม่ใช่ พี่ฝน นะ
ฉันค่อนข้างงุนงงในสิ่งที่คุณป๋าบอกว่า ‘จะไม่มีงานหมั้น’ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีและฉันก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ “ยิ้มอะไร” คุณป๋าถามเสียงเข้ม ฉันแทบหุบยิ้มไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงของคุณป๋าท้วง “ปะ เปล่าค่ะ” “เมื่อคืน...หลับสบายดีมั้ย ?” คำถามของคุณป๋ามันทำให้ใจดวงน้อยของฉันมันเต้นรัว ใบหน้าเห่อร้อ
1 เดือนผ่านไป.... หนึ่งเดือนแล้วสำหรับสิ่งแวดล้อมที่แปลกตา มหาวิทยาลัยที่ไม่คุ้นชิน ในตอนนี้ฉันปรับตัวได้แล้วแหละ และก็ได้รู้จักเพื่อนๆ คณะเดียวกันอีกเยอะเลย อ้อ! ฉันเรียนบริหารนะ ยัยมายก็เหมือนกัน ที่บ้านนางทำธุระส่งออกไวน์องุ่นให้กับนายทุนในประเทศและต่างประเทศน่ะ ครอบครัวมายกับครอบครัวฉันรู้จัก
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง “เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า “เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา” ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค
ผมค่อยๆ หันมองทางเมียตัวดีของตัวเองที่ในตอนนี้แทบจะยืนไม่อยู่ “ออกไปให้หมด” สิ้นสุดคำสั่งของผม พวกลูกน้องก็รีบพากันออกไปในทันที เหลือเพียงไอ้กล้าที่เป็นลูกน้องคนสนิท “นายอย่าดุคุณหนูเลยนะครับ คุณหนูคงอยากจะออกไปดื่มกับเพื่อนบ้าง” “มึงเลิกให้ท้ายเมียกูสักที” ผมขบกรามแน่นระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉ
“อาเหนือสวัสดีค่ะ ^_^” ฉันกับเพื่อนยกมือไหวอาเหนือ “มึงน่าอิจฉาจริงๆ ว่ะไอ้หิรัญที่มีเมียสวยขนาดนี้” อาเหนือรับไว้แล้วหันหน้าพูดกับคุณป๋า “แล้วผู้หญิงของมึงล่ะ ทำไมไม่พามางานด้วย ?” “ก็แค่ของเล่น กูจะพามาออกงานทำไม” อาเหนือตอบแบบไม่ใส่ใจ นี่ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นคงจะเสียความรู้สึกมากที่ถูกจำกัดแ
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตั
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ย
“ไม่ต้อง!” คุณป๋าห้ามไว้ ทำให้ลูกน้องถึงกับหยุดชะงัก “ถ้ามันอยากจะแดกก็ให้มันไปหาแดกเอง” อื้อหือ! ดูคำพูดของคุณป๋าสิ ตีปากสักทีจะได้มั้ยเนี่ย ทำไมปากร้ายแบบนี้กัน “มาค่ะเดี๋ยวเมเบลชงให้ก็ได้” ฉันยื่นมือจะไปรับแก้วเหล้ามาจากมือของพี่ดิน แต่ พรึบ!! คุณป๋าปัดมือของฉันออก คุณป๋ากระซิบบอก “มาเสนอตัวใ
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตก
“ว่าแล้วต้องทะเลาะกัน” เอวาพูดขึ้น “คนแก่ก็แบบนี้แหละ” ฉันพูดเสียงดัง ตั้งใจให้คุณป๋าได้ยิน “ใครแก่ ?” เสียงคุณป๋าถามกลับแล้วมองหน้าฉันอย่างหาเรื่อง “ไม่รู้สิคะ หนูแค่พูดลอยๆ ใครอยากรับก็รับไป” “เมเบลพอได้แล้วเดี๋ยวงานก็กร่อยหรอก” เอวารีบเตือนให้ฉันหยุดพูดหาเรื่อง “ชิ!!” “แล้วนี่ที่พี่ดินจะ