ฉันลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งไปที่ประตูแต่ก็ถูกคุณป๋าคว้าตัวเอาไว้ก่อน ครั้งนี้คุณป๋ากดฉันลงที่พื้น แล้วคร่อมบนร่างของฉันเอาไว้ “ยะ อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคะ” “เธอยั่วโมโหฉันเอง !!” “ฝุ่นหรอคะ ? ฝุ่นยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ !!” “อ่อยผู้ชายออกนอกหน้าแบบนั้น หึ!!” คุณป๋าขบกามแน่นแล้วมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ“แล้วคุณป๋ามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฝุ่นละคะ” ถึงแม้จะพยายามดิ้นแล้ว แต่แขนกับขาของฉันถูกกดเอาไว้แบบนี้มันยากที่จะหลุดพ้น “เดี๋ยวก็รู้ว่าฉันมีสิทธิ์มั้ย” คุณป๋ากระตุกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น แควก !! ชุดที่ฉันใส่ถูกฉีกออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของคุณป๋า เนื้อผ้ามันเสียดสีกับผิวของฉันจนทำให้รู้สึกแสบเอามากๆ “คุณป๋า อย่านะคะ อย่าทำ อื้อ~” ฉันหมดสิทธิ์ที่จะพูดอะไรต่อเมื่อริมฝีปากของคุณป๋ากดทับลงมาบนริมฝีปากของฉัน มือหนาบีบปากฉันให้อ้าออกเพื่อเปิดปากให้ จากนั้นไม่รู้ว่าคุณป๋าทำอะไรต่อ สมองมันเหมือนขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ นานมากที่คุณป๋าจูบฉัน เอาลิ้นของตัวเองมาเกี่ยวพันกับลิ้นของฉัน รู้ตัวอีกทีมือหนาของคุณป๋าก็เค้นคลึงหน้าอกของฉันอยู่แล้ว แถมตอนนี้ขาของฉันมันยังอ้าออ
“คุณป๋าโคตรเห็นแก่ตัวเลยนะคะ รู้มั้ย...” คุณป๋ามองฉันด้วยใบหน้าที่เรียบตึง ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฉันแล้วนั่งลง แขนของฉันถูกกระชากอย่างแรงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ “มองฝุ่นทำไมคะ หรือคิดว่าเป็นพี่ฝนอีก...” “เธอจะพูดแบบนี้เพื่ออะไร !!” “ไม่รู้สิคะ...” นั่นสิ เพื่ออะไรกัน ฉันก็ยังรักพี่ฝนเหมือนเดิม แต่ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมเวลานี้ฉันถึงต้องพูดแบบนั้นออกไป “ฝุ่นยังอยู่ในสถานะลูกเลี้ยงของคุณป๋าอยู่ใช่มั้ยคะ” “.....” คุณป๋าเงียบเอาแต่จ้องหน้าฉัน จนรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก “หรือจะเปลี่ยนสถานะให้ฝุ่นเป็นเมียเก็บของคุณป๋า” “ฝุ่น!! พูดอะไรออกมาห๊ะ !!” คุณป๋าตะคอกเสียงดังลั่น “แล้วที่คุณป๋าทำมันต่างกันตรงไหนคะ ?” ฉันถามออกไปด้วยความเจ็บปวด “หรือจะบอกให้ฝุ่นลืมอีก งั้นบอกฝุ่นมาหน่อยค่ะว่าทำยังไงฝุ่นถึงจะลืมได้” ฉันก้มหน้าลง หยดน้ำตามันหล่นลงบนชุดเดรสที่ขาดหลุดลุ่ย “ฝุ่นจะหาเงินใช้ของฝุ่นเอง คุณป๋าไม่ต้องโอนเงินมาให้ฝุ่นอีกแล้ว” “อย่าอวดดีกับฉัน !!”“ฝุ่นไม่ได้อวดดี แต่ฝุ่นไม่อยากเป็นตัวแทนของพี่ฝน ฝุ่นก็คือฝุ่น...” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วปล่อยมือออกจากข้อแขนของฉันก่อน
“เท่าที่ฉันเลี้ยงเธอมา เธอไม่มีพี่ชาย !!” คุณป๋าพูดเสียงแข็ง “คงไม่ค้องให้ฉันย้ำอีกเป็นครั้งที่สอง” จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องของฉันพร้อมกับปิดประตูเสียงดังหลังจากที่คุณป๋าเดินออกไปแล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างมันว่างเปล่าไปเลยจริงๆ รู้สึกว่าชีวิตนี้คงไม่มีความสุขอีกแล้ว เช้าวันใหม่....ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมารับน้ำค้างและแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่หน้าบ้าน วันนี้ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะว่าจะได้กลับไปกรุงเทพแล้ว ไม่ต้องอยู่ที่บ้านสวนให้อึดอัดใจ “อะ คุณป๋า ปล่อยนะคะเดี๋ยวมีคนมาเห็น” ฉันสะดุ้งโหย่งแล้วรีบแกะมือของคุณป๋าออก เพราะจู่ๆ คุณป๋าก็มาสวมกอดฉัน ไม่รู้ว่าเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่คุณป๋าจับตัวฉันหมุนไปหาตัวเอง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองฉันเป็นประกาย ทำไมถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนคุณป๋าไม่เคยมองฉันแบบนี้เลย อีกทั้งเมื่อคืนเราก็เพิ่งมีปากเสียงกัน มือหนายกขึ้นมาปัดไรผมของฉันออกจากใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน จู่ๆ หัวใจของฉันมันก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังเผลอใจ สิ่งที่ฉันทำคือผลักคุณป๋าออกไปไกลๆ “ผลักทำไม !!” คุณป๋าเดินกลับมาประชิดตัวฉันแล้วคว้าแขนขอ
สัมผัสร้อนผ่าวจากริมฝีปากและลมหายใจของคุณป๋ากระทบลงมาบนฝ่ามือของฉันอีกครั้ง “พอแล้วค่ะ ฝุ่นรีบกลับกรุงเทพ” “รีบ ?” คุณป๋าขมวดคิ้วมองฉันแล้วพูดต่อ “ฉันเริ่มจะสงสัยแล้วสิ ว่าเธอรีบไปเรียนหรือรีบไปหาใคร” “ฝุ่นขอตัวออกไปข้างนอกก่อน อื้อ~ อย่าดึงค่ะ” ฉันต้องรีบเอามือจับยึดขอบอ่างเอาไว้เพราะจู่ๆ คุณป๋าก็กระตุกแขนทำเอาฉันเกือบตกลงไปในอ่าง คุณป๋ามองหน้าฉันอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็โอบเอวของฉันก่อนจะรวบตัวฉันให้ลงไปในอ่างด้วย ร่างของฉันหล่นลงไปในอ่างจนน้ำกระเซ็นออกจากอ่างเต็มพื้นรอบๆ ในตอนนี้ฉันอยู่ในท่าหันหลังให้คุณป๋า และรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันแข็งทืออยู่ใต้น้ำ ในตอนนี้เจ้าสิ่งนั้นมันกำลังโดนก้นของฉันอยู่ “คุณป๋า ฝุ่นอาบนน้ำแล้วนะ !!” “อาบอีกจะเป็นไร” เสียงคุณป๋ากระซิบบอกฉันใกล้ๆ กับต้นคอ จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าริมฝีปากร้อนๆ ของคุณป๋าจูบลงมาบนต้นคอของฉันอย่างแผ่วเบา “เป็นผัวเมียกันต้องทำอะไรกันเธอรู้มั้ย” บอกตามตรงว่าฉันไม่ชินกับคำว่า ‘ผัวเมีย’ เลยสักนิด “เงียบทำไม” เมื่อเห็นว่าฉันนิ่งและเงียบไปคุป๋าจึงถาม แต่มือของคุณป๋านั้นกลับอยู่ไม่นิ่ง เริ่มลูบคลำตรงขาอ่อนของฉันแล้วลากไล
“เพราะเธอเป็นเมียฉัน...”ฉันพยายามข่มใจเอาไว้ไม่ให้ไปใจเต้นแรงกับคำพูดแบบนี้ของคุณป๋าอีก แต่ยิ่งพยายามห้ามเท่าไหร่ใจมันกลับไม่ยอมฟัง เผลอไปใจเต้นแรงอีกจนได้ “จะไปโรงพยาบาลไม่ใช่หรอคะ ไปสิคะ” ฉันยกก้นเตรียมจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคุณป๋ากดสะโพกเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันลุกขึ้นไปไหน “เปลี่ยนใจแล้ว” “ปะ เปลี่ยนใจอะไรคะ” “ฉันง่วง อยากนอนพักผ่อน” มือหนาบีบเอวของฉันเบาๆ เหมือนต้องการจะสื่ออะไรสักอย่าง “งั้นเดี๋ยวฝุ่นจะไปนอนห้องมาย...” สิ้นสุดคำพูดของฉันก็รู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวกระทบลงมาโดนแผ่นหลัง ทำให้รู้ว่าคุณป๋ากำลังไม่พอใจฉันอยู่ “อย่าพยายามออกห่างจากฉัน” ไม่พูดเปล่า คุณป๋าใช้มือสอดใส่เข้ามาในเสื้อของฉันอย่างจงใจ “เพราะมันทำให้ฉันยิ่งอยากอยู่ใกล้เธอ”“คุณป๋า อื้อ ~” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ เมื่อถูกนิ้วใหญ่รุกล้ำเม็ดบัวตูมบนเนินหน้าอก คุณป๋าใช้นิ้วเขี่ยไปมาพร้อมกับขยำหน้าอกจนฉันแทบนั่งไม่ติด “พอแล้ว อ๊ะ~” ปากร้องห้าม แต่ร่างกายของฉันกลับแอ่นรับสัมผัสจากมือคุณป๋าเป็นอย่างดี ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทำให้ฉันรอดพ้นจากคุณป๋าอย่างหวุดหวิด แต่ดูจากสีหน้าของคุณป๋าแล้วคงจะไม่พอใจเท่าไหร่ที่ถูก
“ฉันควรรู้หรือเปล่าว่าทำไมในห้องเธอถึงมีเสื้อมัน ?” มันไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่นี่เป็นประโยคบังคับให้ฉันตอบต่างหาก คุณป๋ารวบตัวฉันแล้วดึงเข้าไปแนบชิดกับตัวเอง สายตาคู่นั้นมองฉันอย่างเอาผิด “มันไม่มีอะไรแบบที่คุณป๋าคิดเลยค่ะ” “รู้ได้ยังไงว่าฉันคิดอะไร หรือเธอทำแบบนั้น ?” คุณป๋าถามเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไร ทั้งที่ความจริงก็คิดเรื่องพวกนั้นอยู่“อย่าหาเรื่องทะเลาะได้มั้ยคะ” ฉันดันตัวคุณป๋าออก แต่คุณป๋ากลับกำชับกอดแน่นขึ้น “คุณป๋าปล่อยฝุ่นก่อน !!”“เสื้อมันอยู่ที่ห้องเธอได้ยังไง ห๊ะ!!” ครั้งนี้ไม่ใช่การถามในโทนเสียงปกติ แต่คุณป๋าตะคอกใส่หน้าฉันเสียงดังลั่น “คุณป๋า !! ทำไมต้องเสียงดังด้วยอยากให้คนอื่นรู้มากขนาดนั้นเลยหรอคะ ว่าฝุ่นกับคุณป๋าทำอะไรต่ำๆ ด้วยกัน” ฉันเริ่มจะหมดความอดทน จะว่ายังไงก็ได้ก็ควรพูดในตอนที่ไม่มีคนอยู่ด้วยสิ “ต่ำๆ หึ!!” คุณป๋าหัวเราะออกมาเบาๆ ในลำคอ จากนั้นก็ใช้มือหนาเลื่อนลงไปลูบก้นของฉัน “ตอบฉัน !!” “วะ วันนั้นฝนตกค่ะ พี่ไนท์เลยขอมาเปลี่ยนเสื้อที่ห้องฝุ่น มายก็อยู่ด้วยถ้าไม่เชื่อคุณป๋าก็ไปถามมายดูสิคะ” แน่นอนว่าสายตาของคุณป๋าไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเลยสั
ร่างกายของฉันสั่นกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะสะโพกของคุณป๋าที่กำลังอัดกระแทกในตอนนี้ และฉันก็พยายามเม้มปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้หลุดครางออกมาเพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปข้างนอก แล้วก็มองประตูตลอดเวลาด้วยความระแวง คุณป๋าจับหน้าของฉันให้หันมองตัวเองจากนั้นก็กดริมฝีปากลงมาหนักๆ เรียวลิ้นร้อนๆ สำรวจภายในช่องปากของฉันแถมคุณป๋ายังพยายามจะเอาลิ้นของตัวเองมาเกี่ยวพันกับลิ้นของฉันอีก เอวสอบกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันมันดังขึ้นเป็นจังหวะ มันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันก็รู้สึกดีไปด้วย แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงอะไรอยู่ดี คุณป๋าถอนจูบออกจากนั้นก็จับตัวฉันผลิกคว่ำหน้าลง ก้นของฉันถูกคุณป๋าจับขึ้นก่อนที่ท่อนเอ็นลำใหญ่จะสอดใส่เข้ามาในตัวของฉันอีกครั้งและกระแทกไม่ยั้ง “บะ เบาๆ อื้อ ฝุ่น ฝุ่นจุก อ๊ะ~” ฉันก้มหน้าลงซุกหมอนใบใหญ่เพราะหลุดครางเสียงดังออกไป “คับแน่นเกินไป อ๊า~” คุณป๋าจับผมของฉันม้วนๆ กับมือแล้วออกแรงดึงทำให้หน้าฉันเงยขึ้นจากหมอนใบใหญ่อย่างห้ามไม่ได้ มือหนาอีกข้างก็บีบก้นฉันแล้วตบเบาๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้น ฉันเบิกตากว้างเตรียมจะถอยออกจากคุณป๋าแต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ ร่างคุณป
“หุบปากซะ!! ฉันไม่คิดจะหมั้นกับใครทั้งนั้น” ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดต่อจากคุณป๋า “ถ้าคุณป๋าจะหมั้นฝุ่นก็ไม่ว่าอะไรนี่คะ ฝุ่นยินดีค่ะ” พูดจบฉันก็ยิ้มจางๆ ออกมา แต่ความรู้สึกภายในใจมันไม่ใช่แบบนั้นเลย “หยุดพูดไร้สาระ” คุณป๋าพูดแบบไม่พอใจ จากนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง คุณป๋าก้มมองที่หน้าจอก่อนจะมองหน้าฉัน จากนั้นก็ลุกขึ้นไปรับสายที่ระเบียงไม่รู้เป็นอะไร ทำไมฉันถึงเอาแต่เหม่อมองแผ่นหลังของคุณป๋าอยู่แบบนั้นนานห้านาทีได้แล้ว ปลายสายคงจะเป็นผู้หญิงคนนั้น ฉันไม่ได้คิดไปเองหรอก ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ วันนี้มีเรียนช่วงเช้า ฉันจะเอาแต่นั่งเหม่อมองคุณป๋าแบบนี้ไม่ได้ เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอกับคุณป๋าแล้ว กุญแจรถก็ไม่อยู่คงจะกลับไปแล้ว ฉันไม่อยากคิดมากนะแต่ทำไมถึงห้ามความคิดตัวเองไม่ได้เลย หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยฉันก็ออกไปเรียนพร้อมกับมาย วันนี้บอกตามตรงว่าฉันไม่มีสมาธิจะเรียนเท่าไหร่ เพราะเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง “ฝุ่น เรียนเสร็จแล้วแกจะไปไหนต่อมั้ย”“....”“ฝุ่น! ฝุ่น! แกเป็นอะไรหรือเปล่า” “อ่ะ!! ปะ เปล่าๆ เมื่อกี้แกว่า
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั