แชร์

บทที่ 26

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่เหตุการณ์ในวันนั้นก็ดูเหมือนจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

ในตอนนั้นกระแสน้ำในแม่น้ำแรงมาก จนเจียงฉูฉู่ตกใจ และยืนอยู่ตรงริมแม่น้ำมองดูฉินเย่ที่ถูกพัดตกลงไปในแม่น้ำ ในหัวของเธอมีเสียงดังก้องอยู่

เมื่อเธอตั้งสติได้ และหันตัวกลับไปร้องขอความช่วยเหลือ ร่างผอมเพรียวก็พุ่งพรวดเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใด ๆ

ในจังหวะที่เดินสวนกัน เจียงฉูฉู่ก็ลืมแม้กระทั่งว่าต้องขอความช่วยเหลือ และหยุดชะงักฝีเท้าพร้อมกับหันศีรษะกลับมาโดยไม่รู้ตัว

และในพริบตาเดียวก็เห็นเด็กหญิงกระโดดลงไปในแม่น้ำ

โดยไม่มีความลังเลหรือสองจิตสองใจใด ๆ เลย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป เจียงฉูฉู่ก็ยังคงรู้สึกตกใจอยู่

เธอกล้าหาญเหลือเกิน จนทำให้เจียงฉูฉู่เกลียดเธอมาเป็นเวลานาน

"เป็นอะไร?"

เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะจมดิ่งอยู่ในความคิด ฉินเย่จึงถามขึ้นมาหนึ่งประโยค

หลังจากได้ยินแบบนี้ เจียงฉูฉู่ก็กลับมามีสติ พร้อมกับยิ้มและส่ายหัวเบา ๆ

"ไม่มีอะไรค่ะ"

เธอไม่ควรคิดถึงอดีตอีกต่อไป ในตอนนี้ เธอคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของฉินเย่เอาไว้

และสิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 27

    เสิ่นหยินอู้รอตั้งแต่เช้าจรดเย็นและไม่ได้รับคำตอบของฉินเย่ด้วยซ้ำโทรศัพท์มือถือของเธอเงียบฉี่ ราวกับว่ามันขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปเมื่อก่อนเวลาเธอทำงาน เสิ่นหยินอู้ก็หวังว่าจะไม่มีใครติดต่อตัวเองมาผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นแต่ตอนนี้...…จนกระทั่งค่ำโทรศัพท์มือถือของเสิ่นหยินอู้ก็ดังติ๊ง และมีข้อความเข้ามาเธอสะดุ้ง และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากได้อ่านเนื้อหาอย่างชัดเจนแล้วดวงตาของเธอก็มัวหม่นลงคือโจวซวงซวงที่ส่งข้อความมา: "เธอไตร่ตรองไปถึงไหนแล้ว? ได้สารภาพกับเขาไปแล้วหรือยัง?"เสิ่นหยินอู้ดูโทรศัพท์มือถืออย่างเงียบ ๆ อยู่เป็นเวลานาน และหัวเราะเบา ๆ ขึ้นมาทันทีเสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยการดูถูกตัวเองอันที่จริงก็รู้ผลลัพธ์ตั้งนานแล้วแต่ทำไมเธอถึงไม่ยอมจำนน?ทั้งยังต้องกระจายบาดแผลของตัวเองให้คนอื่นเห็น และทำให้คนอื่นมาเชิดใส่ตอนนี้จบเห่ไปแล้ว ต่อไปเธอจะเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างไร?เสิ่นหยินอู้ค่อย ๆ ล้มตัวลงมาบนเตียง และหลับตาลงตอนนี้เขาอยู่กับใครนะ?กำลังทำอะไรอยู่?เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าตัวเธอท้องกัน?

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 28

    บางทีแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น ว่าในตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ดวงตาของเขามีจุดสนใจชัดเจนเพียงใด“เธอได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์มือถือไว้หรือยัง?”ไม่ทันได้ตั้งตัว ฉินเย่ก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยคเมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงฉูฉู่ก็กลับมามีสติและพูดว่า: "อืม บันทึกไว้แล้วค่ะ เย่ คราวหลังฉันออกมาเที่ยวเล่นกับเธอได้ไหม?""อืม ก็ช่วยให้เธอไม่ต้องมีสมาธิกับงานทั้งวันดี"เจียงฉูฉู่ทำได้เพียงยิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และเมื่อเธอหันหลังกลับไป เธอซึ่งมักจะอ่อนโยนอยู่เสมอ ก็กลับมีแววตาเจ้าเล่ห์แวบขึ้นมา~เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเสิ่นหยินอู้ตื่นขึ้นมา ก็พบว่าดวงตาของตัวเองบวมเล็กน้อยและเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ เธอจึงใช้น้ำแข็งประคบลดอาการบวมเธอเหลือบมองโทรศัพท์มือถือ และเห็นว่ามีคนส่งข้อความมาให้เธอ หลายคนเจียงหนิงฉวน: "ฉันจัดการงานทั้งหมดให้แล้ว เธอไม่ต้องกังวลนะ พักผ่อนเยอะ ๆ ถ้าไม่สบายก็ต้องไปโรงพยาบาลนะ"“ตื่นแล้วเหรอ?เป็นยังไงบ้าง? หากมีอะไรจำเป็น พี่หนิงฉวนจะไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอเอง”ข้อความข้างบนถูกส่งมาหลังจากที่เธอผล็อยหลับไปเมื่อคืนนี้ และอีกอันก็ส่งมาเมื่อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 29

    เมื่อโจวชวงชวงได้ยินเรื่องการทำแท้ง ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบโต้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว"ทะ ทำไมกัน?"“จะทำไมอีกล่ะ?”"แต่……"โจวชวงชวงพูดอย่างไม่เต็มใจว่า: "สองปีนะ เธออยู่กับเขามาสองปีแล้ว เขาไม่มีความทรงจำกับเธอสักครึ่งนาทีเลยเหรอ? และลูกคนนี้ก็ไม่ใช่ของใครอื่น นั่นเป็นลูกของฉินเย่เลยนะ ในฐานะสามีและพ่อ เขามีความเมตตาบ้างไหม?”เสิ่นหยินอู้เงียบไปหากก่อนที่จะส่งข้อความไป เธอได้จินตนาการถึงฉินเย่สักนิดจินตนาการในตอนนี้ของเธอก็สลายไปแล้วอย่างแท้จริงบนอินเตอร์เน็ตมีคำพูดที่เป็นที่นิยมมากพูดเอาไว้ว่าอย่างไร?โอ้ ใช่แล้ว……ลูกของคุณจะเป็นลูก ก็ต่อเมื่อเขารักคุณเมื่อไม่รักคุณ ไม่ต้องพูดถึงลูกเลย แม้แต่ตัวคุณเองก็ไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำโจวชวงชวงกล่าวต่อว่า: "ต่อให้ไม่นับสองปีนี้ แต่เธอก็เติบโตมาด้วยกัน เป็นคู่รักที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรือไง? หยินอู้ เธอไม่ได้บอกกับเขาไปชัดเจนหรือเปล่า? ไม่เช่นนั้น..…. ""ชวงชวง" เสิ่นหยินอู้ขัดจังหวะเธอขึ้นอย่างใจเย็น "อย่าพูดอะไรอีกเลย"เรื่องนี้ ยิ่งพูดถึงมากขึ้นเท่าไหร่ก็มีแต่จะทำให้เธออับอายมากขึ้นเท่านั้นครั้งเดียวก็เพียงพ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 30

    ไม่แปลกใจเลยที่เธอตื่นขึ้นมาในรถของฉินเย่"พี่หยินอู้ พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าประธานฉินนั้นกังวลแค่ไหนในตอนที่ฉันไปบอกประธานฉินว่าพี่หมดสติไป"เมื่อหลินโยวโยวพูดเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ คือกำลังพยายามทำให้ตัวเองพอใจอยู่หรือเปล่า?เธอจึงพิจารณาและตอบไปว่า: "จริงเหรอ? กังวลขนาดไหนเหรอ?"หลินโยวโยวยิ้มเล็กน้อยอย่างเขินอาย“ถึงอย่างไรฉันก็อยู่ที่ฉินกรุ๊ปมาหลายปีแล้ว นอกจากเมื่อวาน ฉันก็ไม่เคยเห็นประธานฉินแสดงสีหน้าเช่นนี้มาก่อนเลยค่ะ ในเวลานั้นข้าง ๆ เขามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังรายงานเรื่องงานต่อเขาอยู่ พอได้ยินว่าพี่หมดสติไปแล้ว แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ยังเพิกเฉยใส่ และเขาก็วิ่งเข้ามาอุ้มพี่ขึ้นรถไปโดยตรงด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลมากเลยค่ะ”พอพูดมาถึงในตอนท้ายของประโยค หลินโยวโยวก็กระพริบตาแล้วพูดว่า: "ประธานฉินต้องใส่ใจพี่มากแน่นอนค่ะ""ใช่เหรอ?"เสิ่นหยินอู้มองดูเธอแล้วพูดว่า: "เมื่อวานเธอเห็นผู้หญิงคนอื่นข้างกายเขาหรือเปล่า?"ประโยคเดียว ก็ทำให้ความคิดของหลินโยวโยวที่จะต่อสู้กับCPของสำนักงานก็มอดดับลงไปอย่างสิ้นเชิงเธอยืนอยู่ตรงจุดเดิมเป็นเวลานาน โดย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 31

    “ว้าว ถ้าคุณว่าแบบนั้น ฉันคิดว่ามันก็เป็นไปได้นะ”“ก็ใช่ไง ผู้หญิงรวยๆที่ไหนจะทำงานเป็นเลขาในบริษัทหละ?”“แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมถึงต้องอยากแต่งงานปลอมๆหละ”“ คิดว่าคงต้องมีเหตุผลแหละ ฉันได้ยินมาว่าเลขาเสิ่นและประธานฉินโตมาด้วยกัน ในตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ประธานฉินก็คบหาอยู่กับเธอ เขาคงอยากจะช่วยเหลือเธอ พอมันเป็นยังงี้ ตอนนี้ก็เลยไม่มีใครกล้าที่จะรังแกเลขาเสิ่นแล้ว”“แบบนี้นี่เอง ประธานฉินของเราเป็นคนดีจริงๆ”“ฉันยังเคยได้ยินมาว่า ประธานฉินของเรารอเจียงฉูฉู่คนนั้นที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่ตลอดเลยแหละ ช่างเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวจริงๆ ก็สมกับเป็นประธานฉินของเราแหละน้า”ขณะที่คนเหล่านั้นกำลังคุยกัน เสิ่นหยุนอู้ก็ยืนฟังอยู่ข้างหลังโดยไม่ขยับไปไหน สีหน้าของเธอสงบราวกับว่าคนที่กำลังถูกนินทาอยู่นั้นไม่ใช่ตัวเธอจนกระทั่งรถของเจียงหนิงฉวนมาจอดอยู่ตรงหน้าทุกคน จากนั้นหน้าต่างรถก็ถูกลดระดับลง ทำให้เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเจียงหนิงฉวน "ขึ้นมาบนรถเถอะ"เสิ่นหยินอู้ขึ้นไปบนรถของเจียงหนิงฉวนต่อหน้าต่อตาทุกคนหลังจากที่รถขับออกไปไกลแล้ว คนเหล่านั้นที่เพิ่งคุย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 32

    เจียงหนิงฉวนไม่ได้พูดประโยคถัดไป แต่น้ำเสียงของเขาได้แสดงอารมณ์ของเขาออกมาอย่างชัดเจนเขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงรู้สึกขอบคุณที่เขาไม่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของเธอ ไม่เช่นนั้นน้ำเสียงของเขาคงจะแย่ยิ่งกว่าตอนนี้เสียอีก อาจเป็นเพราะความเงียบของเธอ ดังนั้นเจียงหนิงฉวนจึงไม่ได้พูดอะไรอีกและพาเธอไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากสั่งอาหารแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า "รอพี่ที่นี่สักพัก พี่จะออกไปข้างนอกสักสิบนาที" “โอเค” เสิ่นหยินอู้พยักหน้า ไม่มีแรงมากพอที่จะอยากรู้ว่าเขาต้องการจะไปทำอะไร สิบนาทีต่อมา เจียงหนิงฉวนกลับมาพร้อมกับถุงใบหนึ่ง "เอาไปสิ" "อะไรหนะ?" เจียงหนิงฉวนพูดว่า "ยาไง เธอไม่ได้ป่วยอยู่เหรอ? โตขนาดนี้แล้ว เธอก็ควรจะมียาที่ใช้บ่อยๆเตรียมไว้กับตัวเองบ้างนะ ถ้ารู้สึกไม่สบายจะได้มียากิน" เสิ่นหยินอู้มองดูถุงด้วยความสับสน "แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไร" “ถ้างั้นก็เตรียมไว้สำหรับครั้งต่อไป” "ก็ได้" เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับถุงยาไว้ ในนั้นบรรจุยาสามัญประจำบ้านที่หาได้ทั่วไปเอาไว้ ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมพอสมควร “ขอบคุณค่ะพี่หนิ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 33

    เจียงหนิงฉวนกลับมาจากความคิดของเขา เขามองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอแต่งตัวเรียบง่ายมาก ผมที่ยาวคลุมไหล่ทัดไว้หลังใบหูแบบลวกๆ วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงดูสวยราวกับป่วยเป็นโรค ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร เจียงหนิงฉวนเป็นคนที่มีความตระหนักรู้ในตนเอง เขารู้อยู่เสมอว่าเขาไม่ดีเท่าฉินเย่และไม่คู่ควรที่จะไปเปรียบเทียบกับเขา เมื่อตระกูลเสิ่นล้มละลาย เขาไปหาเธอในหลายๆที่ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ไม่ได้มีตำแหน่งและฐานะอะไรมาก เขาจึงไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเธอได้เลย แม้กระทั่งประธานของบริษัทแห่งหนึ่งยังบอกกับเขาโดยตรง “เจียงหนิงฉวน คุณเก่งและโดดเด่นมาก ผมเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของคุณ แต่ตอนนี้ครอบครัวเสิ่นตกต่ำแล้ว คนฉลาดควรรู้ว่าจะต้องตัดสินใจยังไง คุณสามารถมาที่บริษัทของผมได้” ในเวลานั้น หลายคนไม่เพียงแต่ไม่อยากยื่นมือมาช่วย แต่ถึงขนาดต้องการแย่งชิงตัวเขาไปด้วยซ้ำ “ตระกูลเสิ่นจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก แต่ให้จะมีบางคนเต็มใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในตอนนี้ ตระกูลเสิ่นก็ไม่มีวันรักษาความรุ่งโรจน์เหมือนดั่งในอดีตเอาไว้ได้” “ดังน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 34

    เธอตอบกลับว่า "เดี๋ยวกลับไปตอนเริ่มงาน" หลังจากนั้น ฉินเย่ก็ไม่ตอบกลับ เธอเก็บโทรศัพท์ของเธอลงไปแล้วพูดกับเจียงหนิงฉวนว่า "ฉันรู้ พี่หนิงฉวน" สายตาของเจียงหนิงฉวนมองไปที่โทรศัพท์ของเธอครู่หนึ่งแล้วถามว่า "ข้อความจากเขาเหรอ?" เสิ่นหยินอู้หยุดชั่วคราวและพยักหน้า เจียงหนิงฉวนไม่พูดอะไรได้อีก พวกเขาทั้งสองกินอาหารที่เหลือต่ออย่างเงียบๆและเช็คบิล จากนั้นเจียงหนิงฉวนก็ไปส่งเธอ เมื่อเสิ่นหยุนอู้เข้าไปในลิฟต์ เธอก็พบว่าเจียงหนิงฉวนตามเธอเข้ามา เธอประหลาดใจเล็กน้อย "พี่ก็จะไปเหรอ?" เพราะที่ทำงานที่ทั้งสองคนทำงานอยู่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน เจียงหนิงฉวนสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดด้วยสีหน้าสงบ "พี่จะไปหาประธานฉิน มีเรื่องจะรายงานพอดี" หลังจากออกจากลิฟต์แล้ว เจียงหนิงฉวนก็ยกมือขึ้นและมองไปที่เวลาบนนาฬิกาของเขา จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้แล้วพูดว่า “เหลืออีกสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มทำงาน คงไม่เหมาะที่จะไปหาประธานฉินในตอนนี้” เสิ่นหยินอู้พูดว่า "ถ้างั้นก็ไปอยู่ที่ห้องทำงานของฉันสักพัก" "ได้" เมื่อไปที่ห้องทำงานของเสิ่นหยินอู้ ไม่จำเป

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status