"อย่าไปว่าคุณน้าเลย ท่านแก่แล้วคงอยากมีใครมาช่วยดูแล"
"จะหาใครมาช่วยดูแลฉันไม่ว่าอะไรหรอก ขอแค่ไม่เอาพวกผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาอยู่ในครอบครัวของฉันก็พอ" "คิดมาก"ต้นกล้าวางฝ่ามือลงบนศีรษะเล็กพร้อมโยกไปมา ดวงตาอ่อนโยนมองใบหน้ายิ้มกริ่มของแฟนสาวราวกับต้องมนต์สะกด "อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบหนึ่งปีที่เราเป็นแฟนกัน ฝันมีอะไรจะให้กล้าด้วยนะ" "อะไร" "ไม่บอกหรอก รอลุ้นเอาเอง" "อย่าบอกนะว่าเป็นไม้ตียุงเหมือนปีที่แล้วอีก" "บ้าน่า ปีที่แล้วเป็นของขวัญสำหรับเพื่อน แต่ปีนี้เป็นของขวัญสำหรับแฟนมันต้องพิเศษหน่อยสิ"วาดฝันว่าอย่างอารมณ์ดี ความน่ารักและรอยยิ้มสดใสของเธอพอที่จะทำให้ต้นกล้าลืมเรื่องความเครียดลงไปได้บ้าง ต้นกล้ากับวาดฝันเป็นเพื่อนซึ่งสนิทกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะพ่อของเขาและเธอเป็นเพื่อนซี้มาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ความเป็นเพื่อนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคนรู้ใจซึ่งทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รู้เห็นและไม่คัดค้านแต่ถึงอย่างนั้นต้นกล้าก็ยังให้เกียรติวาดฝันไม่คิดล่วงเกินอย่างมากก็แค่หอมแก้มจูงมือเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจนเป็นที่อิจฉาของใครหลาย ๆ คนในโรงเรียน "แล้วนี่จะเดินกลับพร้อมฉันหรือจะโทรเรียกคนขับรถให้มารับ"ต้นกล้าหยัดกายลุกขึ้นยืนมือไปให้วาดฝันจับแถมยังช่วยปัดเศษฝุ่นเศษหญ้าออกจากกระโปรงของเธอรวมถึงตัวเอง "เดินกลับพร้อมกับกล้าดีกว่า ช่วงนี้เราไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเลยฝันอยากมีเวลาอยู่กับกล้านาน ๆ" "งั้นเอากระเป๋ามา เดี๋ยวกล้าถือให้" "ไม่เป็นไร ฝันถือเองได้ของกล้าก็หนักมากพอแล้ว" "ตัวเท่าลูกแมว แล้วดูกระเป๋า"เด็กสายเรียนดีอย่างวาดฝันทำปากยื่นแต่ก็ไม่ยอมส่งกระเป๋าจนต้นกล้าต้องชิงไปคล้องสะพายไว้บนไหล่ "ชิ อยากช่วยนักก็ช่วยแบกไปให้ถึงบ้านเลยนะ" "ได้ครับ คุณผู้หญิง"ต้นกล้าตอบรับพร้อมกับส่งยิ้มยียวน ทั้งคู่เดินออกจากประตูโรงเรียนทั้งสองเดินไปตามถนนเส้นเล็กลัดเลาะไปตามเส้นทาง ระยะห่างจากโรงเรียนกับบ้านใช้เวลาเดินทางสิบห้านาทีก็ถึง "คิดแล้วหรือยัง เรียนจบจากที่นี่แล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียนคณะอะไรต่อ"หญิงสาวถามขึ้นในขณะที่ทั้งจับมือก้าวขาเดินไปบนเส้นทาง "ก็ว่าจะเรียนมหาลัยใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ" "มหาลัยใกล้บ้าน มีแต่ของรัฐบาลทำไมไม่ไปเรียนมหาลัยเอกชนล่ะ"ต้นกล้าเหลือบสายตาไปมองหน้าแฟนสาว ก่อนที่เขาและเธอจะเดินเลี้ยวเข้าซอยบ้านของวาดฝันซึ่งบ้านแต่ละหลังนั้นล้วนเป็นของคนร่ำรวยมีเงินทองใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดเช่นเดียวกับครอบครัวของวาดฝัน "ว่ายังไงล่ะกล้า ถ้ากล้าไปเรียนมหาลัยเอกชนเราสองคนก็จะได้เรียนที่เดียวกันไง" กึก "ฝัน"ต้นกล้าหยุดชะงักหันมามองหน้าแฟนสาว "เธอก็รู้ว่าครอบครัวของเราไม่ได้รวยอะไร ที่เราเข้าเรียนโรงเรียนนี้ก็เพราะเราได้ทุนนักกีฬา"ต้นกล้ามองหน้าแฟนสาวพลางถอนหายใจ ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นเจ้าของบริษัทแต่ท่านก็มีภาระต้องดูแลลูกน้องมากมาย และไหนจะส่งเสียงพี่สาวฝาแฝดให้เรียนถึงโรงเรียนชื่อดังซึ่งค่าเทอมแพงหูดับกว่าโรงเรียนที่เขากับวาดฝันเรียนในตอนนี้เสียอีก "ฝันรู้ ฝันขอโทษ ฝันก็แค่อยากให้กล้าเรียนที่เดียวกัน"หญิงสาวพูดเสียงอ่อยพลางก้มหน้ามองพื้นด้วยความรู้สึกผิด "ถึงเราไม่ได้เรียนมหาลัยเดียวกัน แต่เราก็ยังนัดเจอกันได้นี่"เห็นแฟนสาวสีหน้าสลดเขาก็อดที่จะปลอบใจเธอไม่ได้ "เอาอย่างนี้ไหม กล้าจะลองไปสอบมหาวิทยาลัยเดียวกับฝัน ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที"สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นผู้ชายที่พ่ายแพ้ให้กับแฟนสาวอยู่ดี วาดฝันยิ้มตาหยี่คล้องท่อนแขนซบลงบนไหล่กว้างด้วยความดีใจ "ฝันรักกล้าที่สุดเลย" "หึ ๆ กล้าก็รักฝันเหมือนกัน"วาดฝันใจเต้นแทบจะทะลุออกมา ทั้งสองเดินคล้องแขนไปยังบ้านหลังใหญ่สุด ซึ่งอยู่ท้ายซอยบรรยากาศยามบ่ายคล้อยเติมเต็มไปด้วยความว่ารักจากปากของทั้งคู่ แม้จะไม่มีใครรู้และคาดถึงว่าอีกไม่นานทั้งสองแทบจะมองหน้าไม่ติดกัน ฮึก ฮึก เสียงร้องไห้ปานแทบขาดใจตายของต้นน้ำดังอยู่ในความมืดมีเพียงแสงสว่างอันเลือนรางจากดวงจันทร์ลอดผ่านทานหน้าต่าง ปลายนิ้วมือเลื่อนสไลด์มองรูปถ่ายในโทรศัพท์ มองผู้ชายที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอพลันน้ำตาไหลอาบหน้าดวงตาหมองเศร้า หลายวันมาแล้วที่ไม่สามารถติดต่อเข้าได้แต่ก็ยังมีข่าวคราวของอีกฝ่ายให้เธอได้เห็นผ่านสื่อบนโทรศัพท์ "คุณทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง ฮึก"คำบอกรักแสนหวานชื่นในคือพระจันทร์เต็มดวง สองชายหญิงหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันมันยังคงเป็นภาพตราตรึงในความรู้สึกของเธอ 'เธอรักฉันไหมต้นน้ำ' 'รักค่ะ หนูรักคุณ'หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยคำเธอแน่ชัดกับความรู้สึกของตัวเธอที่มีต่อผู้ชายตรงหน้า 'ถ้าเธอรักฉันจริงก็อย่าปฏิเสธฉันเลยนะ ยอมเป็นของฉัน' 'ถะ...ถ้าคุณสัญญาว่าจะรักและมีแค่หนู' 'ฉันสัญญา'ชายหนุ่มสอดฝ่ามือลูบไล้ไปตามต้นขาด้านในจนถึงใจกลางความสาว ความบริสุทธิ์ในวัยสาวต้นน้ำมอบให้เขาด้วยความเต็มใจภายในโรงแรมม่านรูดซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโรงเรียนเพียงไม่ถึงสิบกิโล ซึ่งที่แห่งนั้นมันเปรียบเสมือนรังรักของเขาและเธอในตลอดหลายเดือนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับการที่เธอต้องขาดเรียนจนทางโรงเรียนต้องส่งจดหมายมาถึงผู้ปกครอง"คุณหลอกหนู"เธอกำซองจดหมายสีขาวซึ่งเป็นจดหมายของทางโรงเรียนที่ส่งมาในก่อนหน้านี้ถึงสองฉบับ มันคงเป็นความดีที่ยังคงเหลืออยู่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านหลังจากเสร็จความรักใคร่ในแบบฉบับหนุ่มสาว ซองสีขาวสอดอยู่ตรงตู้จดหมายหน้ารั่วทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอเต้นสั่นด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนประทับไว้เด่นหรา ก่อนที่พ่อกับแม่และน้องชายจะมาเห็นเธอต้องรีบจัดการกับมัน'หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ภายในขณะนี้ค่ะ'"คุณคิดจะเฉดหัวหนูทิ้งอย่างนั้นจริง ๆ สินะคะ"นัยน์ตาอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เธอต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องเธอจะไม่ยอมเสียคนรักเสียพ่อของลูกไปเด็ดขาดในยามดึกเงียบสงัดทุกคนภายในบ้านต่างหลับกันหมดมีเพียงแต่เธอเท่านั้นที่นั่งรอเวลานี้ หญิงสาวในชุดรัดกุมก้าวเท้าออกจากห้องนอนด้วยความระมัดระวัง เธอตั้งมั่นว่าคืนนี้จะไปคุยกับคนรักให้รู้เรื่อง สองเท้าเล็กก้าวขาลงบันไดใช้ความชำนาญมองเส้นทางผ่านความมืดมิดก่อนจะพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู"เดี๋ยวหนูจะกลับมานะคะ พ่อแม่"ตึก ตึกสองเท้าภายใต้รองเท้าหุ้มส้นสีดำเดินย้ำเท้าไปตามเส้นทางที่คุณเคยด้วยความระมัดระวังว่ากลัวว่าใครจะ
"ทานข้าวสักหน่อยนะครับแม่เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา"ต้นกล้าเอ่ยพูดกับผู้เป็นแม่ที่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ตรงหน้าโลงศพของต้นน้ำด้วยความเสียใจเมื่อลูกสาวคิดสั้นแขวนคอตายหมายจบชีวิตพร้อมทิ้งจดหมายคำว่า"ขอโทษ"ไว้ก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ"แม่ครับทานข้าวสักหน่อยเถอะนะ""แม่ยังไม่หิว กล้าเอาไปเก็บเถอะลูก""แต่แม่ไม่ทานอะไรมาหลายวันแล้วนะครับ"ตั้งแต่ต้นน้ำตัดสินใจจบชีวิตผู้เป็นแม่ก็เอาแต่นั่งร้องไห้ไม่ยอมกินอะไรเอาแต่โทษตัวเองที่เลี้ยงลูกไม่ดีจนต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้"กล้าอย่าบังคับแม่เลยนะลูก ฮึก แม่ทานอะไรไม่ลงจริง ๆ "ต้นกล้ามองหน้าผู้เป็นแม่สลับกับมองรูปของพี่สาวฝาแฝดในกรอบสีทองก็พลันน้ำตาจะไหล 'พรุ่งนี้แล้วสินะที่ต้นน้ำจะต้องจากพวกเราไปยังที่ไกลแสนไกลและจะไม่มีวันได้หวนกลับมาพบกันอีก'"เป็นยังไงบ้างลูก""เหมือนเดิมครับพ่อ แม่ไม่ยอมทานอะไรเลย"เด็กหนุ่มบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงสื่อถึงความหนักใจอยู่ไม่น้อย ไม่ต่างอะไรกับผู้เป็นสามีจ้องมองแผ่นหลังของภรรยาที่นั่งอยู่บนศาลา"การที่ต้นน้ำตัดสินใจจากพวกเราไปมันเกินกว่าที่จะรับไหว คงต้องใช้เวลา ต้นกล้าลูก""ครับพ่อ""อย่าคิดน
"น้ำฝนทานข้าวสักหน่อยนะ"ข้าวต้มร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมจากฝีมือผู้เป็นสามีไร้ความหมายเมื่อภรรยาไม่คิดจะสนใจคิดจะอ้าปากทานเหมือนกับอาหารมื้อก่อน ๆ ที่ผ่านมา"ฝน คุณทานข้าวสักหน่อยเถอะนะถ้าคุณไม่ทานอะไรเลยแบบนี้ต้นน้ำจะรู้สึกยังไง""..."เพียงแค่ได้ยินชื่อของบุญสาวน้ำตาของคนเป็นแม่ก็หลั่งรินไหล ไม่มีใครยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นของต้นน้ำได้ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาการจากไปของต้นน้ำยังคงกลายเป็นฝันร้ายเกาะกินหัวใจของผู้ให้กำเนิด"ผมรู้ว่าคุณเสียใจ ผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้""ฮึก""แม้ว่าลูกจะจากไปแต่ต้นน้ำยังอยู่ในหัวใจของเรานะ ลูกไม่เคยไปไหนลูกยังอยู่ตรงนี้""ฮึก ฝนคิดถึงลูก"ภรรยาโผเข้ากอดสามีด้วยความโศกเศร้าเสียงสะอื้นร่ำไห้ไม่ต่างอะไรจากมีดปลายแหลมฝังลึกลงภายในใจของคนฟัง"ทำไมต้นน้ำถึงได้ทำแบบนี้ ฮึก ฝนเลี้ยงลูกไม่ดีใช่ไหมต้นน้ำถึงได้ทิ้งพวกเราไป"ทุกวินาทีเธอเฝ้าฝันคิดถึงแต่ลูกร่ำไห้โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอ"ภรรยาของผมเก่งที่สุดแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยนะที่รัก ถ้าจะให้โทษก็คงต้องโทษผม"คนเป็นพ่อน้ำตาไหลโดยไร้เสียงสะอื้นย้อนกลับไปตอนนั้นเขายังรู้สึกผิด แทนที่
วันเวลาผ่านไปร่างกายรวมไปถึงจิตใจของคนเป็นแม่ยิ่งห่อเหี่ยว ความฝันในค่ำคืนอันแสนเลวร้ายยังคอยตามหลอกหลอนเธออยู่เรื่อยไป ไม่ว่าจะเป็นยามตื่นหรือหลับตาก็ยังคงเห็นภาพใบหน้าและเสียงหัวเราะของลูกสาวอยู่ร่ำไป"ฮึก ต้นน้ำ ต้นน้ำลูกอยู่ที่ไหน"ใบหน้าของมารดาเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาร่ำร้องเรียกหาแต่ลูกสาว ยิ่งนานวันอาการของน้ำฝนยิ่งหนักขึ้นสร้างความตระหนักให้สามีที่คอยดูแลจนไม่เป็นอันทำอะไร"ฝน คุณตั้งสติก่อนสิ""อย่ามายุ่ง ฮึก ฉันจะไปหาลูก"ร่างเล็กผมแห้งพยายามลุกขึ้นนั่งแต่ด้วยร่างกายอ่อนแรงจึงต้องล้มลงนอนบนเตียงอีกครั้ง"คุณทำอะไรกับร่างกายของฉัน ฮึก ฉันจะไปหาลูก""ที่ผมทำก็เพราะว่าอยากให้คุณหายนะฝน""ฉันไม่ต้องการ ฉันจะไปหาต้นน้ำ"ดวงตาคมมองร่างของภรรยาที่พยายามคลานลงจากเตียงด้วยความปวดใจ แม้เขาจะหาหมอดี ๆ มารักษายังไงดูเหมือนว่าร่างกายของภรรยาจะไม่ตอบรับ ยิ่งนานวันเข้าร่างกายยิ่งเป็นหนักเพราะคนเป็นแม่ยังผูกใจรักยึดติดกับลูกไม่ยอมปล่อยฉึกเข็มฉีดยาปักลงบนเนื้อตัวยาที่ช่วยในการนอนหลับแล่นสู้เข้าในกระแสเลือด นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้"คุณไม่รักฉัน ไม่รักลูกของเราแล้วอย่างนั้นเหรอ"จริยาน้ำ
ต้นกล้ากลับเข้ามาในห้องหลังจากทานมื้อเย็นกับผู้เป็นพ่อเสร็จ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นดั่งเช่นทุกวัน"ว่ายังไงครับที่รักของกล้า"วาดฝันในชุดนอนสีชมพูสายเดี่ยวดูน่ารักกำลังนั่งมองแฟนหนุ่มผ่านกล้องโทรศัพท์ ในสายตาของเธอดูวิตกกังวลยังไงชอบกล จนแฟนหนุ่มรู้สึกเป็นกังวล"เป็นอะไรไปฝัน""กล้า"วาดฝันน้ำตาไหล ร่างเล็กร้องไห้สะอื้นก่อนจะเล่าเรื่องที่เธอฝันร้ายให้ผู้เป็นแฟนหนุ่มได้ฟัง"มันก็เป็นแค่เพียงฝันร้าย ไม่มีอะไรหรอกฝันอย่าคิดมากเลยนะ"ต้นกล้าเอ่ยปลอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาไม่อยากให้เธอคิดมากกับเรื่องราวในความฝันที่เธอได้เอ่ยบอกให้เขาได้ฟัง"ฝันขอไปนอนที่บ้านของกล้าด้วยได้ไหม ฝันไม่อยากอยู่ห่างจากกล้าเลย""ฝัน""หรือจะให้กล้ามานอนที่บ้านฝันก็ได้ เดี๋ยวฝันจะไปบอกคนขับรถให้ไปรับกล้า"ฝันร้ายทำให้เธออยากอยู่ใกล้ชิดกับคนรักตลอดเวลา มะรืนนี้ก็จะครบรอบหนึ่งปีทำไมเธอต้องมาฝันถึงเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ด้วย"อย่าร้องไห้เลยนะฝัน มันไม่มีอะไรหรอก""ถ้ากล้าไม่มาเดี๋ยวฝันจะไปหากล้าเอง""ไม่ได้นะฝัน ดึกแล้วมันอันตราย""แล้วกล้าจะให้ขวัญทำยังไง ตอนนี้ฝันเครียดจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว"วา
พรึ่บ"วาดฝัน"รูปหน้าหล่อเหลาหันมองไปยังทางอื่น ภาพประติมากรรมชั้นเอกตรงหน้าทำให้หัวใจแกร่งเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะทะลุออกมาอยู่นอกอก เมื่อชุดนอนตัวถูกถอดออกมากองตรงเอวคอด ดอกบัวตูมพอดีมือชี้เด่นทำเอาชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลาย"ใส่เสื้อผ้าเถอะนะฝัน""ทำไมล่ะ กล้าไม่ต้องการฝันเหรอ"วาดฝันวางฝ่ามือเล็กลงบนแผงอกอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามของแฟนหนุ่ม ดวงตากลมโตคู่นั้นชั่งเย้ายวนจนต้นกล้าใจหวั่นไหว"อย่าทำแบบนี้ เราสองคนยังเด็ก"วาดฝันส่ายหน้าปฏิเสธถอดชุดนอนตัวสวยผ่านทางศีรษะ ร่างเพรียวบางมีส่วนเว้าส่วนโค้งผิวขาวอมชมพูปีนป่ายขึ้นไปนั่งคร่อมร่างของแฟนหนุ่มโดยหันหน้าเข้าหากัน ฝ่ามือเล็กดันดวงหน้าหล่อเหลาของต้นกล้าให้หันมาสบสายตา"มองฝันสิกล้า แล้วบอกฝันมาว่ากล้าไม่ต้องการฝันจริง ๆ ""วาดฝัน"น้ำเสียงแหบพร่าเรียกชื่อของคนรักเมื่อเธอคว้ามือใหญ่ไปกอบกุมเต้าอวบทั้งสองข้าง"สัมผัสมันสิกล้า มันเป็นของกล้านะ"หญิงสาวบดเบียดกายเข้าหาโน้มศีรษะลงไปประกบริมฝีปากบดจูบ ปลายลิ้นเล็กสอดแทรกดูดดึงดื่มด่ำกับความหอมหวานอย่างใจกล้าไร้ความกลัว"ฝันรักต้นกล้านะ"ฝ่ามือใหญ่นวดคลึงเต้าอวบพอดีมือริมฝีปากของทั้งคู่ดูดดึงตวัดแลก
บรรยากาศในยามเช้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักของทั้งสอง หญิงสาววัยใสอยู่ในชุดเดรสสีชมพูกระโปรงบานแต่งหน้าโทนเดียวกันยิ้มอย่างร่าเริงไม่ต่างอะไรจากแฟนหนุ่มซึ่งทั้งสองได้พากันมาฉลองครบรอบหนึ่งปีที่คบเป็นแฟนกัน ณ ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองกรุง"อยากได้อะไรเป็นของขวัญไหม"ต้นกล้าเอ่ยถามแฟนสาวหลังจากทั้งคู่เดินเที่ยวด้วยกันมาสักพักใหญ่ เขาไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ล่วงหน้าเพราะตั้งใจจะให้เธอเลือกด้วยตนเอง"ถามแบบนี้อย่าบอกนะว่าไม่ได้เตรียมของขวัญมา"วาดฝันหันไปมองแฟนหนุ่มคิ้วสวยขมวดยุ่งทำปากยื่นเมื่อเห็นแฟนหนุ่มพยักหน้า"ต้นกล้า""อย่าพึ่งคิดไปเองว่าไม่สนใจหรือไม่ได้รักกัน"ชายหนุ่มเอ่ยปรามจูงมือแฟนสาวไปนั่งยังเก้าอี้ที่ทางห้างเตรียมไว้ให้สำหรับลูกค้าได้นั่งพัก"ไม่เอาสิไม่งอนกัน ที่กล้าไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้เพราะกล้าอยากให้ฝันเลือกด้วยตัวเองมากกว่า ถ้าหากกล้าเตรียมมาก็กลัวว่าฝันจะไม่ถูกใจ"ต้นกล้ารีบอธิบายยาวเหยียด เพราะเขาเป็นผู้ชายแข็งทื่อไม่รู้ว่าผู้หญิงส่วนมากชอบอะไร จะให้ไปถามเพื่อนก็คงไม่ได้ความสู้ให้เธอเลือกแล้วเขาออกเงินซื้อให้เสียดีกว่า"กล้าซื้ออะไรให้ขวัญก็ชอบทั้งนั้นแหละ"วาดฝ
ปัง ปัง ปังเสียงปืนดังขึ้นกันติดต่อหลายนัดคร่าชีวิตของศัตรูหลายชีวิตโดยชายหนุ่มผู้มีรูปหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ผิวขาวดั่งราวกับหญิงสาวแต่แววตาดำขลับคู่นั้นของเขากลับไร้ความรู้สึกปึกรถหรูสีดำขับเคลื่อนไปสู่ท้องถนนอีกครั้งหลังจากมีลูกน้องกระจอกฝั่งศัตรูดักทำร้ายหมายจะพรากชีวิตของ 'โทมัส'ชายหนุ่มผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมบุตรชายบุญธรรมของ อาร์มันโด้ พ่อค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ใครต่อใครต่างพากันเกรงขาม แต่ก็ยังมีคนกลุ่มน้อยคิดอยากจะลองดียึดอำนาจแต่ก็ไม่มีใครก้าวข้ามเข้ามาได้เพราะลูกชายบุญธรรมอย่างโทมัสคอยจัดการกวาดเรียบไม่ให้มีเหลือ"ท่านประธานคะ"น้ำเสียงแหบปนเซ็กซี่ของแม่สาวผมบลอนด์นามว่า ลิต้า เลขาสาวหุ่นสวยที่นั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยเรียกชื่อผู้เป็นเจ้านายก่อนจะยื่นโทรศัพท์ซึ่งมีสายจาก อาร์มันโด้ผู้เป็นพ่อโทรเข้ามา"ครับ""เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่าถูกลอบดักทำร้าย""ผมส่งพวกมันไปลงนรกหมดแล้วครับ แด๊ดไม่ต้องเป็นห่วง""ได้ยินแบบนี้แด๊ดก็เบาใจ ถ้าว่างก็เข้ามาเยี่ยมที่บ้านบ้างนะ มัมกับคามิล่าเขาบ่นคิดถึง""ครับ"ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอะไรออกมา แม้จะได้คุยกับผู้เป็นพ่อบ
มีใครเคยบอกคุณไหมว่าให้ทำดีกับคนรักเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราทั้งสองจะหมดบุญวาสนาตายจากกันไป ถึงครานั้นแม้เราอยากจะย้อนหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปมากเท่าไหร่มันก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดส่วนลึกของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นภายในห้องมืดทึบไร้ซึ่งแสงสว่างเปรียบเสมือนดั่งหัวใจของชายหนุ่มผู้นี้ ที่เอาแต่นั่งดูรูปคนรักพร้อมกับภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยซึ่งติดอยู่บนแผ่นกระดาษในสมุดฝากครรภ์เสียงสะอื้นร่ำไห้ยังคงดังติดต่อกันทุกวันทุกเวลานับตั้งแต่คนรักตัดสินใจโบกมือลาโลกใบนี้โดยไม่คิดจะหวนกลับมาหาหรือปรับความเข้าใจ"ฮึก ขอโทษ"หัวใจที่เต้นรัวแรงและความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกคมมีดกรีดแทงเกิดขึ้นเพราะอะไรมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ"ขอโทษที่ทำร้าย"น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนฝ่ามือด้วยความรู้สึกรวดร้าวอาลัยหัวใจของเขาร่วงดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก"กลับมานะ กลับมารักกันเหมือนเดิม""...""ขอโทษที่โกหก ขอโทษที่เอาแค่ทำร้าย ขอโทษที่ปากบอกว่าไม่รัก""...""ผู้ชายสารเลวคนนี้ยังรักวาดฝันสุดหัวใจนะรู้ไหม"น่าเศร้ายิ่งนักที่เธอไม่ทันได้ฟังคำบอกรักจากปากของเขา ความโกรธแค้นเปรียบเสมือนเกาะกำแพงสูงใหญ่คอ
พิธีในช่วงเช้าใกล้จะเริ่มขึ้น เหล่าขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวเดินทางมาถึง ใบหน้าของเจ้าบ่าวประดับด้วยรอยยิ้มพลอยทำให้ท่านอาร์มันโด้และแองเจลิน่าสบายใจเมื่อท่านทั้งสองได้รับข่าวดีเรื่องล้มเลิกการแก้แค้น ส่วนเรื่องในอดีตของชัชชัยปล่อยให้เป็นไปตามหน้ากระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"แดดดี้ดีใจนะที่ลูกคิดได้และยอมปล่อยวาง""ผมต้องขอขอบคุณแดดดี้กับมัมมากเลยนะครับที่คอยเตือนสติไม่ทำให้ผมหลงทำผิดไปมากกว่านี้""ที่มัมกับแดดดี้คอยกล่าวตักเตือนก็เพราะไม่อยากให้ลูกทำผิดพลาด แม้เราจะมีเงินมีอำนาจมากเท่าไหร่แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้"คำสอนของท่านทั้งสองช่วยฉุดดึงไม่ให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองรักไปมากกว่านี้ "ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมเองก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทำร้ายเธอ""มัมอยากจะขอให้ลูกเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน ต่อไปภายในภาคหน้าลูกจะต้องมีสติให้มากกว่านี้จะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก มัมรักลูกนะโทมัส""แดดดี้ก็รักลูกเหมือนกัน"โทมัสอ้าแขนโอบกอดท่านทั้งสองด้วยความรัก แม้จะไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ แต่ท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูเขามาคอยเติมเต็มความรักให้อย่างไม่ขาดหายเช่นเดียวกับคามิล่าบุตรสาวแท้
ป้านวลทำตามความต้องการของวาดฝันเธอนำซองใส่สิ่งของมาฝากไว้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของโทมัสพร้อมกำชับไว้อย่างดีว่าให้ส่งซองใส่สิ่งของในซองนี้ให้โทมัสในตอนเวลาเสร็จจากงานแต่งงาน"ป้าเป็นใครกัน""ป้าชื่อป้านวล เป็นคนรับใช้ของคุณหนูวาดฝัน"มือขวาคนสนิทก้มมองสิ่งขอภายในมือก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อสูทรักษามันไว้อย่างดีรอนำส่งให้กับผู้เป็นเจ้านายในวันพรุ่งนี้ตามความต้องการของหญิงสาว"โทมัส ลูกคิดดีแล้วเหรอหนูวาดฝันเธอไม่รู้อะไรด้วยเลยนะ"อาร์มันโด้เอ่ยแย้มขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินทางมาถึงประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเพื่อเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธีการแต่งงาน"เธอกับพ่อของเธอคือคนละคน ลูกอย่าเอาความแค้นมาปิดบังความรักถ้าพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นมันไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขอะไรได้แล้วนะ"แองเจลิน่าเกลี้ยกล่อมลูกชายเพราะไม่อยากให้โทมัสทำผิดไปมากกว่านี้ แม้การกระทำจะบอกว่าเกลียดและไม่ต้องการแต่ทั้งคู่รู้ดีว่าโทมัสยังรักวาดฝันเพียงแค่เจ้าตัวปากแข็งไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น"คิดให้ดีนะโทมัส ล้มล้างความคิดในตอนนี้ก็ยังไม่สายแดดดี้ไม่อยากเห็นลูกเสียใจไปตลอดชีวิตนะลูก"ถ้อยคำสั่งสอนของบิดาและมารดาบุญธรรมเริ่ม
"ตอนนี้นายชัชชัยไปรับตัวคุณวาดฝันกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วครับท่าน""ดี ฉันจะได้จัดการพวกมันทั้งสองคนเลยทีเดียว""แต่ท่านครับ คุณวาดฝันเธอกำลังตั้งท้องท่านคิดดีแล้วหรือครับที่จะ"ปัง"ชีวิตของกูต้องพังย่อยยับเพราะพวกมัน พี่สาวของกูต้องมาผูกคอยตาย กูต้องสูญเสียพี่สาวและลูกในท้องไปพร้อม ๆ กัน""...""พ่อของมันลงมือฆ่าพ่อแม่ของกูอย่างเลือดเย็น แล้วมึงคิดจะให้กูปรานีคนอย่างพวกมันสองคนอย่างนั้นเหรอ ฮะ"ความคับแค้นใจถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ภาพการตายในอดีตของครอบครัวมันยังคอยตามติดชีวิตของเขาไม่เคยเลือนหายไปไหน"แต่คุณวาดฝันเธอน่าสงสาร เธอไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเลวที่พ่อของเธอได้ทำ""แดดดี้ส่งให้มึงมาพูดเกลี้ยกล่อมกูใช่ไหม"ลูกน้องคนสนิทยืนก้มหน้าอย่างจำยอม แม้อาร์มันโด้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านเขารับรู้มันทั้งหมดผ่านการรายงานของบอดี้การ์ด"เธอเป็นคนรักของนายท่าน ผมรู้ว่านานท่านยังคงรักเธออยู่ อย่าทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลยนะครับ""ออกไป""อย่าทำร้ายคุณวาดฝันกับคุณหนูเลยนะครับท่าน ท่านยังรักคุณวาดฝันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ""กูไม่ได้รักเธอแล้ว มึงออกไปจัดการทุกอย่างตามที่กูสั
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูไม้ดังขึ้นปลุกให้วาดฝันรู้สึกตัวตื่นนอนในยามรุ่งเช้า "ใครคะ""หนูเอาอาหารมาส่งค่ะ"เสียงคุ้นเคยของพนักงานหญิงดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าของประตู โดยที่วาดฝันไม่ได้เอะใจหรือนึกสงสัย เธอก้าวขาลงจากเตียงรีบเดินไปเปิดประตูให้พนักงานสาวที่มักจะมาส่งอาหารให้เธอในทุก ๆ เช้า "คุณพ่อ"ริมฝีปากเรียวเปล่งเสียงเรียกชื่อของบิดาเมื่อเห็นว่าท่านกำลังยืนประกบหลังพนักงานผู้หญิงคนนั้นแถมยังมองมาที่เธอด้วยสายตาแข็งกระด้าง"นี่เงินของเธอ""ขอบคุณค่ะ"พนักงานสาวคนนั้นคว้าเงินอย่างลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งออกไปโดยทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างเสร็จ"คุณพ่อมาที่นี่ได้ยังไงคะ""พ่อต้องเป็นคนถามลูกมากกว่าวาดฝันว่าลูกกำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมถึงได้หนีออกมาจากบ้านของคุณโทมัสเขาแบบนั้น""เขาให้คุณพ่อมาตามหนูเหรอคะ"ริมฝีปากซีดเซียวเม้มเขาหากันด้วยความประหม่า สองเท้าเล็กก้าวถอยหลังหมายจะปิดประตูหนีแต่ลูกน้องผู้ภักดีของผู้เป็นพ่อไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น"หนูต้องกลับไปกับพ่อเดี๋ยวนี้วาดฝัน นี่คือคำสั่ง""ปล่อยหนูไปเถอะนะคะคุณพ่อ อย่าส่งตัวหนูไปให้ผู้ชายคนนั้นเลย"เธอวิงวอนแผ่วเบาด้วยความร้าวราน หัวใจเธอพลันดิ่งว
อ้วก อ้วกเสียงอาเจียนอย่างรุนแรงดังขึ้นภายในห้องน้ำพร้อมกับหยาดเลือดกำเดาไหลทะลักออกมา เส้นผมสีดำสนิทขับดวงหน้าซีดให้ขาวดังหิมะ ความมืดมิดไร้ขอบเขตกำลังห้อมล้อมรอบตัวของเธอเมื่อผลตรวจเลือดในครั้งนี้เป็นไม่น่ายินดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเธอเลยสักนิด'คนไข้คิดดีแล้วหรือครับ ตอนนี้เซลล์มะเร็งมันลุกลามจนน่าเป็นห่วงถ้าคนไข้ยืนยันจะรักษาเด็กในครรภ์เอาไว้หมอเกรงว่า''ฝันไม่เป็นอะไรค่ะคุณหมอ ฝันทนได้''แต่ถ้าคนไข้ไม่รักษา ทั้งตั้งคนไข้เองรวมไปถึงเด็กอาจจะ...''แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อฝันไม่สามารถเลือกทางไหนได้'ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนชีวิตของเธอมันก็จะต้องเกิดความสูญเสียขึ้น'ขอร้องเถอะค่ะหมอ เมตตาคนที่กำลังใกล้จะตายอย่างฝันด้วยเถอะนะคะ'"แม่ขอโทษนะลูก ถ้าหากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้เกิดมาเป็นแม่ลูกอย่าให้ได้มีเหตุร้ายทำให้เราสองคนต้องพลัดพรากกันอีกเลย"เธอไม่เคยท้อแท้หรือสิ้นหวังอะไรเท่านี้มาก่อน ชะตาชีวิตคงลิขิตให้เธอได้เจอแต่กับความทุกข์ไร้ความสุขจนวินาทีสุดท้ายสองเท้าก้าวไปยังเตียงนอนหลังจากจัดการอาบน้ำแต่งตัวในชุดใหม่แต่ใบหน้าสวยยังคงขาวซีดไม่มีชีวิตชีวา ขอบดวงตาบวมช้ำ
ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดเติมแต่งดูน่าเป็นห่วงในสายตาของป้าแม่บ้านเมื่อเห็นว่าวาดฝันนั้นต้องลุกขึ้นมาทำอาหารให้กับเอ็มม่าตั้งแต่เช้าตรู่ทั้งที่เธอนั้นยังตั้งท้องอ่อน ๆ"ให้ป้าทำเองจะดีกว่านะคะคุณวาดฝัน""ไม่เป็นอะไรค่ะป้า นี่มันเป็นหน้าที่ของฝัน"น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยตอบพร้อมกับตัดวางจานอาหารลงบนโต๊ะ"ได้ยังไงกันคะ คุณฝันของป้าไม่ใช่แม่บ้านอีกทั้งกำลังท้องกำลังใส่ไปนั่งพักเถอะค่ะเดี๋ยวป้าทำต่อเอง""ฝันยังไหวค่ะอีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว"สายตาของแม่บ้านมองวาดฝันจัดโต๊ะอาหารสำหรับสองท่านด้วยความเหนื่อยใจ แม้เธออยากเข้าไปช่วยแต่กลับถูกวาดฝันปฏิเสธใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในที่สุดวาดฝันก็จัดเตรียมโต๊ะอาหารเสร็จและเป็นเวลาที่เธอนั้นต้องทานข้าวเช้าและทานยาบำรุงครรภ์"สายจนป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ตื่นกันอีก"ป้าแม่บ้านขมุบขมิบพูดหลังจากเก็บจานอาหารของวาดฝันที่ทานเสร็จไปล้าง"คุณโทมัสคงเดินทางมาเหนื่อย ๆ ก็คงอยากจะพักถ้าหากพวกเขาตื่นแล้วเราค่อยเอาอาหารมาอุ่นเอาใหม่ก็ได้ค่ะป้า""ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นค่ะ ว่าแต่คุณฝันมีนัดตรวจครรภ์เมื่อไหร่อีกคะ""อาทิตย์หน้านี้ล่ะค่ะ ป้าถามทำไมหรือคะ""เปล่าหรอกค่ะ ป้าแค่ตื่
วันเวลาผ่านไปร่วมสองเดือน วันนี้วาดฝันตื่นเช้ากว่าทุกครั้งหลังจากได้รับข่าวว่าโทมัสกำลังจะเดินทางกลับมา ใบหน้าของเธอดูสดใสกว่าครั้งไหน ๆ ร่างกายผมบางอยู่ในชุดคลุมท้องสีชมพูลายดอกเดซีสีหวานดูเบ่งบานมีชีวิตชีวามากกว่าทุกครั้ง"คุณฝันไปนั่งพักเถอะค่ะ เดี๋ยวทางนี้ป้าจัดการเอง""ไม่เป็นอะไรค่ะป้า ฝันอยากช่วยป้าทำ"สองมือกำลังระวิงในการจัดโต๊ะอาหารต้อนรับการกลับมาของเจ้าของบ้าน "วันนี้ดูคุณฝันมีความสุขเป็นพิเศษนะคะ""ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอคะป้า"ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี่เธอมีความสุขที่สุดเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มกำลังเดินทางกลับมาหลังจากจัดโต๊ะอาหารเสร็จก็ใกล้จะถึงเวลา หญิงสาวออกไปยืนเฝ้ารอชะเง้อคอมองหาว่าเมื่อไหร่รถของชายหนุ่มจะมา ตลอดเวลาสามเดือนที่เขาไม่อยู่มันทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดราวกับว่าขาดอะไรไปยิ่งพอมาได้รู้ว่าเขาคือคนรักก็ยิ่งจะทำให้หัวใจตื่นตระหนักเฝ้ารอเขากลับมาอยู่ทุกเช้าค่ำ"มาแล้ว"ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นรถคันหรูขับเข้ามาจอดตรงหน้าบ้าน หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นระรัวมือไม้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มเปิดประตูเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสง่างามดังเทพบุตรแต่แล้วความด
ยิ่งเวลาผ่านไปร่างกายของวาดฝันยิ่งซูบผอม จะมีเพียงแต่หน้าท้องของเธอเท่านั้นที่เริ่มนูนเด่นออกมาให้เป็นที่จับตาของทุกคน"ข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ ไม่ใส่กระเทียมเจียวไม่ใส่ต้นหอมเสร็จแล้วค่ะคุณฝัน""ขอบคุณป้ามากเลยนะคะ""มาค่ะเดี๋ยวป้าช่วย"ป้าแม่บ้านรีบเข้ามาช่วยพยุงร่างอ่อนแรงของวาดฝันให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับช่วยจัดท่าให้นั่งได้สะดวก ข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมแต่วาดฝันกลับทานเข้าไปได้เพียงไม่กี่คำเท่านั้นก็ต้องอาเจียนออกมา"ว้าย คุณวาดฝัน"ป้าแม่บ้านหวีดร้องด้วยความตกใจรีบตรู่เข้าไปช่วยลูบแผ่นหลังแววตาของเธอนั้นยามมองร่างเล็กเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดูและความรู้สึกสงสารในเวลาเดียวกัน"ไหวไหมคะ ให้ป้าเรียกบอดี้การ์ดให้พาคุณฝันไปหาหมอดีไหม""ฮึก ฝันไม่เป็นอะไรค่ะป้า""จะไม่เป็นอะไรได้ยังไงคะ คุณฝันแพ้ท้องหนักมาติดต่อกันหลายวันแล้วนะคะ ข้าวปลาก็ทานได้ไม่กี่คำ ดูสิร่างกายผอมแห้งไปหมดแล้ว"ร่างเล็กเหลือแต่ผิวหนังห่อหุ้มกระดูกผลพวงมาจากการแพ้ท้องอย่างหนักบวกกับผลข้างเคียงของมะเร็งเม็ดเลือดขาวซึ่งทำให้ร่างกายของเธอแทบจะลุกไม่ไหว"ฝันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะป้า เดี๋ยวทานยาแก้แพ้ก็คงหาย""อดทนอีกนิดนะคะคุ