“มีอะไรหรือก้งเยว่ พวกข้าได้ยินเสียงร้องของคุณหนู จึงพากันรีบมาหาเจ้าถึงในบ้านน่ะ” เต๋อหลินและคนอื่นก็ตื่น เพราะเสียงกรีดร้องของลู่ชิงเช่นกัน“ฮือ ๆ ๆ พี่รองข้าฝันร้ายมันน่ากลัวมากเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงเลย ถ้ามันเกิดขึ้นจริงทุกคนต้องเสียใจมากแน่ ๆ เจ้าค่ะ ฮือ ๆ ฮึก ๆ” ลู่ชิงพูดไป
เต๋อหลินกลับมาถึงห้องพักรีบหยิบกระดาษขึ้นมา เพื่อเขียนเล่าเรื่องราวความฝันของลู่ชิงลงไป อย่างน้อยครั้งนี้มีชินอ๋อง อยู่กับเซียวหนิงหลงด้วย เมื่อได้ทราบคงจะปรึกษาหารือกันโดยเร็ว ตัวของเต๋อหลินเองก็ยังไม่ถึงกับเชื่อเต็มสิบส่วน เพียงแต่ที่ผ่านมาบางอย่างก็ได้ลู่ชิงช่วยเตือน จึงวางแผนรับมือกันได้อย่างทั
“ถูกต้องแล้วพวกเราต้องเตรียมกองทัพให้พร้อมไว้ก่อน ตอนนี้ที่ชายแดนแม่ทัพและทหารที่นั่นคงลงมือเรื่องเสบียง ตามที่เจ้าส่งวิธีไปให้เมื่อพวกเราเตรียมทุกอย่างล่วงหน้าเรียบร้อย ยามต้องทำสงครามจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง” ชินอ๋องสุดแสนจะภูมิใจในตัวบุตรชายของตน นอกจากจะเฉลียวฉลาดยังมีไหวพริบที่ดีเยี่ยมในตอ
“ในจดหมายบอกมาว่าอย่างไรหรืออาหลง เป็นข่าวมาจากผู้ใดในครั้งนี้ดูสีหน้าเจ้าแปลก ๆ อย่างที่อาจื้อพูดมานะ” พระชายาไป๋เอ่ยถามบุตรชายบ้าง“ที่เมืองหย่งเหอมีคนต้องการร้านค้าที่ข้าซื้อเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ใช้เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวตระกูลสวีแล้ว พวกเขาจ้างคนงานในร้านที่เป็นคนไร้บ้านมาก่อความวุ่นวาย เพื่อทำลายชื่
“เป็นเจียวมิ่งกับเต๋อฟาที่ส่งมาให้คุณหนู อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลยดีกว่า ช่วยกันยกเข้าไปวางด้านในเรือนคุณหนูเถิด” เจาซ่งไม่อยากพูดคุยตอนนี้เพราะดูแล้วอาจต้องยกขนกันหลายรอบแม้จะมีคนช่วยกันหลายคนก็ยังต้องยกกันหลายรอบ ทำเอาเหนื่อยหอบอยู่ไม่ใช่น้อยเลย หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อย คนของหลงจู๊อี๋จึงขอตัวก
ที่บ้านตระกูลสวีกำลังวุ่นวายกับการเก็บหีบเงินทอง และยังต้องเปิดร้านขายอาหารตามปกติกันสองพี่น้อง ในส่วนของวัตถุดิบร้านก๋วยเตี๋ยวแต่ละสาขาลู่ชิงจะให้คนนำไปส่งทุก ๆ สามวัน สาเหตุที่ไม่เปิดสาขาร้านก๋วยเตี๋ยวไกลจนเกินไป เพราะเกี่ยวกับเรื่องวัตถุดิบที่ต้องทำขาย แต่รออีกสักครึ่งปีลู่ชิงคิดว่าจะนำอุปกรณ์บาง
“ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากมายหรอกนายท่านสวี ครอบครัวท่านคุ้นเคยกับบุตรชายข้าเป็นอย่างดี ถือเสียว่าพวกเราก็รู้จักกันผ่านอาหลงก็แล้วกันนะ เวลาพูดก็ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์อันใดให้ยุ่งยาก ข้าจะเรื่องมากกับคนที่ไม่ถูกชะตาเท่านั้นแหล่ะ” ชินอ๋องกล่าวอย่างเป็นกันเองกับสองสามีภรรยา เพราะไม่ต้องการให้พวกเขารู้สึก
ที่พ่อค้าหรือตระกูลที่ทำการค้าไม่ให้ความสนใจการเปิดร้านของลู่เวินนัก เพราะพวกเขาใช้เงินอาศัยเจ้าเมืองเป็นคนจัดการแทนมากกว่า“เรื่องนี้ข้าจะรายงานท่านพ่อให้ทราบพรุ่งนี้เช้า ทางก้งเยว่เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ ได้ส่งข่าวอย่างอื่นมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่” เซียวหนิงหลงรับฟังเรื่องเจ้าเมืองที่ต้องให้ชินอ๋องเป็น
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร