ลู่ชิงเห็นด้วยกับคำพูดของท่านตา “ที่ท่านตาพูดมาก็ถูกเจ้าค่ะ แต่คนเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างเพียงแค่นี้ก็ห่างไกลจากโรคได้ไม่มากก็น้อยเจ้าค่ะ”“ข้าเองก็คิดว่ามันต้องช่วยผู้คน ลดอาการเจ็บป่วยไปได้เยอะทีเดียว เอาล่ะ
ด้านเซียวหนิงหลงกับผู้ติดตาม ที่เดินทางจากตำบลหย่งฝูใช้เวลาเดินทางครั้งนี้เกือบหนึ่งเดือน เพราะพวกเขาต้องใช้รถม้า นำตัวสายลับพวกนี้กลับไปด้วย ทำให้การเดินทางล่าช้าไปบ้าง ยังโชคดีที่ระหว่างทางไม่เกิดปัญหา มิเช่นนั้นอาจจะถึงเมืองหลวงช้ากว่านี้อย่างแน่นอนเมื่อเข้าใกล้เขตเมืองหลวง เซียวหนิงหลงได้นำตัวส
“นะ นะ นี่มัน!! หรือว่าจะเป็นน้ำวิเศษในตำนานเช่นนั้นรึ ถ้าหากดื่มแล้วเป็นอย่างที่เจ้าพูดมา แสดงว่าน้ำสมุนไพรที่เจ้าดื่มมีส่วนผสมของน้ำวิเศษอยู่อย่างแน่นอน หลงเอ๋อร์หากมีใครล่วงรู้เรื่องนี้เข้า นางจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป โดยเฉพาะพวกโลภมากและบ้าอำนาจพวกนั้น อาจส่งคนไปตามล่านางได้” เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าเ
นอกจากนี้ตัวของท่านอ๋องเอง ยังรู้สึกถึงความแข็งแรงของร่างกาย ที่คล้ายจะกลับไปในช่วงอายุสามสิบอีกด้วย“ท่านพ่อเจ้าคะท่านลองมองดูท่านแม่ดี ๆ สิเจ้าคะ ต่อไปนี้ท่านจะปล่อยท่านแม่ออกไปข้างนอกคนเดียวไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นละก็คงมีบุรุษเข้ามาเกี้ยวพาท่านแม่มากมายเลยล่ะเจ้าค่ะ อิอิ” พอดื่มน้ำสมุนไพรนางกับท่าน
ฮ่องเต้เซียวถิงเฟิงที่ทรงทอดพระเนตรมองอนุชา และหลานชายของพระองค์ ต่างจ้องหน้ากันด้วยสีหน้าที่ดูกังวล จึงทรงคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวของพระองค์อย่างแน่นอน“เสด็จพี่ กระหม่อมกับอาหลงสองคนสงสัยว่า อาการที่พระองค์ทรงตรัสออกมากับกระหม่อมเมื่อครู่นั้น เป็นอาการเริ่มแรกของคนที่ถูกวางยาพิษมาสัก
“เสด็จลุง ดูจากสีของพระโลหิตที่เป็นสีดำคล้ำถึงเพียงนี้ แสดงว่าพวกมันวางยาพิษ ในพระกระยาหารมานานแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหนิงหลงเองก็ไม่คาดคิดว่า คนพวกนั้นได้เริ่มลงมือมาพักใหญ่แล้ว ช่างวางแผนได้แนบเนียนเสียเหลือเกิน“ฝ่าบาท เป็นความผิดของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ ที่ไม่ตรวจสอบให้ดีทำให้พระองค์ถูกวางยาพิษ จนพร
“เช่นนั้นกระหม่อมสองคนทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องและบุตรชายจึงทำความเคารพฮ่องเต้ และกลับออกไปด้วยวิธีการเช่นเดียวกับตอนที่เข้ามาในตำหนัก“จ้าวกงกงให้คนของเราจับตามองพวกหนอน ที่แอบอยู่ในตำหนักนี้ให้ดี หากจับตัวได้จัดการส่งหัวของพวกมัน ไปให้กับคนที่ส่งหนอนพวกนี้มาในตำหนัก เป็นของที่ระลึกจากเจิ้นก็แล้วกัน”
ด้านลู่ชิงกับครอบครัว หลังจากที่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปเสนอทำการค้ากับเถ้าแก่หง ยามเช้าของวันที่สองยังไม่ถึงกำหนดวัน ที่นัดเจอกันไว้กลับกลายเป็นว่า เถ้าแก่หงมาหาพวกเขาถึงแผงขายอาหาร เพราะต้องการมาให้คำตอบว่า ตนตกลงทำการค้าตามข้อเสนอของลู่ชิง โดยให้นำหนังสือสัญญาการค้า ไปให้เขาลงชื่อที่ร้านหลังจากลู่ชิ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร
“ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง
ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ
แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง
“ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้
“เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ
อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้
เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข