นางถามขึ้นมาอย่างหวาดๆ ใบหน้าดุๆ ที่คิดจะหย่านางตลอดเวลา มีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะกำจัดนางทิ้ง“คิดอะไร ไร้สาระ หากฆ่าจะฆ่าเจ้า มิสู้ฆ่าแล้วฝั่งไว้ในตำหนักมิให้ใครรู้มิดีกว่าหรือ และที่สำคัญข้าไม่โง่พอที่จะฆ่าบุตรสาวแม่ทัพที่มีอำนาจทหารอยู่ในมือนับแสนนายหรอกนะ”ซ่งเทียนทำเสียงดุใส่นางในช่วงเวลานั้นเองเก่อหลางก็กระซิบเข้ามาในรถม้าว่า“องค์ชายขอรับ มีคนร้ายสะกดรอยตามพวกเรามาขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งเทียนก็ตื่นตัวขึ้นเป็นสิบเท่า เอ่ยเสียงทุ้มต่ำสั่งกลับไปว่า “ส่งสัญญาณบอกพวกให้เตรียมตัวรับ มันมีมาเท่าไหร่สังหารให้เรียบ”ฉู่เหลียนสีหน้าเลิ่กลั่กได้แต่นั่งนิ่งรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้จะมาถึงฟิ้ววว ..!ธนูดอกหนึ่งถูกยิงเข้ามาในรถม้า“ว๊าย!”ฉู่เหลียนกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ฝ่ามือหนาคว้าตัวนางมากอดไว้แล้วเบี่ยงหลบธนูดอกนั้นธนูปักลงตำแหน่งที่นางนั่งพอดิบพอดี ซ่งเทียนตวาดเสียงก้อง“ฆ่ามันให้หมด”เก่อหลางและทหารองครักษ์ทั้งหมดชักดาบออกมาอย่างรู้หน้าที่เข้าไล่ล่าคนร้ายในชุดสีดำที่ไล่ตามพวกเขามาส่วนฉู่เหลียนเงยหน้าขึ้นมามองซ่งเทียนนิ่งงันเขาช่วยชีวิตนางเป็นครั้งที่สองแล้วซ่งเทียนถามด้วย
จากนั้น หลินซื่อก็เดินเข้าไปหาลูกชาย “เทียนเอ๋อร์.. เจ้ามีเรื่องอยากบอกแม่หรือไม่”ซ่งเทียนเงยหน้ามองมารดา แล้วพยักหน้าเบาๆ เขาไม่เคยโกหกมารดา และไม่อยากจะโกหก จึงสารภาพออกไปว่า“สายของท่านแม่ในวังหลวงคงจะรายงานข่าวให้ทราบแล้วว่า ลูกมีสตรีในดวงใจอยู่แล้ว ลูกไม่เต็มใจแต่งงานกับฉู่เหลียน”“เรื่องนั้นแม่ทราบดี.... แต่แม่ก็มั่นใจว่า ลูกสามารถสตรีที่เพียบพร้อมอย่างฉู่เหลียนได้”“ไม่มีทาง ข้าไม่มีวันรักนาง สิ่งที่ลูกเกลียดที่สุดก็คือ สตรีที่ยอมให้บิดายกให้บุรุษเพียงเพื่อลาภยศสรรเสริญ แต่งงานเพื่อผลประโยชน์”ซ่งเทียนระบายความในใจออกมา แสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งหลินซื่อส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “การอภิเษกครั้งนี้ ลูกคิดว่าใครได้ผลประโยชน์หรือ”“จะเป็นใครได้หล่ะ นอกจากแม่ทัพฉู่”“เจ้าคิดผิดแล้ว.....”“..........”องค์ชายซ่งเทียนชะงักไปมารดาเขาจึงเอ่ยต่อไปว่า “คนที่ได้ผลประโยชน์จากการแต่งงานนี้มากที่สุดคือลูกต่างหาก... ซ่งเทียน”“หมายความว่าอย่างไร”ซ่งเทียนตะลึงตาค้างไป“เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิ แม่ทัพฉู่มีกำลังทหารอยู่ในมือนับแสนนาย อำนาจกว่าครึ่งขอแผ่นดินอยู่ในมือเขา หากต้องการบัลลังก์ที
เฟิงหยุนแม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นองค์ชาย แต่เขาก็ไม่เกรงกลัว เพราะความขุ่นเคืองใจมีมากกว่าที่จู่ ๆ บุรุษผู้นี้ก็โผเข้ามากอดภรรยาของเขา เขาจึงประกาศย้ำชัดขึ้นอีกว่า“ข้าเป็นสามีของลี่เอ๋อร์ งานแต่งงานกับข้าแล้วจักทำอะไรก็ให้เกียรตินางด้วย”“ท่านพี่....”เหมยลี่ส่งเสียงปรามสามี นางไม่อยากให้เขามีเรื่องกับคนในราชสำนักจนนำภัยมาสู่ตัว เหมือนกับที่นางเจอเหตุผลที่นางขายร้านเครื่องหอมทิ้ง แล้วอพยพมาอยู่ที่อำเภอเล็ก ๆ แห่งนี้ ก็เพราะว่า ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งลับ ๆ ให้หน่วยพิเศษมาบีบบังคับขู่เข็ญให้นางย้ายออกไปจากเมืองหลวงให้เร็วที่สุด นางจึงรู้ว่าวาสนาของนางกับซ่งเทียนสิ้นสุดกันเพียงเท่านั้น เมื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่นางก็ได้พบเจอกับเฟิงหยุน ลูกชายเศรษฐีของเมืองนี้ เขาคอยช่วยเหลือนางทุกอย่าง เพราะค้าขายเหมือนกัน จึงเข้าใจกันนางจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขาซ่งเทียนได้ยินเต็มสองหู แม้ว่าไม่อยากจะเชื่อ แต่ทุกอย่างปรากฏตรงหน้าแล้ว ราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ รักแท้ที่เขาคิดว่าจีรังยั่งยืน สุดท้ายแล้วก็จบลงเพียงเท่านี้“ทะ... ทำไม กลายเป็นแบบนี้ไปได้”เขาเอ่ยอย่างเลื่อนลอยเหมยลี่คิดว่าคงต้องอธิบายหลายเรื่องให้ซ่ง
องค์ชายซ่งเทียนนั่งรอพระชายาของตนอยู่ที่ร้านน้ำชาจนตะวันอ่อนแสงลงแล้ว อีกไม่นานฟ้าก็มืด แต่ฉู่เหลียนก็ยังไม่กลับมาสักที เขาจึงตัดสินใจเดินลงมาถามเก่อหลางที่เฝ้ารถม้าคอยอยู่ที่ถนนใหญ่“เก่อหลาง เห็นพระชายากลับมาหรือยัง”เก่อหลางมองหน้าซ่งเทียนแล้วก็ขมวดคิ้ว ก่อนตอบว่า “เมื่อ 1 ชั่วยามก่อน พระชายาขึ้นไปที่ชั้นบน จากนั้น นางก็วิ่งลง แล้วบอกว่าจะไปหาญาติผู้พี่ในอำเภอนี้ พระชายาไม่ได้แจ้งแก่องค์ชายก่อนหรือขอรับ”เขาคิดว่าองค์ชายคงจะอยากอยู่คุณเหมยลี่สองคน เลยไล่ฉู่เหลียนให้ไปที่อื่น เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่องค์ชายมักไม่สนใจอะไรอยู่แล้วถ้าอยู่กับเหมยลี่ ซ่งเทียนคิ้วกระตุก นางขึ้นมาหาเขาแล้ว นั่นแสดงว่านางจะต้องเห็นสิ่งที่เขากับเหมยลี่ทำแน่ ถึงได้หนีไปแบบนั้น เขาถอนหายใจ ยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองอย่างเครียดๆ“ไปเร็วเข้า ส่งคนไปสือว่าญาติผู้พี่ของฉู่เหลียนในอำเภอนี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน แล้วพาข้าไปหานางให้เร็วที่สุด” องค์ชายซ่งเทียนตวาดสั่งเก่อหลางอย่างหงุดหงิดณ จวนนายอำเภอ“พี่หวัง.... สุราหมดแล้ว เอามาให้ข้าอีก เอามา... งื้ออ”ฉู่เหลียนโยกกาสุราไปมา เสียงพูดอ้อแอ้เมามายอย่างเต็มที่“เออ..
ซ่งเทียนทำหน้าคล้ายคนเบื่อโลก อยากจะทุบนางเสียจริงๆ ดื่มสุราเมาจนคิดว่าตัวเองฝันฉู่เหลียนมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยอย่างไม่รู้ตัว“ซ่งเทียน..ท่านรู้ไหมคะ..อึกก..ท่านใจร้ายกับข้ามาก”มือเรียวยกขึ้นมาลูบในหน้าของเขาพร้อมกับพูดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว“........”ซ่งเทียนไม่ได้พูดอะไรนอกจากสบตานางที่ระบายความรู้สึกออกมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านางกำลังจะบอกความในใจให้คนตรงหน้าฟัง“ฮึกก..ใจร้าย.. ใจร้ายที่สุด แต่ข้าก็ยังจะรักท่าน..ฮึกก..รักทั้งๆ ที่ท่านไม่เคยรักข้าเลย....ฮึกก..ฮือ”ใบหน้าสวยซบลงที่อกของคนตรงหน้า เป็นเขาที่ดึงนางเข้ามากอดเอาไว้ ต่อให้เขาบอกอะไรตอนนี้ นางคงฟังไม่รู้เรื่อง“ฮึกก..ฮือ..ข้าแอบชอบท่านมาตั้งนาน รักมาตั้งแต่เด็กๆ พอได้แต่งงานกับท่านจริง ๆ กลับพบว่า ท่านมีคนในใจแล้ว ฮือๆ ข้าอยากจะตัดใจเลิกรักท่าน แต่ทำไม่ได้สักที..ฮึกก..ฮือ.. สุดท้ายข้าก็เจ็บปวด..มันเจ็บเหลือเกิน” “ข้าขอโทษ.. หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ”ซ่งเทียนบอกให้นางเงียบ มือหนายกมือขึ้นปาดน้ำตาออกให้ แล้วจูบที่หน้าผากของนางเพื่อปลอบประโลม ยิ่งได้ยินว่านางรักเขาด้วยใจจริง และรักมานานแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อนางฉู่เหลี
ในระยะประชิดเช่นนี้ ฉู่เหลียนเห็นอกแกร่งเต็มสองตา เรือนร่างใต้ผ้าบางเบาของบุรุษที่นั่งข้าง ๆ กำลังปลุกอารมณ์ของนางซ่งเทียนมองฉู่เหลียนที่ไม่ตอบเขา กลับเอาแต่มองร่างกายของเขา เขาจึงต้องบีบจมูกนางเพื่อดึงสติ“อ๊ะ..เจ็บ..อื้อ...” ฉู่เหลียนร้องทำหน้าหมุ้ยใส่เขา “ทำไมชอบทำร้ายด้วย”ฉู่เหลียนทำตาแดง ๆ เหมือนร้องไห้ออกมาจริง ๆซ่งเทียนตกใจรีบขอโทษ “เจ็บจริงหรือ ข้าขอโทษ”ฉู่เหลียนใช้มือจับใบหน้าเขา แล้วสบตาด้วยหัวใจที่เต้นแรง“ท่านพี่...”ฉู่เหลียนส่งสายตาออดอ้อนอย่างไม่เคยเป็น ซ้ำยังเรียกเขาว่าท่าพี่ซ่งเทียนทนความยั่วยวนในยามนี้ของนางไม่ไหวจึงช้อนคอสวยเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ปากหนากดรับปากบาง“อื้อ..อึก”ปากร้อนของเขาบดเบียดปากบางของฉู่เหลียน มือเรียวโอบคอแกร่งอย่างรู้หน้าที่ เอียงศีรษะให้อยู่ในมุมที่เขาสามารถโน้มเข้าหาได้ง่าย แผ่นหลังบางเริ่มเอนลงพิงกับเตียงอย่างง่ายดาย นางจึงเอามือรั้งคนตัวโตเอาไว้แน่น เมื่อเขาจับนางลุกขึ้นมา นั่ง“อ๊ะ... งื้อออ อา~~~”ฉู่เหลียนครางออกมา เมื่อซ่งเทียนซุกไซร้ที่ซอกคอรู้สึกหวามวูบไปหมดจนต้องจับแขนแกร่งเอาไว้แน่น พลางแอ่นหน้าอกขึ้น เพราะรู้สึกต้องการให้เขาทำมาก
“อะๆ..อ้าห์ๆ..แรงอีก..กระแทกแรงๆ ข้าเสียว…อื้อออ~~” “หืม” เขากอดตัวของฉู่เหลียนแน่น ก่อนจะเร่งดันสวนทางขึ้นไปรับฉู่เหลียนแบบไม่ยั้ง“งื้ออ. ข้าไม่ไหว..แล้ว..อ้าห์…อึกก” อารมณ์ของฉู่เหลียนเตลิดไปไกล ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างบาง ไม่นานก็กระตุกเกร็งตัวสั่นอยู่บนตัวของเขาไม่หยุด น้ำหวานไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสายซ่งเทียนผ่อนจังหวะนิดหน่อย ก่อนจะจับนางเปลี่ยนท่าให้ลุกขึ้นมายืนในท่าโก้งโค้ง“อ้ะ..อื้อ.”เขาชำแรกลำมังกรใหญ่ใส่นางอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกกระแทกเข้าต่อทันที มือหนารั้งเอวนางไว้ ปากหนาพรมจูบตามแผ่นหลังไปด้วย ฉู่เหลียนงอตัวเอามือท้าวไปที่ฝาผนังอย่างรู้งานเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับ ๆ ไม่ขาดสาย ผสมกับเสียงครางครวญ“อะๆ..อ๊าๆ”ฉู่เหลียนจุกไปหมด ท่านี้มันเข้าไปลึกจนนางรู้สึกว่ากำลังจะล่องลอยขึ้นสวรรค์อีกแล้ว“หืม”ซ่งเทียนกระแทกเข้าด้วยแรงอารมณ์จนตัวนางจะล้มไปทางด้านหน้าอยู่แล้ว ดีที่เขาคว้ามือของฉู่เหลียนไปทางด้านหลังทั้งสองข้าง แล้วสวนกระแทกเข้าสุดแรงตับๆ“อึกก..อือ..อ๊าซ์~~~”ฉู่เหลียนเกร็งสะท้าน ร่องนางบีบรัดท่อนมังกรลำใหญ่เร่งเร้าให้เขาตามนางขึ้นสวรรค์ไปติด ๆ“อ๊า
ณ เรือนอนุเจียลี่เจียลี่เดินกลับไปกลับมาภายในห้อง เมื่อคืนนางเห็นเต็มสองตาว่าองค์ชายซ่งเทียนรักฉู่เหลียนมากแค่ไหน วันนี้สายมากแล้วทั้งสองก็ยังคงคลุกตัวอยู่ในห้องราวบ่าวสาวที่เพิ่งเข้าเรือนหอกันในคืนแรกแต่งงาน“องค์ชายคงรักลูกสาวแม่ทัพผู้นั้นแน่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องขับออกจากตำหนักนี้แน่”เดิมทีนางคิดว่าจะใช้โอกาสที่ได้อยู่ตำหนักในฐานะอนุมัดใจองค์ชายใหญ่เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องกลับไปขายตัวที่หอนางโลมอีก แต่ตอนนี้ความหวังนางสิ้นแล้วเมื่อเขาไม่ต้องการหย่ากับพระชายาอีกต่อไป“ข้าไม่อยากกลับไปทุกข์ทรมานในหอคณิกาอีกแล้วนะ ข้าจะทำยังไงดี ทำยังไงดี”นางเดินกลับไปกลับมาจนสายตาไปสะดุดกับกำไลหยกชิ้นงามที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อจำได้ว่าใครเป็นคนให้กำไรหยกชิ้นนี้แก่นางมา นางก็ยิ้มออกมา“คนอย่างเจียลี่ไม่เคยอับจนหนทาง อย่างน้อยสวรรค์ก็ยังเมตตาเหลือทางออกให้ข้า”หลายวันต่อมาเป็นจริงอย่างที่เจียลี่คาดไว้ องค์ชายซ่งเทียนใช้ให้เก่อหลางนำเงินมาให้นางจำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนตามข้อตกลง แล้วให้นางออกจากตำหนักทันทีเจียลี่กำถุงเงินแน่น เจ็บแปลบไปทั้งหัวใจ แม้แต่วันสุดท้ายซ่งเทียนยังไม่มาให้เห็นหน้าร
“อ๊า~~ เหลียนเอ๋อร์~~”ซ่งเทียนถึงกับครางเรียกชื่อนางด้วยความเสียวซ่านให้ตายเถอะ ! ทำไมสตรีที่ไร้เดียงสาในวันนั้นถึงเร่าร้อนได้เพียงนี้ ทำเอาเขาคลั่งรักหลงใหลนางมากขึ้น จนไม่อยากให้นางมองบุรุษอื่นแล้วฉู่เหลียนใช้มือรูดท่อนมังกรลำใหญ่ของสามี นางยิ้มให้ก่อนจะกดปากสวยลง แล้วใช้ลิ้นร้อนตวัดส่วนหัวที่มีน้ำใสๆ ปริ่มออกมา“อึกก..ม๊วบ”ฉู่เหลียนครอบปากลง กลืนกินท่อนมังกรลำใหญ่ของเขา นางได้กลิ่นเฉพาะของมัน รวมถึงน้ำคาวๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ของนางแปลกๆ“ซี้ดด..โอ้วววว เหลียนเอ๋อร์ อา~~”ซ่งเทียนครงซี้ดปากด้วยความเสียวซ่านแปลบปลาบฉู่เหลียนได้ยินเช่นนั้นก็มั่นใจว่าตนเองทำถูกแล้ว ก็ใช้ปลายลิ้นร้อนไล้เลียที่ส่วนหัวร้อนฉ่าซ่งเทียนทนความเสียวซ่านไม่ไหวขยับลุกขึ้นมาแล้วใช้มือจับผมที่บดบังความสวยงามของใบหน้าสวยออก แล้วกดหัวนางขึ้น ๆ ลงๆ ตามความยาวของท่อนมังกรเป็นจังหวะถี่ ๆ “อึก..อือ”ลำมังกรของเขาเข้าลึกจนฉู่เหลียนเกือบจะสำลัก นางจึงอาศัยช่วงที่เขาดึงศีรษะนางออกใช้ลิ้นเล็กพยายามดุนดันรอบๆ หัวมังกร ทำเอาเขาถึงกับเสียวจนหน้าเหยเกครางออกมา“อู้ยยยย อา ซี้ดด~~~” ฉู่เหลียนเห็นว่าสามีใกล้จะถึงสวรรค์แล้ว น
วันล่องเรือสำราญองค์ชายซ่งเทียนสั่งให้คนซื้อเรือสำราญขนาดเล็กเอาไว้ เพื่อพาพระชายาล่องเรือชมเมืองยามค่ำคืนก่อนจะขึ้นเรือ เขาพานางไปเที่ยวชมตลาดฉู่เหลียนกวาดสายตามองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้น เพราะตลาดในเมืองท่ามีสินค้ามากมาย และราคาถูกๆ ทั้งนั้น ถูกจนนางคิดว่าจะขอให้องค์ชายซ่งเทียนเปิดร้านเล็ก ๆ เมืองหลวง แล้วซื้อของจากที่นี่ไปวางขายคงจะได้กำไรดีไม่น้อย“อ้ะ..”ฉู่เหลียนไม่ทันระวังกำลังจะสะดุดล้มลง แต่โชคดีที่ซ่งเทียนยืนอยู่ข้างๆ จึงคว้าตัวนางไว้ได้ทัน“ทำไมเดินไม่ระวังเลย”เขาส่งเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก“ก็เพราะข้ารู้ว่ามีท่านพี่ข้าง ๆ ไงเล่า”ฉู่เหลียนหอมแก้มเขาเป็นรางวัล อมยิ้มเมื่อเห็นเขาห่วงนาง หากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่เดินตามนางด้วยซ้ำ คงจะไปนั่งรอในร้านน้ำชาซ่งเทียนยิ้มแก้มแทบปริ ตอนนี้เขากับฉู่เหลียนมาเดินเที่ยวตลาดโดยไม่มีองครักษ์ติดตาม เป็นการเที่ยวแบบแฝงตัวเป็นสามัญชน มันทำให้เขาแสดงความรู้สึกได้อย่างอิสระ ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง และมีความสุขมากจริงๆเมื่อเดินตลาดจนเหมื่อยขาแล้ว ซ่งเทียนก็พานางไปกินข้าวที่ร้านอาหารขึ้นชื่อในเมื่อท่า“อิ่มจัง.... เรือของเราจอดอยู่ที่ไหนหรือ
“ท่านพี่ข้าอยู่นี่”ฉู่เหลียนนั่งอยู่บนหลังม้า ท่ามกลางทหารนับร้อยตอนที่นางวิ่งหนีจนพ้นแนวป่าแล้วก็บังเอิญพบกับขบวนทหารที่กำลังเดินทัพมุ่งหน้ามาที่นี่ นางจึงนำขบวนทัพมาสู้กับองค์ชายรองด้วยตนเองซ่งเทียนเห็นพระชายาปลอดภัยก็ยิ้มออกมา ดาบในมือดูเหมือนจะทรงพลังขึ้นเป็นสิบเท่า เขาฟาดดาบใส่มือสังหารตายในพริบตาเดียวทหารนับร้อยโห่ร้องวิ่งกรูกันเข้ามาต่อสู้กับมือสังหารองค์ชายรองเห็นภาพนั้น ก็กลัวจนขนหัวลุกลนลานจนตกเก้าอี้ “หนีเร็ว !”เจียลี่รีบวิ่งหนีไปพร้อมกับองค์ชาย แต่นางพลาดท่าล้มลง นางรีบดึงชายกางเกงเขาไว้ แล้วร้องขอให้องค์ชายช่วย“องค์ชายช่วยข้าด้วย เท้าข้าเจ็บแล้ว วิ่งไม่ไหว”“เจ้าปล่อยข้าสิ พวกมันจะตามมาแล้ว”“ไม่ปล่อย ท่านต้องพยุงข้าไปด้วย”“โธ่เว้ย !”ฉั๊วะ !องค์ชายรองแทงดาบลงกลางหลังนาง เลือดทะลักไหลนองพื้น“อะ... องค์ชาย... อึก”เจียลี่สิ้นใจทันทีเขาเตะนางให้ปล่อยมือจากชายกางเกง แล้วเงยหน้าขึ้นกำลังจะวิ่งหนี กลับเจอซ่งเทียนยืนจ้องหน้าเขา รัศมีสังหารพวยพุ่งจนเขาทรุดลงกับพื้นร้องไห้“สะ... เสด็จพี่ ข้าผิดไปแล้ว ไว้ชีวิตข้าเถอะ”ซ่งเทียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก ฟาดดาบลงไปฟิ้วววววว“อ
ณ ศาลเจ้า “โอ๊ย... ช่วยด้วย ข้าไม่ไหว โอ๊ย... ช่วยข้าด้วย”เสียงดังมาจากคนที่ถูกกุมขังอยู่ด้านใน มือสังหารสองนายมองหน้ากันเลิ่กลั่ก“เอาไงดี”“องค์ชายรองสั่งว่าห้ามนางเป็นอะไร เพราะต้องใช้นางเป็นตัวล่อตามแผน”ในขณะที่พวกเขาปรึกษากันอยู่นั้น ฉู่เหลียนก็กรีดร้องเสียงดังยิ่งขึ้น“โอ๊ย ข้าปวดท้องจะตายอยู่แล้ว ช่วยด้วย...อึกก..ฮือๆ..จะตายแล้ว”มือสังหารได้ยินดังนั้นก็รีบเปิดประตูเข้ามาหาสตรีที่ถูกมัดมือมัดเท้า“แม่นางเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” “ฮึก..ฮือ ข้าปวดท้อง...ช่วยพาข้าไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมพี่ชาย..ปวดท้องจะแย่แล้ว..” “เอ่อ....”มือสังหารลังเลฉู่เหลียนจึงร้องขึ้นอีกว่า “หากพวกท่านไม่พาข้าไปห้องน้ำ ไม่แก้มัดให้ข้า ข้าก็จะอึจะฉี่ให้มันเลอะตรงนี้ ดีไม่ดีข้าอาจจะเจ็บท้องท้องจนขาดใจตายไปเลยก็ได้”“ได้ๆ ข้าจะแก้มัดให้เจ้าไปห้องน้ำ”มือสังหารคิดว่าสตรีร่างบอบบางเช่นนี้คงสู้ตนไม่ได้ต่อให้นางไม่ถูกมัดเอาไว้“แก้มัดให้แล้ว ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเร็ว ๆ ข้าจะตามนางไปเอง เจ้าเฝ้าอยู่ทางนี้เผื่อว่าองค์ชายรองส่งข่าวมา”มือสังหารคนหนึ่งสั่งอีกคน แล้วผลักฉู่เหลียนให้เดินไปด้านหลังศาลเจ้าฉู่เหลียนพยายา
ณ วัดร้างแห่งหนึ่งนอกเมืองหลวง“งื้ออ..”ฉู่เหลียนร้องออกมา เพราะมันเจ็บจี้ดที่ข้อมือ นางถูกมัดมือมัดเท้า รู้สึกมึนงงไปหมด นางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับภาพให้ชัดขึ้นพบว่าตนเองนอนอยู่ในวัดร้างแห่ง ภาพก่อนที่นางจะสลบไปก็เข้ามาในหัวนางเดินตามเจียลี่เข้าไปในห้อง ขณะที่นางก้มลงไปเปิดหีบที่ใหญ่ที่สุดตรวจดูสิ่งของด้านใน บุรุษชุดดำคนหนึ่งก็พุ่งตัวออกมาซัดควันสีขาวใส่หน้านาง จากนั้นทุกอย่างก็มืดดับลง รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในวัดแห่งนี้แล้วแก๊ก !เสียงประตูเปิดออก สัญชาติทำให้นางรู้ว่าต้องตัวถอยหลังกรูดไปอยู่ชิดเสาต้นใหญ่ด้วยความกลัว“พระชายา.... ข้าเอง”เจียลี่เดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับบุรุษในอาภรณ์หรูหราผู้หนึ่ง“เจียลี่... องค์ชายหานจิ้น !”ฉู่เหลียนอุทานตาโต ทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้จักองค์ชายเจ้าสำราญผู้นี้“ใช่แล้วเป็นข้าเอง”เจียลี่ยิ้มเยาะเย้ย ในวันที่องค์ชายซงเทียนพาพระชายาไปหามารดา นางอาศัยโอกาสนั้นออกไปหาความสำราญที่เหลาสุรา แล้วองค์ชายหานจิ้นก็เข้าหา เขาบอกกับนางถึงความต้องการ แล้วเสนอผลประโยชน์ให้ แล้วบอกว่าหากตกลงร่วมมือกันเมื่อใดให้นำกำไรหยกมาหาเขาที่ตำหนัก วันนั้นนางยังลังเลใจเพราะยั
ณ เรือนอนุเจียลี่เจียลี่เดินกลับไปกลับมาภายในห้อง เมื่อคืนนางเห็นเต็มสองตาว่าองค์ชายซ่งเทียนรักฉู่เหลียนมากแค่ไหน วันนี้สายมากแล้วทั้งสองก็ยังคงคลุกตัวอยู่ในห้องราวบ่าวสาวที่เพิ่งเข้าเรือนหอกันในคืนแรกแต่งงาน“องค์ชายคงรักลูกสาวแม่ทัพผู้นั้นแน่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องขับออกจากตำหนักนี้แน่”เดิมทีนางคิดว่าจะใช้โอกาสที่ได้อยู่ตำหนักในฐานะอนุมัดใจองค์ชายใหญ่เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องกลับไปขายตัวที่หอนางโลมอีก แต่ตอนนี้ความหวังนางสิ้นแล้วเมื่อเขาไม่ต้องการหย่ากับพระชายาอีกต่อไป“ข้าไม่อยากกลับไปทุกข์ทรมานในหอคณิกาอีกแล้วนะ ข้าจะทำยังไงดี ทำยังไงดี”นางเดินกลับไปกลับมาจนสายตาไปสะดุดกับกำไลหยกชิ้นงามที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อจำได้ว่าใครเป็นคนให้กำไรหยกชิ้นนี้แก่นางมา นางก็ยิ้มออกมา“คนอย่างเจียลี่ไม่เคยอับจนหนทาง อย่างน้อยสวรรค์ก็ยังเมตตาเหลือทางออกให้ข้า”หลายวันต่อมาเป็นจริงอย่างที่เจียลี่คาดไว้ องค์ชายซ่งเทียนใช้ให้เก่อหลางนำเงินมาให้นางจำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนตามข้อตกลง แล้วให้นางออกจากตำหนักทันทีเจียลี่กำถุงเงินแน่น เจ็บแปลบไปทั้งหัวใจ แม้แต่วันสุดท้ายซ่งเทียนยังไม่มาให้เห็นหน้าร
“อะๆ..อ้าห์ๆ..แรงอีก..กระแทกแรงๆ ข้าเสียว…อื้อออ~~” “หืม” เขากอดตัวของฉู่เหลียนแน่น ก่อนจะเร่งดันสวนทางขึ้นไปรับฉู่เหลียนแบบไม่ยั้ง“งื้ออ. ข้าไม่ไหว..แล้ว..อ้าห์…อึกก” อารมณ์ของฉู่เหลียนเตลิดไปไกล ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างบาง ไม่นานก็กระตุกเกร็งตัวสั่นอยู่บนตัวของเขาไม่หยุด น้ำหวานไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสายซ่งเทียนผ่อนจังหวะนิดหน่อย ก่อนจะจับนางเปลี่ยนท่าให้ลุกขึ้นมายืนในท่าโก้งโค้ง“อ้ะ..อื้อ.”เขาชำแรกลำมังกรใหญ่ใส่นางอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกกระแทกเข้าต่อทันที มือหนารั้งเอวนางไว้ ปากหนาพรมจูบตามแผ่นหลังไปด้วย ฉู่เหลียนงอตัวเอามือท้าวไปที่ฝาผนังอย่างรู้งานเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับ ๆ ไม่ขาดสาย ผสมกับเสียงครางครวญ“อะๆ..อ๊าๆ”ฉู่เหลียนจุกไปหมด ท่านี้มันเข้าไปลึกจนนางรู้สึกว่ากำลังจะล่องลอยขึ้นสวรรค์อีกแล้ว“หืม”ซ่งเทียนกระแทกเข้าด้วยแรงอารมณ์จนตัวนางจะล้มไปทางด้านหน้าอยู่แล้ว ดีที่เขาคว้ามือของฉู่เหลียนไปทางด้านหลังทั้งสองข้าง แล้วสวนกระแทกเข้าสุดแรงตับๆ“อึกก..อือ..อ๊าซ์~~~”ฉู่เหลียนเกร็งสะท้าน ร่องนางบีบรัดท่อนมังกรลำใหญ่เร่งเร้าให้เขาตามนางขึ้นสวรรค์ไปติด ๆ“อ๊า
ในระยะประชิดเช่นนี้ ฉู่เหลียนเห็นอกแกร่งเต็มสองตา เรือนร่างใต้ผ้าบางเบาของบุรุษที่นั่งข้าง ๆ กำลังปลุกอารมณ์ของนางซ่งเทียนมองฉู่เหลียนที่ไม่ตอบเขา กลับเอาแต่มองร่างกายของเขา เขาจึงต้องบีบจมูกนางเพื่อดึงสติ“อ๊ะ..เจ็บ..อื้อ...” ฉู่เหลียนร้องทำหน้าหมุ้ยใส่เขา “ทำไมชอบทำร้ายด้วย”ฉู่เหลียนทำตาแดง ๆ เหมือนร้องไห้ออกมาจริง ๆซ่งเทียนตกใจรีบขอโทษ “เจ็บจริงหรือ ข้าขอโทษ”ฉู่เหลียนใช้มือจับใบหน้าเขา แล้วสบตาด้วยหัวใจที่เต้นแรง“ท่านพี่...”ฉู่เหลียนส่งสายตาออดอ้อนอย่างไม่เคยเป็น ซ้ำยังเรียกเขาว่าท่าพี่ซ่งเทียนทนความยั่วยวนในยามนี้ของนางไม่ไหวจึงช้อนคอสวยเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ปากหนากดรับปากบาง“อื้อ..อึก”ปากร้อนของเขาบดเบียดปากบางของฉู่เหลียน มือเรียวโอบคอแกร่งอย่างรู้หน้าที่ เอียงศีรษะให้อยู่ในมุมที่เขาสามารถโน้มเข้าหาได้ง่าย แผ่นหลังบางเริ่มเอนลงพิงกับเตียงอย่างง่ายดาย นางจึงเอามือรั้งคนตัวโตเอาไว้แน่น เมื่อเขาจับนางลุกขึ้นมา นั่ง“อ๊ะ... งื้อออ อา~~~”ฉู่เหลียนครางออกมา เมื่อซ่งเทียนซุกไซร้ที่ซอกคอรู้สึกหวามวูบไปหมดจนต้องจับแขนแกร่งเอาไว้แน่น พลางแอ่นหน้าอกขึ้น เพราะรู้สึกต้องการให้เขาทำมาก
ซ่งเทียนทำหน้าคล้ายคนเบื่อโลก อยากจะทุบนางเสียจริงๆ ดื่มสุราเมาจนคิดว่าตัวเองฝันฉู่เหลียนมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยอย่างไม่รู้ตัว“ซ่งเทียน..ท่านรู้ไหมคะ..อึกก..ท่านใจร้ายกับข้ามาก”มือเรียวยกขึ้นมาลูบในหน้าของเขาพร้อมกับพูดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว“........”ซ่งเทียนไม่ได้พูดอะไรนอกจากสบตานางที่ระบายความรู้สึกออกมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านางกำลังจะบอกความในใจให้คนตรงหน้าฟัง“ฮึกก..ใจร้าย.. ใจร้ายที่สุด แต่ข้าก็ยังจะรักท่าน..ฮึกก..รักทั้งๆ ที่ท่านไม่เคยรักข้าเลย....ฮึกก..ฮือ”ใบหน้าสวยซบลงที่อกของคนตรงหน้า เป็นเขาที่ดึงนางเข้ามากอดเอาไว้ ต่อให้เขาบอกอะไรตอนนี้ นางคงฟังไม่รู้เรื่อง“ฮึกก..ฮือ..ข้าแอบชอบท่านมาตั้งนาน รักมาตั้งแต่เด็กๆ พอได้แต่งงานกับท่านจริง ๆ กลับพบว่า ท่านมีคนในใจแล้ว ฮือๆ ข้าอยากจะตัดใจเลิกรักท่าน แต่ทำไม่ได้สักที..ฮึกก..ฮือ.. สุดท้ายข้าก็เจ็บปวด..มันเจ็บเหลือเกิน” “ข้าขอโทษ.. หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ”ซ่งเทียนบอกให้นางเงียบ มือหนายกมือขึ้นปาดน้ำตาออกให้ แล้วจูบที่หน้าผากของนางเพื่อปลอบประโลม ยิ่งได้ยินว่านางรักเขาด้วยใจจริง และรักมานานแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อนางฉู่เหลี