#บริษัทจะพามาทำไมก็ไม่รู้ ให้ฉันมานั่งรอเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงในห้องทำงานที่มองไปเจอแต่หนังสือและเอกสาร น่าเบื่อสุด ๆ อยู่ที่บ้านฉันยังได้ทำนู้นทำนี่“ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว”ฉันใช้นิ้วปัดเลื่อนจอโทรศัพท์ไปมาอย่างรู้สึกเบื่อ ในหัวกำลังคิดว่าถ้าออกไปข้างนอกคุณเฟยจะว่าอะไรไหม ครั้งนี้เขาไม่ห้าม คงไปได้ละมั้งพรึบ!“ออกไปแป๊บเดียวคงไม่เป็นอะไร” พูดจบฉันก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณเฟยไหน ๆ ก็จะได้มาทำงานที่นี่ในอนาคตขอสำรวจดูสักหน่อยก็แล้วกัน“บริษัทใหญ่โตขนาดนี้เงินเดือนพนักงานจะสูงขนาดไหนนะ”ขณะที่ฉันพูดพึมพำพลางใช้ความคิดประเมินเงินเดือนของพนักงานที่นี่ จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงท้วงขึ้นมา“นี่หนูคนนั้นน่ะ”“อ่ะ... คะ” หัวใจเต้นแรง ๆ เมื่อมีคนมาเจอเข้า คิดว่าพนักงานทุกคนเข้าประชุมหมดซะอีก ถ้ารู้ว่ามีคนฉันคงไม่ออกมาเดินแบบนี้“เป็นนักศึกษาฝึกงานใช่ไหม”“เอ่อ…” ถ้าตอบว่าไม่ใช่ต้องถูกถามซักถามสารพัดแน่ ๆ เพราะฉะนั้นตามน้ำไปก่อนดีกว่า “ใช่ค่ะ”“โทรหาตั้งหลายสายทำไมไม่รู้จักรับ แล้วนี่ขึ้นมาอยู่ชั้นผู้บริหารแบบนี้ได้ยังไง”“เอ่อคือหนู…” พอถูกบ่น ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไงต่อดี รู้สึกท่าไม่
ฉันเอามือดันแผงอกแกร่งเพื่อผลักตัวเองออกห่างจากคุณเฟย แต่มันช่างยากเย็นเพราะเขามีแรงเยอะกว่า“ไม่ชอบให้ฉันแสดงความเป็นเจ้าของ?”“พูดแบบนั้นเรียกว่าแสดงความเป็นเจ้าของตรงไหนคะ”“แล้วฉันต้องพูดยังไง?”“ทำไมต้องถามหนูด้วย”“ฉันกำลังทำให้เธอพอใจ… ไม่ชอบแบบนี้?”“… ขยับออกไปสิคะ แล้วก็ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวหนูจะอารมณ์ดีขึ้นเอง”“ไม่ชอบอยู่ใกล้ ๆ คนที่เธอชอบหรือไง หืม?” คุณเฟยขยับใบหน้ามาพูดใกล้ ๆ เมื่อกี้ยังเสียงแข็งใส่กันอยู่เลยแท้ ๆ ตอนนี้กลับพูดราวกับกำลังยั่วฉันอยู่“ไม่ค่ะ ปะ... ปล่อยนะคะ”“ไหน ๆ ฉันก็ทำให้เลิกประชุมก่อนเวลาแล้ว… คนที่เป็นต้นเหตุอย่างเธอควรแสดงความรับผิดชอบนะรู้ไหม”“ให้หนูรับผิดชอบด้วยการนอนแก้ผ้าอยู่ใต้ร่างของคุณน่ะเหรอคะ”“เป็นคนเสนอเองแท้ ๆ รู้ไหมว่าไม่ควรทำหน้าไม่พอใจเวลาที่ฉันต้องการขนาดนั้นนะ… เธอควรยินดีและรีบอ้าขาให้ฉันเหมือนครั้งแรก”“…” จะตอกย้ำไปถึงไหนว่าฉันเป็นคนเสนอตัวให้ ตอนนั้นกับตอนนี้เหมือนกันที่ไหนล่ะ ขนาดความรู้สึกยังไม่เหมือนเดิมเลย“ปล่อยสิคะ หนูจะได้ถอดเสื้อผ้า”อะไรอีก!! พอฉันยอมทำตามความต้องการแล้วก็นิ่งไม่ยอมปล่อยมือสักที เอาแต่มองหน้ากัน
แค่จินตนาการภาพก็เจ็บร้าวไปทั้งอกแล้ว ถ้าต้องมาเห็นคุณเฟยมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตา… ฉันคงอกแตกตายแน่ ๆ… คงไม่มีใครทนดูคนที่ตัวเองรักมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นได้หรอกที่ผ่านมาคุณเฟยไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาข้องเกี่ยวนอกจากฉัน แล้วก็ไม่เคยเห็นเขาควงผู้หญิงคนไหนเลย เขาคงไม่คิดจะทำแบบนั้นจริง ๆ“ดูแล้วอย่าลืมจำด้วยล่ะ ว่าต้องเร่าร้อนแบบไหนถึงจะถูกใจฉัน ไม่ใช่เอาแต่นอนแข็งทื่อเป็นหิน”“…” ฉันเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำพูดแทงใจ คำ ๆ นั้นทำเอารู้สึกชาไปทั้งหน้าจู่ ๆ คุณเฟยก็ยิ้มมุมปากแล้วเอามือมาสัมผัสใบหน้าของฉันพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “ตื่นเต้นหรือไง หื้ม? ดูสิหน้าซีดเชียว”“…” เขาเปรียบฉันเป็นแค่ของชิ้นหนึ่งที่จะจับตั้งไว้ตรงไหนก็ได้สินะ“อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น ฉันก็แค่ทำตามที่เธอต้องการ ยังไม่พอใจ?”“แต่หนูไม่ได้บอกว่าต้องการเห็นคุณทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้า”“ถ้าอย่างนั้นก็เลือกมาว่าจะ… ทำกับฉันหรือให้ฉันทำกับคนอื่นต่อหน้าเธอ”ตัวเลือกที่คุณเฟยยกขึ้นมามีคำตอบในตัวมันอยู่แล้ว เพราะฉันคงไม่เลือกอย่างที่สองแน่ ๆ“จะทำจริง ๆ เหรอคะ”“แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำจริง ๆ หรือเปล่า?”
ปัก ปัก ปัก~ เสียงที่น่ารังเกียจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่มันรอบที่เท่าไรแล้ว…ทั้งตัวของฉันเต็มไปด้วยรอยแดงและรอยกัดที่คุณเฟยทำเอาไว้ ทั้งรอยเก่าและรอยใหม่“หนูเหนื่อยแล้ว อ๊ะอ๊าง~” ฉันเอามือดันท้องแกร่งเพื่อผลักตัวออกแต่ก็ถูกรั้งสะโพกเอาไว้ จากนั้นแรงกระแทกก็ถาโถมอย่างหนักหน่วงมากกว่าเดิมปัก ปัก ปัก~“จะขยับไปไหน ฉันยังไม่เสร็จ ซี๊ด~”“อื้อ อ๊ะ คุณทำหลายรอบเกินไป อ๊ะ หนูไม่ไหวแล้ว อ๊าง~”มองไปข้างนอกกระจกมันมืดสนิท เขาทำตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดินจนตอนนี้ไม่รู้ว่ากี่ทุ่มแล้ว แถมเรายังอยู่ที่บริษัทเมื่อไรจะได้กลับบ้านก็ไม่รู้“ปากบอกไม่ไหวแต่ครางไม่หยุดเลยนะ ซี๊ด~” รอยยิ้มร้ายกาจแบบนั้นทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงแทบบ้า ยิ่งตอนถูกจ้องมองทำให้รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆคุณเฟยเอานิ้วมาแตะบนติ่งเกสรแล้วบดขยี้เบา ๆ “ยะ... อย่าทำตรงนั้นนะคะ อ๊าซี๊ด~ อ๊างง~”“ซี๊ด~ เธอชอบแบบนี้สินะ”“มะ... ไม่ อ๊า~ หนูไม่… อื้อ~”ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ เพราะถูกคุณเฟยก้มลงมาจูบอย่างเร่าร้อน สัมผัสจากริมฝีปากและเอวสอบที่กระแทกแรง แบบไม่รู้จักเหนื่อยทำให้ความเสียวซ่านมันพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ถึงแม้ปากจะ
เนื้อตัวของฉันเริ่มสั่นเทาเมื่อรับรู้ว่าเหตุการณ์นี้มันไม่ปกติ ความรู้สึกเหมือนครั้งแรกที่ถูกจับตัวมา ตอนนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้นหรือเปล่า หรือว่าคุณเฟยแค่แกล้งกันเล่น เขาแค่อยากทำให้ฉันรู้สึกกลัวฉันไม่ได้กำลังหลอกตัวเองอยู่ใช่ไหม…“ผมบอกให้เข้าไปข้างในบ้านไงครับคุณหนู ทำไมถึงดื้ออย่างนี้ล่ะครับ”“มะ... ไม่!!”ฉันพยายามควบคุมสติแล้วกรอกตามองหาช่องทางที่จะหลุดพ้น แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะว่าที่นี่มีเหล่าชายฉกรรจ์เดินตรวจตราอยู่ทั่วบริเวณหมับ!! พอฉันไม่ยอม ชายแปลกหรอกก็คว้ามือมาดึงให้เดินตามเขาไปทางตัวบ้าน“ปล่อยนะหนูบอกว่าไม่เข้าไปไง!!”ถึงแม้จะตะโกนสุดเสียงและดิ้นจนเหนื่อยก็ยังถูกลากต่อไปอย่างนั้นทำไมชีวิตของฉันถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน#ภายในตัวบ้านพอเข้ามาข้างในแล้วสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบมากระทบที่ผิว ต่างจากด้านนอกที่ร้อนอบอ้าว มันเป็นความเย็นที่ชวนขนลุกซู่ไปทั้งตัวชายคนนี้ลากฉันขึ้นชั้นสองพามายังห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นห้องนอน ยิ่งเห็นว่าเป็นห้องนอนความกลัวมันก็ทวีคูณเพิ่มขึ้นภายในห้องมีผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นคนสั่งการยืนหันหลังมองออกไปข้างนอ
ในขณะที่ร้องไห้อยู่เพราะความกลัวและดีใจที่มีโอกาสได้คุยกับคุณเฟย ปลายสายก็ถามขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงฉัน(น้ำอิง! นี่เธออยู่กับมันจริง ๆ ใช่ไหม ตอนนี้อยู่ที่ไหน)“อึก~ คุณจะมาช่วยหนูใช่ไหมคะ”(ฉันจะรีบไป บอกมาว่าตอนนี้มันจับตัวเธอไว้ที่ไหน)“นะ... ในห้อง อึก เขาพาหนูมาที่ห้อง”(ห้อง? มันทำอะไรเธอหรือเปล่า!! ไอ้เวรเอ้ย!!)“ยะ... ยังค่ะ ยังไม่ทำ ตะ... แต่เขาจะ อึก~”(จะอะไร รีบพูดมาสิวะ!! อยากให้ฉันเป็นบ้าตายก่อนรึไง!!)“เขาบอกว่าจะ... อึก~ อื้อ~”ฉันเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ ชายคนนั้นก็จับใบหน้าฉันขึ้นแล้วกดริมฝีปากลงมา เขาแค่เอาริมฝีปากแตะลงมาบนริมฝีปากของฉันไม่ได้จูบแบบลึกซึ้งอะไร แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ตกใจและรีบผลักเขาออกไปทันทีพอผลักออกไปแล้วก็ยกมือขึ้นมาถูปากตัวเองแรง ๆ แต่โดยที่ชายตรงหน้ากลับยืนมองอย่างมีความสุขที่ได้เห็นว่าฉันกำลังแสดงท่าทางรังเกียจตัวเองขนาดไหน เขามันน่าขยะแขยงที่สุด“ปากหนูไม่ใช่ของสาธารณะที่ใครจะจูบก็ได้นะคะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!!”ทั้งที่ถูกต่อว่า แต่ชายตรงหน้าก็ยังยิ้มตอบก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือฉัน แล้วบอกเสียงเย็น “หมดเวลาของเธอแล้วคนสวย”เขาย
Talk เฟย“นายครับ คนขับรถบอกว่าผู้หญิงของนายไม่ได้รออยู่ที่มหาวิทยาลัยเพื่อนของเธอไปส่งหรือเปล่าครับ”“ไม่ได้รออยู่ที่มหาวิทยาลัย?” ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่าน้ำอิงไม่ได้รออยู่ทั้งที่สั่งให้รอแท้ ๆ ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรออกไปหาเธอทันทีรอสายไม่นานเธอก็กดรับ แต่คำถามของเธอนั้นทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล(อยู่ที่หน้าบ้านแล้วค่ะ ไม่เห็นต้องโทรตามเลย คราวหน้าบอกก่อนสิคะ ว่าจะให้คนขับรถพาไปไหน หนูตกใจนะพามาบ้านใครก็ไม่รู้แบบนี้)“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน บ้านใคร รีบบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ใครไปรับเธอ ขึ้นรถมั่วซั่วแบบนั้นได้ไงฮะ!!”(หือ คะ... คุณว่ายังไงนะคะ)เหมือนโทรศัพท์ถูกใครสักคนแย่งไป เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีผมก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ หงุดหงิดที่เด็กนั่นขึ้นรถคนอื่นมั่วซั่วจนเกิดเรื่องขึ้นจนได้“สั่งให้คนไปเปิดดูกล้องวงจรปิดที่มหาวิทยาลัยทุกตัว สืบมาให้ได้ว่าทะเบียนรถที่มารับน้ำอิงมันเป็นคนของใคร”“เอ่อ แต่ถ้าจะขอดูกล้องผมเกรงว่าทางมหาวิทยาลัยจะไม่อนุญาต…”“กูสั่งให้มึงทำตาม ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไปซะกูจะให้คนอื่นทำแทน!!!”“ดะ... ได้ครับนายได้ครับ ผมจะรีบจัดการให้”เพราะหงุดหงิดกับท่าทา
คุณเฟยยังคงจ้องมองรอยที่คอของฉันไม่ละสายตา ก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจร้อนผ่าวกระทบใบหน้าฉันแรง ๆ แล้วจับปลายคางฉันขึ้นมาสบตากับตัวเองสายตาคู่นั้นที่กำลังจ้องมองทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหว ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “มันกล้าดียังไงมาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงของฉัน”“กะ... โกรธหนูหรือเปล่าคะ” เมื่อถามออกไปแล้วฉันก็ค่อย ๆ เม้มริมฝีปากแน่นอย่างประหม่า กลัวว่าคนตรงหน้าจะโกรธที่ฉันปล่อยให้ร่างกายมีรอยของผู้ชายคนอื่นคุณเฟยมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมากดริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากของฉันอย่างแรง… ราวกับกำลังทำโทษ“อื้อ~”เพราะทนความเจ็บไม่ไหวทำให้ฉันประท้วงในลำคอออกมา ไม่นานคุณเฟยก็ถอนจูบออก“มันจูบเธอหรือเปล่า?”“…” ฉันกัดฟันแน่นพร้อมหลบสายตาไม่กล้าให้คำตอบ ถ้าโกหกออกไปแล้วมาถูกจับได้ทีหลังมันจะเป็นยังไงนะ แล้วถ้าพูดความจริงจะเป็นยังไง“น้ำอิง!!” เมื่อไม่ได้คำตอบคุณเฟยก็ตะเบ็งเสียงเรียกชื่อฉันดังลั่นห้อง ก่อนจะยกมือขึ้นมาบีบปลายคางฉันแน่น “ฉันต้องการคำตอบ”ฉันมองตาคู่นั้นก่อนจะสารภาพความจริง “… ค่ะ”“หึ!!”ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้สบถออกมาในลำคอแค่เพียงสั้น ๆ แบบนั้น แล้วก็ผละตัวออกไปจาก
ผู้ชายที่ชื่อลีวายมารับมิลินจริง ๆ เหมือนทั้งสองจะมีปัญหากัน แต่สุดท้ายมิลินก็ยอมกลับไป ไม่สิไม่ใช่ยอม เรียกว่าจำใจมากกว่า“ผู้ชายคนนั้นนิสัยเหมือนเฮียไม่มีผิด”คุณเฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉันก่อนจะถาม “ยังไง?”“ก็เป็นพวกดุร้ายแถมยังชอบบังคับ ดูท่าทางแล้วคงจะใจร้ายมาก ๆ มิลินถึงได้ไม่อยากเข้าใกล้แบบนั้น”“นั่นมันฉันในเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย”“ถ้าเฮียกลับมาทำนิสัยแบบนั้นหนูจะหอบลูกหนีไปไกล ๆ เลยคอยดูสิ”คุณเฟยดึงตัวฉันมาสวมกอดแน่นแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ฉันจะเป็นสามีที่ดีของเธอ… แต่ตอนนี้เรามาทำเรื่องที่ค้างไว้กันต่อดีกว่านะ”“ทะ... ทำได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ” ค่อนข้างกังวลเพราะฉันก็ศึกษามาบ้างว่าการมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงต่อการแท้ง“ได้สิ ฉันจะค่อย ๆ ทำ”“รอคลอดก่อนแล้วเราค่อยทำ…”“ถ้าต้องให้รอนานขนาดนั้นก็ตัดของฉันทิ้งไปเลยดีกว่า”“หือ! นี่ถึงขนาดยอมตัดทิ้งเลยเหรอคะ” ฉันยกมือขึ้นมาป้องปากทำตาโต“ฉันแค่พูดประชด!!”คุณเฟยทำหน้าตึงใส่ จากนั้นก็อุ้มฉันพาเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง#ภายในห้องคุณเฟยวางฉันลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นมาคร่อม แต่พอจะถูกถอดเสื้อผ้าฉันก็รีบรั้งมือหนาเอาไว้“ทำไม?”“หนูขอทำ
สีหน้าที่ดูเหมือนจะโกรธจริงจังของคุณเฟยทำให้ฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ทำยังไงได้บอกมิลินไปแล้วนี่นา“ยะ... อย่าดุหนูสิคะ เดี๋ยวถ้ามิลินกลับหนูจะจัดชุดใหญ่ให้นะคะ ^_^”“ฉันต้องการ… ตอนนี้”“ตอนนี้ไม่ได้เพื่อนหนูมาเฮียเข้าใจหน่อยสิ”“เธอทำกับฉันเกินไปแล้วนะน้ำอิง”“นะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้เฮียผิดหวัง ^_^”“ครึ่งชั่วโมง ฉันให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง”“รับทราบค่ะ ^_^”“ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงฉันจะไปอุ้มเธอขึ้นห้อง”คุณเฟยพูดทิ้งท้ายพร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ แล้วลุกขึ้นจากตัวฉัน จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่ ฉันเองก็รีบแต่งตัวเพราะมิลินโทรมาสามสายแล้วหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยฉันก็เดินมารับมิลินที่หน้าประตูบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงมาหา…”“น้ำอิง อึก~”มิลินโผล่เข้ากอดฉันแล้วร้องไห้โฮออกมา ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก“มิลินเป็นอะไร เธอร้องให้ทำไม”“ฉัน อึก~ ฉันรู้สึกแย่จัง ฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเธอแบบนี้เลยน้ำอิง อึก~”“เข้าไปคุยกันข้างในบ้านดีกว่านะ” ฉันดันกอดออก มิลินพยักหน้าแล้วเดินตามฉันมาที่ห้องรับแขกฉันไม่รู้จะเริ่มปลอบเพื่อนยังไงดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้หนักขนาดนี้ มิลินเอาแต่พูดว่าตัวเ
คุณเฟยผละใบหน้าขึ้นแล้วมองฉันตาหวานเยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยวนไปมาตรงพวงแก้มของฉันเบา ๆ“เจ้าเล่ห์”“ฉันเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้วเธอจะรับมือยังไง”“หนูจะ… รับมือยังไงดีน้า” ฉันใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อออก ภาพที่เห็นทำให้คุณเฟยยิ้มอย่างพอใจคุณเฟยจับปลายคางฉันเงยขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นสากค่อย ๆ สำรวจไปจนทั่วภายในโพรงปาก ความนุ่มนวลทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนี้ในขณะที่จูบกันอย่างดูดดื่มคุณเฟยก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย แล้วถอดเสื้ออกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีถึงแม้เสื้อตัวนั้นราคาจะแพงขนาดไหนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเราทั้งคู่ถูกถอดออกไปทีละชิ้น ๆ จนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวยอมรับว่าตอนนี้ฉันกำลังเขินสายตาของคุณเฟยที่กำลังมองเรือนร่างของฉันอยู่แบบไม่กะพริบตา“เฮียมองแบบนี้หนูก็เขินเป็นนะคะ”“ภรรยาของฉันสวยขนาดนี้ ไม่ให้มองได้ยังไง”พูดจบคุณเฟยก็ค่อย ๆ ดันตัวเองลงมาตรงกลางระหว่างขาแล้วก้มหน้าลง ฉันจึงรีบใช้มือปิดตรงนั้นของตัวเองเอาไว้“ฮะ... เฮียจะทำอะไรเหรอคะ”“ฉันกำลังจะทำให้เธอมีความสุข”คุณเฟยจับมือที่ฉันเอาปิดตรงนั้นของตัวเองออกไปให้
ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือเปล่า นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม คำพูดเมื่อครู่นี้หมายความว่า… ท่านยอมรับฉันแล้วอย่างนั้นเหรอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนก่อนหน้านี้ไม่นานท่านยังไม่มีท่าทียอมรับฉันเลย จู่ ๆ พูดแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆคุณเฟยเอามือมากุมมือฉันไว้เราสองคนต่างยิ้มให้กัน ความทุกข์ในใจที่ทำให้คิดมากมานาน วันนี้ทุกอย่างถูกปลดล็อกแล้ว ไม่มีเรื่องต้องคิดมากอีกต่อไปแล้ว“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่ยอมรับผู้หญิงที่ผมรัก”“แกเลือกแล้วฉันจะขัดอะไรได้ อย่างน้อยเมียแกก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน เพราะไม่ว่าฉันจะพยายามเสนอเงินมากมายเท่าไรเมียแกก็ไม่ยอมรับ”ฉันยิ้มแห้ง ๆ หลังจากได้ยินคำที่ท่านพูด เพราะตอนแรกฉันก็ขายตัวแลกเงิน ถ้าท่านรู้เบื้องหลังต้องไล่ฉันตะเพิดแน่ ๆ เลยท่านละสายตาจากคุณเฟยมาโฟกัสฉันแทน แล้วถาม “ฉันรู้มาว่าเธอไม่มีญาติที่ไหน ใช่หรือเปล่า”“ค่ะ” เอาเข้าจริงพอถูกยอมรับแล้วมันทำให้รู้สึกเกร็งมาก ๆ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะคุยเรื่องค่าสินสอดกับเธอเลยก็แล้วกัน”“… ค… ค่าสินสอดเหรอคะ”“อืม เธออยากได้เท่าไรบอกมาสิ”“เอ่อคือหนูว่าไม่ต้อง…” กำลังจะปฏิเสธแต
ตรงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันเต้นแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ก่อนหน้านี้ถึงจะมีความกล้าแต่ทว่าพอถูกพ่อของคุณเฟยเชิญมาที่บ้านด้วยตัวเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก“เป็นอะไรไปมือเย็นเฉียบเชียว” คุณเฟยหันมาถามหลังจากที่จับมือของฉัน“หนู... หนูรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กลัว…” คุณเฟยจับปลายคางของฉันให้หันมา จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบฉันตกใจรีบผละตัวออกแต่ถูกฝ่ามือหนารั้งท้ายทอยเอาไว้แล้วกดจูบลงมาหนัก ๆ“จะทำอะไรก็ไว้หน้าฉันด้วย ไม่รู้จักอายบ้างรึไง” เสียงทุ้มท้วงขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ ฉันกับคุณเฟยจึงรีบผละตัวออกจากกัน“คะ... คุณท่านสวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือสวัสดีแล้วก้มหน้าไม่กล้าสบตา“ถ้าฉันไม่โทรไปบอกให้แกมา แกก็คงไม่โผล่หัวมาใช่ไหม”“ครับ”“ตาเฟย!!”“เฮีย” เห็นว่าคุณท่านเริ่มมีอารมณ์ฉันจึงรีบหันมาท้วงคุณเฟย ไม่อยากให้พ่อกับลูกมีปากเสียงกันไปมากกว่านี้ฟังจากคำพูดแล้วคุณท่านคงไม่ยอมรับฉันง่าย ๆพอท้องแล้วรู้สึกว่าตัวเองหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ มากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยคุณเฟยถอนหายใจเบา ๆ ข่มอารมณ์ก่อนจะถาม “ให้ผมมาทำไมครับ”“ตามฉันมา”คุณท่านเดินนำเราสองคนเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนฉันกับคุณเฟยเรามองหน้าก
ผ่านไป 2 อาทิตย์ฉันแพ้ท้องหนักพอสมควร แค่ได้กลิ่นอาหารก็คลื่นไส้กินอะไรก็อ้วกออกจนหมด โชคดีที่คุณเฟยคอยอยู่ดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กลิ่นหอมจากตัวคุณเฟยทำให้อาการที่ฉันเป็นทุเลาลงบ้าง“กูสั่งให้ซื้อมะม่วงเปรี้ยวแต่มึงซื้อมะม่วงหวานมา อยากตายรึไงฮะ!!”“ขอโทษครับนายผมจะไปซื้อให้ใหม่เดี๋ยวนี้ครับ”“กูให้เวลาสิบนาทีถ้ายังไม่กลับมากูไล่มึงออก”เสียงคุณเฟยตวาดลูกน้องดังก้อง พักนี้เขาหงุดหงิดง่ายมาก ๆ แล้วก็ชอบกินของเปรี้ยวเป็นที่สุด“แค่ซื้อมาผิดไม่เห็นต้องดุเขาขนาดนั้นเลยเฮีย” ฉันเดินมากอดแขนคุณเฟยที่กำลังหงุดหงิดอยู่ แต่พอหันมามองฉันสายตาที่เคยเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนเป็นละมุนทันที“ถ้าไม่ดุมันก็จะเคยตัว”“แล้วถ้าหนูทำผิดล่ะคะ”“ฉันก็จะลงโทษเธอทั้งคืน”“…” ที่เงียบไม่โต้ตอบเป็นเพราะฉันกำลังเขินจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวเอามาก ๆ กับคำพูดเมื่อครู่ของคุณเฟยพอห่างหายจากเรื่องบนเตียงไปนาน ๆ ได้ยินคำพูดอย่างว่าเมื่อไรใจมันหวิว ๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวทุกที“คิดอะไรอยู่หน้าแดงเชียว”“นะ... หนูไม่ได้คิดเรื่องสิบแปดบวกนะ”“หืม? ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”“…” ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย บ้าที่สุดเลยตอนนี้คุณ
ละ... ลูกของเราเมื่อกี้ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมหรือว่านี่คือความฝัน ใช่!! ตอนนี้ฉันกำลังฝันอยู่แน่ ๆ“ฉันอยากมีลูกมากขนาดเก็บมาฝันเลยเหรอเนี่ย”“ไม่นี่ ไม่ได้อยากมีสักหน่อย”ฉันพูดพึมพำกับตัวเองไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ คุณเฟยก็เอานิ้วมาดีดหน้าผากฉันเสียงดังแปะ มันไม่ใช่เบา ๆ เลยนะ เจ็บด้วย“โอ๊ย... เฮียหนูเจ็บนะ” พอถูกทำให้เจ็บตัวฉันก็ตวัดสายตาจ้องคุณเฟยเขม็งทันที โกรธจริง ๆ นะ ดีดมาได้แรงขนาดนี้ นี่ฉันเป็นภรรยาเขานะ“ใช่ฝันหรือเปล่า?”“เฮียบ้า!!”“คงมีแค่ฉันที่ดีใจ เฮอะ! ใช่สิเธอไม่ได้อยากมีลูกกับฉันก็เลยไม่ดีใจ” พูดจบคุณเฟยก็ลุกขึ้นเดินหน้าบึ้งไปอีกมุมของห้อง ความโรแมนติกเมื่อครู่หายไปไหนแล้ว“ดะ... เดี๋ยวนะคะ ทำไมคิดแบบนั้นตัดสินเองเออเองโกรธเองใช้ได้ที่ไหนกัน”“ฉันเลี้ยงลูกเองก็ได้”“เฮีย! ไปกันใหญ่แล้วนะ”“จิ๊!!”“จู่ ๆ มาบอกว่าหนูท้อง ไม่ให้เวลาตกใจหน่อยเหรอคะ” ดูสิพูดแบบนี้แล้วยังเมินใส่ อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนผู้หญิงมีประจำเดือนอีกนะสามีฉันฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองแรง พร้อมกับพูด “มาตรงนี้”“เฮียหนูบอกให้มาตรงนี้ไงคะ” พูดครั้งที่สองแล้วคุณเฟยยังทำเป็นไม่ได้ยิน ฉันจึงใช้คำเด็ดขาด “ถ้า
มาถึงโรงพยาบาลคุณเฟยก็บอกให้หมอตรวจร่างกายของฉันให้ละเอียด สีหน้าแววตาที่คอยมองฉันด้วยความเป็นห่วงแบบนั้นทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ มันพองโตขึ้นเรื่อย ๆขณะที่หมอตรวจก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดตลอดเวลาแถมยังพะอืดพะอมจะอ้วกใส่หมอไปหลายครั้งแต่ดีที่กลั้นไว้ได้ผลตรวจรอบแรกออกมาว่าร่างกายของฉันปกติดีทุกอย่างต่างจากอาการที่เป็น แน่นอนว่าคุณเฟยโวยวายให้หมอตรวจอีกครั้ง จนหมอต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้หลังจากตรวจรอบสองเรียบร้อยก็ต้องรอผล ตอนนี้ฉันกำลังเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้างของคุณเฟย เมื่อวานก็ปกติไม่เป็นอะไรแต่มาวันนี้เหมือนร่างกายไม่มีแรงอยากจะกลับบ้านนอนมาก ๆ“กลับไปรอผลตรวจที่บ้านได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้ว” ฉันบอกเสียงเบา ตาก็คล้อยจะหลับเต็มที“เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งเป็นห่วง นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักคืนดีไหม”“ตอนนี้หนูเหม็นกลิ่นยาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว ถ้าต้องนอนที่โรงพยาบาลหนูตายแน่ ๆ เลยค่ะ”คุณเฟยมองด้วยสายตาเป็นห่วงปนเอ็นดู จากนั้นก็ลุกยืนเต็มความสูงแล้วช้อนมือมาอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว“อื้อเฮีย นี่มันโรงพยาบาลนะคะวางหนูลงเดี๋ยวนี้เลย”“หน้าซีดขนาดนี้จะมีแรงเดินเองได้ยังไง”คุยกันเหมือนตรงนี้มี
คุณเฟยหันมามองหน้าฉันแล้วยกหางคิ้วขึ้นเหมือนมีคำถาม ทั้งที่พูดไปเมื่อกี้ว่าจะอ้วกไม่ได้ยินหรือไง“พาหนูไปห้องน้ำหน่อย อึก~”“อ๋อ เธอกำลังแพ้ท้องสินะ” คุณเฟยพยักหน้ายิ้มกริ่มก่อนจะประคองฉันขึ้น“อึก~”“ต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีภรรยาของผมกำลังท้อง ช่วงนี้เธออ้วกบ่อย ๆ”“เร็ว ๆ อึก~ มันจะออก อึก~” ฉันทำตาดุใส่คุณเฟยที่เอาแต่ยิ้มพูดไม่ยอมพาเดินไปห้องน้ำซักที ถ้าขืนยังไม่ยอมไปจะอ้วกมันตรงนี้ซะดีไหมเนี่ยไม่รู้ว่าเผลอกินอะไรเข้าถึงได้พะอืดพะอมขนาดนี้ แต่จะว่าไปก็กินแบบเดิม ๆ ทุกวัน เพิ่งจะมามีอาการตอนเข้ามาในงาน คนเยอะแล้วเวียนหัว พอนั่งลงที่โต๊ะพวกกลิ่นอาหารมันตีขึ้นจมูกเหม็นมาก ๆ#ห้องน้ำพอเห็นประตูห้องน้ำมันเหมือนเห็นทางขึ้นสวรรค์ ฉันรีบวิ่งพุ่งตัวมานั่งตรงหน้าชักโครกแล้วอ้วกออกมาอย่างทรมาน“ไม่ต้องอ้วกเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นก็ได้ ตรงนี้มีแค่เธอกับฉัน”“อึก~ พะ... พูดอะไรคะ”แปะ แปะ แปะ จู่ ๆ คุณเฟยก็ปรบมือเสียงดัง ก่อนจะพูด “เมียฉันนี่การแสดงดีเยี่ยมจริง ๆ”“หนูไม่ อ้วกก~อึก แสดง~ อึกอ้วก~”“เลิกแกล้งได้แล้วน้ำอิง”“ก็บอกว่าไม่ได้แกล้ง ออกไปไกล ๆ เลยนะคะ อ้วกกก~” ฉันหันมาตวาดคุณเฟยที่เอา