Talk เพลิงตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวไปตามที่ไอ้คินนัด มันจับหมากที่ผมวางเอาไว้ไปก็ต้องเล่นตามเกม“อย่าลืมใส่เสื้อกันกระสุน โดนยิงตายห่าขึ้นมากูไม่ดูแลเมียมึงให้หรอกนะไอ้เฮีย” ไอ้ไฟเอาเสื้อเกาะโยนมาให้ผมใส่แล้วพูดบ่น“มึงใส่หรือยัง ?” พอผมถามมันก็เปิดเสื้อให้ดูว่าตัวมันใส่ก่อนแล้ว“ครั้งนี้มึงห้ามประมาท ยังไงก็ต้องฆ่ามันเก็บเอาไว้ก็เป็นมารธุรกิจเปล่า ๆ”“กูรู้”ไอ้คินมันเป็นศัตรูกับผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เริ่มจากเรื่องธุรกิจที่มันชอบส่งลูกน้องมาเกะกะสร้างความเสียหายให้ธุรกิจของผมหลายครั้ง มันคงหัวเสียที่ธุรกิจของผมตีตลาดได้มากกว่าของมันแบบนี้เขาเรียกว่าพวกแพ้แล้วพาล ผมใจดีกับมันเพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็คงเลิกยุ่ง แต่จนถึงวันนี้มันก็ยังเหี้ยเสมอต้นเสมอปลาย คงถึงเวลาที่ผมต้องจัดการเด็ดขาดสักที“พ่อฝากบอกว่าให้เอาชีวิตรอดกลับมา อย่ากลับมาแต่ชื่อ”“คนอย่างกูไม่ยอมให้มันฆ่าตายง่าย ๆ หรอก ถ้าต้องยิงมึงจำไว้ว่ากูจะยิงมันก่อน”“เออ! พี่กูมันเก่ง อย่าลืมว่ามึงมีแค่ชีวิตเดียว อย่าทำตัวเหมือนตัวเองมีเก้าชีวิต”“อืม”ผมกับไอ้ไฟเช็กปืนและกระสุนก่อนจะเรียกลูกน้องฝีมือดีให้ตามไปด้วยเพราะพวกมันคงหมาหมู่แน่ ๆ
Talk เอิงเอยฉันพยายามติดต่อไปหาคุณเพลิงตั้งแต่เมื่อคืนแต่เขาไม่รับสายเลย ฉันไม่รู้เลยว่าเขาเป็นยังไงแล้วจะให้มีสมาธิเรียนได้ยังไง วันนี้ต้องไปมหาวิทยาลัยวันแรกด้วย“พี่ติดต่อคุณเพลิงได้บ้างหรือเปล่าคะ” ฉันถามลูกน้องของคุณเพลิง เขากำลังขับรถไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัย“ไม่ครับ”“ติดต่อเขาให้หน่อยได้ไหมคะเอยโทรหาเขาไม่รับสายเลย”“นายบอกว่าจะติดต่อกลับมาเอง ผมไม่ได้รับอนุญาตให้โทรไปครับ”“แต่เขาไม่รับสายตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะคะ ถ้าไม่โทรงั้นเอยขอเบอร์คุณไฟก็ได้”“ผมไม่มีเบอร์คุณไฟครับ”“นี่เจ้านายเป็นอะไรไม่สนใจเลยหรือไงคะ!!”“ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลคุ้มกันความปลอดภัยให้คุณเอยเท่านั้นครับ”ฉันระเบิดอารมณ์เพราะความหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย นี่ไม่ใช่คนแรกที่ฉันถาม เมื่อเช้าฉันถามลูกน้องของคุณเพลิงทุกคน และพวกเขาก็ตอบแบบนี้เหมือนกับปริ้นคำพูดมาตอบมหาวิทยาลัยฉันโทรศัพท์ไปหาชะเอมก่อนจะเข้าเรียน ให้เธอช่วยเอาเบอร์คุณไฟมาให้และให้ตามหาว่าตอนนี้คุณเพลิงอยู่ที่ไหนเป็นยังไงบ้างฉันอยู่ที่นี่จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ในขณะที่นั่งเรียนนักศึกษาแทบจะทั้งห้องต่างหันมามองทางฉันแล้วซุบซิบกัน แน่นอนว่าฉันไ
#บ้านฉันกับคุณเพลิงเรานั่งรถกลับมาที่บ้าน ตอนนี้ยังคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เลย อยากจะโกรธที่เขาหายไปแต่ความคิดถึงมันมีมากกว่าพอรถดับเครื่องจอดที่หน้าบ้านฉันก็รีบวิ่งไปถามพี่ ๆ ที่เป็นลูกน้องของคุณเพลิงทันที“พี่เห็นเขาใช่ไหมคะ เขาเป็นคนใช่ไหมไม่ใช่วิญญาณ”“เอิงเอย! เธอถามแบบนั้นได้ยังไง” คุณเพลิงถามฉันเสียงดุลูกน้องของคุณเพลิงมายืนรวมตัวเรียงแถวกันก่อนจะโค้งคำนับเขา แปลว่าฉันไม่ได้ฝัน“พวกมึงเห็นใครที่ท่าทางมีพิรุธมาวนเวียนแถวนี้บ้างหรือเปล่า ?”“ไม่มีครับนาย”คุณเพลิงพยักหน้าก่อนจะหันมามองฉัน เหมือนจะเคืองที่ฉันถามลูกน้องเขาแบบนั้น ก็คนมันสงสัยนี่นา“ยายอยู่ในบ้าน ไปค่ะเดี๋ยวเอยพาไปหายาย”ฉันจับมือคุณเพลิงพาเดินเข้าไปในบ้าน ตอนนี้ยายกำลังนอนดูทีวีอยู่“ยายจ้ะ”“เอ่อกลับมาแล้วเหรอ วันนี้จะกิน…” ยายหันหน้ามาก่อนจะหยุดพูดเหมือนตกใจที่เห็นคุณเพลิง“ย… ยายเห็นเขาใช่ไหมคะคนที่ยืนข้าง ๆ หนู ตอนนี้หน้าเขาเป็นยังไงบ้างคะ มีเลือดหรือหน้าซีด ๆ อะไรแบบนั้นหรือเปล่า” เพราะเห็นว่ายายตกใจฉันจึงถามแบบนั้น กลัวเหมือนกันนะ“หล่อมากเลยลูกเอ๊ย นี่ผัวหลานใช่ไหมคนที่ส่งไอ้พวกนั้นมายืนอยู่ที่บ้านเรา” ฉั
คุณเพลิงเดินไปนั่งลงบนเตียง เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วมองฉันด้วยสายตาที่จริงจัง“หลังจากฉันจัดการไอ้คินเสร็จก็พักฟื้นที่โรงพยาบาล”“พักฟื้นที่โรงพยาบาลแล้วไม่พกโทรศัพท์ติดตัวเลยเหรอคะ”“ใช่ โทรศัพท์ฉันเอาไว้ที่ห้อง คิดว่าเธอคงเข้าใจก็เลยไม่ได้ติดต่อ”“ใช่ค่ะเอยเข้าใจ แต่รู้ไหมว่าเอยใจจะขาดตายอยู่แล้วที่โทรหาคุณเพลิงก็ไม่ยอมรับสายเลย”“ฉันขอโทษ”“ถ้าคุณเพลิงไม่มาที่ไทยเอยคิดว่าจะหาแฟนใหม่อยู่เหมือนกัน” ฉันพูดในเชิงประชด ให้มันรู้ซะบ้างต่อไปจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้อีก“แฟนใหม่? เธอพูดว่าจะหาแฟนใหม่ต่อหน้าฉันเลยเหรอวะ!!” แค่ได้ยินคุณเพลิงก็โกรธจนหน้าแดง นี่แค่คำพูดนะถ้าทำจริง ๆ ฉันต้องโดนบีบคอตายแน่ ๆ“ใช่ค่ะ แฟนเอยหายเงียบไปแบบนั้นไม่อยากรอหรอกค่ะ”“ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่รอ เธอรอฉันตลอด” เขาพูดเข้าข้างตัวเองแล้วก็ยิ้มกริ่ม“ถ้ารู้ว่าเอยรอทำไมไม่รีบกลับมาละคะ” ฉันถามกลับด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ“พ่อฉันสั่งให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลให้หายดีก่อน ถึงจะอนุญาตให้มาหาเธอได้”“ค… คุณธนดลรู้แล้วเหรอคะว่าคุณเพลิงกับเอยเป็น… เป็นอะไรกัน”“พ่อฉันรู้ตั้งนานแล้ว”“แล้วท่านไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”“
คุณเพลิงหันหน้ามามองฉันแล้วยักคิ้วให้ เขาทำตัวชิลล์ ๆ แบบนี้ได้ยังไง ทั้งที่ตอนนี้ทั้งยายแล้วก็โอมอ้าปากค้างกันไปแล้วใครจะไปคิดล่ะนั่งกินข้าวอยู่ดี ๆ หลานสาวจะถูกขอหมั้นสายฟ้าแลบขนาดนี้“เรื่องเงินหมั้นยายเรียกมาได้เลยนะครับ ทางผมไม่ติดปัญหาอะไร”“ยายว่าน่าจะรอให้เอยมันเรียนจบก่อนนะพ่อหนุ่ม”สีหน้าของคุณเพลิงบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขากำลังผิดหวังที่ถูกปฏิเสธ“ผมคิดเอาไว้ว่าอยากจะขอหมั้นเอาไว้ก่อน เรียนจบผมจะขอเอยแต่งงาน” เขายังพยายามพูด ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเงียบไม่ออกความคิดเห็นอะไร“ยายก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว ยายเองก็เพิ่งรู้ว่าเอยมันมีแฟน เพิ่งเคยเจอหน้า นิสัยใจคอเป็นยังไงยายก็ยังไม่รู้ พูดกันตามตรงยายอยากให้ทั้งคู่ดู ๆ กันไปก่อนอย่าเพิ่งด่วนรวบรัดกันนักเลย”“ผมรักเอยจริง ๆ นะครับยาย เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีภรรยา ผมจะไม่ทิ้งหลานสาวยายแน่นอนครับ”“เชื่อยายเถอะพ่อหนุ่ม ไม่ต้องหมั้นเรียนจบแล้วแต่งเลยยายก็ไม่ห้าม แต่ตอนนี้ถ้าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันก็ควรจะดูกันไปยาว ๆ”“แต่ผม…”“พอแล้วค่ะคุณเพลิง เชื่อที่ยายพูดเถอะนะคะ ที่ยายบอกก็เพราะว่าหวังด
จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกผิดกับคำพูดของตัวเองขึ้นมา คุณเพลิงอุตส่าห์บินไกลข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาฉันที่ไทย อย่างน้อยฉันก็ควรพูดกับเขาดี ๆ กว่านี้“ค… คุณเพลิงเอยขอโทษ เอยไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นนะคะ เอยอยากแต่งงานกับคุณเพลิงนะ”“ฉันอยากทำให้เธอมั่นใจว่าจริงจังมากแค่ไหน แต่ลืม ๆ มันไปซะเถอะ ฉันจะไม่พูดถึงมันอีก”“เอยไม่ได้ตั้งใจพูด คุณเพลิงอย่าโกรธสิคะ”“ฉันจะไปนอนบ้านป้า เธอรีบเข้าบ้านได้แล้ว” ถึงเราจะไม่ทะเลาะกันแบบเมื่อครู่แต่การเฉยเมยของคุณเพลิงในตอนนี้ทำให้ฉันหวั่นใจ“โกรธเอยหรือเปล่าคะ”“ไม่ ฉันไม่โกรธ”“ถ้าไม่โกรธคืนนี้นอนด้วยกันนะคะ” ฉันพยายามอ้อน การที่บอกว่าไม่โกรธแต่เมินหน้าหนีมันแปลก ๆ นะ“ฉันโทรบอกป้าแล้วว่าจะไปนอนที่บ้านด้วย”“เอยยังไม่เห็นคุณเพลิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาใครเลยนะ”คุณเพลิงไม่ตอบอะไร เขาหยิบกุญแจรถมากดปลดล็อกแล้วเดินไปเปิดประตูแทรกตัวเข้าไปนั่ง ฉันเห็นแบบนั้นจึบรีบวิ่งมาเปิดประตูที่นั่งข้าง ๆ คนขับแล้วแทรกตัวเข้ามานั่งในรถเหมือนกัน“เอยไปด้วยค่ะ”“ฉันว่าพรุ่งนี้เราค่อยเจอกันมันคงจะดีกว่า” ไม่คิดจะมองหน้ากันเลยหรือไงตอนพูดเนี่ย ฉันก็พูดแบบนั้นไปเพราะอารมณ์ ใครจะไ
ฉันค่อย ๆ ใช้ริมฝีปากรูดดูดแก่นกายใหญ่ตั้งแต่ปลายจนถึงโคน คนที่ถูกกระทำเอาแต่ครางในลำคอ“ชอบไหมคะ” ฉันเงยหน้าขึ้นถามความพึงพอใจของคุณเพลิง“พอได้แล้วฉันต้องรีบไปบ้านป้า”“ตอบแบบนี้แปลว่ายังโกรธเอยอยู่แน่ ๆ”ผู้ชายอะไรโกรธนานจัง คิดว่าเสียงครางกระเส่าเมื่อครู่จะหายโกรธแล้วซะอีกฉันก้มหน้าทำต่อ พยายามทำให้ดีที่สุดถึงแม้จะไม่เคยทำเลยก็ตาม แต่เรื่องแบบนี้มันคงไหลไปตามอารมณ์“อ๊า จะทำให้เสร็จในปากเธอเลยหรือไง”“ปล่อยมันออกมาใส่ปากเอยสิคะ” ฉันพูดอย่างยั่วอารมณ์ก่อนจะเร่งจังหวะ ทำให้คุณเพลิงครางเสียงดังแต่เมื่อเขาใกล้จะถึงสวรรค์ฉันก็หยุดกระทันหัน ทำให้ถูกมองค้อน“เอยออกมาจากบ้านนานแล้วยายคงเป็นห่วง คุณเพลิงจะไปนอนบ้านป้าใช่ไหมคะ ถ้าไปถึงแล้วบอกเอยด้วยนะ”“พอแค่นี้ ?” คุณเพลิงขมวดคิ้วถาม ท่าทางของเขาดูไม่สบอารมณ์สุด ๆ“ก็คุณเพลิงบอกว่ารีบนี่คะ”“ใช่! ฉันรีบแต่มันก่อนหน้านี้”“คุณเพลิงยังโกรธเอยอยู่นี่นา”ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาก่อนที่แขนของฉันจะถูกรวบ “ทำแล้วเธอก็ต้องรับผิดชอบทำต่อให้เสร็จ”“หายโกรธเอยหรือยังคะ”“ฉันไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจที่เธอพูดแบบนั้น”“น้อยใจเป็นด้วยเหรอคะเนี่ย ไม่น่าเช
คฤหาสน์หลังใหญ่หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อเห็นความใหญ่โตของบ้านป้าของคุณเพลิง ครอบครัวเขามีฐานะมาก ๆ แล้วย้อนมามองฉันสิ มันคนละระดับกันเลย“เข้าไปในบ้านเถอะตอนนี้ป้ากำลังรอเราอยู่”“ป้าของคุณเพลิงจะโอเคกับเอยใช่ไหมคะ” ฉันถามอย่างเป็นกังวล“ครอบครัวฉันไม่ใจร้ายกับเธอหรอกนะ เลิกคิดมากได้แล้ว”คุณเพลิงเปิดประตูลงจากรถโดยที่ฉันยังนั่งเกร็งอยู่ ไม่นานประตูรถฝั่งที่ฉันนั่งก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาให้ฉันจับ“ถ้าป้าคุณเพลิงถามเรื่องฐานะเอยจะตอบยังไงคะ ถ้าท่านถามว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไร มีบริษัทที่ไหนบ้าง…”“หยุดคิดมาก”พอฉันไม่ยอมเอื้อมมือไปจับคุณเพลิงก็เอามือของตัวเองมาจับมือฉันแล้วดึงให้ลุกขึ้น“เข้าไปในบ้าน ถ้าป้าถามอะไรก็ตอบไปตามความจริง”ฉันเม้มปากมองคุณเพลิงตาแป๋ว เขาน่าจะบอกให้ฉันทำใจก่อนสักหน่อย แบบนี้ทันกระทันหันเกินไป#ภายในบ้านพอเดินเข้ามาในตัวบ้านทำเอาฉันแทบตะลึงกับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ตกแต่งภายใน ของพวกนี้ล้วนมีแต่ราคาแพง ๆ ทั้งนั้น“ป้าฉันรออยู่ที่ห้องรับแขก ตามมาสิ”“ค่ะ”ฉันมองแผ่นหลังกว้างของคุณเพลิงที่เดินนำไป ใจมันหวั่น ๆ ยังไงก็ไม่รู้#ห้องรับแขกภายในห้อง
ผู้ชายที่ชื่อลีวายมารับมิลินจริง ๆ เหมือนทั้งสองจะมีปัญหากัน แต่สุดท้ายมิลินก็ยอมกลับไป ไม่สิไม่ใช่ยอม เรียกว่าจำใจมากกว่า“ผู้ชายคนนั้นนิสัยเหมือนเฮียไม่มีผิด”คุณเฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉันก่อนจะถาม “ยังไง?”“ก็เป็นพวกดุร้ายแถมยังชอบบังคับ ดูท่าทางแล้วคงจะใจร้ายมาก ๆ มิลินถึงได้ไม่อยากเข้าใกล้แบบนั้น”“นั่นมันฉันในเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย”“ถ้าเฮียกลับมาทำนิสัยแบบนั้นหนูจะหอบลูกหนีไปไกล ๆ เลยคอยดูสิ”คุณเฟยดึงตัวฉันมาสวมกอดแน่นแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ฉันจะเป็นสามีที่ดีของเธอ… แต่ตอนนี้เรามาทำเรื่องที่ค้างไว้กันต่อดีกว่านะ”“ทะ... ทำได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ” ค่อนข้างกังวลเพราะฉันก็ศึกษามาบ้างว่าการมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงต่อการแท้ง“ได้สิ ฉันจะค่อย ๆ ทำ”“รอคลอดก่อนแล้วเราค่อยทำ…”“ถ้าต้องให้รอนานขนาดนั้นก็ตัดของฉันทิ้งไปเลยดีกว่า”“หือ! นี่ถึงขนาดยอมตัดทิ้งเลยเหรอคะ” ฉันยกมือขึ้นมาป้องปากทำตาโต“ฉันแค่พูดประชด!!”คุณเฟยทำหน้าตึงใส่ จากนั้นก็อุ้มฉันพาเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง#ภายในห้องคุณเฟยวางฉันลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นมาคร่อม แต่พอจะถูกถอดเสื้อผ้าฉันก็รีบรั้งมือหนาเอาไว้“ทำไม?”“หนูขอทำ
สีหน้าที่ดูเหมือนจะโกรธจริงจังของคุณเฟยทำให้ฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ทำยังไงได้บอกมิลินไปแล้วนี่นา“ยะ... อย่าดุหนูสิคะ เดี๋ยวถ้ามิลินกลับหนูจะจัดชุดใหญ่ให้นะคะ ^_^”“ฉันต้องการ… ตอนนี้”“ตอนนี้ไม่ได้เพื่อนหนูมาเฮียเข้าใจหน่อยสิ”“เธอทำกับฉันเกินไปแล้วนะน้ำอิง”“นะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้เฮียผิดหวัง ^_^”“ครึ่งชั่วโมง ฉันให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง”“รับทราบค่ะ ^_^”“ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงฉันจะไปอุ้มเธอขึ้นห้อง”คุณเฟยพูดทิ้งท้ายพร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ แล้วลุกขึ้นจากตัวฉัน จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่ ฉันเองก็รีบแต่งตัวเพราะมิลินโทรมาสามสายแล้วหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยฉันก็เดินมารับมิลินที่หน้าประตูบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงมาหา…”“น้ำอิง อึก~”มิลินโผล่เข้ากอดฉันแล้วร้องไห้โฮออกมา ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก“มิลินเป็นอะไร เธอร้องให้ทำไม”“ฉัน อึก~ ฉันรู้สึกแย่จัง ฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเธอแบบนี้เลยน้ำอิง อึก~”“เข้าไปคุยกันข้างในบ้านดีกว่านะ” ฉันดันกอดออก มิลินพยักหน้าแล้วเดินตามฉันมาที่ห้องรับแขกฉันไม่รู้จะเริ่มปลอบเพื่อนยังไงดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้หนักขนาดนี้ มิลินเอาแต่พูดว่าตัวเ
คุณเฟยผละใบหน้าขึ้นแล้วมองฉันตาหวานเยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยวนไปมาตรงพวงแก้มของฉันเบา ๆ“เจ้าเล่ห์”“ฉันเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้วเธอจะรับมือยังไง”“หนูจะ… รับมือยังไงดีน้า” ฉันใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อออก ภาพที่เห็นทำให้คุณเฟยยิ้มอย่างพอใจคุณเฟยจับปลายคางฉันเงยขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นสากค่อย ๆ สำรวจไปจนทั่วภายในโพรงปาก ความนุ่มนวลทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนี้ในขณะที่จูบกันอย่างดูดดื่มคุณเฟยก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย แล้วถอดเสื้ออกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีถึงแม้เสื้อตัวนั้นราคาจะแพงขนาดไหนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเราทั้งคู่ถูกถอดออกไปทีละชิ้น ๆ จนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวยอมรับว่าตอนนี้ฉันกำลังเขินสายตาของคุณเฟยที่กำลังมองเรือนร่างของฉันอยู่แบบไม่กะพริบตา“เฮียมองแบบนี้หนูก็เขินเป็นนะคะ”“ภรรยาของฉันสวยขนาดนี้ ไม่ให้มองได้ยังไง”พูดจบคุณเฟยก็ค่อย ๆ ดันตัวเองลงมาตรงกลางระหว่างขาแล้วก้มหน้าลง ฉันจึงรีบใช้มือปิดตรงนั้นของตัวเองเอาไว้“ฮะ... เฮียจะทำอะไรเหรอคะ”“ฉันกำลังจะทำให้เธอมีความสุข”คุณเฟยจับมือที่ฉันเอาปิดตรงนั้นของตัวเองออกไปให้
ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือเปล่า นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม คำพูดเมื่อครู่นี้หมายความว่า… ท่านยอมรับฉันแล้วอย่างนั้นเหรอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนก่อนหน้านี้ไม่นานท่านยังไม่มีท่าทียอมรับฉันเลย จู่ ๆ พูดแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆคุณเฟยเอามือมากุมมือฉันไว้เราสองคนต่างยิ้มให้กัน ความทุกข์ในใจที่ทำให้คิดมากมานาน วันนี้ทุกอย่างถูกปลดล็อกแล้ว ไม่มีเรื่องต้องคิดมากอีกต่อไปแล้ว“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่ยอมรับผู้หญิงที่ผมรัก”“แกเลือกแล้วฉันจะขัดอะไรได้ อย่างน้อยเมียแกก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน เพราะไม่ว่าฉันจะพยายามเสนอเงินมากมายเท่าไรเมียแกก็ไม่ยอมรับ”ฉันยิ้มแห้ง ๆ หลังจากได้ยินคำที่ท่านพูด เพราะตอนแรกฉันก็ขายตัวแลกเงิน ถ้าท่านรู้เบื้องหลังต้องไล่ฉันตะเพิดแน่ ๆ เลยท่านละสายตาจากคุณเฟยมาโฟกัสฉันแทน แล้วถาม “ฉันรู้มาว่าเธอไม่มีญาติที่ไหน ใช่หรือเปล่า”“ค่ะ” เอาเข้าจริงพอถูกยอมรับแล้วมันทำให้รู้สึกเกร็งมาก ๆ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะคุยเรื่องค่าสินสอดกับเธอเลยก็แล้วกัน”“… ค… ค่าสินสอดเหรอคะ”“อืม เธออยากได้เท่าไรบอกมาสิ”“เอ่อคือหนูว่าไม่ต้อง…” กำลังจะปฏิเสธแต
ตรงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันเต้นแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ก่อนหน้านี้ถึงจะมีความกล้าแต่ทว่าพอถูกพ่อของคุณเฟยเชิญมาที่บ้านด้วยตัวเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก“เป็นอะไรไปมือเย็นเฉียบเชียว” คุณเฟยหันมาถามหลังจากที่จับมือของฉัน“หนู... หนูรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กลัว…” คุณเฟยจับปลายคางของฉันให้หันมา จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบฉันตกใจรีบผละตัวออกแต่ถูกฝ่ามือหนารั้งท้ายทอยเอาไว้แล้วกดจูบลงมาหนัก ๆ“จะทำอะไรก็ไว้หน้าฉันด้วย ไม่รู้จักอายบ้างรึไง” เสียงทุ้มท้วงขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ ฉันกับคุณเฟยจึงรีบผละตัวออกจากกัน“คะ... คุณท่านสวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือสวัสดีแล้วก้มหน้าไม่กล้าสบตา“ถ้าฉันไม่โทรไปบอกให้แกมา แกก็คงไม่โผล่หัวมาใช่ไหม”“ครับ”“ตาเฟย!!”“เฮีย” เห็นว่าคุณท่านเริ่มมีอารมณ์ฉันจึงรีบหันมาท้วงคุณเฟย ไม่อยากให้พ่อกับลูกมีปากเสียงกันไปมากกว่านี้ฟังจากคำพูดแล้วคุณท่านคงไม่ยอมรับฉันง่าย ๆพอท้องแล้วรู้สึกว่าตัวเองหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ มากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยคุณเฟยถอนหายใจเบา ๆ ข่มอารมณ์ก่อนจะถาม “ให้ผมมาทำไมครับ”“ตามฉันมา”คุณท่านเดินนำเราสองคนเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนฉันกับคุณเฟยเรามองหน้าก
ผ่านไป 2 อาทิตย์ฉันแพ้ท้องหนักพอสมควร แค่ได้กลิ่นอาหารก็คลื่นไส้กินอะไรก็อ้วกออกจนหมด โชคดีที่คุณเฟยคอยอยู่ดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กลิ่นหอมจากตัวคุณเฟยทำให้อาการที่ฉันเป็นทุเลาลงบ้าง“กูสั่งให้ซื้อมะม่วงเปรี้ยวแต่มึงซื้อมะม่วงหวานมา อยากตายรึไงฮะ!!”“ขอโทษครับนายผมจะไปซื้อให้ใหม่เดี๋ยวนี้ครับ”“กูให้เวลาสิบนาทีถ้ายังไม่กลับมากูไล่มึงออก”เสียงคุณเฟยตวาดลูกน้องดังก้อง พักนี้เขาหงุดหงิดง่ายมาก ๆ แล้วก็ชอบกินของเปรี้ยวเป็นที่สุด“แค่ซื้อมาผิดไม่เห็นต้องดุเขาขนาดนั้นเลยเฮีย” ฉันเดินมากอดแขนคุณเฟยที่กำลังหงุดหงิดอยู่ แต่พอหันมามองฉันสายตาที่เคยเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนเป็นละมุนทันที“ถ้าไม่ดุมันก็จะเคยตัว”“แล้วถ้าหนูทำผิดล่ะคะ”“ฉันก็จะลงโทษเธอทั้งคืน”“…” ที่เงียบไม่โต้ตอบเป็นเพราะฉันกำลังเขินจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวเอามาก ๆ กับคำพูดเมื่อครู่ของคุณเฟยพอห่างหายจากเรื่องบนเตียงไปนาน ๆ ได้ยินคำพูดอย่างว่าเมื่อไรใจมันหวิว ๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวทุกที“คิดอะไรอยู่หน้าแดงเชียว”“นะ... หนูไม่ได้คิดเรื่องสิบแปดบวกนะ”“หืม? ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”“…” ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย บ้าที่สุดเลยตอนนี้คุณ
ละ... ลูกของเราเมื่อกี้ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมหรือว่านี่คือความฝัน ใช่!! ตอนนี้ฉันกำลังฝันอยู่แน่ ๆ“ฉันอยากมีลูกมากขนาดเก็บมาฝันเลยเหรอเนี่ย”“ไม่นี่ ไม่ได้อยากมีสักหน่อย”ฉันพูดพึมพำกับตัวเองไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ คุณเฟยก็เอานิ้วมาดีดหน้าผากฉันเสียงดังแปะ มันไม่ใช่เบา ๆ เลยนะ เจ็บด้วย“โอ๊ย... เฮียหนูเจ็บนะ” พอถูกทำให้เจ็บตัวฉันก็ตวัดสายตาจ้องคุณเฟยเขม็งทันที โกรธจริง ๆ นะ ดีดมาได้แรงขนาดนี้ นี่ฉันเป็นภรรยาเขานะ“ใช่ฝันหรือเปล่า?”“เฮียบ้า!!”“คงมีแค่ฉันที่ดีใจ เฮอะ! ใช่สิเธอไม่ได้อยากมีลูกกับฉันก็เลยไม่ดีใจ” พูดจบคุณเฟยก็ลุกขึ้นเดินหน้าบึ้งไปอีกมุมของห้อง ความโรแมนติกเมื่อครู่หายไปไหนแล้ว“ดะ... เดี๋ยวนะคะ ทำไมคิดแบบนั้นตัดสินเองเออเองโกรธเองใช้ได้ที่ไหนกัน”“ฉันเลี้ยงลูกเองก็ได้”“เฮีย! ไปกันใหญ่แล้วนะ”“จิ๊!!”“จู่ ๆ มาบอกว่าหนูท้อง ไม่ให้เวลาตกใจหน่อยเหรอคะ” ดูสิพูดแบบนี้แล้วยังเมินใส่ อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนผู้หญิงมีประจำเดือนอีกนะสามีฉันฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองแรง พร้อมกับพูด “มาตรงนี้”“เฮียหนูบอกให้มาตรงนี้ไงคะ” พูดครั้งที่สองแล้วคุณเฟยยังทำเป็นไม่ได้ยิน ฉันจึงใช้คำเด็ดขาด “ถ้า
มาถึงโรงพยาบาลคุณเฟยก็บอกให้หมอตรวจร่างกายของฉันให้ละเอียด สีหน้าแววตาที่คอยมองฉันด้วยความเป็นห่วงแบบนั้นทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ มันพองโตขึ้นเรื่อย ๆขณะที่หมอตรวจก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดตลอดเวลาแถมยังพะอืดพะอมจะอ้วกใส่หมอไปหลายครั้งแต่ดีที่กลั้นไว้ได้ผลตรวจรอบแรกออกมาว่าร่างกายของฉันปกติดีทุกอย่างต่างจากอาการที่เป็น แน่นอนว่าคุณเฟยโวยวายให้หมอตรวจอีกครั้ง จนหมอต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้หลังจากตรวจรอบสองเรียบร้อยก็ต้องรอผล ตอนนี้ฉันกำลังเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้างของคุณเฟย เมื่อวานก็ปกติไม่เป็นอะไรแต่มาวันนี้เหมือนร่างกายไม่มีแรงอยากจะกลับบ้านนอนมาก ๆ“กลับไปรอผลตรวจที่บ้านได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้ว” ฉันบอกเสียงเบา ตาก็คล้อยจะหลับเต็มที“เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งเป็นห่วง นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักคืนดีไหม”“ตอนนี้หนูเหม็นกลิ่นยาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว ถ้าต้องนอนที่โรงพยาบาลหนูตายแน่ ๆ เลยค่ะ”คุณเฟยมองด้วยสายตาเป็นห่วงปนเอ็นดู จากนั้นก็ลุกยืนเต็มความสูงแล้วช้อนมือมาอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว“อื้อเฮีย นี่มันโรงพยาบาลนะคะวางหนูลงเดี๋ยวนี้เลย”“หน้าซีดขนาดนี้จะมีแรงเดินเองได้ยังไง”คุยกันเหมือนตรงนี้มี
คุณเฟยหันมามองหน้าฉันแล้วยกหางคิ้วขึ้นเหมือนมีคำถาม ทั้งที่พูดไปเมื่อกี้ว่าจะอ้วกไม่ได้ยินหรือไง“พาหนูไปห้องน้ำหน่อย อึก~”“อ๋อ เธอกำลังแพ้ท้องสินะ” คุณเฟยพยักหน้ายิ้มกริ่มก่อนจะประคองฉันขึ้น“อึก~”“ต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีภรรยาของผมกำลังท้อง ช่วงนี้เธออ้วกบ่อย ๆ”“เร็ว ๆ อึก~ มันจะออก อึก~” ฉันทำตาดุใส่คุณเฟยที่เอาแต่ยิ้มพูดไม่ยอมพาเดินไปห้องน้ำซักที ถ้าขืนยังไม่ยอมไปจะอ้วกมันตรงนี้ซะดีไหมเนี่ยไม่รู้ว่าเผลอกินอะไรเข้าถึงได้พะอืดพะอมขนาดนี้ แต่จะว่าไปก็กินแบบเดิม ๆ ทุกวัน เพิ่งจะมามีอาการตอนเข้ามาในงาน คนเยอะแล้วเวียนหัว พอนั่งลงที่โต๊ะพวกกลิ่นอาหารมันตีขึ้นจมูกเหม็นมาก ๆ#ห้องน้ำพอเห็นประตูห้องน้ำมันเหมือนเห็นทางขึ้นสวรรค์ ฉันรีบวิ่งพุ่งตัวมานั่งตรงหน้าชักโครกแล้วอ้วกออกมาอย่างทรมาน“ไม่ต้องอ้วกเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นก็ได้ ตรงนี้มีแค่เธอกับฉัน”“อึก~ พะ... พูดอะไรคะ”แปะ แปะ แปะ จู่ ๆ คุณเฟยก็ปรบมือเสียงดัง ก่อนจะพูด “เมียฉันนี่การแสดงดีเยี่ยมจริง ๆ”“หนูไม่ อ้วกก~อึก แสดง~ อึกอ้วก~”“เลิกแกล้งได้แล้วน้ำอิง”“ก็บอกว่าไม่ได้แกล้ง ออกไปไกล ๆ เลยนะคะ อ้วกกก~” ฉันหันมาตวาดคุณเฟยที่เอา