“เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยนะ ฉันมีสินสอดทองหมั้นมาตามที่เธอเรียกร้องและข้อตกลงระหว่างเราที่ฉันได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ เธอคงไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรหรอกใช่ไหม..” คุณธัชกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานน้ำเสียงดูห่างเหินไว้ตัวอย่างเห็นได้ชัด
“ค่า ไม่มีค่า ฉันขอแค่สินสอดทองหมั้นตามที่ตกลงไว้เพื่อจะได้เอามาพัฒนาปรับปรุงไร่ของเราเท่านั้นล่ะคะ ไม่อยากให้ความฝันของคุณพี่ต้องล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา”
“งั้นก็ดี นี่สัญญาและนี่คือเงินสินสอด แต่รอสักครู่คนของฉันกำลังพานายอำเภอมา..” คุณธัชเอ่ยขึ้นทำให้คุณดวงพรซึ่งกำลังจะเอื้อมมือมายกพานใส่เงินสินสอดไปนั้นชะงักหดมือกลับยิ้มแหยๆ แล้วเมินหน้าหนีแววตาของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ คุณธัชปรายตามองอย่างสมเพชแล้วมองเลยไปยังหญิงสาวที่นั่งก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จาอยู่อย่างสนใจ
“เป็นไงบ้างหนูชีวัน จำลุงได้ไหม”
“คือ มะ ไม่ค่อยได้ค่ะ”
หญิงสาวตอบเบาๆ น้ำเสียงกังวานไพเราะถูกใจคุณธัชนักซึ่งเขามั่นใจได้เลยว่าลูกสาวของเพื่อนรักจะเป็นภรรยาที่ดีของลูกชายได้
“ก็อย่างว่านะ ลุงไม่ได้อยู่เมืองไทยเกือบยี่สิบปี..”
“อุ้ย นายอำเภอมาแล้ว เชิญเลยค่ะท่าน นวลเอ๊ยหาน้ำหาท่ามาให้นายอำเภอเร็วๆ” คุณดวงพรเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นรีบเดินไปต้อนรับนายอำเภออย่างออกนอกหน้า และดีใจที่นายอำเภอมาขัดจังหวะก่อนที่คุณธัชจะพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้และนางอยากให้งานนี้มันสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว...
“เป็นไงบ้างธัชไม่เจอกันนานเลยนะพวกเรา” นายอำเภอวันชัย ทำเพียงพยักหน้ายิ้มให้บางๆ ให้คุณดวงพรเท่านั้นแล้วหันมาถามไถ่คุณธัชอย่างเป็นกันเอง นายอำเภอวันชัยเป็นหนึ่งในเพื่อนเรียนร่วมสถาบันเดียวกันเอ่ยทักคุณธัชโดยไม่สนใจคุณดวงพรนักซึ่งคุณดวงพรได้แต่แอบเม้มปากอย่างไม่พอใจ
“ธีโอไหว้ลุงวัยชัยสิลูก”
“สวัสดีครับคุณลุง”
เป็นคำพูดแรกของชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ บิดามาตั้งแต่ต้นทำให้หญิงสาวที่ก้มหน้านิ่งแอบปรายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ามองพื้นนั่งเงียบดังเดิม
“ไอ้เสือของแกโตเป็นหนุ่มแล้วรึนี่ มิน่าเล่ารีบให้คนไปฉุดกระชากฉันมานี่”
“แกก็พูดเกินไป ให้คนไปเชิญเว้ย หึหึ” คุณธัชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เอาล่ะ มาทำธุระเราให้เสร็จก่อนดีกว่า” แล้วนายอำเภอวันชัยก็หันมายิ้มให้ทั้งสองแม่ลูกและเมื่อเห็นหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณดวงพรนายอำเภอก็ชะงักเล็กน้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี...
“ผมขอตัวกลับเลยนะครับพ่อ..” เมื่อจรดปากกาเซ็นชื่อลงในทะเบียนสมรสโดยไม่ได้เงยหน้ามองคู่สมรสเลยแม้แต่น้อยนั้นธีโอรีบก็บอกบิดาแล้วเดินออกไปทันทีโดยไม่ฟังคำพูดอะไรของใคร ซึ่งคุณธัชได้แต่มองตามลูกชายไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“เอาล่ะเมื่อเสร็จแล้วฉันก็ขอกลับเลยนะ มีงานอื่นต้องทำอีก แกอยู่ที่นี่อีกวันสิธัช มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะแยะเลย”
“ไม่ต้องชวนก็กะจะอยู่ด้วยสักวันสองวัน เดี๋ยวคืนนี้ฉันไปค้างที่บ้านแกนั่นล่ะไม่ได้จองโรงแรมไว้”
“ยินดีเลยเพื่อน เสร็จธุระแล้วลุงไปนะ หนูเล็ก..” นายอำเภอวันชัยหันมาพูดกับคนที่นั่งเงียบอยู่ตลอดเวลาอย่างเอ็นดู
“ถ้าอย่างนั้นลุงก็กลับก่อนนะ แล้วลุงจะแวะมาเยี่ยมอีก” คุณธัชหันมาพูดกับหญิงสาวผู้ซึ่งเป็นสะใภ้ของตนอย่างอ่อนโยน
“ค่ะคุณลุง” หญิงสาวไหว้ผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม ในขณะที่คุณดวงพรมองนายอำเภออย่างไม่พอใจที่เรียกขวัญชีวาว่า หนูเล็ก ซึ่งเป็นอีกชื่อเล่นหนึ่งของขวัญชีวาส่วน หนูใหญ่ ก็คือชื่อเล่นของดวงชีวัน...
“อย่าสาระแนพูดอะไรที่มันทำให้ฉันเสื่อมเสียล่ะ..” คุณดวงพรหันมาตวาดเสียงเขียวใส่ขวัญชีวาเมื่อลับหลังผู้อื่น
เมื่อวานดวงชีวันได้กลับกรุงเทพฯ ไปพร้อมทั้งบังคับขวัญชีวาให้มาทำหน้าที่แทนตน ซึ่งคุณดวงพรก็เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้ดวงชีวันแต่งงานกับคุณธัชซึ่งเป็นเพื่อนของสามี แต่กลายเป็นว่าคุณธัชให้ลูกชายสุดหล่อจดทะเบียนแทนเสียนี่ หากว่าดวงชีวันเห็นธีโอไม่แน่ก็อาจจะเปลี่ยนใจแต่เมื่อเห็นในสัญญาแล้วว่านอกจากสินสอดห้าสิบล้านแล้วพวกตนจะไม่ได้อะไรจากคุณธัชอีกทั้งภายในสัญญาห้าปีมันก็ยาวนานเกินกว่าที่นางจะทนรอให้ไร่ดวงใจเป็นของตนดังเดิม และดวงชีวันคงทนอยู่ในสภาพของหญิงที่มีสามีที่ตนไม่รักได้แน่นอนเพราะดูท่าทางธีโอแล้วก็คงไว้ตัวไม่น้อยแม้แต่จะไหว้นางก็ไม่คิดจะทำซ้ำยังไม่ยอมมองหน้าคนที่เป็นภรรยาเลยสักนิด...
แต่ก็ดีเพราะไม่มีใครใส่ใจว่าคนที่จดทะเบียนกับเขาคือขวัญชีวา แม้จะผิดแผนไปนิดเพราะคุณธัชระบุมาว่าเป็นลูกสาวคนโตแต่เมื่อทั้งสองเป็นฝาแฝดกันก็สามารถทดแทนกันได้ล่ะเพราะดวงชีวันกับขวัญชีวาเกิดห่างกันแค่นาทีเดียวจะบอกว่าคนไหนเป็นลูกสาวคนโตก็ได้.. คุณดวงพรคิดอย่างเข้าข้างตัวเองและดีใจที่ได้เงินสินสอดจำนวนมหาศาลมาครอบครอง...
“ค่ะ คุณแม่..”
“เอ้า.. นี่เงินค่าที่ว่าหล่อนอุตส่าห์มาสวมรอยแทนชีวัน แล้วอย่าสะเออะพูดมากล่ะ ให้จำไว้ว่าที่แกทำไปก็คือการทดแทนบุญคุณฉันกับพี่สาวแก ขอให้มีความสุขนะยะ” คุณดวงพรโยนเงินให้ขวัญชีวาซึ่งนั่งนิ่งมาตลอดการเจรจาของผู้ใหญ่หนึ่งปึกแล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ขวัญชีวามองตามมารดาของตนไปด้วยใบหน้าที่นองน้ำตาไม่ได้ใส่ใจกับเงินจำนวนนั้นเลยแม้แต่น้อยเพราะเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เธอแบกรับแล้วใช่ว่าจะพอ
“คุณหนูขา..”
“นมขา ฮือออ..” หญิงสาวโผเข้ากอดแม่นมของตนแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก นวลตองลูบศีรษะของคนที่ตนเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกด้วยความเวทนา พี่ต้อยพี่ติ่งก็นั่งมองนายสาวด้วยดวงตาที่แดงก่ำอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลไปกับความอาภัพของขวัญชีวา
“พวกเราจะอยู่ช่วยคุณหนูนะคะ อย่ายอมแพ้ค่ะคุณหนู”
“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงสะอื้นแล้วชะเง้อมองตามเสียงรถยนต์ที่แล่นออกไป.. คุณดวงพรได้จากไปแล้วพร้อมเงินสินสอดห้าสิบล้าน โดยไม่ใส่ใจคนที่อยู่เบื้องหลังว่าจะต้องแบกรับภาระที่นางสร้างไว้ซึ่งหนี้สินและความทรุดโทรมที่เกิดกับไร่ดวงใจนั้นนางเป็นคนที่สร้างขึ้นทั้งสิ้น...
บทที่7.“คุณแม่ไปแล้ว คุณแม่ทิ้งพวกเราไปแล้ว นมขาแล้วเราจะอยู่ยังไง..”“อย่าร้องค่ะคุณหนู ถึงไม่มีคุณแม่เราก็อยู่กันมาได้ไม่ใช่เหรอคะ ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้พึ่งพาอะไรจากคุณแม่เลยนี่คะ ไม่มีพวกเขาเราก็อยู่กันได้ค่ะ เชื่อนมสิคะ” นวลตองยิ้มให้บางๆ ขวัญชีวาพยักหน้าอย่างยอมรับในโชคชะตาของตน “อีกอย่าง การจดทะเบียนสมรสของคุณหนูกับคุณธีโอก็ไม่ได้มีผลอะไรเพราะเขาไม่สนใจคุณหนูเลยสักนิดซึ่งก็เป็นการดีแล้วนี่คะ อีกอย่างคุณหนูมีสิทธิ์เต็มที่ในการบริหารจัดการที่นี่เหมือนเดิม แค่ห้าปีเท่านั้นแล้วไร่นี้ก็จะกลับมาเป็นของคุณหนูเหมือนเดิม และคราวนี้จะไม่มีใครเอามันไปได้อีก.. สู้ๆ นะคะ เพื่อไร่ดวงใจและคุณพ่อ..” นวลตองเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสของขวัญชีวาเบาๆ“จริงด้วยค่ะ แบบนี้ชีวาก็สามารถทำอะไรได้ตามใจโดยไม่ต้องกลัวว่าคุณแม่กับคุณพี่ดุด่าเอา”“จริงค่ะ แบบนี้ล่ะดีแล้วไม่มีคนใจร้ายคอยรังแก” พี่ต้อยพี่ติ่งเสริมทันด้วยด้วยรอยยิ้มสดชื่น“ขอบคุณมากๆ นะคะทุกๆ คน” ขวัญชีวายิ้มกว้างด้วยความรู้สึกปรอดโปร่งมากขึ้น... หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ มองไปรอบๆ ด้วยความหวังอันเรืองรอง...ทางด้านคุณดวงพรที่หอบเงินสินสอดกว่าห้าสิบล้านก
บทที่.8.“ต้องไหวสิคะ ตอนนี้ชีวาก็ทำงานในไร่เป็นเกือบทุกอย่างแล้ว รถไถชีวาก็ขับได้แล้ว ไม่ได้ยากนี่คะหากเราคิดจะทำ ตอนนี้ใครๆ ก็หันมาทำการเกษตรกันแล้วค่ะ เพราะมันเป็นงานที่ยั่งยืน เราจะทำตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไงคะ ค่อยๆ ก้าว ค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้คนในบ้านก่อน เรื่องซื้อที่คืนจากพี่แดนนั้นยังอีกยาวไกลค่ะแต่ชีวาจะซื้อคืนให้ได้แน่ๆ” หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มมุ่งมั่น“ใช่ค่ะ งานพวกนี้เก่งหมด แต่ทำอาหารไม่เป็น”“โธ่ นมขา มันไม่ใช่แนวของชีวานี่คะ เป็นแค่ลูกมือนมน่ะดีแล้ว เพราะชีวาหั่นผักสวยกว่าใครๆ” หญิงสาวยิ้มกว้างไม่ได้รู้เขินอายที่ตนทำอาหารไม่เป็น “คุยอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ” เสียงนุ่มทุ้มแสนสุภาพคุ้นหูดังขึ้น ชายแดน ชายหนุ่มที่ถูกพูดถึง เดินยิ้มร่าเข้ามาหาพร้อมทั้งไหว้นวลตองอย่างนอบน้อม“พี่แดนมาพอดีเลยค่ะ ชีวากำลังนินทาพี่ค่ะ” หญิงสาวบอกยิ้มๆ ชายหนุ่มจึงหัวเราะเบาๆ“สงสัยนินทาพี่เรื่องมาขอข้าวกินฟรีที่บ้านบ่อยๆ ล่ะสิ”“แหม.. พี่แดนคิดว่าชีวางกหรือไงคะ”“ถ้าไม่นินทาเรื่องนี้แล้วนินทาเรื่องอะไรจ๊ะ”“ชีวากำลังคุยกับนมนวลเรื่องการขยับขยายกิจการของเราค่ะ พี่แดนมาก็ดีแล้ว ชีวามีเรื่องจะปร
บทที่ 9.ใบหน้าหล่อเหลาตึงจัดเมื่อวันนี้เขาถูกบิดาเรียกมาเพียงเพื่อจะพูดถึงผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ตนไม่เคยใส่ใจหรือไม่คิดจะจดจำเลยสักนิด“คุณพ่อก็รู้ว่าผมไม่ได้เต็มใจอยากจะเอาแม่นั่นเป็นเมีย”“จะอยากได้หรือไม่เขาก็เป็นเมีย เอาน่า พ่อแค่อยากอุ้มหลานและหนูชีวาก็น่าจะเป็นแม่ที่ดีมีหลานที่น่ารักให้พ่อได้”“อ้อ ชื่อชีวาหรอกหรือ ผมจำไม่ได้เลยว่าเมียผมชื่อนี้” ธีโอแค่ยิ้มหยันๆ“หนูชีวา ชื่อขวัญชีวา สวยน่ารัก และเก่งมาก หึ.. พ่อล่ะอยากหนุ่มแน่นกว่านี้นัก รับรองเลยว่าจะไม่ปล่อยให้หนูชีวาหลุดมือไปเลยล่ะ..” คำพูดของบาดเหมือนเทน้ำมันราดบนกองไฟดวงตาคมของธีโอวาววับขึ้นมาทันที คุณธัชลอบยิ้มธีโอนั้นหวงตนมากไม่ยอมให้ใครเข้ามาวอแวซึ่งคุณธัชเองก็ไม่คิดจะหาหญิงสาวคนไหนมาแทนที่ภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งข้อนี้เองคุณธัชจึงพูดยั่วลูกชายและมันก็ได้ผล “อย่าคิดหาใครมาแทนที่แม่ของผมเสียให้ยาก นอกจากคุณแม่แล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะกับคุณพ่อหรอก”“แล้วแกล่ะ ผู้หญิงคนไหนจะเหมาะ.. อย่าบอกนะว่าแม่สาวๆ สังคมที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวยอวดกัน แล้วก็ควงกันลอยไปลอยมางานการไม่ทำ ทำแต่จะจับผู้ชายหน้าโง่สักคนเป็น
บทที่10.“ทำไมมารอบนี้ดูดีขึ้นตั้งเยอะวะ” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเมื่อเห็นป้ายทางเข้าไร่เมื่อเห็นว่าป้ายไร่ดวงใจซึ่งเขาจำได้ดีว่าเมื่อสองปีที่แล้วป้ายไร่นั้นผุพังห้อยต่องแต่งสีซีดจางแทบมองไม่เห็นว่ามันเขียนว่าอย่างไรและเขาก็เกือบจะขับรถเลยไปทิศทางอื่น หากบิดาไม่บอกว่าทางนี้คือทางเข้าไร่ แล้วต้นไม้ในไร่หลายร้อยต้นยืนต้นตายและแคระแกร็นหญ้าสูงท่วมหัวดูแห้งแล้งและขาดการเอาใจใส่ แต่ตอนนี้มันดูเขียวขจีมีต้นไม้หลายต้นถูกปลูกขึ้นใหม่ หญ้าที่เคยสูงท่วมหัวแห้งกรอบไม่มีให้เห็น แต่หญ้าถูกตัดให้โล่งเตียนดูสบายตาและดูร่มรื่นขึ้น เขาเห็นสวนผักหลากหลายชนิดอยู่ข้างทางมีคนสองคนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับแปลงผักสายน้ำที่พวยพุ่งออกจากท่อน้ำสปริงเกอร์หมุนไปรอบๆ ทำให้บริเวณโดยรอบชุ่มฉ่ำแปลงดอกดาวเรืองและดอกไม้หลากสีที่ปลูกเพื่อล่อแมลงอยู่รอบๆ แปลงผักก็สวยงามน่ามองธีโอขับรถไปเรื่อยๆ และมองสำรวจไร่ดวงใจที่ดูสวยงามมากขึ้นอย่างอดทึ่งไม่ได้ กระถางดอกไม้และไม้ประดับที่วางเรียงรายอย่างสวยงามตลอดทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านที่ถูกทาสีใหม่และปรับปรุงตกแต่งดูน่าอยู่มาก เพราะเค้าโครงเดิมของบ้านไม้หลังนี้สวยอยู่แล้วและเป็นแบบบ้านแบบ
บทที่11. เหมือนโลกหยุดหมุนอีกครั้งหนุ่มสาวมองสบตากันนิ่งอยู่ชั่วครู่แม้ในระยะที่ไม่ใกล้นักแต่เหมือนมีสายใยบางอย่างที่ทำให้ใจสองดวงเต้นกระหน่ำและไหวสะท้านอย่างไม่อาจจะอธิบายได้...“เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณลุงค่ะ ริสาจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร หน้าตาน่ารักดีนะคะ แต่เธอมีคนรักแล้ว” นริสาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอิจฉาไม่น้อย“อ้อ เหรอครับ” ไม่รู้ทำไมธีโอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเจ้าของแล้ว ชายหนุ่มตัดใจเดินตามริสาไปหานายอำเภอวันชัยแต่ดวงตากลมโตและใบหน้ากระจุมกระจิ๋มน่ารักของสาวเจ้ายังคงรบกวนจิตใจเขาไม่หาย ผู้หญิงหน้าตาลักษณะอ่อนหวานแบบนี้ไม่เคยอยู่ในลิสต์ในสเป๊กของคู่ควงของเขาเลยแต่ทำไมเขาถึงได้กระวนกระวายคิดถึงแต่เจ้าหล่อนกันนะ ธีโอหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นแต่ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติ...ในขณะเดียวกันนั้นเองขวัญชีวาเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เห็น เขา สามีในนามของเธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ดีที่ว่าเธอเล่นเพลงจบแล้วจึงเห็นเขา หากว่าเห็นธีโอตอนที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ไม่แน่ว่าเธออาจจะเล่นผิดเพี้ยนไปก็ได้ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง..เขามาทำไม แต่เ
บทที่12.เหมือนโลกหยุดหมุนอีกครั้งหนุ่มสาวมองสบตากันนิ่งอยู่ชั่วครู่แม้ในระยะที่ไม่ใกล้นักแต่เหมือนมีสายใยบางอย่างที่ทำให้ใจสองดวงเต้นกระหน่ำและไหวสะท้านอย่างไม่อาจจะอธิบายได้...“เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณลุงค่ะ ริสาจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร หน้าตาน่ารักดีนะคะ แต่เธอมีคนรักแล้ว” นริสาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอิจฉาไม่น้อย“อ้อ เหรอครับ” ไม่รู้ทำไมธีโอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเจ้าของแล้ว ชายหนุ่มตัดใจเดินตามริสาไปหานายอำเภอวันชัยแต่ดวงตากลมโตและใบหน้ากระจุมกระจิ๋มน่ารักของสาวเจ้ายังคงรบกวนจิตใจเขาไม่หาย ผู้หญิงหน้าตาลักษณะอ่อนหวานแบบนี้ไม่เคยอยู่ในลิสต์ในสเป๊กของคู่ควงของเขาเลยแต่ทำไมเขาถึงได้กระวนกระวายคิดถึงแต่เจ้าหล่อนกันนะ ธีโอหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นแต่ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติ...ในขณะเดียวกันนั้นเองขวัญชีวาเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เห็น เขา สามีในนามของเธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ดีที่ว่าเธอเล่นเพลงจบแล้วจึงเห็นเขา หากว่าเห็นธีโอตอนที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ไม่แน่ว่าเธออาจจะเล่นผิดเพี้ยนไปก็ได้ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง..เขามาทำไม แต่เห
บทที่13.ขวัญชีวายืนนิ่งจ้องมองชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนมองเธอนิ่งอย่างตะลึงเล็กน้อยใจสาวเต้นระรัวเนื้อตัวเย็นเฉียบขึ้นมาทันทีและแทบจะก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อพบเขาอีกครั้ง...ธีโอ.. ธราดล แอนเดอร์สัน สามีของเธอนั่นเอง..“หนูเล็กมานั่งตรงนี้ก่อนลูก แดนด้วยมานี่มา มารู้จักกับลูกชายเพื่อนลุงด้วย”“ค่ะคุณลุง” ขวัญชีวาซึ่งเปลี่ยนชุดมาสวมเดรสกระโปรงสีชมพูหวานๆ แบบเรียบร้อยอ่อนหวานเดินมานั่งข้างๆ นายอำเภอวันชัยโดยธีโอมองตามเธอทุกฝีก้าว...“ธีโอ นี่ชายแดนนะ เป็นลูกชายเพื่อนลุงเหมือนกันเขาเป็นเจ้าของไร่ติดกันกับไร่หนูเล็กนั่นล่ะ แดน นี่ธีโอลูกชายของไอ้ธัชเพื่อนลุง น่าจะอายุเท่ากันละมั้ง” นายอำเภอวันชัยแนะนำหนุ่มๆ ทั้งสอง“ยินดีที่ได้รู้จักครับ..” ชายแดนเป็นฝ่ายที่ค้อมศีรษะให้ก่อน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มละไม“ยินดีเช่นกันครับ” ธีโอเองก็ค้อมศีรษะและยิ้มให้ชายแดนเช่นกันแม้ในใจจะกรุ่นๆ เมื่อจำได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือคนเดียวกับที่ประคอง เมียของเขา ลงมาจากเวทีการแสดงด้วยท่าทางสนิทสนม...“ชีวามาลาคุณลุงกลับค่ะ”“แล้วกลับยังไงล่ะลูก”“ผมจะไปส่งน้องชีวาเองครับคุณพ่อ” ชายแดนจะเรียกนายอำเภอวันชัยว่าคุณพ่อเพ
บทที่14.“ฉันไม่ใช่ผู้ร้าย แต่เป็นสามีเธอ..” สรรพนามที่เอ่ยออกมาก็พลอยฟังดูกระด้างไปด้วย และเมื่อรู้ตัวว่าเผลอใส่อารมณ์ฉุนเฉียวกับเธอธีโอก็ถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อคิดได้ว่าขวัญชีวากับเขาเหมือนคนแปลกหน้าจะให้เธอมองเขาด้วยสายตาเป็นมิตรชื่นชมก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าจะเป็น แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีหญิงสาวคนไหนมองเขาด้วยแววตาแบบนี้ มีแต่คนที่มองเขาด้วยแววตาชื่นชมและพร้อมจะเข้ามาหาก็เถอะ...“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เอาล่ะเราเข้าบ้านกันเถอะ..” หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แล้วก็ค่อยๆ ขยับตัวลงจากรถอย่างรวดเร็วโดยไม่รอเขาด้วยซ้ำ ธีโอมองตามคนที่เดินแกมวิ่งเข้าบ้านไปอย่างบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร... แต่ที่รู้แน่ๆ แก้มเมียของเขาหอมและนุ่มที่สุด.. ชายหนุ่มยกยิ้มบางๆ กับตัวเองทางด้านขวัญชีวาที่เข้ามาในห้องของตนแล้วก็ได้แต่ยืนหอบหายใจแรงๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงบนเตียงสีหวานของตนอย่างหมดเรี่ยวแรง สัมผัสโดยไม่ตั้งใจเมื่อครู่ทำให้ใจสาวเต้นระรัวหวั่นไหวสะท้านไปทั้งกาย เธอบอกตัวเองไม่ถูกเลยว่าจะทำอย่างไรกับการปรากฏตัวขึ้นของธีโอ...จริงสิ แล้วเขาจะพักที่ไหน... ขวัญชีวาหน้าตื่นขึ้นอีกครั้งแล้วหันไปมองประตูอย่างหวาดหวั่น...ในขณะเดียวกั
บทที่15.“อรุณสวัสดิ์ครับนมนวล ชีวา..” ชายหนุ่มเรียกแม่นมของเธอเช่นเดียวกับที่เธอเรียกอย่างสนิทสนม แล้วเขาไปสนิทสนมกันตอนไหน..“ค่ะ..” หญิงสาวตอบรับสั้นๆ แล้วเดินเข้าบ้านไปเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา ความอึดอัดแปลกๆ อัดแน่นอยู่ในอก“นมตั้งโต๊ะอาหารเลยนะคะคุณหนู”“ค่ะ” ขวัญชีวาบอกเบาๆ แล้วเดินออกไป ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาไปอย่างครุ่นคิดเช่นเดียวกันว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี... มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้เลย...หนุ่มสาวนั่งรับประทานอาหารกันเงียบๆ โดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันจนเมื่ออิ่มแล้วขวัญชีวาก็ลุกขึ้นแล้วพูดกับเขาก่อน“ฉันไม่รู้ว่าคุณมาที่นี่ทำไมนะคะ แต่เราควรคุยกันให้จบๆ กันไป จะได้ไม่ต้องอึดอัดกันทั้งสองฝ่าย” ธีโอเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างทึ่งๆ จากเมื่อคืนที่เขาเห็นเธอนิ่งเงียบท่าทางสงบเสงี่ยมอ่อนหวานเรียบร้อยที่เขาคิดว่าเธอจะต้องว่านอนสอนง่ายไม่มีฤทธิ์มีเดชอะไร แต่แววตาของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ธีโอรู้ได้ทันทีว่า ขวัญชีวาเป็นคนประเภท อ่อนนอกแข็งใน...“พูดมาก็ดีแล้ว ฉันเองก็มีเรื่องจะคุยกับเธอเหมือนกัน”“ถ้าอย่างนั้นเชิญที่ห้องทำงานค่ะ” หญิงสาวเดินนำหน้าไปก่อนธีโอถอ
บทที่14.“ฉันไม่ใช่ผู้ร้าย แต่เป็นสามีเธอ..” สรรพนามที่เอ่ยออกมาก็พลอยฟังดูกระด้างไปด้วย และเมื่อรู้ตัวว่าเผลอใส่อารมณ์ฉุนเฉียวกับเธอธีโอก็ถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อคิดได้ว่าขวัญชีวากับเขาเหมือนคนแปลกหน้าจะให้เธอมองเขาด้วยสายตาเป็นมิตรชื่นชมก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าจะเป็น แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีหญิงสาวคนไหนมองเขาด้วยแววตาแบบนี้ มีแต่คนที่มองเขาด้วยแววตาชื่นชมและพร้อมจะเข้ามาหาก็เถอะ...“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เอาล่ะเราเข้าบ้านกันเถอะ..” หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แล้วก็ค่อยๆ ขยับตัวลงจากรถอย่างรวดเร็วโดยไม่รอเขาด้วยซ้ำ ธีโอมองตามคนที่เดินแกมวิ่งเข้าบ้านไปอย่างบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร... แต่ที่รู้แน่ๆ แก้มเมียของเขาหอมและนุ่มที่สุด.. ชายหนุ่มยกยิ้มบางๆ กับตัวเองทางด้านขวัญชีวาที่เข้ามาในห้องของตนแล้วก็ได้แต่ยืนหอบหายใจแรงๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงบนเตียงสีหวานของตนอย่างหมดเรี่ยวแรง สัมผัสโดยไม่ตั้งใจเมื่อครู่ทำให้ใจสาวเต้นระรัวหวั่นไหวสะท้านไปทั้งกาย เธอบอกตัวเองไม่ถูกเลยว่าจะทำอย่างไรกับการปรากฏตัวขึ้นของธีโอ...จริงสิ แล้วเขาจะพักที่ไหน... ขวัญชีวาหน้าตื่นขึ้นอีกครั้งแล้วหันไปมองประตูอย่างหวาดหวั่น...ในขณะเดียวกั
บทที่13.ขวัญชีวายืนนิ่งจ้องมองชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนมองเธอนิ่งอย่างตะลึงเล็กน้อยใจสาวเต้นระรัวเนื้อตัวเย็นเฉียบขึ้นมาทันทีและแทบจะก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อพบเขาอีกครั้ง...ธีโอ.. ธราดล แอนเดอร์สัน สามีของเธอนั่นเอง..“หนูเล็กมานั่งตรงนี้ก่อนลูก แดนด้วยมานี่มา มารู้จักกับลูกชายเพื่อนลุงด้วย”“ค่ะคุณลุง” ขวัญชีวาซึ่งเปลี่ยนชุดมาสวมเดรสกระโปรงสีชมพูหวานๆ แบบเรียบร้อยอ่อนหวานเดินมานั่งข้างๆ นายอำเภอวันชัยโดยธีโอมองตามเธอทุกฝีก้าว...“ธีโอ นี่ชายแดนนะ เป็นลูกชายเพื่อนลุงเหมือนกันเขาเป็นเจ้าของไร่ติดกันกับไร่หนูเล็กนั่นล่ะ แดน นี่ธีโอลูกชายของไอ้ธัชเพื่อนลุง น่าจะอายุเท่ากันละมั้ง” นายอำเภอวันชัยแนะนำหนุ่มๆ ทั้งสอง“ยินดีที่ได้รู้จักครับ..” ชายแดนเป็นฝ่ายที่ค้อมศีรษะให้ก่อน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มละไม“ยินดีเช่นกันครับ” ธีโอเองก็ค้อมศีรษะและยิ้มให้ชายแดนเช่นกันแม้ในใจจะกรุ่นๆ เมื่อจำได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือคนเดียวกับที่ประคอง เมียของเขา ลงมาจากเวทีการแสดงด้วยท่าทางสนิทสนม...“ชีวามาลาคุณลุงกลับค่ะ”“แล้วกลับยังไงล่ะลูก”“ผมจะไปส่งน้องชีวาเองครับคุณพ่อ” ชายแดนจะเรียกนายอำเภอวันชัยว่าคุณพ่อเพ
บทที่12.เหมือนโลกหยุดหมุนอีกครั้งหนุ่มสาวมองสบตากันนิ่งอยู่ชั่วครู่แม้ในระยะที่ไม่ใกล้นักแต่เหมือนมีสายใยบางอย่างที่ทำให้ใจสองดวงเต้นกระหน่ำและไหวสะท้านอย่างไม่อาจจะอธิบายได้...“เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณลุงค่ะ ริสาจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร หน้าตาน่ารักดีนะคะ แต่เธอมีคนรักแล้ว” นริสาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอิจฉาไม่น้อย“อ้อ เหรอครับ” ไม่รู้ทำไมธีโอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเจ้าของแล้ว ชายหนุ่มตัดใจเดินตามริสาไปหานายอำเภอวันชัยแต่ดวงตากลมโตและใบหน้ากระจุมกระจิ๋มน่ารักของสาวเจ้ายังคงรบกวนจิตใจเขาไม่หาย ผู้หญิงหน้าตาลักษณะอ่อนหวานแบบนี้ไม่เคยอยู่ในลิสต์ในสเป๊กของคู่ควงของเขาเลยแต่ทำไมเขาถึงได้กระวนกระวายคิดถึงแต่เจ้าหล่อนกันนะ ธีโอหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นแต่ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติ...ในขณะเดียวกันนั้นเองขวัญชีวาเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เห็น เขา สามีในนามของเธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ดีที่ว่าเธอเล่นเพลงจบแล้วจึงเห็นเขา หากว่าเห็นธีโอตอนที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ไม่แน่ว่าเธออาจจะเล่นผิดเพี้ยนไปก็ได้ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง..เขามาทำไม แต่เห
บทที่11. เหมือนโลกหยุดหมุนอีกครั้งหนุ่มสาวมองสบตากันนิ่งอยู่ชั่วครู่แม้ในระยะที่ไม่ใกล้นักแต่เหมือนมีสายใยบางอย่างที่ทำให้ใจสองดวงเต้นกระหน่ำและไหวสะท้านอย่างไม่อาจจะอธิบายได้...“เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณลุงค่ะ ริสาจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร หน้าตาน่ารักดีนะคะ แต่เธอมีคนรักแล้ว” นริสาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอิจฉาไม่น้อย“อ้อ เหรอครับ” ไม่รู้ทำไมธีโอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดที่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเจ้าของแล้ว ชายหนุ่มตัดใจเดินตามริสาไปหานายอำเภอวันชัยแต่ดวงตากลมโตและใบหน้ากระจุมกระจิ๋มน่ารักของสาวเจ้ายังคงรบกวนจิตใจเขาไม่หาย ผู้หญิงหน้าตาลักษณะอ่อนหวานแบบนี้ไม่เคยอยู่ในลิสต์ในสเป๊กของคู่ควงของเขาเลยแต่ทำไมเขาถึงได้กระวนกระวายคิดถึงแต่เจ้าหล่อนกันนะ ธีโอหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นแต่ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติ...ในขณะเดียวกันนั้นเองขวัญชีวาเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เห็น เขา สามีในนามของเธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ดีที่ว่าเธอเล่นเพลงจบแล้วจึงเห็นเขา หากว่าเห็นธีโอตอนที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ไม่แน่ว่าเธออาจจะเล่นผิดเพี้ยนไปก็ได้ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง..เขามาทำไม แต่เ
บทที่10.“ทำไมมารอบนี้ดูดีขึ้นตั้งเยอะวะ” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเมื่อเห็นป้ายทางเข้าไร่เมื่อเห็นว่าป้ายไร่ดวงใจซึ่งเขาจำได้ดีว่าเมื่อสองปีที่แล้วป้ายไร่นั้นผุพังห้อยต่องแต่งสีซีดจางแทบมองไม่เห็นว่ามันเขียนว่าอย่างไรและเขาก็เกือบจะขับรถเลยไปทิศทางอื่น หากบิดาไม่บอกว่าทางนี้คือทางเข้าไร่ แล้วต้นไม้ในไร่หลายร้อยต้นยืนต้นตายและแคระแกร็นหญ้าสูงท่วมหัวดูแห้งแล้งและขาดการเอาใจใส่ แต่ตอนนี้มันดูเขียวขจีมีต้นไม้หลายต้นถูกปลูกขึ้นใหม่ หญ้าที่เคยสูงท่วมหัวแห้งกรอบไม่มีให้เห็น แต่หญ้าถูกตัดให้โล่งเตียนดูสบายตาและดูร่มรื่นขึ้น เขาเห็นสวนผักหลากหลายชนิดอยู่ข้างทางมีคนสองคนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับแปลงผักสายน้ำที่พวยพุ่งออกจากท่อน้ำสปริงเกอร์หมุนไปรอบๆ ทำให้บริเวณโดยรอบชุ่มฉ่ำแปลงดอกดาวเรืองและดอกไม้หลากสีที่ปลูกเพื่อล่อแมลงอยู่รอบๆ แปลงผักก็สวยงามน่ามองธีโอขับรถไปเรื่อยๆ และมองสำรวจไร่ดวงใจที่ดูสวยงามมากขึ้นอย่างอดทึ่งไม่ได้ กระถางดอกไม้และไม้ประดับที่วางเรียงรายอย่างสวยงามตลอดทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านที่ถูกทาสีใหม่และปรับปรุงตกแต่งดูน่าอยู่มาก เพราะเค้าโครงเดิมของบ้านไม้หลังนี้สวยอยู่แล้วและเป็นแบบบ้านแบบ
บทที่ 9.ใบหน้าหล่อเหลาตึงจัดเมื่อวันนี้เขาถูกบิดาเรียกมาเพียงเพื่อจะพูดถึงผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ตนไม่เคยใส่ใจหรือไม่คิดจะจดจำเลยสักนิด“คุณพ่อก็รู้ว่าผมไม่ได้เต็มใจอยากจะเอาแม่นั่นเป็นเมีย”“จะอยากได้หรือไม่เขาก็เป็นเมีย เอาน่า พ่อแค่อยากอุ้มหลานและหนูชีวาก็น่าจะเป็นแม่ที่ดีมีหลานที่น่ารักให้พ่อได้”“อ้อ ชื่อชีวาหรอกหรือ ผมจำไม่ได้เลยว่าเมียผมชื่อนี้” ธีโอแค่ยิ้มหยันๆ“หนูชีวา ชื่อขวัญชีวา สวยน่ารัก และเก่งมาก หึ.. พ่อล่ะอยากหนุ่มแน่นกว่านี้นัก รับรองเลยว่าจะไม่ปล่อยให้หนูชีวาหลุดมือไปเลยล่ะ..” คำพูดของบาดเหมือนเทน้ำมันราดบนกองไฟดวงตาคมของธีโอวาววับขึ้นมาทันที คุณธัชลอบยิ้มธีโอนั้นหวงตนมากไม่ยอมให้ใครเข้ามาวอแวซึ่งคุณธัชเองก็ไม่คิดจะหาหญิงสาวคนไหนมาแทนที่ภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งข้อนี้เองคุณธัชจึงพูดยั่วลูกชายและมันก็ได้ผล “อย่าคิดหาใครมาแทนที่แม่ของผมเสียให้ยาก นอกจากคุณแม่แล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะกับคุณพ่อหรอก”“แล้วแกล่ะ ผู้หญิงคนไหนจะเหมาะ.. อย่าบอกนะว่าแม่สาวๆ สังคมที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวยอวดกัน แล้วก็ควงกันลอยไปลอยมางานการไม่ทำ ทำแต่จะจับผู้ชายหน้าโง่สักคนเป็น
บทที่.8.“ต้องไหวสิคะ ตอนนี้ชีวาก็ทำงานในไร่เป็นเกือบทุกอย่างแล้ว รถไถชีวาก็ขับได้แล้ว ไม่ได้ยากนี่คะหากเราคิดจะทำ ตอนนี้ใครๆ ก็หันมาทำการเกษตรกันแล้วค่ะ เพราะมันเป็นงานที่ยั่งยืน เราจะทำตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไงคะ ค่อยๆ ก้าว ค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้คนในบ้านก่อน เรื่องซื้อที่คืนจากพี่แดนนั้นยังอีกยาวไกลค่ะแต่ชีวาจะซื้อคืนให้ได้แน่ๆ” หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มมุ่งมั่น“ใช่ค่ะ งานพวกนี้เก่งหมด แต่ทำอาหารไม่เป็น”“โธ่ นมขา มันไม่ใช่แนวของชีวานี่คะ เป็นแค่ลูกมือนมน่ะดีแล้ว เพราะชีวาหั่นผักสวยกว่าใครๆ” หญิงสาวยิ้มกว้างไม่ได้รู้เขินอายที่ตนทำอาหารไม่เป็น “คุยอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ” เสียงนุ่มทุ้มแสนสุภาพคุ้นหูดังขึ้น ชายแดน ชายหนุ่มที่ถูกพูดถึง เดินยิ้มร่าเข้ามาหาพร้อมทั้งไหว้นวลตองอย่างนอบน้อม“พี่แดนมาพอดีเลยค่ะ ชีวากำลังนินทาพี่ค่ะ” หญิงสาวบอกยิ้มๆ ชายหนุ่มจึงหัวเราะเบาๆ“สงสัยนินทาพี่เรื่องมาขอข้าวกินฟรีที่บ้านบ่อยๆ ล่ะสิ”“แหม.. พี่แดนคิดว่าชีวางกหรือไงคะ”“ถ้าไม่นินทาเรื่องนี้แล้วนินทาเรื่องอะไรจ๊ะ”“ชีวากำลังคุยกับนมนวลเรื่องการขยับขยายกิจการของเราค่ะ พี่แดนมาก็ดีแล้ว ชีวามีเรื่องจะปร
บทที่7.“คุณแม่ไปแล้ว คุณแม่ทิ้งพวกเราไปแล้ว นมขาแล้วเราจะอยู่ยังไง..”“อย่าร้องค่ะคุณหนู ถึงไม่มีคุณแม่เราก็อยู่กันมาได้ไม่ใช่เหรอคะ ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้พึ่งพาอะไรจากคุณแม่เลยนี่คะ ไม่มีพวกเขาเราก็อยู่กันได้ค่ะ เชื่อนมสิคะ” นวลตองยิ้มให้บางๆ ขวัญชีวาพยักหน้าอย่างยอมรับในโชคชะตาของตน “อีกอย่าง การจดทะเบียนสมรสของคุณหนูกับคุณธีโอก็ไม่ได้มีผลอะไรเพราะเขาไม่สนใจคุณหนูเลยสักนิดซึ่งก็เป็นการดีแล้วนี่คะ อีกอย่างคุณหนูมีสิทธิ์เต็มที่ในการบริหารจัดการที่นี่เหมือนเดิม แค่ห้าปีเท่านั้นแล้วไร่นี้ก็จะกลับมาเป็นของคุณหนูเหมือนเดิม และคราวนี้จะไม่มีใครเอามันไปได้อีก.. สู้ๆ นะคะ เพื่อไร่ดวงใจและคุณพ่อ..” นวลตองเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสของขวัญชีวาเบาๆ“จริงด้วยค่ะ แบบนี้ชีวาก็สามารถทำอะไรได้ตามใจโดยไม่ต้องกลัวว่าคุณแม่กับคุณพี่ดุด่าเอา”“จริงค่ะ แบบนี้ล่ะดีแล้วไม่มีคนใจร้ายคอยรังแก” พี่ต้อยพี่ติ่งเสริมทันด้วยด้วยรอยยิ้มสดชื่น“ขอบคุณมากๆ นะคะทุกๆ คน” ขวัญชีวายิ้มกว้างด้วยความรู้สึกปรอดโปร่งมากขึ้น... หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ มองไปรอบๆ ด้วยความหวังอันเรืองรอง...ทางด้านคุณดวงพรที่หอบเงินสินสอดกว่าห้าสิบล้านก