..อลิษาก้าวขาเข้าไปในสถาบันของสามี เช่นเคย เธอได้รับการบริการอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ แต่เพราะวันนี้อลิษาไม่ได้มาตามนัดเธอจึงต้องนั่งรอในห้องรับรองแขก จนกระทั่งร่างสูงของคุณหมออินทัชเดินมาหาเธอก็ลุกขึ้นยืนและยิ้มกว้าง“คุณหมอ”“ขอโทษครับ ผมติดเคส รอนานไหมครับ”“ฉันเพิ่งมาถึงค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ”“ครั
ห้องเดิมเตียงเดิมขึ้นขาหยั่งเหมือนเดิมต้องอ้าขาโชว์น้องสาวกับหมออินทัชเหมือนเดิมทุกอย่างเหมือนเดิม.. รวมถึงความรู้สึก“ตื่นเต้นทำไม หมอไม่ได้พิศวาสผู้หญิงซะหน่อย”อลิษาปลอบหัวใจที่ดังตุ้บ ๆ ให้เต้นเบาลง นอนรอบนเตียงได้ไม่ถึงนาทีประตูห้องก็เปิดออก อินทัชเดินเข้ามา สวมใส่ชุดปลอดเชื้อและถุงมือสีขาว
แว่นกันแดดสีชาถูกถอดออก ใบหน้างดงามเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ทำเอาคนมองอึ้งไป แต่แล้วความคิดที่ล่องลอยก็ถูกดึงกลับมาเมื่อเสียงหวานเอ่ยขึ้นเนิบ ๆ ว่า“ซื้อที่ตรวจครรภ์ค่ะ” อลิษากัดริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงไวน์อย่างครุ่นคิด “มันมีแบบไหนบ้างเหรอคะ”“เอ่อ.. ที่ร้านมีทั้งหมดสามแบบครับแต่มีหลายยี่ห้อ ม
“วันนี้แม่ให้ป้าจิตทำกุ้งทอดกระเทียมของโปรดหนูด้วย ทานเยอะ ๆ นะลูก”“ขอบคุณค่ะคุณแม่” อลิษาส่งยิ้มอ่อนแรงให้คุณหมออิงอรสามคนพ่อแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความกังวลใจ ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่อลิษารู้ว่าตัวเองยังไม่ตั้งครรภ์ จากวันนั้นหญิงสาวที่เคยสดใสร่าเริงก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ท่าทางเซื่องซึมไม่ค
“เราลองวิธีอื่นกันดีไหมครับ อย่างเช่น.. วิธีธรรมชาติ”อินทัชสบตาโตเฉี่ยวของอลิษา เขาคิดว่าจะได้เห็นประกายความหวังหรือความดีใจจากในนั้น แต่ตรงกันข้าม อลิษากลับร้องไห้ออกมาอีกครั้งด้วยความเสียใจ“คุณ เสียใจเหรอครับ”“ฮือ ฉันเสียใจที่ทำให้คุณลำบาก”“ครับ?”“คุณไม่จำเป็นต้องฝืนใจนอนกับฉันก็ได้ค่ะคุณหมอ
“เห็นหนูลิษาดีขึ้นพ่อกับแม่ก็สบายใจค่ะ”คุณหมออิงอรพูดพร้อมรอยยิ้ม หลายวันมานี้ในบ้านเหมือนมีเมฆหมอกสีเทาปกคลุม แต่หลังจากที่ลูกชายเดินออกมาจากห้องภรรยาในนามพร้อมกับเสื้อผ้าที่ผิดปกติ อลิษาก็ดูเหมือนจะกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนแต่ก่อนแล้วไม่รู้ว่าในห้องนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เห็นแบบนี้อิงอรก็สบายใจ“
“งั้นฉันจะลางานนะคะ”“ครับ”“แม่มีกิ๊ฟวอชเชอร์รีสอร์ชที่เพชรบูรณ์ ช่วงนี้ไม่หนาวมากแต่เช้า ๆ จะมีทะเลหมอก ไปที่นั่นกันไหม ประหยัดค่าที่พักด้วย แม่เคยไปแล้วบรรยากาศดีสุด ๆ”“อะ แฮ่ม”คุณหมอพีระกระแอมไอ อิงอรหันไปตีสามีเบา ๆ“ทำไมคะ อะไรมันติดคอนักเหรอ”“เปล๊า”“ค่ะ” เธอกระแทกเสียงเล็กน้อย ก่อนจะหันมา
ทาวน์โฮมสามชั้นในวันนี้คึกคักกว่าทุกวัน พนักงานทั้งเก่าและใหม่กว่าสิบชีวิตต่างหอบหิ้วของสำคัญไว้ในอก พวกของชิ้นใหญ่บริษัทรับขนย้ายมาขนไปที่ออฟฟิศใหม่แล้ว เหลือเพียงของสำคัญที่จะถูกย้ายเข้าในวันนี้เวลาเก้าโมงเก้านาทีฤกษ์ยามงามดี อลิษามาที่อดีตออฟฟิศเก่าแต่เช้า เก็บของลงกล่อง ดวงตาโตเฉี่ยวกวาดมองห้อง
“ปะป๊าหล่อที่สุด” จู่ ๆ พาดาก็พูดขึ้น อินทัชรู้ทัน เขาหลุบตามองถ้วยไอศกรีมที่หมดเกลี้ยงแล้วส่ายหน้า“ไม่ต้องเลยครับ ปะป๊าไม่ให้เพิ่มนะครับ”“บู้ว! ปะป๊ารู้ทันอีกแล้ววว”..ช่วงเย็น คุณหมอได้รับสายจากอลิษาว่างานยังไม่เสร็จ และอาจจะกลับบ้านดึก ให้อินทัชพาลูกเข้านอนก่อนได้เลย คนเป็นสามีได้ยินแบบนั้นก็
อินทัชขับรถไปที่โรงเรียน เขารีบรับขุนเขาพาดาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ลูกรอนาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ขึ้นมาบนรถพาดาก็ทวงไอศกรีมจากปะป๊าทันที“ไอติม ไอติม”“ค่ะ เดี๋ยวปะป๊าพาไป แต่ตอนนี้พาดาต้องเบาเสียงหน่อยนะคะ น้องนอนอยู่”“พาดาขอโทษค่ะ โอ๋ ๆ นะสายหมอก หลับน้า”“คาดเข็มขัดกันด้วยครับ ไม่อย่างนั้นอดไ
(น้องหมอกต้องทานนมตอนเที่ยงนะคะ พี่อินเอาออกมาอุ่นก่อน อย่าลืมเหยาะหลังมือเทสอุณหภูมิด้วยนะคะ)“ครับ” อินทัชหนีบมือถือด้วยไหล่ มือทั้งสองข้างหยิบนมที่ภรรยาปั๊มเอาไว้ออกมาจากตู้แช่เพื่อเตรียมอุ่น “ลิษาไม่ต้องห่วง ประชุมต่อเถอะครับ”(พี่อินไม่เคยต้องอยู่กับลูกตามลำพัง ลิษากลัวว่าพี่จะเหนื่อยเกินไป)“ไ
“เตเต้ว่าพาดาอ้วน บอกว่าของขวัญว่าขี้โรค”“เตเต้คะ” ได้ฟังแบบนั้นคุณครูจึงกดเสียงต่ำ เด็กชายตัวกลมเริ่มเกรงกลัวเพราะครูตัวสูงกว่ามาก“กะ ก็จริงนี่คับ”“เตเต้คะ” คุณครูย่อตัวลงให้เท่ากับส่วนสูงของเด็กชาย “พูดถึงรูปร่างคนอื่นแบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ จะอ้วน จะผอม เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ขอโทษเพื่อนนะคะ”“ไ
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีข้าวผัดเบคอนของโปรดของหนู พี่ขุนหม่ำได้เลยครับ ส่วนพาดาเอาผ้ามาคลุมก่อนนะ เดี๋ยวจะเลอะเสื้อนักเรียน”พาดาทำตามที่หม่าม้าบอกอย่างแข็งขัน มือป้อม ๆ หยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องตัวเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของพาดาจนจบมื้ออาหาร คุณปู
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังปลุกตอนหกโมงครึ่ง ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน ร่างอวบอ้วนที่ตื่นเต็มตานอนตากลมแป๋วบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้านวมผืนหนาที่หอมและอบอุ่น ไม่มีทีท่าว่าจะลุก แต่ก็ไม่ได้หลับต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เริ่มต้นกิจกรรมตามปกติ แต่ใครบางคนกลับนอนนิ่ง ราวกับไม่ต้องการลุกไปทำอะไรทั้งนั้นไม่ใช่เพราะขี้เกีย
“ปล่อยเขาเถอะลิษา ให้เขาได้เรียนรู้ ได้เลอะ ได้ลองเจ็บด้วยตัวเอง”“เฮ้อ คนนี้ซนได้ใครก็ไม่รู้”พาดาที่ว่าแสบแล้ว เจอสายหมอกเข้าไปกลายเป็นเด็กเรียบร้อยเลยทีเดียว เด็กชายสายหมอกในวัยสามขวบทั้งซนทั้งขี้อ้อน ทั้งปู่ย่า ยาย พ่อแม่และพี่ ๆ ต่างรุมเอาใจเพราะแพ้ลูกอ้อน อลิษาอยากบ่นคนอื่นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่
“แม่เกือบมาไม่ทัน ติดสอนค่ะ”“พ่อก็ติดประชุม ปลีกตัวไม่ได้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ลิษาคงยังไม่คลอดเร็ว ๆ นี้”“ปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้วคะ”“พี่อินบอกว่าแค่สองเซนเองค่ะ”“โธ่ ทนไหวไหมลูก ถ้าไม่ไหวก็ผ่าเถอะนะคะ” คุณหมออิงอรอดรู้สึกเจ็บแทนลูกสะใภ้ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่ปากมดลูกยังเปิดได้ไม่เ
“อึก! พี่อิน พี่อินอยู่ไหน”“คุณหมอกำลังมานะคะ”ไม่ทันขาดคำ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกกว้าง อินทัชรีบพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยา คว้ามือเย็นเฉียบมาบีบไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจไปให้คนที่กำลังเจ็บปวด“ให้พี่ดูก่อนนะครับว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว”อลิษาพยักหน้ารับ ใบหน้าสวยซีดเซียวและบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ตลอด