คิดถึงจนแทบบ้า“ปล่อย” ไอรินดิ้นขลุกขลักหนีอ้อมแขนที่รัดแน่น ไม่ยินยอมให้พลชโอบกอดเหมือนวันวาน “ปล่อยค่ะ!”“ไม่”“บอกให้ปล่อยไงคะ!”“ไม่ไอริน ได้โปรดฟังผมก่อน ผมคิด..”ผลัวะ!“อั่ก!!”“ปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้โจรชั่ว!!”ท่อนไม้ใหญ่ฟาดตีแผ่นหลังกว้างหลายต่อหลายครั้ง คุณครูไอยราแทบเสียสติตอนที่เห็
ไข่เจียว ผัดผักกาดใส่ไข่ และปลานึ่งที่เหลือจากเมื่อวาน พร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ หนึ่งจานวางลงตรงหน้า พลชพิจารณาอาหารง่าย ๆ ด้วยความสนใจ เขาไม่เคยกินอาหารแบบนี้มาก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีเนื้อสัตว์มากกว่านี้ และเนื้อสัตว์ก็ต้องเป็นเนื้อที่ดีที่สุด แม้แต่ไข่ไก่ก็ต้องเป็นไข่เกรดพรีเมี่ยม ที่ผ่านการคัดสรรอ
ไหนบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ชายสุดหล่อ แล้วทำไมพี่ชายสุดหล่อบอกว่าพี่รินคือเจ้าสาวล่ะ!!..“ไอริน! เดี๋ยวก่อน รอผมด้วยสิไอริน”เสียงเรียกที่ดังตามหลังทำให้ไอรินอยากหนีไปให้ไวที่สุด แต่ร่างกายมันกลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับสมอง เธอหยุดก้าวเดิน หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า“มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ” เธอถามเสียงเร
คืนนี้ฝนก็ตกอีกแล้วไอรินเหม่อมองสายฝนที่ตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา และดูเหมือนว่าจะไม่หยุดลงง่าย ๆ ในค่ำคืนนี้ ฝนเม็ดโตสาดกระหน่ำตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนตอนนี้ใกล้จะสามทุ่มแล้วยังไม่ลดความรุนแรงลงแม้แต่นิดเดียว เธอชะโงกหน้าออกไปมอง หน้าบ้านเริ่มมีน้ำขังเป็นหย่อม ๆ แล้วฝนตกผิดฤดูแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่ควรตกใจ“คุณ..”“ผมตกใจแทบแย่ กลัวว่าคุณจะเป็นอะไรไป”“คะ? อะไรของคุณ ฉันจะเป็นอะไรไปได้ยังไง”ไอรินดันตัวเองออกจากร่างที่เปียกชื้น กวาดตาสำรวจอีกคนที่เปียกซกไปทั้งตัว ใบหน้าของพลชตื่นตระหนก เหมือนเขาตกใจมากจริง ๆ เพราะแม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้สวมใส่มาเหมือนรีบวิ่งมาจนลืมทุกอย่างแต
ปัง!ประตูไม้ปิดลง ไอรินเดินหายเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง แล้วกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนโต“ไอริน คุณ..”“เช็ดตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”“ไม่ไอริน” พลชไม่ยอมรับผ้าผืนนั้นง่าย ๆ “คุณกำลังเปลี่ยนเรื่องใช่ไหม ไอริน คุณปฏิเสธออกมาตรง ๆ ว่าไม่ได้รู้สึกเหมือนกัน ยังดีกว่าทำเหมือนไม่ได้ยินแบบนี้เลย”“เช็ดต
“มองฉันทำไมคะ”ไอรินที่ถูกจ้องเอา ๆ เริ่มเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก มือไม้มันเก้งก้างไปหมด ไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหนดี“แทนตัวเองว่ารินเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ”“เลิกมองรินได้แล้วค่ะ”แทนที่ยอมทำตามแล้วเขาจะเลิกมอง ตรงกันข้าม พลชยังมองเธอเหมือนเดิมด้วยดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่เป็นประกายวิบวับ มันดูกรุ้มกริ่มแป
“ขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ”ไอรินพยักหน้ารับอาย ๆ “ห้องน้ำในห้องนอนรินนะคะ ทางขวามือ”“ขอบคุณครับ”พลชหอมแก้มเนียนเบา ๆ ก่อนจะเดินแยกไปอีกทางเพื่อจัดการร่างกายตัวเองให้สงบลง ไอรินมองตามด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว ไม่ทันไรบอสก็หื่นใส่เธออีกแล้ว“คนบ้า”..ครึ่งชั่วโมงต่อมาพลชเดินยิ้มกริ่มออกมาจากห้องนอนของอดีต
“ปะป๊าหล่อที่สุด” จู่ ๆ พาดาก็พูดขึ้น อินทัชรู้ทัน เขาหลุบตามองถ้วยไอศกรีมที่หมดเกลี้ยงแล้วส่ายหน้า“ไม่ต้องเลยครับ ปะป๊าไม่ให้เพิ่มนะครับ”“บู้ว! ปะป๊ารู้ทันอีกแล้ววว”..ช่วงเย็น คุณหมอได้รับสายจากอลิษาว่างานยังไม่เสร็จ และอาจจะกลับบ้านดึก ให้อินทัชพาลูกเข้านอนก่อนได้เลย คนเป็นสามีได้ยินแบบนั้นก็
อินทัชขับรถไปที่โรงเรียน เขารีบรับขุนเขาพาดาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ลูกรอนาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ขึ้นมาบนรถพาดาก็ทวงไอศกรีมจากปะป๊าทันที“ไอติม ไอติม”“ค่ะ เดี๋ยวปะป๊าพาไป แต่ตอนนี้พาดาต้องเบาเสียงหน่อยนะคะ น้องนอนอยู่”“พาดาขอโทษค่ะ โอ๋ ๆ นะสายหมอก หลับน้า”“คาดเข็มขัดกันด้วยครับ ไม่อย่างนั้นอดไ
(น้องหมอกต้องทานนมตอนเที่ยงนะคะ พี่อินเอาออกมาอุ่นก่อน อย่าลืมเหยาะหลังมือเทสอุณหภูมิด้วยนะคะ)“ครับ” อินทัชหนีบมือถือด้วยไหล่ มือทั้งสองข้างหยิบนมที่ภรรยาปั๊มเอาไว้ออกมาจากตู้แช่เพื่อเตรียมอุ่น “ลิษาไม่ต้องห่วง ประชุมต่อเถอะครับ”(พี่อินไม่เคยต้องอยู่กับลูกตามลำพัง ลิษากลัวว่าพี่จะเหนื่อยเกินไป)“ไ
“เตเต้ว่าพาดาอ้วน บอกว่าของขวัญว่าขี้โรค”“เตเต้คะ” ได้ฟังแบบนั้นคุณครูจึงกดเสียงต่ำ เด็กชายตัวกลมเริ่มเกรงกลัวเพราะครูตัวสูงกว่ามาก“กะ ก็จริงนี่คับ”“เตเต้คะ” คุณครูย่อตัวลงให้เท่ากับส่วนสูงของเด็กชาย “พูดถึงรูปร่างคนอื่นแบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ จะอ้วน จะผอม เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ขอโทษเพื่อนนะคะ”“ไ
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีข้าวผัดเบคอนของโปรดของหนู พี่ขุนหม่ำได้เลยครับ ส่วนพาดาเอาผ้ามาคลุมก่อนนะ เดี๋ยวจะเลอะเสื้อนักเรียน”พาดาทำตามที่หม่าม้าบอกอย่างแข็งขัน มือป้อม ๆ หยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องตัวเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของพาดาจนจบมื้ออาหาร คุณปู
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังปลุกตอนหกโมงครึ่ง ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน ร่างอวบอ้วนที่ตื่นเต็มตานอนตากลมแป๋วบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้านวมผืนหนาที่หอมและอบอุ่น ไม่มีทีท่าว่าจะลุก แต่ก็ไม่ได้หลับต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เริ่มต้นกิจกรรมตามปกติ แต่ใครบางคนกลับนอนนิ่ง ราวกับไม่ต้องการลุกไปทำอะไรทั้งนั้นไม่ใช่เพราะขี้เกีย
“ปล่อยเขาเถอะลิษา ให้เขาได้เรียนรู้ ได้เลอะ ได้ลองเจ็บด้วยตัวเอง”“เฮ้อ คนนี้ซนได้ใครก็ไม่รู้”พาดาที่ว่าแสบแล้ว เจอสายหมอกเข้าไปกลายเป็นเด็กเรียบร้อยเลยทีเดียว เด็กชายสายหมอกในวัยสามขวบทั้งซนทั้งขี้อ้อน ทั้งปู่ย่า ยาย พ่อแม่และพี่ ๆ ต่างรุมเอาใจเพราะแพ้ลูกอ้อน อลิษาอยากบ่นคนอื่นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่
“แม่เกือบมาไม่ทัน ติดสอนค่ะ”“พ่อก็ติดประชุม ปลีกตัวไม่ได้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ลิษาคงยังไม่คลอดเร็ว ๆ นี้”“ปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้วคะ”“พี่อินบอกว่าแค่สองเซนเองค่ะ”“โธ่ ทนไหวไหมลูก ถ้าไม่ไหวก็ผ่าเถอะนะคะ” คุณหมออิงอรอดรู้สึกเจ็บแทนลูกสะใภ้ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่ปากมดลูกยังเปิดได้ไม่เ
“อึก! พี่อิน พี่อินอยู่ไหน”“คุณหมอกำลังมานะคะ”ไม่ทันขาดคำ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกกว้าง อินทัชรีบพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยา คว้ามือเย็นเฉียบมาบีบไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจไปให้คนที่กำลังเจ็บปวด“ให้พี่ดูก่อนนะครับว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว”อลิษาพยักหน้ารับ ใบหน้าสวยซีดเซียวและบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ตลอด